ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Lightning: สายฟ้าฟาด

    ลำดับตอนที่ #1 : เมื่อกษัตริย์ต้องสาบสูญ(If the king's vanished?)

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 49


    16 ปีหลังจากยุคคาออสถึงการอวสาน กบฏดูมเกลดถูกปราบปราม ราชบัลลังก์อิลลูซิอองตกเป็นของราชาเกรมลินผู้เป็นมิ่งขวัญของชาวอิลลูเชียนทั้งมวล...ทรงเป็นจอมทัพที่กล้าหาญที่สุดในสนามรบ วีรกรรมของพระองค์มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการศึกในยุคคาออสที่ทำให้แคว้นบินส์เกือบจะเป็นแคว้นที่เรืองอำนาจที่สุดในตอนปลายยุค การป้องการการโจมตีของไวเปอร์ในกบฏดูมเกลด หรือแม้กระทั่งการขยายอาณาเขตสร้างความยิ่งใหญ่ให้แคว้นบินส์และอาณาจักรอิลลูซิอองอย่างมหาศาล พระองค์สร้างความสามัคคีให้กับประชาชน ทหาร ขุนนาง หรือแม้กระทั่งเจ้าผู้ครองแคว้นต่างๆ ที่บาดหมางกันอยู่ ส่วนในรัชสมัยของพระองค์นั้น พระองค์ สามารถรวบรวมดินแดนต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียวภายใต้ธงทิวแห่งราชา ได้ทั่วทุกสารทิศ และรัชสมัยแห่งความยิ่งใหญ่นี้ก็ดำเนินมาเป็นเวลา 11 ปี จนกระทั่ง อิลลูซิอองเริ่มทำสงครามกับอาณาจักรโคมอส...

        ในช่วงแรกนั้นโคมอสเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่ด้วยพระปรีชาสามารถของกษัตริย์เกรมลิน ราชาผู้ปลุกความเชื่อมั่นและสร้างความสามัคคีในหมู่ทหาร พระองค์อาศัยความช่วยเหลือจากนักลอบสังหารและเหล่าสายลับอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กระแสลมแห่งชัยชนะเริ่มพัดมาทางฝั่งอิลลูซิออง ต่อมา พระองค์ทรงยึดครองดินแดนส่วนใหญ่ในอาณาจักรนั้นได้ และเมื่อสงครามดำเนินต่อไปจนถึงจุดสิ้นสุด ซึ่งเหลือก็แต่เพียงแต่กองทัพผู้กล้าแห่งอนาริส เดอ โคมอสที่ยังคงต่อสู้อย่างกล้าหาญเท่านั้น ในฤดูร้อนปีนั้นเอง ราชาเกรมลินหมายเผด็จศึกด้วยการกรีฑาทัพใหญ่ในการโจมตีด้วยพระองค์เอง เมื่อพระองค์ยาตราทัพเข้าสู่บริเวณทุ่งโซตอน ก็ได้ปะทะกับทัพใหญ่ของอาณาจักรโคมอส เกิดการพันตูกันอย่างรุนแรง ฝุ่นตลบอบอวลไปทั่วสนามรบ กษัตริย์เกรมลิน ได้ต่อสู้กับแม่ทัพศัตรูจนได้รับชัยชนะ ทำให้ทหารข้าศึกเสียขวัญ เมื่อเห็นว่าได้ชัยแล้ว จึงนำทัพส่วนหนึ่งที่รวบรวมได้ ไล่ตามทหารข้าศึกจนหายเข้าไปในหมอกควัน...



            "จบสิ้น...กันซะที" เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้น

             "แต่ฝ่าบาท...นั่นอาจเป็นกับดักก็ได้ " อีกเสียงหนึ่งคัดค้าน

             "มันอาจเป็นกับดักก็จริง แต่เราก็รู้ว่ากลลวงที่รอเราอยู่นั้นมีอานุภาพเพียงใด"

             "แล้วฝ่าบาทจะนำไพร่พลเข้าไปรับชะตากรรมที่ว่านั่นอย่างเต็มใจเช่นนั้นหรือ"

             "ดูนั่นสิ ตะวันคล้อยไปทางตะวันตกแล้ว...พวกนั้นกำลังไล่ตามมา ต่อให้ติดกับดักก็ยังดีเสียกว่าที่จะต้องปะทะกับพวกมัน"

             "แต่พวกนั้นไม่ทำร้ายฝ่าบาทนี่ นั่นคือมิตร แต่ที่อยู่ตรงหน้าพระองค์ คือศัตรูพระเจ้าค่ะ"

             "อย่าลืมสิ...พวกมันไม่ทำร้ายเรา แต่มันสามารถป้องกันตัวได้ นายของมันยิ่งฉลาดๆ อยู่...เราไม่มีเวลาแล้ว สั่งการลงไป ออกตามตี"

             "น้อมรับบัญชา" แล้วทั้งหมดก็กรูเข้าไปเพื่อตะลุมบอน...



                     ขณะเดียวกัน ในเมืองโซฟิอา ไกลออกไปทางตะวันออก เจ้าหญิง ดีพเวลล์ จอมเวทอันดับหนึ่งของราชอาณาจักร รู้สึกสงสัยในการยุทธ ด้วยเกรงว่า อาจหลงกลศึกของฝ่ายศัตรูได้ เธอจึงนำนักล่าสังหารจำนวนหนึ่งเร่งขี่ม้าไปตามยอดเขาที่มองเห็นสมรภูมิ

    แล้วสิ่งที่เธอกลัวก็เกิดขึ้น สายฟ้าอันทรงพลังได้ผ่าลงมาที่กลางสนามรบ มันน่ากลัวยิ่งกว่าฟ้าฝ่าครั้งใดๆ มันเจิดจ้าแม้ในเวลาเที่ยงวัน ดังสนั่นดุจเสียงของปีศาจแห่งการทำลายล้าง อานุภาพของมันรุนแรงเฉกเช่นไฟบรรลัยกัลป์ ส่งอิทธิพลต่อทุกพื้นที่ของสนามรบ แม้กระทั่งตัวดีพเวลล์เองที่คอยเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ห่างก็ยังรู้สึกได้ถึงความรุนแรงของมันหรือว่า สายฟ้านั่น...จะเป็น...

    แต่ไม่ทันที่จอมเวทสาวจะรู้คำตอบของความคิดตัวเอง...ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่กลับอันตรธานหายไป ไม่มีแล้วสายฟ้าที่คอยทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้าไปใกล้มัน ไม่มีแล้วเสียงนภากัมปนาทที่สะเทือนแก้วหูทุกคนที่อยู่ใกล้พอที่จะได้ยินมัน ไม่มีแล้วแสงเจิดจ้าที่สว่างไปทั่วท้องฟ้า...มันหายวับไปอย่างไม่บอกกล่าวเหมือนกับตอนที่มันปรากฏขึ้น

    หลังจากที่เจ้าหญิงแห่งเวทมนต์ได้สติกลับมา ประกอบกับความที่รู้ว่าสิ่งที่เธอระแวงสงสัยนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว ดีพเวลล์พร้อมด้วยนักล่าสังหารจึงควบม้าไปตามแนวเขาทันที และยิ่งลึกเข้าไปในดินแดนศัตรูมากเท่าไร สัญญาณต่างๆ ที่เธอพบระหว่างทางก็ยิ่งทำให้เธอยิ่งมั่นใจมากขึ้นเท่านั้น...

    แต่แม้จะตามไปก็คงไม่มีประโยชน์มากกว่านี้ เพราะเธอก็คงทำอะไรไม่ได้มาก นอกจาก...

                   'ส่วนอะนาริส เดอ โคมอส นั้นก็มัวแต่คิดที่จะขัดขวางทัพของเกรมลิน ซึ่งต้องใช้กองทัพทั้งหมด จึงไม่เหลือสิ่งใดไว้ป้องกันเมืองนอกจากยามเพียงเล็กน้อยเท่านั้น' การเข้ายึดราชธานีของศัตรูจึงเป็นสิ่งเดียวที่เธอพอจะทำได้ แม้มันอาจจะไม่ช่วยอะไรเลยก็ตาม



                   แต่แม้จะทำได้แค่นั้น แต่เธอก็ทำสำเร็จ หลังจากวางแผนกับกองล่าสังหารได้ไม่นาน เธอก็ยึดเมืองได้ด้วยการซ้อนกลศัตรูจนเอาชนะกองทัพข้าศึกที่วางกับดักกองทัพของพระเจ้าเกรมลิน ด้วยการต่อสู้ที่มีเพียงมิติเดียว นั่นคือ การลอบสังหาร...



                    แต่แม้ว่าตั้งแต่วินาทีที่ธงอิลลูซิอองสะบัดไหวอยู่เหนือ ยอดปราสาทแห่งโคมอส การค้นหาตัวพระราชาจะเกิดขึ้นอย่างหนัก แต่ความสำเร็จของการค้นหาครั้งนี้ก็หาได้เกิดขึ้นไม่...



          เมื่อ ดีพเวลล์ กลับเข้าไปในปราสาท ทุกสิ่งทุกอย่างดูเงียบสงบ เหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น ไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างที่เธอคาดไว้ ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของการเคลื่อนไหวใดๆ ยกเว้นมีรายงานที่ว่ามีใครคนหนึ่งที่ต้องการพบเธอมาก เมื่อเธอไปหาแล้วพบว่าเขามีอาการเหนื่อยหอบ ในมือข้างซ้ายมีสารสองฉบับ เขาส่งให้เธอด้วยความเร่งรีบ เจ้าหญิงพินิจที่มาของสารทั้งสองฉบับนั้นอย่างรวดเร็วแล้วจึงหันกลับไปเพื่อที่จะกล่าวคำขอบคุณ แต่ข้างหลังเธอกลับไม่มีผู้นำสารอยู่ เหลือแต่เพียงอากาศและประตูที่ปิดสนิทเท่านั้น...



         หายไปแล้ว...



         สิ่งที่เธอไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น...



         ไม่มีใครในแผ่นดินนี้ที่สามารถจากไปด้วยความเร็วเช่นนี้และพ้นจากการรับรู้ของเธอมาก่อน...

    ...แต่ช่างเถอะ ไหนๆ เขาก็นำสารมาให้แล้ว' แล้วเจ้าผู้ครองนครโซฟิอา ก็เปิดผนึกของสารนั้นขึ้นมาอ่าน



         ฉบับแรกเป็นฉบับที่ดีพเวลล์คิดไว้แล้วว่าต้องได้รับ เป็นการรายงานผลของสงครามที่เธอรู้อยู่แล้ว แต่อีกฉบับหนึ่งนั้น พลันที่เธอหยิบขึ้นมาอ่านอาการรุนแรงต่างๆ ก็แสดงออกมาจากจอมเวทมือหนึ่งของราชอาณาจักร ใบหน้าของเธอซีดเผือด ดวงตากลมโต เลือดในกายเดือดพล่าน เกิดความปั่นป่วนขึ้นในกระแสจิตของเจ้าหญิง เหตุการณ์ที่ปรมาจารย์เวทมนตร์นางนี้กลัวเป็นที่สุดก็ได้เกิดขึ้นแล้ว...



         'มันไม่จริงใช่ไหม การคำนวณของเราต้องผิดพลาดสิ'



         'บ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไรโดยไม่มีพระราชา ประชาชนขาดที่พึ่ง แลพระองค์ก็ยังมิได้อภิเษกสมรส ไร้ซึ่งทายาท แล้วใครกัน จะมาขึ้นครองราชบัลลังก์กันเล่า จะเป็นเจ้าหญิงอะริเอนแห่งเวเนฟิเซียม ลอร์ดอะคาบุธแห่งเจมิไน หรือว่าภาระอันหนักอึ้งที่โถมทับเกรมลิน มาตลอดสิบกว่าปีนี้ จะมาทับถมลงที่ตัวฉันเอง... '





         วันนั้นเป็นวันที่ 7 กรกฎาคม 1777...

    ไกลออกไปทางใต้ในเมืองชนบทห่างไกลแถบทาร์เซีย เด็กชายนามเฮซิลก็ได้ถือกำเนิดขึ้น...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×