ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความในใจของเกย์คนหนึ่ง

    ลำดับตอนที่ #44 : บอกรักครั้งแรก

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 51


              ช่วงเดือนธันวาคมอากาศที่มหาลัยก็หนาวขึ้นมาบ้าง...นั่งเรียนทีนี้ต้องปิดแอร์กันเลยบางครั้ง...และเรื่องที่ทำให้ยิ่งตื่นตาตื่นใจในช่วงเดือนนี้คือ..."PY LoVe ProJeCt"...รู้จักกันมั้ยอ่ะ....ก็...มันเป็นบริการของคณะเภสัช...ในการส่งความรัก...บริการก็มีให้ล่วงหน้าในการสั่งจองเป็นเวลาสัปดาห์หนึ่ง...แล้วก็จัดส่งในอีกสัปดาห์ถัดมา...โดยส่งลูกโป่งหนึ่งลูกกับการ์ดหนึ่งใบคิดเป็นเงิน 29 บาท...ลูกโป่งสองลูกการ์ดหนึ่งใบ 39 บาท...แล้วถ้าเป็นชุดใหญ่จะคิดราคา 99 บาท....ซึ่งบริการจัดส่งจะมีขึ้นระหว่างคาบเรียน...เพราะฉะนั้นพอเลิกเรียนคาบหนึ่งๆของวัน...เด็กเภสัชก็จะกรูกันเข้ามาส่งลูกโป่งกับการ์ด...โดยประกาศเรียกเอาทีละคน...แล้วที่เล่ามานี้มันเกี่ยวอะไรกับผมละ...มันก็เกี่ยวตรงที่ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้รับลูกโป่งนี้สิ...

              "เอ็ม XX" เสียงประกาศชื่อตามด้วยคณะดูคุ้นหู...แต่ผมก็ยังไม่สนใจ...จนกระทั่งทรายสะกิดที่ศอกนี้แหละ

              "เอ็ม...เค้าเรียกไปรับลูกโป่งหน่ะ" ผมมองหน้าทรายงงๆ...แล้วเลยลุกจากที่นั่งไปรับลูกโป่งสามลูกกับการ์ดใบหนึ่ง...ผมยังไม่ได้เปิดการ์ดทันทีแต่เดินกลับไปนั่งที่ก่อน...แล้วเดินสวนทางกับทรายที่ลงไปรับลูกโป่งที่มีคนส่งมาให้ด้วย...

              พอผมนั่งลงด้านหลังก็มีคนชะโงกมาทันที...ไอริวกะไอเล้ง...มันมองหน้าผมสีหน้าทะเล้น...แล้วทรายก็เดินกลับมานั่งข้างๆผมก่อนที่มันทั้งสองจะถามอะไรผม

              "ใครส่งให้...ทราย" ผมหันไปถาม...ของตัวเองยังไม่แกะ

              "ไม่รู้สิ...รู้สึกว่าจะคนละคณะ" ทรายตอบแล้วยื่นการ์ดให้ดูสองใบ...

              "โห...สเน่ห์แรงจริงๆ...ยังงี้ต้องบอกพี่ข้าว" ผมพูดท้ายประโยคเสียงเบาให้พอแค่ทรายที่ได้ยิน..

              "อะไรรรร....ทรายได้ลูกโป่งสองลูกจากสองคน...แต่เอ็มได้สามลูกจากคนเดียวเนี่ย....ใครกันแน่ที่สเน่ห์แรง...ทุ่มทุนสร้างจริงๆ" ทรายพูดแล้วพยักเพยิดไปทางลูกโป่งสีแดงที่นอนอยู่เก้าอี้ข้างๆผม

              "แล้วตกลงจากใคร" ทรายถาม...ผมส่ายหัวตอบ...เพื่อบอกว่ายังไม่ได้แกะ...แล้วก็ลงมือเริ่มแกะซองเพื่อดูการ์ดข้างใน



              To   M
                         ให้เอ็มคนดี...อย่าแกล้งกันเลยนะ...ช่วยตอบรับ(รัก)หน่อยนะ...ได้รับลูกโป่งแล้วเย็นนี้ช่วยยิ้มหวานๆให้ทีหนึ่งได้มั้ย...จะได้เก็บรอยยิ้มไปนอนหลับฝันดี....

                                                                                                                                                         รัก(จริงๆนะ)

                                                                                                                                                                       T_T


              "ใครส่งมาให้วะ" เสียงริวถามขึ้นมาจากด้านหลัง...ผมหันไปมองหน้ามันแล้วกลับมามองที่การ์ดอีกรอบ...ริวไม่รู้แหะว่าใครส่งมา...ทรายชะโงกมาดูการ์ดแล้วยิ้มกว้าง

              "ริวไม่มีบุญไม่มีทางรู้หรอกว่าใครเป็นคนส่งมา" ทรายตอบ...ริวกับเล้งทำหน้าเซ็ง..

              "ทำไมต้องส่งหน้าร้องไห้มาด้วยหล่ะ....ว่าแต่มีใครมาขอความรักมึงวะเอ็ม" เล้งถามบ้าง

              "ไม่รู้...ส่งผิดมั้ง...ก็ดี...จะได้อ้างได้ว่าเป็นของตัวเอง" ผมโกหกหน้าตาย...มันสองตัวทำหน้าลังเลไม่เชื่อที่ผมพูด

              "เอา...บอกแล้วก็ไม่เชื่อ" ผมพูดแล้วเก็บการ์ดลงซอง...ทีนะที...คิดได้ไงเนี่ย...ทั้งบอกชื่อ...ทั้งร้องไห้...

              ตอนเย็นวันนั้น...ทีมารอรับผมที่หน้า 7-11 เหมือนเดิม...ทียิ้มกว้าง...แต่ผมจงใจทำหน้าตาเฉยๆใส่ทั้งๆทีมือยังถือลูกโป่งพร้อมก้านสามใบ...ทีเห็นผมทำหน้านิ่งๆสีหน้าแววลังเลใจเลยเข้ามาแทนทียิ้มกว้างเมื่อกี้...ผมเข้าไปนั่งในรถวางลูกโป่งไว้เบาะหลังแล้วรออย่างนิ่ง...

              "วันนี้ไปกินร้านอาหารเวียดนามที่เปิดใหม่ข้างมอกันมั้ย" ทีถาม...มองหน้าผม

              "...แล้วแต่ทีละกัน" ผมตอบ...

              "เอ็มเป็นอะไรหรือป่าววันนี้" ทีถามผม...หน้าตาเป็นห่วง

              "เปล่าหนิ" ผมตอบ

              "แล้วทำไมวันนี้หน้าบึ้งจัง...ไม่ยิ้มสักครั้งเลยเนี่ย" ทีถามหน้าตาเป็นกังวลสุดๆ...ผมมองหน้าทีแล้วสงสาร...ไม่แกล้งแล้วดีกว่า

              "ก็...กลัวว่าทีฝันเห็นหน้าเอ็มแล้วจะกลายเป็นฝันร้ายนะสิ" ผมตอบแล้วมองหน้าที...รอ...จนกว่าทีจะเข้าใจที่ผมพูด...แต่ทียังงง...ผมเลยชี้ไปที่ลูกโป่ง...ทีมองตามแล้วหันมามองหน้าผม...แล้วมองลูกโป่งอีกครั้ง...ท่าทางจะไม่เก็ทแหะ...

              "ก็ในการ์ดทีบอกให้เอ็มยิ้มให้ที...ทีจะได้เก็บไปฝันไง" ผมเฉลย...อะไรว้า...แกล้งไม่สนุก...กลายเป็นทีไม่เข้าใจสะงั้น...ผมเลยเซ็ง...แต่ทีเข้าใจแล้ว...ทำหน้าเหมือนจะพูดอะไรแล้วอมยิ้ม...หลังจากนั้นก็ขำจนตัวงอ

              "ขำอะไรที...ไม่ไปกินข้าวแล้วเหรอไง" ผมเริ่มโวย...แกล้งคนไม่สำเร็จ

              "ขำเอ็ม...ตอนแรกไม่รู้ว่าเอ็มเป็นไรเห็นหน้าบึ้ง...แต่พอเห็นลูกโป่งแล้วก็จำได้ว่าทีขอให้เอ็มยิ้มให้ที...เพราะงั้นที่เอ็มทำหน้านิ่งใส่ทีเนี่ยต้องแกล้งทีแน่ๆเลย..." ทีพูดไม่จบแล้วขำต่อ

              "แล้วมาแกล้งเอ็มกลับเนี่ยนะ!!" โอย...จะบ้าตาย......ที.....เจ้าเล่ห์ที่สุด

              "หน้าเอ็มตอนแกล้งทีไม่สำเร็จเนี่ย....น่ารักมากๆเลยนะ...รู้มั้ย" ทีหยุดขำแล้วยิ้มให้ผม....เว้ย....ฟังแล้วขนลุก...ไม่วายรู้สึกว่าหน้าจะแดงเอาสะด้วย...จำไว้เลยที....เอ็มจะแกล้งคืนให้ได้เชียว

              "เอ็มรู้มั้ยว่าทำไมทีถึงซื้อลูกโป่งให้เอ็มสามลูก" ทีถามขึ้นมาระหว่างขับรถ...ผมมองหน้าเขา...

              "ไม่รุสิ" ผมตอบ...ทียิ้มแบบลังเล

              "ก็ชื่อเอ็มกับทีมันเกี่ยวข้องกับเลขสามได้นะสิ..." ทีอธิบาย....ยังไงหว่า

              "ชื่อเอ็มเขียนด้วยตัว M พอมาตะแคงข้างก็ได้ 3 ส่วนชื่อที...ก็คล้ายกับเลขสามในภาษาอังกฤษไง" ทีพูดต่อ...เออ...คิดไปได้...

              "ไม่ตกใจเหรอ" ทีหันมาถาม

              "จะให้เอ็มตกใจอะไร...เรื่องทีที่เสียเงินซื้อลูกโป่งสามลูก 49 บาทนะเหรอ..." ผมถาม...ทีทำปากยื่นงอนๆ...เอ้อ...ก็ลูกโป่งแค่สามลูกซื้ออย่างนี้ก็แพงสิ

              "วันหลังทีจะซื้อแบบยกถุงมาเป่าให้เอ็มละกัน"  ทีงอนแหะ....

              "อืม...ถ้าทีซื้อมาเอ็มจะช่วยเป่า" ผมตอบ...ง้อคนงอน...

              ผมพยายามจะแกล้งทีอีกหลายครั้ง...แต่...ไม่สำเร็จ...ทีเจ้าเล่ห์เกินกว่าผมจะทำอะไรเขาได้...จนกระทั่งวันนึง...วันที่ใกล้จะครบสองสัปดาห์ตามที่ผมได้บอกทีไป...ผมก็นึกออก....สิ่งที่ผมจะแกล้งทีคืน...เป็นอย่างสุดท้าย...นั่นคือ...ผมจะเลื่อนวันตอบคำถามของทีออกไป...ไม่เลวเลยละความคิดนี้...(รู้สึกตัวเองเริ่มเลว)...แล้วถ้าจะเลื่อนจะเลื่อนไปถึงเมื่อไหร่ดี....ผมเอาเรื่องนี้ไปบอกทราย...ทรายจ้องหน้าผมก่อนจะพูดสั้นๆใส่ผมว่า...."ร้ายนัก"...อ้าว...ชมใช่มั้ยเนี่ย...แล้วทรายก็พร่ำบอกกับผมต่ออีกว่าสงสารทีอย่างนั้นอย่างนี้....

              "อ้าวทราย....แล้วไม่สงสารเอ็มบ้างเหรอไง" ผมถาม...เพื่อนใครเนี่ย...ไม่มีช่วย

              "ไม่...ไม่เอาน่า...ล้อเล่น...แล้วจะบอกทีเมื่อไหร่ละ...หืม?" ทรายถาม....

              "นั่นแหละ...ที่จะให้ทรายช่วยคิด..." ผมบอก

              "เปิดปีใหม่ดีมั้ย..." ทรายตอบทันที...เน้นนะว่าทันที

              "ไหนบอกว่าสงสารนั่นจากสองสัปดาห์เป็นสี่นะนั่น...เดือนนึง...อย่างนาน" ผมตอบ

              "ใครบอกว่าจะแก้แค้นนะ...อยากตอบก็ตอบเลยสิ...ยิ่งนาน...คนที่ได้รับผลจากการแกล้งจะกลายเป็นเอ็มเองนะ" ทรายแย้ง...

              "ตกลง...เปิดปีใหม่...แต่ว่า...จะตอบยังไงหล่ะ" ผมถามอีก...

              "เอ็มก็บอกว่ารักทีไปสิ" ทรายพูด...พูดง่ายๆแต่ผมฟังแล้วอาย...

              "พูดง่าย...จะให้เดินไปยืนตรงหน้าแล้วบอกว่ารักเนี่ยนะ...ยังกับบทละครเวที...ไม่สิการ์ตูนยังดีกว่าที่พูดนี่อีก" ผมโยเย

              "ทรายเคยบอกรักใครบ้างมั้ย" ผมถาม... ทรายส่ายหัว...อ้าว...มิน่า...

              "อืม...เอ็มพูดแล้วทำให้ทีนึกถึง Swensen's" ทรายพูดขึ้นมาลอยๆ...ลอยจริงๆ...เกี่ยวกันตรงไหนหว่า

              "เอ็มเคยดูโฆษณา 59 strawberry รึป่าว...รู้สึกว่าจะมีตอนเราอยู่มอหก" โฆษณาๆๆๆๆ...คุ้นๆว่าเคยเห็น

              "ที่เค้าบอกว่าให้สตรอเบอร์รี่แสดงว่ารักอ่ะ" ทรายต่อ.....อ้อ...ที่เพื่อนมันตักสตรอเบอร์รี่ให้อีกคน....จำได้และ

              "ดีมั้ย?" ทรายถาม

              "แต่ตอนนี้มันไม่มีหนิ 59 strawberry เนี่ย..." ผมแย้ง...วิธีนี้ก็ดูดี...ตราบใดที่ผมไม่ต้องบอกออกไปจากปากตัวเอง

              "ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้นหรอกเอ็ม...มันอยู่ที่ว่าทีจะเคยดูโฆษณาหรือป่าวต่างหาก" ทรายโบกนิ้วส่ายบอกว่าผมคิดผิด

              "อันนั้นก็ช่วยไม่ได้...เอาวิธีนี้แหละ...เปลี่ยนเป็นสตรอเบอร์รี่ที่วางบนน้ำปั่นดีมั้ย" ผมคิดต่อ

              "คงได้" ทรายตอบ...เรื่องตื่นเต้นในการวางแผนหมดลงเมื่อคิดได้...

              ผมทำเป็นเลยวันตอบคำถามอย่างแนบเนียน...ผมรู้ว่าทีไม่กล้าเป็นฝ่ายถามคำตอบออกมาเอง...เพราะผมบอกว่าขอเวลาคิด...วันที่ครบกำหนดพอดี...ผมเห็นสายตาทีที่มารับผมตอนเช้ามีประกายวาววับ...และตอนเย็นวันนั้นก็ยังคงอยู่...การพูดคุยเป็นปรกติ...แต่ผมก็พอสังเกตุได้ว่าทีเกรงเป็นบางครั้ง...แต่พอผมบอกลา...ทีก็รู้แล้วว่าวันนั้นผมไม่ได้ตอบ...และคงคิดว่าเขานับสองสัปดาห์ผิดไป...แต่วันถัดๆมาผมก็ยังไม่ตอบ...ทีพยายามทำตัวเหมือนปรกติ...(หรือจริงๆเขาก็ปรกติอยู่แล้ว)...แต่แววตาไม่ได้โชนแสงอย่างมีชีวิตชีวา...มันทำให้ผมเริ่มคิด....ผมแกล้งทีมากเกินไปหรือป่าวเนี่ย....

              จนกระทั่งวันก่อนหยุดปีใหม่...ทีกลับมายิ้มให้ผมอย่างจริงใจเหมือนเดิม...แต่ทีเศร้า...ผมรู้...แต่อีกแค่ไม่กี่วัน...รอยยิ้มของทีเหมือนต้องการให้ผมมีความสุข...แม้เขาจะไม่มี...ผมทำอะไรลงไป...เขาถามผมว่าวางแผนไปเที่ยวไหนหรือป่าว...ผมตอบไปว่าไม่...แค่อยู่กับครอบครัว...ทีพยักหน้ารับเงียบๆ...ครอบครัว...ที่ทีไม่มีอีกแล้ว...ผมไม่น่าทำอย่างนี้เลย...มันเป็นปีใหม่แท้ๆ...ตลอดเวลาที่ผมอยู่บ้านทีไม่ได้โทรมาเลยสักครั้ง...ส่วนผมก็ต้องไปเยี่ยมญาติฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ตลอดเลยไม่ว่างพอที่จะโทร...แต่พอถึงเที่ยงคืนของวันที่ 31 ทีก็ส่งข้อความ Happy New Year มาสั้นๆ...ผมอยากเปิดเรียน...นั้นคือสิ่งที่คิดได้....เปิดเรียนเมื่อไหร่เอ็มจะตอบทีเลย...ขอโทษนะที...เอ็มเข้าใจในสิ่งที่ทรายบอกแล้ว...แกล้งทีไป...เอ็มเองก็เจ็บ...ไม่ดีเลย...

              "หวัดดีปีใหม่ที" ผมทักแล้วยิ้มให้เขากว้างๆ...ทียิ้มตอบ...ผมดูไม่ออกว่าทีคิดยังไง...

              "เป็นไรหรือป่าว...ไม่สบาย?" ผมถาม...เป็นห่วง...คนที่ตัวเองแกล้ง...

              "เปล่า...ไปเถอะ...วันแรกเดี๋ยวรถติดนะ" ทีตอบ....ยิ้ม

              ผมลืม...ลืมไปว่าร้านขายน้ำปั่นที่มีสตรอเบร์รี่ให้มาด้วยเนี่ย...มันไม่มาขายในวันธรรมดา...ผมเลยต้องถามเพื่อนหลายคนมาก...กว่าจะรู้ว่าที่ corner(ตลาดตรงมุมสี่แยก) มีขาย...ผมเริ่มเครียดในสิ่งที่ทรายเตื่อน...ถ้าเกิดทีไม่เคยดูโฆษณานะล่ะ?....ทำไง.....โอ๊ยๆๆๆ....แค่บอกรักไม่น่าจะยาก...ผมปลอบใจตัวเอง...พอคิดถึงหน้าทีขึ้นมา...ผมก็กัดปากตัวเองแน่น....ไม่กล้า.....ไม่ได้แน่ๆ....เอ็มแย่ๆๆๆๆ...แล้วถ้าเกิดว่าทีตัดใจไปรักคนอื่นแล้วหล่ะ....เพราะผมตอบช้า...ทำให้เขาเสียเวลา...เข้าใจผิด...แล้วเดินออกไปจากชีวิตผมหล่ะ....ยิ่งคิดยิ่งไปไกล

              "เอ็ม..." เสียงเรียก...ใคร...ผมหันไปข้างหลังเห็นทียืนมองขมวดคิ้วมุ่น

              "เป็นอะไรหรือป่าว...เรียกหลายทีแล้ว..."ทีเป้นห่วง...ทียังเป็นห่วงผมอยู่....เฮ้อ

               "เปล่าๆๆๆ...ที...วันนี้ไป corner ได้มั้ย...เอ็มจะไปซื้อน้ำปั่น" ผมบอกทันที...ทีพยักหน้าตอบรับงงๆ...งงสิ...ร้านปั่นที่มอก็มีแต่นี่ไปซื้อถึง corner

              ทีขับรถไปจนถึง...ผมลงไปซื้อ...แผนสำเร็จไปแล้วอย่างนึง...ที่เหลือคงต้องขึ้นกับที...ผมดูดน้ำปั่นแล้วเดินขึ้นรถ...ทีขับรถไปที่ร้านอาหารใกล้ๆ...ผมและทีลงจากรถแล้วไปนั่งที่โต๊ะตัวหนึ่ง....ผมบอกได้เลยว่าเครียด...

              "ที...เอ็มให้" ผมยื่นแก้วน้ำปั่นให้ที...ทีเลิกคิ้วมอง...

              "เอ็มไม่กินล่ะ" ทีถาม...ไม่ถามได้มั้ย...ถ้ากินคงไม่ให้หรอก...

              "เอ่อ...เอ็มไม่ชอบกินสตรอเบอร์รี่" ผมตอบ...เป็นการแก้ตัวที่โง่ที่สุด...ทีมองผมแปลกๆ...

              "ทีก็จำได้ว่าอย่างนั้น...นี่ทีก็แปลกใจอยู่" ทีตอบ...ส่วนคนฟังอย่างผมเหนื่อย...เลยดึงแก้วกลับมาที่หน้าตัวเอง...

              "ช่างเถอะ.." ผมจบคำพูด...ยากจัง...การบอกอะไรอ้อมๆ...ทั้งๆที่บอกตรงๆไม่ได้...ทีสั่งข้าวในขณะที่ยังมองผมนั่งเซ็งอยู่อย่างนั้น...ทีไม่ได้ถามอะไร...ก่อนที่จะลุกไปเข้าห้องน้ำ...ปล่อยผมให้นั่งคิดแผนอื่นๆ...สักพักทีก็กลับมา...พร้อมรอยยิ้มกว้าง...กว้างพอทีจะทำให้ผมใจชื้น...

              "เอ็ม...ทีอยากได้สตรอเบอร์รี่แล้วหล่ะ" ทีพูดทันทีที่นั่งลง..

              "เมื่อกี้ให้...ทำไมไม่เอา" ผมถาม...แปลกใจ...

              "ตอนนี้เอาแล้ว....นะนะนะ" ผมงง...แต่มือก็ยื่นแก้วให้...ทีรับไปเขี่ยเนื้อสตรอเบอร์รี่เข้าปาก....ทีเข้าใจในสิ่งที่ผมคิดแน่หรือป่าว...ทียื่นแก้วน้ำปั่นคืนผม

              "เอ็ม...เอ็มจะทำให้ทีเป็นบ้ารู้มั้ย..." ทีบอกผม...เสียงแผ่วเบา...ผมไม่ตอบ...แค่มองตาของเขา

              "ทีรักเอ็มนะ" ทีพูดอีกครั้ง..ไม่สนเลยว่าจะอยู่ที่ร้านอาหาร...ผมอาย...ทีพูด...ทั้งน้ำเสียงและสายตาบอกว่าจริงจัง...

              "ตอบให้ทีฟังแล้วชื่นใจหน่อยได้มั้ย" ทีถามแล้วรอ...ผมลังเล...ทีรู้แล้วแน่ๆ

              "ไม่ใช่ที่นี่..." ผมยังไม่กล้าพอ...

              "ไม่เป็นไร...แค่รู้ว่าเอ็มเตรียมการแสนยากลำบากนี้ทีก็ดีใจแล้ว" ทียังคงยิ้ม....อะไรนะ....

              "รู้มาจากไหน..." ผมตัดสินใจถาม

              "โทรถามทรายในห้องน้ำ...ทีแปลกใจเรื่องน้ำปั่นมากนะเอ็ม...เอ็มไม่เคยสั่งสตรอเบอร์รี่ทุกครั้งจะกินแต่บลูเบอร์รี่...จนกระทั่งรู้ความจริง" ทีพูดต่อ...ส่วนผมเขิน...ไม่น่าแปลกใจ...ผมติดหนี้ทรายหลายเรื่องแล้ว...ถ้าไม่ได้ทราย...ผมจะสื่อใจตรงกับทีมั้ยเนี่ย

              ทีคนนี้...

              กับรอยยิ้มที่ทำให้ผมอุ่นใจเสมอ...

              ทีคนนี้...

              ที่ผมรัก

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
        ตอนที่ 44 แล้ว...
      สัญญาว่าจะมีตอนพิเศษนะ...
      (คนอ่านอย่าพึ่งรุมประนามคนเขียนนะคร้าบ)

       InLuSt

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×