คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Friends
Friends
หลังจากที่เด็กใหม่สองคนย้ายเข้ามา ชีวิตฉันก็วุ่นวายมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อวาน ไม่รู้เกิดเหตุอันใด ตอนเช้า ฉันก็ฮาเฮกับไอ้ต้น ไอ้ส้ม แต่พอตอนบ่าย มันก็หลบหน้าฉัน ไม่ยอมคุยกับฉัน แถม ไม่ยอมมาตามนัด ที่มันบอกจะเลี้ยงไอติมฉันถ้วยใหญ่ ทำให้ฉันไปนั่งรอ ตั้งแต่ 5โมงเย็น ถึงสามทุ่ม มันก็ไม่ยอมมากัน ไม่รู้ด้วยเหตุอันใด ทำไมมันถึงเป็นกันแบบนี้ฟระ ไอ้เพื่อนบ้า
“ไปแล้วนะคะ แม่” ฉันกล่าวลาผู้ที่มีพระคุณ อย่างสูงของฉันด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ฉันไม่ลืมเตะกระสอบทรายหน้าบ้านดังป้าบ ระบายอารมณ์ ก่อนจะเดินออกไปโรงเรียน หวังว่าไปถึงโรงเรียนแล้ว ฉันคงไม่ต้องเจอไอ้สองคนนั้นนะ
ตอนเช้าก่อนเข้าแถว ฉันเขยิบโต๊ะของฉันออกห่างจากโต๊ะไอ้ต้นกับไอ้ส้ม ฉันหยิบการ์ตูนขึ้นมาอ่านเพื่อฆ่าเวลา ไม่รู้เวลามันตายรึยัง ฆ่ามานานแล้ว
“ฮั่นแน่ มาแล้วหรอไอ้ปีบ” ส้มดึงการ์ตูนของฉันออก แล้วทักทายฉัน
“
..” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ฉันเงียบค่ะ
"ปีบ ข้า ขอโทษวะ ข้าไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องเป็นแบบนี้" ไอ้ต้นมันเดินแบกกระเป๋ามาทิ้งตัวลงโต๊ะข้างๆ ฉัน
“
." ไม่มีสัญญานตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกค่ะ ฉันเงียบอีกครั้ง
"เอ๊า ขอโทษอีกคนก็ได้ เอ็งอย่าโกรธข้าดิ วันนี้ข้าเลี้ยงข้าวละกัน" คิดว่าจะเหมือนทุกครั้งหรอไม่มีทางซะหรอก
“...” เหมือนเดิมฉันเงียบ
“เหม็นๆๆ เหม็นกลิ่นคนไม่มีเพื่อน ก๊ากๆ” ฉันหันไปมองต้นเสียง มันจะเสียงใครซะอีกล่ะ ก็อิตาขี้เก๊กตัวเจ้าปัญหานั่นแหละ มันจะมาไม้ไหนอีกนะ
“ทำไม แก มายุ่ง อะไรกับชั้น ไปให้ไกลๆเลยไป๊” ทุบโต๊ะไปหนึ่งที เพื่อนผู้หญิงในห้องหันมามองตาเป็นวาว คงคิดว่าฉันจะฆ่าไอ้เทพบุตรสุดสวาทของพวกเธอหรอ ไม่ฆ่าหรอก แค่จะจับเฆี่ยนแล้วเอาเกลือโรยแค่นั้นแหละ
“โอ๋ๆ โกรธแล้วหร๋อคร้าบบไปก็ได้ แม่ ปี๊ปเอ๊ยปีบ” มันหัวเราะแล้วก็ค่อยเดินจากไป
“ อยากได้ปี๊บหรอ อุ๊ยตาย หน้าอ่อนขึ้นมาหน่อยและ รู้จักอายด้วยเดี๋ยวว่างๆเอามาให้” ฉันตะโกนไล่หลัง เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกะคนอย่างนังปีบ สะใจว่ะ
แล้ววันนี้ก็เป็นวันแรก ของเปิดเทอมที่ฉันไม่ยอมคุยกับใครและไม่มีใครคุยกับฉัน มีแต่นังเพื่อนบ้าสองคนนี้แหละ ง้ออยุ่ได้ ไม่ได้งอนเว้ย น้อยใจ + รำคาญ
วันนี้ฉันไม่ได้เอ่ยปากคุยกับใคร แล้วในที่สุด วันนี้ก็ผ่านพ้นไป
อาบน้ำดีกว่า รังสีอำมหิตจากพวกผู้หญิงนี่อันตรายจริงๆ ผิวฉันเสียหมด โอ้วๆ ใช่ เดี๋ยวเบสไม่รักขึ้นมาทำไง อาบน้ำๆ ถูๆๆ น้ำลายตาขี้เก๊กพ่นใส่หน้าทั้งวันเป็นกลากเกลื้อนแน่ๆ หยี๋ๆ
“ ผิดเองที่รู้ตัวช้า ที่จริงรักเธอเสมอ” เสียงริงโทน โทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ช่างโทรมาได้เหมาะเจาะจริงๆ คนกำลังอาบน้ำ
....~~ ฉันรับโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์โทร อย่างใจจดใจจ่อ แม่ส้มนี่หว่า โทรมาทำไมวะคนกำลังอาบน้ำ
“หนูปีบหรอลูก หนูส้มอยู่บ้านหนูรึเปล่าจ๊ะ นี่ยังไม่กลับบ้านเลยแม่เป็นห่วง"
“ไม่อยู่นี่คะ"
“อ้าว แล้วส้มมันหายไปไหน ไอ้ลุกคนนี้ทำตัวเหลวไหลซะแล้ว”
“ใจเย็นๆค่ะคุณแม่ เดี๋ยวหนูลองโ?รไปบ้านต้น ถ้าติดต่อได้แล้วหนูจะโ?รไปบอกอีกทีนะคะ”
“ค่ะ คุณแม่" บทสนทนาสั้นๆที่พอจะจับใจความได้ ทำให้ฉันไม่รีรอที่จะโทรไปบ้านต้นกริ๊งงงงงกริ๊งงงงง
“ฮาโหล บ้านต้นรึเปล่าคะ" มันต้องดัดเสียงหน่อยซิคะคุณ
“ครับ บ้านต้นครับ มีไรรึเปล่าครับ"
“คือ ต้นอยู่ไม๊คะ"
“ไม่อยู่นี่ครับ วันนี้ยังไม่เห็นกับบ้านเลย เบอร์มือถือก็โทรไม่ติด นึกว่าไปทำรายงายบ้านเพื่อน"
“ไม่มีนี่คะ ช่วงนี้ไม่มีรายงาน งั้น ไม่รบกวนแล้วนะคะ ขอบคุณค่ะ”
“ครับๆขอบคุณครับ ว่าแต่ เธอชื่อไรครับ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ แค่นี้นะคะ สวัสดีค่ะ" พี่ไอ้ต้นแน่เลยว่ะท่าทางขี้หลี ต้องจีบฉันแน่ๆ โอ้วแน่นอนดัดเสียงซะ เอาไงดีวะ มันหายไปไหน สองคนเลย ฉันสะบัดผ้าขนหนูพั่บๆ ก่อนจะเอามาห่มตัวไว้
“อยู่อย่างเหงาๆ”..เสียงริงโทนโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง~~กริ๊ก
“คุณปีบหรือเปล่า ครับ”เสียงใครฟระไม่คุ้นเลย
“อ่อ ใช่ค่ะ” เปล่านะคะคราวนี้ไม่ได้ตั้งใจดัดเสียง มันดัดของมันเอวค่ะ
“ตอนนี้เพื่อนคุณทั้งสองคนอยู่กับเราถ้าหากคุณยอมทำตามเงื่อนไขนี้ เราจะปล่อยเพื่อนของคุณไป” ใครโทรมาล้อเล่นดึกๆดื่นๆฟระ
“แล้วพวกนายเป็นใครอ่ะ เพื่อนชั้นไหน ใคร ขอฟังเสียงสิ" ไอ้ส้มกับไอ้ต้นรึเปล่าเนี่ย ชักสงสัย
“ปีบ เฮ้ยย แกอย่ามานะเว้ยย อันตราย ปีบ ปีบ พอๆคุงรู้แล้วนะเพื่อนเธออยู่กับเรา”
“ให้ทำอะไรคะ ปล่อยเพื่อนหนูมาเถอะเขาไม่เกี่ยวข้องอะไรปล่อยเถอะ” ฉันอ้อนวอนกับเสียงที่ปลายสาย ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับใครแน่
“ไม่ เธอ ต้องทำตามนี้ มาที่โรงยิม ที่ โรงเรียน ห้ามแจ้ง ตร. ห้ามบอกพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้า อา..”
“พอพอ ไม่ต้องต่อ เออ ชั้นไปก็ได้” โอ้ย ตายห่าตายโหง ฉันขบรถคนเดียวไปเนี่ยนะ
“และขอร้อง มา คนเดียว ห้ามพกอาวุธ” ตุ๊ดๆ ตัดไปแล้ว ตุ๊ดๆหรอ ฉันไม่ได้เป็นตุ๊ดนะเฟ้ย เป็นผู้หญิงแสนสวยรวยด้วยสติปัญญา โอ้ว อยากประกวดจริง มิสไทยแลนด์ อิอิ โทรศัพท์ ไอ้ต้นกับไอ้ส้ม มันจะตายก่อนไวอันควรไหม นะ ไม่ๆ มันเป็นเรื่องไม่ดี เพื่อนฉันต้องไม่เป็นอะไร ในเมื่อ นางเอกขี้ม้าขาว อย่างฉันไปช่วยหรือ เอาไงดีวะนังปีบ เพื่อนทั้งคนนะเว้ย เฮ้ยยมันไม่ใช่เพื่อนชั้นนี่นา มันไม่ใช่เพื่อนชั้น นอนดีกว่า
แต่แล้วฉันก็อดใจไม่ไหว ไปก็ได้วะ
“แม่คะ ปีบ ออกไปเซเว่นแปปนะ เดี๋ยวมา” ฉันวิ่งลงบันไดมาดีนะ บันไดบ้านเป็นปูนชั้นดี ไม่งั้นบันไดหักแน่ๆ ฉันลุกลี้ลุกลน วิ่งลงมาที่โรงรถ แม่ฉันหยิบจุญแจ ขึ้นมา ก่อนที่จะสตาร์ส Mio มาโรงโรงยิมของโรงเรียน
“ต้น ส้ม แกอยุ่ไหนวะ ข้ามาแล้ว" ฉันจอดรถก่อนจะวิ่งไปที่โรงยิม บรรยากาศวังเวงตอนกลางคืน ร.ร. จะปิดไฟ แต่มีเทียนจุดไว้เป็นจุดๆพอมองเห็น โรแมนติก ดีแฮะ
“มาแล้วหรอ นึกว่าจะไม่มาซะอีก” เสียงหมาที่ไหนมันเห่าฟระ นั่นมันตาขี้เก๊กนี่นา ฉันก็เดินไปใกล้ๆ
“ตาขี้เก๊ก แกจับเพื่อนชั้นมาทำไม ไหนล่ะเพื่อนช้านนนอย่าบอกนะว่าแกล้อเล่น”
“หยี๋ นี่เธอดองยาสระผมแบบนี้ทุกวันหัวไม่เน่าแย่หรอ”
“อะไรแก” ฉันเอามือลูบผม อ๊ากกกก ฉันลืมล้างยาสระผม ไม่นะ ผมอันสวยงามของฉัน
“ไปล้างออกไป อย่ามาใกล้” ตาขี้เก๊กก้าวถอยหลังออกไปนิดหน่อย
“ไม่ไป เพื่อนฉันอยุ่ไหน”
“นั่นไง ลองมองดีๆทั้งสองคนนั่งอยู่นั่น” นิ้วชี้ที่เรียวยาว ชี้ไปทางมุมมืดมุมหนึ่ง
“หัวดำๆสามสี่หัว ใช่เพื่อนเราไหมเนี่ย” อ๊าก ใช่แล้ว แกทำกับเพื่อนชั้นได้ไง ฉันรีบวิ่งไปตามางที่ตาขี้เก๊กชี้แต่ฉันไม่ลืมที่จะสะบัดผม น้ำเยิ้มๆ แชมพูกลิ่นแรงที่สุดเท่าที่เคยดมมาในโลกนี้ได้เลยมั้ง ใส่ตาขี้เก๊กใหม่ๆ ผู้ชายอะไรสดีดสะดิ้ง แค่โดนน้ำแชมพูแค่นี้ ยังกะโดนน้ำร้อนลวก น่าจะเกิดเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายนะเนี่ย
“จะไปไหน” มือข้างหนึ่ง ของ อิตาขี้เก๊กจับแขนของฉันไว้แน่น
“ปล่อยนะเว้ย เพิ่งอาบน้ำแร่ แช่น้ำนมมาใหม่ๆผิวชั้นช้ำหมด”ฉันพยายามสบัดแขนให้หลุดจากอุ้งมือมาร แต่ก็ไม่หลุดง่า T^T
“ปีบ เรื่องที่ชั้นพูดไว้เอาไงตกลงไหมฉันจะได้ปล่อยเพื่อนเธอออกไป”
“ไม่ ฉันไม่ยอมทำแบบนั้นหรอก นายอย่าทำแบบนั้นได้มะเรื่องของนายกะ ชั้นอย่าเอาเพื่อนมาเกี่ยว”
“โหย รักเพื่อนจังนะ วันก่อนเห็นยังไม่ยอมคุยกันเลยนิ เพื่อนเขาทำกันแบบนี้หรอ”
ฉันรีบสะบัดมือ แล้วฉันก็ชกหมอนั่นไปอย่างจังเอาไงล่ะหมัดมวยไทย นี่นา ลืมบอกไปเลยแฮะ ว่าพ่อฉันเปิดค่ายมวยเลยบ้านไปกิโลนึง แถมไม่เจ็บธรรมดาด้วย จุกเลย
ไปร์สลงไปกองกับพื้น เจ็บมากไหมจ๊ะ
ลูกสมุน ลูกจ้าง ใครก็ไม่รู้ ฝูงมัน หรือ พวกมัน โอ้ยเรียกไม่ถูก เอาเป็นว่า ทุกกคนรีบกรูมาที่มัน
เหอะๆ โอกาสเหมาะดีแฮะ
ฉันรีบวิ่งไปหาเพื่อนที่นั่งอยู่มุมของโรงยิม
“ทำไมมันแกะยากจังวะ หลุด ได้แล้วๆ” แล้วในที่สุดสวรรค์ก็ช่วย เฮ้ย หลุดแล้ว
“ปะส้ม ต้น วิ่ง” ฉันวิ่งไปที่เพื่อนทั้งสองคนพร้อมแก้มัดให้
“ตามมันไป”เสียงนายขี้เก๊ก มันสั่งลูกน้องเบาๆคงเจ็บอยู่มั้ง โส น้า น่า
ฉันกับเพื่อนรีบวิ่งมาที่โคนไม้ใหญ่ ที่ฉันมาเล่นประจำตอนเลิกเรียน
“ปีบ ข้านึกว่าเอ็งจะไม่มาซะแล้วนะ เรื่องนั้น ข้าขอโทษจิงๆว่ะ” ยังจะมาปากดีอีกให้ฉันมาลำบากลำบน ยาสระผมก็ไม่ได้ล้าง เพราะแกสองคนเนี่ย
“ปีบข้าก็ขอโทษเอ็งอีกแรงด้วยนะ" ส้มพูดขึ้นเบาๆ
ฉันหันซ้ายหันขวา ดูว่าลูกน้องที่วิ่งตามมาจะเห็นพวกเราไหม
“เออไม่เป็นไปหรอก เราเพื่อนกันนี่ ก็ต้องเป็นห่วงกันธรรมดาอยแล้ว”
“เอ็งปล่อยมือข้าสองคนได้และเห็นวิ่งกุมมาตั้งนาน” ฉันรีบสะบัดมือออก
“ ก็ข้ากลัวไม่มีเพื่อนนะซิ กลัวไม่ได้เป็นเพื่อนกับเอ็งสองคนมากกว่า ข้าเคยฟังกลอนๆนึงนะมันบอกว่า
บางครั้งเพื่อนก็ต้องจากเราไปยังที่ๆไกลแสนไกล
เหลือไว้แต่ภาพถ่ายและความทรงจำเก่าๆ
ที่อาจแรกด้วยน้ำตาก็ไม่อาจไขลานกับมา
เริ่มต้นใหม่
เอาง่ายๆ กลอนนี้โคตรซึ้งเลยว่ะ เออใจความแกสองคนเอาไปแปลเองละกัน
“พูดซะยาวเลย เออก็ได้” ส้มกับต้นเอ่ยเบาๆ เสียงเดียวกันเลยนะ ไอ้นี่ชอบสุมหัวกันจริงๆ
“นานๆ ทีฉันจะพูดมีสาระบ้างไม่ได้หรอไง เอ๊ะ งั้นฉันก็เป็นคนไร้สาระอ่ะดิ”
“จ๊ะเพื่อนรัก” ป้อน คำหวานซะงั้นนังส้ม ถ้าแถวนี้มีรังมดคงโดนขนไปและ
"วันนี้ข้าว่าอ้อมออกไปทางหลังดีกว่าดึกแล้วเดี๋ยวพ่อแม่แกเป็นห่วง”
“ปะ กลับกัน ข้าเอา mioมา จอดไว้หลัง รั้วเนี่ย ปีนไปเหอะซ้อนสามคงจะได้มั้ง”ฉันหยุดพักหายใจซักพักก่อนจะพากันวิ่งมาที่รั้ว
เราก็ปีนรั้วมาที่ mio อย่าปลอดภัย(ทุลักทุเลมากกว่า)ส่วนไอ้ต้นก็รู้หน้าที่ของมันก็เป็นคนขับ
“เฮ้ยหยุดนะ” ฉันหันไปมองต้นเสียงดังมาจากรถแน่นอนต้องเป็นรถนอก พระเอกเรื่องนี้ไฮโซค่ะ มันตามมาแล้ว อ๊ากๆ
“ ไอ้ต้นแกขับเร็วๆสิ บิดเลย” บิดๆบิดซะไอ้ต้น
"ก็มันบิดไม่ไปแกโดดลงดิจะได้ไปเร็วๆแม่ง รถอืดเป็นเต่า”
“แกไม่มีสิทธิมาวิจารณ์รถชั้นนะเฟร้ย บอกให้บิดก็บิดจิ ไม่เป็นหรอ”
“มันบิดไม่ไปเว้ยเฮ้ย” น้ำเสียงที่ดัง ของต้น ทำให้ฉันสะดุ้งเกือบจะตกรถ
“ไปทางลัดมะ" ต้นพูดขึ้นก่อนจะเปิดไฟเลี้ยวแล้วมันจะเปิดทำแป๊ะไรวะมันก็รู้หมดดิว่าเราเลี้ยว
“ไปก็ไปวะเร็วๆโดนจับได้ไม่ได้เกิดยก ฝูง อ่ะ” แล้วมันจะเปิดไฟเลี้ยวหา แม่มันหรือไงเนี่ย มันก็รู้ดิว่าเราเลี้ยว
อ๊ากกกกกก แกขับดีๆเป็นไหมฟระเนี่ยปาดซ้ายปาดขวา ปาดกองขี้หมานะ ซอยเล็กๆมันจะปาดทำไม ถ้าฉันเสียโฉมแล้วไม่ได้ประกวดนางสาวไทยนะ แกตายแน่ๆไอ้ต้น
“ซวยแล้วว่ะ ส้ม ปีบ”
“ไมวะ" อะไรของมัน ซวยอะไร อย่าบอกนะพวกนั้นตามมา ตื้อจริงๆอยากได้ฉันเป็นแฟนก็ไม่บอกดีๆ จะได้เป็นซะตั้งแต่แรก เรื่องก็จบ เฮ่อ!!
“ไอ้ส้มมันเป็นไรวะ ไม่พูดไม่จามานาน เฮ้ยไอ้ส้ม”
“มันหลับไปแล้ว น้ำลายมันเต็มหลังข้าเลยเนี่ยแฉะไปหมดแล้ว”
“เออ ว่าแต่อะไรซวย”
“เฮ้ยพูดกับแกอ่ะ ลืมเลี้ยวซอยอื่นเลย ข้างหน้าเป็นด่านตรวจ” หนีเสือปะจระเข้จริงๆ แม่ง ไมไม่บอกแต่แรกวะ ไอ้เพื่อนโง่ น่าจะได้ชื่อใหม่นะเนี่ย สมโง่ เพราะดีแฮะ ฮือๆ ข้อหาซ้อนสาม โดนไปสองร้อย แง
ในที่สุดทุกคนก็กลับถึงบ้านแต่ที่แย่ที่สุดนี่ซี่ไปเซเว่นไม่มีของไรกับมาเลยแล้วจะบอก(ท่าน)แม่ ว่าไงเนี่ยอ๊าก
ฉันเปิดประตูเข้าบ้านรีบวิ่งขึ้นบันได
“ปีบไปซื้อไรมาล่ะลูก ไปซะนานเลย” แม่ตะโกนไล่หลัง อย่าบอกนะแม่นั่งรอฉันตลอดเนี่ย โอ้ เป็นแม่ที่น่ารักมากๆ
“หนูไปเซเว่นมาซื้อ ซีดี อัลบั้มใหม่อ่ะ มันออกวันนี้ ไปมา 4 เซเว่นหมดหมดเลย”
“อืองั้นพรุ่งนี้ค่อยไปละกันเห็นรีบมากเลยนะ ยาสระผมก็ไม่ล้าง ดึกและไปนอนไป๊”
อ๊าก หัวเป็นชันนะตุ ไหมเนี่ย สังคัง กินหัวแน่ๆ โอ้ยๆคันๆ
....................................................................................................
ความคิดเห็น