ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความในใจของเกย์คนหนึ่ง

    ลำดับตอนที่ #45 : บนสนทนา(ยาวเหยียด)

    • อัปเดตล่าสุด 29 ม.ค. 51



              ทีเอาแต่มองหน้าผมตลอดเวลาที่กินข้าวเย็น...ไม่พูดอะไร...อมยิ้มน้อยๆตลอดเวลา...ผมเองก็เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตากิน...ไม่กล้ามองหน้าทีเหมือนกัน...เป็นคุณจะกล้ามองหน้าคนที่เอาแต่จ้องมองหน้าคุณแล้วยิ้มอย่างนั้นเหรอ...ผมตั้งหน้าตั้งตากินโดยไม่สนใจที...พอเรากินข้าวเย้นเสร็จทีก็ดึงมือผมไปขึ้นรถ...อย่างเนี่ยน....จูงมือไปสะงั้น...แต่ผมเองก็ไม่ได้สะบัดมือออกแต่อย่างใด...อย่างจับก็จับไปสิ...

              ผมนั่งเงียบๆบนรถเหมือนหลายๆครั้ง...แต่ในวันนี้ความรู้สึกของผมไม่ได้เหมือนวันไหนๆที่ผ่านมา...มันมีความสุข...มีความสุขมากเสียจนบรรยายไม่ได้...มีทีที่นั่งขับรถอยู่ข้างๆ...แม้ว่าไม่ได้พูดอะไรกัน...แค่การมีตัวตนอยู่...ให้ผมได้รู้ว่ามีทีอยู่ข้างกายเสมอก็มีความสุขมากแล้ว...ทีขับรถจนถึงหอ...จอดรถ...แล้วจับมือผมเดินไปถึงหน้าห้อง...หยุดแล้วมองหน้าผม...

              "นึกว่าทีจะไขประตูห้องเอ็มด้วยเลนสะอีก" ผมเหน็บ...เห็นเดินจูงนำมาตลอด...ทีเลิกคิ้วขึ้น...ขำ...ผมเลยหยิบกุญแจแล้วไขเพื่อเปิดประตู...ทีเดินตามผมเข้าไปในห้อง...ล็อกประตูตามหลัง...แล้วหยุดยืน...ผมเดินไปเก็บเป้แล้วเดินมายืนหน้าทีที่หยุดยืนยิ้มอีกครั้ง...ยิ้มอย่างนี้มีอะไรแน่ๆ

              "เอ็ม" ทีเรียกชื่อผม...ผมยิ้ม...มองหน้าที

              "ทีอยากฟัง" ทีพูดเสียงแผ่วแล้วรั้งผมทียืนอยู่ข้างหน้าให้เซไปซบ...ก่อนที่จะกอดไว้หลวมๆ....ถ้าเอ็มไม่บอกทีไม่ปล่อยแน่ๆเลย...ผมกดหน้าลงไปกับไหล่ของทีก่อนจะพุดให้เบาที่สุด..

              "เอ็ม..รัก..ที" ....

              "ไม่ได้ยินอ่า...เอาใหม่นะ" ทีโวย...พยายามมองหน้าผม...ผมหลบก้มหน้างุด...ไม่เอาๆๆๆๆๆ...ทีไม่ละพยายาม...สัมผัสริมฝีปากหนักๆเลยเริ่มไล้ตั้งแต่ซอกคอ...ขึ้นมาตามหู...แย่แล้ว..

              "ไม่เอาๆ...ทีๆๆๆ....ไม่เอา..." ผมดันที.....และยังคงก้มหน้า...แต่พอดันทีออกห่างเลยเป็นจังหวะให้ทีได้ละจากลำคอมายังริมฝีปากที่ว่าง...ริมฝีปากได้รูปเลยประกบ...แลกความอ่อนหวานนุ่มนวล...ผมเริ่มเซ...ทีใช้มือข้างหนึ่งยึดหลังผมไว้ไม่ให้ล้ม...เท้าค่อยๆดันเดินไปข้างหน้า...ในขณะที่ลิ้นอุ่นร้อนแทรกเข้ามา...ผมชนขอบเตียงแล้วล้มลงบนฝูก...มีทีคร่อมอยู่ด้านบน...การหายใจผมเริ่มติดขัด...การจูบดูเหมือนเนิ่นนานออกไปเรื่อยๆ...จูบกับคนเดิม...แต่ให้ความรู้สึกที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง...เมื่อความรักเข้ามาพูกพันผมกับที...ทีผละริมฝีปากออก...มองผมที่หายใจช้าๆเพื่อรับออกซิเจน...จูบกับทีอาจทำให้ผมตายได้...ทีจูบเก่ง...รู้ตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว...จูบที่ทำให้ผมไม่มีแรงแม้แต่จะขัดขืน...ทีมองผม...ดวงตาที่ทอดมองมาอบอุ่น...จนผมรู้สึกได้...

              "นะ...เอ็ม...ทีรอฟังอยู่" ทีอ้อน..แต่ยังไม่ลุกออกไปจากตัวผม...ผมกัดริมฝีปากตัวเอง...ก่อนจะเอ่ยปากบอก...

              "เอ็มรักที" ...ทียิ้ม...ยิ้มที่ทำให้ผมมีความสุขเหมือนเคย...จนผมอดยิ้มตามไม่ได้...ทีลุกขึ้นนั่งแล้วดึงให้ผมลุกขึ้นนั่งตาม...

              "นึกว่าชาตินี้ทีจะไม่ได้ยินแล้วสะอีก..." ทีพูดอมยิ้ม...

              "เว่อร์ไป" ผมย้อน...อมยิ้มบ้าง

              "ไม่เวอร์หรอก...เพราะถ้าเอ็มไม่รักที...ชาตินี้เอ็มก็คงไม่พูด...จริงมั้ย" ทีถาม...จริง...ผมตอบคำถามในใจ...

              "เอ็มแกล้งทีได้โหดร้ายมากเลยรู้มั้ย...ตอนที่ถามทราย...แล้วทรายตอบทีว่าเอ็มแกล้งเนี่ย...ทีเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยนะนั่น..." ทีบ่นอุบ

              "ก็...ทียังเคยแกล้งเอ็มเลย...ว่าเอ็มไม่ได้หรอกนะถ้าเอ็มคิดจะเอาคืน.." ผมแก้ตัว

              "ทีไม่เคยแกล้งเอ้มสักหน่อย..แค่ตอดเล็กตอดน้อย..."ทีบอก
     
              "เหมือนเมื่อกี้?" ผมถาม...ทียิ้ม

              "ช่วงเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมา...เอ็มทำให้ทีได้คิด...ว่าถ้าเอ็มไม่ได้รักเอ็มจะบอกทีว่า..ไม่...ตรงๆ...หรือว่าการเงียบไปโดยไม่ตอบอาจจะเป็นการปฏิเสธของเอ็ม...ทีไม่แน่ใจ...เอ็มเฉยเหมือนเดิมจนทีคิดว่า...เพื่อนอาจจะเป็นคำตอบที่เอ็มให้มา" ทีพูด...ก้มหน้ามองพื้น...ผมคงแกล้งแรงไป...นั่นคือสิ่งที่คิดได้...ผมเลยเลื่อนไปนั่งข้างทีแล้วเอนหัวไปพิงกับหลังของที

              "เอ็มขอโทษ" ผมบอก...ทีหันมา

              "จูบ" 

              "ไม่!" ผมตอบทันที...ขอโทษไม่เกี่ยวกับจูบสักหน่อย...ทียิ้มแม้ว่าผมจะบอกปัด...

              "ทีดีใจที่เอ็มเชื่อทีนะ...เรื่องทุกสิ่งทุกอย่างที่ทีบอก...เอ็ม...ทีอยากถาม...ทำไมเอ็มถึงไม่ฟ้องทีข้อหาข่มขืนเอ็มหล่ะ...ทำไมถึงไล่ทีไปในวันนั้น" คำถาม...แปลก...

              "ทีอยากให้เอ็มทำอย่างนั้นเหรอ" ผมถาม...ไม่เข้าใจว่าทีจะถามเรื่องเก่าทำไม...เรื่องที่ผมไม่อยากจำ

              "เปล่า...ทีแค่คิดว่า...เอ็มอาจไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเอ็มฟ้องทีได้...เพราะมีการแก้กฏหมายแล้ว...ไม่ว่าชายหรือหญิงเป็นผู้ถูกกระทำและผู้กระทำ" ทีพูด...จริงจัง

              "ใช่...เอ็มไม่รู้" ผมยอมรับ...

              "ทีแค่อยากบอก...เพื่อว่าสิ่งที่ทีทำลงไปมันไม่น่าจะเป็นเรื่องที่จะยกโทษได้ง่ายๆแล้วเอ็มอาจเปลี่ยนใจ" ทีพูด...เสียงเบา...เปิดโอกาสให้ผม...

              "ที...เค้าแก้กฏหมายตั้งแต่เมื่อไหร่.." ผมถาม

              "มิถุนา..วันนั้นทีเลยพยายามขอไถ่โทษเอ็ม...ทำลงไปแล้วพึ่งกลัวความผิดตัวเอง...ไม่อยากให้นามสกุลที่เหลืออยู่เพียงทีต้องมัวหมอง" ทีตอบ..งไม่มองหน้าผม

              "ถ้าทีบอกเอ็มตั้งแต่วันนั้นเอ็มคงฟ้องไปแล้วหล่ะ...แต่ตอนนี้...เอ็มจะฟ้องคนที่เอ็มรักทำไม...เอ็มเชื่อว่าทีไม่ลืมสิ่งที่ทีทำลงไปแน่ๆ...แล้วนั่นแหละจะเตือนใจทีอยู่เสมอ...ไม่ให้ทีทำร้ายเอ็มอีก...ทีจะไม่ทำให้เอ็มต้องเสียใจอีกใช่มั้ย" ผมถาม...ยิ้มให้ทีที่มองมายังผม...ทียิ้มอย่างลังเล

              "อืม...ทีจะจำทุกอย่างที่ทีทำไว้กับเอ็ม...แล้วบอกตัวเองทุกครั้งว่าทีทำร้ายเอ็มไว้มากแค่ไหน...บอกตัวเองว่าความรักที่เอ็มให้มามันมีค่ามากสำหรับคนอย่างที...จนเกือบจะมากเกินไป" ทีพูด...ลดค่าตัวเองลง...

              "มันไม่มากเกินไป...ถ้าทีรักเอ็มตอบกลับมา...ทุกอย่างต้องแลกด้วยสิ่งที่เท่ากันเสมอ..ที" ผมตอบ..ทีคิดมาก...แต่ไม่ยอมบอกผม..ผมยกมือโอบรอบคอแล้วกอด...ทีกอดผมตอบ...ซุกหน้าลงบนเส้นผมหนา...

              "ขอบคุณ...เอ็ม...เอ็มเป็นแสงสว่างของทีรู้มั้ย..." ทีพูดอยู่ข้างหัวผม..ผมฟังแล้วขำน้อยๆ...เพราะผมเองเคยเทียบทีไว้กับอาร์ท...ผมคลายอ้อมกอดแล้วนั่งมองหน้าที

              "วันที่เอ็มเจอทีที่โรงอาหาร...เอ็มแอบเปรียบทีกับอาร์ทด้วย.." ผมบอกยิ้มๆ

              "ว่าอาร์ทโคตรหล่อ...ส่วนทีหน้าตาไม่ได้เรื่องหรือป่าว" ทีถาม...ทำปากยื่น...

              "บ้าสิ...เอ็มคิดว่าอาร์ทเหมือนแสงสว่าง...ส่วนทีเหมือนความมืด" ผมบอก...ทีจะคิดว่าผมแอบว่าเค้ากำหรือป่าว...ทีไม่ได้ดำสักหน่อย...แค่ไม่ขาว...

              "แล้วเอ็มไม่ชอบแสงสว่างเหรอ...ทำไมถึงมาเลือกความมืดอย่างที" ทีถาม..ไม่ได้ติดใจอย่างที่ผมคิด..

              "อาร์ทเหมือนพระอาทิตย์...ส่องแสงสว่างเจิดจ้า...เอ็มคงเหมือนดวงจันทร์ที่ต้องอยู่เป็นบริวาร...แต่พระอาทิตย์สว่างเกินไป...ร้อนเกินไป...ทำให้..มองไม่เห็นพระจันทร์...จนไม่มีใครเห็น...เหมือนไม่มีตัวตน.. " ผมพูดไปเรื่อย..ทีมองผมแววตาอ่อนลง

              "งั้นทีคงเป็นความมือมิดของอวกาศ...ต้องการแสงสาดส่อง...ถึงแม้ว่าจะเป็นแสงน้อยๆของดวงจันทร์" ทีต่อ...ทำให้ผมยิ้มได้...ทีเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด

              "เพราะทีความมืดถึงมีแสงสว่าง" ผมบอกที..

              "เอ็มนี้แปลก..คนอื่นเค้าบอกกันว่าเพราะมีแสงสว่างถึงมีความมืดต่างหาก.." ทีหัวเราะ..ส่วนผมไม่ตอบ

              "ทีไม่รู้ว่าเอ็มพูดปลอบใจทีหรือป่าวนะ....เพราะว่าคนเราหาเหตุผลให้กับทุกอย่างได้อยู่แล้ว...แต่ทีก็มีความสุขกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เอ็มทำให้อยู่ดี"..ทียิ้ม...

              "ไม่หรอก...แต่รู้มั้ย..ทีพูดน้ำเน่าจริงๆนะเมื่อกี้นี้..." ผมตอบแล้วหัวเราะ...ทีขำตามแล้วเอื้อมมือมาโคลงหัวผม...

              "เพราะเอ็มเริ่มหรอกนั่น..." ทีตอบ...ผมยังขำต่อ..ส่วนทีก็ล้มตัวลงนอน...เอาต้นขาผมต่างหมอน...แล้วจ้องหน้าผม...ผมก้มหน้ามองที...ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ...เลยได้แต่อมยิ้มมีความสุขแทน...

             "ตกลง...เอ็มเป็นแฟนทีแล้วนะ..." ทีบอก...เน้นความสัมพันธ์ที่ลงตัวสักที...ผมยิ้มแล้วพยักหน้าตอบ...ทีใช้สองมือถิดสร้อยบางอย่างให้ผม...ผมรับไว้มาดู...เกียร์..(จริงๆตอนนั้นไม่รู้จัก...เลยเรียกไปว่าเฟือง...555)...เด็กวิศวะ...

              "รู้ความหมายใช่มั้ย.." ทีถาม...ผมส่ายหัวแทนคำตอบ..

              "เด็กวิศวะมีได้คนละอันจากรุ่นพี่...ถ้าให้ใครเหมือนให้ใจกับคนนั้น...แล้วยังบอกคนอื่นได้ด้วยอีกว่าใครคนนั้นมีเจ้าของแล้ว..." ทีตอบ..ผมพยักหน้ารับ...แล้วเลยเอาคล้องรอบคอ...

              "อย่างนี้ถ้าเอ็มใส่...เอ็มไม่กลายเป็นเด็กวิศวะเหรอเนี่ย...ใครเค้าจะคิดว่าเป็นคนมีเจ้าของ" ผมถาม...แต่ทีไม่ตอบคำพูดติดตลกของผม...

              "เอ็มคนดี...ทีขอถือว่าเอ็มเป็นคนในครอบครัวทีได้มั้ย..." สายตาจริงจัง...ทำให้ผมชะงักไม่น้อย...คนในครอบครัว...มันมีความหมายมากนะ...มือของผมยังเพลินกับการลูบเส้นผมของที...แต่ปากนั้นยังไม่กล้าตอบ...ผมไม่แน่ใจ...แฟนหันคนในครอบครัวมันต่างกัน....ครอบครัวเดียวกันมันเลิกกันไม่ได้...แต่แฟนเลิกได้...ความคิดผมลอยไปไกลกับคำถามนี้...มันเหมือนการขอแต่งงาน....คำขอจากผู้ชายคนนึงที่อายุยังไม่เกิน 20 ....

              "เอ็มยังไม่ต้องตอบทีตอนนี้ก็ได้....ทีคิดว่าทีอาจจะถามเอ็มเร็วไป..." ผมมองลึกเข้าไปในตาที...ทีจริงใจกับคำบอกเลื่อนเวลาตอบของผม...คนจะเป็นแฟนมันง่าย...ผมเคยคบกับอาร์ทย่อมรู้ดี...แต่การที่จะคบกันตลอดไปนี้สิ...ถ้าไม่ได้รักกันจริง...คงไปกันไม่รอด...ผมคิดได้ดังนั้นเลยพนักหน้าตอบ...ถือยกมือมาลูบข้างแก้มผม...มือุ่นลากผ่านแก้มเย็นๆของผม...ทิ้งความรู้สึกที่ค้างคาไว้บนผิวเนื้อ

              "พรุ่งนี้...ไปส่งเอ็มที่สยามได้มั้ย" ผมถามตัดเรื่องเดิม...เพราะผมมีความคิดที่จะทำเรื่องบางอย่างให้มันถูกต้องเสียที...

              "ได้สิ...ไปหาอาร์ทเหรอ" ทีถาม...ทีรู้อยู่แล้วว่าผมกับอาร์ทมีอะไรที่ค้างคากันอย่างแปลกๆ.....การเลิกเป็นแฟนกันไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอนนี้สิ้นสุดลงได้...แม้ผมจะบอกไม่ได้ว่าอาร์ทเลิกชอบผมแล้ว...แต่ผมรู้ว่าอาร์ทไม่ได้ชอบผมแล้ว...ผมแน่ใจอย่างนั้น

              "เอ็มเคยเล่าเรื่องทีให้อาร์ทฟังหรือป่าว" ทีถาม...ขยับหัวไปมาถูกับต้นขาผม....ไม่ยอมลุกขึ้นนั่ง...เหมือนแมวเวลามาคลอเคลีย

              "ไม่เคยหรอก...เป็นที...ทีจะเล่าเหรอไง" ผมถามกลับ....

              "ไม่รู้สิ...แต่ทีว่าถ้าเอ็มเล่า...ป่านนี้ทีคงไปอยู่ในคุกแล้ว...คงไม่ได้มานอนหนุนตักเอ็มอย่างนี้...ดีนะที่เป็นทรายไม่ใช่อาร์ท" ทีกล่าว...ยิ้มกว้าง....วันนี้ยิ้มบ่อยจริงๆ...ทั้งผมและที...อยู่ดีๆ..ทีก็เปลี่ยนจากนอนหงายกลายเป็นตะแคงแล้วก็กลายเป็นคว่ำหน้าลงกับขาผม...ผมสะดุ้งสุดตัว...ยังไงก็ตกใจ...แล้วทีก็กดหน้าแนบไปกับขาผม...พูดอะไรบางอย่างที่ฟังไม่รุ้เรื่อง...มีแค่แรงสั่นสะเทือนจากเสียงที่ไล่ขึ้นมาจากต้นขา...

              "ทีๆๆๆ...ลุกขึ้นมานั่งเลย..." ไม่ไหว...ไม่งั้นผมหยุดไม่อยู่แน่ๆ...

              "เอ็มมมม" ทีครางชื่อผม...ไม่ยอมลุก...ผมเขย่าตัวที...ทีกดหน้าแล้วไล่ขึ้นมาเรื่อยจนใกล้ขาหนีบ...ผมว่าไม่ได้การณ์...เลยผลุดลุกขึ้นยืนทันที...ทีไม่ได้กลิ้งตกจากตัวผมไปนอนอยู่ที่พื้น...เพราะทีหมุนตัวแล้วเอาขาลง...กับกลายเป็นนั่งที่ข้างเตียงอีกครั้ง...ทีขำ....นั่นคือสิ่งที่ผมเห็นหลังจากที่ควบคุมการเต้นของหัวใจอย่างตื่นเต้น

              "แกล้งเอ็มงั้นเหรอ" ผมถาม...เสียงขุ่น...แต่ไม่ได้โกรธ...ขอเล่นบทโหดไว้ก่อน....

              "เปล่าๆๆๆๆ...ทีแค่อยากแก้ตัว.." ทีพูดแล้วใช้สองมือโอบเอวผมเพื่อดึงเข้ามาใกล้...การที่ทีนั่งกับผมยืน...ทำให้ตำแหน่งการมอง..ดูรับไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่....(พอเข้าใจระดับสายตาปรกติโดยไม่มีมุมก้มเงยออกมั้ยครับ...แม้ว่าตอนคุยกันทีจะเป้นมุมเงยมองผมที่ยืนอยู่ก็เถอะ...)

              "ได้มั้ยเอ็ม...ทีอยากมีความสุขกับเอ็ม.." ผมรู้ความหมายของทีดี...เพราะงั้น...เลยอดหน้าแดงไม่ได้เมื่อถูกขอจะๆขนาดนี้..

              "ที...เอ็มมีความคิดเรื่องนี้ค่อนข้างแตกต่างกับทีนะ...ไม่ใช่ว่าเอ็มหัวโบราณ..แต่ว่า...อายุแค่นี้เอ็มว่ามันเร็วไป...เพื่อนปรกติคนอื่นเค้ายังสนใจแค่เรื่องเรียนเท่านั้น...เรื่องนั้นมัน...มัน..แบบว่า...คนอื่นที่เค้าเป้นแฟนกัน..ก็คงยังไม่...ไม่ได้มีอะไรกันเกินเลยขนาดนี้..." ผมตอบ...สับสนในตัวเองเล็กน้อยถึงปานกลาง...แต่ผมก็คิดอย่างนั้นจริงๆ...ผมมองหน้าทีแล้วอดใจอ่อนไม่ได้...ทีไม่ได้ทำหน้าอ้อนว้อน...แต่มองผมด้วยสายตาหวานหยด...

              "ทีเข้าใจ..." ทีตอบ...นิ่งๆ

              "ก็ถ้ามันเป็นวันสำคัญ..." ผมเริ่มพูด...ใบหน้าทีก็กลับกลายเป้นเจ้าเล่ห์ทันที

              "วันนี้สำคัญมั้ย!!" ทีถามอย่างรวดเร็ว
     
              "ไม่!!" ผมตอบทันทีเช่นกัน

              "แล้ววันไหนสำคํยบ้างอ่ะเอ็ม" ทีถาม...สนใจเรื่องนี้จริงๆแหะ.

              "ไม่รู้...ทีก็ถามเอ็มบ่อยๆสิ...ว่าวันไหนสำคัญบ้าง...ตอนนี้เอ็มนึกไม่ออก" ผมตอบปิดเรื่อง...แล้วก้มหัวลงเอาชนกับหัวทีแล้วขยี้จนผมฟู...ทีขำ...ขำเพราะมีความสุข...แหงสิ...ประเด็นทั้งหมดมันมาลงเรื่องวันสำคัญเนี่ยแหละ....

              ...

              ...

              ...

              คุณคิดว่าวันไหนเป็นวันสำคัญบ้างหล่ะ?

              ...

              ...


    -------------------------------------------------------------------------------------------

        ตามชื่อตอน...
       ยาวเหยียด......
       สอบเสร็จแล้วครับ..
       แต่..
       จันทร์หน้าๆสอบอีกแล้ว...
       ยังงี้เมื่อไหร่จะอัพจบนะเนี่ย..
       ให้กำลังใจด้วยนะ
       เฮ้อ...

        InLuSt

      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×