ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : -ตอนที่ 1
- บทที่ 1 ปรากฏตัว
  ในคืนวันเพ็ญ ที่จันทร์ลอยกระจ่างฟ้า จนสว่างตาเทียบได้กับกลางวัน  แสงที่อบอุ่น งดงาม แต่แฝงเร้นไปได้พลัง
  ราตรีนี้เป็นวันที่แสงจันทร์ทรงฤทธิ์ในรอบ 100 ปี ภูตราตรี เหล่าปิศาจ ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งมวลต่างมัวเมาในแสงสีนวลกระจ่าง
  ...เหมือนจะอ่อนโยน... แต่กลับปลุกเลือดในกายให้แล่นพล่าน ไม่ว่าใครหากต้องแสงจันทร์จะถูกพลังแห่งมนต์ขลังดึงจิตใจด้านชั่วร้าย และมอบพลังมหาศาล
    ดังนั้นจึงเป็นอีกวันที่เหล่าร้าย ไม่ว่าจะเป็นคน ปิศาจ หรือสัตว์ต่าง  เลือกที่จะทำลายทุกสิ่งที่กีดขวางทางให้พังพินาศ มีความตายเกิดขึ้นทั่วทุกหนแห่ง...เนื่องจากแสงสีนวล
  และหมู่บ้านน้อยริมทะเลเมเดอุสแห่งนี้คงหนีไม่พ้นอาเพศนี้  ผู้คนที่มีจิตใจหยาบช้ากระหายเลือดลุกขึ้นมาเข่นฆ่ากันเอง แม้มีเสียงห้ามปราม หวีดร้อง แต่ก็มิได้ช่วยหยุดเหตุการณ์นี้ไม่
  และแล้วเหล่าภูตราตรีสิ่งมีชีวิตที่ทรงอำนาจที่สุดในยามค่ำก็ปรากฎกายขึ้น เพื่อมารับคนของท่านจ้าว ผู้ผูกพันตามพันธสัญญาในอดีต ที่นางพรายแห่งเมเดอุส ซึ่งทรยศเผ่าพันธ์ไปสมสู่กลับมนุษย์จนให้กำเนิดทารกที่น่าละอาย เด็กซึ่งทั้งแผ่นดินและผืนน้ำต่างไม่ยอมรับ ทำให้ทารกน้อยไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ ด้วยพรายแรกเกิดจะต้องอยู่ในน้ำลึกที่บริสุทธิ์ แต่มนุษย์นั้นหายใจในน้ำไม่ได้ ทั้งนางพรายและสามีต่างอ้อนวอนต่อจ้าวราตรีผู้เป็นใหญ่ ขอให้เด็กคนนี้มีชีวิตรอด ผู้ยิ่งใหญ่แห่งราตรีจึงสร้างพันธสัญญา
  \"หากเด็กคนนี้อายุ 16 จักต้องกลับคืนสู่อ้อมกอดแห่งราตรี\"
ดังนั้นวันนี้วันเกิดครบรอบ 16 ปีของเมเวียจึงเป็นวันที่เด็กน้อยจำต้องกลับไป... [เพื่อทดแทน
  เมเวีย ผู้มีผมสีทองเป็นลอนสยายแบบพราย ร่างบางอรชรบอบบางน่าทนุถนอม ดวงตากลมโตสีเขียวใสน่ารัก... ทว่าเขากลับเป็นชาย เพราะตามธรรมชาติ พรายที่เกิดในวันจันทร์เต็มดวงล้วนแต่เป็นอิสตรี แต่แม่ของเมเวียกลับสมสู่กับมนุษย์ และให้กำเนิดเด็กน้อยออกมาทำให้เมเวียมีรูปลักษณ์บางอย่างคล้ายพราย
  เด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่าพ่อแม่ของตนเป็นใคร เพราะหลังจากขอพรจากจ้าวราตรีไม่นานทั้งสองก็ตกเป็นเหยื่อของสงคราม  หญิงชราผู้อารีจึงเลี้ยงดูเด็กน้อยให้เติบใหญ่ จนถึงวันนี้... วันที่จ้าวราตรีจะทวงสัญญาคืน
  เหล่ามนุษย์ผู้โง่เขล่าและอ่อนแอพ่ายแพ้ต่อฤทธิ์แห่งแสงจันทร์ทำให้มันหื่นกระหาย และตรงมาที่กระท่อมท้ายหมู่บ้าน
‘โครม ’
เสียงประตูถูกเท้าของคนเหล่านั้นพยายามพังเข้ามา ทำให้ร่างเล็กสะดุ้ง ตื่นจากนิทราอันแสนหวาน
‘.. ปัง..’
ประตูถูกทำลาย มนุษย์ใจบาปก้าวเข้ามา
“ท..ทำอะไรน่ะ เจ้าต้องการอะไร” เสียงหวานสั่นถาม
  ไร้ซึ่งเสียงตอบ มีเพียงความหื่นกระหายในดวงตาที่วาวโรตจ์ของพวกมันเท่านั้น
  เมเวียรู้สึกถึงภัยที่กำลังมาถึงจึงรีบหาทางหนี แต่เรี่ยวแรงจากร่างน้อยหรือจะเทียบกับคนเหล่านั้นได้ ร่างบอบบางถูกมือหลายมือจับขึงไว้กับโต๊ะไม้กลางห้อง เสื้อผ้าชุดนอนถูกมือเหล่านั้นกระชากออกจนขาดวิ่น ดวงตากลมโตคลอด้วยหยดน้ำใสๆ มือน้อยถูกแรงชายจับไว้จนไม่อาจขัดขืนได้ ต้องทนกับสายตาโลมเลียที่มองตน ความขยะแขยงผุดขึ้นในสมอง
‘ใครก็ได้ช่วยด้วย’
ในใจกรีดร้องแต่ปากกลับถูกมือใหญ่ปิดไว้
  ทันใดนั้นร่างที่รุมล้อมเมเวียก็กระเด็นลงไปล้มกลิ้งอยู่บนพื้นอย่างเจ็บปวด เมเวียยันกายลุกขึ้นเพื่อมองผู้มาใหม่ เขาเป็นชายร่างสูงผมสีดำ มีดวงตาคมกริบสีทองดูลึกลับและทรงอำนาจ สวมอาภรณ์สีดำสนิทตัดกับแผ่นอกขาว เปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่ง ท่าทีงามสง่า กับอำนาจลึกลับที่ดูเหมือนไม่ใช่มนุษย์สะกดทั้งสายตาและลมหายใจของเมเวีย หัวใจดวงน้อยเต้นผิดจังหวะ และแล้วชายหนุ่มก็ก้าวมาถึงตัวแล้วใช้แรงเพียงน้อยนิดอุ้มร่างบอบบางขึ้น
  “อ๊ะ จะ..จะทำอะไร ท่านเป็นใครน่ะ ปล่อยข้านะ ช่วยด้วย!!!” เมื่อร่างสูงไม่ปล่อยเมเวียก็ดิ้นหวังจะได้รับอิสระ ทั้งทุบทั้งข่วน แต่ร่างสูงไม่มีปฏิกิริยาเลย กลับอุ้มเขาแล้วเดินเฉย
เมื่อออกมาถึงหน้าบ้าน เมเวียก็ต้องแปลกใจ เพราะมีคนทั้งหญิงและชายในชุดดำนั่งคุกเข่ารับร่างสูงเต็มไปหมด และไม่ทันคาดคิด ร่างสูงที่คาดว่าจะไม่ใช่มนุษย์ก็มีปีกสีดำสนิทงอกออกมา  แค่ขยับเพียงครั้งเดียว ทั้งเขาและเมเวียก็ลอยอยู่บนท้องฟ้ายามราตรีเรียบร้อยแล้ว คนตัวเล็กตกใจกอดคอร่างสูงไว้แน่นเพราะกลัวตก อาการนี้กลับเรียกเสียงหัวเราะจากคนตัวโตที่นิ่งมาตลอดได้
“หัวเราะอะไรน่ะ ไม่ตลกเลยนะ” เสียงใสแหว ดวงหน้างอหงิก แต่กลับดูน่ารัก จนกลั้นหัวเราะไม่ไหว แล้วเสียงทุ้มนุ่มหูก็ทำให้เมเวียทั้งโกรธทั้งอายจนหน้าแดงก่ำ จนลืมว่าตนลอยอยู่บนฟ้า จะเงื้อมือทุบอกคนที่อุ้มอีกครั้ง
“ไม่กลัวตกก็ทุบอีกสิ” เสียงทุ้มเอ่ยกับเขาเป็นครั้งแรก
“ก็หัวเราะข้าทำไมล่ะ ท่านต้องการอะไร จับข้ามาทำไม”
“ถามเป็นชุดอย่างนี้ข้าจะตอบทันเหรอ” เสียงทุ้มกลั้วหัวเราะ ดวงตาสีทองแฝงแววเอ็นดู
“ข้าคือ จ้าวราตรี อัสซา และเจ้ามีพันธะสัญญากับข้า  พรายน้อย” คำตอบนี้ทำให้เมเวียขมวดคิ้ว
‘พันธะสัญญาอะไร’ เมเวียคิดในใจ และเหมือนคนตัวโตจะอ่านใจได้ เสียงทุ้มจึงต่อ
“เดี๋ยวเจ้าก็รู้เอง พรายน้อย” ร่างสูงพูดต่อเมื่อเห็นคนในอ้อมแขนขมวดคิ้ว
  และอึดใจเดียวปราสาทหินหลังใหญ่ก็ปรากฏแก่สายตา  เด่นสง่าอยู่กลางหุบเขา แม้ในยามค่ำคืน  มีแค่แสงจันทร์ยังงดงามกระจ่างตาขนาดนี้ หากในยามเช้าคงเหมือนภาพในเทพนิยาย แล้วอัสซาก็ลงสู่พื้นดิน แล้วอุ้มร่างบางที่กำลังตกตะลึงเข้าสู่ตัวปราสาท
-จบบทที่ 1
  ในคืนวันเพ็ญ ที่จันทร์ลอยกระจ่างฟ้า จนสว่างตาเทียบได้กับกลางวัน  แสงที่อบอุ่น งดงาม แต่แฝงเร้นไปได้พลัง
  ราตรีนี้เป็นวันที่แสงจันทร์ทรงฤทธิ์ในรอบ 100 ปี ภูตราตรี เหล่าปิศาจ ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งมวลต่างมัวเมาในแสงสีนวลกระจ่าง
  ...เหมือนจะอ่อนโยน... แต่กลับปลุกเลือดในกายให้แล่นพล่าน ไม่ว่าใครหากต้องแสงจันทร์จะถูกพลังแห่งมนต์ขลังดึงจิตใจด้านชั่วร้าย และมอบพลังมหาศาล
    ดังนั้นจึงเป็นอีกวันที่เหล่าร้าย ไม่ว่าจะเป็นคน ปิศาจ หรือสัตว์ต่าง  เลือกที่จะทำลายทุกสิ่งที่กีดขวางทางให้พังพินาศ มีความตายเกิดขึ้นทั่วทุกหนแห่ง...เนื่องจากแสงสีนวล
  และหมู่บ้านน้อยริมทะเลเมเดอุสแห่งนี้คงหนีไม่พ้นอาเพศนี้  ผู้คนที่มีจิตใจหยาบช้ากระหายเลือดลุกขึ้นมาเข่นฆ่ากันเอง แม้มีเสียงห้ามปราม หวีดร้อง แต่ก็มิได้ช่วยหยุดเหตุการณ์นี้ไม่
  และแล้วเหล่าภูตราตรีสิ่งมีชีวิตที่ทรงอำนาจที่สุดในยามค่ำก็ปรากฎกายขึ้น เพื่อมารับคนของท่านจ้าว ผู้ผูกพันตามพันธสัญญาในอดีต ที่นางพรายแห่งเมเดอุส ซึ่งทรยศเผ่าพันธ์ไปสมสู่กลับมนุษย์จนให้กำเนิดทารกที่น่าละอาย เด็กซึ่งทั้งแผ่นดินและผืนน้ำต่างไม่ยอมรับ ทำให้ทารกน้อยไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ ด้วยพรายแรกเกิดจะต้องอยู่ในน้ำลึกที่บริสุทธิ์ แต่มนุษย์นั้นหายใจในน้ำไม่ได้ ทั้งนางพรายและสามีต่างอ้อนวอนต่อจ้าวราตรีผู้เป็นใหญ่ ขอให้เด็กคนนี้มีชีวิตรอด ผู้ยิ่งใหญ่แห่งราตรีจึงสร้างพันธสัญญา
  \"หากเด็กคนนี้อายุ 16 จักต้องกลับคืนสู่อ้อมกอดแห่งราตรี\"
ดังนั้นวันนี้วันเกิดครบรอบ 16 ปีของเมเวียจึงเป็นวันที่เด็กน้อยจำต้องกลับไป... [เพื่อทดแทน
  เมเวีย ผู้มีผมสีทองเป็นลอนสยายแบบพราย ร่างบางอรชรบอบบางน่าทนุถนอม ดวงตากลมโตสีเขียวใสน่ารัก... ทว่าเขากลับเป็นชาย เพราะตามธรรมชาติ พรายที่เกิดในวันจันทร์เต็มดวงล้วนแต่เป็นอิสตรี แต่แม่ของเมเวียกลับสมสู่กับมนุษย์ และให้กำเนิดเด็กน้อยออกมาทำให้เมเวียมีรูปลักษณ์บางอย่างคล้ายพราย
  เด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่าพ่อแม่ของตนเป็นใคร เพราะหลังจากขอพรจากจ้าวราตรีไม่นานทั้งสองก็ตกเป็นเหยื่อของสงคราม  หญิงชราผู้อารีจึงเลี้ยงดูเด็กน้อยให้เติบใหญ่ จนถึงวันนี้... วันที่จ้าวราตรีจะทวงสัญญาคืน
  เหล่ามนุษย์ผู้โง่เขล่าและอ่อนแอพ่ายแพ้ต่อฤทธิ์แห่งแสงจันทร์ทำให้มันหื่นกระหาย และตรงมาที่กระท่อมท้ายหมู่บ้าน
‘โครม ’
เสียงประตูถูกเท้าของคนเหล่านั้นพยายามพังเข้ามา ทำให้ร่างเล็กสะดุ้ง ตื่นจากนิทราอันแสนหวาน
‘.. ปัง..’
ประตูถูกทำลาย มนุษย์ใจบาปก้าวเข้ามา
“ท..ทำอะไรน่ะ เจ้าต้องการอะไร” เสียงหวานสั่นถาม
  ไร้ซึ่งเสียงตอบ มีเพียงความหื่นกระหายในดวงตาที่วาวโรตจ์ของพวกมันเท่านั้น
  เมเวียรู้สึกถึงภัยที่กำลังมาถึงจึงรีบหาทางหนี แต่เรี่ยวแรงจากร่างน้อยหรือจะเทียบกับคนเหล่านั้นได้ ร่างบอบบางถูกมือหลายมือจับขึงไว้กับโต๊ะไม้กลางห้อง เสื้อผ้าชุดนอนถูกมือเหล่านั้นกระชากออกจนขาดวิ่น ดวงตากลมโตคลอด้วยหยดน้ำใสๆ มือน้อยถูกแรงชายจับไว้จนไม่อาจขัดขืนได้ ต้องทนกับสายตาโลมเลียที่มองตน ความขยะแขยงผุดขึ้นในสมอง
‘ใครก็ได้ช่วยด้วย’
ในใจกรีดร้องแต่ปากกลับถูกมือใหญ่ปิดไว้
  ทันใดนั้นร่างที่รุมล้อมเมเวียก็กระเด็นลงไปล้มกลิ้งอยู่บนพื้นอย่างเจ็บปวด เมเวียยันกายลุกขึ้นเพื่อมองผู้มาใหม่ เขาเป็นชายร่างสูงผมสีดำ มีดวงตาคมกริบสีทองดูลึกลับและทรงอำนาจ สวมอาภรณ์สีดำสนิทตัดกับแผ่นอกขาว เปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่ง ท่าทีงามสง่า กับอำนาจลึกลับที่ดูเหมือนไม่ใช่มนุษย์สะกดทั้งสายตาและลมหายใจของเมเวีย หัวใจดวงน้อยเต้นผิดจังหวะ และแล้วชายหนุ่มก็ก้าวมาถึงตัวแล้วใช้แรงเพียงน้อยนิดอุ้มร่างบอบบางขึ้น
  “อ๊ะ จะ..จะทำอะไร ท่านเป็นใครน่ะ ปล่อยข้านะ ช่วยด้วย!!!” เมื่อร่างสูงไม่ปล่อยเมเวียก็ดิ้นหวังจะได้รับอิสระ ทั้งทุบทั้งข่วน แต่ร่างสูงไม่มีปฏิกิริยาเลย กลับอุ้มเขาแล้วเดินเฉย
เมื่อออกมาถึงหน้าบ้าน เมเวียก็ต้องแปลกใจ เพราะมีคนทั้งหญิงและชายในชุดดำนั่งคุกเข่ารับร่างสูงเต็มไปหมด และไม่ทันคาดคิด ร่างสูงที่คาดว่าจะไม่ใช่มนุษย์ก็มีปีกสีดำสนิทงอกออกมา  แค่ขยับเพียงครั้งเดียว ทั้งเขาและเมเวียก็ลอยอยู่บนท้องฟ้ายามราตรีเรียบร้อยแล้ว คนตัวเล็กตกใจกอดคอร่างสูงไว้แน่นเพราะกลัวตก อาการนี้กลับเรียกเสียงหัวเราะจากคนตัวโตที่นิ่งมาตลอดได้
“หัวเราะอะไรน่ะ ไม่ตลกเลยนะ” เสียงใสแหว ดวงหน้างอหงิก แต่กลับดูน่ารัก จนกลั้นหัวเราะไม่ไหว แล้วเสียงทุ้มนุ่มหูก็ทำให้เมเวียทั้งโกรธทั้งอายจนหน้าแดงก่ำ จนลืมว่าตนลอยอยู่บนฟ้า จะเงื้อมือทุบอกคนที่อุ้มอีกครั้ง
“ไม่กลัวตกก็ทุบอีกสิ” เสียงทุ้มเอ่ยกับเขาเป็นครั้งแรก
“ก็หัวเราะข้าทำไมล่ะ ท่านต้องการอะไร จับข้ามาทำไม”
“ถามเป็นชุดอย่างนี้ข้าจะตอบทันเหรอ” เสียงทุ้มกลั้วหัวเราะ ดวงตาสีทองแฝงแววเอ็นดู
“ข้าคือ จ้าวราตรี อัสซา และเจ้ามีพันธะสัญญากับข้า  พรายน้อย” คำตอบนี้ทำให้เมเวียขมวดคิ้ว
‘พันธะสัญญาอะไร’ เมเวียคิดในใจ และเหมือนคนตัวโตจะอ่านใจได้ เสียงทุ้มจึงต่อ
“เดี๋ยวเจ้าก็รู้เอง พรายน้อย” ร่างสูงพูดต่อเมื่อเห็นคนในอ้อมแขนขมวดคิ้ว
  และอึดใจเดียวปราสาทหินหลังใหญ่ก็ปรากฏแก่สายตา  เด่นสง่าอยู่กลางหุบเขา แม้ในยามค่ำคืน  มีแค่แสงจันทร์ยังงดงามกระจ่างตาขนาดนี้ หากในยามเช้าคงเหมือนภาพในเทพนิยาย แล้วอัสซาก็ลงสู่พื้นดิน แล้วอุ้มร่างบางที่กำลังตกตะลึงเข้าสู่ตัวปราสาท
-จบบทที่ 1
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น