ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    stop Love younger sister หยุดรักที่น้องสาว

    ลำดับตอนที่ #4 : หวนคืนมาอีกครั้ง

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 65






    EP.3 : หวนคืนกลับมา
       ภายนอกของคฤหาส์นอาจดูงดงามแและไม่มีพิษภัยใดๆ หรือคนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าผู้ที่อยู่คฤหาส์นเป็นลูกผู้ดีทั้งนั้น....แต่...หารู้ไม่ว่าภายในของมันอาจมีปีศาจซ่อนอยู่ โดยที่เราอาจมองไม่เห็น
       ซันจิ...ชีวิตเธอมันดีขึ้น เมื่อออกจากที่นี่ไปเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว......แต่ตอนนี้สาวน้อยผู้ถูกรับเชิญให้มาเเยือน ณ คฤหาส์นแห่งนี้โดยไม่เต็มใจหนัก
       "เฮ้อ..." ซันจิมองคฤหาส์นก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
    "คุณหนูซันจิค่ะ"
    "อ๊ะ...ห๊ะ?" เสียงของนามิที่มาจากที่นั่งคนขับเรียกชื่อเธอ
    "คุณจะลงไปก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวจะมีคนมาทำหน้าที่ต่อจากฉันเองค่ะ ส่วนพวกสัมภาระเดี๋ยวดิฉันจะรีบจัดการเอาไปไว้ที่ห้องให้เองค่ะ"
    "จะไหวหรอ?...นามิจัง" ซันจิใช้น้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะมั่นใจนัก
    "ไหวค่ะ ไหวอยู่แล้ว คุณหนูซันจิไม่ต้องห่วงนะคะ เชิญเข้าไปก่อนเลยค่ะ" แต่ทางนามิเองก็ยืนยันเช่นเดิม
    "นั้นก็...ฉันไปก่อนล่ะกันนะ ช่วยจัดการให้ด้วยล่ะ"
    "ได้ค่ะคุณหนู" 
    "อืม" หลังจากนั้นซันจิลงมาจากรถและเข้าไปข้างในคฤหาส์น
    "ยีนดีต้อนรับค่ะคุณหนู"
    "หืม?!"
    "ยินดีต้อนรับกลับสู่คฤหาส์นวินสโม๊คครับ"
    "เห?!" ซันจิเดินเข้าไปข้างในคฤหาส์น ก็พบกับพวกมาเฟียและเหล่าคนใช้ทั้งหลายที่ยืนต้อนรับเธอ
       ซันจิรู้สึกสับสนนิดหน่อยและตื่นตัวไปเพราะปกติเธอไม่ใช่ฝ่ายที่โดนต้อนรับ ปกติที่ภัตคาร เธอเป็นฝ่ายต้อนรับลูกค้าอยู่เสมอ
    "แปลกๆแฮะ..." ซันจิพูด
    "นี่คงเป็น...คุณหนูซันจิสินะครับ"
    "หือ?!" ซันจิหันไปตามเสียงจากด้านหลัง และคนที่ยืนอยู่หลังเธอเป็นผู้ชายที่ส่วมสูทสีดำเอาไว้และทำท่าทางอย่างสำรวมกิริยามารยาทอยู่ตลอด
    "ต้องขออภัยจริงๆนะครับ ที่ทำให้คนสำคัญของตระกูลวินสโม๊คต้องมา..."
    "อะ...ช่างเหอะนะ ฉันไม่มีปัญหาอะไรหรอกก็แค่..." ระหว่างพูด สายตาของเธอก็เหลือกไปมองรูปภาพหนึ่งเข้า"ท่านแม่..." ใช่แล้วรูปภาพนั้นเป็นรูปภาพของแม่ของเธอที่ถ่ายในวันที่ท่านได้เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดโดยเฉพาะสำหรับในสายตาซันจิ
    "รูปของท่านโซระสินะครับ"
    "นายรู้หรอ?"
    "ครับ...ท่านโซระหรือว่าอดีตนายหญิงของตระกูลวินสโม๊ค หญิงที่ใครๆก็ชื่นชมกัน แต่ท่านดันทิ้งนายท่านไป และหนีไปโดยที่ไม่มีใครรู้เลย ไม่น่าเลยนะครับ"
    "หมายความว่าไง?" ซันจิถาม
    "ถ้าหากว่านายหญิงไม่หนีไป และไปอยู่กับคนอื่น ชีวิตก็จะดีมากกว่า..."
    "ไม่!"
    "อะ...อะไรนะครับ" ซันจิพูดแทรกขึ้น
    "ที่นายได้ข้อมูลมา...มันผิดทั้งหมด...แม่น่ะไม่ได้หนีไปซะหน่อย แม่เป็นคนเซ็นใบหย่าเองและก็..."
    "ครับ กระผมรู้อยู่แล้วครับ" แต่ไม่ทันซันจิพูดจบเขาก็พูดแทรกขึ้น
    "อะ...อะไรนะ นายรู้อยู่แล้ว แต่ก็ยังมาพูดอะไรแบบนี้อีก..."
    "ก็กระผมไม่เชื่อมาแต่แรกแล้วล่ะครับ...กระผมคิดว่าหากได้ยินจากคุณหนูที่อยู่กับนายหญิงตลอด...น่าจะเชื่อถือ...มากกว่าน่ะครับ"
    "นี่นาย..."
    "ถ้าตามเป็นความจริงแล้ว กระผมก็ได้ยินเรื่องนี้มาจากท่านหญิงน่ะครับ"
    "ท่านหญิง?"
    "ก็ท่านหญิงเรจูไงครับ เป็นคนบอกความจริงเรื่องคุณโซระ"
    "เรจู..."
    "ครับ"
    "..." ซันจิได้ยินชายคนนั้นพูด ก็รู้สึกดีเพราะอย่างน้อยคนที่พอจะเข้าใจเธอกับแม่มากที่สุดก็คงไม่พ้นเรจู พี่สาวคนโตที่ซันจิรักและคิดถึงมากที่สุด
    "คุณหนูครับ...คุณหนูครับ"
    "คะ...ค่ะ"
    "คุณหนูคงเหนื่อยกับการเดินทางสินะครับ...นั้นก็เชิญคุณหนูกลับไปพักที่ห้องก่อนเลยนะครับ"
    "ห้องหรอ?" 
    "ครับ ห้องนอนคุณหนูครับ...ก็ก่อนที่คุณหนูจะมา ท่านเรจูสั่งให้เราจัดห้องใหม่ให้คุณหนูน่ะครับ"
    "อย่างงั้นเองหรอ"
    "ครับ...เอาล่ะ นั้นเราก็ไปที่ห้องของคุณหนูเลยไหมครับ"
    "กะ...ก็ได้ค่ะ"
    "เชิญทางนี้เลยครับ" ชายคนนั้นนำซันจิไปที่ห้องนอน "น่าเสียดายนะครับ"
    "เอ๊?!" ซันจิได้ยินชายคนนั้นพูดก็เลยงงนิดหน่อย
    "ก็คุณหนูยังไม่ได้เจอนายท่านเลยสิน่ะครับ เพราะวันนี้นายท่านต้องไปประชุมน่ะครับ"
    "อย่างงั้นเองหรอ"
    "ครับต้องขออภัย.."
    "ไม่ต้องหรอก ไม่ใช่ความผิดนาย" ซันจิพูดพร้อมสายตาที่ดูเย็นชาไป 'คนอย่างนั้นฉันไม่อยากเจอหรอก' ซันจิพูดในใจ
       ระหว่างที่ทั้งคู่จะเดินไปถึงห้อง ซันจิได้สังเกตุตลอดทางเดิน คนใช้หลายคนดูเหมือนรีบร้อนกันมาก ซันจิสงสัยจึงจะลองถามคนใช้เหล่านั้นดู แต่ดูเหมือนว่า คนใช้เหล่านั้นจะไม่มีเวลามาตอบคำถามของคนเธออย่างแน่นอน
       "ถึงห้องแล้วครับคุณหนูซันจิ" ชายคนนั้นที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนห้องหนึ่งก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป
    "นี้ห้องนอนของฉันหรอ?"
    "ครับคุณหนู เปลี่ยนทุกอย่างให้แล้วครับ ไม่ว่าจะเตียง ตู้เสื้อผ้าพร้อมเสื้อผ้า ห้องอาบน้ำ และทุกอย่าง ก็ถูกจัดใหม่ทั้งหมดเลยครับ"
    "ดูท่าจะเหนื่อยน่าดูนะ"
    "ไม่หรอกครับ กระผมทำตามหน้าที่" 
    "..." มาคุเดินนำซันจิไปอีกทาง และส่วนซันจิก็ทำได้แค่เดินตามไปเท่านั้น
    "นี่ครับคุณหนู กระเป๋าเดินทางของคุณหนูมาถึงห้องแล้วครับ"
    "นามิเองสินะ ที่ยกมา"
    "ก็น่าจะเป็นแบบนั้นครับ" ซันจิยิ้มให้กับมาคุที่ทำตัวสุภาพอยู่ตลอดเวลา
    "แต่ก็ต้องขอบคุณอยู่ดีนั่นแหละน่ะ"
    "ครับคุณหนูซันจิ"
    "อืม"
    "นั้นกระผมขอตัวก่อนนะครับ ถ้าหากต้องการอะไรล่ะก็..."
    "ไม่เป็นไรหรอก ถ้าหากมีอะไรจริงเดี๋ยวฉันเป็นคนไปเรียกเองแหละ" ซันจิยิ้มให้กับคนข้างหน้าอย่างอ่อนโยน
    "ครับ"
    "นี่ ว่าแต่เราก็คุยกันนานมากแล้วนะว่าแต่...นายชื่ออะไร?"
    "โอ๊ะ! ต้องขออภัยจริงๆครับ ที่ยังไม่แนะนำตัวให้ทราบ...กระผมชื่อ มาคุ ครับ เป็นหัวหน้าพ่อบ้านและก็เป็นคนดูแลท่านยนจิครับ"
    "ยะ...ยนจิ"
    "ครับ...มีอะไรหรือเปล่าครับ" มาคุถามคนที่ทำเสียงสั่น
    "ปะ...เปล่า ไม่มีอะไรหรอก สงสัยฉันคงเหนื่อยมากไปน่ะ"
    "อ่อ อย่างงี้นี่เอง...นั้นขอเชิญคุณหนูพักผ่อนได้เลยครับ กระผมไม่กวนแล้วครับ"
    "อืม ขอบใจนะ"
    "ครับคุณหนู" 
      ปัง
       มาคุปิดประตูและเดินออกไปจากห้องนอนของซันจิ แต่ว่าระหว่างเดินมาคุได้มองไปที่นาฬิกาก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรออกไปหาใคร
       ระหว่างนั้นซันจิก็นำเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวต่างๆ จัดว่างไว้ให้เป็นระเบียบ หลังจากเก็บของเสร็จเธอมานั่งข้างๆเตียง มองไปรอบๆห้องนอนที่ใหญ่มากและแถมเธอแทบจำไม่ได้เลยว่าเคยนอนและอยู่ห้องแบบนี้มาตลอด 15 ปีของชีวิต ก่อนจะย้ายไปที่อื่น แต่มันก็ไม่ใช่ที่เธออยากอยู่นักหรอก เพราะที่นี่มันก็คงไม่ต่างกับอยู่นรกทั้งเป็น...





       ณ บริษัทแห่งหนึ่งในห้องทำงานใหญ่ ที่มีผู้ชายอยู่ 2 คน กำลังยุ่งกับพวกเอกสารต่างๆอยู่ ชายที่นั่งอยู่ทึ่โซฟาก็ดูเหมือนกำลังจัดรายการต่างๆ ระหว่าที่พี่ชายคนโตกำลังจ้องโทรศัพท์ 
       นิจิที่เห็นพี่ชายยิ้มและกดเล่นโทรศัพท์เล่นอยู่อย่างงั้น แต่ตัวเองจะต้องมารับกรรมทำเอกสารของพี่ชาย ทั้งๆที่ของตนก็เสร็จไปแล้วแท้ๆ 
       "นี่ อิชิจิ"
    "หืม?" อิชิจิขานกลับ
    "นายเอาแต่เล่นโทรศัพท์อยู่ได้ แล้วแถมเอาภาระของนายให้ฉันทำอีก"
    "แล้วไง?"
    "ยังจะมีหน้ามาพูดอีกนะ มาช่วยกันทำเลยเหลือแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงเวลากลับแล้ว"
    "เออๆ รู้แล้วเดี๋ยวช่วยล่ะกัน"
    "เออดีๆ มาช่วยเลย"
    "พูดมากจริงนะนายเนี่ย"
    "ก็นะ..."
    "ขอโทษนะคะ" แต่ไม่ทันที่นิจิพูด อยู่ๆผู้หญิงที่ไหนไม่รู้พูดแทรกขึ้นมา
    "เอ๊ะ?" นิจิหันไปมองคนที่เดินเข้ามา เป็นสาวผมสีดำยาวสลวยในชุดฟอมร์ทำงามสีแดงตัวสั้น "ใครกันล่ะเนี้ย?" นิจิถาม
    "ขอโทษที่เข้ามาอย่างเสียมารยาทนะคะ แต่ดิฉันมาสัมภาษณ์งานน่ะคะ" เธอบอกกับนิจิ
    "เอ๋ ไม่เห็นมีตารางบอกเลยนะว่ามีสัมภาษณ์..."
    "นิจิ นายออกไปก่อนไป"
    "อะไรนะ อิชิจิ?" 
    "ฉันบอกให้นายออกไปก่อน เดี๋ยวฉันขอจัดการก่อนแล้วเดี๋ยวไปเจอกันที่จอดรถ" อิชิจิหันไปบอกกับนิจิ
    "แล้วเอกสาร..."
    "เดี๋ยวฉันจัดการเอง นายไปก่อนเลย"
    "..."นิจิหันไปมองผู้หญิงที่ทำท่าเหมือนไม่แค่มาสัมภาษณ์งานแน่ๆ แต่ก็ต้องยอมออกไปอย่างโดยดี





       "เอาล่ะครับ เราไปฟังเพลงใหม่ของคุณมีร่าต่อนะครับ.."
          เสียงจากวิทยุบนรถที่นิจินั่งอยู่และรอพี่ชายที่ใช้เวลาสัมภาษณ์งานไปนานมาก แต่นิจิเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะคงไม่มีสิทธิ์ไปว่าพี่ชายอยู่แล้ว
      ก๊อก ก๊อก
       เสียงเคาะประตูรถจากด้านนอก ส่วนนิจิเองก็เหลือกตาไปมองคนที่เคาะก็คืออิชิจิที่เคาะประตูเพื่อให้นิจิเปิดให้
    "ขอบใจที่เปิดให้" อิชิจิส่งยิ้มให้น้องก่อนจะขึ้นรถมาตรงที่นั่งคนขับ
    "ทำไมนายสัมภาษณ์งานนานขนาดนี้" นิจิถาม
    "ก็คุยเรื่องธุระกิจนิดๆหน่อยๆเองน่ะ"
    "อย่างงั้นเองหรอ"
    "เออ ก็แค่เรื่องธุระกิจ"
    "..." นิจิเงียบไป 
    "..." ส่วนอิชิจิก็กำลังขับรถออกไปจากบริษัท
    "หึๆ" 
    "เป็นอะไรของนาย นิจิ" อยู่ดีๆนิจิก็หัวเราะออกมา
    "ก็แหม ฉันก็ขำกับการสัมภาษณ์ของยัยนั่นไง"
    "หืม?! มันน่าขำตรงไหนกัน?"
    "ก็ขำสิ ถ้าหากฉันสัมภาษณ์กับผู้หญิงคนนั้นจริงๆล่ะก็...จะไม่ทิ้งหลักฐานเอาไว้แน่ๆ"
    "หลักฐาน? หึ หลักฐานอะไรของนายนิจิ"
    "ก็หลักฐานตรงคอไง...ลิปของยัยนั่น" อิชิจิที่ได้ยินอย่างงั้นก็จับไปที่บริเวณคอที่น้องชายกำลังจ้องอยู่ ก็เห็นว่าลิปมันยังติดอยู่ที่มือเขา เขาจึงเช็ดมันออกไปจากมือและตรงคอ เพื่อปิดความลับของเขากับสาวคนนั้น
    "ทำไม ไม่พูดแต่แรก" อิชิจิถามน้องชาย
    "ก็แหม มันผิดที่นายเองนะ...ที่ไม่ยอมดูตัวเองดีๆก่อนจะออกมา"
    "เจ้านิจิ ไอ้เจ้าบ้า!!!"
    "อ้าวมาว่าฉันได้ไงเนี่ย?"
    "ก็แกแกล้งฉันก่อนนี่หว่า!"
    "ก็บอกอยู่ว่านายไม่ยอมดูให้ดีๆเอง!"
    "เฮ้อ..." อิชิจิที่ทำหน้าหงุดหงิดและถอนหายใจออกมาอย่างแรงด้วยความโมโห
    "เออ...ว่าแต่นายมาทำอะไรแบบนี้ที่บริษัทมันจะดีหรอ"
    "หึ" อิชิจิแสยะยิ้มออกมา
    "อิชิจิ..."
    "หึๆ นิจิ นิจิ นายนี่มันไม่รู้อะไรเลย"
    "เอ๋??" 
    "ก็นี่มันบริษัทของฉันนะเฟร้ย ไม่ว่าฉันจะทำอะไรกับใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ ก็ไม่มีใครรู้ทั้งนั้นหรอกน่ะ"
    "ทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้นกันเชียวนะนายเนี่ย"
    "ก็เพราะบริษัทนี้ ฉันเป็นคนออกแบบเองกับมือ และห้องทำงานของฉันก็มีอีกห้องหนึ่งไว้สำหรับสิ่งนั้นโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นเวลาที่ฉันกำลังมีอะไรกับใคร  จึงไม่มีใครรู้ว่าฉันกำลังทำอะไรหรือได้ยินเสียงอะไรอยู่ไง"
    "โห้!! สมกับเป็นตัวการวางแผนจริงๆเลยนะนายเนี่ย"
    "มันก็แน่ อยู่แล้วสิ"
    "แล้วคนพวกนั้นจะไม่สงสัยหรือไง ว่าเวลานายกับสาวๆพวกนั้นหายไปไหนน่ะ"
    "เรื่องนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่านายจะโกหกอย่างไงให้เนียน แต่ฉันก็รอดมาได้ตลอดอยู่แล้วล่ะ"
    "ก็นั้นสินะ นายรอดตัวมาได้ทุกที"
    "หึๆ แน่นอนอยู่แล้ว"
      ตืดด ตืดด
       "หืม?" นิจิหยิบโทรศัพท์ของตนและมองดูชื่อคนที่โทรมา
    "ใครโทรมาล่ะนั้น" อิชิจิถาม
    "ก็เจ้าน้องชายตัวแสบของเราไง ฮ่าๆ"
    "ยนจิหรอ"
    "เออ"
    "ฮ่าๆ กำลังคิดถึงเจ้าน้องชายตัวแสบพอดีเลย"
    "เหมือนกัน...งั้นฉันจะเปิดลำโพงให้ล่ะกัน"
    "เออ"
      ตึด
       "ไงเจ้าน้องชาย"
    "[ฮาโหลๆ นิจิ]"
    "ได้ยินแล้วเฟร้ย"
    "[โอ๊ะ โอเค]"
    "เจ้าบ้านี่"
    "ฮ่าๆ" อิชิจิขำกับ 2 พี่น้องที่ยังไม่ทันพูดดีกันก็ทะเลาะกันซะแล้ว
    "ขำอะไรของนาย"
    "ก็เปล่านี่"
    "หืม??" นิจิมองพี่ชายอย่างสงสัยรวมทั้งกวนๆ
    "มองอะไร?" อิชิจิถาม
    "ก็เปล่านี่...เออยนจิ โทรมามีไร"
    "[ก็ลืมบอกพวกนายไป คนของฉันโทรมาบอกว่ายัยนั่นมาแล้วน่ะสิ]"
    "เอ๋....มาไวกว่าที่คิดแฮะ เนอะอิชิจิ"
    "...."
    "อิชิจิ"
    "...."
    "อิชิจิ!"
    "หะ...ห๊ะ"
    "นี่นายเป็นอะไรของนายเนี่ย" 
    "ก็เปล่านี่ ฉันแค่อยากได้สมาธิกับการขับรถเฉยๆน่ะ"
    "นั้นหรอ...แต่ก็ช่างเหอะ เอาเป็นว่าพวกเรากำลังกลับล่ะกัน นั้นเอาไว้เจอกันล่ะยนจิ"
    "[เออๆ เจอกัน]"
     ตู๊ดๆ
       "อะไรของหมอนี้ คิดจะวางก็วาง..." ระหว่างที่นิจิกำลังบ่นยนจิที่วางสายใส่ไป หันไปมองอิชิจิที่ขับรถอยู่ด้วยสีหน้าเรียบง่าย สิ่งที่เห็นอาจคิดว่าเขาแค่ต้องการสมาธิขับรถ แต่ว่ามันลึกยิ่งกว่านั้นเยอะ..
    ....





       ที่ห้องรับประทานอาหารทุกคนมารวมตัวกันที่โต๊ะ และรับประทานอาหารอย่างครอบครัวปกติทั่วไป แต่อาจมีคุยเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงานบ้าง
    "นิจิ ลูกไปทำที่บริษัทของอิชิจิ เป็นไงบ้างล่ะ?" จัดส์ถามลูกชายที่ไม่ยอมทานอาหารเอาแต่กินช็อกโกแลตตลอด
    "ก็ดีครับคุณพ่อ งานเอกสารแค่นี้ผมทำได้สบายเลย"
    "ดีมาก"
    "แต่เขาก็ต้องฝึกอีกเยอะเลยครับคุณพ่อ เพราะมีรายงานบางอันที่เขาสรุปไม่ได้"
    "อิชิจิ ไหงหักหลังกันแบบนี้ ไหนจะไม่บอกพ่อ"
    "ขอโทษนะ นิจิแต่ทุกอย่างย่อมเป็นรายงานที่คนในบริษัทร้องเรียนมาทั้งนั้น"
    "เห!!"
    "นั้นก็ไม่เป็นไรหรอกลูก เดี๋ยวอีกหน่อยก็ทำได้เองแหละ"
    "ครับคุณพ่อ"
    "แล้วยนจิล่ะ เรียนวันนี้เป็นไง"
    "ก็ดีครับ ไม่มีปัญหา"
    "ดีมาก สมแล้วที่เป็นลูกพ่อ"
    "ครับ"
    "จำไว้นะยนจิ ลูกจะต้องได้เป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียอย่างเต็มตัวเหมือนพวกพี่ให้ได้"
    "ครับ..."
    "และในฐานะมาเฟีย เราจะต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ให้ได้และไม่ไปทะเลาะกับแก๊งอื่นโดยไม่จำเป็น เข้าใจนะ"
    "ครับ"
    "ตั้งใจเรียนเข้าล่ะยนจิ อิอิ" นิจิล่อน้องชายที่ทำสีหน้าอย่างจริงจัง
    "เงียบไปเลยนะ นิจิ"
    "พอได้แล้วน่ะ เลิกทะเลาะกันจะได้ไหม"
    "หือ" นิจิ ยนจิ หันไปมองเจ้าของเสียงผมสีชมพูที่นั่งถือแก้วไวน์เอาไว้ก่อนจะจ้องทั้งคู่
    "ก็แหมเรจู ฉันเองก็เล่นเฉยๆเองน่ะ จริงไหมยนจิ"
    "จริงกับผีน่ะซิ!!"
    "นี่ๆเลิกทะเลาะได้แล้ว.."
    "ขอประทานโทษค่ะ"
    "..."ทุกคนหันไปมองสาวน้อยคนหนึ่งที่พูดแทรกจัดส์ขึ้นมา
    "มีอะไร?" จัดส์ถาม
    "คือว่า...คุณหนูซันจิ ไม่ยอมลงมาทานอาหารเลยค่ะ เอาแต่พูดว่าจะขออยู่ในห้องคนเดียวสักพักค่ะ"
    "อยู่คนเดียนเนี่ยนะ"จัดส์พูดขึ้นมาพร้อมใบหน้าหงุดหงิด "พี่น้องอุส่ามาอยู่พร้อมหน้ากันแล้ว ยังจะทำตัวอยู่คนเดียวอีกหรอ"
    "นั้นสิฉันอุส่ากลับมาไว เพื่อรอเจอเธอแท้ๆ ใช่ไหมนิจิ"
    "ใช่เลยยนจิ"
    "แต่ก็ต้องประทานโทษด้วยนะคะ"
    "เฮ้อ ถ้างั้น..."
    "เดี๋ยวก่อนคุณพ่อ เดี๋ยวหนูจะเป็นคนไปพูดกับเธอเอง"
    "เรจู ลูกน่ะหรอจะเป็นคนไปพูด"
    "ก็แหมคุณพ่อค่ะ ซันจิกับหนูเป็นผู้หญิงด้วยกันแถมยิ่งเป็นพี่น้องอีก หนูก็ต้องเข้าใจน้องสิค่ะ เพราะฉะนั้นปล่อยให้หนูจัดการเถอะค่ะ"
    "..."
    "..." เรจูส่งแววตามั่นใจในตนให้พ่อที่นั่งเงียบไป ไม่พูดจาใดๆทั้งสิ้น
    "เห้อ...ถ้าหากลูกคิดแบบนั้น ก็ไปทำเถอะพ่อไม่ห้ามหรอก”
    "ขอบคุณค่ะ...ถ้างั้นหนูขอตัวเลยล่ะกันค่ะ"
    "เชิญ" เรจูลุกจากที่นั่งและออกไปจากห้องทานอาหารไป
    "คุณพ่อครับ ให้เรจูไปจะดีหรอครับ" อิชิจิถาม
    "นั้นสิครับคุณพ่อ แค่พวกเราก็เอาอยู่แล้ว" ยนจิพูดไปตามพี่ชาย
    "ถ้าเป็นพวกผมล่ะก็ ยัยนั้นยอมออกมาอย่างแน่นอนครับ" นิจิก็เช่นกัน
    "อิชิจิ นิจิ ยนจิ พวกลูกน่ะไม่จำเป็นต้องใช้แรงหรือคำพูดเลย ปล่อยให้ผู้หญิงเขา...คุยกันไปเถอะ เข้าใจนะ" 
    "..." ทั้งสามพี่น้องเงียบไป
    "หึ ทุกคนก็คงไม่รู้สินะว่า..."
    "หือ?!" ทั้งสามคนพี่น้องถึงกับสดุ้งกันไป
    "ก็หากเราบังคับเธอล่ะก็ แผนก็คงไม่สามารถสมบูรณ์อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องเข้าใจและอดทนหน่อยเข้าใจไหม"
    "ครับพ่อ" ทั้งสามพี่น้องตอบพร้อมกันก่อนที่จะทานอาหารไป
    ....





       นอกหน้าต่างของคฤหาส์นใหญ่โต สาวน้อยที่นั่งแกว้งขาไปมาตรงระเบียงของห้อง พร้อมใบหน้าที่เงยดูท้องฟ้าแต่ร่างกายหรือใบหน้านั้นมันไร้ความรู้สึกทั้งหมด
       "ก๊อกๆ"
    "หือ?" ซันจิได้ยินเสียงของผู้หญิงที่ทำเสียงประตูจากด้านหลังของตน
    "ทำอะไรของเธอน่ะ ซันจิ"
    "อ้าว? เรจูเองหรอ" ซันจิหันไปมองพี่สาวที่ส่งยิ้มให้
    "อะไรกัน เสียงไร้ความรู้สึกแบบนั้น"
    "ก็เปล่านี่ ฉันก็แค่...เบื่อๆน่ะ"
    "อ่อ อย่างงี้นี่เองถึงไม่ยอมลงไปทานอาหารกับครอบครัว"
    "อือ ก็ประมาณนั้นแหละ"
    "แต่อย่างน้อยก็ดีนะ ที่พี่เอามาให้"
    "เห? เอามา?" เรจูถืออาหารที่ดูน่ารับประทานที่วางอยู่ในถาดเรียบร้อย
    "อือหึ พี่วางอาหารให้เธอไว้ตรงโต๊ะน่ะสิ"
    "..." แต่ซันจิก็ยังไม่ขยับไปไหนและเอาแต่มองอาหารพวกนั้น
    "นี่ อย่าเอาแต่จ้องสิ มานี่เลย" เรจูลากดึงน้องสาวลุกมาจากที่นั่งระเบียง
    "เอ๊ะ?!...ดะ...เดี๋ยวสิ ฉันเดินเองได้นะ ไม่จำเป็นต้องลากเลย"
    "ก็ถ้าไม่ลาก เธอก็จะไม่มากินใช่ไหมล่ะ" เรจูเอาตัวซันจินั่งลงไปที่โต๊ะ
    "อะ...เอ่อ" 
    "จริงด้วยแฮะ อิอิ ....นี่ถึงเราไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ฉันรู้สึกได้อย่างดีเลยล่ะนะ"
    "งั้นหรอ?"
    "อือหึ"
    "เอ่อ..."
    "พอเลย ไม่ต้องพูดแล้ว เชิญคุณหนูซันจิทานอาหารได้แล้วค่ะ"
    "ฮ่าๆ งั้นก็ทานนะคะ"
    "...." เรจูไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับน้องสาวที่ทานอาการอย่างอร่อย 
    "อิอิ"
    "หืม??"
    "..."
    "ฉันอิ่มแล้วล่ะ"
    "เอ๋!! เธอเพิ่งทานไปเมื่อกี้เองนะอิ่มง่ายจัง" 
    "ฉันอิ่มน่ะ" ซันจิยิ้มให้พี่สาว 'ที่จริงมันอึดอัดต่างหาก' ซันจิพูดในใจ
    "งั้นหรอ คงทานมาเรียบร้อยแล้วสิ"
    "อืม ทานมาเรียบร้อยแล้ว"
    "ถ้างั้น...เรามาเข้าเรื่องกันไหม"
    "เข้าเรื่อง?"
    "อือหึ เข้าเรื่องไง"
    "เรื่อง..." ซันจิกำลังคิดอยู่ว่าที่เรจูหมายความว่าไงกัน
    "นี่อย่าบอกนะว่านามิยังไม่ได้บอกเธอน่ะ"
    "นามิ?"
    "เห้อ ใช้ไม่ได้จริงๆเลยนามิเนี่ย"
    "ว่าแต่เรื่องอะไรกันน่ะ?"
    "อ่อ เรื่องอะไรน่ะหรอ"
    "..."ซันจิเอียงหันไปทางซ้ายด้วยความไม่เข้าใจที่เรจูพูด
    "ก็หมายถึง...งานเลี้ยงคืนพรุ่งนี้ไง"
    ....





    แจ้งข่าวอย่าง R.I.P
       ไงทุกคนสวัสดียามค่ำคืนนี้ ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะที่ช่วงนี้ไม่ได้มาเขียนนิยายเลย เดียจึงอยากจะบอกกับทุกคนว่าเดียจะขอปิดนิยายนี้ไปเป็นเวลาประมาณ 2-3 เดือนค่ะ และทุกคนคงอยากรู้สาเหตุที่ปิดไป เป็นเพราะอะไรถึงปิด เพราะว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เดียต้องเก็บคะแนนในการเรียนและเกรดคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้เดียได้ไปเรียนต่อที่อื่น
    และก็ต้องขอโทษที่ปิดไป อย่าโกรธกันเลยนะ เดียสัญญาว่าพอผ่านพ้นพวกนี้ไปได้ เดียจะกลับมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านอย่างแน่นอน นั้นจึงขอร้องทุกคนรอเดียหน่อยนะ ไม่นานเดียจะกลับมานะ รักทุกคนที่สุดเลยนะค่ะ




    ฝันดีทุกคน 
    พักสายตาเถอะนะคนดี
    พามพ่าม
    ยังจะเล่นมุขไปอีกกกก



     
     
    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×