ตอนที่ 4 : Caress you 4
เธอก้าวเท้าเข้าห้องทำงานอย่างมีความหวังกะว่าจะเดินเข้าไปแล้วเจออีกคนนั่งทำงานเหมือนทุกครั้ง แต่เธอก็ต้องหุบยิ้มเล็กๆนั้นลงเมื่อในห้องนั้นมันว่างเปล่า
วันนี้ทั้งวันคิมยงซอนไม่มีสมาธิทำอะไรทั้งนั้นในเมื่อตอนนี้ปาไปบ่ายสามโมงแล้วอีกคนก็ยังไม่ทักมา เธอจับมือถือขึ้นมาดูหลายคราแต่ก็พบกำลังความว่างเปล่า
“ เอาไงดีเนี่ย “ ยงซอนปลดล็อกโทรศัพท์ก่อนจะกดเข้าไปในแอปพลิชั่นที่คุ้นตา
“ เห้อ.....“ สุดท้ายยงซอนก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดและวางมือถือไว้ที่เดิม
เวลาสุดท้ายของการทำงานในวันนี้กำลังจะมาถึง เธอไม่กล้าแม้แต่จะปริปากถามพนักงานคนอื่นว่าเจ้านายที่เคยนั่งตรงนี้หายไปไหนทั้งวัน ในที่สุดก็เป็นคิมยงซอนเองที่หยิบโทรศัพท์ออกมาเป็นครั้งที่สองของวัน
เธอชั่งใจอยู่นานก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ข้อความสั้นๆลงไปในหน้าต่างแชทของคนๆหนึ่ง
‘ คุณหายไปไหนทั้งวันเลยคะ ‘ จากนั้นยงซอนก็เก็บของใส่กระเป๋าเตรียมตัวจะกลับบ้าน พอนึกถึงการกลับบ้านแล้วเจ้าตัวก็นึกหงุดหงิดขึ้นมา ทุกวันจะมีคนไปส่งตลอดนี่นา.... ถามว่ากลับเองได้ไหม แน่นอนต้องได้อยู่แล้วแต่เธอเพียงรู้สึกไม่ชินก็เท่านั้น
ทันทีที่ก้าวขาออกจากห้องทำงานก็ได้ยินเสียงตึกตักดังมาแต่ไกล ไม่นานผู้หญิงผมสีทองที่เธอรอคอยมาทั้งวันก็ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับเสียงเหนื่อยหอบ
“ อ้าวคุณฮวีอิน “ ยงซอนพูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบๆ เพราะในใจกำลังน้อยใจคนตรงหน้าอยู่
“ ค่ะ..ฉันเอง “ ฮวีอินตอบทั้งๆที่ยังหอบไม่หยุด
“ มาทำอะไรหรอคะ นี่เวลาเลิกงานแล้วค่ะ “ ยงซอนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“ ฉันก็มารับคุณไงคะ “ ฮวีอินพูดขึ้นทำเอาในใจยงซอนเต้นแรงเล็กน้อย แต่ความน้อยใจมันมีมากกว่าเลยทำให้เธอเลือกปฏิเสธไป
“ ฉันกลับเองได้ค่ะ ...“ พูดจบยงซอนก็เดินออกไปจากตรงนั้นทันที ทำเอาคนที่ยังยืนหอบไม่เข้าใจสถานการณ์เอาเสียเลย เมื่อยงซอนเดินนำหน้าไปไม่นานก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้เธอต้องหยุดฝีเท้าลงทันที
“ กล้าขัดหรอคะ “ ฮวีอินพูดจบแล้วเดินอ้อมมาอยู่ด้านหน้ายงซอนอย่างผู้ชนะ หนึ่งคำสั้นๆแต่กลับแทนทุกอย่างที่ยงซอนจำเป็นจะต้องทำตาม เธอเดินตามตูดฮวีอินไปเรื่อยๆเหมือนเด็กงอแงอยากซื้อของเล่น ก่อนจะขึ้นรถไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด
วันนี้ในรถคันหรูมันช่างเงียบงันเหลือเกินไม่มีแม้แต่เสียงฝ่ายใดฝ่ายหึ่งหลุดออกมา เสียงในรถเองก็ไม่ได้เปิดทำเอาบรรยากาศตอนนี้มันอึมครึมไปหมด
“ เป็นอะไรทำไมเงียบจังคะ “ เป็นเจ้าของรถที่หยุดความเงียบลงและถามอีกฝ่ายไป
“ เปล่าค่ะ “ ยงซอนตอบสั้นๆก่อนถอนหายใจอย่างแรงแล้วเบือนหน้าไปมองริมทางด้านนอกแทน ด้วยเหตุนั้นจองฮวีอินที่เคยใจเย็นกลับหงุดหงิดขึ้นมาทันที เธอเหยียบคันเร่งรถคันหรูเกือบสุด ความเร็วของรถก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วยทำเอาคนที่กำลังเหม่อลอยมองด้านนอกตกใจขึ้นมา
“ นี่คุณ... ฉันบอกก็ได้ “ ฮวีอินยังคงเหยียบคันเร่งจนเกือบมิดเหมือนเดิมและมีท่าทีว่าจะขับเร็วขึ้นด้วย
“ คุณหายไปทั้งวันแบบนี้จะให้ฉันรู้สึกยังไง “ ยงซอนพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและน้อยใจบวกกับความดังของเสียงที่ดังขึ้นราวกับว่าเธออึดอัดเหลือเกินกับเรื่องในวันนี้ ทำเอาจองฮวีอินผ่อนคันเร่งและเปิดไปเลี้ยวเบี่ยงรถเข้าจอดข้างทางทันที
จองฮวีอินปลดเข็มขัดก่อนจะค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ยงซอน จนตอนนี้คนที่เคยน้อยใจหัวใจเต้นแรงแทบจะหลุดออกมาจากอกข้างซ้าย
“ วันนี้ท่านประธานให้คนมารับแต่เช้าที่คอนโด แล้วฉันก็ต้องไปงานเปิดตัวธุรกิจใหม่แทนท่าน โทรศัพท์ก็ไม่ได้พกไปเพราะรีบ นี่พอเสร็จงานฉันก็รีบเข้าคอนโดไปเอารถแล้วมารับคุณเลย.. “
“ ค่ะ..“ ยงซอนตอบทั้งๆที่สายตายังคงมองอยู่ที่ด้านนอกหน้าต่าง
“ ฉันก็พยายามมจะติดต่อกับคุณแต่มันก็ไม่ได้จริงๆ ฉันขอโทษนะคะ “ ฮวีอินพูดด้วยความรู้สึกจากส่วนลึกของใจ ยงซอนได้ยินอย่างนั้นจึงฉันกลับมาเพื่อที่จะตอบกลับ แต่ก็สะดุดเข้ากำลังสายตาของอีกฝ่าย สายตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจและสื่อออกมาว่าเธอไม่ได้โกหกทำเอายงซอนใจอ่อนและเชื่อทุกอย่างที่อีกฝ่ายพูดมา
“ ที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้ เราไม่ได้เป็นอะไรกันนี่คะ “ ยงซอนตอบฮวีอินแล้วฉีกยิ้มออกมาเล็กน้อย ฮวีอินขยับตัวออกก่อนจะเตรียมตัวขับรถต่อไป..
ระหว่างทางกลับคอนโดฮวีอินก็พูดแทรกท่ามกลางความเงียบขึ้นมาอีกครั้งด้วยเสียงจริงจังปนเคอะเขิน
“ แล้วฉันต้องเป็นอะไรหรอคะ ถึงจะต้องตอบเรื่องพวกนี้กับคุณได้” ฮวีอินพูดจบแล้วหันหน้าไปมองยงซอนเล็กน้อย
คิมยงซอนนั่งเงียบตัวแข็งมากกว่าเดิม ในใจเธอรู้ว่าควรจะตอบอะไร แต่ทว่าตอนนี้หากเธอต้องเป็นคนพูดมันจะดูไม่ดีรึเปล่านะ ยงซอนคิดในใจ
“ งั้นฉันขอจีบคุณได้ไหมคะ ... “ ฮวีอินพูดประโยคนี้ขึ้นหลังจากจอดรถที่หน้าคอนโดของคิมยงซอนพอดี ยงซอนไม่ตอบอะไรแต่มีท่าทีอึ้งๆไป ก่อนจะรีบเก็บของใส่กระเป๋าและลงจากรถทันที
“ ฉันเดินขึ้นไปส่งนะคะ “ ฮวีอินพูดจบและเดินนำหน้าอีกคนเข้าคอนโดไปทำเอายงซอนเลือกที่จะปฏิเสธไม่ได้ต้องเดินตามไปอย่างอัตโนมัติ
ทั้งๆที่ระยะทางจากชั้นหนึ่งมาถึงห้องเธอมันก็ไม่ได้ยาวอะไรมากมายแต่ทำไมวันนี้เธอกลับรู้สึกว่าระยะทางมันยาวเหลือเกิน ไม่นานทั้งสองก็เดินมาหยุดที่หน้าห้องของยงซอน ฮวีอินยกมือขึ้นโบกลาแล้วอีกฝ่ายก็โบกตอบ
ไม่ทันที่คิมยงซอนจะได้ปิดประตูลงเสียงหวานๆของเจ้านายก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“ ถ้าคุณยังไม่ตอบ แล้วจะปิดประตูใส่ฉันแบบนี้ฉันจะถือว่าคุณยอมให้ฉันจีบแล้วนะคะ “ คิมยงซอนขาไม่มีแรงทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น ดีที่ในห้องยังคงมืดสนิทไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายคงจะได้เห็นใบหน้าสีเลือดฝาดของเธอแน่ๆ ไม่นานคิมยงซอนก็รวบรวมแรงทั้งหมดที่มี...
‘ กรึ้บ.. ‘ เธอปิดประตูอย่างเบามือ เสียงแม่เหล็กของประตูอัตโนมัติดังขึ้นทำเอาฮวีอินก็ยืนจ้องแต่เท่าตัวเองต้องละสายตาขึ้นมาดู
ฮวีอินพิจารณาเหตุการณ์ตรงหน้าสักพักแล้วฉีกยิ้มออกมาจนแก้วนั้นบุ๋มเพราะลักยิ้มนี่คิมยงซอนยอมให้เธอจีบแล้วสินะ..
_________________________
มาแล้วค่ะตอนที่ 4 หนึ่งคอมเม้น = 1 กำลังใจในการแต่งต่อไปนะคะขอบคุณทุกคนมากๆนะคะ มีอะไรอยากติเม้นท์ได้เลย อยากชมก็เม้นได้น้าอิอิ จะพยายามแต่งต่อไปให้ดีกว่านี้นะคะ สำหรับวันนี้ขอบคุณคับผม
ปล.... ตอนหน้าเค้าจะสกินชิพกันแล้วนะคะทุกคน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ดีใจมากที่ทั้งสองใจตรงกัน ว่าแต่พิยงไปงอนคุณบอสนี่ก็ชัดแล้วมั้งคะว่าคิดยังไงอยู่ อิอิ จีบเลยยยยยย