ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Path of Imperial

    ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบทแห่งวอร์แฮมเมอร์

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 49


     ในจักรวาลแห่ง ดาร์ค มิลเลนเนี่ย(Dark Millenia)ในศตวรรษที่ 41 มีการรบพุ่งระหว่างเผ่าพันธุ์ ทั้งมนุษย์(Human, Mankind) ออรค์ (Orks) เอลดาร์ (Eldars) ไทแรนไนด์ (Tyranids) เธา (Tau) และ เนครอน (Necrons) 

    เผ่าพันธุ์แห่งวอร์แฮมเมอร์ 40,000

    1.มนุษย์*
     
    มนุษย์ส่วนใหญ่ต่อสู้เพื่อองค์จักรพรรดิ์กองทัพของพวกเขาที่มีกองทัพถึงสองรูปแบบ กองทัพแรกคืออิมพีเรี่ยล การ์ด (Imperial Guards) ซึ่งเป็นเพียงปุถุชนธรรมดาจากทั่วกาแล็กซี่ซึ่งรวมตัวกันในนามแห่งองค์จักรพรรดิ์แห่งมวลมนุษย์ (Emperor of Mandkind) เพื่อต่อสู้กับศัตรูแห่งมวลมนุษยชาติ

     กองทัพของอิมพีเรี่ยล การ์ด ประกอบด้วยทหารธรรมดา(Imperial Guardmen) หน่วยรบพิเศษ "คาร์คิน" (Karkin) และท้ายที่สุดทหาร์ยักษ์ "ออร์กริน" (Ogryns) อิมพีเรี่ยล การ์ดยังเป็นกองกำลังที่มีจำนวนมากที่สุด พวกคนจากดาวต่างๆเป็นล้านๆดวงจากทั่วกาแล็กซี่ รวมกันเป็นกองทัพจำนวนมหาศาล กองทัพปืนใหญ่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษยชาติเคยสร้างขึ้น รถถังที่เป็นสุดยอดของรถถังก็คือรถถังขนาดยักษ์นามว่า "แบนเบลด" (Banblade)
     
     ถึงอย่างไรเสีย กองทัพอิมพีเรี่ยลการ์ดก็ยังคงเป็นเพียงคนธรรมดา มีปืนแลสกัน(Lasgun) เป็นอาวุธ สวมเสื้อกันกระสุนธรรมดา ใช้จำนวนมากเข้าว่า และศัตรูของจักรวรรดิ์ก็มีจำนวนมาก ทั้งกองยานรบของ ไทแรนไนด์บุกจากฝั่งตะวันตก สงคราาาาม (Waaaghs)ของพวกออร์คปะทุโดยไม่มีการเตือนหรือหยุดพัก พวกคนทรยศและพวกบ้าลัทธิบุกจู่โจมจากดวงตาแห่งความหวาดกลัว(Eye of Terror) หิวกระหายวิญญาณของมนุษย์ กองโจรเอลดาร์เข้าฆ่าฟันอย่างไร้ความปราณี พวกเนครอนเดินทัพจากโลกสุสานดึกดำบรรพ์ของพวกมัน และพวก เธา ที่เป็นคู่แข่งกับมนุษยชาติ  แต่การรบด้วยความทรหดของพวกเขาจะแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความเป็นวีรบุรุษอย่างแท้จริง 
     
     ในขณะที่อิมพีเรี่ยล การ์ดเป็นเพียงปุถุชนคนธรรมดา องค์จักรพรรดิ์ผู้เป็นอมตะได้สรรค์สร้างมนุษย์อีกกลุ่มขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนของพระองค์ในสนามรบ พวกเขาเหล่านั้นคือ สเปซ มารีน (Space Marines) หลังจากสงครามในครั้งอดีต หลังจากการหลอมรวมมวลมนุษย์ ให้มาอยู่ใต้สัญลักษณ์แห่งองค์จักรพรรดิ์ได้ พระองค์ทรงคิดได้ว่ากองกำลังของพระองค์ หากต้องการชัยชนะอย่างเด็ดขาดในการศึก พระองค์ต้องการทหารที่มีความสามารถเหนือคนธรรมดา พระองค์จึงสั่งให้ปลูกเนื้อเยื่อของพระองค์ และสร้างมนุษย์พันธุ์ใหม่ขึ้นมานั่นก็คือ สเปซ มารีน นั่นเอง 

     ด้วยความสูงกว่า 7 ฟุต และพละกำลังมหาศาล และสามารถขยี้หัวคนได้ด้วยมือเปล่า สเปซ มารีน เป็นทหารสุดยอดของมวลมนุษย์ พวกเขาผ่านการฝึกที่สามารถฆ่าคนธรรมดาได้ พวกเขาสามารถไม่นอนหลับได้เป็นเวลาหลายสัปดาห์ สู้รบโดยไม่มีอาหารตกถึงท้องได้เป็นเดือนๆ พวกเขาสามารถขับสารพิษได้ สมานแผลด้วยตัวเองได้ในเวลาไม่กี่นาที และเหนือสิ่งอื่นใด ความจงรักภักดีต่อจักรพรรดิ์อย่างมิเสื่อมคลาย ทำให้พวกเขากลายเป็นยอดมนุษย์ ทั้งหมดเกิดจากการตัดต่อพันธุกรรมนับครั้งไม่ถ้วน บวกกับ เนื้อเยื่อจากตัวจักรพรรดิ์ผู้เป็นอมตะเอง แต่สิ่งที่คิดราคาพวกเขาอย่างสูงยิ่งก็คือ ความเป็นมนุษย์ จากการตัดต่อพันธุกรรมทำให้พวกเขาสูญเสียความเป็นมนุษย์ไป สิ่งเดียวที่เขาต่อสู้เพื่อปกป้องคือ องค์จักรพรรดิ์ เท่านั้น 

     แต่ใช่ว่ามนุษย์ทั้งหลายจะเป็นพวกเดียวกัน 10,000ปีก่อน ในสงครามกลางกับพวก ฮอรัสผู้นอกรีต (Horus Heresy) สเปซ มารีนบางกลุ่มได้กล่าวหาว่า องค์จักรพรรดิ์เป็น "จักรพรรดิ์ตัวปลอม" และได้ลุกขึ้นก่อกบฏ ภายใต้การนำของนายพล ฮอรัส ( Warmaster Horus) นายทหารผู้ตกอยู่ภาพใต้เส้นทางแห่ง เคออส (Chaos) สเปซ มารีน ต่อสู้กับพี่น้อง สเปซ มารีน และในท้ายที่สุดองค์จักรพรรดิ์ ก็ได้รับชัยชนะในการยุธครั้งสุดท้ายที่ วังหลวงแห่ง เทอรร่าอันศักดิ์สิทธิ์  (Holy Terra)

     แต่องค์จักรพรรดิ ก็ทรงได้รับบาดแผลสาหัส จนต้องส่งขึ้นบัลลังก์ ทองคำ (Golden Throne) เพื่อยื้อชีวิตพระองค์ ในขณะเดียวกันเหล่า สเปซ มารีน ที่ก่อกบฏก่อได้หลบหนีไปยัง ดวงตาแห่งความหวาดกลัว (Eye of Terror) ซึ่งเป็นพายุวาร์ป(Warp) ขนาดใหญ่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของขอบกาแล็คซี่ ที่นั่นพายุวาร์ปได้ผสมกับจักรวาล แล้วเปิดทางให้ปีศาจแห่งเคออส (Daemons of Chaos) สามารถเดินทางเข้ามายังจักรวาลแห่งดาร์ค มิลเลนเนี่ยได้ 

     เหล่า สเปซ มารีนเหล่านั้นได้กลายเป็น เคออส สเปซ มารีน (Chaos Space Marines) ผู้ที่ประกาศสงครามศักดิ์สิทธิ์(Crusade)ไปทั่วกาแล็กซี่ และทำลายทุกผู้ทุกนามที่ขวางทางพวกมัน พวกมันต่อสู้ในนามแห่งพระเจ้าแห่งเคออส(Chaos Gods) ของพวกมัน 

    2 ออร์ค

     ออร์ค เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีจำนวนมากทั้งยังขยายพันธุ์ได้เร็วที่สุดและกระหายสงครามที่สุด พวกมันอยู่เพื่อสิ่งเดียวคือสงคราม! พวกมันสู้กับทุกสิ่งที่ขวางทางพวกมันไม่เว้นแม้แต่ตัวมันเอง มีเพียงสิ่งเดียวที่ไม่สามารถทำให้พวกมัน รวมตัวกันเพื่อทำลายจักรวาล สิ่งนั้นก็คือ ความสามัคคี เมื่อใดก็ตามที่มีพวกออร์ค ต่างเผ่ามารวมกลุ่ม พวกออร์คก็จะฆ่ากันเองอยู่เรื่อยไป 

     ความกระหายเลือดของพวกออร์คที่เกือบจะไร้ซึ่งข้อกังขานั้น แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมในการทำลาย เมือง, คลังแสง, ป่า, ดาวเคราะห์ หรือแม้กระทั่ง ระบบดาราจักรทั้งระบบ! พวกมันใช้เครื่องมือที่ ไร้คุณภาพแต่มีประสิทธิภาพ ซึ่งประดิษฐ์โดยช่างเคื่องออร์ค**(Orks Mekaniks) ที่มีพรสววรค์ซึ่งขัดกับความโง่ของพวกมัน 

     ด้วยความที่พวกมันมีแต่กล้ามเนื้อแต่สมองเท่าเม็ดถั่ว เจ้าสัตว์ประหลาดตัวใหญ่เหล่านี้มีความสามารถในการฉีกร่างคนออกเป็นชิ้นๆด้วยมือเปล่า ผิวสีเขียวของมันสามารถทนต่อความเจ็บปวดได้ ในการรบพวกออร์คสามารถเปลี่ยนสิ่งที่ธรรมดาที่สุดให้กลายเป็นอาวุธอันตรายที่สุดได้

     พวกออร์คไม่ใช่พวกที่ฉลาดที่สุด แต่ความโง่ของพวกมันกสามารถทำให้ผู้บังคับบัญชาบางคนที่หัวเราะเยาะความโง่ของออร์คตายมาเยอะแล้ว หรือในอีกนัยหนึ่งก็คือ ออร์คถูกสร้างขึ้นเพื่อสงคราม

    3 เอลดาร์

    เผ่าพันธุ์ที่ลึกลับที่สุดเผ่าพันธุ์หนึ่งในโลกแห่งวอร์แฮมเมอร์ ประวัติของพวกเขาเป็นเรื่องที่หน้าเศร้าและไม่เป็นที่ยอมรับ ในอดีตเมื่อ 1,000 ปีก่อนเผ่าพันธุ์ของเอลดาร์แข็งแกร่งมากจนสามารถยึดครองจักรวาลได้ พลังของเอลดาร์เพียงตนเดียวสามารถเปลี่ยนรูปร่างของดวงดาว และแล้วในที่สุดเอลดาร์ก็สูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไป  อันเนื่องมาจากความสะดวกสะบายจากพลังของพวกเขา 

     แต่นั่นยังไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุด โดยที่พวกเขาส่วนใหญ่ไม่รู้ การที่พวกเอลดาร์ใช้พลังของพวกเขาได้เพิ่มความแปรปรวนในพายุวาร์ป จนความแปรปรวนนี้ส่งผลถึงพวกพระเจ้าแห่งเคออสที่มีนามว่า สลาเนช (Slaanesh) เมื่อสลาเนชเกิด พลังของมันส่งผลกระทบผ่านพายุวาร์ปไปจนถึงพวกเอลดาร์และทำลายเผ่าพันธุ์พวกเขาจนเกือบหมด

     กลุ่มผุ้รอดชีวิตบางกลุ่ม ต่างกระจัดกระจายไปทั่วกาแล็กซี่ และได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ทำให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำสอง พวกเขาฝึกฝนตนเอง
    พยายามไม่ให้เกิดความแตกแยกภายในกลุ่ม ในตอนี้พวกเขาต่อสู้เพื่อป้องกันมิให้พวกเขาหายสาบสูญไปจากกาแล็กซี่ 

     ในสนามรบ พวกเอลดาร์เปรียบเสมือน "กองทัพเจ้าเล่ห์" กองทัพพวกเขามีจำนวนน้อย กองทัพของพวกเขาเกื้อหนุนกันอย่างสมบูรณ์แบบ กองทัพของพวกเขาเปรียบเสมือนวงดนตรี ถ้าพวกเขาเลือกใช้ยุทธวิธีที่ถูกต้องถูกจังหวะ พวกเขาก็จะหนึ่งในกองทัพที่สวยงามและยากที่จะหยุดยั้งได้

     แต่ใช่ว่าเผ่าพันธุ์ของเอลดาร์ จะมีเพียงพวกเดียว แน่นอนว่าพวกเอลดาร์นั้นเปรียบเสมือนผู้ถูกสาป ในเดือนปีที่ผ่านไปอย่างไม่จบสิ้น พวก "ดาร์ค เอลดาร์" (Dark Eldar) ได้จู่โจมเผ่าพันธุ์อื่นมาตลอด ฆ่าหรือจับผู้คนเป็นทาสตลอดเส้นทางที่พวกมันผ่าน การโจมตีของพวกเขา คือ โจมตีโดยไม่มีการเตือน จู่โจมการป้องกันที่บอบบางอย่างรวดเร็ว และ หายไปก่อนที่กำลังเสริมจะมาถึงเมื่อใดก็ตามที่ดาร์ค เอลดาร์จู่โจมดาวดวงใดดวงหนึ่ง ชาวพื้นเมืองจะรู้ว่า "ยอมสู้ตาย ดีกว่าถูกจับ" 

     พันกว่าปีมาแล้ว หลังการล่มสลายของอาราจักรเอลดาร์เล็กน้อย พวกเอลดาร์และดาร์ค เอลดาร์ ตอบสนองต่อเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นด้วยวิธีที่ต่างกันไป เอลดาร์ พยายามที่จะดำรงเผ่าพันธุ์ด้วยความมีสติและการควบคุมตนเอง พวกดาร์ค เอลดาร์ กลับยอมทำทุกอย่างเพื่อพระเจ้าแห่งเคออสเพื่อปัดเป่าภัยที่จะเกิดขึ้นกับพวกมัน ถ้าหาก ดาร์ค เอลดาร์ สามารถฆ่าและทรมานเผ่าพันธุ์อื่นเพื่อนายแห่งเคออสของพวกมันแล้วละก็ บางทีพระเจ้าแห่งเคออสอาจจะปล่อยและไม่สนใจพวกมันเลยก็เป็นได้

     หรืออีกนัยหนึ่ง คำปรัชญาทั้งหมดของดาร์ค เอลดาร์สามารถย่อได้จนเหลือแค่ "เจ้าตายดีกว่าข้าตาย" ("Better you than me") 

     ในสนามรบ ดาร์ค เอลดาร์คือกองโจรโดยแท้ ความเร็วคือพันธมิตรของพวกเขาโดยแท้ ชัยชนะของพวกดาร์ค เอลดาร์นั้นส่วนมากเกิดจากการตีโอบข้างศัตรูของพวกเขา พวกดาร์ค เอลดาร์มีเสื้อเกราะที่บอบบางแต่อาวุธของพวกเขาและทักษะการสู้รบระยะประชิดของพวกเขานั้นน่ากลัวมาก  พวกเขาไม่สามารถสู้รบในสงครามที่ยืดเยื้อได้ดีนัก ดังนั้นการโจมตีของดาร์ค เอลดาร์จะโจมตีอย่างรวดเร็วและรุนแรง ถ้ามีผู้นำที่มีประสบการ์ณแล้วกองทัพของดารืค เอลดาร์ก็ยากที่จะหยุดยั้งได้

    4 ไทแรนไนด์

     พวกไทแรนไนด์ได้โจมตีมนุษยชาติและเผาพันธุ์อื่นๆ เหตุผลเดียวที่พวกครึ่งหุ่นยนต์ครึ่งเอเลี่ยนพวกนี้จู่โจมเผ่าพันธุ์อื่นๆก็คือ "การล่าเพื่อหาอาหาร" ด้วยการดูดสับความสามารถของเครื่องมือทางพันธุกรรมทำให้พวกมันสามารถสร้างเครื่องจักรสังหารได้จากร่างกายของมันเอง 

     การบุกรุกครั้งแรกของพวกไทแรนไนด์ ถูกหยุดยั้งโดยเหล่ามนุษย์ แต่การต่อสู้ได้คิดราคาที่สูงยิ่ง พวกเขาเสียผู้คนจำนวนมาก ถ้าพวกไทแรนไนด์บุกอีกรอบพวกมนุษย์จะถูกเหยียบให้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ ซึ่งก็เป็นโชคดีของมนุษย์เพราะ พวกมันก็สูญเสียพวกพ้องไปเยอะเช่นกัน 

     พวกไทแรนไนด์บุกจู่โจมด้วยความเร็ว พวกมันอยู่รอดได้ก็เพราะการจู่โจมอย่างรวดเร็วและเลือดเย็นพวกมันกลืนกินเผ่าพันธุ์อื่นๆและยากที่จะหยุดยั้ง 

     ในสงครามพวกไทแรนไนด์ ถนัดในการจู่โจมในระยะประชิดและการล้อมกรอบคู่ต่อสู้ พวกมันมักจะมีจำนวนมากกว่าศัตรูของมัน อาวุธของมันประกอบด้วย กรงเล็บที่แข็งแกร่งดั่งเพชร ฟันที่คมกริบ และอาวุธชีวะภาพอีกมากมาย พวกมันจะบุกดั่งน้ำหลาก แม้แต่นักรบผู้เข้มแข็งที่สุดก็ยังได้แค่ภาวนาว่าพวกเขาจะมีข้อได้เปรียบเหนือพวกไทแรนไนด์ 

    5 เธา

     ในฝั่งตะวันตกของกาแล็กซี่ เผ่าพันธุ์ใหม่ได้ก่อกำเนิดขึ้น เพื่อท้าทายอำนาจของมนุษย์และเผ่าพันธุ์อื่นๆ พวกมันคือ เธา เผ่าพันธุ์ที่พัฒนาการสูงหรือเรียกอีกอย่างว่า "พวกที่ดีกว่า" 

     ในความต้องการที่จะเสียสละส่วนน้อยเพื่อประโยช์นส่วนมาก พวกเธาได้วางรากฐานอย่างมั่นคงและขยายไปอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาแค่ 6,000 ปีพวกเขาเปลี่ยนจากพวกอยู่ไร่นาเป็นพวกเชี่ยวชาญทางอวกาศชั้นยอด
     
     ด้วยการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้พวกเธามีความมั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดจะหยุดยั้งพวกเขาได้ ด้วยพลังทางวิทยาการที่สูงส่ง แน่นนอนว่าพวกเขาเชื่อว่าด้วยความสามารถของพวกจะสามารถนำสันติมาสู่กาแล็กซี่ได้ แต่เผ่าพันธุ์ทั้งหมดต้องมาสยบแทบเท้าของ "พวกที่ดีกว่า" 

     แน่นอนว่าพวกเธามีแผนสำรอง ด้วยการ "จัดการให้รู้แล้วรู้รอด" พวกเขาได้สร้างอาวุธระยะไกลที่อันตรายที่สุดในโลกแห่งวอร์แฮมเมอร์ ทหารพื้นฐานของพวกเธาเรียกว่า ไฟร์วอเรียะ(Firewarriors) ติดอาวุธปืนยาวพลังไฟฟ้า(Pulse Rifles)และปืนเล็กยาวพลังไฟฟ้า(Pulse Carbines) ที่สามารถเจาะทะลุผ่านเกราะได้เหมือนดาวตกทะลุผ่านหมู่เมฆ
     
     อาวุธพลังไฟฟ้าของพวกเขาอาจจะร้ายแรงอยู่แล้วแต่ พวกก็มีเกราะพลังงาน(Power Armor) และ ยานพาหนะต้านแรงโน้มถ่วง ชุดเกราะที่สามารถพรางตัวของพวกเขานั้นมีความสามารถสูง พวกเขาสามารถโผล่ไปหลังแนวข้าศึกแล้วระดมยิงอย่างสายฟ้าแลบ แล้วหายจ้อยไปก่อนที่ศัตรูจะรู้ตัว ยานรบแฮมเมอร์เฮด(Hammerhead)ของพวกเขาระดมยิงจนยานฝ่ายศัตรูเละเป็นผง ในขณะที่ยานขนส่งเดวิลฟิช(Devilfish Troop Carriers)ขนส่งพวกไฟร์วอเรียะเพื่อหาจุดระดมยิงที่ดีกว่า ในระยไกลนั้นเธา สามารถจัดการศัตรูได้ทุกรูปแบบ

     อย่างไรก็ดี พวกเธาไร้ซึ่งความสามารถในระยะประชิดตัว พวกเขาจ้างทหาร ครูท รับจ้างเพื่อมาเสริมข้อเสียเปรียบนี้ แต่ยังไรก็ตามพวกเธาก็ยังหลีกเลี่ยงที่จะสู้ในระยะประชิด อย่างไรเสียถึงแม้ว่าจะมีจำนวนจำกัดแต่พวกเธาก็ไม่ใช่พวกที่สามารถจะประมาทได้

    6 เนครอน 

     พวกเนครอนเป็นเผ่าพันธุ์ของพวกนักรบกระดูกปริศนาที่หลับไหลอยู่ในสุสานโบราณเป็นเวลาล้านล้านปี พวกมันเก่าแก่เกินกว่าจะจดจำได้ ไม่เว้นแม้แต่พวก      เอลดาร์ พวกมันตื่นขึ้นเมื่อนานมาแล้วเพราะกาแล็กซี่นั้นมีอาหารที่อุดมสมบูรณ์ให้พวกมันสูบกิน

     เรื่องราวของพวกเนครอนเกี่ยวกับเรื่องของการหักหลังในครั้งอดีต เมื่อหลายล้านล้านปีมาแล้ว  พวกเนครอนไทร์(Necrontyr)ยึดติดกับชีวิตอันแสนสั้นของพวกมัน และความกลัวที่จะไม่ได้ผุดได้เกิด อันเนื่องมาจากดวงดาวที่จองล้างจองผลาญพวกมัน ดังนั้นพวกมันจึงทุ่มเทให้กับวิทยาศาสตร์เพื่อยืดชีวิตของพวกมัน แต่ไม่มีผู้ใดทำสำเร็จ จากนั้นเมื่อพระเจ้าแห่งดวงดาวนามว่า ซีแทน(C'tan)ได้ให้ข้อเสนอที่จะมีชีวิตอมตะให้แก่พวกเนครอนไทร์ในราคาที่น่ากลัวมาก

     พวกเนครอนไทร์ตกลง ดังนั้นวิญญาณและร่างกายของพวกมันจึงเปลี่ยนสภาพเป็นเหล็ก ที่พวกมันไม่รู้ก็คือ นี่คือขั้นตอนที่จะเปลี่ยนพวกมันเป็นทาสของซีแทน ซีแทนต้องการนักรบทาสเพื่อดูดวิญญาณจากทั่วกาแล็กซี่ให้แก่ตัวมันเอง และพวกเนครอนก็ทำหน้าที่นี้ได้อย่างดี

     หลังจากไล่ล่าอย่างบ้าคลั่งจนหมดจักรวาล พวกมันก็กลับไปยังที่ที่พวกมันมา และรอคอยให้จักรวาลเต็มไปด้วยชีวิตอีกครั้ง 

     ในสนามรบ พวกเนครอนคือ เครื่องจักรสงครามที่ไม่ปริปากบ่น พวกมันนำความตายไปสู่เหยื่อของพวกมัน ใช้อาวุธพลังงานแม่เหล็กที่สามารถชีกกระชากโมเลกุลของข้าศึกได้ในการยิงเพียงครั้งเดียว พวกเนครอนมีพลังการยิงที่น่ากลัวและมีพลังที่สามารถรักษาตัวมันเองได้ ทำให้พวกมันเป็นที่หวาดกลัวในสนามรบ


    หมายเหตุ
    *มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่หาข้อมูลและเข้าถึงได้ง่ายที่สุด จึงมีข้อมูลมากกว่าเผ่าอื่นๆ
    ( 2 เผ่าพันธุ์ของมนุษย์ที่ไม่ได้กล่าวถึง 1.Daemon Hunters 2. Wtich Hunter)

    **เนื่องจากพวกออร์คไม่ค่อยฉลาดจึงใช้ภาษาอย่างผิดๆถูกๆ ดังนั้นการแปลจะแปลให้ตรงตัวที่สุดเท่าที่จะทำได้

    ตัวอย่างการใช้คำของออร์ค

          Waaaghs! = War
              Humies = Human
             Truk      = Truck
             


     
       

                    

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×