ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Twins of Love นี่นายคนไหนกันแน่เฟร็ดหรือจอร์จ

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter VII ความจริงกระจ่าง

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 51


    Chapter VII

    ความจริงกระจ่าง

     

                    วันเวลาล่วงเลยผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่นึกไม่ฝันว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้วหรือ  สภาพอากาศในช่วงนี้นักพยากรณ์ชื่อดังของโลกเวทมนตร์กล่าวไว้ว่า ช่วงวันหยุดคริสต์มาสในปีนี้คนส่วนมากจะได้รับความทุกข์และความสุขไปพร้อมๆกัน คำพูดเหล่านี้ทำให้ดูน่าฉงนใจเสียจริงๆ

     

                    ณ ตรอกไดแอกอน

                    ผู้วิเศษณ์ก็ต่างมาจับจ่ายใช้สอย ณ สถานที่นี้อีกเช่นเคย  ยิ่งในช่วงของเดือนธันวาคมซึ่งใกล้เทศกาลคริสต์มาสแล้ว แต่ละร้านก็ต่างประดับตกแต่งด้วยวัสดุหลากชิดชวนสายตาให้จับจ้องมองดู

                    ซิลเวียเดินเยื้องย่างผ่านร้านเกมกลวิเศษณ์วีสลีย์ไปอย่างน่าสงสัย  ถ้าเธอเดินผ่านร้านเกมกลวิเศษณ์วีสลีย์ไป แล้วเธอจะไปที่ไหนกัน?

                    เธอย่างก้าวอย่างรีบเร่งเข้าไปในร้านตัวบรรจงและหยดหมึกแหล่งรวมหนังสือตำรานานาสารพัน  แต่ก็ถูกจับจ้องด้วยสายตาของชายหนุ่มผมแดงมาตั้งแต่เธอเดินผ่านร้านขายของตลกแล้ว

                    เฮ้! ฉันออกไปข้างก่อน  เดี๋ยวจะกลับมา

                    ชายหนุ่มผมสีแดงเพลิงร้องบอกแล้วรีบเดินออกไปจากร้านขายของตลกนั้นเสีย  เขาเดินตามอย่างสอดแนมเธอเข้าไปในร้านตัวบรรจงและหยดหมึก

                    อะฮ้า! เธออยู่ชั้นสอง  ต้องขึ้นไปสอดแนมเสียหน่อยว่าเธอกำลังทำอะไร

                    เมื่อใจของหนุ่มผมแดงคิดเช่นนั้นแล้ว  เขาก็รีบสาวเท้าก้าวยาวๆขึ้นไปบนชั้นสอง ยืนอ่านหนังสืออย่างแนบเนียน โดยที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหนังสือที่กำลังถืออยู่คือหนังสืออะไร  เมื่อเวลาผ่านไปพักหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเธอยังไม่ขยับเขยื้อนก็ควรที่จะอ่านหนังสือไปพลางๆก่อน เขาจึงพลิกปกของหนังสือเล่มที่ถืออยู่ขึ้นมาดู

                    “ ’เทพพยากรณ์ ทุกสิ่งที่เป็นตัวคุณและสิ่งที่คุณต้องการ อยู่ในเล่มนี้  ชื่อแปลกๆทะแม่งๆแฮะ

                    เขาพูดอย่างแผ่วเบายากที่ใครจะได้ยินพร้อมหับทำสีหน้างุนงงกับชื่อของหนังสือ  แล้วจึงเปิดหน้าแรกขึ้นมาเพื่อที่จะอ่านมัน แต่มันกลับว่างเปล่า

                    นี่มันหนังสืออะไรกันวะ  ชื่อก็ทำให้งงอยู่แล้ว เปิดมาเป็นกระดาษเปล่า  จะทำให้งงซับงงซ้อนไปถึงไหน

                    และทันใดนั้นก็มีตัวหนังสือปรากฏขึ้นทีละตัวราวกับมีคนกำลังเขียนบนหน้าหนังสือที่เป็นกระดาษเปล่านั้น  ทำเอาชายหนุ่มผมแดงตกใจจนเกือบจะโยนหนังสือพิลึกพิลั่นนั่งทิ้งเสีย แต่โชคยังดีที่เข้าตั้งสติควบคุมตนเองไว้ได้

                    สวัสดี เฟร็ด วีสลีย์  ชายหนุ่มผมแดงซึ่งมีชายหนุ่มหน้าตาเหมือนกันเป็นพี่น้อง ชื่อ จอร์จ วีสลีย์  ตัวเธออยากรู้เรื่องอะไรอีกไหมล่ะ  ถ้าไม่อยากก็จงปิดหนังสือเล่มนี้แล้วนำมันกลับไปเก็บไว้ที่เดิมเสีย  แต่ถ้าหากอยากก็จงเปิดหน้าต่อไปอย่างระมัดระวัง

                    นั่นคือตัวอักษรที่ปรากฏบนหน้ากระดาษที่เมื่อครู่ยังว่างเปล่าอยู่  ถ้อยคำเหล่านั้นที่นำมารวมกันใจจับใจความเล่นเอาเฟร็ดถึงกับตาค้างและฉงนใจ  เขาตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะค่อยๆเปิดหน้าต่อไปอย่างระมัดระวังตามที่หนังสือบอกไว้

                    ตัวเธอกำลังแอบรักใครคนหนึ่งอยู่  คนที่เธอแอบรักนั้นที่จริงแล้วเป็นเพื่อนของเธอ  คนที่เธอแอบรักอยู่ในห้องนี้ ผมของคนที่เธอแอบรักสีดำ ตาสีดำ แม่มดผู้ยังถือว่าเยาว์วัยแต่กลับพ่วงด้วยความเก่งกาจ  และฉันรู้ว่าเธอชื่อ ซิลเวีย ลอว์  ถ้าเธออยากรู้เรื่องอื่นจงเปิดหน้าต่อไปอย่างระมัดระวัง

                    ตัวหนังสือค่อยๆปรากฏขึ้นอีกครั้ง  เขาพินิจพิเคราะห์อ่านดูอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเปิดหน้าต่อไป

                    แต่เรื่องของหน้าที่แล้วไม่ค่อยสำคัญเสียเท่าไหร่  เพราะที่สำคัญก็คือ ไม่ได้มีแค่เธอคนเดียวที่แอบหลงรักคนที่เธอรัก  และที่สำคัญยิ่งกว่านี้ เขาคนนั้นเป็นคนที่ไม่ห่างไม่ไกลเธอเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาคนนั้นก็คือ คนที่หน้าตาเสมอเหมือนกับเธอเอง  ฉันคงไม่ต้องบอกให้เธอเปิดหน้าต่อไปอีกแล้ว

                    ไม่ต้องรอจนกว่าตัวหนังสือจะปรากฏขึ้นหมดทุกตัว เขารีบปิดหนังสือแล้วรีบเก็บมันบนชั้นทันที  เขารู้สึกอึ้งเล็กๆกับทุกถ้อยคำที่หนังสือบอก

                    เพราะเขาคนนั้นก็คือ คนที่หน้าตาเสมอเหมือนกับเธอเอง

                    คำบอกกล่าวเหล่านั้นจากหนังสือก้องอยู่ในหัวเขาอยู่หลายต่อหลายครั้ง  และไม่ต้องพูดถึงว่าคนที่หนังสือพูดถึงคือใคร เพราะๆคนๆนั้นก็คือ จอร์จ คู่แฝดของเขานั่นเอง

                    หลังจากเขาอึ้งไปแล้วอยู่ครู่หนึ่ง  เขามองไปทางซิลเวียคนที่เขาแอบรักพบว่า เธอกำลังเอื้มมือที่จะหยิบหนังสือชั้นบนสุด เธอแตะมันได้ แต่มันลงมาไม่ได้  เขาจึงตั้งใจเดินไปหยิบหนังสือจากชั้นบนสุดแล้วยื่นให้เธอพร้อมกับเอ่ยปากขึ้น

                    ถ้าเธอหยิบไม่ถึงก็น่าจะใช้คาถาเรียกของนะ

                    ขอบใจนะ จอร์จ

                    ฉันเฟร็ดต่างหากเล่า

                    ขอโทษทีนะ ฉันทักผิดอยู่เรื่อยเลย  ก็เธอสองคนเหมือนกันอย่างกับแกะออกมาจากแม่พิมพ์ตัวเดียวกันอย่างนั้นแหละ

                    เธอพูดด้วยสีหน้าที่ออกท่าออกทางเก้อเขินเล็กน้อยที่ทักเฟร็ดผิดไปเป็นจอร์จ

                    ไม่เป็นไร ทำไมวันนี้เธอไม่เข้าไปในร้านล่ะ

                    พอดีฉันรู้สึกอยากได้หนังสือสักเล่มนึง  แล้วฉันก็เจอที่อยากได้แล้ว

                    เธอพูดพร้อมกับยกหนังสือเล่มที่เฟร็ดหยิบให้เมื่อครู่นี้ให้เขาดู  หน้าปกเขียนไว้ว่า ประมวลการป้องกันตัวจากศาสตร์มืด

     

                    เฟร็ดและซิลเวียเดินคุยกันไปมาระหว่างทางที่เดินกลับไปที่ร้านเกมกลวิเศษณ์วีสลีย์ ตลอดทางที่ทั้งสองเดินไปนั้นต่างถูเติมเต็มเข้าไปด้วยเรื่องน่าขันและเสียงหัวเราะ

                    นี่ก็ใกล้ถึงวันคริสต์มาสเต็มทีแล้ว อากาศก็หนาวขึ้นเรื่อยๆ  ที่ร้านผู้คนคงอาจจะไม่จอแจเหมือนกับทุกๆครั้ง หรือเธอคิดว่าไง

                    เฟร็ดพูดขณะเดินเข้ามาในร้านเกมกลวิเศษณ์วีสลีย์

                    ฉันไม่ได้คิดเรื่องนั้นหรอก แต่ฉันคิดว่าเราควรประดิษฐ์สินค้าที่เกี่ยวกับวันคริสต์มาสมากกว่า  อย่างเช่น ชุดวันคริสต์มาสสำเร็จรูป  ใช่ ชุดวันคริสต์มาสสำเร็จรูป ใช่เลย  ฉันคิดว่าเราควรประดิษฐ์มัน เฮ้! จอร์จ ฉันคิดว่าเราน่าจะประดิษฐ์สินค้า ชุดวันคริสต์มาสสำเร็จรูป เธอคิดว่าไง

                    จู่ๆความคิดประหลาดๆแต่ก็ดูน่าทึ่งก็ของออกมาจากหัวของซิลเวีย  เธอร้องบอกจอร์จพร้อมกับขอความคิดเห็น

                    ว้าว เธอคิดได้ยังไงเนี่ย  รู้ไหมว่ามันยอดเยี่ยมไปเลยล่ะ  กลไกของสิ่งประดิษฐืพวกนี้น่าจะเป็น... เปิดทีเดียวจัดตกแต่งได้ครอบทุกหมวดหมู่

                    จอร์จเสนอความคิดของตนที่แสนจะน่าทึ่งออกมา มันทำให้ทุกคนต่างเห็นด้วย

                    เจ๋งไปเลย!”

                    เฟร็ดร้องบอกแล้วตรงเข้าไปประกบผ่ามือข้างหนึ่งกับจอร์จ

                    แล้วการเก็บล่ะ  การเก็บกวาดของพวกนี้ทีละชิ้นเป็นงานที่น่าเบื่อมาก  ฉันว่าเราควรทำกลไกอีกอย่างที่จะสามารถทำให้เก็บได้ในครั้งเดียว ก็คือเก็บมันใส่กล่องเดิมแล้วเอาไปทิ้งได้เลยไง

                    เมื่อซิลเวียและจอร์จเสนอความคิดเองตนเองออกมาแล้ว เฟร็ดจะอยู่เฉยโดยไม่ออกความคิดในเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร เขาก็ต้องมีความคิดดีๆบ้างเหมือนกันสิ

                    ยอดเยี่ยม!”

                    ซิลเวีย เฟร็ด และจอร์จต่างโห่ร้องฮูเร่ย์เฮฮาสังสรรค์สารพันกันยกใหญ่ก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการผลิต ชุดวันคริสต์มาสสำเร็จรูป

                   

     

     

                    เมื่อสินค้าที่ได้บัญญัติชื่อไว้ว่า ชุดวันคริสต์มาสสำเร็จรูป เริ่มวางแผง  ผู้คนต่างก็แห่กับมาเหมาไปเสียหมดจนต้องผลิตใหม่อยู่เรื่อยทำให้ร้านเกมกลวิเศษณ์วีสลีย์กอบโกยรายได้เข้าร้านเป็นกองพะเนิน

                    ขอบใจมากนะที่เธอช่วยออกความคิดเรื่องสินค้านี่ ทำให้พวกเรากอบโกยรายได้เป็นภูเขาเลย

                    ฝาแฝดพูดขึ้นในขณะที่กำลังขายสินค้าไปด้วยพร้อมกับเพื่อนสาวอย่างซิลเวีย

                    เธอสองคนอย่าพึ่งมาขอบใจฉันตอนนี้เลย ตอนนี้ก็งานแน่นเอี้ยดเต็มมือจนล้นหลามแล้ว

                    เธอพูดด้วยความรวดเร็วไวไฟ จนเมื่อพูดเสร็จเธอก็ส่งยิ้มมาให้อย่างร่าเริงมาให้เหมือนเคย  ทำให้ฝาแฝดเฟร็ดและจอร์จอดยิ้มกลับมาไม่ได้

                    ร้านเกมกลวิเศษณ์วีสลีย์ในช่วงคริสต์มาสนี้ดูชุกชุมกว่าที่เคยเป็นมาก  อาจเป็นเพราะเพิ่มบริการลดแลกแจกแถมที่พ่วงมากับสินค้าช่วงคริสต์มาสนี้ด้วย

     

    เฮ้อ... วันนี้เล่นเอาซะฉันหมดสภาพเลย

    ซิลเวีย ลอว์ถอนหายใจเฮือกหนักแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาตรงกลางระหว่างเฟร็ดและจอร์จ

    ฉันก็ล้มพับไม่เป็นท่าเหมือนกัน

    จอร์จพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง

    แต่มันก็คุ้มกับผลประโยชน์ที่พวกเราได้มา จริงไหม?

    เฟร็ดพูดอย่างปวกเปียกไม่ต่างกันในขณะที่เขาส่งบัตเตอร์เบียร์ให้กับจอร์จและซิลเวีย

    ดื่มด่ำให้กับความสำเร็จของพวกเรา  ไชโย!”

    ทั้งสามเอ่ยพร้อมกัน  พร้อมกับชนเสียงขวดแก้วกระทบกับตรงคำว่าไชโย แล้วยกกระเดือกดื่มอย่างหิวกระหายราวกับน้ำเย็นๆที่อยู่ในทะเลทราย

    โธ่... นี่ 3 ทุ่มแล้วเหรอเนี่ย  ตายล่ะ ขอโทษทีนะเฟร็ด - จอร์จ ฉันต้องรีบกลับแล้ว

    ซิลเวียตาเหลือกโตเมื่อเห็นนาฬิกาตีบอกเวลา 3 ทุ่ม  เธอลุกขึ้นพรวดพราดราวกับจรวดที่มุ่งสู่อวกาศ 

    ซิลเวีย อย่าพึ่ง  ครอบครัวของพวกเราชวนเธอไปร่วมงานเลี้ยงวันคริสต์มาสที่บ้านโพรงกระต่ายด้วย  อย่าลืมไปให้ได้ล่ะ

    เธอหันกลับมาแล้วเอ่ยกล่าวคำบอกลาฝาแฝดหายตัวไปพร้อมกับเสียงดังเปรี้ยงดั่งเช่นทุกครา

     

    เปรี้ยง!

    เสียงเปรี้ยงจากการหายตัวดังขึ้นอีกครั้งในบ้านของตระกูลไวโอเลนท์ผู้ซึ่งสืบทอดเลือดบริสุทธิ์แห่งบ้านสลิธีรินมาช้านาน  ในขณะที่แดนเด็กหนุ่มวัย 16 กำลังนั่งหน้าเครียดอย่างไม่มีเหตุผลอยู่ในห้องโถงอย่างเงียบสงบ

    เมื่อซิลเวียปรากฏกายขึ้น เธอก็เดินผ่านแดนไปอย่างกับว่าเขานั้นไร้ตัวตนไปทางบันไดขึ้นชั้นสอง  แต่มันกลับไม่ราบเรียบเช่นนั้น

    เธอกลับมาเกินเวลาถึงสองชั่วโมง  เป็นอย่างนี้แม่ฉันต้องไม่พอใจแน่

    แดนพูดด้วยน้ำเสียงอันเยาะเย้ยอย่างทุกครั้งที่พูดกับเธอ

    ถ้าเธอหัดปกปิดเรื่องพวกนี้ไม่ไปฟ้องมาดามเสียบ้าง  ฉันก็จะได้ไม่ต้องโดนเทศน์โดนกักบริเวณให้อยู่แต่ในห้องเหมือนที่แล้วมาหรอก

    เธอโดนขังอยู่ในห้องฉันก็ไม่ได้เสียใจอะไรนี่  ออกจะดีอกดีใจด้วยซ้ำไป

    แล้วเมื่อตอนที่ฉันโดนขังห้องอยู่บ่อยครั้งนั้นน่ะ เธอกับมาดามราโมน่าแม่ของเธอก็มัวแต่ด่าว่านู่นว่านี่ไม่สะอาด ด่าว่าฉันไม่รู้จักทำงาน ทั้งๆที่ความจริงก็เป็นเพราะเธอขังฉันไว้แต่ในห้อง แล้วฉันจะมาทำความสะอาดได้ยังไง!”

    การพูดของเธอบ่งบอกได้ถึงอารมณ์ที่รุนแรงและครุกรุ่นโกรธาอย่างเหลือจะทน  มือที่ปกติอยู่นิ่งเสมอกลับปัดแจกันใบเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะตกลงมาแตกอย่างไม่น่ามอง

    เรปาโร!”

    ทันทีที่เธอร่ายคาถาสามพยางค์นั้นออกมา เศษกระเบื้องที่แตกหักกระจัดกระจายออกจากกันก็หวนกลับมาประกอบกับเป็นแจกันใหม่ที่สมบูรณ์

    เวลาพูดกับฉันทำไมเธอต้องทำท่าทางดูเกลียดเดียดแคลนอย่างนั้นเสมอๆด้วย

    แดนเริ่มมีน้ำเสียงที่ดุดันมากยิ่งขึ้นไปอีก

    ก็เพราะเธอมันสมควรเกลียดไงล่ะ  บังคับกดขี่ให้ฉันอยู่ใต้อำนาจอย่างนี้  ใครไม่เกลียดคนนั้นก็ประเสริฐเสียยิ่งกว่าแม่พระแล้ว

    ซิลเวียพูดด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบแต่ก็กลับแฝงด้วยความโกรธที่ครุกรุ่นดั่งคบไฟที่อยู่ในตัว

    เธอพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง  นี่ฉันรักเธอนะ  ไม่ว่าเธอจะเกลียดฉันก็ตาม  แต่ฉันก็รักเธอมาก รู้ไว้ซะ!”

    อย่างเธอน่ะมันไม่สมควรที่จะให้ฉันหรอก เรื่องโกหกทั้งเพ เธอโป้ปดเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะให้ฉันใจอ่อน  จะบอกให้นะ ฉันไม่เคยใจอ่อนกับคนอย่างเธอ และถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงฉันก็จะไม่มีทางใจอ่อนแน่!”

    แทบไม่สิ้นคำพูดประโยคสุดท้ายของซิลเวีย เขาก็ฉุดกระชากลากถูเธอขึ้นไปบนชั้นสองอย่างทารุณและไร้ซึ่งความปราณี  เธอพยายามทุกวิถีทางที่จะหลุดออกไปจากมือนั่นให้ได้  แต่ถึงกระนั้นความเหนื่อยล้าที่เธอทุ่มให้กับการทำงานวันนั้นนี้ก็ดูจะสงผลให้อ่อนแรง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×