ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความในใจของเกย์คนหนึ่ง

    ลำดับตอนที่ #25 : ปิดไม่มิด

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 50


           
              "เป็นไงบ้างเอ็ม...โทรไปทำไมไม่รับ..." เสียงที่แสดงความเป็นห่วงกรอกมาตามสายโทรศัพท์....

              "เอ่อ...ไม่เป็นไรมากครับ....เมื่อวานไม่สบายนิดหน่อย...แต่ตอนนี้หายแล้วครับ" คำโกหกพรั่งพรูออกไปจากปาก....กลัว....จนไม่กล้าบอก....

              "ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...แม่เป็นห่วง....เรียนหนักมากมั้ยลูก..." แม่มีน้ำเสียงสดใสขึ้นเมื่อรู้ว่าตัวผมไม่ได้เป็นอะไรมาก

              "ครับ...ก็เรียนยาก...แต่ไม่เป็นไรหรอก....เพื่อแม่...เอ็มทำให้ได้ทุกอย่าง" ผมตอบเสียงระรื่น....แม้ว่าความจริงจะหดหู่มากแค่ไหนก็ตาม...

              "ให้จริงเถอะ...อย่าเครียดมากนะ..." แม่หัวเราะขำๆอย่างสบายใจ

              "ครับ...." ผมตอบรับ

              หลังจากที่คุยกับแม่เสร็จ....ผมก็นั่งนิ่ง...คิดดูว่าจะโทรกลับหาทรายดีมั้ย...เพราะผมยังไม่กล้าที่จะบอกเธอ....ถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันแค่ไหน...แต่เรื่องแบบนี้......พอผมคิดได้แค่นี้...ก้อนแข็งๆก็มาจุกอยู่ที่คอ...ความรู้สึกที่น่าขยะแขยงจนทนไม่ได้ค่อยๆครอบงำตัวผม....

              "ฉันจะจำสิ่งที่เธอทำพันครั้งที่เธอทำดี...ฉันจะลืมสิ่งที่เธอเป็นสิบครั้งที่มันร้ายๆ..." ยังไม่ทันที่ผมจะตัดสินใจ...เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นเสียก่อน...ทรายโทรมา...ผมจึงกดรับสายไป...

              "เอ็ม...นี่อยู่ไหนอ่ะ....ทำไมไม่มาเรียนอ่ะวันนี้....โทรไปก็ไม่รับ" เสียงทรายพูดรัวเร็ว...ทำให้ผมที่แม้ว่าจะไม่ค่อยสู้ดีนักยังยิ้มและหลุดหัวเราะออกมาได้

              "ใจเย็นๆทราย....เราไม่เป็นไรมากหรอก...แค่ไม่สบายนิดหน่อย" ผมตอบโกหกอีกครั้ง...ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องโกหกอีกกี่ครั้งกันแน่..

              "จริงเหรอ....เชื่อได้แน่นะ" ทรายถาม....แสดงความไม่เชื่อออกมาอย่างเห็นได้ชัด

              "แล้วเราจะโกหกทรายทำไมล่ะ" ผมตอบเสียงแหยๆ....

              "อืม...แล้วหายดีหรือยังล่ะ...พรุ่งนี้มาเรียนไหวมั้ย..."ทรายยังคงเป็นห่วง

              "อืม....พรุ่งนี้ก็คงได้เจอเราแล้วล่ะ...อืม.....ไม่เป็นไร...แล้วเจอกันนะ" ผมพูดให้ทรายหมดความกังวลแล้ววางสายไป...

              ผมวางโทรศัพท์มือถือแล้วล้มตัวลงนอนด้วยความอ่อนล้า...แผลทางใจเจ็บมากกว่าแผลทางกาย...แผลที่ร่างกายสักวันก็คงเลือนลาง....แต่ความรู้สึกที่ได้รับ....ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานสักเพียงใด...ผมหลุบตาลง...ปล่อยให้น้ำตาหยาดหยดผ่านใบหน้า...สักพักเสียงมือถือผมก็ดังขึ้นอีกครั้ง...ผมจึงค่อยๆเอื้อมมือไปกดรับสาย

              "ดีเอ็ม....ว่างอยู่มั้ย...คุยได้หรือป่าว" เสียงอาร์ทผ่านมาตามโทรศัพท์...ทั้งๆทีเป็นคนที่ผมคิดว่าอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด...แต่คราวนี้กลับทำให้ผมอึดอัดใจอย่างประหลาด....รู้สึกว่าตัวเอง....ไม่สมควรจะคุยกับอาร์ท

              "เอ็ม...เอ็ม...ได้ยินมั้ย"

              "ได้ยิน...อาร์ท...เป็นไงบ้างอ่ะ...."

              "ก็ดี...คิดถึงเอ็มเลยโทรมาหา..."

              "..." ผมฟังแล้วตอบอะไรไม่ถูก...พอคิดว่าผมไม่มีอะไรเหลือพอให้อาร์ทจะชอบได้แล้ว...ความรู้สึกแย่ๆยิ่งเข้ามาทับถมตัวผม

              "เป็นอะไรไปเอ็ม...ไม่สบายอะไรหรือป่าวเนี่ย..."

              "ไม่ได้เป็นอะไรหรอก...แค่เมื่อกี้คิดอะไรเพลินๆอยู่...เอ็มก็คิดถึงอาร์ทเหมือนกัน...อยู่ตั้งไกล...เลยไม่ค่อยได้เจอกันเลย...ไม่เหมือนแต่ก่อนที่อยู่หอแล้วได้เจอหน้าทุกวัน"...ผมพูด...คิดถึงวันแย่ๆในสมัยก่อนที่ผมมีอาร์ทค่อยอยู่ข้างๆและช่วยแก้ไขปัญหาให้เสมอ

               "อืม...อาร์ทก็คิดอยู่...ว่าศุกร์นี้จะไปหาเอ็มที่ม. ....เอ็มว่างหรือป่าว..." คำพูดอาร์ททำเอาผมชะงัก....ไม่แน่ใจว่าผมอยากเจออาร์ทเร็วขนาดนี้แน่หรือป่าว...เพราะแผลที่ตัวคงไม่หายไปภายในวันมะรืนแน่ๆ..

              "เอ่อ....ว่าง..." ผมตอบไปอย่างตะกุกตะกัก...เพราะในตอนนั้นในหัวมันโล่งสะจนคิดไม่ออกว่าจะโกหกว่าไม่ว่างเพราะอะไร

              ผมคุยกับอาร์ทไปเรื่อยๆ...เพราะความคุ้นเคยทำให้ความตึงเครียดของผมลดน้อยลงเรื่อยๆ...อาร์ทยังดูสุขสบายดี...อาร์ทเล่าให้ผมฟังว่า...มีคนมาอ่อยให้เค้าจีบมากแค่ไหน...ตั้งแต่ที่เค้ากลายเป็น"เดือน"ของคณะ...ผมฟังไปขำไป...อาร์ทยังเล่าอีกว่ามีคนพยายามยัดเยียดเบอร์โทรให้เค้ายังไงบ้าง...บางคนอาร์ทก็เหนื่อยจนต้องเดินหนี (แบบไม่ให้เค้ารู้ตัว)...ผมมีความสุขขึ้นเยอะ...เมื่อได้ฟังเรื่องพวกนี้....อาร์ทได้ยินว่าผมบอกว่าไม่เป็นไรเค้าก็ต้องเชื่อไปอย่างนั้น...ซึ่งผมเองก็รู้ว่าอาร์ทเองก็คงจะผิดสังเกตุในตัวผมแน่ๆ



     ----วันพฤหัสบดี -----
              วันรุ่งขึ้นผมตื่นเช้ากว่าปรกติ...อาบน้ำแต่งตัว...ผมมองกระจกเพื่อสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย...พลันสายตาของผมก็มองเห็นความผิดแปลก...เมื่อพบรอยแดงทั่วคอและท้องแขนที่เกินมาจากเสื้อนักศึกษา...ผมเบนสายตาหลบจากกระจก...แล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อ...ผมหยิบเสื้อแขนยาวขึ้นมา...แล้วคิดได้ว่ายังไงมันก็ปิดรอย kiss mark ที่คอไม่ได้แน่ๆ...ผมเลยตัดสินใจใส่เสื้อยืดคอเต่าสีขาวไว้ข้างใน...มันต้องดูแปลกแน่ๆ...ผมคิด....เพราะว่าคงไม่มีใครบ้ามาใส่เสื้อยืดข้างในเสื้อแขนยาวในหน้าร้อนของเมืองไทยอย่างนี้หรอก...แต่จะให้ไม่ใส่ก็ไม่ได้...ผมกัดริมฝีปากแน่น...พอคิดไปถึงสาเหตุที่ผมต้องมาหาวิธียุ่งยากพวกนี้แล้ว....

              "ติ๊ดๆๆ" นาฬิกาข้อมือส่งเสียงร้องเบาๆเพื่อบอกเวลา 8.00 น...ผมเลิกพะวงถึงความประหลาดในเสื้อที่ใส่แล้วรีบไปจับรถเมล์เพื่อไปมหาลัยก่อนที่จะสายเกินไป...

              ผมไปถึงห้องเลกเชอร์สายไป 10 นาที...ทรายจองที่ไว้ให้ผม...ผมจึ้งเข้าไปนั่งดดยไม่รบกวนใครมาก...ทรายละสายตาจากสไลด์บนกระดานมามองที่ผมแวบนึง...สีหน้าฉายความประหลาดใจในอะไรบางอย่าง...แต่เธอก็ยังไม่ได้ถามอะไร...จนกระทั่ง...พักกลางวัน

              "วันนี้ร้อนเนอะ...ว่ามั้ย" ทรายถามระหว่างทางไปโรงอาหาร

              "อืม...." ผมครางตอบแต่ยังดีที่คิดขึ้นได้ว่าตอบไปว่าร้อนคงไม่ดี

              "แต่ในแอล(ห้องบรรยายรวม)ก็หนาวนะ...แอร์ตกใส่แล้วเย็นน่าดู" ผมตอบถูไถไป...ทรายฟังแล้วพยักหน้า...

              "นั่งข้างกัน...แต่ตกใส่ที่นั่งเดียว?" ทรายพูดลอยๆทำเอาผมชะงัก...

              "เอ็ม...มีอะไรหรือป่าว..." ระยะทางไปโรงอาหารดูไกลทีเดียวเมื่อผมต้องมาพูดถึงเรื่องนี้...ผมมองหน้าทราย...แสร้งยิ้มออกไปแล้วบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ก็ทำไม่ได้

              "ไม่เป็นไร...ถ้าเอ็มยังไม่พร้อม...แต่...มีอะไรก็อย่าเครียดเก็บไว้คนเดียวอีกนะ...เอ็มยังมีเพื่อนคนนี้อยู่นะ" ทรายพูด...ใช่...ตอนนี้ผมยังไม่พร้อม...ไว้ถึงตอนที่ผมพร้อม...ผมจะบอกเธอ...

              ผมกินข้าวกลางวันแล้วเดินไปรอเรียนต่อที่ตึกวิทยาศาสตร์เพราะช่วงบ่ายต้องทำแลปชีวะ...การแบ่งกลุ่มของแลปชีวะทำให้ผมอยู่คนละห้องกับทราย (เพราะเรียงตามเลขที่) ผมเลยนั่งอยู่กลุ่มเดียวกับไอริว กับไอป้อง...

              "หนาวมากเหรอว่ะเอ็ม" ริวถามขึ้นระหว่างฟังอาจารย์ brief lab

              "อืม...ในแอล (L=lecture room) มันหนาว" ผมตอบ

              "แล้วเสือฺกนั่งที่เดิมทำไมวะ...ไม่ย้ายที่เอา...มึงฺใส่เสื้อแขนยาวกูเห็นแล้วร้อนแทนเลย" ริวกล่าวทำเอาผมต้องขำแห้งๆ

              "แล้วมึงจะมาร้อนแทนกูเพื่อ~" ผมแกล้งตอบกลับไปอย่างนั้น...ทั้งที่ความเป็นจริงก็ร้อนแทบตาย...แต่ในเมื่อผมหาวิธีที่ดีกว่านี้ไม่ได้...ก็คงต้องทนไปอย่างนี้...

              ระหว่างคาบแลปที่ดูวุ่นวาย...ทุกคนเดินไปมา(เพราะคุยกัน)ทำให้ในระหว่างคาบผมต้องโดนถามคำถามเดิมๆบ่อยมาก...พอท้ายๆคาบเรียนทุกคนก็เริ่มจับกลุ่มคุยกัน...โตะที่ผมนั่งอยู่ก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย...ตั้งแต่เรื่องจีบสาวไปจนถึงเรื่องการเมือง...ที่ทำให้ผมนั่งผังอย่างเงียบๆ...จนต้องฟุบหน้าลงบนโต๊ะอย่างเบื่อๆ...เพื่อนๆมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องนี้...หลายคนมีข้อมูลมายืนยันความไม่ดีของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร(ไม่ใช่โวลเดอร์มอร์นะครับ)...บางคนก็เอาข้อเสียของกลุ่มพันธมิตรขึ้นมาพูด....ผมฟังไปนอนไปก็เริ่มเคลิ้มๆจะหลับ....ก่อนที่จะมาสะดุ้งสุดตัวกับสัมผัสที่ไหล่

             ผมลุกขึ้นนั่งอย่างเร็วแล้วดันตัวออกห่างจากด้านที่ถูกสัมผัส....ความรู้สึกชั่ววินาทีที่ถูกแตะ...มันทำให้ผมนึกถึง...

              "เป็นไรไปว่ะเอ็ม...กูนึกว่ามึงฺหลับ" ไอป้องพูด...สีหน้าแสดงถึงความตกใจไม่น้อยไปกว่าผม

              "ป่าว...แค่ตกใจ" ผมตอบ...ร่งกายยังแข็งทื่อ...ความรู้สึกกลัวที่เกิดขึ้นในชั่วครู่กำลังทุเลาลง

              "ตกใจไรว่ะ...กูสิตกใจเลย...เล่นลุกขึ้นมาพรวดเดียว" ป้องยังบ่นต่อแต่ผมไม่สนใจแล้ว...ทนไม่ไหว...ไม่ชอบ...กลัว

              "ไม่มีไรหรอก...กูกลับแล้วดีกว่า...ฝากส่ง report ด้วยนะ" ผมยื่นรายงานแลปให้มัน...คว้าเป้มาสะพายแล้วเดินออกนอกห้องไป

              ผมรีบเดินออกจากห้องนั้น...ลงบันไดมาชั้นล่าง...ขาทั้งสองข้างก้าวเร็วเหมือนกับว่าผมไม่ได้เป็นคนบังคับ....ผมจะกลัวอะไร...แค่แตะ...ไม่ใช่มันสักหน่อย...ผมหยุดเดินก่อนจะทรุดตัวลงนั่งยองๆข้างทาง...แค่คิดถึงเรื่องนั้นมันก็ทำให้ผมอยากจะอ้วก...ความรู้สึกคลื่นเหียนทำให้ผมก้าวขาไม่ออก...ผมเลิกเสื้อแขนยาวขึ้น...มองรอยที่ข้อมือแล้วรู้สึกสะท้อนอยู่ในใจ...จางลงบ้างมั้ย?....เหมือนว่ามันจะเข้มขึ้น...แหงล่ะ...รอยช้ำก็เป็นอย่างนี้....ผมได้แต่บอกตัวเอง...ผมดึงแขนเสื้อปิดลง...แล้วถอนหายใจเหือกใหญ่ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วเดินต่อ....พอเดินไปสักพักผมถึงรู้สึกได้ว่าโทรศัพท์มือถือสั่น...

              "ห้องเอ็มเลิกแล้วเหรอ" เสียงทรายกรอกมาตามโทรศัพท์

              "อืม เลิกแล้ว" ผมตอบ

              "ห้ามกลับก่อนนะ....ห้ามๆๆๆๆๆ...ได้ยินมั้ย" ทรายพูด...ทำเอาผมหัวเราะ...เธอคงเป็นห่วงและก็คงมีอะไรจะคุยกับผมด้วย

              "อืม...ทรายเลิกยังอ่ะ"

              "เลิกแล้วๆ...คอยแปบ...แล้วนี่อยู่ไหนอ่ะ"

              "ร้าน XXX ซื้อน้ำปั่นอยู่...จะซื้ออะไรหรือป่าว...จะได้สั่งให้" ผมพูดไปเดินไปให้ถึงร้านที่ว่า...

              "บลูเบอร์รี่ปั่น...ไม่ใส่นมนะ" 

              "อืมๆ...แล้วเจอกัน" ผมตอบแล้ววางสายไป.....เฮ้อ......อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด...อย่างน้อย...ตอนนี้ผมก็ยังมีคนที่ยืนอยู่ข้างๆผม

              อีกสิบนาทีถัดมาทรายก็มาเจอผมที่ร้าน...เธอรับน้ำไปถือไว้แล้วบ่นเรื่องแลปให้ฟังบ้าง...ซึ่งผมก็ฟังอยู่เงียบๆไม่ได้ตอบอะไร...ฟังไปเรื่อยๆใจก็หวนคิดถึงอาการแปลกๆของตัวเองตอนที่ป้องมันมาแตะโดน...คิดไปเองมั้ง...ผมปลอบใจตัวเอง

              "เป็นไรไปเงียบเชียว" ทรายถามหลังจากเห็นผมเงียบไปนาน

              "ไม่นี่...สบายดี" ผมตอบแล้วดูดกาแฟปั่นในมือต่อ...แล้วทรายก็ไม่ได้ถามอะไรผมเลยเดินไปเรื่อยๆ

              "เอ้อ!!!!! ลืมเลย" ทรายร้องเสียงหลงทำเอาผมตกใจ

              "ลืมอะไร" ผมถาม

              "จักรยาน...จอดไว้ข้างแอล....กลับไปเอานะ" ทรายป้ำๆเป๋อๆทำเอาผมขำ...

              "ไปสิ...ดีนะไม่นึกออกตอนเดินถึงหอแล้วหน่ะ" ผมประชด

              พอเดินไปถึงที่จอดจักรยานผมเห็นแล้วก็ต้องเซ็ง...เมื่อจักรยานที่ปกติจะจอดเรียงเป็นระเบียบมันกลับล้มเป็นโดมิโนเละเทะไปหมด...คงมีใครทำล้มแล้วหนีไป...แล้วทำไมวันนี้คนจอดจักรยานถึงเยอะนักฟร่ะ...ผมได้แต่บ่นในใจ

              "คันไหนอ่ะ ทราย...บอกข่าวดีทีว่ามันไม่ได้โดนทับอยู่" ผมถามแซว

              "ข่าวร้ายแหะ...โดนทับอยู่อ่ะ" ทรายตอบแล้วเดินไปพยายามเขยือนจักรยาน...ซึ่งไม่เป็นผล

              "เด๋วเอ็มเลื่อนจักรยานคันอื่นให้แล้วค่อยถอยออกมาก็ได้..." ผมพูดแล้วดูงเสื้อผ้าให้สะดวกในการยกจักรยานที่ล้มทับกันไปหมด...ทรายพยักหน้าตอบรับแล้วเลื่อนจักรยานคันอื่นออกไปเพื่อง่ายต่อการปลดล็อกกุญแจ...ผมยกจักรยานไปสักสามคันก็เห็นว่าพอแล้วเลยเดินมาหาทรายที่นั่งปลดล็อกกุญแจอยู่เงียบๆ...เธอถอยจัรยานแล้วหันมาถามผม

              "เราขับให้ซ้อนมั้ยเอ็ม" ทรายพูดติดตลกผมเลยยกแฟ้มขึ้นตีหัวเธอเบาๆ

              "ไว้เป็นรถยนต์ก่อนแล้วค่อยพูดนะ..." ผมตอบแล้วก้าวขึ้นค่อมจักรยานแล้วทรายก็ซ้อนท้าย
     
              ผมปั่นไปตามทางช้าๆเพราะทางเดินมีคนเดินอยู่...ทรายนั่งเงียบๆอยู่ข้างหลังไม่ได้พูดว่าอะไร...ผมเลยขี่ไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงสะพานที่คนน้อยลงหน่อย...แต่ด้วยความที่ผมไม่ถนัดให้คนซ้อนเลยขับไปอย่างช้าๆ

              "เอ็ม" เสียงทรายเรียกดังขึ้นมาจากด้านหลัง

              "ถามอะไรหน่อยได้มั้ย" ทรายถามขึ้น...

              "อืม...จะถามไรอ่ะ" ผมตอบ...ในใจไม่ได้คิดอะไร

              "ข้อมือเอ็มไปโดนอะไรมา...ทั้งสองข้างเลย" คำถามทรายทำเอาผมตัวแข็งทื่อ...ไม่นึกว่าจะโดนถามคำถามนี้...เหลือบไปดูแขนเสื้อถึงรู้ตัวว่าตัวเองถลกขึ้นมาพับไว้อย่างลวกๆตอนยกจักรยานเพราะไม่สะดวก...กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้ดึงลง...พลันสายตาที่เหลือบไปมองที่แขนตัวเอง...ทำเอารถจักรยานเสียหลักเซไปวูบหนึ่งก่อนที่ผมจะรู้สึกตัวแล้วขับจักรยานไปต่ออย่างเงียบๆ...ด้วยความเครียดว่า...ผมจะตอบอะไรไปดี...เห็นอยู่ชัดๆขนาดนี้...รอยมัด...จะตอบว่าไร...เอ็มแค่มัดตัวเองเล่นๆเท่านั้น .....บ้าแน่ๆตอบไปอย่างนั้น...ความเงียบของผมกับทรายทำเอาน่าอึดอัด...จนกระทั่งถึงหน้าหอพักทรายก็ลงจากจักรยานแล้วเดินมาหาผม...ดึงมือผมไปแล้วแตะที่ร้อยช้ำแล้วรอยถลอกอย่างแผ่วเบา....แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาผม...ทรายไม่ถาม...เพราะถามไปแล้ว...จะไม่ถามซ้ำถ้าไม่อยากตอบ...ผมรู้ดี...ผมไม่ได้ดึงมือกลับ...รู้ว่าตัวเองที่แบกรับความรู้สึกนี้ไว้มันหนักหนาเกินไป...แต่จะบอกยังไง...ว่าโดนทำเรื่องน่าอัปยศ...บัดสี....บอกไม่ถูก

              "ก็..." ผมเริ่มแล้วก็หยุด...พูดไม่ออก....จำเป็นมั้ยที่จะต้องบอกทราย...ไม่บอกได้มั้ย...แต่ก็อยากให้มีคนเห็นใจ...เป็นทรายได้มั้ย...ที่จะมาเข้าใจเราในตอนนี้ว่ารู้สึกอย่างไร...เป็นทรายได้มั้นที่จะมาทำหน้าที่แทนอาร์ท...คนที่เข้าใจและพร้อมจะหาทางแก้ปัญหา

              "ก็แค่...ถูกทำให้สูญเสีบบางอย่างไปเท่านั้นแหละ...ไม่สำคัญนักหรอก" ผมตอบไป...ทรายคงเข้าใจ...เพราะดวงตาที่ทอดมองมาเจือความเศร้าและความเข้าใจ...ที่บอกว่าไม่สำคัญมันก็ไม่จริง...แต่ให้ทำไงได้...ร้องไห้คร่ำครวญว่าถูกคนขืนใจก็ใช่ที่...ตัวเราเองก็เป็นผู้ชาย

              "โธ่...เอ็ม" ทรายพูด...ผมมองหน้าเธอเห็นน้ำตาที่คลอ...ก่อนที่จะหยดผ่านดวงหน้าหวาน

              "อย่าร้องไห้เลยทราย...เอ็มไม่เป็นไรแล้ว...ตั้งสองวันแล้ว...เด๋วก็หาย....เอ็มไม่ใช่ผู้หญิง...มันไม่มีอะไรสำคัญหรอก" ผมพูด...พูดไปเจ็บไป...เจ็บจนจุก...ทำไมต้องเป็นเราที่โดนทำเรื่องแบบนี้...ผมเองก็ยังไม่เข้าใจ

              "มัน.....เกิดขึ้นได้ยังไง...ทราย...." ทรายหยุดร้องได้แล้ว...ผมรู้ดีว่าเธอกำลังคิดโทษตัวเองที่ไม่ได้ให้พี่ข้าวไปส่งผมถึงหอ...แต่ก็นั่นแหละคนที่ปฏิเสธหาเรื่องใส่ตัวก็คือผมเอง...ผมลงจากจักรยานล็อกกุญแจแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อนที่ปราศจากคน...ทรายเดินตามมาโดยไม่ถามอะไร

              "ทรายอย่าโทษตัวเองเลย...ถึงไม่ใช่วันนั้นเอ็มก็คงไม่รอดมันอยู่ดี...มันตั้งใจ...มันรู้จักเอ็ม...มันรู้ว่าเอ็มเคยกระทืบไอโรคจิตนั้น" ผมพูดขึ้นเบาๆ...ทรายเงยหน้าขึ้นฟัง

              "มันคงแก้แค้นเอ็ม" ผมพูด...รู้สึกเหมือนไม่ใช่ตัวเองที่ถูกกระทำ...พูดเหมือนเป็นคนอื่น...จะได้ไม่รู้สึกเจ็บแล้วเล่าต่อไปได้

              "มันมีสิทธิ์อะไรมาแก้แค้น...เอ็มไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย...เอ็มแค่ป้องกันตัว...ทำไม...ทำไมถึง..." ทรายพูดแล้วเงียบไป

              "ไม่รู้สิ...ในสายตาพวกมัน...เกย์คงเป็นคนชั้นต่ำที่พวกมันจะทำอะไรก็ได้....มันคิด...คิดว่าเอ็มขายตัว...จะนอนกับใครก็ไม่ต่างกัน...เหมือนไม่มีความรู้สึก" ผมเริ่มพูดอย่างตัดพ้อ...สมเพชตัวเอง....ทรายดึงมือผมไปกุมไว้...มือเล็กๆบอกให้รู้ว่าผมยังมีเธอที่รับฟังได้ทุกเรื่อง...

              "เอ็ม...ทรายเป็นห่วงเอ็ม...ตอนนี้ทรายช่วยอะไรเอ็มได้มั้ย...ช่วยให้เอ็มรู้สึกดีกว่านี้"ทรายพูดมือที่กุมอยู่สั่น

              "ตอนนี้...ที่ทรายนั่งอยู่ข้างๆตอนเอ็มทุกข์ใจ...ก็ช่วยเอ็มได้แล้ว" ผมตอบแล้วยิ้มให้ทราย
    ---------------------------------------------------
    รู้สึกผิดจังแหะ...
    ตอนแรกตั้งใจจะพิมพ์ให้จบ...
    แต่
    แวะไปอ่าน spoiled harry 7
    แต่ในที่สุดก็จบสักทีตอนนี้...อัพข้ามเดือน 555
    วันศุกร์สอบ...บรึ่ย
    ช่วยอวยพรกันด้วยนะ

    InLuSt

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×