ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    stop Love younger sister หยุดรักที่น้องสาว

    ลำดับตอนที่ #5 : ผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อ...

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 65


     
     

    EP.4 : ผู้เป็นพ่อ...
       "เห??" ซันจิตกใจที่เรจูพูด เพราะเธอเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
    "ไม่ต้องมาเหเลย นี่ฉันให้นามิบอกเธอไม่ใช่หรอ"
    "บอกหรอ? บอกอะไร ไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรเลย"
    "หืม? หมายความว่าไง...อย่าบอกนะนามิยังไม่บอกอะไรเธอน่ะ"
    "อือ ฉันยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย"
    "เห้อ! นามินี่ ย้ำแล้วย้ำอีก สุดท้ายก็ลืม"
    "ไม่เป็นไรหรอก นามิเขาก็ทำหน้าที่ของเขาดีที่สุดอยู่แล้วล่ะ"
    "ไม่หรอก ยัยนั้นเป็นเด็กใหม่ ยังต้องฝึกอะไรอีกเยอะ...แต่ว่า" เรจูมองรูปร่างของน้องสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า
    "หือ?" ส่วนซันจิก็ งง และไม่รู้ว่าพี่สาวมองอะไรรูปร่างของเธอนัก เพราะสายตาของเรจูจ้องไปมาแบบนี้อยู่นาน
    "ฉันรู้แล้ว!" แต่อยู่ดีๆเรจูก็ตะโกนออกมา
    "ระ...รู้อะไรหรอ แล้วไหงเธอต้องตะโกนด้วยล่ะเนี่ย"
    "ขอโทษนะซันจิ แต่ว่าขอพี่กลับห้องก่อนนะ อีกสักชั่วโมงพี่จะกลับมานะ" 
    "เห อะไรล่ะนั้น"
    "ไปล่ะนะจ้าซันจิ"
    "ดะดะ...เดี๋ยวก่อนสิ"
      ปึง
       "อะ...เห อะไรของเขาล่ะเนี่ย?" ไม่ทันที่ซันจิจะเรียกเรจู เรจูก็ปิดประตูใส่ซันจิและไปอย่างดื้อๆซะงั้น "แต่ช่างเหอะ เหลือตั้งชั่วโมงกว่าๆ ตอนนี้ก็ขอไปแช่น้ำเล่นดีกว่า"
    ....






        ติ่ง ติ่ง
       เสียงหยดน้ำที่ไหลลงมาในอ่างอาบน้ำ พร้อมกับขาของซันจิที่อ่อนนุ่มที่นั่งในท่าไขว่หางในอ่างอาบน้ำ
        "เห้อ...รู้สึกดีจังเลยย แช่น้ำแบบชิวๆฮ่าๆ" 
      เอี๊ยด
       "สบายตัวจริงๆ รู้สึกหอมไปทั้งตัวเลยแฮะ" ระหว่างที่ซันจิอาบน้ำ อยู่ๆก็มีคนแปลกหน้าเขามาที่ห้องของเธอและมองไปรอบๆห้องของเธอ
    "หึๆ" คนแปลกหน้าที่เข้ามาในห้องของซันจิหัวเราะอยู่ในลำคอ
    "เห้อ...พอแค่นี้ดีกว่า เอาไว้อาบต่อคืนพรุ่งนี้ล่ะกัน ฮิๆ" ซันจิหลังขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำเสร็จกำลังหยิบผ้าขนหนูเพื่อมาปกปิดร่างกายก่อนที่จะใช้อีกตัวเช็ดผม และเดินออกไป "เห้อ...สบายจังแฮะ" ซันจิใช้มืออีกข้างเพื่อปิดห้องน้ำแต่ว่า...
      ปึง!
    "เอ๊ะ?" มืออันหนาของคนแปลกหน้าที่เข้ามาในห้องซันจิ ดันมือเอาไว้ทั้ง 2 ข้าง 'ใครกัน? มาคุหรอ?' ซันจิพูดในใจ
    "สวัสดีคนสวย เธอเป็นใครกันล่ะเนี่ย หึๆ ขอโทษที่เข้ามานะ เผอิญได้ยินเสียงของใครในห้องนี้" เสียงของคนแปลกหน้าพูดขึ้นมา
    'เห? เสียงผู้ชายงั้นหรอ' ซันจิพูดในใจ
    "อย่าเอาแต่มองไปทางประตูสิ หันมามองฉันก็ได้นะ ฉันไม่ทำร้ายเธอหรอกน่ะ หึๆ"
      แตะ ลูบบ
    "?!"
    "หู้ว ผิวของเธอนี่...เนียนชะมัด" ซันจิสะดุ้งเพราะชายแปลกหน้านั้นจับไหล่ของเธอทั้ง 2 ข้างก่อนที่จะลูบไล้เธอไปมา
    'อะไรเนี่ย หมอนี้เป็นใคร หรือโจร ไม่น่าใช่นะถ้าเป็นโจรล่ะก็น่าจะ...'
      แตะ
    "?!"
    "หอมซะด้วย หลังเธอทั้งขาวทั้งเนียน หอมอีกตั้งหาก หรือเธอคือ..."
    'หรือว่าไอ้หมอนี้รู้ว่าเรา...'
    "บอดี้การ์ดสาวคนใหม่ที่ชื่อนามิที่พวกบอดี้การ์ดเขาลือกันน่ะ แหมได้มาอยู่ที่ห้องหรูๆเลยนะเธอเนี่ย"
    'เห? หรือไอ้หมอนี้คิดว่าฉันเป็นนามิงั้นเหรอ เห้อ..' ตัวซันจินั้น จะรู้สึกดีที่หมอนี้คิดว่าเป็นนามิหรือรู้สึกแย่กันแน่นะ
    "ท่าทางเธอชอบสินะถึงอาบน้ำนานขนาดนั้น"
    'ดะ...เดี๋ยวสิไอ้หมอนี้ทำไมถึงเริ่มจับต่ำลงไปว่ะเนี่ย' ซันจิรู้สึกไม่ปลอดภัยทันทีเพราะชายแปลกหน้าพยายามนัวเนียนเธอจนเริ่มจับต่ำลงไปทุกที
    "เซ็กซี่จริงๆเลยน้า เธอเนี้ยหึๆ" ชายแปลกหน้าคนนั้นกระซิบข้างหูเธอที่หันหลังให้
    'อยากหันไปซัดหมอนี้จริงแต่ว่า...มันดันใช้แขนอีกข้างจับแขนเราซะแน่นเลยไม่มีแรงที่จะหันไป...โอ๊ะ!...เรายังมีขานี่ ถ้างั้นใช้ขานี่แหละเหยียบไปที่เท้าเลย' ซันจิคิดแผนที่จะพยายามจะซัดเจ้าหื่นที่พยายามนัวเนียนเธอไปมา แต่ระหว่างที่เธอจะใช้ขาเพื่อเหยียบไปที่เท้าหมอนั้น...
      ปัก
    'อะ...อะไรกันได้ไงขนาดฉันทำตอนมันเผลอแท้ๆนะ' ซันจิงงมากเพราะตนนั้นก็อุส่ารอจังหวะเผลอของชายแปลกหน้า แต่ดันโดนชายแปลกหน้าใช้ขาของตนดันขาซันจิเอาไว้ได้ทัน
    "หึๆ อยู่เฉยๆไปเหอะ รู้น่ะว่าเป็นบอดี้การ์ดและรู้วิธีป้องกันตัว แต่ว่า...ฉันไวกว่าเฉยๆเท่านั้น หึๆ"
    'อะไรกันหมอนี้ อ่านแผนของฉันออกด้วยหรอหรือเป็นบอดี้การ์ดน่ะ' ซันจิพยายามขัดขืน แต่คงสู้แรงของชายแปลกหน้าไม่ใหว
    "ไม่ต้องห่วง ทำใจให้สบายไปเหอะ...เพราะเดี๋ยวฉัน 'ยนจิ' คนนี้ จะช่วยให้เธอรู้สึกสบายเอง หึๆ"
    'ยนจิ...' ซันจิตกใจเพราะคนที่พยายามข่มขืนเธออยู่คือน้องชายของเธอเอง "ยะ..ยนจิ! หยุดนะ!" ซันจิตะโกนเพื่อให้เขาหยุดนัวเนียนเธอไปมา
    "ทำไมฉันต้องหยุด เธอไม่ชอบหรือไงสนุกจะตาย"
    "ไม่! ไม่สนุกเลย ฉันขอให้นายหยุดเดี๋ยวนี้เลย! เพราะฉันเป็นพี่สาวของนายนะ ซันจิไง"
    "หืม? พูดอะไรของเธอเนี่ย นี่กลัวจนอ้างชื่อยัยซื่อบื้อเลยหรอ คนกำลังมีความสุขแท้ๆอย่ามาขัดกันดิ!"
    "อร้าย!"
    "กรี๊ดทำไมเนี่ย" ซันจิตกใจมากเพราะยนจิจับตัวเธอขึ้นบนไหล่ของยนจิก่อนจะเอาร่างอันเปราะบางลงไปที่เตียงอย่างแรง
    'เจ็บชะมัดเลย'
      หมับ
    "อะ?!"
    "นอนนิ่งๆไปเหอะน่ะ" 
    "เห..." ตอนนี้ร่างของซันจิถูกน้องชายแท้ๆของตนคร่อมร่างไว้ก่อนที่ยนจิจะโน้มตัวลงไปไซร้คอของเธอ "ขอร้องหยุดนะ!"
    "บอกให้เงียบๆไง ถ้าขืนไม่อยู่เฉยๆล่ะก็...ฉันทำเธอหนักกว่านี้แน่!"
    "ถึงจะพูดแบบนั้น..แต่ฉัน...ฉัน...ฉันมีแผลที่นายทำฉันอยู่นะ! จำได้ไหม?!!"
    "แผล.." ยนจิเงียบไปก่อนที่จะออกมาจากการเล่นซุกซนคอของเธอและนั่งคร่อมร่างของซันจิและปัดผมออกไปจากใบหน้าของเธอ "ห๊า..." เขาตกใจเมื่อมองไปที่ใบหน้าสวยๆของซันจิ สิ่งที่ยนจิเห็นก็คือแววตาที่หวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา มีเพียงแววตานี้เท่านั้นที่เขาจำได้เป็นอย่างดี
    "ฮึกๆ ฮือ ขอร้องอย่าทำอีก.." 
    "..." ยนจิมองซันจิที่น้ำตาไหลออกมาและขอร้องเขา แต่ว่าเช่นนั้นเขาก็เหมือนไม่ยอม เขาลูบไหล่ไปตามร่างกายของเธอก่อนที่จะลูบจนไปถึงที่ต้นขาอ่อนของเธอ
    "โอ้ย!" 
    "!?" เขาเบิกตาโตเมื่อเห็นเธอร้องเจ็บตรงต้นขาอ่อนด้านซ้าย ยนจิไม่รอช้าดึงผ้าขนหนูขึ้นมานิดๆ "อะ..อะไรกัน"
    "ยนจิ..."ยนจิถึงกับต้องช็อกเพราะสิ่งที่เห็นตรงหน้าก็คือรอยแผลเย็บ แต่รอยแผลนั้นมันเกี่ยวอะไรกับเขากันนะ
    "ซันจิ...ซันจิจริงๆงั้นหรอเนี่ย!!" เขาตะโกนดังเมื่อเห็นรอยเเผลนั้น "แต่เธอผมสั้นกว่านี้ไม่ใช่หรอและแถมหน้าก็ไม่น่าจะเปลี่ยนขนาดนี้"
      เอี๊ยด
    "หือ?" ยนจิหันไปมองคนที่เปิดประตูเข้ามา
    "คุณหนูค่ะ..." เป็นแม่บ้านวัยกลางคนที่เข้ามาในห้องซันจิ แต่ก็ต้องตกใจเพราะสิ่งที่แม่บ้านคนนั้นเห็นคือ ซันจิที่ถูกยนจิคร่อมร่างไว้อยู่ "ขะ...ขอโทษด้วยนะคะ ที่เข้ามาโดย..."
    "ช่างน่ะ"
    "อะ" ไม่ทันที่แม่บ้านจะพูดจบ ยนจิพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่ออกจากร่างซันจิ 
    "ฝากดูยัยนั้นด้วยล่ะกันนะ" ยนจิพูดกับแม่บ้านก่อนจะเดินออกไป
    "ค่ะ ท่าน"
      ปึง
       เสียงประตูปิดลงไป ส่วนแม่บ้านคนนั้นก็คงรู้สึกประหลาดใจอยู่นิดๆหน่อยๆ 
       "มีอะไรหรอ..." 
    "อะ...ค่ะ"เธอหันไปมองซันจิที่ใช้ผ้าห่มปิดร่างกายเอาไว้อยู่
    "มีอะไรหรอค่ะ"
    "คุณหนูค่ะ คุณเรจูสั่งให้ดิฉันมาบอกให้คุณหนูไปที่ห้องของคุณเรจูด้วยค่ะ"
    "งั้นเหรอ...แล้วห้องของเรจูไปทางไหน?"
    ....





       "ไม่น่าเชื่อเลยว่า เราไม่ได้อยู่ที่นี่นานมากที่นี่เปลี่ยนไปเยอะเลยนะเนี่ย " ชันจิพูดขึ้นและมองไปด้วย
    "ซันจิ!"
    "หืม?!" ซันจิหันไปมองคนที่เรียก
    "ทางนี้จ้า นี่ลืมห้องของฉันแล้วงั้นหรอ"
    "อ่า…" 
    "ยืนอยู่ได้ มาสิ เข้ามาในห้องก่อนสิ"
    "อะ..อือ" เมื่อซันจิได้เดินเข้าไปในห้องของเรจู ก็พบว่าในห้องมีแต่ตำราการปรุงยาและอีกด้านก็เป็นที่ทดลองการปรุงยากับพวกยาที่เต็มไปหมดบนที่ชั้น
    "ตกใจหรอ?"
    "หะ...ห๊า?"
    "ห้องอาจจะรกไปหน่อยนะ" ซันจิเอาแต่มองห้องของพี่สาวจนไม่สนใจในสิ่งที่เรจูพูดมากนักสักเท่าไหร่
    "ห้องของเธอเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ" ซันจิพูดขึ้นพร้อมยิ้มให้กับพี่สาว
    "..."แต่เรจูก็ยืนเงียบไปก่อนจะหันกลับมามองซันจิ
    "..."ส่วนซันจิที่ถูกมองด้วยสายตานิ่งแบบนั้นก็ทำตัวไม่ถูกไป 'นี่เราพูดอะไรไม่เข้าหูหรือเปล่านะ' ซันจิพูดในใจ
    "น้องสาวของพี่นี่ทำไมได้ส่งร้อยยิ้มแบบน่ารักมากันล่ะเนี่ย รู้ไหมพี่ยิ่งใจอ่อนอยู่ด้วยนะ"
    "อะ...เอ๊ะ?!" อยู่ๆ เรจูก็เดินเข้ามากอดซันจิแบบไม่ทันตั้งตัว
    "น่ารักๆ"
    'อะไรของเขาเนี่ย?' ซันพูดในใจพร้อมกับความงง
      ก๊อก ก๊อก
    "หืม?" เรจูหยุดกอดซันจิก่อนจะหันไปที่ประตู
    "เร...อือ?!" 
    "..."
    'เรจู...ปิดปากเรา แต่ทำไมล่ะ' อยู่ๆเรจูก็มาปิดปากของซันจิที่กำลังจะเรียกชื่อของเธอแต่ก็โดนเรจูปิดเอาไว้
    "เงียบก่อนนะจ้ะน้องรัก"
    "เรจู อยู่ไหม!" เสียงของใครไม่รู้มาเรียกเรจูอยู่หน้าห้อง
    "อึอ...อือๆ" แต่ซันจิพยายามจะพูด
    "ชู่ว" ซันจิมองเรจูที่ทำสัญญาณมือให้เงียบ
       เอี๊ยด...
    "..." ซันจิมองพี่สาวที่เปิดตู้เสื้อ ก่อนที่เรจูจะเรียกซันจิเข้าไปข้างใน "ทำไมกัน"
    "ขอโทษนะซันจิ จะให้ใครเห็นเธอไม่ได้ เพราะฉะนั้น...เข้ามาอยู่ข้างในได้ไหม"
    "แต่..."
    "ถือว่าขอร้องนะ...ซันจิ"
    "..."ซันจิยืนมองเรจู สายตาของเรจูนั้นเต็มไปด้วยความกลัว เหมือนกับจะมีใครมา "เข้าใจแล้ว" แต่เธอก็ไม่ปฎิเสธคำของพี่สาว ซันจิเข้าไปอย่างโดยดี
    "เข้ามาอยู่ในนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่สาวมานะจ้ะ รอพี่อยู่ข้างในก่อนนะ"
    "อะ...อือ"
      ปัง...
       ซันจิที่อยู่ข้างใน ก็ได้แต่รอและก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้มาแอบในนี้ด้วย 
    "เรจู ของที่ฉันสั่งน่ะใกล้ได้ยัง"
    'เห...เสียงนี้มัน' ระหว่างที่ซันจิรอ ก็ได้ยินเสียงของชายคนหนึ่งที่กำลังสนทนากับเรจู
    "รอก่อนสิ ของแบบนี้ก็ต้องรอ"
    "หึ...เป็นถึงนักปรุงยาแท้ๆ แต่กลับปรุงยาพิษไม่ได้เนี่ยนะ"
    "เดี๋ยวๆ อิชิจิ ก็รู้นี่ว่าฉันเป็นหมอนะการปรุงยาของฉันก็ปรุงแต่พวกสมุนไพรเท่านั้นแหละน่ะ"
    "ปรุงสมุนไพรได้ก็ต้องปรุงยาพิษได้เช่นกัน"
    "แต่ฉันเองก็ต้องปรุงยาแก้พิษด้วยนะ!!"
       ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังสนทนากันอยู่ ซันจิที่เปิดประตูตู้เสื้อผ้ามาพอเท่าที่จะเห็นได้ก็อึ่งทึ่งไป เมื่อได้เจอกับชายที่เป็นดั่งฝันร้ายของเธอ
    "ใครให้เธอทำยาแก้พิษกัน?!"
    "ฮ่าๆ ฉันเป็นคนให้เรจูทำเองแหละ อิชิจิ"
    "หืม?!" ทั้งคู่หันไปมองคนที่อยู่ในเงามืด ก่อนจะเดินตรงมาหาทั้งคู่
    "นิจิ นายเป็นคนสั่งให้เรจูทำ? ทำไม?"
    "หึ พี่ชาย...การที่เราจะฆ่าคนน่ะ เราต้องทำอะไรสนุกๆก่อนมันจะตายไง"
    "นายหมายความว่าไง? นิจิ"
    "ที่ฉันจะพูดก็คือ ฉันอยากเห็นคนที่ใกล้ตายดื่มยาพิษและยาแก้พิษเข้าไปพร้อมๆกัน อยากจะรู้จริงๆ หากพวกมันโดนแบบนั้น จะสนุกขนาดไหนเชียว ฮ่าๆ"
    "ดื่มเข้าไปพร้อม? เดี๋ยวก่อนนะ ถ้าหากทำแบบนั้นไปโอกาสที่คนดื่มเข้าไปจะรอดแทบจะไม่มีเลยนะ" เรจูตกใจกับความคิดที่เลวร้ายของผู้เป็นน้องของตน
    "ก็แบบนั้นไงถึงจะสนุก นั่งดูพวกมันตายแบบทรมานและช้าที่สุดคือสิ่งที่ฉันชอบ หึๆ"
     "แกนี่มัน ช่างคิดจริงๆเลยนะนิจิ"
    "ขอบคุณพี่ชาย"
    "หึ จะเอาอย่างไงก็ช่างเหอะ เอาเป็นว่าฉันจะเร่งทำให้ล่ะกัน"
    "เร่งมือหน่อยนะ เพราะฉันก็ไม่อยาก..."
       เพล้ง!!
    "หืม?!" นิจิหันไปมองที่ตู้เสื้อผ้าของเรจู 
    "เสียงอะไรล่ะนั่น?" อิอิจิพูดขึ้น
    "นั่นสิพี่ชาย.."
    'ซวยแล้วไง' เรจูพูดในใจ
    "หรือว่า?!"
    'ซันจิ!!'
    "เหมี้ยว เหมี้ยว"
    "หืม?"
    'เห...'
    "เรจู"
    "หะ...ห๊ะ"
    "นี่เธอเลี้ยงแมวด้วยหรอ" อิชิจิถาม
    "อือ...กะ..ก็"
    "ก็?"
    "ไม่เชิงว่าเลี้ยงเอาไว้แบบถาวรแต่ เป็น...เป็น"
    "เป็น?"
    "เป็นแมวที่เพื่อนของฉันมาฝากเอาไว้น่ะ"
    "งั้นเหรอ"
    "อะ...อื้ม" เรจูพยักหน้าไปมาทั้งที่ทั้งเหงื่อออกและการพูดขัดๆ แบบนั้น กลับดูไม่ออก
    "อะไรกัน แค่แมวงั้นเหรอเนี่ย" นิจิทำท่าหงุดหงิดนิดหน่อย
    "ก็ดีแล้วนี่ นิจิ ที่ไม่ใช่ศัตรูจากที่ไหน"อิชิจิที่กำลังเดินไปที่หน้าประตูก็พูด "หวังว่ายาพิษมันจะเสร็จเร็วๆนี้นะ เรจู"
    "อะ..อื้ม เสร็จแน่นอน"
    "งั้นก็ดีไป เอาล่ะ...นิจิเราไปได้แล้วล่ะ"
    "เออ แต่ก่อนไป..."
      ปัก!
    "เพราะแก ไอ้แมวบ้า! ทำให้ฉันหงุดหงิดโคตรๆเลยเว้ย!!" นิจิที่หงุดหงิดสุดๆนั้นก็เตะไปที่ตู้เสื้อผ้าของเรจูอย่างแรง ก่อนจะเดินไปที่ประตู และเดินออกไปพร้อมกับอิชิจิไป
    "เห้อ...เกือบไปแล้วไง" เรจูที่หายใจอย่างแรงและหันไปมองที่ตู้เสื้อผ้า "ออกมาได้แล้วซันจิ" เรจูเปิดประตูให้กับซันจิ
    "..." แต่ซันจิไม่พูดอะไรออกมาก็เงียบไป
    "หืม?"
    "..."
    "นี่ เป็นอะไรไปล่ะนั่น ทำไมไม่พูดจาอะไรเลย"
    "..."
    "เออ จริงด้วย เมื่อกี้ฉันได้ยินเสียงเหมือนอะไรแตก...เธอทำอะไรแตกน่ะ"
    "เรจู..."
    "ฉันขอโทษ..."
    "เอ๊ะ?!"
    "ฉัน...ฉัน...ฉัน...ทำรูปท่านแม่แตกน่ะ"
    "หือ?!" เรจูมองไปที่มือของน้องสาวที่นำรูปของแม่ของพวกเธอที่แตกไปเอามากอดไว้
    "ฉันขอโทษๆ ฮึกๆ...ฉันขอโทษ"
    "ช่างเหอะ"
    "ฮึกๆ ห๊าา.."
    "เอามาสิ" เรจูยื่นมือขอรูปของท่านแม่ด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงความโกรธอะไรทั้งสิ้น
    "..." ซันจิยื่นรูปให้เรจูก่อนจะพูดกับเรจูว่า "อย่างไรก็ตามฉันก็ผิดเองจริงๆและขอโทษที่ทำให้..."
    "นี่ซันจิ"
    "อะ...หือ?" เรจูพูดแทรกซันจิ
    "ซันจิดูนี่สิ"
    "หือ?" ซันจิมองไปที่มือของเรจูที่เอารูปออกจากกรอบรูปที่แตกไป
    "ซันจิรู้ไหม...ถึงกรอบรูปน่ะจะแตกไปแล้วก็ตาม"
    "ก็ใช่..."
    " แต่ว่านะเมื่อเอาออกมาจากกรอบรูปนั้นแล้ว แต่ข้างในกรอบรูปนั้น"
       ยื่น..
    "แต่ตัวใบรูปนั้นก็คงยังอยู่และงดงามเหมือนเดิม เธอว่าไหมล่ะ?" เรจูยื่นรูปของท่านแม่ให้ซันจิ
    "เอ่อ..."
    "ที่จะพูดก็คือ กรอบรูปหรือใบรูปก็เหมือนกับคนเราทั้งนั้นแหละซันจิ"
    "หมายความว่าไง?"
    "ก็กรอบรูปนี่ก็เหมือนกับเธอเมื่อก่อนไง ที่ทั้งภายนอกและภายในนั้นต้องแตกสลายไป อย่างไม่เหลืออะไรดี"
    "มันขนาดนั้นเลยหรอตัวฉันน่ะ T.T"
    "แต่ว่านะ...ปัจจุบันของเธอก็เหมือนกับใบรูปนี้ที่สวยงามและไร้พิษภัยใดๆไม่เหมือนกับกรอบรูปที่มีแต่เศษแก้วที่แตกและเป็นพิษภัยร้าย...นั่นก็แปลว่าเธอได้เดินออกมาจากกรอบรูปที่มีแต่พิษภัยแล้วเรียบร้อย และได้เป็นรูปภาพที่ทั้งสมบูรณ์และงดงามอย่างมาก"
    "เรจู..."
    "น้องสาวของพี่..."
      แตะ
    "เธอน่ะเป็นดั่งรูปภาพที่ออกมาจากกรอบรูปทีแตกออกมาได้แล้วนะ เพราะฉะนั้นแล้วเธอจะต้องสง่างามเหมือนรูปภาพนี้นะ" เรจูใช้สองมือแตะไปที่ไหล่ของซันจิทั้ง 2 ข้าง
    "อื้ม"
    "แต่ที่สำคัญนะซันจิ เธอเองก็ต้องเข้มแข็งและพยายามยิ่งกว่าท่านแม่เป็น 2 เท่าเลยนะ"
    "อื้ม ขอบคุณนะเรจู"
    "ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ"
    "แต่ไม่ว่าอย่างไงก็ต้องขอบคุณเธอที่ช่วยสอนฉันและฉันจะพยายามมากกว่าท่านแม่อย่างแน่นอน" ซันจิส่งยิ้มที่อ่อนหวานให้เรจู
    "อื้มดีแล้ว มาให้พี่สาวคนนี้ได้กอดหน่อยเถอะนะ"
    "เหวอ?!"
    "น้องใครทั้งน่ารักและยิ้มเก่งแบบนี้"
    "ก็มันติดเป็นนิสัยแล้วนี่แถมตอนที่ฉันอยู่ภัตคารน่ะ ฉันเองก็ต้องคอยยิ้มให้กับลูกค้านะ มันก็เลยชินไป"
    "แหม แต่ต่อจากนี้เธอจะต้องยิ้มให้ฉันแค่คนเดียวเท่านั้นนะ"
    "จ้าๆ ฮ่าๆ"
    "งื้อ น้องใครน่ารักจริง"
    "โอ้ย เรจู พี่กอดฉันจนฉันจะหายใจไม่ออกนะ"
    "ก็มันอดใจไม่ไหวนี่ น้องใครก็ไม่รู้น่ารักจริงๆเลยนะเรา"
    "เอ่อ...ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ" เรจูที่เห็นรอยยิ้มของซันจิเข้าไปถึงกับหัวใจละลายไปเลยที่เดียว
      ก๊อกๆ
    "เห ใครอีกล่ะเนี่ย หวังว่าคงไม่ใช่เจ้าพวกนั้นหรอกนะ"
    "เอ่อ ไม่รู้สิ" ซันจิได้แต่ส่ายหัว
    "คุณเรจูอยู่ที่ห้องหรือเปล่าค่ะ ฉันเองค่ะ"
    "เอ๊ะ กลับมาแล้วหรอ"
    "หือ?"
    "อืม...." เรจูถอดกอดจากซันจิก่อนจะเดินไปเปิดประตู "มาช้าจังเลยนะเธอ"
    "ขอโทษค่ะคุณเรจู"
    "ช่างเถอะ"
    "ค่าาา"
    "เอ๊ะ นั้นคุณ" ซันจิพูด
    "หือ" ทั้งคู่หันมาตามเสียงซันจิ
    "อ้าว คุณหรูซันจินี่ค่ะ"
    "ไง นามิจัง ฮ่าๆ"
    "ไงค่ะ คุณหนู"
    "โธ่ ฉันก็คิดว่าใครซะอีก"
    "นั้นหรอค่ะ ฮ่าๆขอโทษที่ทำให้สงสัยนะค่ะและก็เรื่องที่ไม่ได้ช่วยคุณหนูเก็บเสื้อผ้า เพราะดิฉันรีบไปรวมตัวน่ะค่ะ ต้อง..ขอโทษจริงๆนะคะ"
    "ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอก ที่จริงนั่นห้องฉัน ฉันก็ควรเก็บเอง"
    "คุณหนู..."
    "ไม่เป็นไรหรอกนะจ้ะนามิจัง"
    "คุณหนู ทำไมช่างเป็นคนอ่อนโยนแบบนี้ค่ะ"
    "เอ่อ..."
    "คุณหนูเนี่ยนอกจากจะเป็นสาวหน้าตาสะสวยแล้วข้างในก็ไม่ต่างกันเลย"
    "แฮะๆ ไม่ขนาดนั้นหรอก"
    "พูดจริงๆนะคะคุณหนู คุณหนูน่ะนอกจากจะสวยแล้วนะคะใจดีอีกต่างหาก"
    "เธอก็ชมไป"
    "ก็จริงๆน่ะค่ะ"
    "นี่ๆอะแฮ่มๆ"
    "หือ?" ทั้งคู่หันไปมองเจ้าของเสียงที่ยืนอกอกทำหน้าจริงจังและกำลังเรียกร้องความสนใจ
    "ขอโทษที่ต้องขัดใจพวกเธอสักครู่นะ แต่ว่าที่ฉันเรียกเธอมานะนามิ  เพราะฉันอนยากให้เธอมาช่วยฉันเลือกชุดให้กับซันจิ"
    "เลือกชุดน่ะหรอค่ะ"
    "ใช่แล้ว เพราะพรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงไงล่ะ"
    "อ่อ อย่างงี้นี่เอง"
    "ใช่ๆ เพราะฉะนั้นเธอต้องช่วยฉันและห้ามหนีเด็ดขาดนะ เข้าใจไหม"
    "ได้ค่ะคุณเรจูไม่มีปัญหา"
    "ดีมาก อิอิ"
    "ทั้ง 2 คนย กำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันน่ะ??"
    "ซันจิ/คุณหนู"
    "เอ๊ะ?!" ซันจิตกใจ เพราะทั้ง 2 คนนั้นกำลังจ้องซันจิด้วยสายที่กะจะกินกัน
    "ไม่ต้องห่วงพี่คนนี้จะทำให้เธอสวยที่สุดในงาน"
    "คุณหนูต้องกลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชายแน่ๆเลยค่าา"
    "เอ๋???"
    "เอาล่ะนามิ เรามาเลือกกันเถอะ"
    "จัดไปเลยค่ะ"
    "เริ่มจากพวกชุดที่ฉันติดต่อให้เพื่อนเอาให้ล่ะกันนะ"
    "ว้าว มีแต่สวยๆทั้งนั้นเลยค่ะ" 
    "ใช่ไหมๆ" ซันจิเองที่แต่มองทั้งคู่หยิบพวกชุดออกมาเลือกโดยให้ซันจิอยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไรมาก
    "เอ่อ....ถึงจะไม่รู้ว่าพวกเธอ 2 คนจะจัดการอย่างไงกับตัวฉัน...แต่ว่าก็ให้โชคดีล่ะกัน"
    ....





       "พ่อค่ะ พ่อว่าชุดนี้จะเหมาะกับหนูไหมค่ะ?"
    "ลูกน่ะ แต่งชุดไหนก็น่ารักหมดทั้งนั้นแหละจ้ะ" ชายคนหนึ่งที่ยืนมองลูกสาวหมุนตัวไปมา และยิ้มให้เธอหลังพูดจบ
    "จริงนะคะพ่อ"
    "พ่อไม่เคยโกหกลูกหรอกนะ"
    "ฮิๆ"
      หมับ
    "หือ?"
    "รักคุณพ่อที่สุดเลยค่ะ" เธอรีบวิ่งเข้าไปกอดผู้เป็นพ่ออย่างแน่น
    "..." ชายคนนั้นไม่พูดอะไรนอกจากยิ้มให้
      ก๊อก ก๊อก
    "เข้ามา" ชายคนนั้นพูดหลังใครมาเคาะประตู
    "ท่านมิฮอลครับ"
    "มีอะไร ว่ามา?!"
    "คุณชายเดินทางมาถึงแล้วครับ"
    "งั้นเหรอ"
    "ครับ ตอนนี้นั่งรอท่านอยู่ที่ห้องรับรองแขกแล้วครับ"
    "อือ เข้าใจล่ะ"
    "เห...พี่ชายกลับแล้วหรอค่ะ" ใบหน้าเด็กหญิงหลังจากได้ยินว่าพี่กลับมาแล้ว "หนูขอลงไปหาพี่ก่อนนะคะ"
    "ดะ..เดี๋ยวก่อนสิเพโรน่า" เด็กหญิงไม่ฟังคำของพ่อรีบลงไปหาพี่ชายอย่างเร็ว
    "เราเองก็ควรลงไปรับคุณชายนะครับ นานทีๆท่านทั้ง 2 จะได้เจอหน้านะครับ"
    "..."ชายคนนั้นเงียบไปทำหน้านิ่งๆเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ "งั้นก็รีบลงไปกัน"
    "ครับ" หลังพูดจบทั้งคู่ก็เดินลงไป
    "คุณชายเพิ่งกลับมา ทานอะไรเย็นๆให้หายร้อนก่อนไหมครับ" ชายบอดี้การ์ดคนหนึ่งพูดขึ้นมากับคนที่ท่าทางครึมๆนั่งอยู่ในโซฟาหรูๆ
    "อือ ก็ดีเหมือนกัน" เขาตอบกลับ
    "ครับ สักครู่นะครับ"
    "อือ"
    "แฮร่ๆ" เสียงหอบของสาวน้อยผมชมพูที่อยู่ในชุดเดรสวิ่งลงบรรไดไปที่ห้องรับแขก
    "คุณหนูอย่าวิ่งเร็วนักสิครับ" แต่พวกบอดี้การ์ดก็วิ่งตามไป
    "แฮร่ๆ....ฮิๆ เจอตัวแล้ว" แววตาของเด็กสาวเหมือนเห็นพี่ชายที่นั่งอยู่ ก็รีบวิ่งไปทันที "พี่ชายค่าาา"
    "นี่ครับคุณหนู น้ำหวานเย็นๆ"
    "อืม ขอบ..."
      หมับ!!
    "เห??" ทุกคนถึงกับตาค้างเมื่อเห็นการจู่โจมของคุณหนูไป
    "อึ้ก...เจ็บๆ อะไรเนี่ย เฮ้ย.."
    "หนูคิดถึงพี่ชายสุดๆเลย"
    "เห?"
    "เห อะไรกันล่ะนั่น นี่หนูเองนะ เพโรน่าไง"
    "อะ...อ่อ เพโรน่าเองหรอเนี่ย โตขึ้นเยอะเลยนะ"
    "ใช่ไหมๆ ฮิๆ"
    "แถมไม่ได้เป็นเด็กเหมือนเมื่อก่อนแล้วด้วยแฮะ"
    "แหม คนเราก็ต้องเปลี่ยนแปลงไหม นี่หนูน่ะนะไม่ใช่เด็กแล้วนะตอนนี้น่ะ หนูกลายเป็นเด็กม.ปลายแล้วนะ อายุ 17 แล้วด้วย ไม่ใช่ 12 แล้วนะ"
    "จ้าๆ แต่ในสายตาคนเป็นพี่อย่างฉันน่ะ ก็เห็นเธอเป็นเด็กเล็กอยู่ดีนั่นแหละ"
    "โธ่ พี่ล่ะก็"
    "ฮ่าๆ"
    "แต่ก็ยินดีต้อนรับกลับนะ พี่ชาย!!" เพโรน่ากอดคอพี่ชายสุดแรง
    "โอ้ย ไม่ต้องกอดแน่นแล้ว"
    "ก็คิดถึงนี่"
    "แต่พี่เจ็บคอนะ รัดซะแน่นเชียว"
    "ฮิ" ทั้งคู่นั่งกอดแบบนั้นไปโดยไม่มีใครกล้าเข้าไปขัด เพราะด้วยความน่ารักของทั่งคู่จนคนรอบข้างก็อดจะเอ็นดูไม่ได้จริงๆ
    "กลับมาแล้วงั้นเหรอ"
    "หือ?" ชายหนุ่มที่นั่งกอดน้องสาวก็หันไปมองเจ้าของเสียง
    "พ่อครับ"
    "ยินดีต้อนรับกลับนะ"
    ..." ชายหนุ่มถอดกอดของน้องสาวก่อนจะลุกขึ้นมามองหน้าของพ่อ
    "เป็นไงบ้างล่ะ"
    "ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ก็ดีใจที่ได้กลับมาเจอทุกคนครับ"
    "ดี" เขาตอบกลับ "ทุกคน ออกไปจากตรงนี้กันให้หมดก่อน ฉันมีเรื่องอยากคุยกับลูกชายน่ะ เพโรน่าเองก็ไปอยู่ที่ห้องก่อน"
    "ค่ะคุณพ่อ"  เธอขานกลับก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับทุกคน แต่ก็หยุดเดินก่อนหันไปมองชายที่อยู่ข้างหลังทั้ง 2 คน และเดินจากไป
       ห้องรับแขกในตอนนี้ที่มีแต่ชาย 2 คนพ่อลูกที่จ้องมองกัน บรรยากาศแบบนี้ทำให้เหมือนทั้งคู่โดนกดดันจนมันรู้สึกอึดอัดแปลกๆ
    "พ่อ..."
    "พ่อไม่ต้องพูดหรอก " เขาพูดแทรก
    "พ่อ...พ่อต้องขอโทษด้วยนะ"
    "พ่อไม่ผิดอะไร ไม่จำเป็นต้องขอโทษ" เขายิ้มให้พ่อ
    "ลูก..."
    "ผมทำแบบนี้ก็เพื่อครอบครัวของเราและก็เพื่อเพโรน่าด้วย...ผมไม่อยากให้น้องต้องมาเจออะไรแบบนี้"
    "..." มิฮอลไม่ตอบกลับอะไรนอกจากมองไปที่ตาข้างซ้าย
    "เหมือนกับแผลที่ตานี่ ผมไม่ต้องการให้เธอรู้" เขาจับไปที่ตาข้างซ้ายที่มีผ้าปิดตาอยู่
    "ลูก...พ่อ"
    "ช่างเหอะพ่อ ผมง่วงแล้วขอตัวขึ้นไปนอนะครับ" เขาเดินผ่านพ่อของเขาพร้อมสัมภาระ
    "อะ..เอ่อ"
    "พรุ่งนี้เรามีภารกิจที่บ้านนั้นนะครับพ่อ พ่อก็ควรไปนอนได้แล้ว"
    "อะ..อือ" มิฮอลหันไปมองแผ่นหลังของลูกมันทำให้เขานึกถึงเมื่อตอนลูกยังเป็นเด็ก
    "พ่อครับๆ พ่อครับ...ฮือๆ ผมเจ็บเหลือเกิน ตาของผม...ตาของผม" ตาข้างซ้ายของเด็กชายนั้นเต็มไปด้วยเลือดพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา
    "อะ...แฮร่ๆ อะไรกันภาพมันกลับมาอีกแล้ว" ร่างกายของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อเหมือนกับร้อนร้นอะไรสักอย่าง มันคงจะเป็นเรื่องที่เจ็บที่สุดในใจของชายคนนี้ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น...พ่อ
    ....




         ในความมืดมิดนั้น มิฮอล...ที่นอนอยู่และตัวของเขานั้นลอยไปมา 
    "เอ๊ะ?!...ที่นี่ที่ไหนกันทำไมถึง..." ภาพที่มิฮอลนั้นเห็นมันมืดมากจนเขามองแทบไม่เห็นอะไรเลย
    "อย่ายุ่งกับน้องสาวฉันนะ"
    "อั้ก!"
    "ห๊ะ!" อยู่ๆภาพเก่าก็หวนกลับมาเล่นงานเขา
    "อย่า...อย่านะ...อย่ายุ่งกับลูกฉัน อย่า!!" เขามองตัวเองที่ไม่สามารถช่วยลูกชายไว้ได้
    "หนอยไอ้เด็กนี่ แกอยากลองดีใช่ไหมได้"
    "ยะ...อย่าทำเขา อย่ายุ่งกับลูกฉัน อย่า!!!"
    "อ้าก!!!!"
    "มะ..ไม่...ไม่นะ" เขาตะโกนสุดเสียง
    "อะ..ไม่นะ" ในตอนนี้ที่เขาเห็นก็คือเลือดที่มันกระเด้นมาโดนตัวของเขาในอดีต มันคือเลือดของลูกชายของเขานั่นเอง
    "พ่อครับ...ผมเจ็บ..เจ็บ" ลูกชายที่จับลูกตาข้างซ้ายเอาไว้และร้องขอพ่อของเขา มิฮอลเห็นเช่นนั้นก็เอื้อมมือไป
    "ลูกพ่อ...พ่อ" แต่ไม่อาจเอื้อมไปถึงได้
       พรึ่บ
    "คุณค่ะ..."
    "ห๊ะ" ภาพกลับมีอีกครั้ง
    "สัญญากับฉันได้ไหม...ว่าจะไม่ให้ลูกๆ..มะ มาเจอสิ่งที่ฉันเจอมา"
    "มาเรีย ฮือๆฮึกๆ" แต่เขากลับเห็นตัวเองกับภรรยาที่ขอร้องเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเธอจะจากไป
    "สัญญานะว่าจะดูแลพวกแกน่ะ"
    "ได้ ฮือๆฮึกๆ ผมจะดูแลพวกแก"
    "มาเรีย..." มิฮอลนั้น...ยิ่งเห็นตัวเอง ยิ่งเวทนาตัวเองขึ้นไปอีก
      พรึ่บ
    "ห๊า!" ภาพภรรยาของมิฮอลหายไป
    "พ่อครับ ผมจะไปแล้วนะ" และกลับเป็นภาพของลูกชายตอนคุยกับเขา
    "ถึงเวลาแล้วหรอ"
    "ครับ"
    "อือ ก็ดี"
    "พ่อครับ..."
    "หือ?!"
    "ผมมีเรื่องขอร้อง...อย่าให้น้อง...ต้องมาเจอแบบผม...เพราสิ่งที่ผมโดนมา มันโหดร้ายเกินไป..."
    "ไม่ๆลูกไม่ๆพ่อขอโทษๆ" และภาพค่อยๆหายไปพร้อมกับลูกของเขาที่เดินออกไป แม้เขาจะพยายามคว้า แต่ก็ไม่มีทางคว้าได้แม้แต่จะแตะแผ่นหลัง เพราะกลับมีความมืดมาอีกครั้ง
    "ความผิด" มีเสียงบางอย่างกระซิบข้างหูเขา
    "ไม่ๆ"
    "ความผิดแกที่ลูกต้องเป็นแบบนี้" มันเริ่มเข้าใกล้มมากขึ้น
    "ไม่" แต่เขาก็ปฎิเสธ
    "แกผิดเอง..."
    "ม่ายยย!!...แฮร่ๆๆ...เฮ้อ...บ้าจริง ฝันงั้นเหรอ" สุดท้ายภาพมายาเหล่านั้นก็เป็นภาพมายาที่เขาสร้างขึ้นมาในหัวจนกลายเป็นดั่งฝันร้ายที่ติดตาเขามาจนถึง ณ ตอนนี้








     
     
    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×