ตอนที่ 2 : น้องยุกลับตระกูล
ตอนนี้ผมจิงหลิงเหม่ยหรือพายุคนดี ได้เดินทางมาถึงตระกูลจิงแล้วครับ การเดินทางด้วยรถม้ากินเวลานานถึงครึ่งเดือน ถึงผมจะเป็นทารกอยู่แต่ก็รู้สึกเมื่อยอยู่เหมือนกัน ตลอดการเดินทางผมได้รู้อะไรหลายๆเรื่องเกี่ยวกับยุทธภพ แต่ที่น่าตกใจคือตระกูลจิงของผม เป็น มรรค มาร!!!! ตอนได้ยินผมนี่ช็อคเลยครับ แต่ท่านพ่อของผมก็เป็นแม่ทัพของพรรคมาร ตอนนี้ทั้งสองตระกูลได้แตกหักกันไปข้างแหละครับ
ตอนนี้รถม้าได้เคลื่อนตัวเข้าประตูทางเข้าตระกูลจิงหรือพรรคมารจิง มีคนเฝ้าประตูน่าจะเป็นองค์รักษ์ไม่ก็ศิษย์ในพรรค ผมได้ยินเสียงเอะอะจากข้างนอกเลยดิ้นๆบนอ้อมกอดท่านแม่ ( ก็ผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น )
'' เจ้าเป็นใครกัน ที่นี้ไม่ใช่ผู้ใดจะเข้าๆออกๆได้ '' คนเฝ้าประตูจับกระบี่จ่อคอเฮียคนหล่อผู้คุมรถ ตอนนั่งรถมาผมได้รู้ว่าเฮียเขาชื่อจิ้นซิ่น
'' ข้าเป็นองค์รักษ์ของท่านหญิงจิงยี่เจิน ''
'' เจ้าพูดถึงผู้ใดกันที่พรรคมารไม่มีแม่นางหรือท่านหญิงชื่อจิงยี่เจิน!!!! '' ผมหันไปมองหน้าท่านแม่ตอนนี้ข้างขมับมีเล่นเลือดปูดขึ้น ท่านแม่คงจะโกรธแล้วแน่ๆ
'' เจ้าคงเป็นศิษย์เข้าใหม่ ยังไม่รู้จักท่านจิงยี่เจินลูกสาวคนโตของประมุขพรรคมาร!!! '' ตอนนี้ผมได้รู้แล้วว่าชีวิตนี้ไม่น่าจะมีวันปกติหรือธรรมดาแล้วล่ะ กระซิกๆ
'' สามหาว เจ้ากล้าแอบอ้างท่านประมุขเชียวหรือ!!! '' อยู่ก็มีคนมากมายห้อมล้อมรถม้าของผมและล้อมพี่จิ้นซิ่น
ปั้ง โคร่ม
อยู่ๆคนพวกนั้นก็โดนแรงระเบิดจากที่ไหนไม่รู้กระเด็นออกห่างจากรถม้า ท่านแม่ปลายตามองหยงยิง ผมมองสายตาของท่านแม่แล้วรู้สึกขนลุกชอบกล หยงยิงเปิดประตูลงไปก่อนท่านแม่
'' พวกเจ้าทำให้นายหญิงของข้าโกรธ '' หยงยิงพูดเสียงดังให้ผู้คนแถวนี้ได้ยินกัน
''
เกิดอันใดขึ้น ทำไมเสียงดังเช่นนี้!!!!
'' อยู่ๆก็มีเสียงที่ทรงอำนาจกล่าวมาแต่ไกล หยงยิงเปิดประตูให้ท่านแม่และผม ท่านแม่ลงมาจากรถม้าด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมเหมือนเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมมองเห็นผู้ชายวัยกลางคนดูสูงส่งและมีอำนาจ ขี่กระบี่มาทางนี้
''คารวะ ท่านพ่อ'' หะ!!! หะ!!! ท่านพ่อของท่านแม่ก็คุณตาของผม แต่ทำไมคุณตาของผมถึงยังหนุ่มยังแน่นแบบนั้นหล่ะครับ
''เอ้า จิงยี่เจินทำไมจะกลับมาที่พรรคแล้วไม่ส่งม้าเร็วมาบอกข้ากัน แล้วเจ้าพาลูกเต้าเหล่าใครมา ''
'' ท่านพ่อนี่ จิงหลิงเหม่ย ลูกของข้ากับท่านแม่ทัพมี่ แต่ท่านแม่ทัพไม่เชื่อว่าข้าท้องกับท่านเขาจึงขับไล่ข้าออกจากตระกูลหาว่าข้าคบชู้สู่ชายกับกบฏ '' ท่านตามองมาที่ข้าด้วยสายตานิ่ง
''นี่หรือหลานของข้า ส่งหลานของข้ามา และข้าขอสั่งพวกเจ้าศิษย์โง่เง่าเบาปัญญา พวกเจ้าทุกคนจะโดนเคี่ยนหนึ่งร้อยไม้ และไปนั่งคุกเข่าหน้าตำหนักใหญ่ตั้งแต่*
ยามอิ่วถึงยามซวี
* ต้องคัดตำราเรียนมาให้ข้า1000จบส่งมาให้ข้าภายใน1อาทิตย์!!! "" ศิษย์ของท่านตาทั้งผู้เห็นเหตุการณ์และที่เข้ามาล้อมรถม้าหน้าซีดกันตามๆกัน
''
พวกเจ้าได้ฟังที่ข้าพูดไหม!!!!
'' ท่านตาพูดอีกครั้งเพราะลูกศิษย์ยังไม่ขานรับ
''
เข้าใจครับ ท่านอาจารย์!!!
'' ลูกศิษย์ตอบเสียงดังก้องไปทั่วบริเวณ
''ท่านพ่อข้าเดินทางมาเหนื่อยนัก เจ้าลูกบ๋วยก็คงเหนื่อยเหมือนกัน ข้าขอตัวไปพักในเรือน
มู่ตาน"
''เจ้าไปพักเถอะ เดี๋ยวข้าจะพาจิงหลิงเหม่ยไปดูรอบๆพรรค '' ถึงผมไม่เห็นท่านตายิ้มแต่สัมผัสได้ว่าท่านตาของผมท่าทางจะเห่อหลานมากๆครับ
''งั้นคารวะท่านพ่อ ข้าขอตัวก่อน'' ท่านแม่เดินกลับเข้าไปในรถม้า หยงยิงเดินตามหลังเข้าไป จิ้นซิ่นก็บังคับรถม้าเข้าไปในพรรค
''ว่าไงจิงหลิงเหม่ย แม่ของเจ้าเรียกเจ้าว่าลูกบ๋วยน้อยหรือ ช่างน่ารักอะไรเช่นนี้ หน้าเจ้านี่เหมือนยี่เจินสมัยยังเป็นทารกยิ่งนัก โตขึ้นพรรคมารคงต้องวุ่นวายเป็นแน่ถ้าคนนอกรู้ว่าข้ามีหลานที่น่ารักเช่นนี้5555'' ท่านตาพูดเองเออเองคนเดี๋ยวและหัวเราะออกมา ผมรู้สึกปวดหัวเลยครับที่มีแต่คนบอกว่าผมสวยผมอยากหล่อครับไม่ใช่สวย!!!!!
''เจ้าไม่ต้องไปสนใจพ่อของเจ้าหรอก แม่ทัพมี่ต้องชดใช้ให้ถึงที่สุด ที่ทิ้งเจ้ากับแม่เจ้าและต่อไปนี้เจ้าก็คือประมุขน้อยพรรคมาร หรือเจ้าไม่อยากเป็นประมุขน้อยถ้าโตขึ้นอยากเป็นไรก็บอกตาผู้นี้นะเจ้าลูกบ๋วยน้อย''ท่านตาของผมก็ยังพูดไปยิ้มไปแก้มแทบทิบ ท่านคงไม่สังเกตุรอบข้างเลยใช่หรือไม่ ศิษย์ในสำนักขนลุกไปตามๆกัน
''ท่านประมุขจิง มาเดินทำอะไรแถวนี้ แล้วในอ้อมแขนของท่านคือใครกัน '' มีชายวัยกลางคนหล่อมากๆครับน่าจับจิ้นกับท่านปู่เดินตรงมาทางนี้
'' สวัสดีผู้อาวุโสหนิง นี้หลานข้าจิงหลิงเหม่ยหรือเจ้าลูกบ๋วยน้อย น่ารักใช่ไหมร่าา'' ท่านตาอุ้มผมชูขึ้นสูงให้ทั้งท่านผู้อาวุโสและลูกศิษย์เห็นผม
'' น่ารักยิ่งนัก โตขึ้นคงเป็นสาวงามแน่แท้ แล้วเป็นลูกของบุตรคนไหนของเจ้ากัน ''
'' เป็นลูกของบุตรสาวคนโตของข้า ผู้อาวุโสหนิงหลานข้าเป็นชายหาเป็นหญิงไม่ ''ท่านผู้อาวุโสมองสำรวจข้าตั้งแต่หัวจรดเท้าและหัวเราะร่าออกมา
''5555555 ข้าขอโทษนะเจ้าลูกบ๋วยน้อยที่ข้าหาว่าเจ้าเป็นหญิง เจ้าเล่นเกิดมาน่ารักน่าชังแบบนี้ ข้าอุส่าคิดจะให้เจ้ามั่นหมายกับบุตรชายของข้า เจ้าช่างหน้าเหมือนยี่เจินตอนเด็กยิ่งนัก ''
'' แอ้ แอ้ แอ้ ''ผมส่งเสียงเผื่อจะโต้แย้งว่าผมไม่แต่งกับผู้ชายแน่!!!!
'' น่าเจ็บใจเยี่ยงนักที่กับข้าเป็นตาเจ้ากับไม่คุยกับข้า ทำไมถึงพูดกับผู้อาวุโสหนิงล่ะเจ้าลูกบ๋วยน้อย ''
''แอ้ แอ้ แอ้ แอ้ '' ก็ท่านไม่เปิดโอกาสให้ข้าเลยพูดเองเออเองอยู่คนเดียว
''ข้าว่าถึงเวลากินข้าวเที่ยงแล้วล่ะ ข้าขอตัวไปกินอาหารกับเจ้าลูกบ๋วยน้อยก่อน'' ท่านตาไม่รอให้ผู้อาวุโสหนิงพูดก็ชิ่งเดินออกมา พาผมเดินมาที่ไหนไม่รู้ใหญ่มาก
'' เจ้าบ๋วยน้อยที่นี่คือตำหนักใหญ่ตำหนักที่พักของข้าและ้ป๋นตำหนักของเจ้าในอนาคต วันนี้ข้าจะหานมที่ดีที่สุดมาให้เจ้า จะขุนให้เจ้าอ้วนตุ๋ยนุ้ย ''
ผ่านมา3ปี( เร็วเหมือนนิยาย )
''ท่านตา วันนี้มีงานอะไรหรือขอรับ ทำไมผู้คนถึงเยอะเยี่ยงนี้ แล้วทำไมข้าต้องแต่งตัวด้วยชุดหนักด้วย วันนี้มีอาหารอร่อยไหมขอรับ ''
''ช่างจ่อยิ่งนักเจ้าบ๋วยน้อย วันนี้มีงานโคมแดงที่จัดใหญ่ที่สุดในรอบ4 ปี วันนี้เจ้าจะเห็นโคมมากมายทั้งในพรรคและในเมืองผู้คนจะได้เข้ามาในพรรคมาได้แค่วันนี้วันเดียว อาหารของกินมีมากมาย ส่วนมากที่มามักจะเป็นพวกปีศาจและคนในสาขาพรรคมารของข้า วันนี้เจ้าและข้าต้องเดินงานมีการร่ายรำ แสดงความสามารถพิเศษ และต่อสู้ให้เจ้ารับชม เจ้าอยากลองแสดงความสามารถหรือไม่เจ้าลูกบ๋วยน้อย'' วันนี้งานใหญ่ครับตั้งแต่ผมเกิดมาตอนนี้ก็3ปีแล้วผมเป็นที่รักและเอ็นดูในพรรคมาร ตั้งแต่เกิดมาไม่เห็นพรรคมารจะเลวร้ายอย่างที่ใครเขาว่าทุกคนใจดีกับผม ช่วยฝึกวรยุทธเบื้องต้นเพราะยังอายุน้อยอยู่ ผมมีเพื่อนเยอะมากๆเลย
'' วันนี้เจ้าก็ระวังจะโดนหนุ่มที่ไหนมาเกี้ยวพาราศรีน่ะเจ้าลูกบ๋วยน้อย''
'' อะไรคือเกี้ยวพาราคี หรือท่านตา ??? '' ผมถามออกไปให้เหมือนเด็ก3ขวบที่ยังไม่รู้ถาม
''55555 เกี้ยวพาราศรีไม่ใช่เกี้ยวพาราคี เจ้าลูกบ๋วยน้อยถ้ามีคนมาให้ของมีค่ากับเจ้าอย่าไปรับ ไม่งั้นพวกนั้นจะจับเจ้ากิน'' ท่านตาพูดพร้อมสีหน้าเรียบนิ่ง เขากำลังขู่ผม!!!!
'' ขอรับท่านตา ข้าจะจำไว้แล้วท่านจะไม่บอกข้าหรือว่าอะไรคือเกี้ยวพาราคี ''
'' ข้าบอกเจ้าว่าเกี้ยวพาราศรีไม่ใช่ราคี โตขึ้นข้าจะบอกเจ้าเอง เจ้าแต่งตัวเสร็จแล้วก็ได้เวลาไปเปิดงานได้แล้วเจ้าบ๋วยน้อย'' ท่านตาจูงมือผมให้ขึ้นไปบนบัลลังในตำหนักใหญ่มีผู้คนอยู่ในตำหนักมากมายและอยู่ข้างนอกเยอะมากๆ
'' ข้าประมุขจิง ขอประกาศเปิดงานโคมแดงพร้อมกับหลานข้า จิงหลิงเหม่ยนะตอนนี้ ''
เฮ้!!!!!!!!!!!!!!!!!!
'ทุกคนในงานส่งเสียงดีใจออกมาพร้อมเพรียงกัน ท่านตาลุกจากบัลลังและจูงมือข้ามายังลานฝึก ผมเห็นผู้คนยืนอออยู่รอบลานฝึก
'นั้นใครนะ ช่างน่ารักยิ่งนัก'
' ข้าได้ยินว่าเป็นประมุขน้อย แต่ดูยังไงก็เป็นหญิง'
' ข้าจะให้ลูกข้าไปขอมั่นหมาย '
' บอกข้าที่ว่านั้นไม่ใช่นางฟ้า '
ผมได้ยินคนมากมายกระซิบกระซาบพูดถึงผมกันมากมาย
''
อะแฮ่ม!!!!!
'' พอท่านตาอะแฮ่มออกมาดังลั่น ทุกคนก็เงียบกันเหมือนนัดกันมา
'' ถึงเวลานี้แล้ว เวลาของการประลอง เพื่อรางวัลและรับคนเข้าพรรคมาร '' พี่จิ้นซิ่นพูดขึ้นเหมือนเป็นการประกาศเปิดการประลองแทนท่านตา
'' สนามแรกเป็นของรุ่นเยาว์ สนามสองเป็นของเหล่าหนุ่มสาวและผู้คนทั่วไป'' ผมขออธิบายสนามประลองของพรรคมารเป็นสนามที่ใหญ่มากๆ มีทั้งหมด2สนาม ที่จริงสนามแรกไว้ฝึกธรรมดา สนามที่สองเอาไว้สำหรับคนที่มีพลังยุทธแข็งแกร่งและสู้กันแบบจริงจัง
''
ท่านหากข้าชนะจะขอเด็กสาวที่อยู่ข้างท่านแต่งงานได้หรือไม่
''อยู่ๆก็มีคนตะโกนออกมาอย่างใจกล้า ผมหันไปมองหน้าท่านตาตอนนี้ท่านมีสีหน้าที่โกรธมาก
เปร้ง!!!!!!!!!!!!!!!
แก้วน้ำหรือแจกันของที่ทำด้วยแก้วแตกละเอียดด้วยฝีมือใครไม่ต้องสงสัยก็ต้องเป็นท่านตาของผมที่แผ่จิตสังหารออกมา
''
เจ้าช่างกล้าพูดออกมาข้างข้าไม่ใช่เด็กสาว แต่จะเป็นประมุขคนต่อไปของพรรคมารข้าเจ้าคิดจะขอหลานชายข้าแต่งงานก็ข้ามศพข้าไปก่อน''
ใครคือคนที่คิดจะขอน้องยุแต่งงานติดตามต่อไป
หยงยิง
คนสนิทของจิงยี่เจิน
ประมุขจิงประมุขพรรคมาร
พ่อของจิงยี่เจิน ท่านตาของน้องยุเป้นท่านตาที่หวงและห่วงหลานชายที่เป็นที่รักมากมีลูกทั้งหมด5คน
ผู้อาวุโสหนิง
ผู้อาวุโสในพรรคมาร( ใครจะจิ้นกับประมุขก็ได้นะ555 )
จิ้นซิ่น
องค์รักษ์ของจิงยี่เจิน เป็นองค์รักษ์มานานมากเป็นคนที่จงรักภักดี
ยามอิ่ว 17.00-18.59
ยามซิว19.00-20.59
มู่ตาน ดอกโบตั๋น
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

7 ความคิดเห็น
-
#4 Jirawan Kaewkram (จากตอนที่ 2)วันที่ 6 มิถุนายน 2562 / 08:01น้องชื่อบ๊วยรึเปล่าคะ พิมพ์บ๋วยแล้วงงๆ ไรต์ลองตรวจวรรณยุกค์ด้วยนะคะ ผิดหลายที่เลย งงมาก ถ้าไม่มั่นใจลองพิมพ์ในกูเกิ้ลแล้วกดฟังดูค่ะ#41
-
#4-1 ItRose(จากตอนที่ 2)6 มิถุนายน 2562 / 17:24ขอบคุณที่แนะนำจ้าจะรีบแก้ให้นะ#4-1
-
-
#2 cantus1011 (จากตอนที่ 2)วันที่ 5 มิถุนายน 2562 / 22:59เห็นชะตาดอกท้อของน้องมาแต่ไกล#20