คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Prologue
“พี่ว่าเราเลิกกันเถอะ...”
น้ำเสียงทุ้มเอ่ยอย่างเย็นชา ใบหน้าคมก้มลงกับโต๊ะราวกับว่าไม่อยากเห็นใบหน้าของหญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
,ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มจากการถูกเมฆบดบังแสงอาทิตย์
บรรยากาศเริ่มเย็นเฉียบและไร้เสียงพูดคุยระหว่างพวกเขา ‘กล้า’
ชายหนุ่มมหาลัยปีสุดท้ายเหลือบมองใบหน้าหญิงสาวผู้เปลี่ยนจากสถานะ
แฟน เป็น แฟนเก่า
ในกรณีแบบนี้แล้วปกติเป็นใครก็ต้องโวยวาย แต่หญิงสาวตรงหน้ากลับไม่แสดงกิริยาใดๆ
เธอเพียงแค่ส่งยิ้มให้เขาอย่างเคย เหมือนกับตอนแรกที่เจอกัน ,นัยน์ตาทมิฬมองไปยังหญิงสาวผมทองข้างกายชายหนุ่ม
ดูปราดเดียวก็รู้ว่าตัวการที่ทำให้เธอและเขาต้องเลิกกันก็คือ มัน
“...เข้าใจแล้วค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างไม่ใส่ใจ ใบหน้าเรียบเนียนไร้การตกแต่งเพิ่มเครื่องสำอางค์ ปากสีพีชฉีกยิ้มให้กับอีกฝ่าย 'ต้นข้าว' รู้ดีว่ามันต้องลงเอ่ยแบบนี้ ,ผู้หญิงข้างชายหนุ่มยกยิ้มให้กับความว่าง่ายของแฟนเก่าตรงหน้า เธอขยับร่างกายให้แนบชิดอีกฝ่ายมากขึ้น
มือทั้งสองทำการคว้าแขนแกร่งเอาไว้แนบแน่น
ก่อนที่จะเอ่ยประโยคที่ทำเอาคนแถวนั้นอยากจะเอารองเท้าปาใส่
“ดีจังเลยนะคะพี่กล้า ในที่สุดพวกเราก็เป็นอิสระจากอีนั่น—เอ้ย!จากน้องข้าวแล้ว”
หญิงสาวเอ่ยอย่างสะใจ พลางเหลือบมองคู่กรณีที่กำลังจะลุกจากโต๊ะ
,จากที่คิดว่าจะจากไปอย่างเงียบๆ ก็ต้องกลับมาคิดใหม่อีกที
รอยยิ้มสวยยังคงประดับบนใบหน้า มือเรียวหยิบแก้วน้ำแดงที่สั่งไว้ขึ้นมาเหนือหัวอีนังงูพิษพร้อมกับออกแรงเหวี่ยงให้ได้องศาเล็กน้อย
“กรี้ดดดดด!!”
เสียงร้องโวยวายดังขึ้น เมื่อสัมผัสได้ถึงของเหลวสีแดงที่ไหลลงมาตั้งแต่หัวจรดเท้า
สายตาจิกกัดจากผู้ถูกกระทำถูกส่งมอบให้กับต้นเหตุ
เห็นแล้วสะใจเป็นบ้า
“ขอให้รักกันไปจนวันตายเลยนะคะ นัง-จิ้ง-จก”
สิ้นคำพูด ร่างบางก็เดินออกจากร้านไป
โดยทิ้งให้คู่รักโสมมจอมจำไปกับเหตุการณ์สุดแสบเมื่อกี้ไว้ เธอไม่สน เธอไม่แคร์
แค่ผู้ชายทิ้งคนเดียวเธอไม่เคยใส่ใจ ,มือเรียวหยิบโทรศัพท์ราคาแพงออกมา
พร้อมเปิดหารายชื่อคนกลุ่มหนึ่งอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย~
แกร!
ไปผับกัน!”
ในวันที่ 5
เดือนมีนาคม ปี xx
นางสาว ปาริดา
สายบุตรตรี เพิ่งจะถูกแฟนที่คบกันมา 2 ปี บอกเลิก
....
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เธอเลิกกับผู้ชายคนนั้น
หญิงสาวนามว่า ต้นข้าว หรือที่เรียกสั้นๆว่า ข้าว เดินเข้าร้านผับร้านเดิมที่เธอนัดกับเพื่อนในกลุ่มเอาไว้
หญิงสาวใช้เวลาตามหาเพื่อนๆในแก๊งเล็กน้อยก่อนจะเหลือบไปเห็นเพื่อนเธอที่โบกไม้โบกมือเรียกอยู่ตรงโต๊ะVIPใกล้ๆกับเวที
หลังจากที่โดนบอกเลิกไป ข้าวก็กลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดสีครีมเปลี่ยนเป็นชุดสีดำขาวเอวลอยรัดรูป
กระโปรงสั้นสีแดงลายสก็อต
เธอไม่ได้แต่งหน้าไปมากเท่าไรเนื่องจากเป็นคนหน้าตาดีอยู่แล้ว(แหวะ) ร่างระหงส์นั่งลงตรงหัวโต๊ะราวกับเป็นตัวเอกของงานในค่ำคืนนี้
ทุกอย่างดูพร้อมเพรียงมากเมื่อเธอเตรียมที่จะเล่าเรื่องราวที่เพิ่งเกิดไปเมื่อเช้า
“ก็คือเลิกกันไปแล้วชะป้ะ”
เสียงจากเพื่อนสาวนาม น้ำหวาน ดังขึ้นเพื่อสรุปเรื่องราวหลังจากที่ได้ฟังจบ
เจ้าของเรื่องไม่ตอบเพียงพยักหน้ารับเบาๆแล้วยกเหล้าโซจูราคาแพงเข้าปากอย่างไม่แยแสถึงความกุลสตรีในตัว
“กูละอยากจะขับรถชนอีนังคิตตี้จริงๆคราวที่แล้วก็ผัวคนที่สองของกู ครั้งนี้เป็นผัวเพื่อนกูอีก
อยากตายไวรึไงวะ”
“อีแพต มึงอย่าเอารถแมคลาเรนไปลงทุนอะไรโง่ๆกับนังคิตสิยะ”
“....ก็จริง แบบนั้นกูคงเสียดายแน่ๆ”
แพตนั่งจิบเหล้าขาวลงคอไปอย่างคนเหมือนเพิ่งได้สติ
แต่ก็ไม่แปลกที่แพตจะแสดงท่าทีแบบนั้น
เพราะก่อนหน้าที่ตัวการที่ทำให้แฟนคนที่สองของแพตต้องเลิกก็คือคนเดียวกับที่ทำให้เธอเลิกไปเหมือนกัน
แถมเพิ่งเลิกกันไปเมื่อเดือนที่แล้วเองด้วย
“แต่กูชอบที่มึงสาดน้ำแดงใส่อ้ะ กูละอยากจะเห็นหน้ามันตอนโดนสาดจริงๆ555”
เพื่อนคนสุดท้ายของแก๊งที่เธอเรียกมาก็คือ เชอรรี่ แม่ของเดอะแก็ง เพื่อนสาวประเภทสองที่เธอสนิทมากที่สุด
“อันที่จริงกูอ้ะจะเอาส้มตำปูปลาร้าโต๊ะข้างๆปาใส่แล้ว
เพราะแม่งอยู่ใกล้มือดี”
“กูไม่อยากคิดเลยอ้ะถ้าโดนส้มตำสาดจะเป็นยังไง”
“กลิ่มมันก็จะตุๆหน่อย”
“อือหือ ได้กลิ่นเลยอ้ะ”
“อ้ะฮ่าๆ”
ข้าวเทเหล้าโซจูลงแก้วของเพื่อนแต่ละคนให้เรียบร้อย
ก่อนจะทำการยกขึ้นดื่มเหมือนเป็นการเปิดพิธีบางอย่าง
“เอ้าๆชนค่ะ วันนี้หนูจะเมาไม่สนโลกค่า~”
“แดกยันเช้าเลยไหมละ”
“เบาได้เบานะแกร~”
เสียงพูดคุยดังในกลุ่มดังแข่งกับเสียงเพลงที่เปิดในร้าน
ทุกอย่างมันมอมตัวข้าวจนเธอลืมไปทุกสิ่ง ทั้งเรื่องเมื่อเช้า ทั้งคนที่เคยทำให้เธอได้รู้จักกับคำว่าความรัก
ทั้งมือที่สามที่แย่งคนของเธอไป ข้าวยกเหล้าขวดที่เท่าไรไม่รู้ดื่มอีกขวด ,ใบหน้าเริ่มแดงจากแอลกอฮอล์
สติเริ่มเจือจาง
กว่าพวกเธอจะเลิกดื่มก็ตอนที่เชอรรี่อ้วกออกมากลางห้องน้ำในผับนั้นทำให้งานต้องยกเลิกกลางคัน
เพื่อนสาวทั้งสี่พากันโบกมือลากลับบ้านไปคนละทิศละทาง
ข้าวเลือกที่จะเดินกลับบ้านด้วยตัวเองเนื่องจากคอนโดเธออยู่ไม่ไกล
และอย่างน้อยเธอก็ได้เดินให้สร่างเมา ,ร่างบางเดินไปเรื่อยจนถึงสาธารณะใกล้กับคอนโด
เธอใช้เวลาเดินเล่นในนั้นสักพัก ให้ร่างกายได้สัมผัสกับลมเย็นๆช่วงเวลาตีหนึ่ง
ท้องฟ้าสีดำสนิท ยิ่งทำให้พระจันทร์ดูเด่นสง่า เสียงเงาของพระจันทร์กระทบเข้ากับพื้นน้ำในทะเลสาบ
ทำให้เป็นภาพที่สวยงามจนต้องหยุดมอง มือเรียวยกโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเฟสไปเรื่อยๆจนไปสนใจเข้ากับเว็บหนึ่ง
“อินาสึมะประกาศเรื่องใหม่ออกมาแล้ว....”
เสียงเบาราวกับซุบซิบดังขึ้น
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นสิ่งที่คอยเยี่ยวยาเธอให้ใช้ชีวิตต่อ
คงจะมีเพียงแค่การ์ตูนละมั้ง เพราะอย่างน้อยมันก็ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง
ถ้าอยู่ในโลกความจริงแล้วมันเจ็บ
ก็กลับเข้าไปอยู่ในโลกของความฝันไปตลอดกาลสะจะดีกว่า
เหมือนมีน้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตา ไม่ว่าพยายามจะปัดมันออกไปสักเท่าไร
มันก็ไม่เลือนหายไปสักที ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้ายู่ยี่
,ดวงตาเริ่มพร่ามั่วจากหยาดน้ำตาที่คลออยู่ จากเดินเปลี่ยนเป็นวิ่ง
เธอไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะวิ่งไปไหน แต่เธอรู้แค่ว่าเธออยากวิ่งหนีไปให้ไกล
ไปให้ไกลเกินกว่าที่จะมีใครเอื้อมถึง เธอแสร้งใส่หน้ากากไม่เป็นไรตลอดเวลา
ทั้งที่ในใจปวดหนึบไปหมด ภาพเหตุการณ์ยามเช้ากลับเข้าหัวอีกครา
วิ่งมาได้ไม่เท่าไร ร่างกายก็ดันไปสะดุดเข้ากับก้อนหินโง่ๆข้างทาง
ร่างบางเซล้มไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก ,เสียงน้ำกระจายดังขึ้น
ทำให้รับรู้ได้ว่าตนเองตกลงไปในทะเลสาบเข้า เหมือนร่างกายมันขยับไม่ได้
ทุกอย่างหนักไปหมดเหมือนมีอะไรมาทับ สติเริ่มเลือนราง
ความเย็นต่างเกาะกินตัวเธอไปทีละเล็กละน้อย
เธอเสียทั้งคนที่ไว้ใจ
เธอเสียรักแรกของเธอ เธอเสียเวลาโง่ๆไปตั้งสองปี
นี้ฉัน..กำลังจะตายหรอ
....
ทำไมนะ
ทำไมต้องเกิดขึ้นกับฉัน
....
เชอรรี่
น้ำหวาน แพต ใครก็ได้ ช่วยฉันที
....
ฉันไม่อยากอยู่ในโลกแบบนี้แล้ว
....
ก็ว่าไปนั้น
“อุแง้ อุแง้”
อะไรอ้ะ เสียงเด็ก? เด็กที่ไหนมาร้องไห้ตอนตีสามวะ
“ดูนี้สิคุณ”
เอ๊ะเดี๋ยว อะไรอ้ะ ทำไมฉันขยับตัวไม่ได้???
“ลูกเราน่ารักจริงๆ”
ลูก? ใครลูกคุณคะ แล้วทำไมฉันถึงพูดอะไรไม่ได้เนี่ย???
“ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวเรานะจ้ะ คาเซมารุ ยูเอะ จัง”
คาเซมารุ ยูเอะ?? ทำไมชื่อญี่ปุ๊นญี่ปุ่นจังคะ...เอ๊ะ ชื่อนี้คุ้นๆนะ
“นี้ฉันได้เกิดใหม่หรอ!?”
ความคิดเห็น