ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "Brother-Sister": อย่าให้ใครรู้ว่า...'รัก'...

    ลำดับตอนที่ #2 : INTRO : 2

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ย. 49


    Brother- Sister ….

    อย่าให้ใครรู้ว่า...'รัก'...





     

    INTRO 2


     


    .....เห็นใคร ๆ เค้าดูมีความสุข ได้รับดอกไม้ช่อใหญ่.....**

    เสียงเค้าหัวเราะ ฟังดูสดใส คงเพราะว่าภายในใจเค้ารักกัน

    แต่เมื่อย้อนมาดูตัวเอง ก็ไม่เห็นเคยเป็นอย่างนั้น

    อยู่เพียงตัวคนเดียว และอยู่ไปวัน ๆ หมดความหมาย...

    อยากได้ดอกไม้บ้าง อยากได้ของขวัญของฉันบ้าง จะมีทางเป็นจริงซักเมื่อไหร่

    อยากมีความรัก และอยาก ที่จะมีเค้าอยู่ใกล้ ๆ ....เมื่อไรจะเจอซักที

    ถ้าฉันมีเขา คงมีความสุข และคงได้ดอกไม้ช่อใหญ่

    เสียงฉันหัวเราะ คงฟังสดใส ก็เพราะมีใครสักคนที่รักกั.......


     



                "อ้าว....ถ่านหมดเหรอเนี่ย"

                อุษารัตน์ อุทานออกมา พลางเขย่าปนเคาะเครื่องเล่นMP3ขนาดกระทัดรัดเบา ๆ จนกระทั่งเธอแน่ใจแล้วว่าไม่มีปาฏิหาริย์ปลุกมันขึ้นมาได้อีก จึงดึงหูฟังและเครื่องเล่นใส่ลงกระเป๋าเสื้อกันหนาวสีชมพูอ่อนอย่างเสียดาย

               

                เด็กสาววัย16 พลิกนิตยสารท่องเที่ยวในมืออย่างเบื่อ ๆ ร่างบอบบางที่ซุกตัวอยู่บนเก้าอี้นวมหนานุ่มในล๊อบบี้โรงแรมหรูกึ่งรีสอร์ทมาตลอดหัวค่ำเริ่มออกอาการยุกยิกอยู่ไม่สุข เนื่องจากไม่มีกิจกรรมฆ่าเวลาที่โปรดปรานอีก

               

                อุษารัตน์ไม่อยากกลับเข้าไปในงานเลี้ยงรุ่นที่สระน้ำชั้นสองเท่าไหร่ มารดาของเธอกำลังมีความสุข ลูกสาวดูแล้วก็รู้ว่าคนเป็นแม่กำลังเหมือนจะย้อนวัยกลับไปเป็นสาวน้อยอีกครั้ง เมื่อมีคุณปฐวีที่เป็น'รักแรก'เข้ามาสานสัมพันธ์ครั้งใหม่

                .....แล้วเรื่องอะไรเธอจะเข้าไปเป็นก้างล่ะ?.....

                ใจจริงเด็กสาวก็ไม่ใช่ไม่หวงแม่ อุษารัตน์เคยงอนแม่ไปพักใหญ่ หลังจากที่คุณอรนิภาเล่าเรื่องการกลับมาพบกันที่แสนโรแมนติกในสิงคโปร์ระหว่างเธอกับหนุ่มใหญ่คนนั้นด้วยดวงตาเป็นประกาย และท่าทางที่กระตือรือร้นอย่างที่นาน ๆ จะได้เห็นที

                "เขายังดูเหมือนเดิมเลยนะลูก ใจเย็น ขรึม แต่เทคแคร์คนได้น่าประทับใจที่สุด"

                คุณอรนิภาชื่นชมจนออกนอกหน้านอกตา เล่นเอาคนเป็นลูกสาวแกล้งทำเสียง"แหวะ!"ออกมาเล่น ๆ


               
    "เอ๊ ลูกคนนี้นี่ เสียมารยาทจริง อย่าไปทำให้ใครเห็นนะ โรงเรียนเค้าจะได้ริบรางวัลมารยาทงามเมื่อปีที่แล้วของลูกกลับหรอก"

                "ไม่รุ ไม่สน" เด็กสาวกอดเอวแม่พร้อมกับส่ายหน้าถี่ ๆ จนผมยาวสะบัดไปมา "ไม่เห็นจะอยากได้เลยรางวัล อ้อนมีแม่คนเดียวก็พอแล้ว ไม่ยกให้ใครหรอก"

                คุณอรนิภามองลูกสาวซึ่งกำพร้าพ่อจากอุบัติเหตุมาตั้งแต่สิบขวบด้วยดวงตาปราณี ยกมือลูบศีรษะทุยได้รูปนั้นเบา ๆ


               
    "แม่รู้จ๊ะ แม่ก็รักอ้อนมาก และแม่ก็รักพ่อของอ้อนมากเหมือนกัน เอาเป็นว่า ถ้าอ้อนไม่ชอบ แม่จะไม่ติดต่อกับเขาอีกก็แล้วกันนะจ๊ะ"

                อุษารัตน์ชะงัก ก่อนจะเงยหน้ามองดูมารดาอย่างครุ่นคิด .....รู้สึกเหมือนตัวเองเห็นแก่ตัวอย่างบอกไม่ถูก วินาทีนั้นเธอจึงได้ตัดสินใจอย่างมีเหตุผลเป็นครั้งแรกในเรื่องนี้ว่า.....

                .....แม่เสียใจกับการจากไปของพ่อมาหลายปีแล้ว.....

                .....ดังนั้นอะไรที่ทำให้แม่มีความสุข.....


     

                ......ก็ไม่ควรจะไปขัดขวางอีก.....



     

                            +++++++++++++++++++++++


     

                เด็กสาวนั่งเท้าคางกำลังนึกลังเลอยู่ว่าจะลุกขึ้นไปหยิบนิตยสารมาอ่านอีกเล่ม หรือว่าจะไปซื้อถ่านอัลคาไลน์ที่มินิมาร์ทดีก็ปรากฏว่ามีกลุ่มคนที่ทำให้เธอเลือกตัดสินใจอย่างหลังเดินเข้ามาในล๊อบบี้เสียก่อน

                อุษารัตน์ค่อย ๆ ลุกเดินช้า ๆ พยายามใช้เสาและมุมของโรงแรมให้เป็นประโยชน์ที่สุด เพื่อที่ว่าลูกเพื่อนแม่กลุ่มนั้นจะได้ไม่ต้องสังเกตเห็นเธอ และจะได้ไม่ต้องเข้ามายุ่มย่ามอะไรให้รำคาญใจอีก หลังจากเมื่อตอนบ่ายของวันนี้ เด็กสาวแทบอยากจะร้องกรี๊ดออกมาดัง ๆ อย่างคนที่หมดความอดทนสุดขีด เพราะโดนยิงมุกจีบสาวเสี่ยว ๆ เข้าใส่อย่างนับครั้งไม่ถ้วน

                อาจจะเป็นเพราะเธออายุน้อยที่สุดในงานนี้ล่ะมั้ง?.....เลยต้องมานั่งรับกรรมอะไรแบบนี้ อุษารัตน์ขมวดคิ้ว นึกหาเหตุผลที่ทำให้หนุ่มน้อยกลุ่มนั้นชอบเข้ามาสร้างความรำคาญให้กับเธอนัก ....สงสัยจะเห็นเธอเป็นเป้าซ้อมฝีปากชั้นดีที่ไม่มีปากเสียงโต้ตอบกลับแหง ๆ .....

                เด็กสาวนึกไปไกล ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว ภาพสะท้อนตัวเองในกระจกซึ่งติดไว้บนเสาโรงแรมดูจะเป็นคำตอบง่าย ๆ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถให้คำตอบได้ไม่ยาก....

                อุษารัตน์เป็นเด็กสาวที่มีรูปร่างไม่สูงมาก แต่ดูเพรียวสมส่วนอย่างเหมาะสม ไม่มากไปไม่น้อยไป ดวงตาสีนิลบนใบหน้าเรียวได้รูปมีเสน่ห์น่ารักชวนให้คนมองเผลอลืมหายใจเอาได้ ผมยาวดำขลับนุ่มละมุน  ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีชมพูระเรื่อบวกกับผิวเนียนละเอียดเหมือนหยกขาวไร้ตำหนิยิ่งทำให้เด็กสาวโดดเด่นจนเรียกได้ว่าทิ่มตาทิ่มใจหนุ่ม ๆ เข้าอย่างจัง

                จะมีก็แต่เจ้าตัวที่เรียนโรงเรียนหญิงล้วนมาตลอดนี่แหล่ะ ที่ไม่เคยรู้ตัวเลยซักนิด ถึงแม้จะมีประเภททอมห้าวทอมซ่าแวะเวียนเข้ามาจีบอยู่ไม่ขาดระยะก็ตาม อุษารัตน์ก็ยังดำรงความเป็นเด็กดีของแม่ได้อย่างไม่ไหวหวั่น


               

                เด็กสาวเดินแอบเสาออกมาจากล๊อบบี้จนแน่ใจแล้วว่าพวกนั้นคงไม่สังเกตเห็นเธอชัวร์ ๆ ถึงได้คลายใจลง และก้าวเท้ามุ่งตรงไปที่มินิมาร์ทด้วยจิตใจปลอดโปร่งขึ้น

                อากาศต้นฤดูหนาวของเมืองเหนือเย็นสดชื่น เสียงลมพัดยอดไม้ไหวดังแว่วมาเป็นระยะ ร่างบอบบางหยุดสูดหายใจเข้าเต็มปอดระหว่างทางด้วยความสบายใจ วูบหนึ่งที่อุษารัตน์นึกอยากจะให้ทางเดินสายนี้ทอดยาวไกลมากกว่าเดิม จะได้ซึมซาบบรรยากาศที่งดงามมากขึ้นกว่านี้ ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริง ประตูทางเข้ามินิมาร์ทได้ย่นระยะทางจนห่างจากเธอแค่ไม่กี่คืบแล้ว

                ....อยู่ไหนน๊า?.....

                เด็กสาวเหลือบเห็นถ่านอัลคาไลน์เหลือแขวนไว้เพียงแพ็คเดียวที่ชั้นใกล้เคาท์เตอร์ จึงไม่คิดอะไรนอกจากเอื้อมมือคว้าอย่างรวดเร็ว....หุหุหุ กลัวโดนตัดหน้าน่ะ ไม่ใช่อะไร ดูท่าทางลูกค้าตัวโย่งอีกคนจะเล็ง ๆ ไว้เหมือนกัน  ของอย่างงี้ ใครเร็วใครได้จ้า!....

                หมับ!!

                อุษารัตน์อ้าปากค้าง เมื่อถ่านแพ๊คนั้นอยู่ในกำมือเธอสมใจ แต่มือเธอกลับอยู่ในกำมือใครบางคนเข้าเต็มเปา.......

                ช่วงเวลานี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของ'เรื่องราว'มากมาย


                ถ้าให้ย้อนเวลากลับไปได้ อุษารัตน์ก็ไม่แน่ใจนักหรอกว่าจะยังคงเดินเข้ามินิมาร์ทเหมือนเดิมอีกรึเปล่า!




     

                            +++++++++++++++++++++++++









                **เพลง "อยากได้(somebody gimme a bouquet please!)"

    อัลบั้ม ออย ช๊อกกิ้ง พิ๊ง

    สังกัดโดโจซิตี้ (ค่าย Bakery)  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×