ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : หมู่บ้านคนแคระ(Dwarven Village)
ณ รอบกองไฟกลางหมู่บ้านในคืนนั้น
    \"ท่านเดินทางมาจากอิลเลียสรึ\"คนแคระคนหนึ่งถามขึ้น
    \"เราเดินทางจากตะวันตกผ่านอิลเลียสมา\"เรเวียลตอบ
    \"พวกท่านใช้ทางใหญ่จากอิลเลียสจริงๆ เหรอ\"คนแคระอีกคนเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น
    \"ไม่น่าเชื่อจริงๆ พวกท่านโชคดีมากที่ผ่านถนน Arestal ช่วงนี้มาได้โดยไม่โดนพวกโจรดักปล้น\"คนแคระคนแรกกล่าวอย่างดีใจระคนประหลาดใจคนแคระผู้นี้มีเครายาวสีเงินบ่งบอกถึงความชรา สวมเข็มขัดที่ประดับด้วยไพลินเม็ดงาม ที่ข้อมือซ้ายมีกำไลเงิน เขาดูเป็นที่เคารพของชาวบ้านและคงจะเป็นผู้นำหรือปราชญ์อาวุโสประจำหมู่บ้าน
    \"เนื่องจากอิลเลียสเป็นเมืองที่มีความมั่งคั่ง ผู้คนที่เข้าออกเมืองนี้ก็มักจะมีของมีค่ามาก ถนนArestal ก็สะดวกสบายพอที่ทำให้ผู้เดินทางขาดความระมัดระวัง พวกโจรเลยถือโอกาสดักปล้นผู้ที่ผ่านมาในละแวกนี้\"คนแคระเฒ่าอธิบาย
    \"แล้วทางรัฐบาลซาคราสไม่คิดจะทำอะไรบ้างเหรอ\"เฮซิลถาม
    \"ทางรัฐเคยมาปราบหลายครั้ง แต่โจรพวกนี้ก็มุดหัวหนีหายไปหมด ปลอมตัวเป็นพลเมืองดีบ้าง แอบซ่อนอยู่บ้าง ยังไงก็ปราบไม่หมดซักที พวกนี้คงเก่งเกินกว่าที่จะปราบได้หมด\"ผู้สูงวัยประจำหมู่บ้านตอบอย่างเหนื่อยใจ
    \"ครั้งหนึ่งพวกเราถูกดักปล้นระหว่างเดินทาง พอหนีมาได้พวกมันก็สะกดรอยตามเราจนถึงหมู่บ้านแล้วปล้นสะดมทั่วทั้งหมู่บ้านจนเดือดร้อนไปทั่ว เราต่อสู้กับพวกนั้นอย่างบ้าคลั่ง การต่อสู้ครั้งนั้นบาดเจ็บล้มตายเป็นอันมาก หลังจากนั้น พวกมันก็ไม่ค่อยกล้ายุ่งกับพวกเราเท่าไหร่หรอก\"คนแคระหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอันแสดงถึงความโศกเศร้า
    \"พวกโจรมีฝีมือการต่อสู้ไม่เลวทีเดียว ว่ากันว่าพวกมันเรียนรู้วิชาของพวกนักฆ่าด้วย\" คนแคระที่อยู่ข้างๆ กล่าวเสริม
    เรเวียลยิ้มเล็กๆ พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า \"พวกนั้นมีกันประมาณกี่คน\"
    \"ตอนที่พวกมันโจมตีหมู่บ้านของเรา คิดว่าน่าจะมีประมาณ 50 คน แต่มันอาจจะมีกำลังส่วนอื่นที่ซ่อนอยู่อีกมาก\"
    \"แต่เราก็พยายามจับตามองพวกมันให้แผลงฤทธิ์ได้น้อยที่สุด เราได้ขัดขวางการเคลื่อนที่และแผนการต่างๆ ของพวกมัน ไม่ว่าจะเป็นการคุมพื้นที่ที่มีความเสี่ยง การตัดเส้นทางพวกมัน และยัง...\" คนแคระหนุ่มที่มีมาดความเป็นนักรบ ตอบอย่างห้าวหาญ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะกล่าวจบ ก็มีมีดเล่มหนึ่งพุ่งมาที่คนแคระเคราเงินอย่างรวดเร็ว เรเวียลตวัดดาบออกจากฝัก พร้อมกับคุ้มกันผู้อาวุโสแห่งหมู่บ้านไว้
นักรบทั้งหมู่บ้าน เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ ทุกคนมีขวานอยู่ในมือ...
    \"อย่างนี้นี่เอง\"เสียงหนึ่งที่ออกมาจากความมืด
    \"มิน่า แผนการของเราจึงล้มเหลวอยู่เรื่อยๆ\"อีกเสียงหนึ่งกล่าวซ้ำ
    \"และก็เป็นอย่างที่พวกเราคาดไว้จริงๆซะด้วย นี่คือต้นตอของปัญหาทั้งหมด\"เสียงแรกออกมาอย่างมั่นใจ
    \"ปล่อยทิ้งไว้ศัตรูจะพร้อมรบเปล่าๆ พวกเรา ลุย!\"
   
แล้วการปะทะกันก็เริ่มขึ้น...ดาบและมีดสั้นปะทะกับขวานเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปเป็นรัศมีหลายไมล์ เรเวียงบอกให้เฮซิลหยิบดาบที่อยู่ในย่ามนั้นออกมาใช้ เมื่อเฮซิลทำตาม ก็เกิดแสงวูบวาบขึ้นจากดาบทันทีที่ชักออกมาจากฝัก มันส่งแสงสะท้อนกับดาบของเรเวียล และสะท้อนต่อไปยังขวานของพวกคนที่กำลังต่อสู้อยู่ จากนั้น สถานการณ์ก็เริ่มพลิกผัน เมื่อขวานแห่งคนแคระสามารถตัดอาวุธของเหล่าโจรได้ในการปะทะเพียงนัดเดียว แต่ก็ใช่ว่าจะจบง่ายๆ หมู่โจรสามารถเรียนรู้ได้เร็วและหลีกเลี่ยงการปะทะ พร้อมกับถอยกลับเข้าไปเพื่อพรางตัวภายใต้ความมืดแห่งรัตติกาล คนแคระบางส่วนที่ไล่ตามไปถูกสังหาร ส่วนตัวหัวหน้าโจรเองก็ถอยออกไปด้วย แต่ก็ได้ปามีดบินอีกเล่มหนึ่ง ครั้งนี้มีดได้ปักกลางหัวใจของผู้เฒ่าทำให้เสียชีวิตในทันที เรเวียลไล่ตามโจรผู้นั้นไป เมื่อการไล่ล่าดำเนินไปได้ระยะหนึ่ง ก็มีมิดบินอีกเล่มหนึ่งลอยละลิ่วมาทางเรเวียล เจ้าหน้าที่ที่ช่ำชองในการต่อสู้ในความมืดอย่างดีสามารถหลบได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่กลับมีมีดอีกเล่มจ่อมาที่คอของนาง...
    \"อย่าขยับ แล้ววางอาวุธซะ\"จอมโจรเผยตัวพร้อมด้วยมีดเล่มนั้นในมือ
    เรเวียลค่อยๆปล่อยดาบลงอย่างว่าง่าย ดาบที่เคยน่าเกรงขามบัดนี้ดูไร้ค่าอย่างที่สุด
    \"นักรบคนแคระทั้งหลาย ทิ้งอาวุธแล้วยอมแพ้ซะ ถ้ายังไม่อยากเห็นความตายของนังนี่\"
    \"จะมีประโยชน์อะไร ไม่ว่ายังไงเจ้าก็ฆ่าข้าอยู่แล้วไม่ใช่รึ\"เรเวียลยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น
    แต่ไม่มีประโยชน์ สำหรับคนแคระแล้วความปลอดภัยของอาคันตุกะย่อมอยู่เหนือสิ่งอื่นใด นักรบแต่ละคนพากันทิ้งอาวุธ บ้างก็ขว้างทิ้งไปอย่างเสียอารมณ์ แต่เมื่อจอมโจรกำลังหลงระเริงอยู่กับชัยชนะ ก็มีขวานลอยพุ่งมาปักที่กลางหลังพอดี
    \"คนที่ชำนาญอาวุธบินน่ะ ไม่ได้มีแค่แกคนเดียวหรอก\"เสียงนั้นเป็นเสียงของคนแคระในเงามืด   
    เมื่อมีดหลุดมือ เรเวียลก็เก็บดาบขึ้นมาฟันซ้ำ เลือดกระฉูดออกมาจากร่างของจอมโจร เมื่อเห็นดังนั้น
สิ่งที่เคยเป็นลูกน้องของร่างที่ไร้ชีวิตก็พากันหนีหายไป แล้วชัยชนะก็ตกอยู่ในมือของผู้กล้า แต่ในชัยชนะย่อมมีความสูญเสีย...
    \"เสียใจด้วยนะ\" เรเวียลกล่าวแก่คนแคระที่กำลังเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของผู้นำ
    \"เขาทุ่มเทแรงกายแล้วแรงใจเพื่อต่อสู้กับโจรพวกนี้ แล้วก็พลีชีพในการปะทะกับพวกมันจริงๆ ช่างน่าสรรเสริญยิ่งนัก\"คนแคระหนุ่มกล่าวตอบ
    \"แต่ก็ต้องขอขอบคุณพวกท่าน ถ้าไม่มีท่าน เราคงปราบมันไม่ได้\" มือปาขวานกล่าวขอบคุณผู้มาเยือน
    \"ยังหรอก พวกมันต้องซุ่มอยู่ที่ไหนซักแห่ง อาจจะกลับมาโจมตีอีกก็ได้ วันนี้ให้เฝ้าระวัง จัดเวรยามให้ดีแล้วกัน\"เรเวียลแสดงความเห็น
    ทั้งหมดแยกย้ายกันเข้านอน แต่บรรยากาศในตอนนี้ต่างกับที่รอบกองไฟเมื่อไม่นานมานี้ลิบลับ...
    เมื่อเฮซิลตื่นขึ้นมา ทุกอย่างยังอยู่ในความสงบ หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้วก็ถึงเวลาที่ผู้มาเยือนจะต้องออกเดินทางต่อ
    \"ท่านไม่ต้องห่วงหรอก เพราะข้าจะไปตามล่ามันเอง\" เรเวียลบอกลาพวกคนแคระ
    แล้วเฮซิลกับเรเวียลก็จากหมู่บ้านคนแคระไปพร้อมกับเสบียงและของที่ระลึก...
    การเดินทางคราวนี้ต้องอาศัยความระมัดระวังมากกว่าเก่า เพราะต้องคอยระวังโจรที่หลบหนีและดักซุ่มอยู่ระหว่างทาง พวกเขาหยุดพักที่เมืองวิหคกาลิลี จากนั้นเข้าสู่โซลส์ ดินแดนที่ครั้งหนึ่งเคยถูกครอบครองโดยเหล่าปีศาจเมื่อครั้งโบราณกาล บริเวณนี้เอง ที่ เฮซิลพบเห็นโจรคนหนึ่งหลบหนีมา เมื่อเห็นคนแปลกหน้าที่ทำให้ขบวนการของเขาสลายลงในพริบตา โจรผู้นั้นก็ยอมแพ้และถูกปลดอาวุธ การเดินทางผ่านดินแดนร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก กว่าจะออกมาสู่งทุ่งราบสีเขียวได้ก็ใกล้ค่ำแล้ว คืนนั้นทั้งสองนอนใต้ต้นไม้ใกล้ทุ่งราบนั้นเอง
การเดินทางในวันที่สาม เป็นการเดินทางที่สบายกว่าวันก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังต้องระวังภัยจากพวกโจร เรเวียลควบม้าแล้วบ่ายหน้าขึ้นเหนือเข้าสู่ทางแยก ทางตะวันออกมีเมืองร้างเมืองหนึ่ง ลักษณ์ของคลื่นที่นั่นแปลกประหลาดมาก เหมือนว่ามันจะหยุดอยู่กับที่ ไม่พบการเคลื่อนไหวของคลื่นเลย
    \"ที่มองอยู่นั่นคือ เวเนฟิเซียม เมืองโบราณ ว่ากันว่ามีพลังวิเศษบางอย่างสิงสถิตอยู่ ทางนั้นสามารถไปโซฟิอาได้ แต่เราจะไม่ไปทางนั้น\"
แล้วทั้งคู่ก็บ่ายหน้าขึ้นเหนือไปเข้าไปยังบริเวณป่า ซึ่งเป็นทางที่ไม่ค่อยจะเต็มใจเท่าไหร่เพราะถูกดักซุ่มได้ง่าย แต่เส้นทางกลับราบรื่นกว่าที่คิด ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของโจรป่า \'คลื่น\'เองก็เป็นปกติทุกอย่าง เมื่อผ่านป่าไปก็ถึงเวลาเย็นแล้ว เบื้องหน้าของพวกเขานั้นมีเขาลูกหนึ่ง มีเส้นทางตัดผ่านมันสูงตัดขอบฟ้า แต่ยังไม่ทันที่จะมองข้ามไป เรเวียลก็ตบไหล่เฮซิลแล้วบอกว่า
    \"ข้ามเขาลูกนั้นไปเราก็เข้าเขตโซฟิอาแล้ว\"
    \"ท่านเดินทางมาจากอิลเลียสรึ\"คนแคระคนหนึ่งถามขึ้น
    \"เราเดินทางจากตะวันตกผ่านอิลเลียสมา\"เรเวียลตอบ
    \"พวกท่านใช้ทางใหญ่จากอิลเลียสจริงๆ เหรอ\"คนแคระอีกคนเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น
    \"ไม่น่าเชื่อจริงๆ พวกท่านโชคดีมากที่ผ่านถนน Arestal ช่วงนี้มาได้โดยไม่โดนพวกโจรดักปล้น\"คนแคระคนแรกกล่าวอย่างดีใจระคนประหลาดใจคนแคระผู้นี้มีเครายาวสีเงินบ่งบอกถึงความชรา สวมเข็มขัดที่ประดับด้วยไพลินเม็ดงาม ที่ข้อมือซ้ายมีกำไลเงิน เขาดูเป็นที่เคารพของชาวบ้านและคงจะเป็นผู้นำหรือปราชญ์อาวุโสประจำหมู่บ้าน
    \"เนื่องจากอิลเลียสเป็นเมืองที่มีความมั่งคั่ง ผู้คนที่เข้าออกเมืองนี้ก็มักจะมีของมีค่ามาก ถนนArestal ก็สะดวกสบายพอที่ทำให้ผู้เดินทางขาดความระมัดระวัง พวกโจรเลยถือโอกาสดักปล้นผู้ที่ผ่านมาในละแวกนี้\"คนแคระเฒ่าอธิบาย
    \"แล้วทางรัฐบาลซาคราสไม่คิดจะทำอะไรบ้างเหรอ\"เฮซิลถาม
    \"ทางรัฐเคยมาปราบหลายครั้ง แต่โจรพวกนี้ก็มุดหัวหนีหายไปหมด ปลอมตัวเป็นพลเมืองดีบ้าง แอบซ่อนอยู่บ้าง ยังไงก็ปราบไม่หมดซักที พวกนี้คงเก่งเกินกว่าที่จะปราบได้หมด\"ผู้สูงวัยประจำหมู่บ้านตอบอย่างเหนื่อยใจ
    \"ครั้งหนึ่งพวกเราถูกดักปล้นระหว่างเดินทาง พอหนีมาได้พวกมันก็สะกดรอยตามเราจนถึงหมู่บ้านแล้วปล้นสะดมทั่วทั้งหมู่บ้านจนเดือดร้อนไปทั่ว เราต่อสู้กับพวกนั้นอย่างบ้าคลั่ง การต่อสู้ครั้งนั้นบาดเจ็บล้มตายเป็นอันมาก หลังจากนั้น พวกมันก็ไม่ค่อยกล้ายุ่งกับพวกเราเท่าไหร่หรอก\"คนแคระหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอันแสดงถึงความโศกเศร้า
    \"พวกโจรมีฝีมือการต่อสู้ไม่เลวทีเดียว ว่ากันว่าพวกมันเรียนรู้วิชาของพวกนักฆ่าด้วย\" คนแคระที่อยู่ข้างๆ กล่าวเสริม
    เรเวียลยิ้มเล็กๆ พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า \"พวกนั้นมีกันประมาณกี่คน\"
    \"ตอนที่พวกมันโจมตีหมู่บ้านของเรา คิดว่าน่าจะมีประมาณ 50 คน แต่มันอาจจะมีกำลังส่วนอื่นที่ซ่อนอยู่อีกมาก\"
    \"แต่เราก็พยายามจับตามองพวกมันให้แผลงฤทธิ์ได้น้อยที่สุด เราได้ขัดขวางการเคลื่อนที่และแผนการต่างๆ ของพวกมัน ไม่ว่าจะเป็นการคุมพื้นที่ที่มีความเสี่ยง การตัดเส้นทางพวกมัน และยัง...\" คนแคระหนุ่มที่มีมาดความเป็นนักรบ ตอบอย่างห้าวหาญ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะกล่าวจบ ก็มีมีดเล่มหนึ่งพุ่งมาที่คนแคระเคราเงินอย่างรวดเร็ว เรเวียลตวัดดาบออกจากฝัก พร้อมกับคุ้มกันผู้อาวุโสแห่งหมู่บ้านไว้
นักรบทั้งหมู่บ้าน เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ ทุกคนมีขวานอยู่ในมือ...
    \"อย่างนี้นี่เอง\"เสียงหนึ่งที่ออกมาจากความมืด
    \"มิน่า แผนการของเราจึงล้มเหลวอยู่เรื่อยๆ\"อีกเสียงหนึ่งกล่าวซ้ำ
    \"และก็เป็นอย่างที่พวกเราคาดไว้จริงๆซะด้วย นี่คือต้นตอของปัญหาทั้งหมด\"เสียงแรกออกมาอย่างมั่นใจ
    \"ปล่อยทิ้งไว้ศัตรูจะพร้อมรบเปล่าๆ พวกเรา ลุย!\"
   
แล้วการปะทะกันก็เริ่มขึ้น...ดาบและมีดสั้นปะทะกับขวานเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปเป็นรัศมีหลายไมล์ เรเวียงบอกให้เฮซิลหยิบดาบที่อยู่ในย่ามนั้นออกมาใช้ เมื่อเฮซิลทำตาม ก็เกิดแสงวูบวาบขึ้นจากดาบทันทีที่ชักออกมาจากฝัก มันส่งแสงสะท้อนกับดาบของเรเวียล และสะท้อนต่อไปยังขวานของพวกคนที่กำลังต่อสู้อยู่ จากนั้น สถานการณ์ก็เริ่มพลิกผัน เมื่อขวานแห่งคนแคระสามารถตัดอาวุธของเหล่าโจรได้ในการปะทะเพียงนัดเดียว แต่ก็ใช่ว่าจะจบง่ายๆ หมู่โจรสามารถเรียนรู้ได้เร็วและหลีกเลี่ยงการปะทะ พร้อมกับถอยกลับเข้าไปเพื่อพรางตัวภายใต้ความมืดแห่งรัตติกาล คนแคระบางส่วนที่ไล่ตามไปถูกสังหาร ส่วนตัวหัวหน้าโจรเองก็ถอยออกไปด้วย แต่ก็ได้ปามีดบินอีกเล่มหนึ่ง ครั้งนี้มีดได้ปักกลางหัวใจของผู้เฒ่าทำให้เสียชีวิตในทันที เรเวียลไล่ตามโจรผู้นั้นไป เมื่อการไล่ล่าดำเนินไปได้ระยะหนึ่ง ก็มีมิดบินอีกเล่มหนึ่งลอยละลิ่วมาทางเรเวียล เจ้าหน้าที่ที่ช่ำชองในการต่อสู้ในความมืดอย่างดีสามารถหลบได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่กลับมีมีดอีกเล่มจ่อมาที่คอของนาง...
    \"อย่าขยับ แล้ววางอาวุธซะ\"จอมโจรเผยตัวพร้อมด้วยมีดเล่มนั้นในมือ
    เรเวียลค่อยๆปล่อยดาบลงอย่างว่าง่าย ดาบที่เคยน่าเกรงขามบัดนี้ดูไร้ค่าอย่างที่สุด
    \"นักรบคนแคระทั้งหลาย ทิ้งอาวุธแล้วยอมแพ้ซะ ถ้ายังไม่อยากเห็นความตายของนังนี่\"
    \"จะมีประโยชน์อะไร ไม่ว่ายังไงเจ้าก็ฆ่าข้าอยู่แล้วไม่ใช่รึ\"เรเวียลยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น
    แต่ไม่มีประโยชน์ สำหรับคนแคระแล้วความปลอดภัยของอาคันตุกะย่อมอยู่เหนือสิ่งอื่นใด นักรบแต่ละคนพากันทิ้งอาวุธ บ้างก็ขว้างทิ้งไปอย่างเสียอารมณ์ แต่เมื่อจอมโจรกำลังหลงระเริงอยู่กับชัยชนะ ก็มีขวานลอยพุ่งมาปักที่กลางหลังพอดี
    \"คนที่ชำนาญอาวุธบินน่ะ ไม่ได้มีแค่แกคนเดียวหรอก\"เสียงนั้นเป็นเสียงของคนแคระในเงามืด   
    เมื่อมีดหลุดมือ เรเวียลก็เก็บดาบขึ้นมาฟันซ้ำ เลือดกระฉูดออกมาจากร่างของจอมโจร เมื่อเห็นดังนั้น
สิ่งที่เคยเป็นลูกน้องของร่างที่ไร้ชีวิตก็พากันหนีหายไป แล้วชัยชนะก็ตกอยู่ในมือของผู้กล้า แต่ในชัยชนะย่อมมีความสูญเสีย...
    \"เสียใจด้วยนะ\" เรเวียลกล่าวแก่คนแคระที่กำลังเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของผู้นำ
    \"เขาทุ่มเทแรงกายแล้วแรงใจเพื่อต่อสู้กับโจรพวกนี้ แล้วก็พลีชีพในการปะทะกับพวกมันจริงๆ ช่างน่าสรรเสริญยิ่งนัก\"คนแคระหนุ่มกล่าวตอบ
    \"แต่ก็ต้องขอขอบคุณพวกท่าน ถ้าไม่มีท่าน เราคงปราบมันไม่ได้\" มือปาขวานกล่าวขอบคุณผู้มาเยือน
    \"ยังหรอก พวกมันต้องซุ่มอยู่ที่ไหนซักแห่ง อาจจะกลับมาโจมตีอีกก็ได้ วันนี้ให้เฝ้าระวัง จัดเวรยามให้ดีแล้วกัน\"เรเวียลแสดงความเห็น
    ทั้งหมดแยกย้ายกันเข้านอน แต่บรรยากาศในตอนนี้ต่างกับที่รอบกองไฟเมื่อไม่นานมานี้ลิบลับ...
    เมื่อเฮซิลตื่นขึ้นมา ทุกอย่างยังอยู่ในความสงบ หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้วก็ถึงเวลาที่ผู้มาเยือนจะต้องออกเดินทางต่อ
    \"ท่านไม่ต้องห่วงหรอก เพราะข้าจะไปตามล่ามันเอง\" เรเวียลบอกลาพวกคนแคระ
    แล้วเฮซิลกับเรเวียลก็จากหมู่บ้านคนแคระไปพร้อมกับเสบียงและของที่ระลึก...
    การเดินทางคราวนี้ต้องอาศัยความระมัดระวังมากกว่าเก่า เพราะต้องคอยระวังโจรที่หลบหนีและดักซุ่มอยู่ระหว่างทาง พวกเขาหยุดพักที่เมืองวิหคกาลิลี จากนั้นเข้าสู่โซลส์ ดินแดนที่ครั้งหนึ่งเคยถูกครอบครองโดยเหล่าปีศาจเมื่อครั้งโบราณกาล บริเวณนี้เอง ที่ เฮซิลพบเห็นโจรคนหนึ่งหลบหนีมา เมื่อเห็นคนแปลกหน้าที่ทำให้ขบวนการของเขาสลายลงในพริบตา โจรผู้นั้นก็ยอมแพ้และถูกปลดอาวุธ การเดินทางผ่านดินแดนร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก กว่าจะออกมาสู่งทุ่งราบสีเขียวได้ก็ใกล้ค่ำแล้ว คืนนั้นทั้งสองนอนใต้ต้นไม้ใกล้ทุ่งราบนั้นเอง
การเดินทางในวันที่สาม เป็นการเดินทางที่สบายกว่าวันก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังต้องระวังภัยจากพวกโจร เรเวียลควบม้าแล้วบ่ายหน้าขึ้นเหนือเข้าสู่ทางแยก ทางตะวันออกมีเมืองร้างเมืองหนึ่ง ลักษณ์ของคลื่นที่นั่นแปลกประหลาดมาก เหมือนว่ามันจะหยุดอยู่กับที่ ไม่พบการเคลื่อนไหวของคลื่นเลย
    \"ที่มองอยู่นั่นคือ เวเนฟิเซียม เมืองโบราณ ว่ากันว่ามีพลังวิเศษบางอย่างสิงสถิตอยู่ ทางนั้นสามารถไปโซฟิอาได้ แต่เราจะไม่ไปทางนั้น\"
แล้วทั้งคู่ก็บ่ายหน้าขึ้นเหนือไปเข้าไปยังบริเวณป่า ซึ่งเป็นทางที่ไม่ค่อยจะเต็มใจเท่าไหร่เพราะถูกดักซุ่มได้ง่าย แต่เส้นทางกลับราบรื่นกว่าที่คิด ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของโจรป่า \'คลื่น\'เองก็เป็นปกติทุกอย่าง เมื่อผ่านป่าไปก็ถึงเวลาเย็นแล้ว เบื้องหน้าของพวกเขานั้นมีเขาลูกหนึ่ง มีเส้นทางตัดผ่านมันสูงตัดขอบฟ้า แต่ยังไม่ทันที่จะมองข้ามไป เรเวียลก็ตบไหล่เฮซิลแล้วบอกว่า
    \"ข้ามเขาลูกนั้นไปเราก็เข้าเขตโซฟิอาแล้ว\"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น