ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Lightning: สายฟ้าฟาด

    ลำดับตอนที่ #8 : บุกหอคอย (Into the Tower)

    • อัปเดตล่าสุด 30 มิ.ย. 49


                   สัปดาห์แรกของการปฏิบัติหน้าที่ของแชสซิซนั้นเป็นปริศนายิ่งกว่าที่เฮซิลคิดไว้เสียอีก ในตอนนี้เป็นช่วงที่ยังไม่มีภารกิจเร่งด่วนที่จะปฏิบัติ ซึ่งแน่นอน ว่ามันก็เป็นเวลาที่จะได้พัฒนาตนเองตามนโยบายขององค์กร แต่ถึงกระนั้น วัฒนธรรมตะวันออกที่แตกต่างจากแผ่นดินที่เขาจากมาอย่างสุดขั้วนั้น ก็ยังเป็นสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคย...นี่คือโลกใหม่ที่เขาจะต้องเรียนรู้ และต้องรู้ให้ได้...แม้แต่การพักผ่อนหย่อนใจ หรือแสวงหาความบันเทิงเอง ก็ยังไม่เหมือนกับที่เคยรู้จัก กีฬาที่นี่เองก็ค่อนข้างแตกต่างจากโลกตะวันตก ซึ่งแน่นอน เฮซิลก็ต้องใช้ความเวลาในการศึกษากฎกติกาอยู่พอสมควร (ก็ยังไม่รู้กฎแล้วจะเล่นจริงได้ไงล่ะ...คิออส) แต่อุปสรรคของเฮซิลในโลกพิศวงแห่งนี้ก็ยังไม่หมดแค่นั้น สิ่งที่ทำให้เรย์นิลมีปัญหามากกว่าคือการที่มัวแต่ใคร่ครวญถึงใครก็ไม่รู้ รู้แค่เพียงว่ารู้จักกันในนามของ "ราสึ" หรือ "เด็กสาว" ซึ่งจากการคาดเดาของพ่อหนุ่มน้อยก็พอจะประมาณได้ว่า ใครคนนั้นคงต้องมีความสามารถที่สูงพอดูเหมือนกัน และคงจะมีบทบาทในโซฟิอามากพอสมควรด้วย...



        แล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง...เวลาที่ความสงสัยที่เฮซิลให้ความสำคัญมากที่สุดจะได้เปิดเผยเสียที



                เวลานั้น คือ หลังรับประทานอาหารเย็นของวันที่ 14 กันยายน วันที่ชิโอริเคยบอกไว้ว่า"เด็กสาว" จะอยู่ที่ห้องลับบนหอคอยลาวิส ซึ่งคงเป็นเวลาเดียวที่เฮซิลจะมีโอกาสได้พบเธอ...ถ้าที่ชิโอริพูดนั้นคือความจริง



        การรอคอยจังหวะที่คิออสกับชินไม่อยู่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เจ้าคิออสนี่คงไม่เท่าไหร่ แต่ชินนี่สิ...ดูท่าไม่ค่อยน่าไว้ใจ ซุกตัวอยู่แต่ในห้องพัก ขึ้นชื่อว่าฮาล์ฟลิง แล้วย่อมไว้ใจไม่ได้เสมอ(ก็นั่นก็เป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่จำจากที่เมเฮานท์สอนได้ และปรากฏในโลกตะวันตก)...แต่ช่างเถอะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว หากเราไม่ไปวันนี้ก็คงไม่มีโอกาสที่จะไปอีกแล้ว



        แล้วเฮซิลก็แอบขึ้นมาข้างบนอย่างไม่มีใครสงสัย(อาศัยจังหวะที่ทุกคนพอจะรู้จักเขายังฝึกวิชากันอยู่ ส่วนคนอื่นๆ ก็พอบอกว่าจะไปปฏิบัติภารกิจลับได้) แล้วการเดินทางไปหอคอยลาวิสก็เริ่มขึ้น ณ เวลานี้เอง ที่เฮซิลเริ่มสังเกตได้ว่าโซฟิอาที่ยามตะวันฉายนั้นงดงาม สุกสว่างและเจิดจ้า นั้นมืดมิดได้มากเพียงใดในยามราตรี แต่ถึงจะมืดขนาดนั้น สถาปัตยกรรมต่างๆ ของโซฟิอา ก็ยังแฝงไว้ด้วยความงดงาม เพียงแต่เปลี่ยนจากความสง่างามเป็นความขลังและความน่าเกรงขามก็เท่านั้น...นี่ถ้าหากทัศนวิสัยไม่ดี บางทีเฮซิลอาจจะคิดว่าตัวเองหลงเข้าไปอยู่ในเมืองผี แทนที่จะเป็นเมืองนางฟ้าก็ได้ แต่แม้จริงๆ แล้ว จะไม่ใช่เมืองผี ด้วยความลึกลับซับซ้อนของนครแห่งนี้ก็ยังสามารถทำให้เฮซิลก็ "หลง" ได้อยู่ดี

        

                   สองชั่วโมงแห่งการเดินทางอันลึกลับและยากลำบากของเฮซิลก็ได้นำพาเขามาที่ด้านหน้าของหอคอยลาวิส ที่เคยเห็นว่าหรูหราอลังการ ในยามทิวา กลับลึกลับและน่าเกรงขามในยามราตรี ตัวปราสาทสีดำสนิทเห็นได้แค่เพียงลางๆ เหมือนภาพลวงตา ยิ่งมองไกลออกไป ภาพที่เคยทึ่งในความวิจิตรก็กลับทำให้ทึ่งในความสยองขวัญของมัน นี่สินะ ปริศนาอีกอย่างของดินแดนที่เต็มไปด้วยความลึกลับแห่งนี้ แต่ขณะที่เฮซิลกำลังทึ่งอยู่กับอีกมุมหนึ่งของหอคอยที่โดดเด่นที่สุดในเมือง หางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง........



        
              นั่นมัน...ลืมไปซะสนิทเลย! แล้วในหัวของคนที่กำลังจะไปหาเด็กสาวก็เต็มไปด้วยความคิดตีกันยุ่งไปหมด



        
              ยามนั่นเอง...ทำไมคิดไม่ออกนะกะเรื่องแค่นี้ ตอนกลางคืนก็ต้องมียามสิ เรื่องอะไรเมืองที่เต็มไปด้วยคำถามจะทำยอมให้ใครต่อใครเข้ามาไขความลับง่ายๆล่ะ...บ้าจริงๆ เลย ทำอะไรไม่รู้จักคิด แล้วเฮซิลก็คิดจะเลิกล้มความตั้งใจ

     แต่ขณะที่เฮซิลกำลังคอตกหาทางกลับกิลด์นั่นเอง เขาก็เกิดนึกขึ้นได้ว่ามีทางเข้าทางด้านหลังของหอคอย จึงพยายามเดินอ้อมหอคอยไป แต่เมื่อเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว



        ...แว้บบบบ...

    อยู่ดีๆ ก็เหมือนมีอะไรมาทำให้สติของเฮซิลหยุดชะงักไปทั่วขณะหนึ่ง ภาพที่เขาเห็นหลังจากนั้นก็ยังไม่พ้นความมืดมิดเหมือนเดิม นอกเสียจาก....หอคอยดำทะมึนสูงเสียฟ้านั่นหายไปแล้ว!



        เอ๊ะ นี่ไม่ใช่ที่ที่เราควรจะอยู่นะ อีกนิดเดียวก็ควรจะถึงด้านหลังแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วนี่อะไร หอคอยหายไปไหนแล้วล่ะ หรือว่ามันจะเป็นกับดัก...แล้วความพิศวงของโซฟิอาก็ได้สร้างคำถามไว้ในหัวสมองของเฮซิลได้อีกมากมายเป็นกระบุงโกย



        วาบ!



        คลื่นแถบนั้นก็เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นแสงสว่างจ้าซึ่งดับลงชั่วพริบตา มันทำให้มีความคิดใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกในหัวที่เต็มไปด้วยความคิดอยู่แล้วของผู้บุกรุกหรือว่านี่คือมาตรการป้องกันขอหอคอยบ้านั่น งั้นเราก็ถูกจับแล้วสิ และในอีกไม่กี่นาที เราคงถูกหิ้วออกไปแน่...



        แต่แล้วก็สิ่งที่เรย์นิลกลัวกลับไม่เกิดขึ้น ซึ่งมันได้เพิ่มกำลังใจของเฮซิลขึ้นมาอย่างน้อยก็นิดหนึ่ง เข้าเริ่มสำรวจบริเวณรอบๆ อย่างเริ่มมีความหวังมากขึ้น และฟ้าก็เป็นใจ เมื่อแสงสว่างที่มีอยู่เพียงน้อยนิดได้ทำให้สายตาของเขาเห็นทางเดินแคบๆ ทางด้านหน้า และต้นไม้ต้นหนึ่งที่ปิดเส้นทางด้านหลัง ส่วนสองข้างทางนั้นมองไม่เห็นอะไรเลย นอกจากความมืดมิด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วจะมีอะไรอยู่รึเปล่า... ในสถานการณ์เช่นนี้ เฮซิลไม่มีสิทธ์ที่จะทำอะไรอีกนอกจากเดินตามทางที่จัดไว้ให้แล้วเท่านั้น แม้จะรู้ว่ามันอาจเป็นกับดักก็ตาม เพราะหากเขาอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรแล้วละก็ วันรุ่งขึ้นก็คงจะถูกจับอยู่ในนี้แน่ หรือไม่อาจจะถูกขังอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล ซึ่งนั่นก็คงไม่ใช่สิ่งที่น่าปรารถนานักหรอก



        เส้นทางที่"จัดไว้ให้เดิน"นั้นยาวไกลยิ่งนัก ยาวไกลจนขาทั้งสองข้างของลูกชายนักตีดาบเริ่มอ่อนแรง เวลาผ่านไป ยิ่งเดินก็ยิ่งล้า และเมื่อมองสองข้างทางก็ยังคงไม่มีอะไรนอกจาก...ความมืดซึ่งมันไม่สามารถใช้ประโยชน์ใดๆได้เลยนอกจากอำพรางตัวเขาไม่ให้มีใครมาจับได้ ก็เท่านั้น  และหลังจากการเดินอย่างยืดเยื้อและยาวนานที่ไม่รู้ว่ามันนาน กี่ นาที กี่ชั่วโมงแล้ว กำลังของเฮซิลก็ค่อยๆหมดไป หมดไปเรื่อยๆ จนเฮซิลคิดว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว แต่ในวินาทีนั้น ทุกอย่างดูเหมือนจะสร้างแรงใหม่ให้กับเขา เมื่อ เงามืดทางด้านหน้านั้นมองเห็นได้ชัดขึ้นเรื่อยๆจากที่เคยดูเหมือนไม่มีอะไร เงานั้นดูคล้ายๆ เงาทะมึนของหอคอยลาวิสที่เพิ่งจะเห็นเมื่อไม่นานมานี้ เฮซิลใช้แรงเฮือกสุดท้ายวิ่งไปที่เป้าหมายอยากไม่ได้คิดอะไร แต่แล้วทุกอย่างมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เมื่อคลื่นรูปลูกศรปรากฏขึ้นและพุ่งมาทางเขาจากสิ่งที่เชื่อว่าน่าจะเป็นประตูคอย แม้แรงของเขานั้นแทบจะไม่มีแล้ว แต่ด้วยสัญชาตญาณทำให้เฮซิลสามารถหลบทันท่วงทีเมื่อเห็นทิศทางของคลื่นลูกศรนั่นว่ามันตั้งใจจะจู่โจมที่ใคร…..เฮซิลถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็ยังแอบหวั่นๆ ว่า อาจจะมีอะไรต่อมิอะไรที่จะโผล่มาได้จากทุกทิศทุกทาง และทุกเวลา



        แต่ก็ไม่มีคลื่นรูปลูกศรมาอีก และเมื่อได้สติมองดีๆ แล้วก็พบว่าเงาดำที่เรย์นิลไกลๆ นั้น บัดนี้เห็นกลับเป็นสิ่งอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเงาทะมึนจากด้านหลังของหอคอยนั่นเอง นี่ถ้าไม่ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ เขาคงจะตะโกนออกมาด้วนความดีใจไปแล้ว แต่แม้หัวใจจะเบิกบานเพียงนั้น รการหลบคลื่นเมื่อครู่ทำให้ร่างกายที่อ่อนล้าอยู่แล้วยิ่งอ่อนล้าลงไปอีก...เฮซิลจึงนั่งพักอยู่ตรงนั้น นี่ถ้าไม่มีความตื่นเต้นเมื่อครู่คงหลับเป็นตายไปแล้ว(และถูกจับเมื่อแสงตะวันต้องแผ่นดินในอีกวันหนึ่ง)



        หลังจากพอฟื้นกำลังได้บ้างแล้ว เฮซิลมองขึ้นไปว่าเหลืออีกเท่าไรที่เขาจะต้องไปต่อ ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้กำลังใจของเขาดีขึ้นเลย เพราะเงาทะมึนอันแสดงถึงความสูงของหอคอยนั้นดูสูงมากเสมือนหนึ่งว่ามันไม่มียอด...ทำไมที่เคยเห็นมันไม่สูงอย่างนี้นะ แต่ในเมื่อมาถึงนี่แล้วก็ต้องไปข้างบนให้ได้ เพราะถึงขั้นนี้แล้ว ยังไงเราก็คงจะถูกจับแน่ๆ ไม่มีทางให้กลับไปแล้วไม่ใช่เหรอ คลายปริศนาของที่นี่ซักอย่างก็ยังดี อย่างน้อยก็มาไม่เสียเที่ยวถือซะว่าเราก็ได้ไขปริศนาไปหนึ่งอย่าง



        คิดได้ดังนี้แล้วเรย์นิลก็เดินเข้าหอคอยไป ซึ่งก็ไม่มีอะไรนอกจาก...บันไดที่เวียนขึ้นไปเรื่อยๆ และหายเข้าไปในความมืดมิดเมื่อมองขึ้นไป ที่บางจุดของบันไดก็มีประตูอยู่...แต่จากการวิเคราะห์แล้ว เด็กสาวคงไม่อยู่แค่ชั้นล่างๆ แน่ เรื่องอะไรเราจะต้องเปิดเข้าไปให้จับล่ะ...และเมื่อเวลาผ่านไป แม้จะมองลงไป ทางข้างล่างจะไกลขึ้น สูงขึ้น แต่ทางข้างบนก็ไม่มีวี่แววว่าจะลดลงเลย ขณะที่ขาเริ่มอ่อนล้าอีกครั้งและกำลังจะนั่งพักก็มีลูกศรคลื่นพุ่งมาใส่เขาจนทำให้เขานั่งไม่ได้อยู่ร่ำไป...มันอะไรกันนะ ใจคอจะไม่ให้หยุดเลยเหรอ...แม้ความอ่อนล้าจะเข้าครอบงำเขามากขึ้นเรื่อยๆ การเดินทางของเขาก็ดูเหมือนจะไม่คืบหน้าไปไหน  และเพื่อที่จะรักษาชีวิตตัวเอง สิ่งที่เฮซิลทำได้มีแค่ เดินไปเรื่อยๆ โดยไม่หยุดเท่านั้น

    และหลังจากเดินมาอย่างลืมนับขั้นมาเป็นเวลานาน การเดินทางก็ถึงจุดสิ้นสุด ไม่มีอีกแล้วบันไดเวียน จะมีก็เพียงชั้นบนสุดของหอคอยเท่านั้น เฮซิลวิ่งเข้าประตูที่อยู่บนชั้นสูงสุดทันที...



        ไม่มีอะไร!

        

        
    ถูกต้อง ชั้นดาดฟ้าก็เป็นเพียงสถานที่ชมวิวเท่านั้น...แล้วเด็กสาวล่ะ อยู่ที่ไหน  ชิโอริโกหกแล้วต้องการจะแกล้วพวกสอดรู้สอดเห็น  หรือว่านี่ไม่ใช่หอคอยลาวิส หรือเราถูกจับแล้ว! แต่จะยังไงก็ช่าง เพราะเราก็ต้องถูกจับอยู่ดีนั่นแหละ เปิดเอาทีละห้องเลยแล้วกัน... ว่าแล้วก็รีบลงมาเปิดประตูที่ห้องที่ติดอยู่ถัดลงมาจากดาดฟ้า...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×