คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter I ร้านเกมกลวิเศษณ์วีสลีย์
Chapter I
ร้านเกมกลวิเศษณ์วีสลีย์
ณ ตรอกไดแอกอน ที่ถนนเต็มไปด้วยผู้คนที่คับคั่งและจอแจ ร้ายหมายเลขเก้าสิบสี่ ที่ได้บัญญัติชื่อร้านไว้ว่า “ร้านเกมกลวิเศษณ์วีสลีย์“
เมื่อเทียบกับหน้าร้านอื่นๆในละแวกเดียวกันที่มีป้ายประกาศที่แสนจะอึมทึมปิดอยู่ หน้าต่างของร้านนี้ดูสะดุดตากว่าร้านอื่นมาก คนที่เดินผ่านไปมาจำต้องเหลียวหน้าเหลียวหลังกลับมามอง ไม่เพียงแต่เท่านั้นบางคนถึงขั้นหยุดตรึกตรองมองดูเจ้าป้ายนั่นเลยทีเดียว หน้าต่างด้านหนึ่งเต็มไปด้วยสินค้านานาชนิด ทั้ง ส่องแสงวูบวาบ กระเด้งไปมา มีเสียงร้อง ผลุบๆโผล่ๆ ฯลฯ หน้าต่างอีกด้านหนึ่งติดป้ายขนาดยักษ์ใหญ่ที่ประดับด้วยตัวหนังสือสีเหลืองที่มีแสงวูบวาบว่า
“ จะห่วงทำไมเรื่อง
คุณก็รู้ว่าใคร
ควรเป็นห่วงเรื่อง
คุณก็อึไม่ไหล
มากกว่า
ความรู้สึกท้องผูกกำลังเกาะกินคนทั้งชาติ! “
ภายในร้านเกมส์กลวิเศษณ์วีสลีย์นั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่แน่นขนัดแออัดอย่างกับถูกยัดเข้าไปในร้านอย่างไรอย่างนั้นเลย ทำให้ผู้คนที่พึ่งเข้ามาในร้านไม่สามารถที่จะเข้าไปถึงชั้นวางของได้เลย แต่ถ้าหากสังเกตดูโดยรอบจะเห็นกล่องตั้งสูงเกือบถึงเพดาน และนั่นมันก็คือกล่องอาหารว่างเลี่ยงงาน สังเกตดูแล้วรู้สึกว่าสินค้าที่ขายดีที่สุดในร้านก็คงจะเป็นตังเมเลือดกำเดา
ชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนภายใต้เครื่องแบบเสื้อคลุมสีม่วงแดงเข้มซึ่งตัดกับผมสีน้ำตาลแดงของเขาใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่อิ่มเอิบแล้วพูดกับเด็กชายตัวเล็กที่กำลังจะหยิบสินค้าบางอย่างใส่กระเป๋าว่า
“ลองเอาอะไรใส่กระเป๋าสิเจ้าหนู แล้วแกจะต้องจ่ายมากกว่าทองเกลเลียน”
ทำให้เด็กชายตัวเล็กคนนั้นรีบวางสินค้าไว้ที่เดิมแล้วรีบชักมือกลับในทันที
ในร้านที่เต็มไปด้วยผู้คนอย่างแน่นขนัดกลับสังเกตอย่างเห็นได้ชัดว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งผมยาวประบ่าหน้าตาดูดีเดินเข้ามาในร้าน เธอหยุดดูที่กล้องโทรทรรศน์แล้วลองหยิบมันขึ้นมาดูใกล้ๆ ด้วยความที่เธอดูสะดุดตาอย่างไม่รู้สาเหตุชายหนุ่มหน้าตาดีภายใต้เครื่องแบบคนหนึ่งก็กำลังเดินเข้ามาหาเธอ
เธอลองจับๆดูส่วนต่างๆของกล้องทรทรรศน์นั่น และมันก็ส่งผลกระทบทำให้
พรึ่บ!
“โอ๊ย!”
เธอร้องเสียงแผ่วเบา ตาข้างหนึ่งของเธอปรากฏเป็นสีม่วงอย่างชัดเจนและนั่นก็เป็นอาการที่บ่งบอกว่าบริเวณรอบดวงตาของเธอนั้นฟกช้ำ
“คุณเป็นอะไรมากรึเปล่า”
ชายหนุ่มภายใต้เครื่องแบบรีบปรี่เข้ามาหาเธอในทันที
“ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ แต่ว่า...”
“นั่นคุณไม่เป็นไรได้ยังไง ตาคุณช้ำนะนั่นน่ะ”
“จริงเหรอคะ?”
เขามองหน้าของเธอด้วยความรู้สึกที่ว่า ‘เหมือนเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อน’ แต่ถึงจะนึกยังไงเขาก็กลับนึกไม่ออกเสียที
“คุณมองหน้าฉันทำไมเหรอคะ หน้าฉันมีอะไรมากกว่ารอยฟกช้ำอีกหรือคะ”
เมื่อโดนเธอท้วงติงเขาก็รีบผงะในทันทีทันใด
“เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกครับ งั้นคุณเอานี่ไปทาก็แล้วกัน”
เขาดึงตลับหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เธอ เธอบิดเกลียวเปิดผาตลับนั่นออก พบว่าภายในมีสารลักษณะคล้ายแป้งเปียกสีเหลือง
“คุณทามันเบาๆบริเวณรอยฟกช้ำ แล้วรอยฟกช้ำนั่นจะหายไปภายในหนึ่งชั่วโมง”
เธอเดินไปยังกระจกแล้วจัดการทาบริเวณรอยฟกช้ำเบาๆตามคำบอก โดยอยู่ภายใต้การดูแลของชายหนุ่มภายใต้เครื่องแบบ
“ขอบคุณค่ะ คุณคือเฟร็ดหรือจอร์จเหรอคะ?”
“นี่คุณรู้จักพวกผมสองคนด้วยเหรอ รู้สึกภูมิใจจัง ผมจอร์จครับ”
“ค่ะ พอดีว่าฉันจะมาถามคุณว่าแถวนี้มีคลินิกที่รับสมัครบุคลากรหรือเปล่าคะ?”
“เอ่อ...ผมก็ไม่ค่อยจะทราบเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ - - เฮ้! เฟร็ด ช่วยมานี่หน่อยสิ”
จอร์จร้องเรียกพร้อมกับกวักมือเรียกชายหนุ่มภายใต้เครื่องแบบอีกคนที่หน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะออกมาจากแม่พิมพ์ตัวเดียวกันอย่างไรอย่างนั้น
“มีอะไรกันเหรอ”
จอร์จร่างที่สองหรือที่จริงๆแล้วคือเฟร็ดเดินเข้ามาหาพร้อมกับเอ่ยคำถามขึ้น
“คือเธอคนนี้มาถามว่ามีคลินิกที่รับสมัครบุคลากรบ้างรึเปล่า”
“เอ่อ...ผมก็ไม่ค่อยรู้อะไรหรอกครับ แต่ว่าในขณะที่คุณกำลังหาคลินิกคุณจะทำงานที่ร้านเกมกลวิเศษณ์วีสลีย์ของพวกผมเพื่อหารายได้ไปก่อนก็ได้นะครับ”
“ขอบคุณค่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”
แล้วเธอคนนั้นที่ดูสะดุดตาก็เดินออกไปจากร้านเกมกลวิเศษณ์วีสลีย์
“เธอเดินจากไปทั้งๆที่ยังไม่ได้ทราบชื่อของเธอเลย ฉันรู้สึกเหมือนเคยเจอเธอที่ไหนเลย นายว่างั้นไหมจอร์จ”
“ใช่ ฉันก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน”
“ว่าแต่นายทำไมถึงเริ่มสนทนากับเธอได้ล่ะ”
“ก็เป็นเพราะเธอโดนไอ้กล้องโทรทรรศน์ต่อยได้เล่นงานเข้าน่ะสิ สภาพเหมือนกับเกรนเจอร์ไม่มีผิดเพี้ยนเลย”
เวลาผ่านไปจนเกือบจะครบหนึ่งชั่วโมง ก็ปรากฏร่างของหญิงสาวที่ดูสะดุดตาคนเดิมย่างก้าวเข้ามาในร้านเกมกลวิเศษณ์วีสลีย์อีกครั้ง ทำให้ฝาแฝดเฟร็ดและจอร์จถึงกับอึ้งกิมกี่ว่านี่ไม่มีคลินิกไหนที่เปิดรับสมัครบุคลากรจริงๆหรือนี่
“เอ่อ...คุณวีสลีย์ทั้งสองคะ คือว่าฉันจะมาสมัครงานที่ร้านนี้ค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
เธอเดินมาเฟร็ดและจอร์จแล้วโค้งอย่างสวยงามไร้ที่ติ
“ยินดีตอนรับสู่การเป็นบุคคากรณ์ของร้านเกมกมวิเศษณ์วีสลีย์ นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป”
ฝาแฝดพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มและเบิกบานพร้อมกับผายมือไปทางม่าน พวกเขาทั้งสองเดินนำไปทางม่านและผลักมันออกไปในขณะที่เธอยังคงยืนแน่นิ่งเหมือนคนซื่อบื้อ เมื่อฝาแฝดเห็นว่าเธอยังคงยืนแข็งทื่อเป็นหินอยู่ที่เดิมจึง...
“ตามมาสิ”
จอร์จพูดพร้อมกับกวักมือเรียกให้เธอเติมตามมา เธอจึงเดินตามเข้าไปในม่านที่ถูกผลักออก ปรากฏเห็นห้องที่มืดกว่าแต่ก็ไม่ถึงกับมืดจนสลัว และมีความแออัดน้อยกว่า สินค้ามากมายถูกเรียงรายเอาไว้บนชั้นบ้างก็วางระเกะระกะอยู่บนหิ้งต่ำๆ
“โอ๊ย!”
เธอร้องเสียงหลงเพราะหัวเธอนั้นดันไปปะทะเข้ากับเจ้าหิ้งต่ำๆนั่น
“เธอต้องระวังให้มากหน่อยนะ เพราะพวกเราก็ต้องระวังไม่ต่างกันเผลอๆจะมากกว่าด้วยซ้ำ”
เฟร็ดบอกกับเธอ ฝาแฝดต้องระวังมากกว่าเธอแน่นอนเพราะดูจากความสูงของฝาแฝดแล้วมันล้ำหน้าคนอื่นไปเสียเหลือเกิน
“เอ่อ...ลืมถามไปเลยว่าคุณชื่ออะไร”
จอร์จที่เก็บความถามนี้ไว้ในใจมาเสียนานแสนนาน ในที่สุกคำถามนั้นมันก็หลุดออกใสจากปากของเขาที่สุด
“ซิลเวีย ลอว์ ค่ะ”
“งั้นพวกผมสองคนจะเรียกคุณว่า ลอว์ ก็แล้วกัน แต่ถ้าสนิทกันแล้วก็ค่อยว่ากันอีกที ตกลงนะครับ”
“ตกลงค่ะคุณวีสลีย์”
เฟร็ดและจอร์จพาเธอเดินมายังห้องปฏิบัติงานที่เต็มไปด้วยเครื่องมือมากมายหลากหลายก่ายกอง วัสดุนานาภัณฑ์ สินค้าอีกมากมายหลายชิ้นทั้งที่ออกจำหน่ายแล้วและยังไม่ได้นำสู่สายตาของผู้คนให้ได้ยล
“นี่มันคืออะไรหรือ?”
ซิลเวียชี้ไปที่หลอดทดลองขนาดเล็กที่ปิดฝาที่มีสารสีชมพูบรรจุไว้ตั้งอยู่บนตระแกรงเหมือนการทดลองวิทยาศาสตร์
“นั่นมันก็คือ ยาเสน่ห์เรียกรักจากทุกสารทิศ”
เฟร็ดเป็นคนตอบคำถามในข้อนี้
“มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่น่าทึ่งเสียจริงๆ”
ซิลเวียพูดพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม
“ฤทธิ์ของยาขึ้นอยู่กับความน่ารักของหญิงสาวผู้ใช้ และน้ำหนักของชายหนุ่มผู้เป็นเป้าหมาย คุณอยากได้หรือเปล่าล่ะคุณลอว์”
จอร์จเสริมเกี่ยวกับเรื่องสรรพคุณของยาเสน่ห์ชนิดนี้และเอ่ยถามเล็กๆน้อยๆ
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันอยากที่จะประดิษฐ์สินค้ามากกว่า”
“ว้าว! พระเจ้าช่วย กล้วยทอด ยอดไปเลย แล้วจะเริ่มจากอะไรก่อนดีล่ะ”
ฝาแฝดเฟร็ดและจอร์จร้องขึ้นด้วยความอิ่มอกอิ่มใจที่จะมีคนมาช่วยตนผลิตสินค้าแล้ว
“เริ่มจากอะไรก่อนงั้นเหรอ”
เธอนิ่งตรึกตรองนึกคิดไปพักหนึ่ง ฝาแฝดคู่หูคู่ฮารอคอยฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ
“ฉันนึกออกแล้ว ก่อนอื่นเพื่อให้แน่ใจในความสามารถของฉันเฉพาะด้าน(แบบเบื้องต้น) ฉันจะทำยาที่ทาแล้วบรรเทาอาการฟกช้ำได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าพวกคุณจะมียาตัวนั้นอยู่แล้ว แต่ฉันก็อยากจะพัฒนาคุณภาพของยาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พวกคุณว่ายังไงล่ะ”
“ยอดเยี่ยมไปเลย ดีที่เรายังมีหลอดทดลองที่ล้างแล้วเหลืออยู่ ใช่รึเปล่าจอร์จ”
“ใช่แล้วเฟร็ด มันยังเหลืออยู่”
“เมื่ออุปกรณ์พร้อมสรรพอย่างนั้น พร้อมรึยังล่ะหนุ่มๆ”
“งั้นก็ลุยกันเลย!”
สองหนุ่มฝาแฝดกับหนึ่งสาวร่วมลงมือปฏิบัติงานกันด้วยความขยันขันแข็งแถมยังพ่วงด้วยเสียงหัวเราะซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความสนุกสนาน
“คุณวีสลีย์ ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“ผมรับทราบแล้วแวริตี้”
เฟร็ดตอบหญิงสาวภายใต้เครื่องแบบที่คาดว่าคือพนักงานในร้านแห่งนี้
“ในที่สุดฉันก็ทำได้สำเร็จแล้ว!!”
ซิลเวียรู้สึกยินดีกับความสำเร็จของตน ใบหน้าของเธอนั้นบ่งบอกถึงความดีใจเป็นอย่างยิ่งราวกับว่าได้ขึ้นสวรรค์
“พวกเราทำสำเร็จแล้ว พวกเราทำสำเร็จแล้ว”
เฟร็ดและจอร์จร้องเป็นทำนองเพลงอย่างเสียงหลง
“มาทดลองยากันดีกว่าหนุ่มๆ”
“ได้เลย”
“แล้วใครจะเป็นคนทดลองกันล่ะ”
“ฉันเอง!”
เฟร็ดเสนอว่าตนเองนี่แหละเหมาะสมและคู่ควรที่จะเป็นผู้ทดลองตัวยาชนิดนี้มากที่สุด
“อัดหน้าผมได้เลยลอว์”
“คุณแน่ใจแล้วเหรอว่าจะให้ฉันอัดหน้าคุณได้เลย”
เธอรู้สึกเกรงอกเกรงใจพวกเขาทั้งสอง และคงต้องเกรงใจเฟร็ดมากที่สุดเพราะเธอจะต้องอัดหน้าเขานี่นา ส่วนจอร์จก็เฝ้ารอดูการทดลองอย่างใจจดใจจ่อ
“อัดผมเลยสิ”
“เอาล่ะนะ”
พรึ่บ!!!
ซิลเวียอัดเข้าไปที่หน้าของเฟร็ดเต็มๆ นั่นไม่ใช่ได้เพียงรอยฟกช้ำเท่านั้น แต่นั่นเล่นเอาเฟร็ดถึงกับสลบไปเลยด้วยซ้ำ ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจที่คาดไม่ถึง ส่วนจอร์จนั้นแอบหัวเราะเบาๆ
“โธ่ ฉันขอโทษคุณวีสลีย์ ฉันไม่คิดว่ามันจะแรงขนาดนั้น ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณสลบ”
เธอลดตัวลงไปใกล้เฟร็ดที่นอนกองอยู่กับพื้น เธอใช้มือข้างหนึ่งเงยหัวเขาขึ้นเล็กน้อย
“เฟร็ดเป็นอะไรมากรึเปล่า ฉันเชื่อว่านายยังไม่ตายไอ้เพื่อนยาก”
________________________________________________________________________________________________________
ตอนแรกเป็นไงกันบ้างหรือคะ? งงกันรึเปล่าเอ่ย ช่วยกันวิจารณ์กันด้วยนะคะ ^ ^
ความคิดเห็น