คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter VI ความสัมพันธ์ครั้งใหม่
หญิงสาวนามซิลเวียเข้ามาในร้านเกมกลวิเศษณ์วีสลีย์พร้อมกับสิ่งประดิษฐ์ของมักเกิ้ล อย่างที่ใช้กันทั่วไปในร้านค้าในโลกของมักเกิ้ล เธอก้าวขาออกมาจากห้องปฏิบัติการของฝาแฝดโผล่พ้นมาอยู่ภายในตัวร้าน
“เฮ้ สวัสดี ซิลเวีย”
ฝาแฝดร้องบอกพร้อมกันด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่ร่าเริงตามแบบฉบับของพวกเขา
“สวัสดี เฟร็ด เอ่อ จอร์จ ด้วย”
เธอทักทายด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่ร่าเริงเช่นกัน
“วันนี้ฉันมีของมาให้พวกเธอด้วยล่ะ”
ซิลเวียพูดพร้อมกับหยิบยื่นสิ่งประดิษฐ์ของมักเกิ้ลที่อยู่ในมือของเธอออกมาให้ฝาแฝดยล
“มันคืออะไร?”
ตอนนี้ใบหน้าของพวกเขาถูกไปด้วยเครื่องหมายคำถามและความสงสัย
“มันคือกล้องวงจรปิด เป็นสิ่งประดิษฐ์ของมักเกิ้ลน่ะ ใช้สำหรับดูว่าคนในร้านทำอะไรกันบ้าง ได้ขโมยของไปรึเปล่า”
“ว้าว ยอดเยี่ยมกระเทียมดองไปเลย”
เฟร็ดพูดแล้วกระโดดสักทีด้วยความดีใจ
“ว่าแต่ว่า มันใช้อย่างไรล่ะ?”
เครื่องหมายคำถามผุดขึ้นมาในหัวสมองของจอร์จอีกครั้ง
“เดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละ เริ่มปฏิบัติการกันเลย”
ซิลเวียเริ่มจัดการกับกล้องวงจรปิดตัวแรกใน 4 เครื่อง โดยการปีบันไดลิงขึ้นไปติดกล้องตัวนั้นไว้บนหิ้งที่วางสินค้าอยู่ ยากที่ลูกค้าจะเจอมัน และอีกประเด็นหนึ่งคือ พ่อมดและแม่มดอาจไม่รู้ว่ามันคืออะไร?
ฝาแฝดวีสลีย์เฝ้าดูเธอติดตั้งอุปกรณ์อย่างตื่นเต้นและอยากรู้ว่ามันทำงานเช่นไร พวกเขาคอยดูแลความปลอดภัยให้กับเธอเผื่อว่าเธออาจจะพลัดตกลงมาได้
“เสร็จแล้วล่ะ ไปหลังร้านกันเถอะ ยังมีอุปกรณ์อีกชิ้นที่เราต้องใช้มัน”
ซิลเวียพูดเสียงใสกับเฟร็ดและจอร์จ พวกเขาเดินตามเธอไปหลังร้านอย่างไม่รีรอ
“นี่เรียกว่าคอมพิวเตอร์ จากที่เธอเห็นจะพบว่ามันสามารถมองได้ทั่วร้านเลยทีเดียว ไม่ว่าจะตรงนั้นหรือตรงนี้ เธอก็จะรู้ว่าใครทำอะไรอยู่ในร้าน มันจะทำให้สินค้าปลอดภัยยิ่งขึ้น”
เธอบรรยายให้ฝาแฝดฟังอย่างย่อๆ ดวงตาของพวกเขานั้นจับจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งมองเห็นไปได้ทั่วร้าน
“มักเกิ้ลนี่ฉลาดจริงๆแฮะ”
เฟร็ดเอ่ย
“ว้าว เยี่ยมจริงๆ เห็นทีเราต้องเอาไปบอกพ่อเสียแล้ว”
ถึงแม้ว่าจอร์จจะไม่ได้อยู่ที่บ้านโพรงกระต่ายแล้วก็ยังมีกระจิดกระใจคิดถึงคุณอาเธอร์ วีสลีย์
“เป็นคนดีเสียจริงๆเลยนะจอร์จ ฉันว่าพวกเธอสองคนไปดูหน้าร้านดีกว่า อย่ามอบภาระให้ผู้หญิงอย่างแวริตี้คนเดียวสิ”
ซิลเวียพูดเสียงใสอีกครั้งหนึ่ง เฟร็ดและจอร์จเดินดุ่มๆออกไปจากห้องปฏิบัติการอย่างที่เธอบอก
ในตัวร้านผู้คนยังทยอยกันเข้ามาอย่างล้นหลามเช่นเลย อาจเป็นเพราะยากที่จะหาซื้อของพวกนี้ได้ในร้านทั่วไป ไม่แน่ร้านของพวกเขาอาจจะเป็นร้านขายของตลกในตรอกไดแอกอนเพียงร้านเดียวก็ไปได้
เด็กชายใส่แว่นตากลมเกลี้ยงผมออกยุ่งๆ เด็กชายใบหน้าตกกระ และเด็กหญิงผมหยักศก กำลังย่างก้าวเข้ามาในร้านหมายเลขเก้าสิบสาม
เด็กชายสวมแว่นตาดูตื่นตาตระการใจกับสินค้าต่างๆมากมายนานาชนิดที่มีลักษณะเด่นในรูปแบบต่างๆ
“เฮ้! แฮร์รี่”
เสียงของจอร์จร้องเรียกและจับไหล่แฮร์รี่ไว้ เขาดูตกใจเล็กๆ
“หวัดดี แฮร์รี่”
เฟร็ดปรากฏตัวพร้อมกับเสียงเปรี้ยงขนาบข้างเขา เหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้แฮร์รี่ตกใจอีกครั้ง
“เอ่อ... สวัสดีเฟร็ด สวัสดีจอร์จ”
เขาก็อดไม่ได้ที่จะทักทายตามมารยาทที่ดี
“ตามเรามาสิแฮร์รี่ ข้างหลังนี่แหละคือความลับที่ทำให้เราได้เงินเป็นกอบเป็นกำ”
เฟร็ดบอกแล้วเดินนำหน้าไปทางม่านสีมืดสนิทดั่งฟ้ายามราตรี จอร์จและแฮร์รี่เดินตามเขาไปติดๆอย่างไม่ลดละ
“ที่นี่คือที่ไหนอีกล่ะเนี่ย?”
แฮร์รี่รู้สึกงุนงงเล็กน้อยที่เข้ามาในห้องๆหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยสินค้าที่ยังไม่ได้วางแผง และสินค้าสุดฮิตต่างๆของร้าน
“อย่าพึ่งถามเลยแฮร์รี่ เรามีบางอย่างที่จะต้องให้นายดูอีก”
จอร์จเอ่ยแล้วเดินนำหน้าไปยังอีกห้องหนึ่ง
แฮร์รี่กวาดสายตาไปทั่วห้องที่เขาและฝาแฝดเข้ามา เต็มไปด้วยวัสดุและอุปกรณ์เครื่องมือนานาชนิด และที่สำคัญเขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งทำงานอยู่ในนั้น
“อ้าว สวัสดี พอตเตอร์”
ซิลเวียเงยหน้าขึ้นมาร้องทักบุคคลที่พึ่งเคยเข้ามาในห้องนี้เป็นครั้งแรกด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วร่าเริงแจ่มใส
“สวัสดี เอ่อ...ลอว์ใช่ไหม?”
แฮร์รี่ดูงุนงงเล็กๆที่อยู่ดีๆผู้หญิงคนนั้นที่หน้าตาคุ้นเคยร้องทักขึ้นอย่างคนรู้จัก
“ใช่ เราไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่อยู่ที่ฮอกวอตส์ สบายดีรึเปล่า”
“ก็...สบายดี”
“นี่เราปล่อยให้สองคนนี้ทักทายกันมากพอแล้วนะ อย่าทำเหมือนกับว่าในห้องนี้ไม่มีเราอยู่สิ”
เฟร็ดรีบทำลายการสนทนาระหว่างซิลเวียและแฮร์รี่เสีย เพื่อต้องการให้พวกเขาเห็นว่าเขาและจอร์จยังเฝ้าคอยพวกเขาอยู่ในห้อง
“โธ่ จอร์จ ก็คนมันไม่ได้เจอกันนานนี่นา”
“เธอทักผิดคนซะแล้วล่ะซิลเวีย ฉันเฟร็ดต่างหากเล่า”
“ขอโทษที”
“งั้นเราสองคนก็ขอตัวก่อนแล้วกัน แล้วอีกอย่างแฮร์รี่ ถ้านายอยากได้อะไรก็หยิบไปได้เลยไม่ต้องจ่ายเงิน”
เฟร็ดบอกแล้วเดินขนาบข้างไปพร้อมกับจอร์จ แต่กลับต้องหยุดชะงักเสีย
“แต่...”
“ไม่มีแต่แฮร์รี่ นายให้เรากู้เงินเปิดร้าน เราไม่เคยลืม ถ้านายอยากจะจ่ายเงินนะ ไม่ต้องหรอก เพียงแต่นายบอกกับคนที่นาถามนายว่าซื้อมาจากที่ไหนก็พอแล้ว”
จอร์จพูดแล้วเดินจากไปพร้อมกับเฟร็ด
“ลอว์ ตอนนี้เธอกับวู้ดเป็นไงบ้าง”
แฮร์รี่เริ่มต้นการสนทนาอีกครั้ง
“คือ...เราเลิกไปนานแล้ว ฉันและเขาก็ต่างเห็นด้วยกันทั้งสองฝ่าย ตอนนี้หัวใจฉันยังว่างนะพอตเตอร์”
คำพูดของซิลเวียถึงกับทำให้แฮร์รี่เกิดอาการคิดหนักขึ้นมาทันใด
“โธ่ ฉันล้อเล่นน่ะ อย่าคิดมากไปหน่อยเลย”
“ลอว์ ศาสตราจารย์มูดดี้เคยบอกฉันว่าพ่อกับแม่ของเธออยู่ในภาคีด้วยในตอนนั้น”
“ก็คงเป็นอย่างนั้นกระมัง รู้ไหมว่าฉันรู้สึกถูกชะตากับเธอมากเลยพอตเตอร์”
“ทำไมล่ะ”
แฮร์รี่เกิดแววตาสงสัยกับคำพูดของเธอขึ้นมาอีกครั้งจากที่เธอบอกว่ารู้สึกถูกชะตากับเขา
“ก็เพราะว่า เธอมีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายๆกับฉันน่ะสิ ฉันนึกว่าจะมีฉันที่โชคร้ายอยู่คนเดียวเสียอีก ฉันต้องเสียใจด้วยนะเรื่องซิเรียส แบล็กพ่อทูนหัวของเธอน่ะ เธอรู้ไหมว่าฉันเชื่อเธอว่าเธอไม่โกหกเรื่องที่เจ้าแห่งศาสตร์มืดกลับมาเป็นอิสระอีกครั้งตั้งแต่แรกแล้ว ฉันไม่เคยเชื่อด้วยว่าเธอตั้งใจที่จะใส่ชื่อลงไปในถ้วยอัคนี”
“ขอบใจนะที่เชื่อฉัน”
“เธอคงรู้ว่าพ่อแม่ฉันก็โดนคนที่รู้ว่าใครจัดการ แต่ที่ฉันรอดมาได้เพราะพ่อกับแม่พาฉันไปไว้ที่บ้านของคนรู้จักที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้ฉันดีมีชิวิตอยู่รอดต่อไปก่อนที่ท่านจะตายเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ตอนนั้นฉันอายุได้แค่ 3 ขวบ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์เป็นคนบอกเรื่องนี้กับฉันทั้งหมด ในตอนแรกที่ฉันยังไม่ได้รู้เรื่องนี้ฉันโทษพ่อกับแม่ของตัวเองว่าทำไมถึงเอาฉันมาไว้กับครอบครัวแบบนี้ อยู่ในห้องใต้หลังคาเล็กๆ โดนด่าปาวๆอยู่ทุกวัน ต้องทำงานสารพัดอย่าง มันก็อึดอัดอยู่พอควรนะ ฮอกวอตส์เป็นเพียงที่พึ่งเดียวของฉัน”
เธอเล่าเรื่องในอดีตของพ่อแม่เธอให้กับแฮร์รี่ฟัง เขาฟังอย่างตั้งใจ และฟังด้วยใจอย่างไตร่ตรองใคร่ครวญ
“มันไม่ใช่แค่คล้ายหรอกนะ แต่มันถึงขั้นเหมือนเลยล่ะ”
“พอตเตอร์ ฉันเชื่อว่าเธอคงจะก้าวหน้าต่อไปได้อีกยาวไกล และฉันเชื่อว่าเธอจะเป็นคนที่สยบเจ้าแห่งศาสตร์มืด โลกเวทมนตร์จะต้องปลอดภัยจากเนื้อเมือของคนที่รู้ว่าใคร ถ้าเธอต้องการให้ฉันร่วมสู้เมื่อไหร่ฉันก็พร้อมที่จะสู้ เธอเป็นคนที่ดีที่เยี่ยมยอดมากเลยแฮร์รี่”
“เธอดูกล้าหาญและอบอุ่นมาก เหมือนคนเป็นแม่จริงๆ ฉันล่ะอยากให้เธอเป็นคนหนึ่งในครอบครัวของฉันจริงๆ เธอไม่ต้องเรียกฉันว่าพอตเตอร์อีกแล้ว ฉันอยากให้เธอเรียกฉันว่าแฮร์รี่มากว่า ได้ไหม”
“ได้สิ แฮร์รี่ เพื่อความเท่าเทียมกัน ช่วยเรียกฉันว่าซิลเวียได้รึเปล่าล่ะ”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนอบอุ่น
“ซิลเวีย ขอกอดทีได้ไหม หมายถึงกอดในฐานะพี่สาวกับน้องชายน่ะ”
“ได้สิ น้องชาย แต่อย่าไปพูดกับคนอื่นเค้าล่ะแฮร์รี่”
แฮร์รี่โผเข้ากอดซิลเวียที่อ้าแขนรอรับด้วยความอบอุ่นอย่างผู้เป็นพี่สาวที่มีต่อน้องชาย เขาดูมีความสุขขึ้นบ้างต่างจากเดิม และเธอดูมีความสุขมากขึ้นที่ยังมีที่พึ่งเพิ่มขึ้นมาอีกคน
แฮร์รี่เดินออกมาจากห้องปฏิบัติการเข้าสู่ภายในตัวร้านค้าพร้อมกับมือที่ถือระเบิดนกต่อ ผู้คนก็ยังเข้ามาอย่างไม่ลดละ ธุรกิจของฝาแฝดเฟร็ดและจอร์จดำเนินไปด้วยดีเป็นอย่างมาก ช่างคุ้มค่ากับการทุ่มเทแรงงานที่พวกเขาลงมือไปกับการประดิษฐ์สิ่งของพวกนี้เสียจริง
ทันทีที่เขาเดินออกมาเขาเห็นว่า รอนกำลังยกหอบหิ้วกล่องนานาสารพันซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสินค้ามากองใหญ่ ส่วนเฮอร์ไมโอนี่กับจินนี่นั้นกำลังอยู่ในบริเวณสินค้าสีชมพูสดใสแสนน่ารัก
ภายในกรงเล็กๆกรงหนึ่งถูกบรรจุด้วยสิ่งที่ดูเหมือนลูกบอลมีขนสีต่างๆ และดูเหมือนว่าพวกมันจะมีชีวิตเสียด้วย พวกมันกำลังวิ่งไปมาภายในกรง
จินนี่ดูท่าทางจะสนในเจ้าสิ่งนี้เป็นอย่างมาก เธอเอานิ้วชี้แหย่เข้าไปในกรง ทำให้พวกมันต่างมารุมล้อมนิ้วของเธอไว้
“มันคือพิกมี่พัฟ เป็นตัวพัฟสไกน์ขนาดจิ๋ว พวกเราผสมพันธุ์พวกมันออกมาเกือบไม่ทันตลาดแน่ะ”
เฟร็ดเดินปรี่เข้ามาหาผู้เป็นน้องสาวพร้อมกับอธิบายสรรพคุณเจ้าตัวสินค้าที่ชื่อพิกมี่พัฟ
“มันน่ารักจัง แม่คะ หนูขอซื้อได้ไหมคะ”
เธอพูดแล้วหันไปหานางวีสลีย์
“อ้อ ได้สิจ๊ะ”
นางวีสลีย์หันขวับมาหาลูกสาวผู้เป็นคนสุดท้องของบ้าน
“แฮร์รี่ เธอเป็นอะไรไปน่ะ”
เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยถามทันทีที่เธอสังเกตเห็นเขา
“หน้าฉันมีอะไรติดอยู่อย่างนั้นเหรอ?”
“เปล่า หน้าเธอไม่ได้มีอะไรติดอยู่หรอก แต่เธอดูสบายใจและมีความสุขมากขึ้นกว่าตอนที่จะมาที่นี่น่ะ”
“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ”
เขาตอบพร้อมกับใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
“เอางั้นเหรอ”
“นี่แฮร์รี่ แอบหลงรักซิลเวียล่ะสิถึงได้อารมณ์ดีขนาดนี้”
จอร์จเลื่อนเข้ามากระซิบแฮร์รี่อย่างรวดเร็ว
“หลงรักน่ะใช่ แต่เป็นแบบพี่สาวน่ะสิ”
“แหมๆ พอได้ทีแล้วเอาใหญ่เลยนะเฟ่ย”
ความคิดเห็น