คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 02 : Nice to meet you
เพราะโดนพี่ชายมารเตะก้นออกมาให้ทำงานบางอย่างแบบลับๆ ทำให้ปัจจุบันเด็กสาวต้องคอยสะกดรอยตามเด็กผู้ชายข้างหน้าที่ห่างไปอีกตึก สมุดในมือแอบมีการจดเล็คเชอร์พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต(?)ตรงหน้าไม่เยอะเท่าไร ส่วนใหญ่ที่เธอจดก็มีแค่ช่วงเวลาที่เด็กคนนั้นทำ กับเหตุการณ์ที่ไม่ได้บังเอิญไปเห็น อย่าง การซื้อขาย(ขนม)ในซอยมืดหลังร้าน....
ถึงจะบอกว่าเป็นการจับตาดูและสะกดรอยตาม แต่นี้มันเหมือนกับเกมซ่อนแอบสมัยประถมของเธอไม่ผิดเพี้ยน มีหลายครั้งที่เด็กหนุ่มเหมือนจะรู้สึกถึงเธอได้ ทำให้เธอต้องเลิ่กลั่กหาที่ซ่อนแถวนั้น บอกเลยว่ามันก็สนุกไปอีกแบบ ,เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายแอบเลี้ยวไปทางเส้นทางใหม่ เด็กสาวก็ไม่รอช้ารีบตามเขาไปทันที จนกระทั่งไปหยุดในซอยร้างที่ไร้ผู้คน--
นี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่มีคนสะกดรอยตาม สำหรับ สึรุงิ เคียวสุเกะ
เด็กชายยืนนิ่งในซอยร้างแห่งหนึ่ง
ใบหน้าคมเย็นชาค่อยๆหันหลังไปมองสิ่งแปลกปลอมที่ตามเขามาตั้งแต่ตอนที่เขาเดินออกจากร้านเกมมาสักพัก
,ไม่ว่าจะหันไปสักกี่ครั้ง ก็ไม่มีวี่แววของบุคลน่าสงสัยเลย
“ใครนะ” เขาถาม แต่ไร้เสียงคนตอบ
นัยน์ตาสีเหลืองอำพันจับจ้องไปยังมุมตึกอย่างจับผิด “ถ้าไม่ออกมาฉันจะเข้าไปหาเองนะ”
เสียงทุ้มไม่ลึกเอ่ยอีกครั้ง คิ้วขมวดเป็นปมอย่างไม่พอใจ
สองเท้าเริ่มเดินไปยังจุดต้องน่าสงสัย พลันจะตะโกนด่าอีกรอบก็ต้องปิดปากเงียบเมื่อคนน่าสงสัยยอมเผยตัวออกมาเอง
,เบื้องหน้าเด็กชายคือ ร่างของเด็กผู้หญิงที่เตี้ยเอามาก(?)
ผมสีทองถูกปล่อยสยายไปตามแผ่นหลัง ใบหน้าหวานประดับรอยยิ้มมุมปากเอาไว้ ---ใช่ เธอก็คือ
คาเซมารุ ยูเอะ นั้นเอง
“หวา--จับได้สะแล้วสิ หาเจอได้ไงคะเนี่ย!?”
“เธอตามฉันมาทำไม”
เขาเมินคำถามแรกของหล่อนไป
สายตาคมกริบและเย็นชามองตัวเด็กสาวอย่างหวาดระแวง
,ยูเอะทำหน้ายู่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีท่าทีจะเล่นกับเธอ
สองเท้าเล็กค่อยๆก้าวไปหาอีกฝ่ายอย่างใจเย็น
ไม่เกรงกลัวต่อสายตาที่เขามองเธอสักนิด
“อยากรู้หรอคะ”
“ไม่อยากแล้ว”
เหมือนโดนกวนประสาท สึรุงิเชิดหน้าขึ้นและพยายามไม่สนใจตัวเด็กสาว
แม้ในหัวจะกำลังนึกถึงสารพัดเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงต้องตามเขา
,ใบหน้าหวานลอบยิ้มขึ้นราวกับอ่านใจคนตรงหน้าได้ว่าอีกฝ่ายอยากรู้มากแค่ไหน---เด็กหนอเด็ก
“อืม...ไม่ซื่อตรงกับใจเลยนะคะ แต่ฉันก็ไม่ได้รังเกียจนิสัยแบบนั้นหรอกค่ะ”
เธอพูดพร้อมส่งยิ้มกวน
“ฉันโดนคนใหญ่คนโตสั่งให้มาจับตาดูคุณค่ะ สึรุงิ เคียวสุเกะคุง”
“ใคร?”
“เรื่องนั้นไม่สามารถบอกได้ค่ะ”
สึรุงินิ่วหน้า เมื่อไม่ได้คำตอบที่ตนต้องการ
ผิดกับอีกคนที่กำลังหัวเราะในลำคอ
,นัยน์ตาสีฟ้าครามจับจ้องทุกอิริยาบถของเด็กชายตรงหน้า
เขาทำทีเหมือนจะโทรหาใครบางคนแต่พอเหลือบเห็นว่าเธอยังอยู่ตรงนี้
ความคิดนั้นก็ปัดทิ้งไป ดีไม่ดีผู้หญิงคนนี้อาจไม่ใช่พวกเดียวกับเขา
“อ้ะ--แต่ว่าสึรุงิคุงทำเป็นไม่ต้องสนใจฉันก็ได้นะคะ
แค่ใช้ชีวิตไปแบบปกติก็พอค่ะ ฉันจะจดเฉพาะแค่การกระทำของสึรุงิคุงเท่านั้น
ไม่ไปยุ่งหรอกค่ะ”
“นี้เธอเป็นโรคจิตรึไง”
พอได้ยินคำแก้ตัว(?)จากเด็กสาว ไม่วายปากร้ายๆก็โพล่งคำแรงๆส่งมาให้
,ทำเอาเด็กสาวต้องแก้มป่อง
“ไม่ได้เป็นค่ะ”
ว่าจบเด็กสาวก็ยืนกอดอกพลางทำเสียงฮึดฮัด
สึรุงิมองท่าทีที่ไม่พอใจของตัวเด็กสาวแล้วก็นึกได้แต่ว่าตนนั้นกำลังคุยอยู่กับเด็กประถมอยู่รึเปล่า
,โทรศัพท์แบบพับสีแดงสั่นเหมือนข้อความเข้า มือหนาหยิบมันขึ้นเปิดดูข้อความจากเบื้องบนแล้วก็หน้าหม่น
“ฉันจะเตือนเธออะไรไว้สักอย่าง” เขาเว้นช่วงแล้วหันมามองหน้าเด็กสาวดีๆ
“เธออย่ามายุ่งกับฉันมากดีกว่า ถ้าเธอยังอยากมีชีวิตที่ดีอยู่”
จบประโยคมือบางก็ทาบเข้ากับอกตัวเอง ดวงตาเบิกกว้างกับคำพูดของเด็กชาย มีการส่งคำเตือนมาด้วยอ้ะแม่
น่ากลัวจริงจริ๊งงงงง ,เธอคิดในใจพลางนึกถึงลักษณะนิสัยที่ดูตรงข้ามกับที่คนๆหนึ่งพูดกับเธอไว้
“สึรุงิคุงดูเป็นคนใจดีนะคะ ทั้งทีหน้าตาไม่ใช่แท้ๆ”
“นี้เธออยากหาเรื่องฉันหรอ”
สึรุงิกำโทรศัพท์ในมือเน้น
ราวกับกำลังเตือนสติไม่ให้ทำอะไรกับเด็กผู้หญิงโรคจิตตรงหน้า ,ใบหน้าหวานยิ้มทะเล้นพร้อมคำพูดประมาณเชิงหยอกล้อ
มือบางทำการตบไปที่ไหล่เขาเบาๆ
“สึรุงิคุงโกรธแล้วหรอคะเนี่ย ยุยงง่ายจังเลยนะคะ”
“โรคจิต”
เด็กสาวนิ่วหน้าอีกรอบ “หนึ่งคำก็โรคจิต สองคำก็โรคจิต
ฉันเองก็มีชื่อนะคะ”
“ไม่ใช่ชื่อโรคจิตอยู่แล้วหรอ”
“สึรุงิคุงใจร้าย~ งอนแล้วนะคะ!”
ว่าจบ--เด็กสาวก็วิ่งเต้นหนีไป ปล่อยให้เขายืนนิ่งงงกับเหตุการณ์เมื่อครู่
,ทำไปขนาดนั้นอีกฝ่ายคงไม่มาตามเขาแล้ว
สึรุงิทิ้งสถานการณ์ไว้ตรงซอกตึกแห่งนั้นแล้วเดินออกมา
.
.
.
แต่เหมือนเขาจะคิดผิด
“เคียวคุงทำไมถึงไม่เล็งไปที่ท้องของมันละคะ!? เดี๋ยวก็แพ้หรอก!!”
เสียงหวานกระซิบข้างหูเขา พร้อมกับใบหน้าเล็กๆที่โผล่ออกมาจากมุมตู้เกม--ยัยผู้หญิงโรคจิต
ตามเขามาอีกแล้ว แถมยังเปลี่ยนชื่อเรียกอีกด้วย ,หลังจากที่จบเรื่องไปเมื่อวาน ยูเอะก็มิได้ทดทอยกำลังในการสะกดรอยตามเขา
แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้เล่นซ่อนแอบกับอีกฝ่ายอีกต่อไป เธอหน้าด้านเดินตามหลังเขาแบบติดๆไปทุกที(ยกเว้นห้องน้ำ)
เฉกเช่นในตอนนี้ ,เด็กสาวเดินก้มหน้ามองดู
ชายผมน้ำเงินเล่นเกมในเซ็นเตอร์มาเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว
“อย่ามาเรียกชื่อฉันอย่างสนิทสนมนะ”
“เอ๋ ก็เห็นว่าเคียวคุงไม่ค่อยมีเพื่อน
ฉันเลยจะเรียกให้มันดูเหมือนเพื่อนกันหน่อยเท่านั้นเองนะคะ”
“แต่มันก็ไม่ใช่เรื่อง--อ้ะ”
ยังเถียงไม่จบ เครื่องเกมก็ส่งเสียง Game over
ออกมาพร้อมกับตัวละครในเกมที่ตายอย่างน่าอนาถ
,สึรุงิถอนหายใจยาวๆให้กับความเบื่อหน่าย ร่างสูงเก็บมือเข้ากางเกงแล้วเดินออกจากตู้เกมนั้น
โดยที่มีร่างเล็กเดินตามไปติดๆ
“จะไปไหนละคะ เคียวคุง”
“เรื่องของฉัน แล้วก็ไม่ต้องตามมาด้วย!!”
บอกไปแบบนั้น คิดว่าเธอจะหยุดหรอ?
“บอกให้เลิกตามมาไง!”
“พูดอะไรของเคียวคุงคะ? ฉันไม่ได้ตามสักหน่อยแค่สะกดรอยตามเอง”
แล้วมันต่างกันตรงไหน? สึรุงิเบ้ปากอย่างไม่พอใจ
ใจจริงอยากจะหนีไปจากตรงนี้แทบจะขาดใจ
แต่ไม่ว่าเขาจะทำอะไรหรือแอบย่องหนีไปตอนไหนเด็กสาวก็สามารถหาเขาเจอได้ตลอด
ตลอดทางเต็มไปด้วยเสียงคำถามมากมายจากเด็กสาว เขาตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง โวยวายบ้าง นับเป็นประสบการณ์ที่เขายากจะลืม--จบเรื่องนี้เขาจะไปสั่งยาระงับประสาทมากิน ,ทุกอย่างเงียบลงเมื่อพวกเขาเดินมาหยุดที่สวนสาธารณะ เด็กชายนั่งลงที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ต้นใหญ่ มือทั้งสองลูบหน้าเรียกสติพลางคิดหาวิธีหนีจากยัยโรคจิตที่ตามเขาเป็นผีเจ้าคิดเจ้าแค้น
“เครียดเรื่องของฉันหรอคะ แหม~ดีใจจัง”
“เงียบไปเลย! แล้วเมื่อไรเธอจะหยุดตามฉันห้ะ”
“ไม่รู้สิคะ อาจจะสักเดือนหนึ่ง?”
บทสนทนาชวนกวนยังคงมีตลอด และนั้นเป็นสาเหตุให้พวกเขาต้องทะเลาะกันระหว่างทาง
,สรุปได้ง่ายๆเลยว่าวันนี้ทั้งวันเขาโดนเด็กผู้หญิงโรคจิตตามไม่ห่างหาย
ไม่ว่าเขาจะมองไปตรงไหนก็มักจะเจอเธอในสายตาตลอด
แม้จะรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นใครก็ต้องกลัวและอยากจะแจ้งตำรวจมาจับ แต่สำหรับเขามันรู้สึกที่ไม่ได้ทำให้เขากลัว
มันเหมือนกับ...รำคาญ?
เด็กสาวไม่พูดอะไรกับคนข้างๆ ปล่อยให้บรรยากาศเงียบสงบปกคลุมพวกเขาไป ทุกอย่างดูเหม่อลอยเมื่อสายลมเย็นพัดเอาความคิดฟุ้งซานออกจากหัว
,ในกรณีของยูเอะ การได้ตามติดใครสักคนไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอ
เพราะตอนเด็กๆเธอก็เคยตามติดแจพี่ๆไรมงมาแล้ว บางทีอีนี้ก็ตามยันเข้าห้องน้ำเลย(พี่ๆเขาชวนอ้ะเธอ)
แต่สุดท้ายก็โดนพี่คิโดเฉดหัวพวกพี่ชายที่พาเธอเข้าห้องน้ำไปนั่งปรับทัศนคติเรื่องกาลเทศะหลายชั่วโมง
(บอกเลยว่าตอนนั้นหวีดว้ายมากกับการได้เห็นซิกแพคพี่ๆ)
“ไหนๆเราก็จะเป็นผู้ติดตามชีวิตแล้วมาทำความรู้จักกันหน่อยไหมคะ”
“ไม่”
“คิดหน่อยก็ดีนะคะ เคียวคุง!?”
ยูเอะมุ่ยหน้าเป็นรอบที่เท่าไรไม่รู้แล้วของวันนี้
,เธอรู้ดีว่าไม่มีใครหรอกที่ชอบให้มาตามเป็นเจ้ากรรมนายเวรแบบเธอ
ยกเว้นจะหน้าด้านจริงๆ แต่ไหนๆก็จะเห็นหน้ากันบ่อยๆแล้ว
อย่างน้อยการได้ทำความรู้จักกัน มันก็ยังดีกว่าการเป็นคนแปลกหน้าแล้วโดนประณามว่าเป็น
ผู้หญิงโรคจิต
“ขืนอยู่กับเธอฉันได้ประสาทกินพอดี
แล้วอีกอย่างไม่ใช่ว่าเธอรู้จักฉันอยู่แล้วไม่ใช่หรอ”
“อืม...ก็จริงนะคะ แต่นั้นมันก็แค่ข้อมูล ไม่ใช่แบบจริงๆสักหน่อย”
เด็กสาวเว้นช่วงแล้วพ่ายมือไปทางเขา “เอ้า--แนะนำตัวสิคะ”
“เพื่อ?”
“พวกเราจะได้รู้จักกันแล้วเป็นเพื่อนกันไงคะ”
สิ้นคำตอบคนฟังก็คิ้วขมวด นั้นทำให้เด็กสาวต้องอธิบายขยายความเพิ่ม
“อย่างน้อยถ้าเป็นเพื่อนกัน เคียวคุงก็ไม่ต้องลำบากใจไงคะ”
สึรุงิทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจยาวๆ “สึรุงิ เคียวสุเกะ---”
“ค่ะ รู้อยู่แล้วค่ะ”
----อ้าวอีนี่
“อ้า~! อย่าโกรธกันสิคะ ฉันล้อเล่นเองค่ะ!!”
เด็กสาวรีบเอ่ยห้ามปรามบวกขอโทษขอโพยรวดเร็ว
เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าตาพร้อมบวกกับเธอเต็มที่ ,มือเล็กทำการปล่อยมือเพื่อนชายที่พยายามจับตัวเธอลดลงมาให้อยู่กับม้านั่ง
แล้วเพื่อความแน่ใจว่าอีกฝ่ายจะไม่ยกมือขึ้นมาทำร้ายเธอ เด็กสาวก็เขยิบถอยไปเล็กน้อย
ก่อนจะเอียงร่างกายเข้าหาตัวเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ฉันชื่อ ยูเอะ ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ เคียวคุง”
“แล้วนามสกุลละ?”
“แหม~ ขอเก็บไว้เป็นความลับหน่อยไม่ได้หรอคะ”
แล้วไหนบอกจะเป็นเพื่อน “กำลังคิดว่า แล้วไหนบอกจะเป็นเพื่อน ใช่ไหมคะ”
เหมือนถูกเดาความคิด คิ้วของเด็กหนุ่มขมวดเป็นปมคล้ายโบว์เข้าไปทุกครั้ง เขาชักไม่แน่ใจแล้วผู้หญิงตรงหน้าเป็นผู้วิเศษอ่านใจได้รึเปล่า ,เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นเบาๆราวกับกระดิ่ง ใบหน้าส่งยิ้มหวานมาให้เพื่อนชายที่แสดงความคิดออกทางสีหน้ามาจนหมด
“แหม~ ที่แท้เคียวคุงของเราก็อยากมีเพื่อนเหมือนกันนี่นา~”
“เงียบไปเลยยัยโรคจิต”
“เอ๊ะ? ฉันบอกชื่อไปแล้วนะคะ ทำไมไม่เรียกชื่อฉันละคะ!?”
“ก็ฉันจะเรียกแบบนี้”
ความรู้สึกชนะที่ไม่ได้รับรู้มาทั้งวันปรากฏ ณ ขณะนั้น
สึรุงิมองหน้าเด็กสาวที่เริ่มทำแก้มป่องเหมือนเมื่อวันก่อนอีกครา
แก้มสีขาวถูกแต่งแต้มไปด้วยสีแดงอ่อนจากการพอง
กำปั้นเล็กชูขึ้นข้างหน้าเขาพร้อมกับนิ้วริมสุดที่ถูกยกขึ้น
“โป้งนะคะ
โป้งงงงงง”
Talk with writer
นั้นไง น้องเขาโป้งแล้วนะสึรุงิคุง ง้อน้องด้วยละ ไม่งั้นน้องจะตามไปถึงห้อ---อะแฮ่ม!!
ก็มากับตอนที่สองแบบสั่นๆกันแล้วนะคะ นี้ก็คือลงรั่วๆเลยเนื่องจากพล็อตเรื่องในหัวเข้ามาเป็นฉากๆเลยค่ะ เลยต้องรีบแต่ง555
ในตอนนี้ก็คือน้องเราถูก สึรุงิคุงตีหน้าว่าเป็นโรคจิตไปแล้วค่ะ น้องไม่ได้เป็นโรคจิตนะคะ แค่น้องชองซิกแพคพี่ชายเท่านั้นเอง!!
สำหรับตอนนี้คิดเห็นยังไงก็ฝากคอมเม้นกันด้วยนะ แล้วถ้ามีคำผิดสามารถแจ้งไรท์ได้เลยนะคะ
เพราะตอนเขียนก็คืออึนๆเนื่องจากปั่นการบ้านที่อาจารย์สั่งมิทัน //เหมือนไปทำอาจารย์เขาโกรธมา....
ความคิดเห็น