ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : วิทยาศาสตร์พุทธเย็น by Kark
วันที่ เวลา 5.00 น.
“ครูบี!” เสียงเจื้อแจ้วดังชึ้นในสถานที่เรียนพิเศษแห่งเดิม พร้อมกับการปรากฏของต้นเสียง
นัยน์ตาสีดำกวาดไปรอบๆห้อง พลันไปสะดุดกับเจ้าของชื่อและเพื่อนร่วมชั้น ที่นั่งดูทีวีอยู่
“อัจมาแล้ว ขึ้นห้องไปเร็ว” ครูสอนเคมี เจ้าของสถานที่เรียนพิเศษแห่งนี้ พูดพลางจัดแฟ้มเอกสารไปพลาง
“คร้าบโผม” อัจลากเสียงยานประชด แต่ดูเหมือนคนฟังจะไม่รู้สึก
“มาตรงเวลาดีนี่” ครูบีเอ่ยชม คนได้รับคำชมเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ก่อนจะหันไปดูนาฬิกาที่ผนัง
5.00 น. ตรงเป๊ะ
‘อุตส่าห์ออกมาช้าแล้วนะ’ อัจบ่นอุบอิบในใจ ไม่กล้าบ่นออกมา เพราะเดี๋ยวจะมีคนอาละวาด
ครูบีเดินนำนักเรียนทั้งสองไปด้านหลัง ในขณะที่เดินอยู่นั้น คนมาตรงเวลาก็โม้ไปเรื่อย
“เนี่ยครูบี พี่ๆสองตัวกำลังนั่งจิ้มคอมฯใหม่อยู่แหละ เพิ่งได้เมื่อเช้า มีทั้งสแกนเนอร์ ปริ๊นเตอร์พร้อม แถมยังไรท์แผ่นได้อีกด้วย...” น้ำเสียงแสดงความภาคภูมิใจอย่างเด็กเห่อของใหม่ แต่ทว่าขณะที่พูดอยู่นั้นคนฟังหันหลังให้ จึงไม่เห็นใบหน้าที่พรายไปด้วยรอยยิ้มอย่างคนช่างยั่ว
“เออย่ะ พวกแกได้คอมใหม่มีอุปกรณ์ครบ เชอะ!” ครูบีทำปากยื่นอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะไล่เด็กสองคนขึ้นไปก่อน
-----------------------------------------------------------------------
ณ ชั้นสอง
ร่างบางเดินลัดเลาะไปตามทางเดินแคบๆระหว่างห้องเรียน เมื่อถึงห้องเป้าหมายห้องแรก ก็ชะโงกหน้าเข้าไปดูปรากฏว่ามีคนใช้อยู่ จึงเดินไปยังห้องที่สองและ...
ห้องที่สองก็มีคนเรียนอยู่เหมือนกัน! แล้วอย่างนี้จะได้เรียนมั๊ยเนี่ย ..เชื่อเหอะ เดี๋ยวต้องโดนเนรเทศไปรอที่ห้องร้อนๆอีกแหง ครูบีนะครูบี ขี้งกค่าแอร์ชะมัด
ดวงหน้าฉายแววหงุดหงิด เมื่อนึกย้อนไปถึงคราวก่อน ที่ต้องไปนั่งรอเรียนที่ห้อง F (Freeze) ที่มันเคย Freeze เมื่อมันต้องเปิดหน้าต่างแทนแอร์! เกือบครึ่งชั่วโมง !!!
ขณะที่กำลังจมอยู่ในห้วงคิดนั้น ครูบีก็เดินขึ้นมา ใบหน้าอวบอิ่มฉายแววประหลาดใจ อัจกับ บีบีหลบให้ครูบีเดินไปข้างหนึ่ง และในที่สุดก็เป็นอย่างที่คิดไม่ผิด ต่างจากที่คิดหน่อยนึง คือ ต้องไปที่ห้อง G แทน
“ครูบีอะ เปิดแอร์แล้วเรียนห้องนี้เลยไม่ได้เหรอ” เสียงบีบีโอดครวญดังขึ้นทันทีที่เข้ามาในห้อง
“แป๊บเดียวเองเดี๋ยวครูขวัญก็ออกมาแล้ว ทนหน่อยสิ” คำตอบเดิมๆที่ใช้เลี่ยงค่าแอร์ “เอ้า! เด็กๆเปิดไปหน้าแบบฝึกหัดแล้วทำต่อถึงข้อ... เดี่ยวครูบีไปห้องน้ำแป๊บนึง”
สิ้นเสียงนั้นบีบีก็ขัดขึ้น “ครูบีไม่กลัวแล้วหรือไง ตอนที่มันเดินไป...” หลังจากนั้นทั้งสองก็คุยเรื่องชัตเตอร์ หนังผีที่อัจไม่ดู ไปอีกประมาณประโยคสองประโยค แล้วครูบีก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเหมือนสะใจที่ไม่เป็นไปตามบีบีคาด “ไม่กลัวย่ะ หนูนันอยู่ข้างบนด้วย”
“แล้วถ้าไม่มีคนอยู่ล่ะ ครูบีจะกล้าขึ้นไปคนเดียวป่าว?” บีบีถาม แต่คนต้องตอบก็เผ่นแนบไปเรียบร้อยทิ้งให้เด็กสองคนนั่งทำแบบฝึกหัดในห้องร้อนๆ
ผ่านไปสักพัก เสียงนางฟ้าจากสวรรค์ (ห้องแอร์) ก็ดังขึ้น
“บีบี”
สมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว เสียงครูขวัญที่สอนอิน+ไอเย็นที่ลอยเข้ามา=ได้เข้าห้องแอร์แล้ว!
อัจคิดอย่างรื่นเริงและจัดการย้ายของไปที่ห้อง D ในขณะที่ย้ายของ เธอเหลือบไปเห็นสวิทซ์ที่ผนังห้อง สมองก็เริ่มคิดอะไรสนุกๆได้
อือ..ครูบีเพิ่งดูชัตเตอร์มาคงจะกลัวผีไม่น้อยถ้าเกิดกลับมาแล้ว เจอทางมืดๆจะเป็นยังไงน้า
รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นที่ริมฝีปาก ขณะที่ขยับตัวจะไปเริ่มแผนการอยู่นั่นเอง เสียงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ทำให้แผนการล่มอย่างไม่เป็นท่า
ครูบีกำลังคุยกับใครสักคนอยู่แถวๆบันได อัจทำหน้าบูดสนิทแต่ด้วยความสนใจจึงยื่นหูไปฟัง
แต่ยังไม่จะจับใจความสำคัญได้ครูบีก็เรียกซะก่อน
“อัจ อัจ ไปตามพี่แกมาหน่อยซิ”
คนฟังที่ได้ยินดังนั้นก็เลิกคิ้วขึ้นพร้อมยกประโยคที่พี่อรเคยบอกไว้ “วันนี้สองคนนั้นไม่มีเรียนไม่ใช่หรอ”
“ครูบีก็ไม่รู้เหมือนกันครูแน๊ตรออยู่ข้างล่างแล้วด้วย” คิ้วครูบีขมวดมุ่นแสดงความไม่เข้าใจอย่างชัดเจน
“คร้าบโผม” น้าเสียงยานตอบแบบคนขี้เกียจ แล้วอัจก็ตั้งต้นวิ่งกลับไปที่บ้าน
โอ๊ย ขี้เกียจวิ่งชะมัด แต่เอาเถอะไอ้สองคนนั้นก็อดเล่นคอมเหมือนกัน หึหึแถมได้เลทชั่วโมงครูบีอีก
ประโยชน์สองต่อ!!
“เจ๊คุง พี่สร้อย ไปเรียนฟิสิกส์” ทันทีที่ถึงบ้านคนส่งข่าวก็ทำหน้าที่
พี่สร้อยกันพี่อร ทำหน้าตื่นตะลึง แล้วถามต่อ “อ้าว ไหนว่าไม่เรียนไง”
อัจส่ายหน้า “อัจก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พี่แน๊ตนั่งรออยู่แล้วนะ”
“โอเค โอเค เดี๋ยวเราไปหยิบชีทก่อนนะสร้อย” อรว่าพลางลุกจากเก้าอี้หน้าคอม
“เออ” เสียงพี่สร้อยตอบรับดังตามหลังไป เมื่อบอกข่าวร้ายเสร็จหมดธุระ คนส่งข่าวจึงกลับไปที่ศูนย์
ก๊อกๆๆๆ แอ๊ด...
“ครูบีเรียกสองคนนั้นมาให้แล้วอีกแป๊บ เดี๋ยวก็มา” อัจบอกขณะเดินมานั่งที่
นับถอยหลัง 5...4...3...2...1...
“พี่แน๊ตอ่า ไม่อยากเรียน ขี้เกียจ” เสียงพี่พี่สองคนผู้ถูกตามมาจากบ้านอุธรณ์ลั่น ตามด้วยเสียงพี่นันผู้พึ่งลงมาจากชั้นบน “ไม่เอา ไม่เรียนไม่เรียน”
ด้วยเสียงที่ทรงพลัง ดังจากบันไดมาถึงห้อง D ครูบีจึงเดินออกไปคุยด้วย สักพักหนึ่งเสียงก็เงียบไป แล้วครูบีก็กลับมาเริ่มสอน...
ผ่านไปสักพักหนึ่ง...
“บีบี ที่คุณแม่แนะนำไปน่ะครูบีน่ะกลัวเจ็บจัง” ครูบีพูดพลางเอามือมาบีบๆนวดๆแขนตัวเอง หลังจากที่บ่นปวดข้อมือมาค่อนข้างนาน
“ไม่เจ็บหรอกครูบี บียังเคยไปเลย” บีบีตอบ ขณะที่ทั้งสองคุยกันต่อไปนั้น อัจผู้ไม่เข้าใจเรื่องที่คุยกันก็เริ่มประมวลผล
ครูบีกลัวเจ็บ+ขนาดตัวของทั้งสามคน= ลดความอ้วน? อัจยิ้มน้อยๆกับความคิดของตนก่อนขยับปากเอ่ยถาม “ลดความอ้วนเหรอ ครูบี”
ได้ผลชะงักบีทั้งสองหยุดคุยกันทันที บีบีหัวเราะก๊ากดังลั่น ส่วนคนถูกถามว่าไปลดความอ้วนถลึงตาใส่คนถามตัวแสบที่ยังนั่งทำหน้าซื่ออยู่
“ยายอัจ!” เสียงครูบีพิโรธดังคับห้อง D
“อ้าวไม่ใช่เหรอ” คนต้นเหตุทำหน้าซื่อถามต่อไป
“ไม่ใช่ย่ะ ครูบีไปนวดต่างหาก” คนพูดสะบัดหน้าไปถลึงตาใส่คนที่ยังไม่หยุดหัวเราะ
“เนี้ย...ครูบีปวดไปหมดเลย ตั้งแต่ตอนไปทำบุญ 9 วัดตอนนั้นน่ะ” เมื่อครูบีเห็นว่าบีๆจะไม่ยอมหยุดหัวเราะง่ายๆจึงหันมาบ่นต่อ
“เอ้า! เด็กๆ ทำเสร็จหรือยังจะเฉลยแล้วนะ” เป็นคำพูดที่หยุดบทสนทนาทั้งหมด
------------------------------------------------------------------------------
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง
ขณะที่นักเรียนทั้งสอง ก้มหน้าก้มตาทำการบ้านอยู่นั้น เสียงรบกวนโสตประสาทก็ดังขึ้น
“ชั้น...รักเธอ รักเธอด้วยความไหวหวั่น...ว่าสักวัน....ชั้นคงถูกทอดทิ้ง***”
“ครูบีร้องเพลงได้...” บีบีผู้เสียสมาธิการทำงานไปเรียบร้อยเอ่ยขึ้น พร้อมทำท่าเหมือนจะอ้วก
“เนี่ย เพลงครูบีออกจะไพเราะ แล้วคนพูดก็ร้องเพลงอื่นต่อไปโดยที่อัจไม่ได้สนใจฟัง จนกระทั่ง
“เออเนี่ย ดูพวกพี่ตัวแสบของแกดิ” ว่าแล้วก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าถือพร้อมกับหยิบหนังสือเล่มสีชมพูๆเล่มหนึ่งออกมา เป็นหนังสือเล่มที่อัจคุ้นตามากๆ เพราะมันคือ!
โสด...แล้ว..งัย...
เล่มที่สองตัวแสบซื้อให้ครูบีทันทีที่หนังสือเผยโฉมให้ประจักษ์ต่อทุกสายตา บีบีก็หัวเราะอย่างถูกใจ ขณะที่อัจยิ้มน้อยๆอย่างเดิม
“หยาบคายที่สุด” ครูบีพูดสะบัดเสียง “อย่างว่านะ คนสวยที่เลอค่า จนไม่มีผู้ชายคนไหนมาเคียงข้างได้...” น้ำเสียงเคลิ้มฝันของคนพูด เล่นเอาสองนักเรียนผู้ฟังขนลุกซู่
“แหวะ ไม่มีใครเอามากกว่า” บีบีบอกพร้อมทำท่าประกอบ
“บีบี!” คนไม่มีใครเอาอุทานดังลั่นและถลึงตาใส่คนพูด ก่อนจะเอ่ยต่อไป “ดูพวกเจ๊แกดิ มันเขียนตรงปกในซะ...” แล้วคนพูดก็ยื่นหนังสือให้เด็กๆทั้งสอง
ประโยคในนั้นเป็นสิ่งที่อัจรู้ดี เนื่องจากเห็นอีเมล์ฉบับนั้นแล้วมันเขียนว่า ‘จากลูกศิษย์ผู้หวังดี ถึงครูบี’
พอบีบีอ่านจบเท่านั้นแหละ เด็กชายก็หัวเราะลั่น จนเจ้าของหนังสือแย่งหนังสือคืนไป
“ครูบีอ่านปกหลังให้ฟังหน่อยสิ” อัจแนะนำ รอยยิ้มน้อยๆผุดที่ริมฝีปากอีกครั้ง
ครูบีก็ทำตามความต้องการด่วนทันใจ แถมเสียงอ่านยังใส่เอฟเฟกต์อย่างเมามัน
“ถ้าใครสักคนเหน็บแนมจิกตีคุณเรื่องความโสด
ให้หันกลับไปมองด้วยสายตาสงสารสังเวช และเห็นอกเห็นใจ
ประเหมือนหนึ่งว่า เขาเพิ่งถูกสิบล้อทับขาขาด
พร้อมกับพูดว่า
“ขอโทษนะที่ไปโสดบนหัวหล่อน!
แต่บังเอิญว่าชาติที่แล้วเป็นคนโรมันน่ะ
ชอบสถาปัตยกรรมแบบเสาและคาน
คงจะไม่ลงมาง่ายๆหรอกนะ
ก็โสดน่ะแต่แบบว่า
โสดแซบน่ะใครจะทำไม”
พออ่านจบสองบีก็ประสานเสียงกันหัวเราะ แล้วครูบีก็อ่านประโยคอื่นๆต่อไปอีก “กฎของคนโสด...”
ผ่านไปประมาณ 10 นาที...
“....ไม่ต้องมีใครมากวน” คนอ่านเหลือบขึ้นมองลูกศิษย์ทั้งสอง ปรากฏว่า คนนึงตั้งอกตั้งใจฟัง ส่วนอีกคน...หลับ
“ยายอัจ!” คนถูกเรียกสะดุ้งตื่นทันที และทำหน้างัวเงียพลางหยิบปากกาแดงเป็นเชิงเตือนให้คนสอนระลึกได้ว่า ต้องเฉลยแบบฝึกหัดแล้ว...
------------------------------------------------------------------------------
10 นาทีให้หลัง
“ครูบี ดูลอร์ดออฟ เดอะริงค์ เปล่า?” บีบีถาม หลังจากทำกากบาทเสร็จ
“ดูสิ ครูบีน่ะ ชอบเรื่องนี้มากเลย เนี่ย กำลังจะไปหาซื้อ DVD อยู่”
อัจผู้ทำแบบฝึกหัดเสร็จ ก็เลงยหน้าชึ้นมาฟังทั้งสองคุยกัน “ครูบีชอบดูหนังแนวไหนน่ะ” อัจถาม แต่คำตอบที่ได้รับ เล่นเอากลืนน้ำลายเอื๊อกทีเดียว
“ครูบีชอบหนังแบบ เจ้าหญิงเจ้าชาย อะไรทำนองนั้นน่ะ แล้วนางเอกนะ ต้องเป็นแบบเจ้าหญิงผู้สูงค่า แบบที่พระเอกไม่อาจเอื้อมถึงนะ แล้วพระเอกต้องเป็นคนธรรมดาๆ แทบเท้านางเอก ตอนจบต้องให้ไม่พระเอกก็นางเอกตาย”
คนถามฟังคำตอบก็ลอบคิดอย่างสยองๆในใจ ‘ครูบีเป็นพวก Sm เปล่าวะ?’
เหมือนว่าคนโดนนินทาในใจ จะอ่านความคิดของอัจได้ รับย้ำคำตอบของคำถามในทันที “ต้องเอาแบบซาดิสต์ๆ จบแบบแซดเดนดิ้ง”
เอื๊อก
ข่าวใหญ่ พาดหัวหน้าหนึ่ง!
ครูสอนเคมีของพวกเราเป็นพวก Sm !
โปรดระวังความปลอดภัยของท่านไว้ให้ดี มิฉะนั้นอาจจะ...
(ตรงนี้อย่าให้ครูบีรู้เชียวนะ เดี๋ยวคนเขียนโดนฆ่า -“-)
“ครูบีชอบอ่านนิยายแนวตลกๆปะ” อัจรีบเปลี่ยนเรื่อง ก่อนที่ครูบีจะบ้าไปกว่านี้
“ก็ชอบนะ แต่ครูบีอ่านหนังสือช๊า ช้า หนึ่งสัปดาห์เพิ่งอ่านได้แค่ 40 หน้าเอง” ครูบีตอบ พลางหยิบหนังสือโสดแล้วงัย ขึ้นมาอ่านเล่นอีก
“ครูบีสนแนวรักตลกๆ มั้ยล่ะค่ะ มีเรื่องนึง เพชรประดับใจ กับอีกเรื่องเป็นแนวแฟนตาซี ชื่อเรื่องจอมปราชญ์ จอมราชันย์” อัจแนะนำนิยาย
“แฟนตาซีอีกล่ะ ไอ้เรื่องคราวก่อนนะ ครูบีอ่านไม่รู้เรื่องเลย ได้พ่อมดอะไรนี่แหละ” คนอ่านหนังสือช้าตอบ และทำหน้าสะอิดสะเอียน
“พ่อมดแห่งเอิร์ธซีค่ะ เรื่องจอมปราชญ์จอมราชันย์คราวนี้น่าจะอ่านรู้เรื่อง มันลงอยู่ในเน็ต คนเขียนเป็นเด็ก ระดับสติปัญญาใกล้เคียงกัน” อัจว่า รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดที่ริมฝีปาก
‘1...2...’
“อือ” ครูบีทำเสียงรับในคอ
‘...3...’
“ยายอัจ!” คนถูกว่าเพิ่งรู้สึกตัว หันมาถลึงตาใส่คนว่าตัวแสบที่มันนั่งจับเวลา
‘ว้า... น่าเสียดายจัง แค่ 3 วิ เอง’ อัจคิดขำๆ ขณะที่บีบีหัวเราะก๊ากอย่างถูกใจ จนครูบีต้องรีบเปลี่ยนเรื่องด่วน
“เอ้า ทำกันเสร็จยัง เฉลยๆๆๆ!!!”
ผ่านไปอีกประมาณ 5 นาที ก็หมดชั่วโมง
The end
โปรดติดตามผลงานอื่นต่อไป    By Kark
“ครูบี!” เสียงเจื้อแจ้วดังชึ้นในสถานที่เรียนพิเศษแห่งเดิม พร้อมกับการปรากฏของต้นเสียง
นัยน์ตาสีดำกวาดไปรอบๆห้อง พลันไปสะดุดกับเจ้าของชื่อและเพื่อนร่วมชั้น ที่นั่งดูทีวีอยู่
“อัจมาแล้ว ขึ้นห้องไปเร็ว” ครูสอนเคมี เจ้าของสถานที่เรียนพิเศษแห่งนี้ พูดพลางจัดแฟ้มเอกสารไปพลาง
“คร้าบโผม” อัจลากเสียงยานประชด แต่ดูเหมือนคนฟังจะไม่รู้สึก
“มาตรงเวลาดีนี่” ครูบีเอ่ยชม คนได้รับคำชมเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ก่อนจะหันไปดูนาฬิกาที่ผนัง
5.00 น. ตรงเป๊ะ
‘อุตส่าห์ออกมาช้าแล้วนะ’ อัจบ่นอุบอิบในใจ ไม่กล้าบ่นออกมา เพราะเดี๋ยวจะมีคนอาละวาด
ครูบีเดินนำนักเรียนทั้งสองไปด้านหลัง ในขณะที่เดินอยู่นั้น คนมาตรงเวลาก็โม้ไปเรื่อย
“เนี่ยครูบี พี่ๆสองตัวกำลังนั่งจิ้มคอมฯใหม่อยู่แหละ เพิ่งได้เมื่อเช้า มีทั้งสแกนเนอร์ ปริ๊นเตอร์พร้อม แถมยังไรท์แผ่นได้อีกด้วย...” น้ำเสียงแสดงความภาคภูมิใจอย่างเด็กเห่อของใหม่ แต่ทว่าขณะที่พูดอยู่นั้นคนฟังหันหลังให้ จึงไม่เห็นใบหน้าที่พรายไปด้วยรอยยิ้มอย่างคนช่างยั่ว
“เออย่ะ พวกแกได้คอมใหม่มีอุปกรณ์ครบ เชอะ!” ครูบีทำปากยื่นอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะไล่เด็กสองคนขึ้นไปก่อน
-----------------------------------------------------------------------
ณ ชั้นสอง
ร่างบางเดินลัดเลาะไปตามทางเดินแคบๆระหว่างห้องเรียน เมื่อถึงห้องเป้าหมายห้องแรก ก็ชะโงกหน้าเข้าไปดูปรากฏว่ามีคนใช้อยู่ จึงเดินไปยังห้องที่สองและ...
ห้องที่สองก็มีคนเรียนอยู่เหมือนกัน! แล้วอย่างนี้จะได้เรียนมั๊ยเนี่ย ..เชื่อเหอะ เดี๋ยวต้องโดนเนรเทศไปรอที่ห้องร้อนๆอีกแหง ครูบีนะครูบี ขี้งกค่าแอร์ชะมัด
ดวงหน้าฉายแววหงุดหงิด เมื่อนึกย้อนไปถึงคราวก่อน ที่ต้องไปนั่งรอเรียนที่ห้อง F (Freeze) ที่มันเคย Freeze เมื่อมันต้องเปิดหน้าต่างแทนแอร์! เกือบครึ่งชั่วโมง !!!
ขณะที่กำลังจมอยู่ในห้วงคิดนั้น ครูบีก็เดินขึ้นมา ใบหน้าอวบอิ่มฉายแววประหลาดใจ อัจกับ บีบีหลบให้ครูบีเดินไปข้างหนึ่ง และในที่สุดก็เป็นอย่างที่คิดไม่ผิด ต่างจากที่คิดหน่อยนึง คือ ต้องไปที่ห้อง G แทน
“ครูบีอะ เปิดแอร์แล้วเรียนห้องนี้เลยไม่ได้เหรอ” เสียงบีบีโอดครวญดังขึ้นทันทีที่เข้ามาในห้อง
“แป๊บเดียวเองเดี๋ยวครูขวัญก็ออกมาแล้ว ทนหน่อยสิ” คำตอบเดิมๆที่ใช้เลี่ยงค่าแอร์ “เอ้า! เด็กๆเปิดไปหน้าแบบฝึกหัดแล้วทำต่อถึงข้อ... เดี่ยวครูบีไปห้องน้ำแป๊บนึง”
สิ้นเสียงนั้นบีบีก็ขัดขึ้น “ครูบีไม่กลัวแล้วหรือไง ตอนที่มันเดินไป...” หลังจากนั้นทั้งสองก็คุยเรื่องชัตเตอร์ หนังผีที่อัจไม่ดู ไปอีกประมาณประโยคสองประโยค แล้วครูบีก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเหมือนสะใจที่ไม่เป็นไปตามบีบีคาด “ไม่กลัวย่ะ หนูนันอยู่ข้างบนด้วย”
“แล้วถ้าไม่มีคนอยู่ล่ะ ครูบีจะกล้าขึ้นไปคนเดียวป่าว?” บีบีถาม แต่คนต้องตอบก็เผ่นแนบไปเรียบร้อยทิ้งให้เด็กสองคนนั่งทำแบบฝึกหัดในห้องร้อนๆ
ผ่านไปสักพัก เสียงนางฟ้าจากสวรรค์ (ห้องแอร์) ก็ดังขึ้น
“บีบี”
สมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว เสียงครูขวัญที่สอนอิน+ไอเย็นที่ลอยเข้ามา=ได้เข้าห้องแอร์แล้ว!
อัจคิดอย่างรื่นเริงและจัดการย้ายของไปที่ห้อง D ในขณะที่ย้ายของ เธอเหลือบไปเห็นสวิทซ์ที่ผนังห้อง สมองก็เริ่มคิดอะไรสนุกๆได้
อือ..ครูบีเพิ่งดูชัตเตอร์มาคงจะกลัวผีไม่น้อยถ้าเกิดกลับมาแล้ว เจอทางมืดๆจะเป็นยังไงน้า
รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นที่ริมฝีปาก ขณะที่ขยับตัวจะไปเริ่มแผนการอยู่นั่นเอง เสียงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ทำให้แผนการล่มอย่างไม่เป็นท่า
ครูบีกำลังคุยกับใครสักคนอยู่แถวๆบันได อัจทำหน้าบูดสนิทแต่ด้วยความสนใจจึงยื่นหูไปฟัง
แต่ยังไม่จะจับใจความสำคัญได้ครูบีก็เรียกซะก่อน
“อัจ อัจ ไปตามพี่แกมาหน่อยซิ”
คนฟังที่ได้ยินดังนั้นก็เลิกคิ้วขึ้นพร้อมยกประโยคที่พี่อรเคยบอกไว้ “วันนี้สองคนนั้นไม่มีเรียนไม่ใช่หรอ”
“ครูบีก็ไม่รู้เหมือนกันครูแน๊ตรออยู่ข้างล่างแล้วด้วย” คิ้วครูบีขมวดมุ่นแสดงความไม่เข้าใจอย่างชัดเจน
“คร้าบโผม” น้าเสียงยานตอบแบบคนขี้เกียจ แล้วอัจก็ตั้งต้นวิ่งกลับไปที่บ้าน
โอ๊ย ขี้เกียจวิ่งชะมัด แต่เอาเถอะไอ้สองคนนั้นก็อดเล่นคอมเหมือนกัน หึหึแถมได้เลทชั่วโมงครูบีอีก
ประโยชน์สองต่อ!!
“เจ๊คุง พี่สร้อย ไปเรียนฟิสิกส์” ทันทีที่ถึงบ้านคนส่งข่าวก็ทำหน้าที่
พี่สร้อยกันพี่อร ทำหน้าตื่นตะลึง แล้วถามต่อ “อ้าว ไหนว่าไม่เรียนไง”
อัจส่ายหน้า “อัจก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พี่แน๊ตนั่งรออยู่แล้วนะ”
“โอเค โอเค เดี๋ยวเราไปหยิบชีทก่อนนะสร้อย” อรว่าพลางลุกจากเก้าอี้หน้าคอม
“เออ” เสียงพี่สร้อยตอบรับดังตามหลังไป เมื่อบอกข่าวร้ายเสร็จหมดธุระ คนส่งข่าวจึงกลับไปที่ศูนย์
ก๊อกๆๆๆ แอ๊ด...
“ครูบีเรียกสองคนนั้นมาให้แล้วอีกแป๊บ เดี๋ยวก็มา” อัจบอกขณะเดินมานั่งที่
นับถอยหลัง 5...4...3...2...1...
“พี่แน๊ตอ่า ไม่อยากเรียน ขี้เกียจ” เสียงพี่พี่สองคนผู้ถูกตามมาจากบ้านอุธรณ์ลั่น ตามด้วยเสียงพี่นันผู้พึ่งลงมาจากชั้นบน “ไม่เอา ไม่เรียนไม่เรียน”
ด้วยเสียงที่ทรงพลัง ดังจากบันไดมาถึงห้อง D ครูบีจึงเดินออกไปคุยด้วย สักพักหนึ่งเสียงก็เงียบไป แล้วครูบีก็กลับมาเริ่มสอน...
ผ่านไปสักพักหนึ่ง...
“บีบี ที่คุณแม่แนะนำไปน่ะครูบีน่ะกลัวเจ็บจัง” ครูบีพูดพลางเอามือมาบีบๆนวดๆแขนตัวเอง หลังจากที่บ่นปวดข้อมือมาค่อนข้างนาน
“ไม่เจ็บหรอกครูบี บียังเคยไปเลย” บีบีตอบ ขณะที่ทั้งสองคุยกันต่อไปนั้น อัจผู้ไม่เข้าใจเรื่องที่คุยกันก็เริ่มประมวลผล
ครูบีกลัวเจ็บ+ขนาดตัวของทั้งสามคน= ลดความอ้วน? อัจยิ้มน้อยๆกับความคิดของตนก่อนขยับปากเอ่ยถาม “ลดความอ้วนเหรอ ครูบี”
ได้ผลชะงักบีทั้งสองหยุดคุยกันทันที บีบีหัวเราะก๊ากดังลั่น ส่วนคนถูกถามว่าไปลดความอ้วนถลึงตาใส่คนถามตัวแสบที่ยังนั่งทำหน้าซื่ออยู่
“ยายอัจ!” เสียงครูบีพิโรธดังคับห้อง D
“อ้าวไม่ใช่เหรอ” คนต้นเหตุทำหน้าซื่อถามต่อไป
“ไม่ใช่ย่ะ ครูบีไปนวดต่างหาก” คนพูดสะบัดหน้าไปถลึงตาใส่คนที่ยังไม่หยุดหัวเราะ
“เนี้ย...ครูบีปวดไปหมดเลย ตั้งแต่ตอนไปทำบุญ 9 วัดตอนนั้นน่ะ” เมื่อครูบีเห็นว่าบีๆจะไม่ยอมหยุดหัวเราะง่ายๆจึงหันมาบ่นต่อ
“เอ้า! เด็กๆ ทำเสร็จหรือยังจะเฉลยแล้วนะ” เป็นคำพูดที่หยุดบทสนทนาทั้งหมด
------------------------------------------------------------------------------
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง
ขณะที่นักเรียนทั้งสอง ก้มหน้าก้มตาทำการบ้านอยู่นั้น เสียงรบกวนโสตประสาทก็ดังขึ้น
“ชั้น...รักเธอ รักเธอด้วยความไหวหวั่น...ว่าสักวัน....ชั้นคงถูกทอดทิ้ง***”
“ครูบีร้องเพลงได้...” บีบีผู้เสียสมาธิการทำงานไปเรียบร้อยเอ่ยขึ้น พร้อมทำท่าเหมือนจะอ้วก
“เนี่ย เพลงครูบีออกจะไพเราะ แล้วคนพูดก็ร้องเพลงอื่นต่อไปโดยที่อัจไม่ได้สนใจฟัง จนกระทั่ง
“เออเนี่ย ดูพวกพี่ตัวแสบของแกดิ” ว่าแล้วก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าถือพร้อมกับหยิบหนังสือเล่มสีชมพูๆเล่มหนึ่งออกมา เป็นหนังสือเล่มที่อัจคุ้นตามากๆ เพราะมันคือ!
โสด...แล้ว..งัย...
เล่มที่สองตัวแสบซื้อให้ครูบีทันทีที่หนังสือเผยโฉมให้ประจักษ์ต่อทุกสายตา บีบีก็หัวเราะอย่างถูกใจ ขณะที่อัจยิ้มน้อยๆอย่างเดิม
“หยาบคายที่สุด” ครูบีพูดสะบัดเสียง “อย่างว่านะ คนสวยที่เลอค่า จนไม่มีผู้ชายคนไหนมาเคียงข้างได้...” น้ำเสียงเคลิ้มฝันของคนพูด เล่นเอาสองนักเรียนผู้ฟังขนลุกซู่
“แหวะ ไม่มีใครเอามากกว่า” บีบีบอกพร้อมทำท่าประกอบ
“บีบี!” คนไม่มีใครเอาอุทานดังลั่นและถลึงตาใส่คนพูด ก่อนจะเอ่ยต่อไป “ดูพวกเจ๊แกดิ มันเขียนตรงปกในซะ...” แล้วคนพูดก็ยื่นหนังสือให้เด็กๆทั้งสอง
ประโยคในนั้นเป็นสิ่งที่อัจรู้ดี เนื่องจากเห็นอีเมล์ฉบับนั้นแล้วมันเขียนว่า ‘จากลูกศิษย์ผู้หวังดี ถึงครูบี’
พอบีบีอ่านจบเท่านั้นแหละ เด็กชายก็หัวเราะลั่น จนเจ้าของหนังสือแย่งหนังสือคืนไป
“ครูบีอ่านปกหลังให้ฟังหน่อยสิ” อัจแนะนำ รอยยิ้มน้อยๆผุดที่ริมฝีปากอีกครั้ง
ครูบีก็ทำตามความต้องการด่วนทันใจ แถมเสียงอ่านยังใส่เอฟเฟกต์อย่างเมามัน
“ถ้าใครสักคนเหน็บแนมจิกตีคุณเรื่องความโสด
ให้หันกลับไปมองด้วยสายตาสงสารสังเวช และเห็นอกเห็นใจ
ประเหมือนหนึ่งว่า เขาเพิ่งถูกสิบล้อทับขาขาด
พร้อมกับพูดว่า
“ขอโทษนะที่ไปโสดบนหัวหล่อน!
แต่บังเอิญว่าชาติที่แล้วเป็นคนโรมันน่ะ
ชอบสถาปัตยกรรมแบบเสาและคาน
คงจะไม่ลงมาง่ายๆหรอกนะ
ก็โสดน่ะแต่แบบว่า
โสดแซบน่ะใครจะทำไม”
พออ่านจบสองบีก็ประสานเสียงกันหัวเราะ แล้วครูบีก็อ่านประโยคอื่นๆต่อไปอีก “กฎของคนโสด...”
ผ่านไปประมาณ 10 นาที...
“....ไม่ต้องมีใครมากวน” คนอ่านเหลือบขึ้นมองลูกศิษย์ทั้งสอง ปรากฏว่า คนนึงตั้งอกตั้งใจฟัง ส่วนอีกคน...หลับ
“ยายอัจ!” คนถูกเรียกสะดุ้งตื่นทันที และทำหน้างัวเงียพลางหยิบปากกาแดงเป็นเชิงเตือนให้คนสอนระลึกได้ว่า ต้องเฉลยแบบฝึกหัดแล้ว...
------------------------------------------------------------------------------
10 นาทีให้หลัง
“ครูบี ดูลอร์ดออฟ เดอะริงค์ เปล่า?” บีบีถาม หลังจากทำกากบาทเสร็จ
“ดูสิ ครูบีน่ะ ชอบเรื่องนี้มากเลย เนี่ย กำลังจะไปหาซื้อ DVD อยู่”
อัจผู้ทำแบบฝึกหัดเสร็จ ก็เลงยหน้าชึ้นมาฟังทั้งสองคุยกัน “ครูบีชอบดูหนังแนวไหนน่ะ” อัจถาม แต่คำตอบที่ได้รับ เล่นเอากลืนน้ำลายเอื๊อกทีเดียว
“ครูบีชอบหนังแบบ เจ้าหญิงเจ้าชาย อะไรทำนองนั้นน่ะ แล้วนางเอกนะ ต้องเป็นแบบเจ้าหญิงผู้สูงค่า แบบที่พระเอกไม่อาจเอื้อมถึงนะ แล้วพระเอกต้องเป็นคนธรรมดาๆ แทบเท้านางเอก ตอนจบต้องให้ไม่พระเอกก็นางเอกตาย”
คนถามฟังคำตอบก็ลอบคิดอย่างสยองๆในใจ ‘ครูบีเป็นพวก Sm เปล่าวะ?’
เหมือนว่าคนโดนนินทาในใจ จะอ่านความคิดของอัจได้ รับย้ำคำตอบของคำถามในทันที “ต้องเอาแบบซาดิสต์ๆ จบแบบแซดเดนดิ้ง”
เอื๊อก
ข่าวใหญ่ พาดหัวหน้าหนึ่ง!
ครูสอนเคมีของพวกเราเป็นพวก Sm !
โปรดระวังความปลอดภัยของท่านไว้ให้ดี มิฉะนั้นอาจจะ...
(ตรงนี้อย่าให้ครูบีรู้เชียวนะ เดี๋ยวคนเขียนโดนฆ่า -“-)
“ครูบีชอบอ่านนิยายแนวตลกๆปะ” อัจรีบเปลี่ยนเรื่อง ก่อนที่ครูบีจะบ้าไปกว่านี้
“ก็ชอบนะ แต่ครูบีอ่านหนังสือช๊า ช้า หนึ่งสัปดาห์เพิ่งอ่านได้แค่ 40 หน้าเอง” ครูบีตอบ พลางหยิบหนังสือโสดแล้วงัย ขึ้นมาอ่านเล่นอีก
“ครูบีสนแนวรักตลกๆ มั้ยล่ะค่ะ มีเรื่องนึง เพชรประดับใจ กับอีกเรื่องเป็นแนวแฟนตาซี ชื่อเรื่องจอมปราชญ์ จอมราชันย์” อัจแนะนำนิยาย
“แฟนตาซีอีกล่ะ ไอ้เรื่องคราวก่อนนะ ครูบีอ่านไม่รู้เรื่องเลย ได้พ่อมดอะไรนี่แหละ” คนอ่านหนังสือช้าตอบ และทำหน้าสะอิดสะเอียน
“พ่อมดแห่งเอิร์ธซีค่ะ เรื่องจอมปราชญ์จอมราชันย์คราวนี้น่าจะอ่านรู้เรื่อง มันลงอยู่ในเน็ต คนเขียนเป็นเด็ก ระดับสติปัญญาใกล้เคียงกัน” อัจว่า รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดที่ริมฝีปาก
‘1...2...’
“อือ” ครูบีทำเสียงรับในคอ
‘...3...’
“ยายอัจ!” คนถูกว่าเพิ่งรู้สึกตัว หันมาถลึงตาใส่คนว่าตัวแสบที่มันนั่งจับเวลา
‘ว้า... น่าเสียดายจัง แค่ 3 วิ เอง’ อัจคิดขำๆ ขณะที่บีบีหัวเราะก๊ากอย่างถูกใจ จนครูบีต้องรีบเปลี่ยนเรื่องด่วน
“เอ้า ทำกันเสร็จยัง เฉลยๆๆๆ!!!”
ผ่านไปอีกประมาณ 5 นาที ก็หมดชั่วโมง
The end
โปรดติดตามผลงานอื่นต่อไป    By Kark
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น