ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : สายฟ้า 3
[Fic] สายฟ้า สลับร่าง
ชื่อเรื่อง : สายฟ้า - สลับร่าง
ประเภท : อือ ก็ยังไม่รู้อยู่ดีอะ
ช่วงเวลา : เอาตอนเฟรินอยู่ปี 2 ละกัน
Note : ง่าเรื่อคราวนี้รู้สึกน่าผิดหวังอย่างรุนแรง ยกโทษให้เค้าด้วย TT/|\\TT
..................................................................
ทางด้านเฟริน
“ถึงแล้ว” เจ้าชายโรเวน (ในร่างเจ้าชายอาเธอร์) ที่กำลังขับเกวียนอยู่โผล่เข้ามาบอก “พวกเราไปเช่าโรงแรมสำหรับพักคืนนี้ แล้วค่อยออกไปหาสมุนไพรแล้วกัน”
เจ้าชายอาเธอร์ (ในร่างเจ้าชายโรเวน ) เดินลงจากเกวียนเข้าไปในโรงแรมหลังหนึ่ง ไม่นานนักก็กลับออกมาพร้อมพนักงานโรงแรมคนหนึ่งซึ่งมานำสัมภาระและเกวียนไปเก็บให้
“เช่าห้องไว้สามห้อง เจ้าชายคาโล กับ คิล ฟีลมัส ชั้นกับเจ้าชายโรเวน แล้วก็เจ้าหญิงเฟลิโอน่าพักห้องเดี่ยว” คนที่ไปเช่าห้องพูดขึ้น
“ทำไมผมต้องนอนคนเดียวอีกแล้ว” เจ้าตัวยุ่งที่บ่นทุกครั้งที่ต้องนอนคนเดียวก็บ่นขึ้นอีก แต่ก็ต้องหุบปากเมื่อโดนเจ้าชายอาเธอร์จ้องอย่างเอาเรื่อง
‘ไม่เป็นไรเดี๋ยวคืนนี้ค่อยย้ายไปห้องของคาโลกับคิลมันก็ได้’ เจ้าตัวยุ่งคิด แต่แผนการที่คิดไว้ก็เป็นอันต้องยกเลิกเมื่อเจ้าชายโรเวนพูดขึ้นกับคาโลว่า “ถ้าวันนี้มีคนย้ายห้องมาบอกนะเดียวจะไปจัดการให้” เพราะเจ้าตัวดียังคงจำวิธีลงโทษของเจ้าชายโรเวนได้
“จัดของกันเสร็จแล้วลงไปเจอกันข้างล่างนะ จะได้ไปหาสมุนไพร” เจ้าชายโรเวนเข้ามาบอกรุ่นน้องที่กำลังจัดของกันอยู่
“ขี้เกียจจังโว๊ย ทำไมต้องไปหาวันนี้ด้วยวะ มาถึงแล้วก็น่าจะไปเที่ยวก่อน” เฟรินเดินเข้ามาและบ่นเมื่อเห็นว่าโรเวนเดินลงไปข้างล่างแล้ว
“นายมาทำงานนะไม่ใช่มาเที่ยว” คิลพูดขึ้นอย่างรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนตัวดีของมันจะตอบว่าอะไร
“มาทำงานมันก็ต้องมีรีแลกซ์กันบ้างซิวะไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาทำอย่างเดียว รีแลกซ์น่ะรู้จักมั๊ย” เฟรินตอบอย่างที่คิลคิดไว้อยู่แล้ว
“ถ้านายอยากรีแลกซ์ขนาดนั้นชั้นจะไปบอกเจ้าชายโรเวนให้มั๊ย” เสียงเย็นๆ ของเจ้าชายน้ำแข็งพูดอย่างไม่สบอารมณ์ ทำให้คนพูดต้องกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ
“นายนี่ไม่เข้าใจอะไรมั่งเล้ย ชีวิตมันก็ต้องมีพักผ่อนกันบ้างมัวแต่ทำงานอย่างเดียวเครียดตาย” เจ้าตัวดีตอบด้วยความเคยชิน
“งั้นชั้นจะไปรายงานเจ้าชายโรเวน ว่านายจะพัก”
“แต่รีบๆทำงานก็ได้ คิลจะได้รีบกลับไปหาเรนอนคนสวย” เฟรินรีบแก้ตัวโดยโยนไปให้เจ้าเพื่อนรักอีกคนที่กำลังจัดของอยู่
“เฮ้ย แล้วเรนอนเกี่ยวอะไรด้วยวะ” คนที่ถูกเอามาอ้างรีบโวยวายขึ้น
“ถ้ายังไม่รีบลงไปเดี๋ยวเจ้าชายโรเวน หรือเจ้าชายอาเธอร์ก็ขึ้นมาตามหรอก” เจ้าชายน้ำแข็งที่จัดของเสร็จแล้วพูดขึ้นพร้อมกับเดินลงไปข้างล่างปล่อยให้เพื่อนสองคนโต้วาทีกันต่อไป
“ไปๆๆๆๆ” เฟรินรีบเผ่นออกจากห้องและวิ่งตามคาโลลงไปพร้อมกับเพื่อนนักฆ่า
“ทำไมพวกนายลงมาช้ากันจริง” โรเวนบ่นเมื่อเห็นทั้งสามคนลงมา
“เอาน่าพี่ ลงมาแล้วเราก็รีบไปหาสมุนไพรกันเหอะ พวกพี่จะได้รีบกลับร่างเดิมเร็วๆกันไงฮะ” เจ้าตัวยุ่งรีบแก้ตัวโดยพูดเรื่องอื่น
ทั้งห้าเดินออกจากโรงแรมที่พัก
“เราต้องหาสมุนไพรอะไรนะ” เฟรินถามคาโลที่เดินอยู่ข้างๆ ขณะที่ทุกคนกำลังเดินเขาไปหาสมุนไพรในป่า
“เปลือกไม้สีส้มแดง”
“มันคืออะไร”
“เปลือกไม้ชนิดนี้ เป็นยาพิษที่ว่ากันว่าถ้าใครกินเข้าไปจะทำให้หลับไปเหมือนเจ้าหญิงนิทรา”
“แล้วไอ้เปลือกไม้อะไรนั่นจะเอาไปเป็นยาอะไรได้ ถ้ากินแล้วหลับเป็นเจ้าหญิงนิทราจ้างชั้นก็ไม่กิน”
“เค้าว่ากันว่าที่หลับไปนั้นก็คือวิญญาณออกจากร่างแล้วหาทางกลับไม่ได้จึงทำให้หลับไป” คราวนี้คนตอบไม่ใช่เจ้าชายคาโล แต่เป็นเจ้าชายโรเวนที่เดินอยู่ข้างหน้าแต่จู่ๆก็ลดความเร็วมาเดินกับพวกตน
“งั้นพี่ก็เลยใช้ประโยชน์จากไอ้ไม้นั่นทำให้วิญญาณกลับร่างเดิมได้งั้นสิฮะ แต่ยังไงจ้างให้ผมก็ไม่กินอยู่ดีแหละเดี๋ยวหลับแล้วไม่ตื่นต้องเป็นเจ้าหญิงนิทราให้เจ้าชายจูบ”
เจ้าชายโรเวนคิด ‘ก็เป็นฝีมือมันไม่ใช่หรือไง มันน่าจับเป็นหนูลองยาซะให้เข็ด’
“แล้วทำไมอยู่ๆ พี่ก็มาเดินรั้งท้ายล่ะ ทั้งที่ตอนแรกก็เดินนำหน้าอยู่ดีๆ” เจ้าตัวยุ่งที่ตอนนี้น่าเปลี่ยนชื่อให้เป็นเจ้าหนูจำไมยังคงถามต่อไป
“เดี๋ยวก็รู้” โรเวนตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ ที่ไม่เข้ากับหน้าตอนนี้ (ก็เป็นร่างเจ้าชายอาเธอร์นิจะเข้าได้ไง)
ทันใดนั้นก็มีเสียงจากพวกที่เดินอยู่ข้างหน้า “ทุกคนระวังข้างหน้ามีโจรป่า” เจ้าชายน้ำแข็งร้องเตือนให้คนที่อยู่ข้างหลังระวัง
“พี่รู้อยู่แล้วใช่มั๊ยฮะ ถึงลงมาเดินรั้งท้าย” เฟรินพูดล้อเล่นกับคนที่เดินอยู่ข้างๆ
“ไม่รู้สิ”
ทั้งสองคนที่เดินรั้งท้ายแถวเดินไปข้างหน้าก็พบว่า เจ้าชายอาเธอร์กำลังสู้อยู่กับโจรกลุ่มใหญ่โดยมีคาโลและคิลช่วยอยู่
“แล้วพี่ไม่เข้าไปช่วยเค้ามั่งหรือฮะ”
“ไม่ต้องหรอกลำพังพวกนั้นก็จัดการได้อยู่แล้วแหละ พวกเราก็รออยู่แถวนี้ละกัน”
“ชั้นไม่น่าลืมเลยว่าแถวนี้เป็นรังของโจรป่า” เสียงบ่นจากเจาชายอาเธอร์ที่เพิ่งจัดการไล่โจรป่าไปได้แล้ว
‘พี่แกรู้อยู่แล้วนี่หว่าถึงเดินช้าๆ ให้พวกนั้นจัดการ’ เฟรินคิดแล้วมองหน้ารุ่นพี่เจ้าเล่ห์ของตน
หลังจากเดินทางต่อไปได้สักระยะหนึ่ง คณะเดินทางก็พบหุบเขาใหญ่
“ยังงี้คงต้องเดินกลับแล้วมั้ง” เฟรินพูดพลางมองลงไปที่หน้าผาที่ลึกจนแทบไม่เห็นก้น
“ไม่หรอกเรามาถึงที่ที่มีเปลือกไม้สีส้มแดงแล้วล่ะ” รุ่นพี่คนเดิมตอบคำถามของเฟริน
“หา! มันอยู่ในเหวเนี่ยนะ แล้วยังงี้ใครจะลงไปเก็บล่ะ”
“คนก่อเรื่องก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบสิ” คำตอบเยียบเย็นดังมาจากเจ้าชายที่เงียบอยู่ตลอดการเดินทาง เป็นคำตอบที่ทำให้เจ้าคนก่อเรื่องฟังแล้วต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่
“ผมว่าให้เฟรินลงไปเก็บคงไม่ได้เรื่อง เดี๋ยวจะทำลายของที่มีอยู่ให้เสียไปซะอีก” คำพูดสบประมาท จากเจาชายน้ำแข็งแต่สำหรับเฟรินเป็นคำพูดช่วยชีวิตที่ต้องขอบคุณคนพูด
“งั้นชั้นลงไปเก็บเอง” เพื่อนอีกคนของเฟรินเสนอตัว
คิลลงไปในหน้าผาโดยมีเชือกผูกรอบเอวอยู่ เมื่อลงไปได้ประมาณ 10 15 เมตร
“เฮ้ย! ไอ้เปลือกไม้นั่นหน้าตาเป็นยังไงกัน ใช่ไอ้นี่รึเปล่า” คิลตะโกนขึ้มาถามพวกที่อยู่ข้างบน
“นายลองเก็บขึ้นมาก่อนแล้วกัน” คาโลตะโกนตอบ
เมื่อขึ้นมาจากหน้าผา คนที่ลงไปเก็บก็ยื่นเปลือกไม้สีส้มๆออกแดงให้เพื่อนดู
“ใช่ไอ้นี่แหละ” เจ้าชายโรเวนตอบเมื่อเห็นเปลือกไม้ที่คิลส่งให้คาโลดู
แต่หลังจากที่ทุกคนกำลังดูเปลือกไม้นั้นคนที่ถือเปลือกไม้อยู่ก็ล้มลง
“เฮ้ คิลๆ นายเป็นอะไรไป” เฟรินร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นเพื่อนอยู่ๆก็ล้มลงไป แล้วคาโลก็ก้มลงไปจับชีพจร “ไม่มีอะไรผิดปกติเหมือนกำลังหลับไปเฉยๆ” คนที่จับชีพจรเงยหน้าขึ้นมาตอบ
“หลับ? หรือว่า” เจ้าชายโรเวนอุทานขึ้นมาเบาๆ แต่ยังไม่เบาพอที่จะทำให้เจ้าชายหูดีที่นั่งจับชีพจรอยู่ไม่ได้ยิน
“ท่านหมายความว่า?” คาโลถาม
“คิลนอนหลับเพราะวิญญาณออกจากร่าง”
“หมายความว่า คิลมันโดนพิษของไอ้เปลือกไม้อะไรนี่ใช่ม๊ย” เฟรินพูดขึ้นหลังจากเงียบฟังอยู่นาน
“พวกเราต้องรีบพาคนป่วยกลับแล้ว” เจ้าชายอาเธอร์รีบยุติเรื่องราวก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้น
..
ที่โรงแรม
หลังจากที่เจ้าชายโรเวนตรวจร่างกายของคนที่หลับไปแล้วก็พูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไรมาก เค้าไม่ได้กินมันเข้าไปโดยตรงคิดว่าคืนนี้ก็น่าจะฟื้น”
คืนนั้น คิลฟื้นขึ้นกลางดึก และพบว่าตัวเองยังไม่ได้กินข้าวเย็น พยาธิในท้องจึงเริ่มส่งเสียงคราง ทำให้คนที่เพิ่งฟื้นต้องเดินลงไปหาอะไรกินข้างล่างโรงแรม
เมื่อเดินมาถึงด้านล่างโรงแรมคิลก็เจอเพื่อนตัวแสบกำลังพยายามหนีออกนอกโรงแรมอยู่
“อ้าวนายฟื้นแล้ว หรอ ดีล่ะงั้นเดี๋ยวชั้นจะพาไปเที่ยวที่เด็ดๆเอง” คนที่แอบหนีออกนอกโรงแรมพูดขึ้น
“ที่เด็ดๆ?” คนถูกชวนพูดเบาๆพร้อมกับคิดว่าที่เด็ดๆของเฟรินมันคงไม่ใช่ที่ๆดีนักแน่
“ใช่ เอาล่ะนายตามชั้นมานะ” เมื่อพูดจบก็รีบย่องออกจากโรงแรม ปล่อยใช้เพื่อนนักฆ่ารีบเดินตามไปเอง
เมื่อถึงร้านเหล้าแห่งหนึ่ง คนที่ตามมาก็พูดขึ้น “นาย เอาอีกแล้วหรอ นายรู้สถานะตอนนี้ของตัวเองมั๊ยห๊ะ ว่านายเป็นผู้หญิงนะ”
“ผู้หญิงอะไรกัน นายก็เห็นนี่ตอนนี้ชั้นเป็นชายทั้งแท่งนะ” เจ้าตัวพูดพลางเอามือลูบหน้าอกของตน ทำให้คนที่พยายามห้ามต้องปวดหัวและคิดว่าโชคดีที่ตอนนี้เจ้านี่ไม่ได้เป็นผู้หญิง (เพราะใส่แหวนอยู่)
เมื่อพูดจบเจ้าคนพูดก็เดินเข้าไปพร้อมกับลากเพื่อนให้เข้าไปด้วย แต่เมื่อเห็นอะไรบางอย่างในร้านแล้วก็ต้องหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
ภาพที่แขกเข้ามาใหม่ทั้งสองคนเห็นก็คือ ภาพเจ้าชายหนุ่มสองคนกำลังนั่งอยู่โดย (ร่างของเจ้าชายโรเวน) เจ้าชายอาเธอร์กำลังทำหน้าบูดบึ้งใส่ผู้หญิงที่เข้ามาทัก (คงอารมณ์ไม่ดีอยู่มั้ง) และเจ้าชายโรเวน กำลังยิ้มแย้มและคุยกับผู้หญิงทั้งหลาย ที่เข้ามาทักอย่างถูกคอด้วยใบหน้าและร่างกายของเจ้าชายอาเธอร์ ทั้งสองที่เห็นภาพนี้เข้าต้องกลืนน้ำลายเอื๊อกด้วยเหตุผลสองข้อ คือ หนึ่งภาพที่เห็นมันไม่เข้ากับความเป็นจริงซึ่งถ้าทั้งสองคนไม่สลับวิญญาณกันอยู่ละก็คงไม่มีวันได้เห็นภาพเช่นนี้แน่ และสอง ทั้งสองแอบออกมาข้างนอกโดยที่ไม่ขออนุญาติก่อน
หัวขโมยและเพื่อนรีบเผ่นออกจากร้านนั้นทันทีแต่ยังช้าเกินไปสำหรับเจ้าชายที่ตอนนี้น่าเปลี่ยนชื่อเป็นเจ้าชายตาเหยี่ยวทั้งสองคน
“พวกนายมาทำอะไรกันที่นี่เวลาแบบนี้”  เจ้าชายที่มีผู้หญิงมาห้อมล้อมถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“เออ พวกผมเห็นพี่สองคนหายไปก็เลยเป็นห่วงรีบออกมาตามหาฮะ” คนปากไวรีบแก้ตัวด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
“เข้ามานี่” เจ้าชายอีกคนที่นั่งอยู่ออกคำสั่ง
ทั้งสองเดินเข้าไปอย่างว่าง่าย  แล้วนั่งลงตามคำเชิญของผู้ที่นั่งอยู่ก่อน
“พวกนายห้ามปริปากเรื่องที่เห็นเด็ดขาดเข้าใจมั๊ย”
“ครับๆ” ทั้งสองคนรีบตอบรับโดยเร็วเมื่อเห็นสีหน้าของคนพูด
“ดีมาก งั้นพวกนายกลับไปได้แล้ว”
“แต่ว่า พวกเราอุตส่าห์ออกมาแล้วพี่ก็น่าจะผ่อนผันกันหน่อย นะฮะ ผมจะได้สอนไอ้คิลมันจีบหญิงด้วย ไม่งั้นเดี๋ยวเพื่อนผมไม่มีเมียแน่ จ๊ากกกกกก” เจ้าตัวแสบรีบหาข้ออ้างอยู่ต่อ
“ใครขอให้นายสอนกันวะ” เสียงกระซิบเบาๆดังมาจากเพื่อนที่เกือบถูกแต่งตั้งให้เป็นศิษย์กิตติมศักดิ์
“ชั้นสั่งให้พวกนายกลับไปเดี๋ยวนี้” เสียงของเจ้าชายอาเธอร์ (เจ้าชายโรเวนพูด) แฝงแววเยือกเย็นทำให้ทั้งสองคนต้องรีบเผ่นกลับทันที
“ชั้นว่าแล้วว่าทีเด็ดของนายต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่” คิลพูดเมื่อทั้งสองออกมานอกร้าน และเดินกลับโรงแรมที่พัก
เช้าวันต่อมา
“เก็บของเสร็จแล้วรีบลงไปข้างล่างนะ” เจ้าชายโรเวนที่เก็บของอย่างรวดเร็วโผล่หน้าเข้ามาบอกรุ่นน้องที่ยังเก็บของอยู่ แล้วเดินลงไปข้างล่าง
“ยังเก็บของไม่เสร็จอีกเหรอ” เฟรินที่เก็บของเร็วไม่แพ้กันโผล่เข้ามาในห้องของเพื่อนๆ
“ใกล้แล้ว นายลงไปก่อนสิ” คิลบอก แต่เฟรินไม่สนใจกลับนั่งลงบนเตียงของเพื่อนอีกคน
“ว้า มาคราวนี้เสียเที่ยวชะมัด อุตส่าห์มาฟรอนเทียร์ทั้งทีต้องมานั่งอยู่ในห้องไม่ได้ไปไหน” คนที่ยึดเตียงของเจ้าชายคาโลเป็นที่นั่งเริ่มบ่น
“ไว้ปิดเทอมแล้วช้านจะพาพวกนายมาเอง มะ แล้วคราวนี้จะสอนวิธีจีบหญิงเจ๋งๆ พวกนายจะต้อง....” แล้วก็นั่งโม้ต่อไปโดยไม่รู้ว่าเพื่อนทั้ง2ได้เดินลงไปข้างล่างเรีบยร้อยแล้ว
“เฮ้ยยยยยยย” เจ้าตัวดีร้องขึ้นเมื่อรู้สึกตัว และรีบวิ่งตามลงไปข้างล่าง
..
เมื่ออยู่ในเกวียน
“ง่วงชะมัดยาด ชั้นจะนอนละนะ” เฟรินเอ่ยขึ้นพร้อมกับนอนลงไปบนตักของเจ้าชายน้ำแข็ง
“เมื่อคืนนายไปทำอะไรมาถึงไม่ได้นอนน่ะ” คนที่รับบทเป็นหมอนจำเป็นถาม
“ก็ชั้นกะว่าจะพาไอ้คิลมันไปจีบหญิงซะหน่อย แต่ดันเจอ.......” เจ้าตัวดีเงียบไปเมื่อเจ้าชายโรเวนเข้ามาในเกวียน
“ชั้นว่าชั้นอาจจะต้องเตือนความจำของนายซะหน่อยละนะ”  เจ้าชายโรเวนพูดอย่างยิ้มๆ (แต่อารมณ์พี่แกคงไม่ยิ้มด้วยมั้ง)
“เอื๊อก” คนปากพล่อยรีบคิดหาทางเอาตัวรอด โดยรีบเปลี่ยนเรื่อง “ผมว่ายังไงๆก็ไม่ชินอยู่ดีกับภาพที่รุ่นพี่อาเธอร์ยิ้มอย่างเป็นมิตรงี้ อะ ถึง จะรู้ว่าเป็นรุ่นพี่โรเวนก็เถอะ”
“อย่าพยายามเปลี่ยนเรื่องเลยน่าชั้นไม่หลงกลนายหรอก คราวนี้ไม่มีใครช่วยได้แน่” เมื่อเจ้าชายโรเวนพูดจบ (ด้วยน้ำเสียงน่ากลัว) ก็ใช้เวทย์มนตร์มัดเฟรินไว้กับหลังคาเกวียน “อยู่อย่างนี้ไปจนถึงเอดินเบิร์กแล้วจะคลายเวทย์ให้”
..................................................................
เมื่อถึงเอดินเบิร์ก
เด็กประมาณปี 4- 5 ป้อมอัศวิน วิ่งเข้ามายังกลุ่มของคณะเดินทางแล้วพูดว่า “เจ้าชายโรเวน (คนพูดหันไปทางเจ้าชายอาเธอร์นะ) ปราชญ์เลโมธีเรียกตัวท่านไปพบ บอกว่ามีเรื่องด่วน” 
เมื่อฟังจบเหล่าคณะเดินทางจึงรีบวิ่งตรงไปหาปราชญ์เลโมธี
“ท่านมีเรื่องอะไรหรือครับ” เจ้าชายโรเวนกล่าว
“ข้ามีเรื่องวานพวกเจ้า ขอให้ทำเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด” เมื่อพูดจบปราชญ์เลโมธีก็หยิบจดหมายฉบับหนึ่ง และกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง ขึ้นมา “ช่วยนำจดหมายฉบับนี้ไปส่งตามที่อยู่ที่เขียนไว้ในกระดาษแผ่นนี้โดยเร็ว”
..........................................................................
ชื่อเรื่อง : สายฟ้า - สลับร่าง
ประเภท : อือ ก็ยังไม่รู้อยู่ดีอะ
ช่วงเวลา : เอาตอนเฟรินอยู่ปี 2 ละกัน
Note : ง่าเรื่อคราวนี้รู้สึกน่าผิดหวังอย่างรุนแรง ยกโทษให้เค้าด้วย TT/|\\TT
..................................................................
ทางด้านเฟริน
“ถึงแล้ว” เจ้าชายโรเวน (ในร่างเจ้าชายอาเธอร์) ที่กำลังขับเกวียนอยู่โผล่เข้ามาบอก “พวกเราไปเช่าโรงแรมสำหรับพักคืนนี้ แล้วค่อยออกไปหาสมุนไพรแล้วกัน”
เจ้าชายอาเธอร์ (ในร่างเจ้าชายโรเวน ) เดินลงจากเกวียนเข้าไปในโรงแรมหลังหนึ่ง ไม่นานนักก็กลับออกมาพร้อมพนักงานโรงแรมคนหนึ่งซึ่งมานำสัมภาระและเกวียนไปเก็บให้
“เช่าห้องไว้สามห้อง เจ้าชายคาโล กับ คิล ฟีลมัส ชั้นกับเจ้าชายโรเวน แล้วก็เจ้าหญิงเฟลิโอน่าพักห้องเดี่ยว” คนที่ไปเช่าห้องพูดขึ้น
“ทำไมผมต้องนอนคนเดียวอีกแล้ว” เจ้าตัวยุ่งที่บ่นทุกครั้งที่ต้องนอนคนเดียวก็บ่นขึ้นอีก แต่ก็ต้องหุบปากเมื่อโดนเจ้าชายอาเธอร์จ้องอย่างเอาเรื่อง
‘ไม่เป็นไรเดี๋ยวคืนนี้ค่อยย้ายไปห้องของคาโลกับคิลมันก็ได้’ เจ้าตัวยุ่งคิด แต่แผนการที่คิดไว้ก็เป็นอันต้องยกเลิกเมื่อเจ้าชายโรเวนพูดขึ้นกับคาโลว่า “ถ้าวันนี้มีคนย้ายห้องมาบอกนะเดียวจะไปจัดการให้” เพราะเจ้าตัวดียังคงจำวิธีลงโทษของเจ้าชายโรเวนได้
“จัดของกันเสร็จแล้วลงไปเจอกันข้างล่างนะ จะได้ไปหาสมุนไพร” เจ้าชายโรเวนเข้ามาบอกรุ่นน้องที่กำลังจัดของกันอยู่
“ขี้เกียจจังโว๊ย ทำไมต้องไปหาวันนี้ด้วยวะ มาถึงแล้วก็น่าจะไปเที่ยวก่อน” เฟรินเดินเข้ามาและบ่นเมื่อเห็นว่าโรเวนเดินลงไปข้างล่างแล้ว
“นายมาทำงานนะไม่ใช่มาเที่ยว” คิลพูดขึ้นอย่างรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนตัวดีของมันจะตอบว่าอะไร
“มาทำงานมันก็ต้องมีรีแลกซ์กันบ้างซิวะไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาทำอย่างเดียว รีแลกซ์น่ะรู้จักมั๊ย” เฟรินตอบอย่างที่คิลคิดไว้อยู่แล้ว
“ถ้านายอยากรีแลกซ์ขนาดนั้นชั้นจะไปบอกเจ้าชายโรเวนให้มั๊ย” เสียงเย็นๆ ของเจ้าชายน้ำแข็งพูดอย่างไม่สบอารมณ์ ทำให้คนพูดต้องกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ
“นายนี่ไม่เข้าใจอะไรมั่งเล้ย ชีวิตมันก็ต้องมีพักผ่อนกันบ้างมัวแต่ทำงานอย่างเดียวเครียดตาย” เจ้าตัวดีตอบด้วยความเคยชิน
“งั้นชั้นจะไปรายงานเจ้าชายโรเวน ว่านายจะพัก”
“แต่รีบๆทำงานก็ได้ คิลจะได้รีบกลับไปหาเรนอนคนสวย” เฟรินรีบแก้ตัวโดยโยนไปให้เจ้าเพื่อนรักอีกคนที่กำลังจัดของอยู่
“เฮ้ย แล้วเรนอนเกี่ยวอะไรด้วยวะ” คนที่ถูกเอามาอ้างรีบโวยวายขึ้น
“ถ้ายังไม่รีบลงไปเดี๋ยวเจ้าชายโรเวน หรือเจ้าชายอาเธอร์ก็ขึ้นมาตามหรอก” เจ้าชายน้ำแข็งที่จัดของเสร็จแล้วพูดขึ้นพร้อมกับเดินลงไปข้างล่างปล่อยให้เพื่อนสองคนโต้วาทีกันต่อไป
“ไปๆๆๆๆ” เฟรินรีบเผ่นออกจากห้องและวิ่งตามคาโลลงไปพร้อมกับเพื่อนนักฆ่า
“ทำไมพวกนายลงมาช้ากันจริง” โรเวนบ่นเมื่อเห็นทั้งสามคนลงมา
“เอาน่าพี่ ลงมาแล้วเราก็รีบไปหาสมุนไพรกันเหอะ พวกพี่จะได้รีบกลับร่างเดิมเร็วๆกันไงฮะ” เจ้าตัวยุ่งรีบแก้ตัวโดยพูดเรื่องอื่น
ทั้งห้าเดินออกจากโรงแรมที่พัก
“เราต้องหาสมุนไพรอะไรนะ” เฟรินถามคาโลที่เดินอยู่ข้างๆ ขณะที่ทุกคนกำลังเดินเขาไปหาสมุนไพรในป่า
“เปลือกไม้สีส้มแดง”
“มันคืออะไร”
“เปลือกไม้ชนิดนี้ เป็นยาพิษที่ว่ากันว่าถ้าใครกินเข้าไปจะทำให้หลับไปเหมือนเจ้าหญิงนิทรา”
“แล้วไอ้เปลือกไม้อะไรนั่นจะเอาไปเป็นยาอะไรได้ ถ้ากินแล้วหลับเป็นเจ้าหญิงนิทราจ้างชั้นก็ไม่กิน”
“เค้าว่ากันว่าที่หลับไปนั้นก็คือวิญญาณออกจากร่างแล้วหาทางกลับไม่ได้จึงทำให้หลับไป” คราวนี้คนตอบไม่ใช่เจ้าชายคาโล แต่เป็นเจ้าชายโรเวนที่เดินอยู่ข้างหน้าแต่จู่ๆก็ลดความเร็วมาเดินกับพวกตน
“งั้นพี่ก็เลยใช้ประโยชน์จากไอ้ไม้นั่นทำให้วิญญาณกลับร่างเดิมได้งั้นสิฮะ แต่ยังไงจ้างให้ผมก็ไม่กินอยู่ดีแหละเดี๋ยวหลับแล้วไม่ตื่นต้องเป็นเจ้าหญิงนิทราให้เจ้าชายจูบ”
เจ้าชายโรเวนคิด ‘ก็เป็นฝีมือมันไม่ใช่หรือไง มันน่าจับเป็นหนูลองยาซะให้เข็ด’
“แล้วทำไมอยู่ๆ พี่ก็มาเดินรั้งท้ายล่ะ ทั้งที่ตอนแรกก็เดินนำหน้าอยู่ดีๆ” เจ้าตัวยุ่งที่ตอนนี้น่าเปลี่ยนชื่อให้เป็นเจ้าหนูจำไมยังคงถามต่อไป
“เดี๋ยวก็รู้” โรเวนตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ ที่ไม่เข้ากับหน้าตอนนี้ (ก็เป็นร่างเจ้าชายอาเธอร์นิจะเข้าได้ไง)
ทันใดนั้นก็มีเสียงจากพวกที่เดินอยู่ข้างหน้า “ทุกคนระวังข้างหน้ามีโจรป่า” เจ้าชายน้ำแข็งร้องเตือนให้คนที่อยู่ข้างหลังระวัง
“พี่รู้อยู่แล้วใช่มั๊ยฮะ ถึงลงมาเดินรั้งท้าย” เฟรินพูดล้อเล่นกับคนที่เดินอยู่ข้างๆ
“ไม่รู้สิ”
ทั้งสองคนที่เดินรั้งท้ายแถวเดินไปข้างหน้าก็พบว่า เจ้าชายอาเธอร์กำลังสู้อยู่กับโจรกลุ่มใหญ่โดยมีคาโลและคิลช่วยอยู่
“แล้วพี่ไม่เข้าไปช่วยเค้ามั่งหรือฮะ”
“ไม่ต้องหรอกลำพังพวกนั้นก็จัดการได้อยู่แล้วแหละ พวกเราก็รออยู่แถวนี้ละกัน”
“ชั้นไม่น่าลืมเลยว่าแถวนี้เป็นรังของโจรป่า” เสียงบ่นจากเจาชายอาเธอร์ที่เพิ่งจัดการไล่โจรป่าไปได้แล้ว
‘พี่แกรู้อยู่แล้วนี่หว่าถึงเดินช้าๆ ให้พวกนั้นจัดการ’ เฟรินคิดแล้วมองหน้ารุ่นพี่เจ้าเล่ห์ของตน
หลังจากเดินทางต่อไปได้สักระยะหนึ่ง คณะเดินทางก็พบหุบเขาใหญ่
“ยังงี้คงต้องเดินกลับแล้วมั้ง” เฟรินพูดพลางมองลงไปที่หน้าผาที่ลึกจนแทบไม่เห็นก้น
“ไม่หรอกเรามาถึงที่ที่มีเปลือกไม้สีส้มแดงแล้วล่ะ” รุ่นพี่คนเดิมตอบคำถามของเฟริน
“หา! มันอยู่ในเหวเนี่ยนะ แล้วยังงี้ใครจะลงไปเก็บล่ะ”
“คนก่อเรื่องก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบสิ” คำตอบเยียบเย็นดังมาจากเจ้าชายที่เงียบอยู่ตลอดการเดินทาง เป็นคำตอบที่ทำให้เจ้าคนก่อเรื่องฟังแล้วต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่
“ผมว่าให้เฟรินลงไปเก็บคงไม่ได้เรื่อง เดี๋ยวจะทำลายของที่มีอยู่ให้เสียไปซะอีก” คำพูดสบประมาท จากเจาชายน้ำแข็งแต่สำหรับเฟรินเป็นคำพูดช่วยชีวิตที่ต้องขอบคุณคนพูด
“งั้นชั้นลงไปเก็บเอง” เพื่อนอีกคนของเฟรินเสนอตัว
คิลลงไปในหน้าผาโดยมีเชือกผูกรอบเอวอยู่ เมื่อลงไปได้ประมาณ 10 15 เมตร
“เฮ้ย! ไอ้เปลือกไม้นั่นหน้าตาเป็นยังไงกัน ใช่ไอ้นี่รึเปล่า” คิลตะโกนขึ้มาถามพวกที่อยู่ข้างบน
“นายลองเก็บขึ้นมาก่อนแล้วกัน” คาโลตะโกนตอบ
เมื่อขึ้นมาจากหน้าผา คนที่ลงไปเก็บก็ยื่นเปลือกไม้สีส้มๆออกแดงให้เพื่อนดู
“ใช่ไอ้นี่แหละ” เจ้าชายโรเวนตอบเมื่อเห็นเปลือกไม้ที่คิลส่งให้คาโลดู
แต่หลังจากที่ทุกคนกำลังดูเปลือกไม้นั้นคนที่ถือเปลือกไม้อยู่ก็ล้มลง
“เฮ้ คิลๆ นายเป็นอะไรไป” เฟรินร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นเพื่อนอยู่ๆก็ล้มลงไป แล้วคาโลก็ก้มลงไปจับชีพจร “ไม่มีอะไรผิดปกติเหมือนกำลังหลับไปเฉยๆ” คนที่จับชีพจรเงยหน้าขึ้นมาตอบ
“หลับ? หรือว่า” เจ้าชายโรเวนอุทานขึ้นมาเบาๆ แต่ยังไม่เบาพอที่จะทำให้เจ้าชายหูดีที่นั่งจับชีพจรอยู่ไม่ได้ยิน
“ท่านหมายความว่า?” คาโลถาม
“คิลนอนหลับเพราะวิญญาณออกจากร่าง”
“หมายความว่า คิลมันโดนพิษของไอ้เปลือกไม้อะไรนี่ใช่ม๊ย” เฟรินพูดขึ้นหลังจากเงียบฟังอยู่นาน
“พวกเราต้องรีบพาคนป่วยกลับแล้ว” เจ้าชายอาเธอร์รีบยุติเรื่องราวก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้น
..
ที่โรงแรม
หลังจากที่เจ้าชายโรเวนตรวจร่างกายของคนที่หลับไปแล้วก็พูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไรมาก เค้าไม่ได้กินมันเข้าไปโดยตรงคิดว่าคืนนี้ก็น่าจะฟื้น”
คืนนั้น คิลฟื้นขึ้นกลางดึก และพบว่าตัวเองยังไม่ได้กินข้าวเย็น พยาธิในท้องจึงเริ่มส่งเสียงคราง ทำให้คนที่เพิ่งฟื้นต้องเดินลงไปหาอะไรกินข้างล่างโรงแรม
เมื่อเดินมาถึงด้านล่างโรงแรมคิลก็เจอเพื่อนตัวแสบกำลังพยายามหนีออกนอกโรงแรมอยู่
“อ้าวนายฟื้นแล้ว หรอ ดีล่ะงั้นเดี๋ยวชั้นจะพาไปเที่ยวที่เด็ดๆเอง” คนที่แอบหนีออกนอกโรงแรมพูดขึ้น
“ที่เด็ดๆ?” คนถูกชวนพูดเบาๆพร้อมกับคิดว่าที่เด็ดๆของเฟรินมันคงไม่ใช่ที่ๆดีนักแน่
“ใช่ เอาล่ะนายตามชั้นมานะ” เมื่อพูดจบก็รีบย่องออกจากโรงแรม ปล่อยใช้เพื่อนนักฆ่ารีบเดินตามไปเอง
เมื่อถึงร้านเหล้าแห่งหนึ่ง คนที่ตามมาก็พูดขึ้น “นาย เอาอีกแล้วหรอ นายรู้สถานะตอนนี้ของตัวเองมั๊ยห๊ะ ว่านายเป็นผู้หญิงนะ”
“ผู้หญิงอะไรกัน นายก็เห็นนี่ตอนนี้ชั้นเป็นชายทั้งแท่งนะ” เจ้าตัวพูดพลางเอามือลูบหน้าอกของตน ทำให้คนที่พยายามห้ามต้องปวดหัวและคิดว่าโชคดีที่ตอนนี้เจ้านี่ไม่ได้เป็นผู้หญิง (เพราะใส่แหวนอยู่)
เมื่อพูดจบเจ้าคนพูดก็เดินเข้าไปพร้อมกับลากเพื่อนให้เข้าไปด้วย แต่เมื่อเห็นอะไรบางอย่างในร้านแล้วก็ต้องหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
ภาพที่แขกเข้ามาใหม่ทั้งสองคนเห็นก็คือ ภาพเจ้าชายหนุ่มสองคนกำลังนั่งอยู่โดย (ร่างของเจ้าชายโรเวน) เจ้าชายอาเธอร์กำลังทำหน้าบูดบึ้งใส่ผู้หญิงที่เข้ามาทัก (คงอารมณ์ไม่ดีอยู่มั้ง) และเจ้าชายโรเวน กำลังยิ้มแย้มและคุยกับผู้หญิงทั้งหลาย ที่เข้ามาทักอย่างถูกคอด้วยใบหน้าและร่างกายของเจ้าชายอาเธอร์ ทั้งสองที่เห็นภาพนี้เข้าต้องกลืนน้ำลายเอื๊อกด้วยเหตุผลสองข้อ คือ หนึ่งภาพที่เห็นมันไม่เข้ากับความเป็นจริงซึ่งถ้าทั้งสองคนไม่สลับวิญญาณกันอยู่ละก็คงไม่มีวันได้เห็นภาพเช่นนี้แน่ และสอง ทั้งสองแอบออกมาข้างนอกโดยที่ไม่ขออนุญาติก่อน
หัวขโมยและเพื่อนรีบเผ่นออกจากร้านนั้นทันทีแต่ยังช้าเกินไปสำหรับเจ้าชายที่ตอนนี้น่าเปลี่ยนชื่อเป็นเจ้าชายตาเหยี่ยวทั้งสองคน
“พวกนายมาทำอะไรกันที่นี่เวลาแบบนี้”  เจ้าชายที่มีผู้หญิงมาห้อมล้อมถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“เออ พวกผมเห็นพี่สองคนหายไปก็เลยเป็นห่วงรีบออกมาตามหาฮะ” คนปากไวรีบแก้ตัวด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
“เข้ามานี่” เจ้าชายอีกคนที่นั่งอยู่ออกคำสั่ง
ทั้งสองเดินเข้าไปอย่างว่าง่าย  แล้วนั่งลงตามคำเชิญของผู้ที่นั่งอยู่ก่อน
“พวกนายห้ามปริปากเรื่องที่เห็นเด็ดขาดเข้าใจมั๊ย”
“ครับๆ” ทั้งสองคนรีบตอบรับโดยเร็วเมื่อเห็นสีหน้าของคนพูด
“ดีมาก งั้นพวกนายกลับไปได้แล้ว”
“แต่ว่า พวกเราอุตส่าห์ออกมาแล้วพี่ก็น่าจะผ่อนผันกันหน่อย นะฮะ ผมจะได้สอนไอ้คิลมันจีบหญิงด้วย ไม่งั้นเดี๋ยวเพื่อนผมไม่มีเมียแน่ จ๊ากกกกกก” เจ้าตัวแสบรีบหาข้ออ้างอยู่ต่อ
“ใครขอให้นายสอนกันวะ” เสียงกระซิบเบาๆดังมาจากเพื่อนที่เกือบถูกแต่งตั้งให้เป็นศิษย์กิตติมศักดิ์
“ชั้นสั่งให้พวกนายกลับไปเดี๋ยวนี้” เสียงของเจ้าชายอาเธอร์ (เจ้าชายโรเวนพูด) แฝงแววเยือกเย็นทำให้ทั้งสองคนต้องรีบเผ่นกลับทันที
“ชั้นว่าแล้วว่าทีเด็ดของนายต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่” คิลพูดเมื่อทั้งสองออกมานอกร้าน และเดินกลับโรงแรมที่พัก
เช้าวันต่อมา
“เก็บของเสร็จแล้วรีบลงไปข้างล่างนะ” เจ้าชายโรเวนที่เก็บของอย่างรวดเร็วโผล่หน้าเข้ามาบอกรุ่นน้องที่ยังเก็บของอยู่ แล้วเดินลงไปข้างล่าง
“ยังเก็บของไม่เสร็จอีกเหรอ” เฟรินที่เก็บของเร็วไม่แพ้กันโผล่เข้ามาในห้องของเพื่อนๆ
“ใกล้แล้ว นายลงไปก่อนสิ” คิลบอก แต่เฟรินไม่สนใจกลับนั่งลงบนเตียงของเพื่อนอีกคน
“ว้า มาคราวนี้เสียเที่ยวชะมัด อุตส่าห์มาฟรอนเทียร์ทั้งทีต้องมานั่งอยู่ในห้องไม่ได้ไปไหน” คนที่ยึดเตียงของเจ้าชายคาโลเป็นที่นั่งเริ่มบ่น
“ไว้ปิดเทอมแล้วช้านจะพาพวกนายมาเอง มะ แล้วคราวนี้จะสอนวิธีจีบหญิงเจ๋งๆ พวกนายจะต้อง....” แล้วก็นั่งโม้ต่อไปโดยไม่รู้ว่าเพื่อนทั้ง2ได้เดินลงไปข้างล่างเรีบยร้อยแล้ว
“เฮ้ยยยยยยย” เจ้าตัวดีร้องขึ้นเมื่อรู้สึกตัว และรีบวิ่งตามลงไปข้างล่าง
..
เมื่ออยู่ในเกวียน
“ง่วงชะมัดยาด ชั้นจะนอนละนะ” เฟรินเอ่ยขึ้นพร้อมกับนอนลงไปบนตักของเจ้าชายน้ำแข็ง
“เมื่อคืนนายไปทำอะไรมาถึงไม่ได้นอนน่ะ” คนที่รับบทเป็นหมอนจำเป็นถาม
“ก็ชั้นกะว่าจะพาไอ้คิลมันไปจีบหญิงซะหน่อย แต่ดันเจอ.......” เจ้าตัวดีเงียบไปเมื่อเจ้าชายโรเวนเข้ามาในเกวียน
“ชั้นว่าชั้นอาจจะต้องเตือนความจำของนายซะหน่อยละนะ”  เจ้าชายโรเวนพูดอย่างยิ้มๆ (แต่อารมณ์พี่แกคงไม่ยิ้มด้วยมั้ง)
“เอื๊อก” คนปากพล่อยรีบคิดหาทางเอาตัวรอด โดยรีบเปลี่ยนเรื่อง “ผมว่ายังไงๆก็ไม่ชินอยู่ดีกับภาพที่รุ่นพี่อาเธอร์ยิ้มอย่างเป็นมิตรงี้ อะ ถึง จะรู้ว่าเป็นรุ่นพี่โรเวนก็เถอะ”
“อย่าพยายามเปลี่ยนเรื่องเลยน่าชั้นไม่หลงกลนายหรอก คราวนี้ไม่มีใครช่วยได้แน่” เมื่อเจ้าชายโรเวนพูดจบ (ด้วยน้ำเสียงน่ากลัว) ก็ใช้เวทย์มนตร์มัดเฟรินไว้กับหลังคาเกวียน “อยู่อย่างนี้ไปจนถึงเอดินเบิร์กแล้วจะคลายเวทย์ให้”
..................................................................
เมื่อถึงเอดินเบิร์ก
เด็กประมาณปี 4- 5 ป้อมอัศวิน วิ่งเข้ามายังกลุ่มของคณะเดินทางแล้วพูดว่า “เจ้าชายโรเวน (คนพูดหันไปทางเจ้าชายอาเธอร์นะ) ปราชญ์เลโมธีเรียกตัวท่านไปพบ บอกว่ามีเรื่องด่วน” 
เมื่อฟังจบเหล่าคณะเดินทางจึงรีบวิ่งตรงไปหาปราชญ์เลโมธี
“ท่านมีเรื่องอะไรหรือครับ” เจ้าชายโรเวนกล่าว
“ข้ามีเรื่องวานพวกเจ้า ขอให้ทำเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด” เมื่อพูดจบปราชญ์เลโมธีก็หยิบจดหมายฉบับหนึ่ง และกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง ขึ้นมา “ช่วยนำจดหมายฉบับนี้ไปส่งตามที่อยู่ที่เขียนไว้ในกระดาษแผ่นนี้โดยเร็ว”
..........................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น