ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Twins of Love นี่นายคนไหนกันแน่เฟร็ดหรือจอร์จ

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter IV ความรักในอดีตระหว่างซิลเวีย ลอว์กับโอลิเวอร์ วู้ด

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 50


    Chapter IV

    ความรักในอดีตระหว่างซิลเวีย ลอว์กับโอลิเวอร์ วู้ด

     

                    เฟร็ดและจอร์จต่างนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตเหตุการณ์หนึ่ง  ที่แอนเจลิน่ากล่าวกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องงานเลี้ยงเต้นรำของซิลเวีย

                    รู้ไหมว่าซิลเวียเสียใจแค่ไหนที่ต้องไปงานเต้นรำกับเด็กสลิธีรินที่เธอไม่ชอบ  ถ้าพวกนายชอบเธอ พวกนายก็น่าจะกล้าเข้าไปชวนเธอไปงานเต้นรำตั้งแต่แรก  พวกนายไม่รู้เหรอว่าตัวเองเป็นใคร  พวกนายเป็นถึงกับบีตเตอร์ในทีมควิดดิชของบ้านกริฟฟินดอร์เลยนะรู้ไหม  อย่างน้อยเธอก็คงจะดีใจที่ได้ไปงานเต้นรำกับคนที่อยู่บ้านกริฟฟินดอร์

     

     

    เมื่อช่วงเวลาแห่งตอนกลางวันนั้นหมดไป  ดวงตะวันลาลับจากขอบฟ้าอันไกลแสนไกล  ท้องฟ้ายามราตรีที่มืดครึ้มขยับเคลื่อนเข้ามาแทนที่  แต่ท้องฟ้าอันมืดครึ้มนั้นก็ถูกแต่งแต้มแซมด้วยดวงดาวมากมายประกายแสงอย่างงดงาม

                    บ่งบอกถึงว่าซิลเวียก็คงจะต้องกลับบ้านได้แล้ว  แต่แน่ล่ะว่าเธอต้องไม่อยากกลับแน่นอน  เพราะอะไรก็น่าจะรู้  บ้านนั่นสำหรับเธอแล้วอย่างกับได้ไปอยู่คุกอัซคาบันอย่างย่อม  แต่ถึงจะไม่อยากกลับไปอย่างไรก็จำเป็นต้องกลับไป

                    เฮ้อ! คราวนี้หายตัวไปที่ห้องเลยดีกว่า  ไม่อยากต่อปากต่อคำกับแดน  แต่ก็ช่างมันเหอะ ไหนๆสุดท้ายก็จะต้องทำอาหารเย็นอยู่แล้ว

                    เปรี้ยง!

                    เสียงเปรี้ยงดังราวกับว่าฟ้าผ่าลงมากลางบ้าน  พร้อมกับการปรากฏกายของหญิงสาวนามว่าซิลเวีย  เล่นเอาแดนถึงกับตกใจหงายเก๋งไปเลยทีเดียว

                    นี่ยัยบื้อ! อยู่ดีๆก็ทำอะไรพรวดพราดงี่เง่าอย่างนี้อยู่กลางบ้าน เป็นบ้ารึไง

                    ไม่ทันไร แดนก็โจมตีซิลเวียต้วยคำพูดเสียแล้ว

                    เธอจะว่าการกระทำของฉันมันงี่เง่าไม่ได้หรอกนะแดน  เพราะนี่เธอก็น่าจะรู้ว่ามันคือการหายตัว  อีกไม่นานเธอก็คงจะได้เรียนรู้

                    แต่เธอก็ไม่ยอมที่จะถูกโจมตีอยู่เพียงฝ่ายเดียวหรอก  คนเรามีคนมารุกก็ต้องรุกกลับสิจริงไหม

                    โธ่เอ๊ย! งั้นก็รีบทำอาหารเย็นหน่อยสิ

                    ได้ จะทำเดี๋ยวนี้แหละ

                   

     

                    หลังจากที่ซิลเวียทำภารกิจอันแสนน่าเบื่อเสร็จแล้ว  เธอก็มาหมกตัวอยู่ในห้องใต้หลังคาที่แคบแสนแคบอย่างหดหู่ที่ริมหน้าต่างบานเล็กๆบานเดียวภายในห้อง  ในตอนนี้เธอคิดอยู่เพียงอย่างเดียวคือ อยากไปที่ร้านเกมกลวิเศษณ์วีสลีย์เพื่อที่จะได้แสวงหาความสุขสนุกสนานไปพร้อมๆกับฝาแฝด

                    เฮ้อ... ถ้าฉันไปสมัครงานที่โรงพยาบาลเซนมังโก พึ่งจบมา ทางโรงพยาบาลคงไม่รับฉันแหง  แล้วถ้าไปรับจ๊อบเป็นมือปราบมารล่ะ นี่คงไม่มีทางรับเข้าไปใหญ่  แต่จะรบกวนฝาแฝดเกินไปไหมนะ ที่จะปรุงยาต่างๆในห้องปฏิบัติการของพวกเขา  โธ่เอ๋ย! นอนดีกว่า

                    เธอคิดอะไรต่อมิอะไรจนในหัวสมองของเธอยุ่งเหยิงไปหมด  เธอทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างไม่ค่อยที่จะสบอารมณ์หลัง  เปลือกตาของเธอค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ เริ่มเข้าสู่ห้วงแห่งความฝัน

     

                    ห้วงเวลาถูกย้อนกลับไปเมื่อซิลเวียยังเรียนชั้นปี 5 ที่โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์  เมื่อตอนที่เธอกับวู้ดความสัมพันธ์เปลี่ยนความสัมพันธ์มาคบกันได้พักหนึ่ง

                    ซิลเวียนั่งอยู่ริมขอบหน้าต่างภายในหอนอนหญิงของกริฟฟินดอร์  กวาดสายตามองดูทั่วท้องฟ้าผ่านกระจกจากบานหน้าต่าง  ท้องฟ้ามันช่างและดูเคว้งคว้างอย่างว่างเปล่า 

                    ยังไม่นอนอีกเหรอ ซิลเวีย

                    แอนเจลิน่าถามเพื่อนสาวที่กำลังนั่งเหม่ออยู่ริมหน้าต่าง

                    อือ ฉันยังไม่ง่วงน่ะ

                    เธอตอบโดยที่ยังไม่ละสายตาจากท้องฟ้าอันมืดครึ้มเงียบสงัดข้างนอกนั่น  แต่อยู่ดีๆก็มีคนขี่ไม้กวาดขึ้นมาระดับหน้าตาแล้วค่อยๆเคลื่อนเข้ามา  เล่นเอาซิลเวียถึงกับตกใจผงะออกจากภวังค์เหลือกตาขึ้นตามลักษณะในการตกใจของเธอ  เพราะคนๆนั้นก็คือ โอลิเวอร์ วู้ด

                    ก๊อก!ๆๆ

                    เขาใช้มือข้างหนึ่งเคาะที่บานกระจกเบาๆ 3 ครั้ง  เธอจึงเปิดแง้มหน้าต่างออกมาเพียงเล็กน้อยเพื่อเจรจา

                    มีอะไร มืดค่ำป่านนี้แล้ว

                    ออกไปข้างนอกด้วยกันหน่อย  เดี๋ยวพามาส่งน่า

                    จะบ้ารึไง  ถ้าเกิดถูกจับได้ขึ้นมา เรื่องใหญ่เลย  แถมบ้านเราคงจะต้องโดนหักคะแนนอีก

                    ถ้าโดนจับได้  ฉันให้เธอห้าเกลเลียนเลย

                    งั้นก็ได้  แต่ขอเปลี่ยนชุดก่อนแป๊บนึง

                    หลังจากที่เธอเจรจากับวู้ดเสร็จ  เธอจึงรีบไปเปลี่ยนชุดด้วยความรวดเร็วดั่งฟ้าผ่าแทรกกลางพื้นดินก็ไม่ปาน  แองเจลิน่ามองเพื่อนสาวอย่างงงๆเล็กน้อย

                    แอนเจลิน่า  เธออย่าไปบอกคนอื่นล่ะ  ว่าฉันออกไปข้างนอกกับวู้ดในยามวิกาล

                    เธอมั่นใจฉันได้เลย  ฉันไม่บอกใครอยู่แล้ว

                    เมื่อได้ยินคำตอบรับจากเพื่อนสาวเช่นนั้น  เธอจึงค่อยๆก้าวขาออกไปจากทางหน้าต่าง  เมื่อมองลงไปดูข้างล่างมันช่างน่ากลัวยิ่งนัก  เธอพยายามรวบรวมสติของตนเองอีกครั้ง  โดยที่จับวู้ดไว้เพื่อนเพิ่มความมั่นใจเพียงไม่กี่เปอร์เซนว่าคงจะไม่ร่วงลงไปข้างล่าง

                    เร็วๆเข้าสิ  เดี๋ยวนักเรียนหญิงคนอื่นตื่นขึ้นมาเจอมันจะแย่

                    ฉันก็กำลังพยายามอยู่  นักเรียนคนอื่นมาเจอกับฉันร่วงลงไปอย่างไหนมันจะแย่กว่ากันล่ะ

                    ขอโทษทีที่เร่ง

                    ไม่เป็นไร  ฮีบ!”

                    ในที่สุดเธอก็ขึ้นขี่ซ้อนท้ายไม้กวาดของเขาได้สำเร็จ

                    นี่เธอจะพาฉันไปไหนเนี่ย?

                    ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เองแหละ  ฉันจะซิ่งแล้ว จับไว้ให้แน่นๆล่ะ

                    ไม่จับซะอย่าง

                    แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน

                    ว้าก!”

                    เมื่อวู้ดเร่งความเร็วอย่างกะทันหัน  เธอร้องออกมาเสียงหลงแล้วจึงรีบกอดเขาไว้อย่างแน่นด้วยความกลัวที่จะตกลงไปในทันที

                    บอกแล้วก็ไม่เชื่อ ยัยจอมอึดเอ๊ย

                    โธ่เอ๊ย

                    ไม้กวาดที่ถูกต้องมนตร์คาถาเพื่อให้สามารถลอยได้กำลังค่อยๆลอยต่ำลงเรื่อยๆ  มันร่อนลงมาเรื่อยๆอย่างสง่างาม  สมกับที่ผู้ขับขี่มันนั้นเป็นกัปตันทีมควิดดิชโดยแท้

                    ถึงแล้ว

                    ริมทะเลสาบ  นี่เธอพาฉันมาที่นี่ทำไม  ที่นี่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นใจเล่า

                    ซิลเวียลงจากไม้กวาดลอยได้แล้วเริ่มต้นตั้งคำถามทันทีเมื่อเธอรู้ว่าวู้ดพาเธอมาที่ทะเลสาบ

                    ไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นใจเหรอ  ไม่มีได้ยังไงกัน  มันจะต้องมีได้แน่ถ้าฉันทำให้มันเกิดขึ้น

                    โธ่... พูดอย่างกับเธอทำให้ฉันได้ทุกอย่างอย่างนั้นแหละ  ฉันจะบอกกับเธออีกหนนะ เธอไม่จำเป็นต้องให้สิ่งของอะไรที่ล้ำค่ากับฉันหรอก  เพียงแค่ฉันรู้ว่าเธอรักฉันไม่ได้นอกใจฉัน ฉันก็พอใจแล้วล่ะ

                    เธอพูดด้วยรอยหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

                    เรื่องนั้นฉันรู้  ฉันรักเธอ แล้วก็ไม่ได้นอกใจเธอด้วย  แต่ว่าเธอมานั่งลงตรงนี้กับฉันก่อนเถอะ

                    เขาผายมือไปทางหินขนาดใหญ่ที่พอจะเป็นม้านั่งให้ทั้งสองคนได้

                    มีอะไรก็พูดมาเถอะน่า  นี่มันก็ไม่ใช่หัวค่ำแล้ว  และถึงแม้ว่ามันจะเป็นตอนหัวค่ำก็ตามที  ท้องฟ้ามันมืดลงแล้วก็ไม่ควรที่จะออกมาด้วยซ้ำ

                    แต่เธอก็ออกมา ใช่ไหมล่ะ

                    เอ่อ... ก็ใช่

                    เมื่อวู้ดยิงคำถามอย่างนั้นเข้าใส่  ซิลเวียก็ถึงกับเถียงไม่ออก

                    ถ้าเธอเงียบไม่พูดอะไรอยู่อย่างนี้  งั้น...ฉันกลับล่ะ

                    เดี๋ยวสิ อย่าพึ่ง

                    เธอลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินจากไป  แต่ก็กลับต้องถูกเขารั้งด้วยคำพูดแล้วมือที่จับแขนของเธอไว้อยู่ ซึ่งรุดให้เธอนั่งลงตรงที่เดิมนั้นอยู่ต่อไป

                    มือที่แข็งแกร่งสมอย่างยิ่งที่ได้รับตำแหน่งกัปตันทีมค่อยๆเลื่อนไปจับที่มืออีกมือหนึ่งที่ดูอ่อนโยนแต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความแข็งแรงและอดทนไม่แพ้กัน  มือที่แข็งแกร่งข้างหนึ่งประคองมือที่อ่อนโยนขึ้นมาอยู่ประมาณระดับอก  ทำให้เจ้าของมือที่อ่อนโยนนั้นต้องหันหน้าไปสบตาด้วยความสงสัยอย่างฉงนสนเท่เจ้าของมืออันแข็งแกร่ง  แต่ก็กลับไม่ได้คำตอบอะไรออกมาเลย

                    มืออันอ่อนโยนนั้นมีท่าทีผิดแผกไปจากเดิม โดยที่กำลังประคองมืออันแข็งแกร่งซึ่งปรากฏเห็นรอยแผลที่เด่นชัดอยู่พอควร  มืออันอ่อนโยนอีกข้างหนึ่งนั้นลูบที่แผลนั้นอย่างแผ่วเบาเพื่อที่จะได้รู้สาเหตุและหาทางแก้ได้

                    เธอไปโดนอะไรมาหรือ?

                    เอ่อ... ฉันจำไม่ได้  อาจจะเป็นตอนซ้อมควิดดิชล่ะมั้ง

                    อืม

                    เธอหยิบไม้กายสิทธิ์ซึ่งเหน็บไว้ที่กระเป๋ากางเกงออกมา  เธอชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่รอยแผลบนมือของเขาแล้วท่องคาถาเบาๆอย่างไร้ซึ่งการได้ยินเสียง  ไม่นานนักบาดแผลนั้นก็ค่อยๆสมานตัวกันแล้วจางหายไปเหมือนปกติ

                    ฉันคงต้องขอบใจเธออีกแล้วล่ะ

                    ไม่เป็นไร  แค่เรื่องเล็กน้อยน่ะ

                    หลังจากนั้นความเงียบก็ปกคลุมสถานการณ์แห่งนั้นราวกับว่าไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตแม้แต่ชีวิตเดียว  ทั้งสองคนต่างไม่เอ่ยปากออกมาสักคำ 

                    ซิลเวียหยิบก้อนที่มีขนาดไม่ใหญ่เสียเท่าไหร่นักโยนลงไปในทะเลสาบเพื่อทำลายความเงียบงัน  วู้ดมองตามหินก้อนนั้นที่ถูกขว้างโดยซิลเวีย  มันเด้งถึงสามตลบเลยทีเดียว

                    เธอรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงตัดสินใจโยนหินก้อนนั้นลงน้ำ

                    ไม่รู้สิ  แล้วทำไมเธอถึงโยนล่ะ

                    ก็เพราะฉันอยากที่จะให้เธอเลิกปิดปากเงียบแล้วหันมาพูดกับฉันน่ะสิ

                    คำตอบที่ซิลเวียพูดออกมานั้นทำให้วู้ดถึงกับยิ้ม รวมถึงเจ้าของคำพูดนั้นก็ต้องยิ้มออกมาด้วย

                    ซิลเวีย ฉันมีอะไรจะให้เธอ  ช่วยหลับตาทีสิ

                    ก็ฉันบอกเธอแล้วไง  หรือจะให้ฉันบอกอีกรอบเล่า

                    เรื่องนั้นฉันรู้ดีน่า  แต่ก็ช่วยหลับตาทีเถอะ

                    หลับก็หลับ

                    หัวใจของเขาที่กำลังสูบฉีดเลือดกำลังเต้นตึกตักอย่างเป็นจังหวะกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ  แต่ในเมื่อเขาตัดสินใจแล้ว  เขาก็ต้องทำอย่างใจหมายไว้ให้ได้

                    ใบหน้าของเขาค่อยๆเลื่อนเข้าไปใกล้กับใบหน้าของเธอเรื่อยๆ  ใกล้เสียจนแทบแม้แมลงวันยังบินผ่านไม่ได้ด้วยซ้ำ  ริมฝีปากเรียวๆของเขาค่อยๆประชิดเข้าใกล้ริมฝีปากของอีกคนที่หลับตาอยู่อย่างไม่รู้อะไร  ริมฝีปากของเขาเข้าประทับบนริมฝีปากของอีกคนอย่างแผ่วเบา

                    ซิลเวียถึงกับผงะ เร่งร้อนลืมตาขึ้นมาแล้วผลักวู้ดออกไปให้ห่างจากตัวเอง  มือข้างหนึ่งปิดปากของตนเอาไว้  หายใจหอบเสียงดังด้วยความตกใจสุดขีด

                    ฉันต้องขอโทษเธอด้วยนะวู้ด  ฉันทำอย่างนี้ไม่เป็นจริงๆ  ฉันจูบใครไม่เป็น แล้วฉันก็ไม่เคยจูบใครมาก่อนด้วย

                    ไม่เป็นไร  เธอแค่ทำตัวตามสบายเท่านั้น  อย่ากลัวขนาดนั้น  มันไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก  เชื่อฉันสิ  อยู่นิ่งๆ แล้วหลับตา

                    ซิลเวียพยายามควบคุมสติของตนเองให้อยู่กับเนื้อกับตัว  ลมหายใจเริ่มอยู่ในระดับปกติ

                    วู้ดเริ่มเข้าใกล้ประชิดเธออีกครั้งอย่างช้าๆ  มือข้างหนึ่งประคองศีรษะของเธอ ส่วนอีกข้างกำลังโอบกอดเธอเอาไว้  ริมฝีปากของเขาเข้าประทับที่ริมฝีปากของเธออีกครั้งด้วยความอ่อนโยนเหลือ  แต่ในครั้งนี้เธอกลับไม่ผละออกเหมือนดั่งเช่นครั้งที่แล้ว  เธอกลับไม่โต้ตอบอะไรอยู่พักหนึ่ง  แล้วจึงค่อยๆดันเขาออกห่างจากตัวเบาๆอย่างช้า

                    พอเถอะ

                    มันไม่น่ากลัวอย่างที่คิดใช่ไหมล่ะซิลเวีย  มันอาจเป็นเพราะเธอคิดว่าเธอยังไม่พร้อมที่จะยอมรับมัน

                    มันก็คงจะเป็นอย่างที่เธอว่า  แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าเรากลับกันเถอะ นะ

                    ได้สิ ถ้าเธอต้องการอย่างนั้น  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×