ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Legend Season:Rise of Sophia

    ลำดับตอนที่ #4 : Warlord of the West

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 50


                    วูบ!

     

                แล้วทั้งคู่ก็ไม่สามารถเดินลงบันไดนี่ได้จริงๆ ด้วยต่างคนต่างลอยออกไปสู่พื้นดินเบื้องล่าง..... เพราะจริงๆ แล้วมันไม่ใช่บันได แต่เป็นทางที่ลาดชันมากจนเกือบตั้งฉากกับพื้นไม่มีคมหยักอย่างที่บันไดควรจะมี นอกจาก 2-3 ขั้นแรกเท่านั้น

     

                    .......

     

     

                    ทำไมมันนิ่มแบบนี้ แล้วไม่เจ็บเลยล่ะ หรือว่า...เราตายไปแล้ว ทาอิคิดในใจ แต่ไม่นานก็มีคำตอบลอยออกมา

     

                    ยินดีต้อนรับ เจ้าหญิงน้อยลูกพ่อ กับคุณทาอิ ยินดีที่มาถึงที่นี่ได้บุรุษร่างใหญ่ ผมรุงรังสีน้ำตาล สวมเสื้อกางเกงสีดำ กล่าวต้อนรับผู้มาใหม่พร้อมคบเพลิงที่จะทำให้ทั้งคู่รู้ว่าตัวเองอยู่บนฟูกนิ่ม

     

                    ไม่ต้องห่วง ใครๆ ที่เข้ามาก็ต้องตกลงไปทั้งนั้นแหละ แล้วก็อย่าเพิ่งกลัวว่าจะถูกขับมาขังในนี้ เพราะทางออกจะอยู่อีกฟากหนึ่งเขากล่าวอย่างมีอารมณ์ขัน ใบหน้าหนวดเฟิ้มของเขาฉีกรอยยิ้มออกมาให้ปรากฏชัดแก่นางฟ้าทั้งสอง

     

                    ท่านโอเวอร์ดูล สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างทาอิถามกลับไป พร้อมกับเอามือกุมข้อเท้าที่เจ็บจากการตกเมื่อครู่ มนุษย์วัยกลางคน ตอบอย่างละเหี่ยใจ

     

                    ตอนนี้เซเซอร์และหัวเมืองเหนือตกเป็นของโซนาคอนโดยสมบูรณ์แล้ว เหลือแต่ทางใต้กับทางตะวันตก ที่ยังไม่ภักดีต่อโซนาคอนเท่าไหร่ ส่วนข้าก็ได้นำร่างแม่ของเจ้าหญิงน้อยกลับมาที่นี่แล้ว อยากดูมั้ยล่ะ

     

                ทาอิคิดแล้วคิดอีก ป่านนี้นายหญิงจะมีสภาพเป็นเช่นไร แต่ทางเลือกของเธอก็ถูกปิดเมื่อสาวน้อยข้างๆ ตอบอย่างฉาดฉาน อยาก.....อย่างน้อยได้เห็นหน้าแม่เป็นครั้งสุดท้ายก็ดี

     

                ว่าแล้วโอเวอร์ดูลก็พาทั้งสองไปยังห้องๆ หนึ่ง เขาเปิดประตูหินออก พร้อมกับยื่นมือเชิญให้ทั้งสองเข้าไป สิ่งที่อยู่ในนั้นคือร่างของหญิงผมดำตัดสั้น รูปร่างสมส่วน สวมชุดเดียวและนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดียวกับเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ต่างกันก็เพียงมีกระจกขั้นกลางอยู่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าโอเวอร์ดูลทำอะไรกับภรรยาของเขาที่จะให้เธอยังอยู่ในสภาพนี้ได้

     

                    ทั้งสองคำนับให้กับเลดี มาร์คัส ทาร์ลินาหนึ่งครั้งก่อนจะเดินออกมา...จากนั้น โอเวอร์ดูลจึงพาทั้งสองไปที่ห้องต่อไป ห้องนั้นมีคบเพลิงหลายดวง มีคนอยู่ไม่ต่ำกว่าสิบคน บางคนทาอิก็จำหน้าได้ ส่วนใหญ่เป็นขุนนางยศต่ำหรือไม่ก็ผู้ชำนาญฝีมือในด้านต่างๆ

     

                    ท่านทาอิ ข้ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เจอท่านคราตัน เอลฟ์หนุ่มผมสีทอง รูปร่างสูงโปร่งกล่าวทักทาย นางฟ้าสาวยิ้มตอบ จากนั้นคำทักทายก็ไหลเข้ามาจากโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่

     

                    ไม่ได้มีแค่นี้นะ อีกคนหนึ่งที่อยู่ในอีกห้องหนึ่งอยู่ก็มาโอเวอร์ดูล สามีของอดีตเจ้าแคว้นเซเซอร์พูดอย่างอารมณ์ดี

     

    ทันใดนั้น ก็มีออร์คร่างเล็ก ผมสั้น สวมชุดลำลองเดินเข้ามา ทาอิรู้ทันทีว่าคนๆ นั้นคือใคร

     

    ลอร์ดเฮวาทา จอมทัพแห่งอิลลูซิออง ท่านมาที่นี่มีธุระประกาศใดทาอิรีบถามออกไปโดยทันที นี่ไม่ใช่คนธรรมดาที่จะมาพูดคุยเล่นอะไรด้วยได้

     

    ในตอนแรกข้าแค่ตั้งใจว่าจะมาเคารพศพท่านหญิงมาร์คัส ทาร์ลินา เท่านั้น แต่ทว่าพอไปถึง ข้ากลับไปเจอสามีของนางพอดี พอรู้เรื่องทั้งหมด ข้าก็อยากจะช่วย แต่ด้วยฐานะของข้า จะทำอะไรมันก็ไม่ถนัดเท่าไหร่ ข้าจึงได้แต่อยู่เบื้องหลังเท่านั้น อีกไม่นาน ข้าคงต้องกลับไปแล้วเฮวาทาตอบอย่างละเอียด

     

                แล้วตอนนี้เราจะทำยังไงกันต่อทาอิถามด้วยความงุนงง ไม่รู้ว่าเธอจะสังเกตว่ามีคนที่งุนงงกับสถานการณ์ตรงนั้นมากกว่าเธออยู่หรือไม่ เพราะบุตรสาวของท่านหญิงก็กำลังพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวอย่างเต็มที่

     

                    ขณะนี้เมืองโซฟิอาสนับสนุนเรา แต่โซนาคอนจะยกทัพมาตีเมื่อไหร่ไม่รู้ ซึ่งตอนนี้เราคงต้องหาทางสร้างค่ายคูประตูหอรบให้มากที่สุดโอเวอร์ดูลตอบ

     

                    แต่เดี๋ยวก่อนลอรา หญิงวัยกลางคนชาวมนุษย์ผู้หนึ่งขัดจังหวะ ก่อนจะพูดต่อ

                    เราได้รับสารจากชายลึกลับในชุดประหลาด เขาอ้าวตัวว่านำสารมาจากจอมเวทมนต์ดำ....ทันทีที่คำว่าจอมเวทมนต์ดำ ดังขึ้น โอเวอร์ดูล ก็หัวเราะหึๆ ในลำคอ

                    เธอบอกว่าอยากพบเด็กสาวที่ชื่อ ดีพเวลล์ทันทีที่พูดจบ ทุกคนก็มองตาหญิงวัยกลางคนผู้นั้นเป็นตาเดียวกัน

     

                    มีตัวสารหรือไม่โอเวอร์ดูลรีบทัก

                    สารนั่น รวมไปถึงชายผู้นั้นสลายตัวไปทันทีที่ข้ารับมันมา…” ทันทีที่ลอราพูดจบ สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป ขณะที่โอเวอร์ดูลนั้นครุ่นคิดใหญ่

     

                    อืม....น่าจะเป็นของจริง เป็นฝีมือ หากไม่ใช่อะริเอน ก็ต้องเป็นจอมเวทชั้นผู้ใหญ่ในนครปีศาจนั่นแน่ ข้าก็ไม่รู้ว่าพวกนั้นคิดอะไรอยู่ แต่เท่าที่ข้ารู้ ในตอนนี้ ไม่ว่าเราจะพยายามป้องกันเมืองเพียงใด คงยากที่จะต้านทานโซนาคอนได้ หากมันรู้ว่าเราอยู่ที่นี่ ซึ่งก็เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น ซึ่งเวลานี่แหละ ที่เราพอจะทำอะไรได้บ้าง ดังนั้น ข้าคงจำเป็นต้องให้เจ้าหญิงน้อยของพ่อต้องออกเดินทางอีกแล้ว...

     

                ข้าขออาสาพานางไปเองทาอิออกตัว แต่ชายร่างใหญ่ในชุดดำยกมือห้ามไว้ พร้อมกับฉีกยิ้ม

                    ช้าก่อน ทาอิ เจ้ารู้สึกยังไงตอนไปทางดินแดนนั้น เจ้ารับมันไหวแค่ไหน ยิ่งเข้าไปถึงนครปีศาจเวเนฟิเซียมยิ่งหนักกว่านั้นเป็นร้อยเท่า เจ้าจะทนไหวเหรอ สำหรับเรื่องนี้ให้ข้าพาเขาไปเองดีกว่า ข้าเคยไปมาแล้ว

     

                    เดี๋ยวก่อน!” คราตันท้วง

                    มั่นใจได้หรือว่าข่าวที่ลอรานำมาเป็นข่าวจริงชายหนุ่มผมทองพูดออกไปทันที

                    แล้วถ้าไม่จริง มันจะช่วยอะไรได้ อีกอย่าง การทำลายตัวเองในสารแบบนี้เป็นฝีมือของพวกเวเนฟิเซียมไม่ผิดแน่...ส่วนเรื่องที่ว่าลอรากุขึ้นมาเอง ก็เป็นไปได้ แต่คนอย่างเธอจะมีความรู้ขณะบอกลักษณะคำพูด รวมไปถึงลักษณะสารได้ตรงขนาดนี้เลยหรือ เพราะลอราไม่น่าจะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เวเนฟิเซียมไม่ได้ติดต่อกับโลกภายนอกบ่อยๆ หรอก

     

                ว่าแต่ ท่านจะออกไปเมื่อไหร่ทาอิถาม

                    เช้าวันพรุ่งนี้......แต่ไม่ว่าอย่างไรที่เวเนฟิเซียมก็ไม่มีกลางวันอยู่แล้ว เพียงแต่ข้าอยากให้ลูกข้าได้พักผ่อนก่อน

     

                    พรุ่งนี้ข้าเองก็คงต้องไปเช่นกัน ยุทธวิธีที่ข้าสอนพวกท่านคงจะมีประโยชน์ไว้รบกันโซนาคอนไม่น้อย

     

                ครับ/ค่ะ ท่านอาจารย์ทุกคน ในห้องนั้นยกเว้นทาอิกับดีพเวลล์ประสานเสียงออกมา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×