ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    stop Love younger sister หยุดรักที่น้องสาว

    ลำดับตอนที่ #3 : กลายเป็นเย็นชา...

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ย. 65



       




    EP.2 : การเปลี่ยนแปลง
       "เอ่อ..."
    "ว้าว"
    "ดูดิๆ"
    "แหมยังไม่ทันไปก็ได้สาวแล้วหรอว่ะ"
    "ฮิ้วๆ"
       เพื่อนๆของผู้ชายคนนั้นพากันแซวเขากับซันจิที่โดนกอดเอวไว้แน่น และตอนนี้หน้าของซันจิเองก็แดงไปเพราะเพื่อนของเขาแซวจนซันจิแทบอายไป
    "เฮ้ย!! พวกแกหยุดเลย เห็นไหมว่าเธอกลัวแล้วน่ะ" 
    "เออๆ เห็นแล้วๆ"
    "เจ้าพวกนี้นี่...เอ่อ...คุณผู้หญิงครับ เป็นอะไรมากเปล่าครับ?"
    "เอ่อ..ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ"
    "ขอโทษด้วยนะครับที่ทำคุณตกใจและอับอายน่ะ"
    "ค่ะ ไม่เป็นไรแต่ว่า...เราจะยืนแบบนี้ตลอดเลยหรอค่ะเนี่ย" เธอพูดขึ้นมาเพราะว่าตอนนี้เธอถูกเขาจับกอดเอวเอาไว้จนไม่ปล่อยเลย
    "โอ้! ขอโทษครับคุณผู้หญิง" 
    "ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ" เขาปล่อยเอวเธอก่อนจะยืนในท่าปกติ
    "ผมขอโทษจริงๆ คุณคงไม่เป็นอะไรหรอกนะครับ?"
    "ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ที่จริงฉันตั้องขอบคุณมากกว่าค่ะ ถ้าคุณไม่กอดฉันเอาไว้ฉันคงตกไปแล้วค่ะ"
    "ครับคุณ..."
    "ผู้โดยสารที่กำลังเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น กรุณามารอขึ้นเครื่องได้..."
    "เอ่อ...ฉันจะต้องขอตัวก่อนนะคะ แล้วก็ขอบคุณอีกครั้งนะคะ"
    "เอ่อ...ครับ" เธอที่เดินจากไปโดยที่เขาจ้องมองเธออย่างอึ้งทึ่งไป
    "เฮ้ยๆ อย่ามั่วมองดิ"
    "จีบเลยๆ"
    "ฮ่าๆ"
    "น่ารำคาญจริงๆเลยพวกนายเนี่ย...ฉันไปล่ะ"
    "โชคดีเว้ย"
    "เจอกันนะเพื่อน ฮ่าๆ"
    "เออ เจ้าพวกทึ่มเอ้ย"





       บนเครื่องบินผู้คนพากันวุ่นวายเก็บสัมภาระของตนกันใหญ่และพาพูดคุยกันอย่างสนุกสนานแต่ว่า...กับอีกคนที่นั่งอย่างไม่ค่อยมีความสุขมากสักเท่าไรนัก
    "เห้อ...ทุกคน...เอส..." เธอนึกภาพของทุกคนและคนรักมันเป็นสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดและเธอไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงมันอดที่น้ำตาจะไหลออกมาไม่ได้จริงๆ
    "คุณผู้หญิงครับร้องไห้แบบนั้นเดี๋ยวเครื่องสำอางที่อยู่ที่ใบหน้าสวยๆ ก็หลุดออกมาหมด และจะไม่สวยเอานะ"
    "หืม?" เธอหันไปมองเจ้าของเสียงนั่น
    "ไงครับ" เมื่อมองไปก็ได้เจอกับชายที่ช่วยเธอเอาไว้
    "อ้าว คุณนั่นเองคิดว่าใครซะอีก"
    "ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะครับ แต่ว่าทำไมถึงร้องไห้ล่ะครับ?"
    "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คือว่าสงสัยคอนแทคหลุดมั้งค่ะ ฮ่าๆ"
    "แย่เลย ถ้าอย่างงั้นไม่ไปเข้าห้องน้ำล้างตาเอาคอนแทคก่อนไหมครับ"
    "ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ….แต่ถ้าคุณคิดแบบนั้นเดี๋ยวฉันขอตัวก่อนนะคะ"
    "เชิญเลยครับ"ซันจิส่งยิ้มให้ชายคนนั้นก่อนเดินตรงไปที่ห้องน้ำ 
       ซันจิที่อยู่ในห้องน้ำมองไปที่กระจกก่อนจะเริ่มเปิดน้ำเพื่อล้างใบหน้าที่มีแต่น้ำตา และใช้ทิชชู่เช็ดไปที่ใบหน้า เธอมองตัวเองก่อนสักพักใหญ่...
    "ฮ่าๆ ยัยบื้อ"
     เฮือก!!!
       ซันจิตกใจกับเสียงที่มันดังเข้ามาในหัว และภาพหลอนพวกนั้นก็ค่อยๆสะท้อนในกระจก เป็นที่คล้ายกับปีศาจที่น่ากลัว เงาของปีศาจพวกนั้น ทั้งมืดและดำไม่มีแม้แสงสว่าง มันคือสิ่งที่ตามหลอกหลอนซันจิไม่เคยเลิกลาไป...
    "เห้อ...พอสักทีเถอะนะ ไอ้ของแบบนั้นทำไมฉันจะต้องกลัวด้วย พวกมันก็แค่...สัตว์ชั้นต่ำก็เท่านั้นไม่เห็นต้องกลัวเลย"  ซันจิพูดเพื่อปลอบใจตัวเอง...แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเธอยิ่งพูดก็ยิ่งเห็นเจ้าพวกนั้นชัดขึ้นๆ และเรื่อยๆ
        ก็อกๆ
    "หืม?!" ก่อนที่สติของเธอจะเลอะเลือนไปมากกว่านี้ ก็มีเสียงเคาะประตูจากด้านนอก
    "คุณผู้หญิงค่ะ เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ" เป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งเรียกเธอจากด้านใน
    "มะ...ไม่เป็นไรค่ะ...เอ่อ...คือ แค่คุยโทรศัพท์เสียงดังไปหน่อยน่ะค่ะ"
    "อ่อ นั้นก็ถ้าคุยเสร็จแล้วก็กรุณาออกมาด้วยนะคะ เพราะเครื่องกำลังจะขึ้นแล้วค่ะ"
    "ค่ะ ขอบคุณค่ะ" ซันจิขานตเอบกลับ 'นี่ฉันเป็นอะไรไปนะ หรือคิดถึงเรื่องนั้นมากไป...ไม่น่ะ อย่าไปกลัวก็แค่เจอกันเองแล้วแถมเราจะต้องทำให้พวกเขาเลิกคิดเรื่องไร้สาระให้ได้เลย!!!'
       ซันจิเดินตรงไปที่นั่ง แต่เมื่อเดินออกมาก็เจอผู้ชายที่นั่งข้างเธอหลับไปแล้ว เธอเห็นแบบนั้นก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ เธอคงคิดว่าผู้ชายอะไรกัน ทั้งสุภาพ และกิริยามารยาทดีแบบนี้ แถมสวมชุดของทหารเสียอีก คิดว่าทหารจะน่ากลัว แต่พอเจอแบบนี้เข้า ชายคนนั้นก็หลับอย่างกับเด็กไป เพราะใบหน้าที่ดูหล่อเอาการของเขาจึงทำให้สาวอย่างเธออดที่จะยิ้มไมได้
    "หลับแล้วหรอเนี่ย" ซันจิเข้าไปที่นั่งของตนและมองไปที่หน้าต่างจากที่ทัองฟ้าสว่างกลับมืดครึ้มไป "เราเข้าไปในนั้นนานไปมากมั้งเนี่ยท้องฟ้ามืดแล้ว" ซันจิหันหน้ามองไปที่ชายคนนั้น ที่หลับไม่รู้เรื่องอะไร ก่อนที่ตัวเองนั้นจะหลับตามไป..





       "ไม่ว่าแกจะไปอยู่ไหน...ฉันก็จะตามหาแกให้เจอ" เสียงของชายในเงาดำพูดขึ้นมา
    "ใครกันที่พูดน่ะ ใคร ทำไมทุกอย่าดูมืดไปมอง...แล้วนั้นเงาใครกัน"
    "หึๆ"
    "หือ?!" ซันจิหันไปมองเจ้าของเงาที่อยู่ด้านหน้าของซันจิ "ห๊า...อ๊ะ...อร้าย" ดูเหมือนซันจิตกใจกับเงาที่อยู่ข้างหน้า เพราะมันเป็นเงาของคนที่ซันจิคุ้นตามากที่สุด
    "รู้ไหม?...ฉันน่ะ รอเธอมาแสนนานมาก ตลอดมาฉันอยากเจอเธอ น้องสาวที่รักของฉัน..." เสียงของชายคนนั้นเริ่มก้าวเท้าเดินมาหาซันจิ...แต่ชายคนนั้นเรียกเธอว่า....น้องสาว หรือว่าชายคนนนั้นจะเป็น...
    "เงานั้น...นายเป็นใครกันฉันไม่รู้หรอกนะ...แต่ว่าฉันขอร้องล่ะ ออกมาจากเงานั้นได้ไหม?" ซันจิลุกขึ้นมาพยายามมองคนในเงามืด
    "ทำไมล่ะ เธอไม่ชอบหรอมันเป็นเงาที่งามมากและแถมความมืดมิดนี้แหละที่ทำให้ฉันมีตัวตน"
    "ฉันไม่ชอบและแถมนายบอกว่าคือพี่ฉัน และถ้าเป็นพี่ฉันล่ะก็...แล้วนายคือใครกัน?"
    "ชอบถามอะไรซ้ำๆเดิมๆ ทั้งๆที่บอกว่าฉันเป็นพี่แต่กลับถามว่าฉันคือใคร?" เขาเริ่มเข้าใกล้ซันจิทุกก้าว 
    "อะ...คือนายเลิกเดินก่อนได้ไหมเราจะได้คุยกันนะ แต่แค่ไม่ต้องเข้ามาใกล้" ซันจิเจรจากับเขาให้อย่างเข้าใจ
    "ทำไมต้องหยุด ส่วนตัวเธอก็ไม่จำเป็นต้องลุกขึ้นมาอีกก็ได้นี่ หึๆ เพราะว่า..."
    "หือ?!...อะ...ทำอะไรของนายเนี่ย...อร้าย"
     ปัก!!
       "เอ๊ะ?!"
    "ชอบใช่ไหมล่ะ" เธอโดนเขาผลักลงไปที่พื้นจนเสียงดัง ร่างกายของซันจิโดนเขาคร่อมเอาไว้
    "นี่นาย...."
    ฟึบ
       "อะ?!" 
    "อย่าหวังว่าจะหลุดออกไป" แต่ซันจิโดนเขาจับมือทั้งสองข้างได้และไว้เหนือหัวของเธอ
    "นายจะทำบ้าอะไรเนี่ย ปล่อยนะๆ ปล่อย" ซันจิดิ้นสุดแรง แต่ดูเหมือนมันไม่มีผลกับเขาเลยแม้แต่น้อย
    "อย่าดิ้น ต่อจากนี้เธอจะเป็นของฉันตลอดไป..."
    "หมายความว่าไง"
    "หึ"
    วืด!!
       "หือ?!"
       เงามืดที่ซันจิเคยเห็นเริ่มจางไปจากตัวเขา ซันจิพยายามจะมองแม้เเสงจะแรงมากก็ตาม
       เฮือก!!
      และแล้วสิ่งที่เธอเห็นจนตาต้องโต ก็เป็นภาพของชายเจ้าของเรือนผมสีแดงที่ร้อนแรงดั่งไฟที่ถูกเผาไหม้ไปทั่ว กลับรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์มองไปที่ซันจิ
    "อะ...อะ"
    "ไงน้องสาวคนสวยของฉัน...ซันจิ"
    "อะ...อะ..อิชิจิ..."
       "เฮ้อ!!!" ซันจิสดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างแรงและถอนหายใจแรงมากเหงื่อก็เต็มตัว ซันจิใช้มือทั้ง 2 ข้างจับไปที่หน้าตัวเองและพยายามตั้งสติตัวเองกับเรื่องที่เธอเจอมา "ให้ตายสิ ฝันงั้นหรอ แฮ่กๆ" ซันจิหอบมาก ก่อนที่จะเอาหัวขึ้นมามองข้างบนและหลับตาลงไป
       "อะแฮ่มๆ นี่คือเสียงของกัปตันคุณพูดตอนนี้เราได้มาถึงประเทศญี่ปุ่นแล้วขอให้ทุกท่านเตรียมตัวไว้ ก่อนที่เครื่องจะลงนะครับ"
    "ถึงแล้วหรอ? ยัง...ไม่พร้อมที่จะเจอเลย"





       อีกด้านหนึ่งที่ประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน คาฤหาสน์ใหญ่โตแห่งหนึ่งเมื่อมองเข้าไปในนั้นก็เต็มไปด้วนยความหรูหราอลังการแต่ว่า...เมื่อลงไปที่ชั้นใต้ดินของคาฤหาสน์จะพบกับโรงฝึกของพวกเหล่ามาเฟียฝึกกัน
       "ฝึกอีกเรื่อยๆ เป็นมาเฟียก็ต้องฝึกแบบนี้แหละ ฮ่าๆ" เสียงหัวเราะอันร้ายกาจของชายเรือนผมสีเขียวที่มองดูลูกน้องฝึก
    "เอ่อ..นายน้อยครับพวกเรายังอยู่ช่วงพักไม่ใช่หรอครับท่าน" มาเฟียใจกล้าคนหนึ่งพูดขึ้นกับชายที่สั่งการ
    "อย่ามาพูดอะไรแบบนี้สิ เป็นมาเฟียแท้ๆก็ต้องฝึกแบบนี้แหละ" ชายคนนั้นตอบกลับ
    "แต่นายน้อยเองก็เอาแต่สั่งเรา ทำไมนายน้อยถึงไม่ลองมาฝึกบ้างล่ะครับ" แต่มาเฟียคนนั้นก็เรียกให้มาฝึกด้วย โดยไม่กลัวชายคนนั้นแม้แต่นิดเลย
    "อะ....เจ้าบ้านายพูดอะไรของนายน่ะ"
    "เจ้านี้มันบ้าไปแล้ว" ทุกคนพากันตกใจความกล้าของมาเฟียคนนี้
    "...."มาเฟียคนนี้มองไปที่ชายคนนั้นด้วยใบหน้าที่มุ่งมั่น
    "...."เหมือนกลับชายคนนั้นที่มองมาเฟียโดยไม่เอ่ยปากพูดสักคำ
    "นายน้อยครับ..."ชายอีกคนพูดขึ้น
    "...." ทั้งคู่จ้องตากันโดยไม่มีใครเอ่ยปากขึ้น แต่ชายที่สั่งการนั้นหลับตาลงไปและไม่พูดอะไรทั้งสิ้น
    "เตรียมตัว"
    "หือ?!"
      ผัวะ
       "อ๊ะ...อ๊าก" แต่ไม่ทันที่มาเฟียคนนี้จะเริ่มก็โดนชายคนนั้นเข้ามาต่อยอย่างจังโดยเร็วมากจนแถบมองไม่ทัน
    "...." มาเฟียคนอื่นที่เห็นก็พากันอำอึ้งไป เมื่อเห็นแรงต่อยของเขา จนทำให้มาเฟียคนนั้นกระเด็นไปไกลจนกำแพงทะลุไปอีกฟาก
    "นั้นน่ะหรอ"
    "อือ"
    "แรงต่อยของนายน้อยนี่สุดยอดจริงๆ"
    "สุดๆอ่ะ"
    "สงสารหมอนั้นแฮะ"
    "หมอนั้นทำตัวเองนะ อย่าไปใส่ใจ" เสียงของผู้คนพากันเม้าส์ใหญ่
    "หืม!"
    "เหว่อ"
    "ฮ่าๆ สนุกเป็นบ้าเลยเฟร้ย ฮ่าๆ" ชายคนนั้นหัวเราะด้วยความสะใจทุกคนที่มองเขาและด้วยความกลัวอีกต่างหาก คนอะไรต่อยคนจนทะลุกำแพงไปอีกฟาก "เอาล่ะ...ใครจะเป็นรายต่อไปกันนะ"
    "ห๊า!" ทุกคนต่างตกใจเมื่อชายคนนั้นต้องการอีก
    "ตะ...ตายแน่ๆ"
    "ไม่เหลืออะไรแน่เรา"
    "ตายอย่างเดียว"
    "นายน้อยครับ!!" 
    "ห๊า" แต่แล้วเสียงของชายที่สวมชุดสูทอย่างดีตะโกนเรียก
    "ถึงเวลาแล้วครับ นายน้อย"
    "อะไรกันถึงเวลาแล้วหรอ"
    "ครับ นายท่านสั่งให้กระผมมาตามนายน้อยครับ เพื่อเตรียมตัวไปมหาลัยครับ"
    "เออรู้แล้วน่ะ ก็เอาเป็นว่าฝึกกันแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ"
    "ครับนายน้อย!!" พวกมาเฟียขานกลับ
    "เออ...ปะไปกันเถอะมาคุ"
    "ครับนายน้อย"
    "อะไรกันมาตามอะไรกันตอนนี้น่ะหืม.."
    "ก็เพราะว่าเห็นนายน้อยฝึกอยู่กระผมจึงไม่อยากเข้าไปห้าม"
    "เป็นอย่างงั้นเองหรอกเหรอ แต่ก็ดีแล้วล่ะ ทำดีมากมาคุ"
    "ขอบคุณครับนายน้อย"
    "นั้นฉันขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อก่อนล่ะ"
    "ครับนายน้อย งั้นกระผมจะไปเอารถรอนะครับ" ชายคนนั้นเดินไปที่ห้องของตนเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวไปมหาลัย
       เมื่อทำธุระส่วนตัวของตนเสร็จชายคนนั้นก็ลงมาจากห้องและเดินตรงไปที่อีกห้องหนึ่ง แต่หัองนั้นมันมืด แต่ก็พอมีแสงสว่างพอที่จะเห็นภายในห้อง
    "ไง ยนจิ จะไปแล้วหรอ" เสียงของชายที่อยู่ในห้องพูดขึ้น
    "ครับท่านพ่อ"
    "อือ ไปเรียนก็ทำตัวดีล่ะไม่ใช่ไปก่อกวน นั้นก็เป็นอีกเหตุผลและกฎของการเป็นมาเฟียเข้าใจไหมยนจิ"
    "ครับท่านพ่อ"
    "ไปเรียนซะ"
    "ขอตัวครับ" 
    ปึง
       ยนจิปิดประตูห้องและเดินตรงไปที่ประตูคฤหาสน์แต่ตอนเดินไปก็จะเจอกลุ่มแม่บ้านและพวกบอดี้การด์และมาเฟียคอยก้มหัวและอวยพร และรถลีมูซีนก็มาจอดตรงหน้ายนจิ และคนขับก็มาเปิดประตูให้กับยนจิ ก่อนที่เขาจะขึ้นไปนั่ง
       ระหว่างทางที่ยนจินั่งอยู่ก็ดูท่าทางยนจิจะเบื่ออย่างแรงจนไม่รู้จะทำอะไรนอกจากจะเอาตัวลงไปนอนที่เบาะของรถ และเปิดเพลงขึ้นมา และเล่นโทรศัพท์ไป
       "นายน้อยครับ" มาคุเรียกยนจิ
    "หือ? อะไรหรอมาคุ"
    "นายน้อยรู้ข่าวยังครับ"
    "ข่าว? ข่าวอะไรกันน่ะ" ยนจิถาม
    "ก็ข่าวที่คุณหนูที่ไม่ได้เจอกันมาตั้ง 10ปีกว่าไงครับ"
    "อ่อ พี่สาวสุดบื้อของฉันน่ะหรอ"
    "สุดบื้อหรอครับ?"
    "มันเป็นฉายาที่ฉันตั้งให้น่ะ"
    "นั้นหรอครับ มันดูเสียมารยาทไปนะครับ"
    "ช่างเหอะ จะเรียกยัยนั้นอย่างไงก็เรียกไป"
    "ครับคุณหนู แต่ทีจริงกระผมอยากจะบอกว่าวันนี้คุณหนูจะกลับมาแล้วนะครับ"
    "...."
    "นายน้อยครับ นายน้อยครับ"
    "...."
    "นายน้อย..."
    "เออรู้แล้ว ฉันรู้แล้วน่ะ นั้นหรอ ยัยนั้นกลับมาแล้วนั้นหรอ น่าสนุกจริงๆ"
    "หืม? อะไรนะครับคุณหนู"
    "เปล่าหรอก ไม่มีอะไร"
    "งั้นหรอครับ"
    "เออ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ฉันก็แค่กำลังมีความสุขเท่านั้นเองหึๆ"
    'ข้อความอีเมลกำลังถูกส่งไป'
    "หึๆ เรื่องสนุกกำลังเกิดขึ้นแล้ว"
     ติง
       ข้อความทั้ง 2 ที่ยนจิส่ง ก็ได้ถูกส่งไป ณ บริษัทแห่งหนึ่ง และข้อความนั้นก็ถูกชายที่นั่งโซฟาเปิดอ่านขึ้นมา และก็ถูกส่งให้อีกคน ซึ่งอยู่ห้องเดียวกัน แต่รู้สึกว่า อีกคนจะทำงานอยู่หรือข้อความยังส่งมาไม่ถึงกันนะ
       "หืม?" เสียงของชายที่อยู่ในบริษัทใหญ่นั่งทำเอกสารอยู่ได้มองไปที่โทรศัพท์
    "นายได้แล้วใช่ไหม" เสียงของชายเจ้าของเรือนผมสีฟ้าที่นั่งอยู่โซฟาได้ส่งยิ้มมาให้กับเขา
    "อะไร?"
    "ก็...ข้อความจากเจ้ายนจิน่ะสิ หึๆ"
    "อะไรล่ะนั้น"
    "ก็ลองเปิดดูเองสิพี่ชาย" เขาทำตามชายคนนั้นและเปิดข้อความ แต่พออ่านไปสักพัก ตัวเขาก็เริ่มแสยะยิ้มอันเจ้าเล่ห์ออกมา 
    "มาแล้วนั้นหรอ หึๆ"
    "ก็นั้นสิยัยนั้นจะเป็นไงบ้างชักจะเริ่มสนุกแล้วสิ แค่คิดก็อยากจะซัดหน้าคนแล้ว หึๆ"
    "หึ ใจเย็นๆก่อน...นิจิ" เขาเรียกชื่อของชายคนนั้น
    "เออ ฉันใจเย็นสุดเลยล่ะหึๆ" นิจิหัวเราะอย่างร้ายกาจ "ว่าแต่นายเองก็เหอะจะหักห้ามใจได้หรือเปล่า ที่จะไม่ทำอะไรยัยนั้นเหมือนเมื่อก่อนน่ะ"
    "หึ ตอนนั้นพวกเราแค่15 เองนะนิจิ ที่ฉันทำยัยนั้นก็เพราะว่ายัยนั้นน่ะเป็นสิ่งที่ผิดพลาดของตระกูลและก็ในบ้างครั้งยัยนั้นก็เป็น.."
    "เป็น?"
    "เป็น...ของ...เล่น น่ะสิ หึๆ"
    "ขนาดนั้นเชียว"
    "ก็แหม มันเป็นเรื่องจริงทั้งหมดนี่ หึๆ และแถมฉันก็คิดแผนที่จะทำอะไรสนุกๆกับยัยนั้นแล้วด้วยสิ"
    "กะแล้วเชียว สมกับเป็นจอมวางแผนของตระกูลจริงๆ อิชิจิ"
    "หึๆของแบบนี้ก็แน่อยู่แล้วล่ะ อะไรที่ฉันต้องการก็ขึ้นอยู่กับแผนทั้งหมดของฉัน และสิ่งที่ต้องการก็จะมาเอง หึๆ"
       เสียงหัวเราะอันร้ายกาจของคนลูกชายคนโตของตระกูลวินสโม๊ค ชายผู้ที่วางแผนได้เก่ง ไม่เคยทำให้ตะกูลผิดหวังและยังเป็นนักธุรกิจชื่อดัง แต่การเป็นนักธุรกิจของเขาก็ปิดบังความเป็นชายเจ้าเล่ห์ทุกอย่างได้ และแล้วสิ่งที่เขารอมานานแสนนานก็กำลังกลับมาหาเขาอีกครั้ง....




       "เห้อ...ประเทศนี้กับที่ฝรั่งเศสเวลาแตกต่างมากสินะ" ซันจิที่ลงมาจากเครื่องก็มองท้องฟ้าที่สว่างจ่ามาก
    "ก็นั้นสินะครับที่นี้เวลาไม่เหมือนกัน"
    "ก็นั้นสิค่ะ....แต่คุณ...มาจากไหนเนี่ย"
    "เอ๋"
    "ก็คุณไล่ตามฉันมาตลอดนี่ค่ะ ตั้งแต่เราเจอกันและแยกกันไปพอขึ้นเครื่องก็อยู่ที่นั่งเดียวกันอีกและอีกอย่างคุณก็เอาแต่อยู่กับฉันตลอดแบบนี้มันต้องมีสาเหตุแน่นอน" ซันจิมองไปที่ชายคนนั้นก่อนจะยิ้มมุมปากออกมา
    "ก็...ก็..." แต่ดูเหมือนเขาจะพูดขัดๆซะแล้ว หรือแผนแตกกันนะ
    "ก็?" ซันก็พยายามเอาความจริงจากเขาให้ได้
    "ก็เพราะว่าผมเป็นทหารและทหารเอง ก็มีหน้าทีดูแลประชาชนอย่างเช่นคุณเป็นตน" ดูเหมือนเขาจะแก้ตัวทันแฮะ
    "อย่างนั้นเองหรอค่ะ ฮ่า"
    "ก็นะ...ครับ"
    "ฮ่าๆ แต่ก็เหอะนะไม่จำเป็นแล้วล่ะค่ะ เพราะเดี๋ยวจะมีคนมารับฉันแล้ว"
    "อ้าวอย่างงั้นเองหรอครับ"
    "ค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ"
    "เอ่อ...คือ...มะ....มะ...ไม่จำเป็นหรอกครับ ที่ต้องขอโทษผมเองก็ผิดเหมือนกันแหละ"
    "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเองก็ผิด แต่ดูเหมือนหน้าที่ของคุณที่คุ้มครองฉันใกล้จบแล้วนะค่ะ"
    "ก็น่าจะใกล้จบแล้วล่ะครับ"
    "ถ้างั้น ก่อนที่มันจะจบเราเข้าไปข้างในสนามบินก่อนไหมค่ะ จะได้คุยกันได้น่ะค่ะ...แต่ขอฉันคุยโทรศัพท์แปปนะคะ”
    "ได้ครับ เชิญเลยผมจะเดินตามหลัง คุยเสร็จเมื่อไหร่บอกผมได้ครับ"
    "ค่ะ ได้เลยค่ะ" 
    "อ๊ะ.." แต่ดูเหมือนว่ารอยยิ้มของซันจิจะทำให้เขาทึ่งไป จนหน้าของเขาเหว่อไป รวมไปทั้งหน้าที่แดงไปด้วย
    "อือ...ฉันมาถึงแล้วล่ะ...เอ๋...คนมารับแล้วหรอ....อือ...."
    'อะไรกัน ไอ้ความรู้สึกเมื่อกี้ มันแค่รอยยิ้มจากหญิงสาวเฉยๆ ไม่ใช่หรือไงฟร่ะ'เขาพูดในใจ
    "อือ...เอ่อ...คุณ...คุณค่ะ..."
    'รอยยิ้ม...รอยยิ้ม...รอยยิ้ม'
    "คุณ...คุณ...คุณ"
    'ให้ตายสินึกภาพตอนเธอยิ้มแล้วอดใจที่ยิ้มตามไม่ได้เลย'
    "คุณ...คุณ...คุณค่ะ!!"
    "อะ!...หือ?" สติของเขากลับมาจนได้ กลับมาจากความเพ้อฝัน
    "เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ?"
    "อะ...อ่อ...ไม่เป็นไรครับ นั้นเราเดินไปกันเถอะ"
    "คือว่า...ฉันจะบอกว่า..."
    "...."
    "คนขับรถมารับฉันแล้วน่ะค่ะ"
    "เอ๋!"
    "ขอโทษนะค่ะ ที่บอกช้าไป"
    "มะ...ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่เป็นไรแต่อย่างน้อยผมขอเดินไปส่งคุณก็ได้นะครับ"
    "เอ่อ...ก็ได้ค่ะ เดินไปด้วยกันนะค่ะ"
    "ครับ" 
       ทั้งคู่เดินไปด้วยกัน แม้จะเป็นการเดินทางระยะสั้น...แต่เหมือนทั้งคู่จะทำความรู้จักกันนานมาก แม้กับเขาไม่ว่าจะอ้างหรือไม่แต่อีท่าทีกับความคิดเพ้อนั้นก็เดาออกแล้วว่าอยากอยู่ด้วยน่ะ
       "มันขนาดนั้นเลยหรอครับ"
    "ค่ะ...ก็ประมาณนั้นแหละค่ะ"
    "ท่าทางน่ากลัวไม่เบาเลยนะครับ"
    "ค่ะ ฮ่าๆ...อะ...เอ่อคือว่า"
    "ไม่ต้องพูดหรอกครับ ผมรู้ว่ามันถึงเวลาแล้วที่ผมต้องไปและคุณก็ด้วย"
    "ค่ะ แต่ก็ขอให้คุณโชคดีนะค่ะ ขอบคุณตลอดการเดินทางที่อยู่ด้วยกัน มันสนุกมากเลยค่ะ"
    "ผมเองก็เหมือนกันครับ ขอบคุณจริงๆครับ"
    "ค่ะ ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนนะค่ะ"
    "ครับและไว้เจอกันใหม่"
    "ค่ะ ไปล่ะค่ะ บาย"
    "ครับ...คุณ...ผู้หญิง..."
       ซันจิเดินไปอีกทางที่ต่างกับเขาและเดินจากไป เขาที่ลาจากเธอไป แต่เขากลับมองซันที่เดินจากไปอย่างไม่กระพิบตา ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไปอีกทางหนึ่งเช่นเดียวกัน...





       ซันจิเดินเข้าไปที่ลานจอดรถ และมองหาใครบ้างคนอยู่อย่างร้อนรนใจเป็นอย่างมาก เพราะคงคิดในใจว่าคนที่มารับเธอต้องไม่ใช่บอดี้การ์ดอย่างแน่นอน แต่ว่า....
       "คุณหนูซันจิค่ะ!!"
    "หือ...เอ๋?" แต่ว่าเธอคงคิดมากไปหน่อย คนที่มารับเธอเป็นผู้หญิงที่ผมสีส้มและมัดอย่างเรียบร้อยและอยู่ในชุดสูทหรือว่าชุดฟอร์มสีดำกระโปร่งสั้น
    "คุณซันจิค่ะ ยินดีต้อนรับกลับสู่ประเทศญี่ปุ่นค่ะ" ผู้หญิงในชุดสูทก้มตัวและต้อนรับซันจิอย่างเป็นทางการ
    "ไม่เป็นไรหรอกนะ ไม่ต้องก้ม"
    "ค่ะ คุณหนู"
    "อือ"ซันจิยิ้มให้เธอ
    "โอ้!...จริงด้วยยังไม่ได้แนะนำตัวเลย"
    "หืม?...แนะนำตัว?" ซันจิขมวดคิ้วก่อนทำหน้าสงสัย
    "ก็มันเป็นหน้าที่น่ะค่ะที่ต้องแนะนำตัวต่อหน้าแขกที่มา"
    "อ่อ! อย่างงั้นเอง"
    "ค่ะ...นั้นก็ ขอแนะตัวก่อนนะคะ ดิฉันชื่อว่า นามิค่ะ ต่อจากนี้ดิฉันจะเป็นบอดี้การด์ส่วนตัวโดยเฉพาะของคุณหนูค่ะ"
    "ส่วนตัว?"
    "ค่ะ ส่วนตัวเท่านั้นค่ะ"
    "อ่อ...ว่าแต่...ใครเป็นคนส่งเธอมากันน่ะ มาเป็นบอดี้การ์ดฉันน่ะ" ซันจิถาม
    "ก็คุณเรจูค่ะ"
    "เรจู....นั้นหรอ ฮ่า"
    "มีอะไรหรือเปล่าค่ะ"
    "เปล่าหรอก"
    "นั้นขออนุญาติเอากระเป๋าไปไว้หลังรถนะค่ะ"
    "ขอบใจจ้า"
    "ด้วยความยินดีอย่างยิ่งเลยค่ะ"
    "จ้าๆ ฮ่า" เธอหัวเราะหน่อยๆ...แต่พอนึกถึงเรจู พี่สาวคนเดียวที่เข้าใจ ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ เพราะจะได้เจอกับพี่สุดที่รักของซันจิ
    "เชิญ ขึ้นรถเลยค่ะ" นามิเปิดรถให้ซันจิ
    "จ้า" ซันจิส่งยิ้มก่อนที่จะขึ้นรถไป และสุดท้ายรถก็ขับออกไปจากสนามบิน
       ระหว่างที่รถที่ซันจินั่งอยู่ากำลังขับไปเรื่อยๆซันจิเองก็ก้มมองไปที่โทรศัพท์แต่ซันจิดันลืมเปลี่ยนวอลล์เปเปอร์หน้าจอ มันก็เลยขึ้นมาเป็นรูปของเอส แฟนคนเดียวที่เธอเคยคิดเรื่องในอนาคตด้วยกัน
       หลังจากเซันจิเปลี่ยนวอลล์เปเปอร์ น้ำตามันก็เริ่มไหลมาอีกครั้ง แต่ซันจิก็พยายามเช็ดแต่ดูเหมือนยิ่งเช็ด มันก็ยิ่งไหลเท่านั้น 
       "เอ่อ...คุณหนูจะรับทิชชูไหมค่ะ"
    "อะไรนะ"
    "ก็คุณหนูร้องไห้นี่ค่ะ...ฉันก็เลยคิดว่าถ้าใช้มือคงไม่ดี เลยถามน่ะค่ะ"
    "นั้นหรอ...แต่ก็ขอบคุณนะ"
    "ด้วยความยีนดีค่ะ...แต่ว่า...คุณหนูร้องไห้แบบนี้...แปลว่าคิดถึงครอบครัวแน่ๆเลยค่ะ...เดี๋ยวเราก็ใกล้ถึงแล้วค่ะ ไม่ต้องห่วง"
    "ใกล้แล้วหรอ"
    "ค่ะ อีกแค่ไม่กี่นาทีก็ถึงแล้วค่ะ"
    "อือ จ้ะ ขอบคุณ" แต่หลังจากที่นามิพูด ซันจิเลิกร้องไห้ไป ใบหน้าของซันจิเปลี่ยนไปกลายเป็นความเย็นชาไปทันใด
    'นั้นสินะ เดี๋ยวเราก็ต้องเจอพวกนั้นแล้วสิ ตอนนี้เราต้องห้ามให้ใครเห็นว่าเราอ่อนแอหรือร้องไห้ไปเด็ดขาด เพราะไม่รู้ว่าเจ้าพวกนั้นจะมาไม้ไหนกันแน่ เพราะฉะนั้นเราต้องเข้มแข็งขึ้นอีก ขอแค่เพิ่มอีกนิดเท่านั้น ก็เอาชนะเจ้าพวกนั้นได้' ซันจิพูดในใจ
    "คุณหนูค่ะ"
    "...."
    "คุณหนูค่ะ"
    "...."
    "เอ่อ...คุณหนูค่ะ"
    "เอ่อ...จ้ะนามิจัง"
    "เรามาถึงคฤหาสน์ตระกูลวินสโม๊คแล้วค่ะ"
    "อ่อ ฮ่าๆถึงแล้วสินะ"
    "เดี๋ยวรอให้คนมาเปิดประตูก่อนนะคะ"
    "จ้ะ ฉันรอได้" 'เพราะฉันเองก็ยังไม่พร้อมที่จะ...อ๊ะ!...ไม่ได้สิ เราบอกกับตัวเองแล้วนี่ ว่าไม่กลัวเจ้าพวกนั้นและที่เรามาก็มีเหตุผลด้วย เราจะต้องทำให้เขาเห็นว่าใครกันแน่...คือผู้ชนะ...'
       ดูเหมือนซันจิในตอนนี้จะเปลี่ยนไปทันทีจากสายตาของสาวน้อยที่ไม่มีความมั่นใจและอ่อนแอ แต่เพียงแค่มองคฤหาสน์นั้น เท่านั้นสายตาของซันจิแปลเปลี่ยนไปกลายเป็นสายตาอันเย็นชาไปทันใด เพราะไม่รู้จากนี้ซันจิคงจะต้องเจอเรื่องราวอะไรมากมายเป็นอย่างแน่นอน...

     





     
     
    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×