ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Twins of Love นี่นายคนไหนกันแน่เฟร็ดหรือจอร์จ

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter III ความทรงจำในอดีตที่ฮอกวอตส์

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 50


    Chapter III

    ความทรงจำในอดีตที่ฮอกวอตส์

     

    ภาพเหตุการณ์ในอดีตเมื่อคืนวันนั้นเริ่มหวนย้อนคืนมาอีกครั้ง

                    สถานที่ซึ่งถูกจัดให้เป็นงานเต้นรำดูสง่างามเหลือล้น  เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่มาด้วยหัวใจที่แสนจะเบิกบานสะพรั่ง  มองไปทางใดก็เห็นทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวในชุดที่งามตายิ่งนัก  แต่ละคนต่างพากันมาเป็นคู่ๆจนใครบางคนนั้นต้องแอบเหงาใจที่ไร้คู่  และเธอ ซิลเวีย ลอว์ ก็เป็นคนหนึ่งในนั้น  ถึงเธอจะไม่ได้มาเคียงคู่กับชายหนุ่มคนใดเลยก็ตามที  แต่เธอนั้นก็ไม่ได้ละทิ้งการมางานเลี้ยงเต้นรำในครั้งนี้เลย

                    ทันทีที่เธอย่างก้าวเข้ามาที่ประตูหน้าทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่เธอราวกับว่าเจ้าหญิงผู้กล้าหาญที่ปรากฏตัวขึ้นด้วยสายตาที่ต่างสงสัยกันว่า  ใครคือชายคนนั้นผู้โชคดีกัน  เธอเดินไปเพื่อที่จะเข้าไปในงานโดยไร้รคู่ที่จะเดินขนาบข้าง  แต่ทันใดนั้นเองก็มีใครคนหนึ่งตรงเข้ามาจับแขนเธอไว้  เธอจึงหันกลับไปมองเพื่อให้รู้แน่ชัดว่าคนๆนั้นคือใคร

                    เดี๋ยวก่อนซิลเวีย  เธอมางานนี้กับใคร

                    เธอพบว่าคนที่มาจับแขนเธอก็คือ แดน  แดน ไวโอเลนท์ แห่งบ้านสลิธีรินที่เธอเกลียดชังนักหนา  อายุน้อยกว่าเธอแต่ก็กลับไร้มารยาทเพียงเพราะแต่ว่าเธอคือคนที่พักอาศัยร่วมชายคาเดียวกันโดยที่แม่ของแดนซึ่งก็คือ ราโมน่า ไวโอเลนท์ อุปการะไว้

                    มาคนเดียว  มีอะไรงั้นเหรอ  จะมาด่าทอฉันต่อหน้าคนในงานอย่างงั้นสิใช่ไหม

    ซิลเวียพูดด้วยน้ำเสียงเรียบแล้วสะบัดแขนออกจากมือของแดนที่จับแขนเธอไว้

    เปล่า  แต่เธอไม่มีคู่ใช่ไหม  พอดีฉันก็ไม่มีคู่  เธอช่วยคู่กับฉันได้รึเปล่า?

    อยู่ที่บ้านก็ด่าฉันเอาปาวๆไร้สิ้นซึ่งความใยดี  พอหวังจะได้อะไรบางสิ่งบางอย่างจากฉันก็มาทำเป็นพูดดีด้วย  แสดงละครเก่งนี่แดน

    นี่เธอยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลยนะ  แต่คราวนี้ฉันต้องขอร้องเธอจริงๆแล้ว  ได้โปรดช่วยฉันทีเถอะนะ  ถ้าฉันไม่มีคู่ เดรโก มัลฟอย ก็คงต้องหัวเราะเยาะฉันแน่  แล้วฉันก็จะแพ้พนันมันอีกด้วย

    ซิลเวียนิ่งเงียบไปพักหนึ่งพึ่งรำพึงคิดถึงอะไรบางอย่าง  ใช่ เดรโก มัลฟอย เขาไม่ค่อยญาติดีกับคนที่เกิดจากมักเกิ้ล กับคนที่เป็นพวกเลือดผสมเสียเท่าไหร่  หรือแม้แต่เลือดบริสุทธิ์บางคนเขาก็ยังไม่ญาติดีด้วยเลย  และมีอยู่ครั้งหนึ่งเขาก็เคยเหยียบย่ำและถากถางเธอด้วยคำพูด  ถ้าเขาเห็นว่าเธอไม่มีคู่ก็คงต้องโดนดูถูกอีกเป็นแน่

    ก็ได้  ฉันตกลง  แต่ว่าเธอไปพนันอะไรไว้กับมัลฟอยล่ะ

    ถ้าฉันหาคู่ไม่ได้  ฉันก็จะแพ้พนันโดยที่จะต้องเสีย 10 ทองเกลเลียนให้กับมัน

    แล้วทำไมต้องไปพนันอะไรไว้มากมายขนาดนั้นด้วย  แล้วอีกอย่างถึงเธอจะให้ฉันไปเป็นคู่ของเธอยังไงๆเธอก็ต้องถูกมัลฟอยดูถูกอยู่ดีนั่นแหละ

    ซิลเวียพูดด้วยสีหน้าที่ออกอาการท่าทางไม่พอใจเสียเท่าไหร่

    เรื่องนั้นก็ช่างมันเถอะน่า  แค่ไม่ต้องเสีย 10 เกลเลียนก็พอแล้ว

    โธ่เอ๋ย

    เลิกพูดได้แล้วน่า  รีบไปกันเถอะ

    แดนไม่รอช้ารีบจูงแขนซิลเวียเข้าไปในงานทันที  ผู้คนที่เห็นเธอในตอนแรกด้วยความสงสัยที่ว่า ชายหนุ่มผู้โชคดีคนนั้นคือใคร  แต่ผู้คนเหล่านั้นต่างก็ต้องเอะใจว่าทำไมเธอถึงไปกับเด็กหนุ่มที่เด็กกว่า แถมยังอยู่บ้านสลิธีรินอีก  เพราะแต่ละคนนั้นก็ต่างรู้ว่าเธอไม่ชอบสลิธีรินถึงขั้นหนึ่ง

                    ภายในงานถูกประดับประดาด้วยอุปกรณ์ต่างๆที่สายงานราวกับอยู่ในดินแดนแห่งน้ำแข็งที่สว่างไสวงามตายิ่งนัก  รวมถึงผู้คนภายในงานก็ต่างแต่งตัวมาในชุดที่สวยงามและดูดีที่สุด

                    พอเต้นรำเสร็จฉันก็จะกทันที  ว่าแต่เธอล่ะจะกลับพร้อมฉันรึเปล่า

                    แดนเอ่ยถามขึ้น

                    ไม่  ฉันจะรอกลับพร้อมกันกับเพื่อน

                    อืม ตกลง

                    งานเลี้ยงเต้นรำนั้นเริ่มขึ้นโดยมีตัวแทนการประลองเวทย์ไตรภาคีทั้ง 4 เดินมาพร้อมกับคู่ของตน  อันได้แก่ เฟลอร์ เดอลากูร์  วิคเตอร์ ครัม  เซ็ดดริค ดิกกอรี่  และ แฮร์รี่ พอตเตอร์  ตามลำดับ  พวกเขาเดินเข้ามายังจุดกึ่งกลางของงานซึ่งก็คือลานเต้นรำ  เสียงดนตรีจากวงออเคสตร้าเริ่มบรรเลงขับกล่อมผู้คนไปพร้อมกับการเต้นรำที่สวยงาม

                    ซิลเวียและแดนเริ่มย่างก้าวเข้าไปที่ลานเต้นรำ  และเริ่มท่าทางอันพลิ้วไหวสวยไปพร้อมๆกับคนอื่นๆที่ก้าวเข้ามาในลานเต้นรำแล้วเช่นกัน

                   

                    เมื่องานเต้นรำนั้นจบลงก็ถึงคราวที่จะมีคอนเสิร์ตย่อยๆจากวงที่ไม่มีชื่อเพื่อที่จะสร้างความสุขและความมันให้กับชุมชนกลุ่มวัยรุ่นในฮอกวอตส์  ซิลเวียที่ปกติจะต้องลุกขึ้นมาเต้นหรือบางทีถึงขั้นขอไมค์มาร้องในตอนนี้กลับต้องนั่งจ๋องรอแองเจลิน่าเพื่อนของเธออย่างเหงาหงอย

                    เธอรู้สึกเบื่อมากที่จะต้องมานั่งอยู่อย่างนี้คนเดียว  เธอสังเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่งก็นั่งจ๋องอยู่ไม่ต่างจากเธอ  ในความคิดของเธอมันกำลังบอกว่า เดินไปหาพวกเขาดีไหม  ยังดีกว่าที่เธอจะมานั่งเหงาหงอยอยู่คนเดียวอย่างนี้  เธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาคนกลุ่มนั้น  และเมื่อเธอเห็นหน้าคนๆนั้น เธอก็จำต้องกล่าวคำทักทายเสียหน่อย

                    สวัสดี พอตเตอร์

                    เอ่อ...สวัสดี ลอว์  เธอไม่ได้ไปสนุกกับคอนเสิร์ตหรอกเหรอ

                    แฮร์รี่ทักทายแล้วถามคำถามเธอในทันที  พ่วงด้วยสีหน้าที่แปลกใจเล็กๆ

                    ไม่หรอก  เอ่อ...ลืมไป สวัสดี วีสลีย์

                    เอ่อ...สวัสดี

                    รอนที่ดูท่าทางแล้วออกจากครึ่งหลับครึ่งตื่นสะดุ้งเมื่อซิลเวียทักทายเขา

                    เชิญนั่งก่อนสิลอว์

                    ขอบใจ พอตเตอร์

                    ซิลเวียกล่าวขอบคุณแฮร์รี่แล้วทิ้งตัวลงไปบนเก้าอี้ข้างๆแฮร์รี่  สายตาและสีหน้าของเธอนั้นดูเศร้าสร้อยเหลือเกิน  แฮร์รี่เห็นเธอเป็นอย่างนั้นก็อดที่จะถามเธอไม่ได้

                    เธอเป็นอะไรไปเหรอ  สีหน้าเธอดูเศร้ามากๆเลยนะ  หรือว่าเธอคิดถึง...

                    ใช่ พอตเตอร์  ฉันคิดถึงวู้ด  โอลิเวอร์ วู้ด กัปตันทีมควิดดิชแห่งกริฟฟินดอร์  ฉันคิดถึงเขา

                    ฉันเข้าใจ  ฉันคิดว่าอีกไม่นานแองเจลิน่าก็คงจะหยุดสนุกไปกับคอนเสิร์ต

                    ฉันก็หวังว่ามันคงจะเป็นอย่างนั้น

                    แฮร์รี่ก็รู้ว่าเธอกับวู้ดนั้นเกี่ยวข้องกันยังไง  มันยากที่จะทำใจได้ ถึงแม้ว่าเวลามันจะผ่านมาไม่ต่ำกว่าปีแล้วก็ตาม

                    เธอรู้ไหมว่าวันนี้เธอดูสวยมากๆเลยล่ะลอว์  ถ้าวู้ดเห็นเขาคงจะยิ้มให้กับเธอแน่ๆเลย

                    ขอบใจนะ พอตเตอร์ ที่ช่วยปลอบใจฉันน่ะ

     

                    อ้าว...ซิลเวีย ฉันนึกว่าเธอกลับไปแล้ว  ฉันต้องขอโทษด้วยที่ทิ้งให้เธอรอนานขนาดนี้

                    แองเจลิน่ารู้สึกตกใจมากทันทีที่รู้ว่าเพื่อนของเธอนั่งรอคอยเธออยู่ตลอดเวลา  แต่เธอกลับดันไปสนุกกับคอนเสิร์ตเสียนอน

                    ไม่เป็นไรหรอกแองเจลิน่า

                    หน้าตาเธอดูเหงาหงอยมากเลยนะ  ไปนอนกันเถอะ  เธอคงจะง่วงมาก

                    แองเจลิน่าและซิลเวียกล่าวลากับคนรู้จักแล้วจึงพากับกลับไปที่หอหญิงกริฟฟินดอร์

     

                    ณ ภายในห้องพักของนักเรียนหญิงแห่งบ้านกริฟฟินดอร์  ซิลเวียและแองเจลิน่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนเตรียมพร้อมที่จะสลบไสลลงบนเตียง  แต่ก็ยัง เพราะ...

                    งานคืนนี้เป็นยังไงบ้างแองเจลิน่า

                    ซิลเวียเอ่ยถามขณะที่เธอนอนอยู่บนเตียง  ส่วนแองเจลิน่านั้นมานั่งที่ปลายเตียงของซิลเวีย

                    ก็สนุกมากเลยล่ะ  เธอเป็นอะไรไปน่ะซิลเวีย  เธอร้องไห้ทำไม

                    แองเจลิน่ารู้สึกตกใจที่เห็นซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างไม่มีสาเหตุ

                    แองเจลิน่า  ฉัน...ฉันคิดถึง ฮึก... วู้ด  ฉันคิดถึงเขา ฮึกๆ... มากจริงๆ  ฮือๆๆ...

                    ซิลเวียไม่สามารถที่จะกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไปมันพรุ่งพรูออกมาอย่างไม่รู้จักจบ  แองเจลิน่าเพื่อนรักของเธอเป็นคนเดียวที่จะมาสมารถรับฟังเรื่องทุกข์ใจของเธอได้

                    ฉันเข้าใจว่าจิตใจเธอยังผูกพันกับเขาอยู่  แต่ว่าเธอจะเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้หรอกนะ  เพราะพวกเราต่างต้องดำเนินชีวิตของตนเอง

                    นั่นฉันก็รู้อยู่แก่ใจแองเจลิน่า  ฉันพยายามที่จะลืมเขาแล้ว  แต่เป็นเพราะนานๆทีเขาก็ส่งจดหมายมาหาฉันครั้งนึง  แล้วแต่ละครั้งที่เขาส่งมามันก็ตัดใจฉันไม่ได้เสียที

                    เฮ้! ฉันว่าฉันเห็นอะไรบางอย่างกำลังบินมาจากข้างนอกนั่นนะ

                    แองเจลิน่าพูดพลางชี้ไปที่จุดเล็กๆสีดำที่อยู่ภายนอกหน้าต่าง  ซึ่งตอนนี้มันกำลังใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น และใหญ่ขึ้น  เมื่อตรวจสอบดูให้แน่ชัดมันก็คือ นกฮูกไปรษณีย์ นั่นเอง  มันกำลังบินมาทางนี้ที่หน้าต่าง ซิลเวียเปิดหน้าต่างให้นกฮูกไปรษณีย์ตัวนั้นนำจดหมายเข้ามาส่ง  เธอหยิบจดหมายที่ผูกติดกับขาของนกฮูกตัวนั้น  มันจ่าหน้าซองไว้ว่า

    ถึง ซิลเวีย ลอว์

    จาก โอลิเวอร์ วู้ด

                    ทันทีที่เธอเห็นเป็นเช่นนั้น  เธอก็รีบเปิดซองจดหมายนั้นอย่างรวดเร็วไวไฟดั่งสายฟ้าผ่าลงมากลางพื้นดิน  เธอค่อยๆคลี่จดหมายออกมาอย่างช้าๆเพื่อที่ต้องการจะรับสารจากภายใน

                    ลอว์ ฉันต้องขอโทษเธอด้วยที่แทบจะไม่ได้เขียนจดหมายมาหาเธอเลย  เป็นเพราะฉันนั้นงานยุ่งเอามากๆ  ที่กระทรวงสับสนวุ่นวายไปหมด  ว่าแต่การประลองเวทย์ไตรภาคีไปถึงไหนแล้วล่ะ  ฉันน่ะอยากกลับไปที่ฮอกวอตส์อีก อยากจะกลับไปเล่นควิดดิชที่สนามนั่นอีก  อยากจะกลับไปหาอาจารย์ที่แสนดีทุกคน  อยากที่จะกลับไปหาเพื่อนๆที่เข้าใจกันเสมอๆ  แล้วก็อยากกลับไปเจอเธอด้วย  ฉันหวังว่าเธอคงสบายดีและไม่ร้องไห้อีก  คนเข้มแข็งและกล้าหาญอย่างเธอไม่ร้องไห้ง่ายๆหรอกจริงไหม  ขนาดตอนนั้นเธอตกจากไม้กวาดแล้วแขนหักเธอยังไม่ร้องไห้เลย  ยัยจอมอึดเอ๊ย 

    ฉันน่ะคิดถึงเธอมากๆเลยรู้บ้างรึเปล่า  ว่าแต่เธอล่ะคิดถึงฉันบ้างไหม  และนี่มันอาจจะเป็นจดหมายฉบับสุดท้ายที่จะเขียนถึงเธอ  เพราะฉันแทบไม่มีเวลาที่จะได้พักเลยด้วยซ้ำ  เราสองคนนั้นอยู่ห่างไกลกันมากฉันรู้สึกว่ามันยากที่เราจะได้พบกันสักครั้ง  ต่อจากนี้ฉันอาจจะไม่ได้ติดต่อกับเธอเลย  แต่ที่ฉันพูดอย่างนี้ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้รักเธอแล้ว  ฉันยังรักเธออยู่  ฉันอยากจะให้เธอเข้าใจว่าพวกเราต่างก็มีชีวิตที่แตกต่างกัน  ซักวันนึงเราอาจจะต้องแยกทางกันไป  หวังว่าเธอคงเข้าใจฉันนะ

    ด้วยรักและคิดถึง

    โอลิเวอร์ วู้ด

    ข้อความในจดหมายนั้นทำให้ซิลเวียถึงกับน้ำตาตกลงมาอีกครั้ง  ไม่ใช่เพราะว่าเธอจะไม่ได้ติดต่อกับวู้ดอีกแล้ว  แต่เป็นเพราะว่าเธอรู้สึกที่ความผิดในตัวของตัวเอง 

    เธอร้องไห้อีกทำไม  มันจะทำให้เธอตาบวมนะรู้บ้างไหม

    ฉันเสียใจแองเจลิน่า  ฉันเสียใจ  ฉันผิดเองที่เหมือนกับว่าถ่วงเขาลงมาทั้งๆที่เขาต้องทำงานของตัวเองอย่างแข็งขันจนแทบไม่มีเวลาได้พักเลย  ทำไมฉันไม่รู้ตัวตั้งแต่วันที่เขาจบไปแล้วนะ

    เธอไม่ได้ผิดหรอกซิลเวีย  วู้ดก็ไม่ได้ผิดเหมือนกัน  ไม่มีใครผิดหรอก  อาจเป็นเพราะคนเรานั้นยังอ่อนต่อโลกนัก  บนโลกนี้มันไม่มีอะไรที่แน่นอนเสมอไปหรอก  ทางที่ดีที่สุดคือเราต้องปรับตัวแล้วเข้ากับมันให้ได้

    น้ำตาของซิลเวียนั้นยังรินไหลไม่หยุด  เธอตัดสินใจหยิบกระดาษ ขนนก และขวดหมึก ขึ้นมา  เพื่อที่จะตอบจดหมายของวู้ด

    วู้ด เธอไม่ต้องขอโทษฉันหรอกเรื่องจดหมาย  ฉันเข้าใจว่าเธอนั้นงานยุ่งมาก  ส่วนเรื่องการประลองเวทย์ไตรภาคีนั้นห้ามคนที่ต่ำกว่าอายุ 17 เข้าร่วมการประลอง  แต่กลับมีชื่อของพอตเตอร์ปรากฎอยู่ในถ้วยอัคนีเสียอย่างนั้น  แต่ฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่าพอตเตอร์จะเอาชื่อของตัวเองใส่ลงไปในนั้น  ฉันเชื่อว่าเขาเป็นคนซื่อสัตย์พอ  เขาเก่งมากเลยล่ะ เขาสามารถผ่านภารกิจที่ 1 มาได้  เธอน่าจะได้เห็นนะ  ที่เธอบอกว่าอยากกลับมาที่ฮอกวอตส์น่ะ ฉันก็อยากให้เธอกลับมา แต่มันคงจะเป็นไปไม่ได้  และตอนนี้ฉันก็สบายดี  ปกติฉันก็ไม่ได้ร้องไห้หรอกนะ  แต่ว่าตอนนี้ฉันกำลังร้องไห้อยู่

    ฉันเข้าใจว่าที่กระทรวงงานยุ่ง  เธอคงแทบจะไม่มีเวลาพักเลยล่ะสิ  เธอก็คงลำบากมากกว่าจะหาเวลาว่างมาเขียนจดหมายถึงฉันอย่างนี้  ฉันต้องขอโทษด้วยที่ถ่วงเธอลงมาจากหน้าที่การงาน  ฉันน่าจะรู้ตัวตั้งแต่วันนั้นที่เธอเรียนจบไปแล้ว  มันจริงอย่างที่เธอพูด เนื่องจากความห่างไกลที่ขวางกั้นเรา  การที่จะพบกันเป็นเรื่องยาก  ในตอนนี้ฉันนั้นก็ยังรักเธออยู่ และยืนยันว่าทุกอย่างเป็นจริงอย่างที่เธอพูด  เราทั้งสองคนนั้นต่างมีชีวิตที่แตกต่างกันไป และจำเป็นว่าสักวันหนึ่งเราจะต้องแยกจากกันไป  ฉันว่าอย่าถ่วงเวลาไว้ต่อไปอีกเลย  เราต่างคนต่างไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กันเถอะ  อย่ายื้อกันไว้อีกเลย  ลาก่อน โอลิเวอร์ วู้ด ผู้ชายที่เข้าใจฉันได้มากที่สุด

    ด้วยรักและคิดถึง

    ซิลเวีย ลอว์

    เธอหยุดปลายขนนกไว้เพียงเท่านั้นแล้วพับให้พอเหมาะกับขนาดของซองจดหมาย จ่าหน้าซอง  แล้วผูกจดหมายฉบับนั้นติดไว้กับขาของนกฮูกไปรษณีย์

                    เอานี่ไปส่งให้วู้ดทีนะ  แล้วถ้าเขาจะตอบกลับมาล่ะก็...ทำยังไงก็ได้ให้เขาห้ามตอบกลับมาเด็ดขาด  เอาเป็นว่า...ถ้าเขาจะตอบกลับมาก็กัดนิ้วเขาได้เลย  แต่ครั้งเดียวก็พอ  ไปเถอะ

                    นกฮูกไปรษณีย์โผบินไปกลางท้องฟ้ายามราตรีอันไกลแสนไกล  จนในที่สุดนั้นมันก็หายลับฟ้าไปในที่สุด  ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขาก็คงจะต้องจบลงเพียงเท่านี้  มันคงไม่มีอะไรที่จะต้องพูดกันอีกต่อไปแล้ว

     

                    ซิลเวีย เธอเขียนอะไรลงไป

                    แองเจลิน่าเอ่ยถามขึ้น  เพื่อที่ต้องการจะรับรู้สารทุกข์ของเพื่อนสาว

                    มันจบแล้วล่ะแองเจลิน่า  มันจบแล้ว  วันนี้มันต้องเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะต้องปวดร้าวเสียใจ  ถึงแม้ว่าภายหลังจากนี้ฉันยังต้องมานั่งเสียใจอยู่  แต่ฉันเชื่อว่าเพียงไม่นานฉันก็จะต้องลืมความเสียใจนั้นไปได้แล้วกลับมาเป็นซิลเวียคนเดิมที่บ้าระห่ำให้ได้

                    ถึงแม้ว่าดวงตาของเธอนั้นยังมีน้ำตาไหลรินออกมาเรื่อยๆ แต่เธอนั้นก็ยังฝืนยิ้มออกมาเล็กๆเพื่อให้เพื่อนสาวรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง

                    ฉันรู้สึกดีใจนะที่เธอเลือกทางของตัวเองได้ดี  ตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว  นอนกันดีกว่า

                    ฉันก็ดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับเธอแองเจลิน่า

     

     

                    เหตุการณ์จากอดีตถูกหวนกลับมาสู่เหตุการณ์ณ์ในปัจจุบันอีกครั้ง  พบว่าในห้องปฏิบัติการของร้านเกมกลวิเศษณ์วีสลีย์มีบุคคลที่มีตัวตนนั่งอยู่เพียง 3 คนเท่านั้น  ได้แก่ เฟร็ด  จอร์จ  และ  ซิลเวีย 

                    ในตอนนั้นเธอคงจะเสียใจมากเลยสินะ

                    เฟร็ดพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆแฝงด้วยความรู้สึกสงสารเล็กๆอย่างคนเข้าใจกัน

                    เธอเป็นคนที่ตัดสินใจได้ดีมากเลยรู้รึเปล่า  ถ้าฉันเป็นเธอก็คงอาจจะฉุกคิดไม่ได้อย่างนั้น

                    จอร์จพูดในทางชื่นชมเพื่อให้เธอดูสบายใจขึ้นบ้าง

                    อืม  ขอบใจที่พวกเธอสองคนยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อฉันนะ

                    เธอพูดพร้อมกับใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×