ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Singular Fiction ] I M P O S S I B L E

    ลำดับตอนที่ #4 : SF - ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 56


    Calista
    Small Grey Outline Pointer
     
    theme
     
    song : ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้


    วันที่ฟ้าดูไม่ค่อยเป็นใจ 
    อาจทำให้ใครบางคนนึกหวั่น 
    หวาดกลัวว่าความรักไม่มีจริง 
    ความรักมันก็เลยยิ่งห่างไกล ออกไป 

    เสียงฟ้าร้องครืนใหญ่ในช่วงบ่ายของเดือนมีนาคมทำให้ดวงตาหวานเหลือบมองปฏิทินตั้งโต๊ะพร้อมขมวดคิ้วมุ่น ปากบางพึมพำเบาๆอย่างไม่เข้าใจในสภาพอากาศ

    “ฝนตกหน้าร้อนเนี่ยนะ..”

    ซินวางดินสอกดในมือลงก่อนจะหยิบมือถือเข้าแอพลิเคชันตัวโปรดที่เด้งเตือนตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงที่แล้ว สายตาไล่อ่านข้อความที่รุ่นพี่คนสนิทส่งมาให้แล้วกดส่งสติ๊กเกอร์หมีบราวน์โปรยสายรุ้งกลับไป

    ไม่นานหนักฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ซินมองสายฝนที่โปรยลงมาอย่างพิจารณา มือเรียวคว้าดินสอกดมาขีดเขียนรูปตามอารมณ์ ร่างบางอยู่ในสมาธิจนไม่ได้ยินว่าใครเดินเข้ามายืนอยู่ใกล้ๆ

    “วาดรูปอะไรอยู่”

    ซินสะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันกลับไปเจอรอยยิ้มอบอุ่นปนขำที่ส่งออกมาจากชายร่างสูง แสตมป์หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาสีเลือดนกที่ตั้งอยู่ริมหน้าต่าง ซินหมุนเก้าอี้ให้หันหน้าเผชิญกับรุ่นพี่ก่อนจะบ่นออกมาน้ำเสียงเซ็งๆ

    “ฝนตกอีกแล้ว หน้าร้อนชัดๆ”

    “อากาศเมืองไทยก็แปรปรวนอย่างนี้แหละ”

    “เฮ้อ.. แล้วคนเราจะแปรปรวนแบบอากาศมั้ยพี่แสตมป์ ซินเริ่มกลัวแล้วนะ ชีวิตซินจะเจอรักแท้แบบที่อยากเจอมั้ยเนี่ย”

    ซินปล่อยลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เมื่อเอาสภาพอากาศที่ปรวนแปรสุดขีดของประเทศแถบร้อนมาเปรียบเทียบกับจิตใจที่ยากจะหยั่งถึงของคนเราก็อดหวั่นใจไม่ได้ ความรักที่เค้าหวังไว้...ถ้าหากมันต้องพังทลายไปเค้าคงเสียใจไม่น้อย


    ลองเปิดตามองท้องฟ้าดูใหม่ 
    ลืมและลบความกลัวที่เคยมีออกไป 
    เธอนั้นจะเข้าใจความรักที่ดีดีมีอยู่จริง 
    เธอเชื่อมั้ย

     

     จู่ๆ มือหนาก็เอื้อมมาปิดตาซินเอาไว้ก่อนจะมีเสียงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู

    “ซินอย่ากลัวนะ... มันก็แค่สภาพอากาศ ถ้าซินอยากจะเปรียบเทียบมันจริงๆ ให้เปรียบเทียบว่าสภาพอากาศก็เหมือนกับความรัก มีฝนตกมีแดดออก มีรักกันก็ต้องมีทะเลาะกัน แต่ฟ้าหลังฝนสดใสเสมอ เวลาทะเลาะกันมันก็จะทำให้เรารักกันมากขึ้น.. จริงมั้ย?”

    แสตมป์ปล่อยมือออกจากดวงตาสวย ซินลืมตาขึ้นมาก่อนพบหยาดฝนที่ตกลงมาเพียงปรอยๆ แสงอาทิตย์เริ่มส่องผ่านเมฆสีเข้ม คนหน้าสวยยิ้มออกมาจางๆ  


    ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน 
    เธออาจได้เจอกับคนที่เธอไม่คาดฝัน 
    เค้าอาจมายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วบอกรักเธอ 
    เหมือนดังในความฝัน

     

    “พี่ว่าในเรื่องของความรัก... มันไม่มีอะไรเลยที่เป็นไปไม่ได้ คนที่รักกันอยู่ดีๆก็กลับกลายเป็นคนแปลกหน้าได้ในพริบตา คนที่เคยเป็นเพื่อนกันมานาน อยู่ดีๆก็เลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นคนรักกันได้ง่ายๆ จริงๆวันนึงพี่อาจจะใส่สูทหอบกุหลาบแดงมาให้ซินก็ได้นะ”

    ซินหัวเราะออกมาเบาๆ มือบางหันกลับไปจับดินสอขึ้นมาวาดรูปเล่นดังเดิม

    “ความฝันชัดๆ ไม่มีทางเป็นจริงเลยพี่แสตมป์”



    เธออาจได้เจอกับคนของเธอเข้าสักวัน 
    คนที่ทำให้ใจไม่หนาวสั่น 
    อย่างกับฉันที่ยังคอยบอกตัวเอง 
    อยู่ทุกวัน ว่าฉันจะได้เจอ

     

    แสตมป์กลับไปนั่งที่โซฟาดังเดิมเมื่อเห็นว่ารุ่นน้องคนสนิทกลับมามีรอยยิ้มดังเดิม ไม่นานนักเสียงหวานก็ดังขึ้นทำลายบรรยากาศสงบ

    “เี่แสตมป์ว่าเมื่อไหร่พี่จะเจอรักแท้ของพี่ซักทีมมื่อไหร่ซินจะเจอคนที่เป็นของซินซักที”

    แสตมป์เลิกคิ้วเล็กๆ หัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะตอบคำถาม

    “พี่ไม่รู้หรอก ไม่แน่นะ ถ้าวันนี้ซินยอมออกจากบ้านไปดริ๊งค์กับพี่ซินอาจจะเจอคนของซินก็ได้”

    แสตมป์ยักคิ้วให้อย่างขี้เล่น ในเมื่อเหตุผลหลักที่ยอมขับรถมาบ้านรุ่นน้องที่ไกลแสนไกลวันนี้ก็คือการลากรุ่นน้องผู้รักสงบยิ่งกว่าใครออกไปดริ๊งค์กับเพื่อนฝูงบ้าง

    “หลอกซินไปเมาอีกละ ไม่ไปหรอก”

    “ไม่ได้หลอก นี่ไง! เหตุผลที่พี่ไปดริ๊งค์ทุกวันนี่ก็เพราะว่าพี่คิดว่าพี่อาจจะเจอคนที่ใช่ของพี่เลยนะเนี่ย”

    แสตมป์ยิ้มแป้น ซินเบะปากอย่างไม่เชื่อพลางส่ายหัว

    “พอเจอคนที่ใช่แล้วไปจบกันที่เตียง พอออกจากเตียงก็ไม่ใช่แล้ว ซินรู้ทันพี่แสตมป์หรอก”

    “เอ่าจริงๆ พี่คิดว่าถ้าพี่จะเจอคนที่ใช่ของพี่ พี่ก็ต้องเจอในที่ที่พี่ชอบดิ ต้องนิสัยตรงกันดิถึงจะอยู่ด้วยกันได้ยืดๆ”  

    แสตมป์พยายามชักแม่น้ำทั้งห้ามาหว่านล้อมรุ่นน้องตรงหน้า ซินหรี่ตามองแสตมป์อย่างไม่ไว้ใจ

    “แต่ซินไม่ชอบเที่ยว”

    “คนที่ใช่ของซินก็ต้องไม่ชอบเที่ยวแต่โดนบังคับไปเหมือนกันแหละ ไปเหอะ... นะ”

    แสตมป์ทอดเสียงอ้อนอย่างน่ารัก ซินส่ายหน้าพลางถอนหายใจ

    “อือ ทุกทีแหละพี่แสตมป์”

    แสตมป์ยิ้มแป้นเมื่อลูกอ้อนของตัวเองยังคงได้ผล ซินรวบกระดาษที่กระจัดกระจายบายใจันแหละ ไปเหอะ... นโต๊ะให้เป็นกองอย่างลวกๆ

    เพล้ง~

    ซินหันไปมองตามเสียง โหลแก้วรูปหัวใจที่เค้ามักใช้ใส่กระดาษรูปดาวรูปหัวใจที่พับเล่นหล่นไปนอนอย่างไม่สงบ ซินมองโหลแก้วอย่างพิจารณา

    “ซุ่มซ่ามจริงๆ ทิ้งหมดเลยมั้ยพี่จะได้กวาดทีเดียว”

    แสตมป์บ่นเบาๆ ซินเงยหน้ามามองรุ่นพี่ก่อนพยักหน้าลงเบาๆ

    “อือ แต่ซินว่าซินไม่ได้วางให้มันหล่นได้ง่ายขนาดนี้เลยนะ”

    “อ้วนขึ้นพอก้นกระแทกโต๊ะแรงสั่นสะเทือนมันเยอะเลยตกลงมาไง”

    แสตมป์หัวเราะเบาๆกับการสันนิษฐานตัวเอง มือกวาดเศษแก้วที่ตกกระจายเข้าที่โกยก่อนจะทิ้งลงถังขยะใกล้ๆ จากนั้นก็จูงมือน้องชายคนสนิทให้เดินไปด้วยกันทันที

     

    ได้นะ
    เธอเคยลองถามตัวเองดูมั้ย 
    ว่าหนึ่งชีวิตต้องการอะไร 
    แล้วถ้าสิ่งนั้นมันอยู่ห่างไกล 
    เธอจะลองเชื่ออย่างฉันมั้ย 

     

    “ฝนหยุดตกง่ายดีเนอะพี่แสตมป์”

    ซินมองขึ้นไปยังท้องฟ้าที่เริ่มจะกลับมาสดใสดังเดิม แสงอาทิตย์เริ่มสาดผ่านเมฆเป็นสีส้มจางๆ

    “เคยมีความรู้สึกที่จะไปอยู่บนเมฆมั้ยซิน.. ?”

    “หือ?”

    เสียงหวานครางอย่างสงสัย แสตมป์หันมามองหน้ารุ่นน้องก่อนจะยิ้มเชิงขอคำตอบ

    “มันเป็นแค่ไอน้ำเองนะพี่แสตมป์”

    “ลองเชื่อดูสิ... เชื่อว่ามันสัมผัสได้ เชื่อว่าซักวันนึงเราจะต้องขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ มันน่าจะมีความสุขน่าดูเลยนะ ลองหลับตาแล้วนึกดูสิ”

    แสตมป์พูดเสียงแผ่วก่อนจะหลับตาลงสัมผัสกับความคิดที่ลอยละล่องไปไกล ซินมองหน้ารุ่นพี่ก่อนจะหลับตาลงบ้าง... เมฆสีขาวสดใสที่ลอยอยู่รอบตัว ไอของดินลอยขึ้นมาปะทะจมูก อากาศเย็นเข้ามาครอบครองทั่วอณูร่างกาย

    “จริงด้วย...”

     

    ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ สำหรับฉัน 
    เธออาจได้เจอกับคนที่เธอไม่คาดฝัน 
    เค้าอาจมายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วบอกรักเธอ 
    เหมือนดังในความฝัน

     

    “เห็นมั้ยบอกแล้วว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้.. แค่เราเชื่อว่ามันจะมี มันก็ต้องมี”

    แสตมป์ลืมตาขึ้นมาก่อนจะย้ำความเชื่อให้รุ่นน้องผมยาวคนสนิท ซินค่อยๆเปิดดวงตาหวานขึ้นมามองพี่แสตมป์พร้อมพยักหน้าช้าๆ

    “ฮะ... ซินเชื่อแล้ว”


    เธออาจได้เจอกับคนของเธอเข้าสักวัน 
    คนที่ทำให้ใจไม่หนาวสั่น 
    อย่างกับฉันที่ยังคอยบอกตัวเอง 
    อยู่ทุกวันว่าฉันจะได้เจอ

     

    “ยืนอยู่หน้าร้านก่อนเดี๋ยวพี่เอารถไปจอดละเข้าไปด้วยกันเคป่ะ”

    “ฮะ”

    ซินมองพรีอุสสีขาวที่วิ่งออกไปอย่างช้าๆก่อนถอนหายใจ ดวงตาสวยเหลือบมองชื่อร้านก่อนจะส่ายหัว

    ‘อะพอสโทรฟีเอส’

    มือสวยยกขึ้นมาปิดจมูกพลางมองไปรอบๆ ก่อนจะเห็นเด็กวัยรุ่นหน้าตาดีสองคนยืนสูบบุหรี่อยู่อย่างไม่สนใจโลก ซินเดินถอยหลังให้ห่างจากวัยรุ่นสองคนนั้น

    “อ๊ะ”

    “โอ๊ะ!”

    ร่างบางเซล้มลงไปกับพื้นเมื่อสะดุดกับอะไรบางอย่าง ซักพักก็มีมือหนายื่นเข้ามาให้

    “ขอบคุณฮะ”

    ซินพึมพำเบาๆก่อนจะเอื้อมมือไปจับกับมือนั้นแล้วค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นมา

    “ขอโทษฮะ ผมไม่ทันมองว่าคุณเดินถอยหลังมา”

    “ไมเป็นไรฮะ ซินไม่เป็นไร ขอโทษเหมือนกันฮะที่เดินไม่มอง”

    “ฮะ..”

    “นัทท! มายืนทำไรหน้าร้าน”

    เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น ทั้งซินและชายคนที่ถูกเรียกว่า ‘นัท’ หันไปมองพร้อมกันก่อนซินจะตะลึงนิดๆเมื่อเห็นคนที่หน้าคลับคล้ายคลับคลากับคนที่พึ่งช่วยเขาเมื่อครู่

    “เอ่อ.. ไม่ใช่แฝดหรอกฮะ ไม่ใช่ญาติกันด้วยซ้ำ ขอโทษอีกครั้งนะฮะ”

    เหมือนคนข้างๆเขาจะรู้ทันความคิด นัทรีบบอกก่อนจะยิ้มให้แล้วเดินจากไปพร้อมกับคนหน้าเหมือนนั้นทันที

    ..หน้าคุ้นๆแฮะ

    ..แล้วมือที่จับกันเมื่อกี๊ มันเหมือนมีไฟช็อตเลยแฮะ

    “ซิน”

    เสียงเรียกทำให้ซินสลัดความคิดตัวเองทิ้งก่อนจะหันกลับไปหารุ่นพี่ทันที

    “ครับ”

     

    “บาส..”

    นัทเรียกชื่อเพื่อนขึ้นมาเบาๆ บาสหันไปมองเพื่อนก่อนจะทำหน้าหมาฉงนใส่

    “มึงเคยจับมือกับใครแล้วรู้สึกเหมือนมีไฟช็อตป่ะวะ...”

    “ไม่เคย”

    “งั้นมึงเคยรู้สึกคุ้นหน้าใครมากๆทั้งๆที่มึงเคยเจอหน้าเค้าครั้งแรกป่ะวะ”

    “ก็ไม่เคยอยู่ดี ทำไมอ่ะ”

    “เปล่า กูอาจจะคิดมากไปเองก็ได้..”

     

    เธออาจได้เจอกับคนของเธอเข้าสักวัน 
    คนที่ทำให้ใจไม่หนาวสั่น 
    อย่างกับฉันที่ยังคอยบอกตัวเอง 
    อยู่ทุกวันว่าฉันจะได้เจอ...


    -NOTHINGIMPOSSIBLEIFYOUBELIEVEINTHEM-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×