คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เสือกับกระต่าย,พายุและตัวตลก
ณ ตึกของบริษัท Hiden intelligence
อารุโตะ ที่ได้หลบหนีมาจากเหล่าฮีโร่ มาหลบที่ห้องของประธานของบริษัท ซึ่งเขาก็ได้แน่นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความเหน็ดเหนื่อย
“เหนื่อยหน่อยนะค่ะ ท่านประธาน” อิสึที่ได้เดินเข้าห้องกล่าวกับเขา แล้วยืนเครื่องดื่มให้ อารุโตะจึงหยิบขึ้นมาดื่มแต่เขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้จนสำลักเครื่องดื่มออกมา
“ป-ประธาน...ฉันเนี่ยนะ” อารุโตะถาม
“ค่ะ ทันทีที่ท่านสวม Zero-one driver ท่านก็ได้กลายเป็นประธานของฮิเด็นแล้วค่ะ” อิสึก็ตอบในทันที อารุโตะถึงกับหน้าถอดสี เพราะเขาดันไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน จนตอนนี้เขาอยู่ในจุดที่ถ่อยกลับไม่ได้แล้ว
“ช่วยไม่ได้แหะ...งั้นก็คงต้องประกาศตำแหน่งประธานแล้วไปลงทะเบียน-” อารุโตะที่กำลังจะลุกขึ้นแล้วบอกกำหนดการกับอิสึ แต่ก็มีเสียงหนึ่งเข้ามาแทรก
“เรื่องนั้นไม่จำเป็นหรอกครับ” เจ้าของเสียงเป็นชายหนุ่มอายุราว 20 ต้นๆ ใส่ชุดสูทสีกรม มีผมสีดำเงางาม และ นัย์ตาสีฟ้าที่ดูงดงาม เขาเดินมาพร้อมกับเปิดไรซ์โฟนที่มีนามบัตรของเขา
[นายกสมาคมฮีโร่ โอโนะเดระ โคทาโร่]
“คนๆนี้คือ” อารุโตะถามอิสึด้วยความสงสัย
“โอโนะเดระ โคทาโร่ อายุ 27 ปี จบการศึกษาจาก MIT สาขานิติกฎหมาย และ สาขาการทูต มหาลัยโฮโจ เคยมีประวัติการรบในสงครามตะวันออกกลางและกลุ่มก่อการร้าย ปัจจุบันเป็นนายกสมาคมฮีโร่รุ่นที่ 3 และเป็นผู้ดูแลกลุ่มฮีโร่กรรมการค่ะ” อิสึร่ายประวัติให้เขาฟัง
อารุโตะที่ได้ยินก็ถึงกับสะดุ้นแล้วรีบกลบเกลื่อนว่าไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่สวนสนุก
“ค-คือ...ผมพึ่งมาทำงานที่นี้ได้วันแรก...เพราะงั้นเรื่องเหตุมาเกียในวันนี้ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะครับ”
โคทาโร่ที่ได้ยินก็หัวเราะก่อนจะเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดในสวนสนุก วินาทีที่เขาแปลงร่างเป็น ซีโร่วัน ออกมา
อารุโตะทำหน้าตกใจหนักกว่าเดิมจนแก้ตัวไม่ขึ้น แล้วรีบก้มลงทำท่าขอคะมาต่อหน้า โคทาโร่
“ขอโทษนะครับ!!! พอดีสถานการณ์มันพาไป ก็เลยแปลงร่างทั้งที่ไม่มีใบอนุญาติ เดียวจะไปทำใบอนุญาติแล้ว อย่าจับผมเลยนะครับ!!!” อารุโตะขอร้องอย่างสุดชีวิต
“คือว่า...จริงๆแล้ว…ทางนี้ต้องเป็นคนขอโทษต่างหากครับ” โคทาโร่รีบก้มลงไปทำท่าขอขมาเช่นกัน เล่นเอาอิสึที่ยืนดูทั้งสองคนก้มใส่กันงงไม่น้อย
คืนในวันเดียวกัน
ณ ถนนไฮเวย์ใจกลางเมือง SternBild
ได้เกิดเหตุการ์ณการปล้นธนาคารขึ้น โดยชายสามคนได้เข้าใช้อาวุธปืนชิงเงินมา แล้วใช้รถบรรณทุกในการหลบหนี เหล่าโจรนั้นก็ได้ใช้อาวุธปืนในการสกัดตำรวจทำให้ตำรวจไม่สามารถตามต่อได้แต่ในเวลานี้เอง รถยนต์สีแดงความเร็วสูงก็พุ่งผ่านรถที่สัญจรไปบนถนนจนสามารถไล่ตามอาชญากรทันได้ ซึ่งคนขับรถคันนั้นก็คือ Fire emblem นั้นเอง
การขับรถของ Fire emblem นั้นได้ถูกจับภาพไว้โดยโดรนอย่างชัดเจน ซึ่งโดรนตัวนั้นก็คือโดรนของรายการ HeroTV เป็นรายการสดเรียลลิตี้โชว์ของเหล่าฮีโร่ที่ลงทะเบียนกับสมาคมจะได้ออกมาโลดแล่นจับเหล่าอาชญากรเพื่อความบันเทิงและเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยวของเมือง SternBild ทำให้ในตอนนี้ถือเป็นรายการที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ ภาพจากโดรนนั้นได้ถูกส่งไปที่ห้องส่งของรายการและทางทีมงานได้ขึ้นภาพกราฟฟิกว่า
[มาคนแรก + 25 คะแนน]
แอกเนส โจเบิร์ด โปรดิวเซอร์รายการที่คอยดูภาพรวมของรายการได้บอกให้ทีมงานว่า
“ขยับเข้าไปไกลกว่านี้สิ”
โดรนขยับเข้าไปใกล้ Fire Emblem ขึ้นในขณะที่ Fire Emblem เองก็หมายจะใช้ท่า Fire Ball เข้าโจมตีใส่รถเช่นกัน
ตู้มม
ลูกบอลเพลิงได้พุ่งออกมาทำลายยางล้อหลังรถที่โจรปล้นธนาคารจนเสียหลัก แต่เหล่าโจรก็ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์รอบๆจนเสียหลักแล้วขวางรถของ Fire Emblem จนตามต่อไม่ได้
“แย่จัง…” Fire Emblem บ่นออกมา
แต่ไม่นานมาก รถของหน่วย A.I.M.S. ก็มาจอดอยู่ข้างๆ วัลแคน กับ Red Oni ได้รีบวิ่งเข้ามายกรถไปไว้ข้างทางพร้อมกับเข้าทำการช่วยเหลือคนบนรถว่ามีใครบาดเจ็บไหม
“ตามจับตัวอาญากรมาให้ได้เถอะ ตรงนี้พวกฉันจัดการเอง” เทลเรดที่ตามมาได้บอกกับ Fire Emblem แล้วรีบเข้าช่วยเหลือประชาชนในทันที Fire Emblem จึงรีบขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างไม่ใยดี
“ให้ตายสิไม่คิดแม้แต่จะขอบคุณเลยรึไงกัน” เทลเรดบ่นออกมา
“เจ้านั้นก็มีสิ่งที่ต้องแบกรับอยู่ ให้ช่วยทุกคนนะเป็นไปไม่ได้หรอก ถึงได้ต้องมีฮีโร่กรรมการแบบพวกเราไงละ” Red Oni ตอบ
ตัดกลับมาที่การไล่ล่าของเหล่าฮีโร่กับอาชญากร ในขณะที่รถของเหล่าโจรเสียล้อไปข้างหนึ่งและกำลังประคองรถอยู่นั้นเอง ก็ได้มีร่างขนาดมหึมาได้เข้ามาขวางรถเอาไว้ ร่างนั้นคือ Rock Bison
เขาได้ใช้ร่างกายนั้นรับรถพุ่งเข้ามาและยกรถขึ้นจนขยับไปไหนไม่ได้เหล่าโจรจึงตัดสินใจทั้งรถแล้วโดดลงมา แต่ Rock Bisonไม่สามารถเอาเขาที่ไปเกี่ยวกับรถออกได้จึงทำให้เขาต้องแบกรถไปทั้งแบบนั้น
แต่โจรทั้งสามก็ต้องสะดุดเมื่อเบื่องหน้าของพวกเขาคือฮีโร่สาวนาม Dragon Kid ได้มายืนขวางเอาไว้
เหล่าโจรจึงเริ่มสาดกระสุนเข้าใส่แต่เธอก็สามารถกระโดดหลบไปอยู่ข้างหลังและใช้พลังไฟฟ้าช็อตตัวของโจรคนหนึ่งจนสลบไปทำให้เธอสามารถจับโจรได้คนหนึ่ง
แต่โจรอีกสองคนได้ลงจากทางด่วนแล้วรีบวิ่งไปที่สถานีรถไฟฟ้าโดยที่เหล่าฮีโร่ไม่ทันได้สังเกต โจรทั้งสองคนได้เข้าใช้อาวุธขู่คนขับรถไฟให้ออกรถไปทั้งอย่างนั้น แต่เบื่องหน้าของสะพานรถไฟนั้นเองก็ได้มีฮีโร่คนหนึ่งมายืนยัดอยู่ข้างหน้าเขาคือ Wild Tiger ฮีโร่ที่ได้ชื่อว่า “จอมทำลายล้าง” นั้นเอง
Wild Tiger ได้ใช้พลังของเขานั้นคือ Hundred power ที่จะทำให้ร่างกายของเขามีพลังมากขึ้น 100 เท่า ภายในเวลาที่จำกัดแค่ 5 นาที เขาได้ทำในสิ่งที่คาดไม่ถึงที่สุดนั้นคือ…
ต่อยสะพานจนเละ แน่นอนรถไฟก็สามารถหยุดได้ทันเวลาแต่ Red Oni ที่เห็นสถานะการณ์จากไกลๆก็ถึงขั้นบ่นออกมา
“เจ้าบ้านั้น….เอาอีกแล้ว…”
ตัดกลับมาทาง Wild Tiger เหล่าโจรตัดสินใจเดินลงมาจากรถไฟพร้อมตัวประกันเป็นเด็กสองคน
“เห้ยๆ นี้พวกแกเอาเด็กมาเป็นตัวประกันเนี่ยไม่มีความยางอายเลยสินะ” Wild Tiger พูดออกมาด้วยความไม่สบอารมณ์
“หุบปากน้า!!! ถ้าแกยังเห็นชีวิตของเด็กนี้ละก็อย่าขยับละ!!” โจรคนหนึ่งกล่าวแล้วเอาปืนจ่อไปที่ขมับของเด็กที่เป็นตัวประกัน
“ช่วยหนูด้วย….ช่วยหนูด้วย Sky High!!!” เด็กสาวที่ถูกจับเป็นตัวประกันได้ร้องออกมา
“Skyyyyyyyyy Highhhhhhhhh” เสียงปริศนาจากบนฟ้าได้พุ่งมาพร้อมกับแรงลมมหาสารที่พัดโจรสองคนรวมถึงตัวประกันทั้งสองคนขึ้นไปบนอากาศ
แต่แล้วก็ได้มีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามารับตัวของเด็กทั้งสองเอาไว้เขาคือ
King of hero Sky high
เขาได้เลือกที่จะช่วยคนก่อนจับผู้ร้ายจนเหล่าผู้ชมที่ดูทางทีวีต่างส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ ส่วนเหล่าโจรก็ได้ลงไปในทะเลสาบและพยายามจะขึ้นเรือสำราญที่ผ่านทางมาแต่แล้ว
ทะเลแถวนั้นได้กลายเป็นน้ำแข็งจนเรือไม่สามารถขยับไปไหนได้และจนกลายเป็นลานน้ำแข็งไปแล้ว ก็ได้มีฮีโร่สาวอีกคนที่ยืนอยู่เธอคือต้นตอของพื้น้ำแข็งนี้แสงจากเหล่าโดรนได้สาดไปที่เธอก่อนที่เธอจะเริ่มกล่าวคำพูดประจำตัวออกมา
“ถึงน้ำแข็งฉันจะไม่สุดยอดแต่อาญากรก้ไม่รอดเลยสักราย”
เธอมีชื่อว่า Blue rose เธอได้ก็ได้เดินเข้าไปหาอาญากรอย่างช้าๆแต่แล้วโจรคนหนึ่งก็ได้เข้ายิงใส่เธอจนเธอต้องรีบสร้างกำแพงน้ำแข็งอย่างรวดเร็วแต่ก็ต้านได้ไม่นานน้ำแข็งก็แตก แต่ก็ได้ Wild Tiger มารับกระสุนไว้ด้วยพลัง Hunderd Power ทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย Wild Tiger จึงตัดสินใจกระโดดเข้าหาโจรเพื่อปิดฉาก
แต่ในตอนนั้นพลังดันหมดซะได้
Wild Tiger ที่หมดพลังลงก็ร่วงลงมาจากความสูงที่คนธรรมดาดูก็รู้ว่าไม่น่ารอด
ในวินาทีนั้นเองก็ได้มีร่างปริศนาวิ่งเข้ามารับร่างของ Wild tiger ไว้ในท่าเจ้าสาวแล้วเข้าไปจัดการโจรคนนั้นจนสลบลงไป เหล่าโดรนได้จับภาพไปที่ร่างปริศนานั้นก่อนที่จะเผยใบหน้าใต้หน้ากากออกว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามและทักทายกับกล้องในขณะนั้น
ในตอนนั้นเองโจรคนสุดท้ายก็ได้หยิบของบางอย่างในกระเป๋าเสื้อของเขาก็คือ
ไกอาเมมโมรี่
[Violence]
โจรคนนั้นได้เสียบเมมโมรี่เข้ากับข้อมือซ้ายของตนเองและกลายร่างเป็น Violence Dopant
โดแพนต์ได้ทำการเหวี่ยงลูกตุ๋มในมือไปมาจาเหล่าฮีโร่ต้องหลบอย่างรวดเร็ว
มันได้กระโดดลงจากเรือแล้วรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็วแต่ทันใดนั้นเอง
ก็ได้มีคนขับมอเตอร์ไซด์พุ่งเข้าชนอย่างแรง
เหล่าโดรนได้รีบเข้าไปจับจ้องที่ร่างของคนขับมอเตอร์ไซด์
เขามีร่างสายสองสี ฝั่งซ้ายเป็นสีดำ ฝั่งขวาเป็นสีเขียวพร้อมกับมีผ้าผันคอสีขาวที่พัดไปตามลม
ร่างปริศนานั้นก็คือ
มาส์กไรเดอร์ดับเบิล นักสู้นอกกฏหมายแห่งเมืองฟูโตะนั้นเอง
//Battle ost: W-B-X ~W-Boiled Extreme~
“เอาละ…นับความผิดของแกเอาไว้ซะ” ดับเบิลกล่าวก่อนจะวิ่งเข้าไปต่อสู้กับโดแพนต์ด้วยความเร็วสูงด้วยพลังของสายลมและพลังในการเตะต่อย แต่โดแพนต์ก็ได้ใช้ลูกตุ๋มในมือซ้ายฟาดเข้าไปที่พื้นน้ำแข็งจนแตกกระจาย ระหว่างนี้ดับเบิลก็ได้หยิบไกอาเมโมรี่อันใหม่มาเปลี่ยน
[Trigger]
[Cyclone Trigger]
ร่างของดับเบิลกลายเป็นร่างสีเขียวน้ำเงินแล้วกราดกระสุนลมด้วยความเร็วสูงจนเศษน้ำแข็งที่กระเด็นออกมาแตกกระจาย
ไม่จบแค่นั้นดับเบิลได้ทำการเปลี่ยนเมมโมรี่อีกครั้ง
[Luna]
[Luna Trigger]
ดับเบิลได้เปลี่ยนเป็นร่างสีเหลืองน้ำเงิน แล้วได้เสียบ Trigger memory เข้าที่ปืน
[Trigger Maximum drive]
“Trigger Full Brust” ดับเบิลได้ประกาศชื่อท่าไม่ตายก่อนจะยิงกระสุนพลังงานสีเหลือง 6 ลูกที่จะพุ่งเข้าไปหาเป้าหมายจนโดแพนต์กระเด็นขึ้นไปบนกลางอากาศ ดับเบิลได้ทำการเปลี่ยนเมมโมรี่อีกครั้ง
[Metal]
[Luna Metal]
ดับเบิลกลายเป็นร่างสีเหลืองเงินและใช้กระบองยืดออกกลายเป็นแส้แล้วพุ่งไปจับร่างของโดแพนต์กลางอากาศแล้วเหวี่ยวมันให้เข้ามาหาในตอนนั้นเองดับเบิลก็รีบเปลี่ยนเมมโมรี่อย่างรวดเร็ว
[Heat]
[Heat Metal]
ดับเบิลกลายเป็นร่างสีแดงเงิน แล้วหยิบ Metal memory มาเสียบที่กระบองอย่างรวดเร็ว
[Metal maximum drive]
“Metal Branding” ดับเบิลได้สร้างความร้อนบนกระบองจนเกิดความร้องสูงแล้วฟาดเข้าใส่ร่างของโดแพนต์จนกระเด็นออกไป
โดแพนต์ในตอนนี้อยู่ในสถาวะหมดสถาพ ดับเบิลจึงกลับเข้าสู่ร่างหลัง
[Cyclone Joker]
ดับเบิลกลับสู่ร่างสีเขียวดำ แล้วหยิบ Joker memory มาเสียบที่สล็อตข้างเอว
[Joker maximum drive]
ร่างของดับเบิลลอยตัวขึ้นด้วยแรงลมจากพายุ
“Joker Extreme” ดับเบิลได้พุ่งตัวเข้าไปแตะขาคู่โดยที่ร่างของดับเบิลถูกแบ่งออกเป็นสองซีกก่อนที่เท้าทั้งสองจะถีบใส่โดแพนต์จนกระเด็นลงไปนอนกับพื้นแล้วระเบิดจนร่างของโจรหลุดออกมา พร้อมกับ T2 ไกอาเมมโมรี่ ดับเบิลได้เดินเข้าไปหาเมมโมรี่นั้นแล้วหยิบมันขึ้นมาบดขยี้จนแหลกละเอียด ก่อนจะเดินขึ้นมอเตอร์ไซด์แล้วขับออกไป
//Ost end//
“ไม่ให้หนีหรอกน่า!!!” ฟูวะที่ตามมาที่ทะเลสาบได้หยิบ Shortriser ขึ้นมาแล้วกราดกระสุนใส่ดับเบิลแบบไม่ยั้ง แต่ดับเบิลก็สามารถหลบหลีกได้ทุกนัดแล้วก็เปลี่ยนเมมโมรี่
[Cyclone Metal]
ดับเบิลกลายเป็นร่างสีเขียวเงินแล้วใช้กระบองปัดกระสุนด้วยความรวดเร็วก่อนที่จะขับมอเตอร์ไซด์กระโดดขึ้นไปบนฟ้าแล้วเปลี่ยนเมมโมรี่ด้วยความรวดเร็ว
[Heat Trigger]
ดับเบิลกลายเป็นร่างสีแดงน้ำเงินแล้ว ใช้ปืนยิงกระสุนไฟเผาพื้นน้ำแข็งที่วัลแคนยืนอยู่จนตกน้ำแล้วก็หนีไป
“ให้ตายสิ…คิดว่าแบบนั้นจะหยุดฮีโร่เถื่อนที่มีประสบการณ์ได้รึไง” ยูอะยืนซุมอยู่บนตึกสูงในร่างของ คาเมนไรเดอร์วัลคิรี่ เธอได้หยิบสไนเปอร์ไรเฟิลรุ่นดัดแปลงขึ้นมาเล็งใส่ดับเบิลที่กำลังขี่มอเตอร์ไซด์ไปตามท้องถนน แต่เมื่อเล็งผ่านช่วงตึกไปเพียงช่วงเดียวเท่านั้น
ดับเบิลได้หายไปแล้ว…
ยูอะตกใจมากและรีบกวากสายตาไปรอบๆเพื่อหาตัวของดับเบิล แต่ทันใดนั้นเอง กระสุนปริศนาก็ได้พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง วัลคิรี่จึงรีบหลบด้วยแรงทั้งหมดที่มีแต่ก็ทำให้ปืนไรเฟิลดัดแปลงก็ถูกทำลายไปด้วย
วัลคิรี่มองขึ้นไปบนฟ้า เธอก็พบกับ มอเตอร์ไซด์ที่กางปีกกำลังลอยอยู่เหนือหัวของเธอ และเมื่อวัลคิรี่สังเกตุดีก็พบว่า มันคือมอเตอร์ไซด์ที่ดับเบิลใช้แต่เปลี่ยนชิ้นส่วนด้านหลังจากล้อธรรมดากลายเป็นปืกเครื่องบิน
“ไง….แม่เสื้อตัวน้อย” ดับเบิลได้กล่าวทักทายวัลคิรี่ในร่างสีเหลืองน้ำเงิน
“ตามกฎหมายสมาคมฮีโร่ขอเข้าจับกุมนาย!!!” วัลคิรี่ได้หยิบ Shortriser ขึ้นมาแล้วจ่อไปที่ดับเบิลอย่างรวดเร็ว
แต่ดับเบิลก็ได้ทักวัลคิรี่ขึ้นมาอีกว่า
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสู้กันเองแล้วมั้งพี่สาว ที่ฉันมาที่นี้นะก็เพราะมีคนเรียกฉันมาต่างหากละ” ดับเบิลกล่าว
“งั้นใครเรียกนายมาละ!!!” วัลคิรี่ถาม
“เรื่องนั้น-” ในขณะที่ดับเบิลกำลังจะตอบก็ได้มีร่างหนึ่งวิ่งฝ่าเข้ามานั้นคือ Sky high
“โทดทีที่ขัดจังหวะ แต่ถ้าจะถามอะไรจากเจ้านี้เอาไว้ไปถามในคุกเถอะ!!!” Sky high ได้ปล่อยกระสุนพายุจำนวนมากออกมาจนดับเบิลต้องหลบแม้ดับเบิลจะยิงสวนแต่ก็ทำแค่เพื่อป้องกันตัวแล้วถ่อยไปอย่างช้าๆ ซึ่ง Sky highได้เปรียบกว่ามาก Sky high จึงไม่รอช้ารีบเข้าเผด็จศึกด้วยการปล่อยลูกพลังก้อนใหญ่ใส่ดับเบิลแต่ทันใดนั้นเอง
ก็ได้มีร่างปริศนาพุ่งเข้ามาแล้วใช้หมัดต่อยใส่ท้องของ Sky high จนกระเด็นไป
ร่างปริศนานั้นเป็น หญิงสาวในชุดเกราะรัดรูปสีม่วงและมีเกราะที่แขนและขาพร้อมกับแสงจากดวงจันทร์ที่ส่องลงมาที่ร่างกายของเธอ มันงดงามมากจนทุกคนต้องหยุดมอง
เธอได้ยิงสลิ่งที่แขนพุ่งออกไปแล้วพันที่แขนของดับเบิลไว้ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหาดับเบิลแล้วกระสิบว่า
“ฉันจะช่วยคุณหลบหนีเอง…แต่พรุ่งนี้ฉันจะต้องเจอคุณให้ได้”
“ห๊ะ….อะไรของเธอนะ” ดับเบิลที่กำลังงงเป็นไก่ตาแตกก็ถูกเธอถีบมอเตอร์ไซด์ให้ร่วงลงไป
สาวปริศนาได้เปิดปืนกลเบาที่ซ้อนเอาไว้ในเกราะแขนออกมาแล้วกราดยิงใส่วัลคิรี่จนต้องกระโดดลงจากตึกไป
เธอได้ใช้ใบมีดที่อยู่ในเกราะแขนและขาที่เกี่ยวกับสลิ่งยิงออกไปและโหนไปมาตามตึกล่อความสนใจและก็ได้ผลเหล่าฮีโร่กับตำรวจเริ่มตามเธอมา
“ดูเหมือนจะช่วยเราจริงๆด้วย” โชทาโร่ในร่างดับเบิลพูด
“หรือว่า [ไฟแห่งราธารอส] ก็คือ…” ฟิลิปที่คาดเดาก็หลุดปากออกมา
แม้ทั้งคู่อยากจะช่วยแต่การหลบหนีก็สำคัญกว่าทั้งคู่จึงเลือกที่จะถอนตัวจากพื้นที่
ทางด้านสาวปริศนานั้น ก็ได้หลบเข้ามาที่ตึกร้างในชานเมือง ในที่ที่เธออยู่นั้นมันเงียบสงบมากแต่กลับเธอนั้นไม่ใช่เธอหันหน้าไปทางด้านหลังก็พบกับร่างปริศนาสีดำที่เคยช่วยอารุโตะไว้
“สกัลเองเหรอ…”สาวปริศนาได้ลดท่าต่อสู้ลงเมื่อเห็นร่างปริศนาตรงหน้า
“ขอบคุณละกันที่ช่วยทำตามคำขอบ้าๆของฉันนะ” สกัลตอบ
“ว่าแต่ไอ้สองสีนั้นคือ” สาวปริศนาถาม
“มาส์กไรเดอร์ ดับเบิล ฮีโร่นอกกฎหมายแห่งเมืองฟูโตะผู้มีพลังในการเปลี่ยนไกอาเมมโมรี่ไปตามสถานะการณ์ นอกจากนี้ยังเป็นนักสืบผู้มากไปด้วยฝีมืออีกด้วย” สกัลเริ่มรายประวัติให้ฟัง
“แล้วเจ้านั้นจะช่วยอะไรฉันได้เหรอ” สาวปริศนาถาม
สกัลจึงยื่นแผนที่บางอย่างให้
“นี้มัน?” สาวปริศนางงกับแผนที่ที่พาไปยัง [สำนักงานนักสืบนารุมิ(สาขาชั่วคราว)]
“ที่ๆ มาส์กไรเดอร์ กบดาลอยู่ยังไงละ” สกัลตอบ
“อ้อ…นักสืบสินะ” สาวปริศนาก็เริ่มเข้าใจในสิ่งที่สกัลจะให้ทำแล้ว
แม้จะปล่อยให้ฮีโร่นอกกฎหมายอย่างมาส์กไรเดอร์และสาวปริศนาหนีไปได้ แต่ทางรายการ Hero TV กับได้เรตติ่งในตอนนี้ดีสุดๆแม้ว่านี้จะเป็นตอนจบซีซันแล้วก็ตาม และเช่นทุกซีซัน ทางรายการก็ได้มีการจัดเวทีสรุปผลคะแนนและจัดอันดับประจำซีซันรวมถึงฉลองปิดซีซันที่สนามกีฬาใจกลางเมือง
“เอาละครับทุกท่าน ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันสุดท้ายของรายการ Hero TV ซีซัน 7 เราจะมาเริ่มสรุปคะแนนของแต่ละคนกันคราบบบบบ” พิธีกรงาน กล่าวบนเวทีและมีฮีโร่มากมากมายยืนอยู่บนเวที
และในที่สุดบนจอภาพของเวทีก็ได้เปิดภาพลำดับคะแนน Top 7 ของรายการขึ้นมา
1st Sky High (12,730 points)
2nd Blue Rose (10,992 points)
3rd Fire Emblem (9,326 points)
4th Dragon Kid (9,233 points)
5th Rock Bison (8,989 points)
6th Wild Tiger (8,360 points)
7th Origami Cyclone (480 points)
เหล่าผู้คนที่มาร่วมงานต่างพากันส่งเสียงด้วยความยินดีกับฮีโร่ที่ตัวเองชื่นชอบพร้อมกับเหล่าฮีโร่ที่พากันมาขอบคุณทุกเสียงเชียร์ที่ให้กำลังใจ
“ให้ตายซี้.. จัดงานกันยิ่งใหญ่เชียว ฮีโร่นะเขาไม่มีเวลาว่างมาฉลองอะไรแบบนี้หรอก” โชทาโร่ที่ได้เข้ามาในงานด้วยก็บ่นออกมาเบาๆ
“แต่เมื่อกี้นายก็เปิดตัวแรงใช้ได้นะ ฮิดาริ” เทรุอิ ริว ได้เดินมาหาพร้อมกับถ้วยกาแฟ
“อ้อ เทรุอิ…นายก็มาที่เมืองนี้ด้วยนี่น่า” โชทาโร่พึ่งนึกออกเลยทักไปก่อนจะพูดต่อว่า
“ยังไงเจ้าพวกนั้นก็หยุดโดแพนต์ไม่ได้หรอก ถ้าฉันไม่ทำมีแต่ความเสียหายจะมากขึ้น ยิ่งเป็นฮีโร่ที่ต้องอยู่ใต้เงาสปอนเซอร์ก็แล้วใหญ่ ไม่มีทางหยุดโดแพนต์ได้หรอก”
“แต่นั้นก็ทำให้พวกเราได้รู้แล้วว่าเมื่องแห่งนี้นะมีเรื่องที่ดำมืดซ้อนอยู่ ฉันคงทำอะไรมากไม่ได้ แต่ฉันเชื่อใจพวกนายนะ” เทรุอิกล่าวจนโชทาโร่ถึงกับอึ่งไปเสียววิแต่ระหว่างนั้นเอง
อัลเบิร์ด มาเวลริก อดีตโปรดิวเซอร์ของรายการ Hero TV และที่ปรึกษาของสมาคมฮีโร่ก็ได้ขึ้นเวทีพร้อมกับชายหนุ่มสวมเสื้อสีแดงหน้าตาหล่อเหล้าที่ได้ช่วย Wild Tiger ไว้บนทะเลสาบ
ทุกคนที่มาในงานต่างพากันงงอย่างมาก
“นับเป็นเวลา 30 กว่าปีมาแล้วที่มนุษย์ได้พบกับพลังวิเศษที่เรียกว่า Next ภายหลังจากที่พวกเราได้รับอิสระภาพโดยมาส์กไรเดอร์ พวกเราจึงได้ตั้งสมาคมฮีโร่ขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกแก่เขา” มาเวลริกเริ่มกล่าวบทนำ
โชทาโร่ที่ได้ยินสาเหตุการตั้งสมาคมฮีโร่นั้นก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมา
“นี้เทรุอิ สมาคมฮีโร่นี้…ถูกตั้งขึ้นมา…เพราะแค่เป็นการเคารพ มาส์กไรเดอร์จริงๆนะเหรอ?” โชทาโร่ถาม
“อย่ามาตั้งคำถามกับฉัน…” เทรุอิกล่าว
“นั้นสินะ ถ้าขนาดฟิลิปยังหาไม่เจอก็แปลว่าเรื่องนี้มันแปลกๆแล้วละ” โชทาโร่ที่ตั้งข้อสงสัยไว้ในใจก็กลับมาฟังที่มาเวลริกกล่าวต่อ
“และจัดตั้งรายการ Hero TV ขึ้นมาเพื่อช่วยให้ผู้คนได้รู้ว่าผู้มีพลัง Next ก็สามารถใช้มันเพื่อความถูกต้องได้ และผมก็ขอแนะนำฮีโร่คนใหม่ที่จะมาร่วมกับทางรายการครับ”
มาเวลริกได้ผ่ายมือแล้วได้ให้ชายหนุ่มเสื้อแดงขึ้นมาพูด
“ยินดีที่ได้รู้จักผม บานาบี บรู๊กส์ จูเนียร์ ครับจากนี้ไปผมจะมาทำงานในฐานะฮีโร่ขอฝากตัวด้วยนะครับ” เสียงตบมือดังก้องไปทั่วสนามกีฬาพร้อมกับกล้องมากมายที่กำลังจับจ้องมาที่เขา ก่อนที่มาเวลริกจะขึ้นมาพูดต่อ
“ขอบคุณทุกคนที่ให้การต้อนรับเขาเป็นอย่างดี พลังขอเขาก็คือ Hundred Power ที่จะทำให้เขามีพลังมากขึ้น 100 เท่าในเวลา 5 นาที ใช่ครับพลังคล้ายกับฮีโร่คนหนึ่งในนี้นี้แหละแต่เขาคงไม่ทำเรื่องบ้าบิ่นแบบเขาหรอกครับ”
ทุกคนในงานต่างพากันหัวเราะลั่น จน Wild Tiger ต้องแอบเดินออกจากงานไปอย่างเงียบๆ
“เขายังเป็นมือใหม่อาจมีพลาดไปบ้าง ก็หวังว่าทุกคนจะช่วยสนับสนุนให้เขาได้เป็นฮีโร่อย่างเต็มภาคภูมินะครับ ก็ผมมีเพียงเท่านี้ต่อไปขอเชิญประธานสมาคมฮีโร่ขึ้นกล่าวปิดงานครับ”
มาเวลริกกล่าวจบพร้อมกับลงจากเวทีไป บานาบีก็ตามเขาไปด้วย ผู้ชมต่างปรบมือให้กับเขาและไม่นานนัก ประธานสามคมฮีโร่ โอโนะเดระ โคทาโร่ ก็ได้ขึ้นเวที
“ก็ถือว่าผ่านมาแล้วนะครับกับรายการ Hero TV ซีซัน 7 ผมก็หวังว่าทุกคนจะได้รับความบันเทิงจากรายการของพวกเรานะครับ ก็อย่างอื่นเลยก็ขอขอบคุณเหล่าฮีโร่กรรมการและหน่วยA.I.M.S.ทุกท่านด้วยนะครับที่คอยควบคุมความเสียหายไม่ให้ร้ายแรง และก็….บังเอิญเหมือนกันนะครับ พอดีวันนี้ผมเองก็มีฮีโร่…ที่ทุกคนน่าจะเคยเห็นไปแล้วแหละครับวันนี้ก็จะมาแนะนำเขากันใหม่นะครับ” พูดจบก็ได้มีชายคนหนึ่งใส่สูทเดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับ ฮิวมาเกียสาว ชายสวมสูทได้ขึ้นเวทีแล้วกล่าวทักทาย
“สวัสดีครับ ประธานคนใหม่ของบริษัท ฮิเด็น อิเทลิเจนต์ ฮิเด็น อารุโตะครับ”
วินาทีนั้นทุกคนในงานต่างพากันเงียบลงในทันตา
“อย่างที่ทราบครับ ผมเป็นหลานของประธานคนก่อน ฮิเด็น โคเรโนะสุเกะ ผมได้รับตำแหน่งนี้ต่อตามพินัยกรรมของท่าน จากนี้ไปผมจะเข้ามามีส่วนร่วมในนามของบริษัทเพื่อแก้ไขปัญหาฮิวมาเกียร์ครับ” อารุโตะกล่าว อึซึที่ตามมาก็ได้ยื่นเข็มขัดให้กับอารุโตะ
[Zero-one Driver]
“แปลงร่าง!!!”
อารุโตะได้แปลงร่างเป็น ซีโร่วัน ทำเอาคนในงานต่างตกใจกันอย่างมากโดยเฉพาะฟูวะกับยูอะ
“เจ้านั้นเองเรอะ!!” ฟูวะที่กำลังจะลุกขึ้นก็ได้ยูอะห้ามไว้พร้อมกับยื่นใบอนุญาติของสมาคมที่เพิ่มอัปเดตเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนว่ามีชื่อของ อารุโตะ อยู่จริง
“จากนี้ไปเข้าจะเข้าร่วมรายการ Hero TV ในนามของ ซีโร่วัน จากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะครับ” อารุโตะกล่าว
ทันใดนั้นเองก็ได้มานักข่าวฮิวมาเกียสาวคนหนึ่งขึ้นถาม
“นักแสดงตลกอย่างคุณได้เป็นบริษัทแบบนี้ตกใจบ้างรึเปล่าค่ะ”
อารุโตะจึงคนร่างแล้วเริ่มเล่นมุกโดยมีอึสึคอยส่องไปให้
“ไชนนิ่ง (Shining)!!! ได้เป็นประธานบริษัทแต่ดันเป็นพนักงานใหม่ ชายยยย (Child) ครับอารุโตะมีขำแต่ไม่ขัน!!”
ทั้งงานนั้นเงียบสงัดยกเว้นอยู่คนเดียว….นั้นคือฟูวะ ที่เจ้าตัวกลั่นขำสุดชีวิตก่อนจะลุกไปห้องน้ำ โดยที่ฮิโระที่นั่งอยู่ไม่ไกลแอบยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา จนโซจิที่นั้งข้างๆเริ่มรู้สึกไม่ไดี ส่วนทูอาร์ก็ยังคงตะลึงกับเทคโนโลยีที่ฮิเด็นใช้อยู่อย่างบ้าคลั่ง
ทั้งงานจู่ๆก็เงียบเป็นป่าช้าจนโคทาโร่ต้องเข้ามาพูดเพื่อรีบปิดงาน
“ก-ก็ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปเขาจะมาทำงานเป็นฮีโร่แล้วจากนี้ก็ฝากทุกคนติดตามเขาด้วยนะครับ ก็ไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอปิดรายการ Hero TV ซีซัน7 ณ บัดนี้ เจอกันใหม่ซีซันหน้าแล้วเราจะทำงานจนถึงที่สุดขอบคุณครับ”
ในที่สุดงานแถลงงานก็จบลง ผู้ชมต่างปรบมือก่อนที่จะทยอยกันกลับบ้านของตน
ณ บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ชานเมือง Wild Tiger หรือชื่อจริง คาบูรากิ โคเท็ตสึ เขาได้กลับบ้านมาก่อนงานจะจบแล้วดูงานถ่ายทอดสดแทนพร้อมกับซดเบียร์ไปพลางๆ
“ประธานบริษัทมาเป็นฮีโร่เหรอ….ฮิเด็นเองก็จวนตัวจนต้องมาไม้นี้แล้วสินะ” โคเท็ตสึ บ่นออกมาตอนดูงานถ่ายทอดสดทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของเขาก็มีสายเข้ามาโดยหน้าจอโทรศัพท์นั้นบอกว่าคนที่โทรมาก็คือแม่ของเขานั้นเอง โคเท็ตสึจึงรับสายด้วยความร้อนลน
“คราบบบ แม่จ้า” โทเท็ตสึทำเสียงอ่อนหวานรับสาย
“มาแม่จง แม่จ้าอะไรละ ตาพ่อบ้า” เสียงปลายทางกลับมาเป็นเสียงของเด็กสาวที่ได้โต้กลับมา เธอคือ คาบูรากิ คาเอเดะ ลูกสาวของโคเท็ตสึนั้นเอง โคเท็ตสึจึงต้องทำเสียงอ่อนกว่าเดิมอีก
“อ้าว คาเอเดะ เองเหรอโทษทีนะที่ข่วงนี้ไม่ได้คุยเลยพอดี”
“ติดงานอีกละสิ ช่างแหะพรุ่งนี้หนูจะไปแข่งสเก็ตที่ศูนย์การค้าตอนบ่าย 3 สรุปมาได้นะ” คาเอเดะเริ่มถามถึงนัดที่เคยสัญญาไว้
“อา…ไม่รู้สิ ช่วงนี้สถาณการ์ในเมืองมันไม่ค่อยปกติ ถึงจะไม่ติดงานพ่อก็อาจจะไม่ยืนยันได้นะว่าจะไปได้นะ เพื่อใจไว้หน่อยแล้วกัน” โคเท็ตสึตอบ
“งั้นเหรอ…งั้นไม่ต้องมาก็ได้นะ” คาเอเดะกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
“แต่ก็นะ…พ่อจะพยายามไปให้ได้เลย ถ้างานไม่ด่วนมาก พ่อจะลามาให้ได้!!!” โคเท็ตสึตอบเรียกความมั่นใจคาเอเดะอีกครั้ง
“งั้นหนูจะรอนะ…ถ้ามาไม่ได้ก็ติดต่อมาแล้วกัน” คาเอเดะยังคงตอบด้วยเสียงเศร้าสร้อยแล้วก็ยกสายให้อีกคนพูดนั้นคือ แม่ของโคเท็ตสึนั้นเอง
“นี้แกพูดแบบนั้นกับ คาเอเดะ ไปเธอซึมไปเลยนะ”
“ไม่ละครับ บางทีแบบนี้อาจดีกับเธอก็ได้ ถ้าผมรับปากแบบ 100 เปอร์เซนต์ ผมคงทำเธอผิดหวังแน่ๆ” โคเท็ตสึตอบ
“ก็จริงละนะ…แต่ก็อย่าฝืนเกินตัวละ วันนี้ก็เอาอีกแล้วใช่ไหม? พังสะพานซะเละเลย” แม่ของโคเท็ตสึเริ่มดุ แต่โคเท็ตสึก็ทำได้แต่ยิ้มเจือนๆเพราะหาคำแก้ตัวไม่ออก
“ก็แม่ครับถ้าผมเป็นอะไรก็ตามที่สัญญานะครับ” โคเท็ตสึกล่าว
“อย่าพูดเป็นลางสิ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก คิดเรื่องว่าเมื่อไหร่แกจะเลิกทำงานนี้จะดีกว่า ลาละ” แม่ของโคเท็ตสึวางสายไป
โคเท็ตสึเริ่มคิดแล้วก็ลงไปนอนบนโซฟาแล้วริ่มนึกถึงเรื่องในอดีต
เมื่อสมัยโคเท็ตสึยังเด็ก เขาได้ค้นพบว่าเขามีพลัง Next แต่ในช่วงเวลานั้นผู้มีพลัง Next ยังไม่เป็นที่ยอมรับนัก เขาจึงโดนดูถูกและกลั่นแกล้งมาตลอดจนกระทั้งเมื่อตอนเขาอายุ 10 ขวบ วันหนึ่งเขากับครอบครัวได้ไปธนาคารและในวันนั้นเองก็ได้เกิดการปล้นธนาคารขึ้น แม้จะมีฮีโร่ในตำนานของช่วงเวลานั้นอย่างเลเจนด์มาช่วยแต่เขาก็ถูกจับเป็นตัวประกัน โคเท็ตสึจึงปลดปล่อยพลัง Next ออกมาแล้วจับโจรที่ล็อกตัวเขาไว้เหวี่ยงกระเด็นออกไป ในวินาทีนั้นเขากลัวพลังของตัวเองสุดขีดแต่ก็ได้เลเจนด์มาช่วยปลอบจนใจเย็นลงและเขาได้สัญญากับเลเจนด์ว่า เขาจะเป็นฮีโร่แบบเลเจนด์ให้ได้
ตัดกลับมาปัจจุบัน โคเท็ตสึได้คิดกับตัวเองอีกครั้งว่าเขาสมควรที่จะเลิกในการเป็นฮีโร่แล้วหรือไม่
ณ กลางดึก สำนักงานนักสืบ นารุมิ (สาขาชั่วคราว)
โชทาโร่ ฟิลิป และ เทรุอิ ได้มาที่ห้องรับแขกแล้วนั่งคุยกันถึงเรื่องราวทั้งหมด
“สรุปว่า ฮิโนะ เอย์จิ เองก็ได้เบาะแสว่ามีการผลิต T2 ไกอาเมมโมรี่ ในเมืองนี้เหมือนกันสินะ” เทรุอิเริ่มสรุปเรื่องราวในฝั่งของโชทาโร่
“อา…แต่ว่าโรงงานที่ว่านะพังไปแล้วละ โดยฝีมือสองคนนี้” โชทาโร่กล่าพร้อมกับโชว์ภาพการต่อสู้ของเบมเลอร์และโฮโรบิที่กล้องในเบิร์ทเก็บมาได้ขึ้นมา
เทรุอิหยิบรูปขึ้นมาดูอย่างถี่ถ้วน แล้วสังเกตสิ่งที่อยู่ในเข็มขัดของโฮโรบิ มันคือ โปรไกตส์คีย์แบบเดียวกับที่ ซีโร่วัน ใช้
“นี้ฮิดาริ ไอ้เจ้าตัวสีม่วงนี้…ใช้ตลับแบบเดียวเจ้าประธานฮิเด็นเลย คิดว่ามีความเกี่ยวข้องกันรึเปล่า” เทรุอิถาม
“นั้นสิน้า น่าสงสัยจริงๆ อ้อ!!แล้วก็มีภาพนี้ด้วย” โชทาโร่ยื่นภาพอีกภาพหนึ่งให้แม้จะไม่ค่อยชัดแต่มันคือภาพของมนุษย์ร่างกายสีดำที่มีแสงสีฟ้าตรงหน้าอกส่องออกมา
“นี้มัน…คงไม่ใช่หรอกนะ” เทรุอิแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเพราะมันคล้ายกับฮีโร่ในตำนานที่ใครๆก็รู้จักจนแทบจะนึกไปแล้วว่ามันคือเรื่องหลอกเด็ก
อุลตร้าแมน
“นี้มันหมายความว่าไงกัน?” เทรุอิตอนนี้งงเป็นไก่ตาแตกว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงมีคนสวมชุดอุลตร้าแมนออกมาต่อสู้กับเจ้าพวกนั้น
“ดูเหมือนมีอะไรแปลๆไหม? ทั้งพวกเรา พวกของเอย์จิ รวมถึงอุลตร้าแมน…ตัวปลอมละมั้ง? เหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังจะเชิญให้ฮีโร่ทั่วโลกมาที่เมืองนี้กันหมดเลย” โชทาโร่เริ่มกล่าวถึงประเด็นที่เขาเป็นห่วง
“ถ้าเกิดฮีโร่ในเมืองทั้งที่ลงสมาคมกับอยู่นอกสมาคมมีมากขึ้นแบบนี้จะเกิด สงครามฮีโร่ขึ้นในเร็ววันสินะ” เทรุอิเริ่มจับทางได้แล้ว
“อืม เพราะฉะนั้นพวกเราจึงต้องจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดก่อนที่จะมีฮีโร่หน้าใหม่ปรากฎตัวในเมืองนี้มากเกินไป ผมจึงอยากให้ เทรุอิ ช่วยหาอะไรให้หน่อย” ฟิลิปกล่าว
“อะไรละ?” เทรุอิถาม
“ช่วยไปหาบันทึก คดีสิ่งมีชีวิตสามารถไม่ระบุประเภท เมื่อ 30 ปีก่อนมาหน่อยได้ไหม” ฟิลิปตอบ
“เข้าใจละ ฉันพอจะรู้จักตำรวจที่รู้เรื่องนั้นอยู่แต่คงจะต้องกลับไปที่สน.ฟูโตะอีกสักครั้งเพื่อเอาเอกสารก่อนนะ” เทรุอิตอบ
“เข้าใจละฝากด้วย” โชทาโร่กล่าว
หลังคุยกันเสร็จ เทรุอิก็กลับไปที่พักของตน และคืนนี้ก็ผ่านไป
แสงวันใหม่ได้มาเยื่อน โชทาโร่ได้เดินออกมายืนเส้นยืดสายเหมือนทุกที แต่ว่าในตอนนั้นก็ได้มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น โชทาโร่ค่อยๆเดินเข้าไปเปิดประตูก็พบกับร่างของสาวปริศนาที่มายืนอยู่หน้าเขา
โชทาโร่ถึงกับรีบปิดประตูและล็อกโดยทันที
“นี้…มาส์กไรเดอร์ ฉันมาตามนัดแล้วไงเปิดประตูสิ ฉันอุสาห์ช่วยพวกนายแล้ว ตอบแทนซะหน่อยสิ” สาวปริศนาได้เคาะประตูแล้วขอให้โชทาโร่เปิดประตู แต่ก็เงียบสนิท
“ช่วยไม่ได้…” เธอตัดสินใจต่อยทะลุประตูก่อนจะเงื่อมมือไปปิดกลอนให้ปลดล็อกแล้วเปิดประตูออกมา โชทาโร่ที่หลบอยู่หลังโซฟาถึงกับหน้าถอดสีเมื่อเธอพังประตูเข้ามา
“ฟังนะ ฉันมาที่นี้เพราะได้ยินว่าพวกนายเป็นคู่หูไรเดอร์ที่เจ๋งมากและฉันเชื่อว่าพวกนายจะช่วยฉันได้ก็เลย…” สาวปริศนาได้ถอนหายใจเพราะคิดว่าคงล้มเหลว ทันใดนั้นเองฟิลิปที่อยู่อีกห้องก็ได้เดินเข้ามาแล้วพูดขึ้นว่า
“นี้โชทาโร่…แต่เช้าเลย มีอะไร…เหรอ” ฟิลิปเข้าใจสถานะการณ์ในทันทีเจ้าตัวเลยเริ่มตีหน้ามึน
“นี้เธอ…เป็นใครนะ” ฟิลิปถาม
“อ้อ…เอ้อฉัน…” สาวปริศนาตัดสินใจปปลดการใช้งานชุดออกแล้วคืนร่าง เป็นสาวผมสั้นสีดำ สวมเสื้อกันหนาวสีขาวนัย์ตาสีน้ำตาลท่าทางเขินอายนิดหน่อย
“ฉันชื่อ มาริ โฮมุระ ค่ะ” สาวปริศนาตอบ
“ชื่อนี้มัน…นักโทษหนีคดี…” ฟิลิปที่จำชื่อนี้ตอนหาข้อมูลที่เกี่ยวกับเมือง Sterbild นึกออกในทันที
“สมกับที่เป็นคนที่มีพลังห้องสมุดโลกรู้แล้วสินะว่าฉันเป็นใคร โซโนะซากิ ไรโตะ” มาริกล่าว ฟิลิปถึงกับตกใจไปเล็กน้อย
“จริงๆด้วย…คุณคือ…[ไฟแห่งธาราทอส]สินะ” ฟิลิปพูดออกมา
“ห๊ะ ไม่ใช่หรอก…แต่คนที่ร่วมมือกับเจ้านั้นให้ที่อยู่นี้มาเพราะคิดว่าพวกนายจะช่วยฉันได้” มาริยื่นแผนที่ที่ได้มาเมื่อคืนก่อนให้ฟิลิป ฟิลิปถึงกับตกใจเพราะนอกจากแผนที่แล้วยังมีข้อมูลแผนพังของบ้านอย่างละเอียดจนน่ากลัว
“โชทาโร่…ฉันว่า…เรื่องนี้…คงไม่ได้เล็กๆอย่างที่คิดแล้วละ” ฟิลิปพูดด้วยเสียงสั้นๆจนโชทาโร่ต้องลุกออกมาดูแผนที่ก่อนจะหน้าถอดสีไปตามกัน
ผ่านไปสักพักทั้งสาคนก้ได้มานั่งจับเข่าคุยกันแล้วสรุปเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น
“มาริ โฮมุระ อดีตนักศึกษาคณะเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ถูกจับข้อหาก่อเหตุเผลิงไหม้ฆ่าครอบครัวของตัวเอง เหตุจูงใจคือ ความกดดันจากทางบ้าน และโดนโทษตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต นี้คือที่ฉันหามาละเอียดแล้วละ” ฟิลิปได้สรุปข้อมูลทั้งหมดเสร็จในไม่กี่บรรณทัด
“แต่เธอก็คงจะยืนกรานสินะว่าเธอถูกใส่ร้ายนะ” โชทาโร่กล่าวเสริม
“อืม…ฉันไม่ได้ทำผิดแท้ๆแต่ต้องมาเข้าคุกมันดูไม่แฟร์ใช่ไหมละ เพราะงั้น-” มาริที่กำลังจะกล่าวขอแต่โชทาโร่กล่าวปฏิเสธในทันควัน
“แม้เธอจะไม่ได้ทำผิดจริง แต่เรื่องที่เธอแหกคุกมาก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน เพราะงั้นฉันก็จะไม่รับงานนี้” โชทาโร่ได้กล่าวอย่างหนักแน่นก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป
“ว่าแต่มาริจัง เธอไปได้ชุดเกราะนั้นมาจากไหนเหรอ แล้วทำไมเธอถึงแหกคุกได้ละ” ฟิลิปถาม
“ในคืนหนึ่งได้มีคนให้เจ้านี้มานะ” มาริตอบพร้อมกับยกสร้อยที่มีผลึกสีดำขึ้นมา
“มันถูกแอบส่งมาพร้อมกับอาหารนักโทษพร้อมกับจดหมายที่เขียนว่า [ไฟแห่งธาราทอส] แล้วจู่ๆก็เกิดระเบิดขึ้นฉันจึงหลบหนีออกมาแล้วคอยรับข่าวสารจากสายของ [ไฟแห่งธาราทอส] จนมาถึงที่นี้ไงะ” มาริกล่าวต่อจนฟิลิปลุกขึ้น
“รอที่นี้สักพักนะ” ฟิลิปลุกขึ้นแล้วเดินไปยังโกดังลับที่โชทาโร่ยืนดูภาพทั้งหมดจากกล้องวงจรปิดอยู่
“คิดว่าเธอไม่ได้โกหกนะ แล้วนายจะว่าไงละโชทาโร่” ฟิลิปถาม
“[ไฟแห่งธาราทอส]ดูท่าจะไม่ใช่นายจ้างธรรมดาแล้วสิ แล้วเราเองก็ติดกับมันไปเรียบร้อย คงมีแต่ต้องทำต่อไปเท่านั้นแหละ” โชทาโร่ตอบแล้วตัดสินใจเดินออกไปหา มาริอีกครั้งเพื่อรับงาน
“ฉันจะรับคำขอของเธอก็ได้ แต่ว่า อย่างก่อเรื่องเกินเหตุละ” โชทาโร่กล่าว
ในตัวเมือง เวลา 10.00
โคเท็ตสึได้เดินออกมาจากบ้านเพื่อไปยังสถานที่ทำงานใหม่ของเขานั้นคือ บริษัท Apollon Media ที่เป็นสปอนเซอร์หลักของรายการ Hero TV
เมื่อตอนเช้า
ระหว่างที่โคเท็ตสึกำลังจะออกไปที่ทำงานตามปกติก็ได้คนมารอเขาที่หน้าบ้านเขาก็คือ เบ็น แจ็คสัน เจ้าของบริษัทที่เป็นสปอนเซอร์ของ Wild tiger นั่นเอง
"อ้าวลุงเบ็น...มาแต่เช้าเลยมีอะไรเหรอครับ" โคเท็ตสึถาม
เบ็นจึงเริ่มเล่าให้ฟังว่าตอนนี้บริษัทของเขาได้ถูก Take over ไปเรียบร้อยแล้วโดย Apollon Media
โคเท็ตสึเข้าใจดีจึงทำได้แต่ขอโทษที่เขาก่อเรื่องมาตลอด
"ไม่เป็นไรหรอก ฉันเข้าใจดีว่าเธอทำทั้งหมดไปเพื่ออะไร เอ้านี้ที่ทำงานใหม่ของเธอไปสนิทกับเจ้านายไว้จะดีกว่านะ" เบ็นได้ยื่นนามบัตรให้กับโคเท็ตสึ
"แล้วลุงเบ็นจะเอาไงต่อเหรอครับ" โคเท็ตสึถาม
"ก็ทำงานใหม่นะสิ นี้ก็จะได้เวลาแล้ว" เบ็นตอบก่อนจะเดินออกจากหน้าบ้านไปที่รถแท็กซี่คนหนึ่งแล้วหันมา
"สนใจลองใช้ไหม?" เบ็นที่ตอนนี้กลายเป็นคนขับแท็กซี่ได้ถาม โคเท็ตสึจึงตอบตกลงไป เบ็นจึงพาเข้ามายังตึกสำนักงาน Apollon media ในไม่นาน
โคเท็ตสึได้เข้ามาพบกับทางผู้บริการของ Apolon media อเล็กซานเดอร์ ลอย์ด
“เธอเองสินะ Wild Tiger…เพราะเป็น โค(虎 คันจิที่อ่านได้อีกแบบว่า โทระ แปลว่าเสือ)ก็เลยเป็น Tiger สินะ จากนี้ไปเธอจะต้องมาทำงานให้กับพวกเรา Apollon media เพื่อผลประกอบการทางธุรกิจละนะ” ลอย์ดกล่าว
“ครับผม!!!” โคเท็ตสึเกร็งอย่างสุดขั้วเมื่อเห็นท่าทีของชายคนนี้
“เอาละก่อนอื่นเริ่มจากดูนี้ก่อน” ลอย์ดได้เปิดภาพการต่อสู้ของดับเบิลเมื่อวันก่อนขึ้นมา
“ฉันได้ข้อมูลมาว่าเจ้ามาส์กไรเดอร์เก๊นี้นะ แปลงร่างโดยคนสองคนนะ ฉันก็เลยเกิดปิ้งไอเดียขึ้นได้…จากนี้ไปเธอจะได้รับชุดสูทใหม่และต้องทำงานร่วมกับฮีโร่อีกคนในฐานะฮีโร่คู่หู” ลอย์ดกล่าวจนโคเท็ตสึเหวอรับประทาน
“ด-เดียวสิครับ ถึงจะเป็นคำสั่งแต่ว่าจู่ๆจะ-”
“งั้นก็ไล่เธอออกละนะ” ลอย์ดกล่าวสั้นๆ
“ทำครับผม!!!” โคเท็ตสึตอบอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเอง สัญาญานเตือนภัยก็ดังขึ้น
“ก็ตามนั้นไปทำงานซะ” ลอย์ดกล่าวอย่างใจเย็น โคเท็ตสึ จึงรีบวิ่งออกไปโดยมี รปภ.คอยนำทางเขาไปที่แผนกฮีโร่ ที่แห่งนั้นโคเท็ตสึได้พบกับชุดสูทใหม่ของเขา มันมีเกราะทั่วร่างสีขาวและมีส่วนที่เป็นเหมือนคริสตัลสีเขียวอยู่บนร่าง และข้างๆนั้นเองก็มีมอเตอร์ไซด์สีเดียวกันจอดอยู่
“นี้นะเหรอ…” โคเท็ตสึตกตะลึง ในตอนนั้นเองก็ได้มีชายร่างเตี้ยผิวคล้ำเดินเข้ามาหาเขา เขาพูดเสียงเบามากจนโคเท็ตึต้องเขยิบหูเข้าไปใกล้ๆ
“เธอคือฮีโร่ใหม่สินะ เดียวฉันจะสอนวิธีใส่ให้ตามมา” ชายคนนั้นได้เรียกให้โคเท็ตสึตามไป
โคเท็ตสึได้ทำตามที่ชายคนนั้นบอกทุกอย่างอย่างการใส่ชุดสูทรัดรูปแล้วก็มายืนอยู่บนแท่นบางอย่างที่มีราวจับให้เขายึดเอาไว้ ก่อนที่ชายปริศนาจะกดปุ่มบางอย่างให้ชุดเกราะพุ่งเข้ามาสวมที่ร่างเขาจนเสร็จสิ้นและกลายเป็น Wild tiger โฉมใหม่
“โห…เจ๋งดีแหะ” Wild Tiger ได้ขึ้นมอเตอร์ไซด์และขับออกไป
ณ ใจกลางเมือง
โชทาโร่และมาริได้ออกมาข้างนอกเมืองเพื่อซื้อของที่จำเป็นสำหรับเย็นนี้
ทั้งสองเดินไปตามชั้นวางสินค้าในห้าง โดยมาริได้สวมแว่นสายตาและสวมหูฟังเกมมิ่งเพื่อกลบทรงผม
“อ้อ จริงสิจะว่าไป ทุกวันนี้เธอมีที่กบดาล…เอ้อ…บ้านของเธอรึเปล่า” โชทาโร่ถาม
“ไม่มีหรอก ส่วนใหญ่ก็ตามท่อระบายน้ำหรือตรอกแคบๆ ดีหน่อยก็แอบนอนตามบ้านคนอื่นตอนไม่อยู่เท่านั้นแหละ” มาริตอบ
“เหรอ…งั้นจนกว่าเรื่องจะจบมาอยู่มาสำนักงานนักสืบก่อนไหมละ เห็นว่ายังมีห้องเหลือพอตัวเลย” โชทาโร่กล่าว มาริที่ได้ยินก็ถึงกับหันมามอง
“แต่ก่อนอื่นเลย…ห้ามไปก่อเรื่องโดยไม่บอกฉันแล้วกันไม่งั้นฉันก็…”โชทาโร่กล่าว
“งั้นตกลง” มาริกล่าว โชทาโร่จึงยิ้มออกมา
ผ่านไปสักพักทั้งสองคนได้มานั่งพักที่ร้านกาแฟ โดยที่โชทาโร่ก็กำลังจิบกาแฟอยู่
“จะว่าไปในวันที่เธอถูกจับเรื่องมันเป็นยังไงเหรอ…” โชทาโร่ถาม
“เรื่องมันเป็นแบบนี้…” มาริเริ่มเล่าให้ฟัง
ในวันนั้น มาริที่กำลังทะเลาะกับพ่อแม่ของเธอเรื่องที่เธอกำลังจะดรอปคลาสอยู่แต่พ่อของเธอนั้นไม่เห็นด้วย พ่อของเธอคาดหวังให้มาริได้ทำงานที่ฮิเด็น แต่เธอไม่ต้องการแบบนั้นเธอจึงเริ่มมีปากเสียงกับพ่อ แต่ทันใดนั้นเองสติของเธอก็หมดลง พอได้สติขึ้นมาเธอก็พบว่าเธอกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีไปโดยปริยาย ทางตำรวจให้การว่าเห็นพ่อของเธอตายจากการใช้มีดแท่งเข้าหลายจุด ก่อนจะเกิดเหตุเผาบ้านจนแม่ของเธอตายในกองเผลิง เมื่อตรวจลายนิ้วมือจากกมีดแล้วพบว่ามีแค่มาริเท่านั้นทางศาลจึงตัดสินให้มาริรับโทษจำคุกตลอดชีวิต
“เสียใจเรื่องพ่อกับแม่ของเธอด้วย” โชทาโร่กล่าว
“ไม่หรอก ฉันเองก็มั่นใจว่าฉันไม่ทำเรื่องอะไรแบบนั้นหรอก มันต้องเป็นฝีมือของพวกอาญากรที่สามารถสะกดจิตหรือมีพลังจิต อะไรแบบนั้นแน่” มาริกล่าว
“เหรอ…งั้น เธอก็มาหาถูกคนแล้วละ ถึงฉันจะเป็นมาสก์ไรเดอร์ แต่ก็เป็นนักสืบน้า” โชทาโร่กล่าว
ทันใดนั้นเองก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นเมื่อโชทาโร่รีบหยิบสแตคโฟนขึ้นมาเพื่อดูข่าวสาร ก็เห็นภาพของรูปปั้นหินยักษ์ที่กำลังจะทำลายสะพานข้ามแม่น้ำ
โชทาโร่รีบติดต่อฟิลิปในทันที
“เห็นข่าวแล้วสินะ…ฉันมีเรื่องให้ช่วยหน่อย Keyword คือ รูปปั้นหิน” โชทาโร่รีบกล่าวอย่างรวดเร็ว ฟิลิปจึงวางทุกอย่างแล้วเข้าสู่โลกแห่งหนังสือ
ในโลกแห่งนี้ฟิลิปจะเข้าถึงข้อมูลได้ทุกอย่างผ่าน Keyword ที่มีเพื่อสาวไปยังคนร้ายคราวนี้เช่นกัน ฟิลิปได้หาข้อมูลรูปปั้นหินที่อยู่ในข่าว
“รูปปั้นหินที่อยู่ในข่าวคือ รูปปั้น Steel Hammer ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปปั้นขึ้นชื่อของ-”
“จ้าๆ ที่ฉันให้หานะคือสาเหตุที่มันขยับ” โชทาโร่ห้ามฟิลิปก่อนที่จะเล่าประวัติของรูปปั้น
“เรื่องสาเหตุนะ ข้อมูลไม่พอ ต้องมี Keyword ที่เฉพาะกว่านี้” ฟิลิปตอบ
โชทาโร่ที่คิดหนักจึงเริ่มพยายามหานึกเบาะแสให้ไว โชทาโร่นั้นคิดแล้วคิดอีกจนเขาหันไปมองหน้ามาริจนนึกคำพูดของเธอขึ้นได้
[มันต้องเป็นฝีมือของพวกอาญากรที่สามารถสะกดจิตหรือมีพลังจิต อะไรแบบนั้นแน่]
“ใช่แล้ว…มาริ!” โชทาโร่กล่าว
“คะ?” มาริตอบกลับด้วยความตกใจ
“ขอบใจมาก” โชทาโร่กล่าว มาริก็ยิ่งงงเข้าไปอีก
“ฟิลิป Keyword ต่อไปคือ [พลังจิต]” โชทาโร่บอกฟิลิปไป
“ถึงจะบอกว่าพลัง Next มันจะทำแบบนั้นได้ก็เถอะ…แต่คนที่มีพลังจิตขนาดควบคุมสิ่งของนะมันเยอะนะ…” ฟิลิปตอบ
โชทาโรครุณคิดไปพักหนึ่งก่อจะเริ่มสังเกตว่า ถ้าจะควบคุมสิ่งของทำไมถึงเลือกรูปปั้นกัน…จู่ๆโชทาโรก็สังเกตว่า การขยับของรูปปั้นสมจริงเกินไปแม้จะมาเมืองนี้ไม่ได้นานแต่รูปปั้นที่ถูกออกแบบท่านมาตั้งแต่ต้นไม่มีทางขยับแบบนั้นได้แน่ เขาจึงลองวัดดวงแล้วตอบฟิลิปว่า
“Keyword ต่อไปคือ [รูปปั้นสิ่งมีชีวิต]” โชทาโร่ตอบ และแล้วฟิลิปก็ได้คำตอบซึ่งเขาก็ตกตะลึงผิดคาด
ณ กลางสะพานข้ามแม่น้ำ
ทามกลางการจราจรที่แสนวุ่นวายจากรถที่กำลังหนีตายได้มีมอเตอร์ไซด์สีเขียวที่ขับขี่ผ่านรถต่างๆได้อย่างรวดเร็ว
และแล้วเจ้าของรถก็ได้มาถึงที่หมายนั้นคือเบื่องหน้าของรูปปั้นหินขนาดยักษ์ที่กำลังจะเอาค้อนขนาดยักษ์ทำลายสะพาน
คนที่ขับมอเตอร์ไซด์นั้นก็คือ Wild Tiger ที่ได้สวมชุดเกราะใหม่นั้นเอง
“นั้นสินะเป้าหมาย…ว่าแต่คู่หูของฉันอยู่ไหนกันน้า” Wild Tiger หันไปมองรอบๆก่อนจะมีร่างหนึ่งร่วงลงมาจากรูปปั้น นั้นคือ RockBison
“รู้งี้มีคู่หูไว้ก็ดีแหะ” Bisonกล่าว
“ห๊า! นายเนี่ยนะ” โคเท็ตสึถึงกับตกใจ
“ห๊ะ อ้อ โคเท็ตสึเองเหรอ ชุดใหม่สวยดีหนิ แต่ฉันว่าคู่หูที่นายว่านะหมายถึงเจ้านั้นรึเปล่า?” Bison กล่าว แล้วชี้ไปที่คนที่กำลังขับมอเตอร์ไซด์มา
มอเตอร์ไซด์สีแดงที่ได้ขับมาเผยให้เห็นร่างของคนที่กำลังสวมชุดเกราะสีแดงที่มองให้มาแต่ไกลก็ชัดเจนว่ามันออกแบบมาให้คู่กับชุด Wilde Tiger ตัวใหม่ของโคเท็ตสึชัดๆ ก่อนที่มอเตอร์ไซด์จะจอดใกล้ๆพวกโคเท็ตสึและเผยให้เห็นใบหน้าของคนขับนั้นคือ บานาบี บรู๊กส์ จูเนียร์ ฮีโร่คนใหม่แห่งเมือง SternBild นั้นเอง
“ไปกันได้แล้ว คุณลุง” บานาบี กล่าว
ถึงจะพูดแบบนั้นแม้ทั้งคู่จะบอกว่าเป็นคู่หูแต่คิดจริงๆเหรอว่าคนต่างวัยสองคนจู่ๆจะสามารถทำงานร่วมกันแน่นอนย่อมไม่มีทางเป็นไปได้
โคเท็ตสึได้ตัดสินใจพลาดโดยการใช้งานสลิงพุ่งเข้าไปโจมตีรูปปั้นหินโดยไม่มีแบบแผนจนทำให้สลิงยิงพลาดไปโดนบานาบีที่กระโดดหมายจะเข้าไปสำรวจรูปปั้นก่อนที่ทั้งคู่จะโดนสลิงพันกันจนตัวติดกลายเป็นเสียงหัวเราะให้กับคนดูในตอนนั้น ท้ายที่สุดทั้งสองก็โดนเรียกตัวกลับไปยัง Apolon media
“ให้ตายสิ ไม่คิดว่าจะเป็นขนาดนี้เลยน้า” ลอย์ดพูดด้วยความผิดหวัง
“ขอพูดด้วยความจริงใจนะครับ ผมคงร่วมงานกับเจ้านี้ไม่ได้หรอก” โคเท็ตสึกล่าว
“ก็กะแล้วว่าเป็นแบบนั้นเพราะผมเองก็ไม่เชื่อใจเขาเหมือนกันครับ” บานาบีกล่าว
“ฉันเข้าใจความรู้สึกของทั้งสองคนนะแต่ในเมื่อทางเบื่องบนสั่งมาก็คงต้องให้เป็นไปตามนั้นก่อนละนะ” ลอย์ด กล่าว
“งั้นผมจะไปเตรียมตัวนะครับ” บานาบีกล่าวแล้วออกจากห้องไป
ทั้งห้องอยู่ในความเงียบสงัด
“เอ้อ คุณลอย์ดครับ…”โคเท็ตสึถาม
ลอย์ดได้หันหน้ามา
“ทำไมบานาบีเขาถึงอยากไปฮีโร่เหรอครับ…” โคเท็ตสึถามด้วยความจริงจัง
“เรื่องนั้นทำไมฉันต้องรู้ละ ในเมื่อท่านมาเวลริกเป็นคนแนะนำมาฉันก็แค่หางานให้เท่านั้น บางทีอาจแค่ชื่อเสียงละมั้ง” ลอย์ดตอบ
แม้จะไม่ได้คำตอบชัดเจนแต่โคเท็ตสึก็ได้แต่กำหมัดแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
ในหัวของโคเท็ตสึนั้นทั้งสับสนและโกรธจัด ถึงเป้าหมายการเป็นฮีโร่ที่นับวันยิ่งหมดความหมายขึ้นไปทุกที เขาย้อนกลับไปสมัยเขายังเด็กที่เขาเป็น Next ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างเขาได้ถูกช่วยไว้โดยเลเจนด์ที่ได้มอบความหวังในการใช้ชีวิตจนมาเป็นฮีโร่ได้ดังทุกวันนี้ อย่างไรก็ดีเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปความเป็นฮีโร่ที่เขาเคยมองว่าเป็นความหวังของผู้คนก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นเพียงแค่สินค้าที่คอยโฆษณาถึงความยิ่งใหญ่ของแบรน์เท่านั้นสิ่งที่เขาโกรธคือ…เขาไม่สามารถเป็นแสงแห่งความหวังได้อีกต่อไป ไม่แม้แต่กับลูกสาวของเขาเอง
ทันใดนั้นเองรูปปั้นหินก็เริ่มขยับอีกครั้งคราวนี้มันได้เปลี่ยนทิศทางเดินไปยังเขต 3 โคเท็ตสึที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบไปสวมชุดเกราะ Wild Tiger แล้ววิ่งไปที่ลานจอดรถแต่เมื่อไปถึงก็พบว่าบานาบีได้ออกไปก่อนแล้วโคเท็ตสึจึงรีบขับรถออกไป
เมื่อไปถึงก็พบว่ารูปปั้นได้หยุดขยับไปอีกแล้ว
“อะไรกันเนี่ย…” โคเท็ตสึงงด้วยความสงสัย
“มาช้าจังนะครับ” บานาบีที่มาก่อนได้เดินมาหาก่อนจะยื่นแท็บเล็ตที่มีภาพเหตุการณ์ก่อนหน้าให้ดูมันคือรูปภาพของรูปปั้นหินที่กำลังเดินไปตามถนนของเมือง เหล่าฮีโร่พยายามใช้พลังในการหยุดยั้งแต่ก็ไร้ผล
ในจังหวะนั้นเองโคเท็ตสึก็ได้เห็นบางอย่างที่แปลกๆ เขาได้หยุดภาพของรูปปั้นหินแล้วซูมเข้าไปถึงแม้ภาะจะไม่ชัดแต่ก็พอเดาได้ว่ามีคนอยู่บนรูปปั้นแถมเป็นเด็กด้วย
“เฮ…นี้มันเด็กไม่ใช่เหรอ” โคเท็ตสึถาม
“อืม…น่าสนใจแต่เมื่อกี้พวกเราก็ตรวจสอบรูปปั้นแล้วก็ไม่เห็นเด็กนะครับ ไม่แน่นะครับคนร้ายอาจเป็นเด็กคนนั้นก็ได้นะครับ” บานาบีกล่าว
“ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้อง-” โคเท็ตสึที่กำลังจะวิ่งออกไปก็ได้ถูกบานาบีคว้าตัวไว้
“คิดจะทำอะไรบ้าๆอีกครับ”บานาบีถาม
“ถึงจะเป็นเด็กแต่อีกฝ่ายก็เป็น Next ที่อาจมีพลังควบคุมสิ่งของถ้าอีกฝ่ายมีเจตนาร้าย เราต้อง-”ยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นจากหอศิลป์แห่งชาติ รูปปั้นสิงโตจากหอศิลป์ได้ออกมามีชีวิตและกำลังออกอาละวาดโดยมีเด็กนั่งอยู่บนหลังสิงโต
ด้วยการจราจรที่คิดขัดจนใช้มอเตอร์ไซด์ไม่ได้
โคเท็ตสึที่เห็นจึงไม่รีรอใช้พลัง Hundred Power วิ่งตามไป
ณ อีกด้านของเมือง SternBild
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีเด็กชายที่กำลังดูรายการ Hero TV อย่างใจจดใจจ่อ
ในขณะเดียวกันก็ได้มีเสียงปริศนาดังขึ้นมาจากในตรอก
“คุณโฮคุโตะ ผมมีงานให้คุณครับ” เสียผู้ชายกล่าว
“แต่แบบนี้จะไม่เปิดตัวอลังเกินไปเหรอครับ คุณ อาเด็ด” โฮคุโตะกล่าว
“อ้อ ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้จะให้คุณไปจัดการเจ้าหินยักษ์หรอก แต่ผมอยากให้ไปจัดการ [นักสืบแห่งสายลม] ต่างหากครับ” อาเด็ดกล่าวพร้อมกับยื่นรูปของดับเบิลให้โฮคุโตะ
“เข้าใจละ จะทดสอบสินะ” โฮคุโตะกล่าว
“จะให้ปางตายแค่ไหนก็ได้แต่อย่าถึงตาย คงดูไม่ดีหากคิดจะให้อุลตร้าแมนฆ่าคน ทางสหพันฐคงไม่อยู่เฉยแน่ จำตรงนี้ไว้ละกัน” อาเด็ดกล่าวแล้วจากไป เหลือไว้แต่โฮคุโตะที่มองรูปดับเบิลก่อนจะยิ้มออกมา
รูปปั้นหินจู่ๆก็หยุดนิ่ง ผู้คนในพื้นที่ต่างพากันอพยบเพื่อรูปปั้นหินกลับมาขยับอีกครั้ง โชทาโร่ที่กำลังขับมอเตอร์ไซด์ผ่านตรอกของเมืองโดยมีมาริซ้อนท้ายอยู่
“นี้นายจะไปไหนนะ” มาริถาม
“มันแน่อยู่แล้ว ก็รูปปั้นนั้นไง” โชทาโร่ตอบ
“แล้วรูปปั้นนั้นมันมีอะไรเหรอ” มาริถาม
“คนที่พวกเราต้องช่วยนะสิ” โชทาโร่ตอบ
ทันใดนั้นเองก็ได้มีร่างของคนมาขวางรถ
โชทาโร่ที่เบรกไม่ทันก็จะเข้าพุ่งชนแต่ร่างนั้นก็หยุดรถได้ด้วยมือข้างเดียว
“จะรีบไปไหนเหรอครับ” ร่างปริศนาถาม
“นี้นาย…”โชทาโร่ที่กำลังงุนงงสุดขีดก็คิดได้
แม้รูปลักษณ์จะต่างกันแต่แกนกลางพลังงานที่หน้าอกที่กำลังเรืองแสงอยู่มันก็ทำให้โชทาโร่รู้ได้ทันที
“อุลตร้าแมน…”โชทาโร่เอ่ยชื่อออกมา
“โห…พูดชื่อนั้นออกมาเลยเหรอครับ แต่เอาเถอะจะเรียกอย่างนั้นก็ได้” อุลตร้าแมนจับมอเตอร์ไซด์ของโชทาโร่แล้วเหวี่ยงขึ้นไปกลางอากาศ
“ฟิลิป!!” โชทาโร่ตะโกน
“อา” ฟิลิปขานรับ
“แปลงร่าง” ทั้งสองกล่าวพร้อมกัน
[Cyclone Joker]
ร่างของโชทาโร่ได้กลายเป็น มาส์กไรเดอร์ดับเบิลอย่างรวดเร็ว
“มาริ!!!” โชทาโร่ตะโกนหามาริที่กำลังร่วงลงสู่พื้น
มาริได้กำผลึกสีดำที่อยู่ในจี้ห้อยคอของเธอก่อนจะพูดฮัมเพลงขึ้น
[Balwisyall nescell Alter tron]
ออร่าสีดำปกคลุมร่างของเธอจนกลายเป็นนักรบชุดเกราะที่เคยช่วยดับเบิลเอาไว้
ทั้งสองลงพื้นอย่างปลอดก่อนที่ทั้งสองจะรู้ตัวว่าพวกเขาได้มาอยู่ที่โกดังร้างแห่งหนึ่ง
“ระวังนะเจ้านั้นมาแล้ว” ดับเบิลกล่าว ก่อนที่อุลตร้าแมนจะบินทะลุเพดานโรงงานลงมา
“ดีจังครับที่ไม่บาดเจ็บอะไร…ไม่งั้นก็ไม่มีค่าที่จะให้ผมมาต่อสู้นะสิ” อุลตร้าแมนกล่าวก่อนจะพุ่นเข้ามาด้วยไอพ่นแรงสูงที่อยู่ด้านหลังแล้วง้างหมัดต่อย
มาริได้กระโดดเข้ามาได้ต่อยสวน
กำปั้นทั้งสองได้เข้าประทะกันจนเกิดแรงกระแทกมหาสาร
“โห…นอกจากมาส์กไรเดอร์แล้วยังมีคนน่าสนใจอีกนะครับ” อุลตร้าแมนชมเชย
“ขอบใจยะ” มาริกล่าวก่อนจะใช้ใบมีดที่ขาเตะเข้าไป แต่อุลตร้าแมนก็ได้ใช้แขนทั้งสองสร้างใบมีดพลังงานออกมารับไว้
“ชิ”มาริจิกปากแล้วกระหน่ำเตะจนอุลตร้าแมนต้องถ่อย แต่ในจังหวะที่อุลตร้าแมนเลือกจะกระโดดถ่อยนั้นเองก็ได้มีมือสีเหลืองจับขาของอุลตร้าแมนแล้วเหวี่ยงอุลตร้าแมนร่วงลงพื้นอย่างแรง
ดับเบิลร่างเหลือน้ำเงินได้กระโดดขึ้นกลางอากาศแล้วเตรียมใช้ท่าไม้ตาย
“Trigger Full Burst” ดับเบิลกล่าวพร้อมกับยิงกระสุนออกไปทีเดียว 10 นัด
อุลตร้าแมนที่กำลังนอนอยู่ก็รีบเปิดไปพ่นที่หลังแล้วรีบพุ่งหลบหลีก แต่กระสุนก็ยังตามอย่างไม่ลดละ อุลตร้าแมนจึงเลือกหลบหลังเสาโรงงานทำให้มีกระสุนไปโดนเสาโรงงานแทน
อุลตร้าแมนจึงโต้กลับด้วยการยิงใบมีดลำแสงใส มาริใช้สลิงยิงขึ้นไปหลบบนเพดาน ดับเบิลกลิ่งหลบแล้วทำการเปลี่ยนร่างเป็นร่างอีกครั้ง
ดับเบิลได้ควงตะบองเมทัลปัดป้องการโจมตีจนเข้าประชิดตัวได้
“เสร็จฉันละ” โชทาโร่ใช้พลองฟาดได้ที่อุลตร้าแมน แต่อุลตร้าแมนก็สามารถหลบได้และได้ปล่อยใบมีดลำแสงใส่แต่ดับเบิลก็ปัดป้องได้
อุลตร้าแมนที่กำลังจะพุ่งเข้าตีประชิดตัวก็ได้ถูกมาริพุ่งเข้ามาต่อจนอุลตร้าแมนกระเด็นไป
ดับเบิลไม่รอช้าเปลี่ยนร่างอีกครั้ง
[Heat Joker]
“เผด็จศึกละนะ” โชทาโร่กล่าว
[Joker maximum drive]
ดับเบิลเสียบ Joker Memory ลงที่ข้างเข็มขัดแล้วกดปุ่ม
หมัดทั้งสองข้างของดับเบิลได้เกิดเปลวไฟขึ้น
“ลุยกันเลยมาริ!!” โชทาโร่กล่าว
มาริพยักหน้า ทั้งสองได้พุ่งเข้าหาอุลตร้าแมนโดยมีดับเบิลอยู่ด้านหน้า
อุลตร้าแมนที่เห็นดังนั้นจึงกางใบมีดลำแสงกะให้ดับเบิลพุ่งเข้ามาโดน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ…ร่างของดับเบิลแยกเป็นสองส่วน ทั้งสองส่วนตอนนี้อยู่ทั้งด้านซ้ายและขวา มาริที่ควรจะอยู่หลังดับเบิลก็หายไป รู้ตัวอีกทีมาริก็กำลังง้างหมัดพุ่งลงมาจากข้างบน
ในจังหวะนั้นอุลตร้าแมนก็รู้ทันทีว่าดับเบิลก็แค่ตัวล่อให้มาริหาวิธีรับมือมีดลำแสงของเขาได้ แต่มันช้าไปเสียแล้ว
“Joker Grenade” ดับเบิลได้กล่าวพร้อมกับพุ่งเอาหมัดเพลิงเข้าต่อย
มาริเองก็ได้ปลดปล่อยออร่าสีดำออกมาครอบหมัด ชื่อของมันคือ Alter Burst
ทั้งสามได้ต่อยเข้าที่ตัวของอุลตร้าแมนอย่างจังจนอุลตร้าแมนกระเด็นไปชนกับพนังของโรงงาน
“เห้อ….สมแล้วจริงๆที่เป็นนักสืบแห่งฟูโตะ เอาเป็นว่าคุณผ่านการทดสอบนะครับ” อุลตร้าแมนกล่าว
“ทดสอบเหรอ…หรือว่าเธอ” ฟิลิป เหมือนรู้สึกได้บางอย่าง
“ตอนนี้ผมว่ามีคนที่ต้องการคุณมากกว่าผมนะครับ” อุลตร้าแมนโยนไรซ์โฟนให้กับดับเบิลก็เห็นข่าวรูปปั้นสิงโตกำลังอาละวาดกลางเมืองอยู่
“เอซ” อุลตร้าแมนกล่าว
“เรียกผมว่าอุลตร้าแมน เอซแล้วกันนะ” เอซกล่าวก่อนจะบินหายไปบนท้องฟ้า
ทางด้านตัวเมือง รูปปั้นสิงโตที่กำลังอาละวาดอยู่ก็ได้กระโดดเข้าไปยังลานสเก็ตน้ำแข็งที่ศูนย์การค้าในเขต 3 ซึ่ง คาเอเดะลูกสาวของโคเท็ตสึได้มาแข่งอยู่ที่นี้ด้วย
โคเท็ตสึได้ใช้พลัง Hundred power เร่งความเร็วตามาติดๆ ในตอนนี้เขาเป็นห่วงลูกสาวยิ่งกว่าสิ่งใดเขาได้ใช้พลังในการพุ่งไปให้ไวที่สุดเท่าที่ทำได้เมื่อเขาไปถึงเขาก็ได้พบกับลานสเก็ตน้ำแข็งที่พังยับยินทางออกถูกปิดแต่ยังมีคนถูกขังอยู่ โคเท็ตสึ จึงได้ใช้พลังพลักซากตึกที่ปิดทางออกเพื่อเปิดทางให้ทุกคนหนี ระหว่างที่คอยคุ้มกันโคเท็ตสึก็คอยมองหา คาเอเดะ ไปด้วย แต่ก็ไร้วี่แววจนเมื่อหันกลับไปมองที่สนามก็พบว่าคาเอเดะนอนสลบอยู่ แต่แล้วก็ดันมีเศษตึกร่วงลงมาในวินาทีนั้น ไม่ว่าใครต่างก็รู้ว่าไม่ทันแน่ๆ ในเสี่ยววินาทีนั้นเอง บานาบี ได้ใช้พลัง Hundred power เร่งความเร็วมาพาร่างของ คาเอเดะ ออกไปได้ทัน
คาเอเดะที่ได้สติก็รีบลงจากตัวของบานาบีแล้วกล่าวขอบคุณก่อนจะวิ่งออกไป
"นี้นายมาจากไหนเนี่ย!?"โคเท็ตสึถาม
"ผมก็เดาเส้นทางที่มันจะไปแล้วก็ใช้ ฮ. ของคณะกรรมการมาดักรอเท่านั้นแหละครับ ดีนะครับที่คุณวิ่งไปป่วนเส้นทางทำให้มาถึงช้ากว่าที่กะไว้เยอะเลย" บานาบีกล่าว
"นี้นายใช้ฉันเป็นเหยื่อล่อเรอะ…แต่ช่างเถอะ…ขอบใจนะ"โคเท็ตสึตอบ
"เรื่องอะไนเหรอครับ?"บานาบีสงสัย
"เอ้อ ไม่มีอะไรหรอก"โคเท็ตสึตอบด้วยความเขินเล็กน้อย
ทั้งสองได้หันไปเผชิญหน้ากับรูปปั้นสิงโตที่กำลังหันมามองทั้งสองก่อนที่ด้านหลังสิงโตจะเผยร่างของเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งโคเท็ตสึก็รู้ได้ทันทีวาสเด็กคนนั้นเป็น Next
“นี้เธอ ทำไมถึงทำแบบนี้ละ” โคเท็ตสึถาม
“ก็เพราะผมไม่ได้รับการยอมรับนะสิ ทั้งเพื่อนทั้งครูทุกคนพอรู้ว่าผมมีพลังก็ดีดตัวออกห่างกันหมด ทั้งที่ผม…ผมก็ไม่ได้อยากได้พลังแบบนี้สักหน่อย” เด็กชายตอบด้วยความรู้สึกน้อยใจ ก่อนจะสั่งให้รูปปั้นสิงโตกระโจนเข้าใสฮีโร่ทั้งสอง แต่ในตอนนั้นเอง มาส์กไรเดอร์ดับเบิล และ มาริ ก็ได้กระโดดลงมาใช้มือยันรูปปั้นเอาไว้
“เรื่องนั้นนะผมรู้ดีเลยละ” ฟิลิปได้พูดออกมา
//OST: Cyclone effect
“เอ๊” เด็กชายที่ได้ยินดังนั้นจึงได้สั่งให้รูปปั้นสิงโตถ่อยออกมา
“เพราะผมเองก็ไม่ใช่มนุษย์…และก็ไม่ใช่ Next เป็นสิ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็น สัตว์ประหลาด สำหรับใครหลายๆคน พลังที่ผมได้มาเป็นสิ่งที่คนอื่นยัดเยียดให้…ผมเองก็ไม่อยากได้หรอก แต่ว่านะ…ตั้งแต่ผมได้พบกับคู่หู…พวกพ้องที่ร่วมต่อสู้กันมา ทั้งที่ยังมีชีวิตและจากไปแล้ว ทั้งมิตร และ ศัตรู ผมเชื่อว่าสักวันเธอเองก็จะต้องพบกับ [คู่หู] ที่ยอมรับในตัวเธออย่างแน่นอน” ฟิลิปกล่าวพร้อมยืนมือไปหาเด็กชาย
(หมายถึง วากานะ กับ ทัตสึมิ สินะ) โชทาโร่คิดในใจพร้อมกับนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่เขาได้พบกับฟิลิปในคืนนั้นคืนที่เขาได้พบกับพลังและความสูญเสีย
เรื่องราวของนักสืบแห่งฟูโตะที่มีเรื่อวราวมากมายทั้งคดีโซโนะซากิ เทรุอิ ริว เรื่องราวของโนบุฮิโกะ อังค์ คุณเบลต์ นับว่าผ่านมานานมากจริงๆนับตั้งแต่วันนั้น
“อา…ฉันเองก็ยืนยัน แม้ว่าในตอนแรกฉันเองก็เรียกเจ้านี้ว่าเป็นสัตว์ประหลาดแต่ท้ายที่สุดแล้วหมอนี้นะก็คือคู่หูที่ดีที่สุดของฉัน” โชทาโร่กล่าวเสริม
“พลังของเธอนะไม่ได้มีแต่ทำให้ใครเดือดร้อนสักหน่อยสักวันพลังของเธอก็จะมีประโยชน์ฉันมั้นใจได้เลย เพราะงั้นเรามาจบเรื่องนี้แล้วมอบตัวเถอะ” โคเท็ตสึกล่าวพร้อมกับยืนมือไปหาเด็กชายคนนั้นเช่นกัน
ท้ายที่สุดเด็กชายก็ตัดสินลงจากสิงโตโดยจับมือของดับเบิลและ Wild tiger ลงมา
“กลับเถอะบานาบีเราจบเรื่องแล้ว” โคเท็ตสึกล่าวก่อนจะพาเด็กชายเดินออกไป
“เดียวก่อนสิครับแล้วคะแนนละ” บานาบีถาม
“เราต้องช่วยเด็กก่อน” โคเท็ตสึกล่าวแล้วก็เดินจากไป บานาบีทำหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนจะหันมามองหน้าของดับเบิลแล้วเดินจากไป
“ทั้งสองคนเนี่ยใจดีจังนะ” มาริมองที่ดับเบิลแล้วยิ้มให้
“ฉันก็แค่ทำในสิ่งที่ควรทำเท่านั้นแหละ”ดับเบิลตอบ
ตัดไปที่ด้านหน้าศูนย์การค้า Wild Tiger และ บานาบี ได้พาเด็กชายมามอบตัวให้ตำรวจได้สำเร็จ
//Ost end//
ณ ห้องของมาเวลริก
“เหรอ…เหนื่อยแย่เลยนะ” มาเวลริกกล่าว
“ครับ คนใจอ่อนแบบนั้นยังไงก็ทำงานด้วยไม่ได้หรอกครับ” บานาบีที่ติดต่อมาทางโทรศัพท์
“ที่เธอลงทุนทำขนาดนี้ก็เพื่อให้เธอกลายเป็นจุดสนใจไม่ใช่เหรอ…ถ้าอย่างนั้นช่วยอดทนอีกนิดนะ อย่าลืมละว่าเธอมาเป็นฮีโร่เพื่ออะไร” มาเวลริกกล่าว
“ครับผม” บานาบีตอบก่อนจะวางสาย
ณ หอพักของบานาบี
เขาได้นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวโปรดก่อนจะวางโทรศัพท์ลงบนเก้าอี้แล้วนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น
ในคืนวันคริสต์มาสเขาได้กลับมาที่บ้านตามปกติแต่สิ่งเขากลับได้เห็นก็คือ ภาพของบ้านที่กำลังไฟไหม้พร้อมกับศพของพ่อกับแม่ที่โดนยิงตาย พอเขาจะนึกถึงใบหน้าของคนก่อเหตุเขาก็จะตื่นจากฝันร้ายทุกครั้ง
แต่สิ่งที่เขาจำได้กับเป็นสัญลักษณ์ที่อยู่บนข้อมือของเขา
ณ สำนักงานนักสืบนารุมิ(ชั่วคราว)
โชทาโร่ และ มาริ ได้กลับมาพร้อมกับอาหารสำเร็จรูปที่อุ่นมาแล้ว
ทั้งสามคนได้กินข้าวร่วมกัน
“จะว่าไปเรื่องอุลร้าแมนนั้นนะ” ฟิลิปเปิดประเด็นขึ้นมา
“หืม…อ้อเรื่องนั้นสินะ” โชทาโร่ขานรับ
“เรื่องที่ว่าทดสอบนะแปลได้ไหมว่าตัวการของเรื่องนี้จะเป็นอุลตร้าแมนนะ” ฟิลิปตั้งข้อสงสัย
“ไม่รู้สิ แถมดูยังไงเจ้านั้นก็ไม่ใช่อุลตร้าแมนที่เคยได้ยินซะด้วย เรื่อของ สัตว์ประหลาดกับมนุษย์ต่างดาวนะในยุคนี้แทบจะกลายเป็นนิทานหลอกเด็กไปแล้วละ” โชทาโร่ตอบ
“นี้โชทาโร่…ถ้าเกิดว่าเมืองนี้ไม่ได้มีอุลตร้าแมนแค่คนเดียวละ…”ฟิลิปกล่าวขึ้น
“สมกับที่เป็นนักสืบ” เสียงๆหนึ่งดังขึ้นจะด้านหลังของทั้งสามคนทันใดนั้นก็ได้มีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่มาพร้อมกับอาวุธเต็มพิกัดเข้าล้อมสำนักงาน เหล่าทหารต่างชัดอาวุธปืนจ่อไปที่พวกของโชทาโร่ทันใดนั้นเองก็ได้มีคนใส่ชุดเกราะที่ดูคล้ายกับอุลตร้าแมนเดินเข้ามาแต่ไม่ใช้คนเดียวกับเมื่อตอนกลางวัน
“ช่วยเล่าเรื่องอุลตร้าแมนคนนั้นให้ฟังหน่อยได้ไหม” อุลตร้าแมนคนนั้นกล่าว
ณ ฐานทัพลับแห่งหนึ่งในอเมริกา
ชายหนุ่มผิวขาวรายกายกำยำกำลังยืนมองบางสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา
มันคือชุดเกราะขนาดใหญ่ที่มีดีไซน์คล้ายกับอุลตร้าแมนตั้งตระหง่ายเบืองหน้า
ชายหนุ่มคนนั้นก็ได้ยิ้มขึ้นมาก่อนที่จะรับสายโทรศัพท์
“ขอบคุณสำหรับข้อมูลมาเลยครับคุณคาซานาริ” ชายหนุ่มตอบ
“ฮาๆไม่เป็นไรหรอก เพื่อความสงบสุขของโลกแล้วแค่นี้นะจิ๊บๆน้า แจ็ค” คาซานาริกล่าว
“อา ครับ แล้วก็ เรื่องการขนส่งขอให้ส่งแบบปกตินะครับเดียวผมจะขอไปญี่ปุ่นไปสังเกตการณ์ก่อน” แจ็กกล่าว
“เหรอ…ถ้าเกิดเจอโมโรโบชิก็อย่าลืมทักทายด้วยละ” คาซานาริกล่าวก่อนจะวางสายไป
แจ็กที่กำลังมองดูอยู่นั้นก็เกิดรู้สึกสนใจในตัวของชุดเกราะขึ้นมาก่อนจะเดินออกไป
ณ คฤหาสน์ ตระกูล คาซานาริ
คาซานาริ ได้วางโทรศัพท์ลงเขาได้มองไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืน แม้เขาจะอายุเกือบ 70 แล้วแต่เขาก็ยังคงฝึกวิชาต่อไป
ทันใดนั้นจู่ๆเสียงระเบิดก็ดังขึ้น
“คุณอิเดะ เริ่มเคลื่อนไหวแล้วสินะ…Alter ละ” คาซานาริถามสกัลที่หลบอยู่ในมุมมืดของห้อง
“เก็บข้อมูลในส่วนของ SG-r03 เสร็จแล้วต่อไปจะเก็บในส่วนของ SG-r01 และ SG-r02 ตามลำดับ” สกัลกล่าว
“เหลือแค่ข้อมูลในส่วนของ Ame no Habakiri และ Ichaival สินะเท่านี้ Armor Gear ก็จะเสร็จสมบูรณ์” คาซานาริกล่าว
“แต่ว่านะ ทำไมจู่ถึงคิดจะปลุกโปรเจกเก่าอายุเกือบ 30 ปีอย่าง[G3] ขึ้นมาอีกละ” สกัลถาม
“เรื่องมันก็ง่ายๆ…ฟีเน่นะสิ” คาซานาริตอบ สกัลที่ได้ยินจึงเงียบไป..
“แต่ฟีเน่นะ…หายสาบสูญไป30ปีแล้วนะ” สกัลตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเงียบ
ณ สำนักงานตำรวจฟูโตะ
เทรุอิ ริว ได้กลับมาเพื่อขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีซึ่งคนที่ได้เตรียมเอกสารเอาไว้ให้แล้วก็คือ โทมาริ ชินโนะสึเกะ ที่ได้ย้ายมาทำคดีที่เมืองฟูโตะชั่วคราวนั้นเอง
“อ้อ คุณเทรุอิ นี้ครับเอกสารที่คุณขอทั้งหมด”ชิโนะสึเกะ ได้กล่าวพร้อมส่งเอกสารบางตัวให้เทรุอิอ่าน
“ขอบใจมาก เจ้าหน้าที่โทมาริ” เทรุอิชม
“ไม่เป็นไรหรอกครับพอมีเรื่องแบบนี้มันสมองผมก็เข้าท็อปเกียร์แล้วครับ” ชินโนะสึเกะ เชิดเนคไทไปหนึ่งที
เทรุอิได้ลองอ่านเอกสารคดีเมื่อ 30 ปีก่อน
[สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุประเภทได้]
ซึ่งข้อมูลหลายส่วนนั้นกับถูกปิดบังเอาไว้ทำให้แทบจะไม่สามารถตามรอยอะไรได้เลย
“นี้โทมาริ…ข้อมูลพวกนี้ไปได้มาจากไหนกัน ปิดบังขนาดนี้ไม่น่าหามาได้ง่ายๆนะ” เทรุอิถาม
“ครับผมนี้คือข้อมูลที่ผมกับโกพอหามาได้แต่รู้สึกว่ามันจะมีบางหน้าที่พวกเราพอจะหาข้อมูลที่หายไปมาได้บ้างนะครับ” ชินโนะสึเกะกล่าวก่อนจะยื่นเอกสารบางหน้าที่ไม่ได้ถูกปิดบังข้อมุลให้เทรุอิอ่าน
รูปของสิ่งมีชีวิตที่มีหน้าตาคล้ายกับมาส์กไรเดอร์ พร้อมกับมีการกำกับชื่อไว้ว่า [สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุประเภทได้หมายเลข 2]
ในเอกสารได้เขียนเอาไว้ว่า
สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุประเภทได้หมายเลข 2 ได้ปรากฎตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 มกราคม ปี 1992 ในการต่อสู้กับ [สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุประเภทได้หมายเลข 1] ก่อนจะหายตัวไป หลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนร่างกลายเป็น [สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุประเภทได้หมายเลข 4]
ทั้งนี้ข้อมูลของ [สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุประเภทได้หมายเลข 2] และ [สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุประเภทได้หมายเลข 4] นั้นมีน้อยมาเพราะหลังจากการต่อสู้กับ [สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุประเภทได้หมายเลข 1] มันก็ได้หายตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุและไม่สามารถตามตัวได้จนถึงปัจจุบันแต่ก็ยังคงมีการพบเห็น [สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุประเภทได้หมายเลข 4] อยู่เป็นระยะๆก่อนจะหายตัวไปอีกครั้งในปี 2000 และไม่มีรายงานการพบเห็นอีกเลย
อิจิโจ คาโอรุ ผู้รายงาน
“อิจิโจ คาโอรุ…”เทรุอิพูดชื่อขึ้นมา
“เขาเป็นตำรวจที่ดูแลคดี [สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุประเภทได้]เมื่อ30ปีก่อนนะครับ เกษียรตัวเองเมื่อ 7 ปีก่อนแล้วก็ไม่มีใครทราบชะตากรรมอีกเลยครับผม”ชิโนะสึเกะกล่าว
“งั้นเหรอ” เทรุอิได้หยิบเอกสารอีกตัวขึ้นมา ซึ่งเอกสารนั้นคือ รายชื่อของผู้เสียชีวิตจากคดี[สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุประเภทได้]ทั้งหมดแต่ที่น่าแปลกใจคือในบรรดารายชื่อทั้งหมดมีอยู่ 3 ชื่อที่มีการปกปิดข้อมูลจนน่าสงสัย
ยูกิเนะ คริส
คาซานาริ สึบาสะ
ทาจิบาน่า ฮิบิกิ
ทั้งสามชื่อนี้นอกจากบอกว่าเป้นนักเรียนที่เรียนอยู่ที่ลิเดียร์แล้วก็ไม่มีข้อมูลอะไรอีกเลย ทั้งรูปภาพหรือข้อมูลอื่นๆ
ใกล้กันก็มีข้อมูลถึงการค้นพบวัตถุโบราณซึ่งได้มีการพบที่โบราณสถาณคุโรงาทาเคะซึ่งมีการค้นพบอาวุธโบราณหลายชิ้นซึ่งบางชิ้นได้มีการปกปิดชื่อเอาไว้แต่บางชิ้นก็ยังคงสามารถเห็นชื่อได้อยู่
“Airgetlám Shul Shagana Igalima” เทรุอิค่อยๆอ่านชื่อของอาวุธที่มีการเปิดเผยออกมาทีละนิด
“ดูเหมือน 30 ปีก่อนจะมีเรื่องที่ถูกปิดบังไว้สินะ” เทรุอิกล่าว
ณ เส้นทางหลวงแห่งหนึ่ง
ฮิโนะ เอย์จิ ที่กำลังขับ Ridevendor เพื่อที่จะไป Stern Bild
แต่สิ่งที่มาอยู่เบื่องหน้าขอเขาก็คือ เบมเลอร์ แม้ว่าหน้าตาจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ใช่แน่นอน
“นี้แก”เอย์จิทำท่าจะต่อสู้แต่เบมเลอร์ได้ยกมือห้ามไว้
“วันนี้เราไม่ได้มาต่อสู้ เราแค่มาเตือนเจ้าเท่านั้น” เบมเลอร์กล่าว
“เตือนเหรอ…”เอย์จิถามด้วยความสงสัย เบมเลอร์จึงชี้นิ้วไปทางเมือง Stern Bild
“ที่เมืองแห่งนั้นเจ้าจะได้พบกับความมืดมิดที่ดำสนิด หากเจ้ายังอยู่ในสภาพนี้เกรงว่าเจ้าอาจไม่รอด” เบมเลอร์กล่าว
“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องไป…ฉันเองก็มีสิ่งที่ต้องปกป้องอยู่” เอย์จิกล่าว
เบมเลอร์ยืนติดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะโยนบางสิ่งให้เอย์จิ เอย์จิคว้าไว้ทันสิ่งนั้นคือ
คอร์เมดัลสังเคราะห์
“นี้มัน…หรือว่า” เอย์จิรู้ได้ทันทีว่าเบมเลอร์ไปเอามาจากไหน
“ข้าช่วยเจ้าได้แค่นี้ต่อจากนี้เจ้าต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง” เบมเลอร์กล่าวก่อนจะบินหายไป
เอย์จิกำเมดัลเอาไว้แล้วพูดชื่อนึ่งขึ้นมา
“อังค์”
ณ สะพานแห่งหนึ่งใน Stern Bild
เกิดอุบัติเหตุขึ้นกลางเมือง เมื่อรถขนน้ำมันเกิดพลิกคว่ำกลางสะพาน Wild Tiger และ บานาบี ก็ได้รีบรุกมายังที่เกิดเหตุ
“สถาณการณ์ละ” Wild Tiger/โคเท็ตสึ ถามเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่
“คนขับยังติดอยู่ในรถครับแต่ไฟลุกลามเร็วมาจนเข้ามาช่วยไม่ทันครับ” เจ้าหน้าที่รายงาน
“ดีละลุยกันเถอะบันนี่จัง” โคเท็ตสึพูดเพราะเห็นว่าหูบนชุดเกราะของบานาบียาวราวกับหูกระต่าย
“เดียวสิลุงอย่ามาเรียกแบบนั้นนะ” บานาบีกล่าว
ทั้งสองใช้พลัง Hundred Power พุ่งเข้าไปแต่ก็ไม่ทันการรถเกิดระเบิดขึ้น
“ช้าไปเรอะ” โคเท็ตสึกล่าว
“ดูบนนั้นสิ” บานาบีชี้ขึ้นไปบนฟ้า
ผู้คนต่างพากันมองขึ้นไปก็พบกับร่างของคนที่กำลังอุ้มร่างของคนขับรถเอาไว้เขากำลังลอยอยู่กลางอากาศก่อนจะบินลงมาที่พื้นเมื่อแสงไปส่องไปที่ร่างก็พบว่าร่างของเขานั้นมีเกราะสีแดงและสีเงินเหล็ก พร้อมกับแสงไฟตรงหน้าอกเป็นรูปลักษณ์ที่ทุกคนต่างรู้กันดีนั้นคือ
“อุลตร้าแมน” โคเท็ตสึกล่าวออกมา
อุลตร้าแมนได้วางร่างของคนขับรถบรรณทุกลงคนขับรถบรรณทุกได้จับมือแล้วกล่าวขอบคุณทั้งน้ำตาก่อนจะเดินไปหาเจ้าหน้าที่
ส่วน Wild Tiger กับ บานาบีก็ได้เดินเข้ามาหาอุลตร้าแมน
“นี้นายนะคอสเพลย์เป็นอุลตร้าแมนเรอะชุดสวยดีแต่นายมีใบอนุญาติรึเปล่าละ” โคเท็ตสึถาม
อุลตร้าแมนไม่ตอบแต่บินหนีหายไปในทันที
“เห้ย!!จะหนีเรอะ ไอ้เจ้าฮีโร่เถื่อน” โคเท็ตสึตะโกนออกมา
ทางฝั่งของอุลตร้าแมนเขาได้บินมาหลบที่ยอดตึกแห่งหนึ่งก่อนจะถอดหน้ากากถอนหายใจ อุลตร้าแมนคนนั้นก็คือ ฮายาตะ ชินจิโร่ เพื่อนร่วมชั้นของโซจินั้นเอง
“บอกตามตรง ผมไม่รู้หรอกว่าผมคืออะไรแต่ในตอนนี้นะ…ผมนะคืออุลตร้าแมน"
ดีครับInu-san เองครับ…ขออภัยที่หายไปนานเลย พอดีไปทำ Vtuber (ฝากติดตาม/ท่วงนิยายที่นี้เลยครับ https://www.youtube.com/@I.N.U.-SAN_Ch ) จนติดลมมาครับแล้วเพิ่งนึกได้ว่าดองเรื่องนี้(ฮา) ผมเลยต้องย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าๆกับดราฟที่วางเอาไว้ก่อนจะกลับมาเขียนได้ ที่หายไปนานต้องขออภัยจริงครับ…
สำหรับตอนที่ 4(หรือก็คือตอนที่ 3) เป็นตอนที่เอาเบสมาจาก Tiger & Bunny ตอนที่ 1-2 นั้นเองครับอันนี้ต้องพูดตรงๆว่าผมก็แอบลืมๆไปเลยเลยกลับมาดูอีกรอบเลยทำให้ตีมของตอนนี้แอบมีการเปลี่ยนจากที่กะไว้ไปเยอะรวมถึงตอนนี้ยังเป็นการเปิดจุดรวมของซีรีส์ที่จะได้มาร่วมจักรวาลในอนาคต ทั้งการมาของช็อกเกอร์ คูกะที่หายตัวไป แผนการของคาซานาริ เกนจูโร่ การเปิดตัวเหล่าอุลตร้าแมนทั้ง 4 สิ่งที่เบมเลอร์ต้องการให้เอย์จิรู้ มันมีประเด็นอีกมากมายที่ผมอยากให้ทุกคนติดตามจริงๆครับ วันนี้เลยมีความยาวมากกว่าปกติถึง 2 เท่าเพราะเนื้อหาอัดแน่นจริงๆหาทุกคนสนใจผมจะเจียดเวลามาแต่งให้มากขึ้นหรือไม่แน่อาจมีไลฟ์พูดถึงแฟนฟิกเรื่องนี้ด้วยครับผม แล้วเจอกันตอนหน้านะครับ
ความคิดเห็น