ข้ารับใช้ปีศาจ [fiction ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง 'ข้ารับใช้ปีศาจ']
หากว่าเธอคือเจ้าหญิง เขาเป็นเพียงคนเคียงกายา แม้กำเนิด เกิดร่วมมา แต่ชะตาพาให้แปรผัน...ดุจดั่งใครขีดเส้นไว้ให้ป้องภัยแค่เธอผู้นั้น มิได้หวั่น บาป ร้าย มาร เขายินยอมพร้อมเพื่อเธอ
ผู้เข้าชมรวม
289
ผู้เข้าชมเดือนนี้
20
ผู้เข้าชมรวม
ข้ารับใช้ปีศาจ เพลง ฟิค นิยาย แรงบันดาลใจ แฟนตาซี องค์ชาย องค์หญิง ฝาแฝด แฝดชายหญิง สงคราม ดราม่า สลับเพศ เอาชีวิตรอด การเมือง
ข้ารับใช้ปีศาจ
กาลครั้งหนึ่งได้มีสองฝาแฝดถือกำเนิดขึ้น คนนหนึ่งเป็นชาย อีกคนหนึ่งเป็นหญิง พวกเขาเกิดมาพร้อมกับเสียงระฆังอวยพร เมื่อพวกเขาลืมตาขึ้นมา ก็เปรียบเสมือนแสงเทียนส่องสว่างที่มอบความหวังให้กับคนทั้งอาณาจักร แต่ทว่า...พวกเขากลับมีชะตาที่ต่างกัน แม้จะเกิดมาพร้อมกันก็ตาม
เหล่าขุนนางและจักรพรรดิที่เชื่อคำทำนายของโหรหลวงที่ว่า ‘หากหนึ่งดาราจักเป็นเป็นพร อีกหนึ่งจันทราจักเป็นภัย’ พวกเขาเข้าใจว่า หนึ่งดารา คือองค์หญิง ส่วนหนึ่งจันทรา คือองค์ชาย
เพื่อที่จักมิให้ดาราต้องแปดเปื้อน พวกเขาจึงจ้องการแยกดาราและจันทราออกจากกันชั่วกาล
หากแต่ใต้แผ่นฟ้ากว้างไกล ไม่ว่าสรรพสิ่งใด จะกลับกลายหายไป และจักสิ้นสลายไปทั้งหมด หากดาราดวงนั้นมิได้ถูกปกป้องจากจันทรา...
แฝดชายหญิงที่มีชะตาต่างกัน ถูกเลี้ยงมาด้วยกันแต่ก็เหมือนกลับอยู่คนละโลก หากว่าเธอคือเจ้าหญิง เขาเป็นเพียงคนเคียงกายา แม้กำเนิด เกิดร่วมมา แต่ชะตาฟ้าให้แปรผัน ดุจดั่งใครขีดขังไว้ ให้ป้องภัยเธอผู้นั้น มิได้หวั่น ปาบ ร้าย มาร เขายินย้อม พร้อมเพื่อเธอ
“ขอแค่พระองค์ทรงยิ้มอย่างมีความสุขได้....กระหม่อมก็พร้อมที่จะมอบทุกสิ่งและทำทุกอย่างเพื่อพระองค์พะยะค่ะ ดวงดาราของกระหม่อม” แฝดชายขององค์หญิงกล่าวพร้อมกับจูบหลังมือของเธออย่างภัคดี
แฝดชายถูกสังคมหล่อหลอมและถูกสั่งสอนให้ทำทุกอย่างเพื่อปกป้ององค์หญิงผู้เป็นดวงหทัยของอาณาจักร แม้ตอนเกิดมาเขาจะมีศักดิ์เป็นองค์ชาย แต่สุดท้ายเขาก็เป็นเพียงตัวหายนะที่จักนำพาความโชคร้ายมาสู่อาณาจักร เขาต้องรู้จักเจียมตัวและสำนึกอยู่เสมอว่าคนที่ทำให้เขายังมีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้คือองค์หญิง และอย่าได้คิดที่จะทำตัวเสมอตนนายเป็นอันขาด
“นกตัวนั้นสวยจัง” องค์หญิงผู้งดงามเอ่ยอกมาด้วยรอยยิ้มแต่กลับหันไปมองชายผู้เกิดมาพร้อมกับตัวเองที่อยู่ข้างกายด้วยแววตาเย็นเยียบ
“...พะยะค่ะ” แฝดชายตอบรับเพียงแค่นั้น ก่อนจะกระโดดลงไปจากระเบียงเพียงเพื่อจับนกที่แสนสวยงามนั้นมาใส่กรงให้องค์หญิง
“ขอบคุณนะ” เธอยิ้มและรับกรงนอกสีทองมาด้วยความปีติ
“มันเป็นหน้าที่ของกระหม่อมพะยะค่ะ” เขาโค้งรับคำขอบคุณด้วยความเคารพ
วันนี้แฝดชายได้ออกมาจากอาณาจักรเพื่อเดินทางมาตามหาดอกไม้ประสาทพรที่มีเพียงในอาณาจักรข้างเคียงและนำมันไปถวายแด่องค์หญิงของเขา
ระหว่างที่เขากำลังเดินสำรวจเมือง เขากลับชนเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งเข้า
...นอกจากองค์หญิงของเขา เธอเป็นคนที่งดงามที่สุดเท่าที่เขาเคยพบ ผิวเธอขาวดั่งงาช้าง ผมสีเขียวประกายดั่งโกเมน
“อ๊ะ ขอโทษค่ะ” และเสียงของเธอช่างนุ่มนวลเหลือเกิน
“ไม่เป็นไรครับเลดี้...?”
“ไพน์ค่ะ ข้าชื่อไพน์”
“เลดี้ไพน์...” เขาเหม่อมองรอยยิ้มของเธอที่ทำให้ใจของเขาเต้นแรงแบบที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน นี่คงเป็นรักแรกพบครั้งแรก และอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของเขา
นับบจากวันนั้นแฝดชายก็ติดต่อกับเลดี้ไพน์ทางจดหมายเรื่อยมา ทุกอย่างล้วนอยู่ในสายตาของดาราแห่งอาณาจักร เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งกันให้เธอคิดและไม่พอใจว่าเขามิได้อุทิศกาย ใจ เวลา และความภัคดีให้องค์หญิงเพียงผู้เดียวอีกต่อไปแล้ว
“เครื่องเสวยบริยอชนี้ รสชาติดียิ่งนักพะยะค่ะ กระหม่อมนำมันมาถวายแด่พระองค์ตอนกำลังร้อนๆ ดังเช่นที่พระองค์ทรงโปรด”
ได้ฟังดังนั้นองค์หญิงก็ยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มใสซื่อ “ขอบใจนะ” เธอเอ่ยหลางจิบชาและชิมบริยอชที่เขานำมาถายด้วยความพอใจก่อนจะเอ่ย
“เจ้าติดต่อกับเลดี้ผมสีเขียวเหมือนยาพิษที่แสนต่ำต้อยของเมืองข้างๆ หรือ?”
“...”
“ข้าถาม”
“เธอเป็นองค์หญิงของอาณาจักรนั้นพะยะค่ะ”
“ข้าไม่ได้ถามเรื่องนั้นนะ โกลด์” เธอตวัดสายตามองเขาด้วยความไม่พอใจ
“ขออภัยพะยะค่ะ” เขาโค้งขอประทานอภัยจากเธอ
“กำจัดนางไปให้พ้นจากชีวิตของข้าและเจ้าซะ” เธอกล่าวและหันมาจิบชาต่อ
“แต่...”
ซ่า เธอสาดชาร้อนใส่เขาด้วยความไม่พอใจ “นี่คือคำสั่ง”
“...รับด้วยเกล้าพะยะค่ะ”
เขานัดเจอกับไพน์ องค์หญิงผู้เป็นที่รักของอาณาจักรข้างเคียงที่ตรอกแห่งหนึ่ง เธอมาพบเขาด้วยรอยยิ้มสดใสเหมือนเคย
“ไพน์ ข้าขอโทษ”
“เรื่องอะไรหรือ”
“ดวงดาราของข้าขอให้ข้ากำจัดเจ้า เพราะงั้น...ข้าจะทำให้เจ้าเจ็บปวดน้อยที่สุดนะ ที่รักของข้า” เขาเอ่ยเช่นนั้นก่อนจะชักดาบเล่มคมปลาบตวัดตัดหัวเธอผู้เป็นที่รักทันที
ไม่รู้ทำไม เขาเคยเข่นฆ่าผู้คนเพื่อองค์หญิงมามากมาย เขาดีใจที่ได้ทำให้องค์หญิงมีความสุข แต่ครั้งนี้กลับเป็นครั้งแรกที่เขาหลั่งน้ำตาออกมาและรู้สึกเจ็บปวดราวกับจะขาดใจเยี่ยงนี้
มิช้ามินานข่าวคราวก็แพร่สะพัด องค์หญิงไพน์ผู้เป็นที่รักถูกสังหาร ชาวเมืองแซ่ซ้องร้องเรียกตัวการ จนเกิดเป็นสงครามระหว่างอาณาจักร
เมื่อประชาชนขององค์หญิงเกลบ์รู้เรื่องที่เธอทำ ทั้งการสังหาร การทรมานผู้คนที่ขัดใจเธอ หรือความเลือดเย็น และแม้กระทั่งความเอาแต่ใจของเธอถูกขุดคุ้ย บ้านเมืองก็มาถึงจุดล่มสลาย รัฐนั้นร้อน นคนรซัดส่าย ผู้คนตะโกนส่งเสียงด้วยความไม่พอใจที่องค์หญิงผู้ที่ถูกทำนายว่าจะนำพาพรมาสู่อาณาจักร กลับนำพาความหายนะมาแทน
อาณาจักรเคียงข้างสั่งสมกำลังทหารเข้ามาทำสงครามเพื่อช่วยชาวเมืองปฎิวัติและก่อกบฏกับราชวงศ์ที่ในอดีตแสนสูงส่งในความรู้สึกของประชาชนอย่างพวกเขา
“อัศวินของอาณาจักรข้างเคียงกำลังบุกเข้ามาในที่ประทับ เหลือเวลาไม่มากแล้วพะยะค่ะองค์หญิง” แฝดชายรายงานสถานการณ์ความเป็นไป ณ ต้อนนี้
“ข้าคงไม่รอดแล้วล่ะ”
“ไม่พะยะค่ะ โปรดรับเสื้อผ้าของกระหม่อมไปเถิด” เขายื่นชุดใหม่เอี่ยมของตนให้กับเธอ
“อย่าบอกนะ...” เธอเบิกตากว้าง
“ใช่พะยะค่ะ กระหม่อมมิประสงค์ให้พระองค์นำมาคืนกระหม่อมพะยะค่ะ โปรดฉลองพระองค์ด้วยชุดนี้แม้นจักต้องกล้ำกลืน พลางกายเป็นกระหม่อมและหนีไปให้ไกลเถิดพะยะค่ะ” เขายิ้ม
“แต่”
“อย่าได้กังวลไปเลยพะยะค่ะ เพราะหากกระหม่อมแปลงกายเป็นพระองค์ หน้าตาของพวกเราจะเหมือนกันจนมิว่าใครก็แยกไม่ออกแน่นอนพะยะค่ะ”
องค์หญิงของเขาหลั่งพระอัสสุชลก่อนจะกอดเขาและสับเปลี่ยนเสื้อผ้าของกันและกันด้วยความเจ็บปวด
เขามองเจ้านกที่เขาจับมันมาให้องค์หญิงด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะปล่อยมันกลับไปสู่โลกกว้าง และภาวนาขอให้องค์หญิงของเขาได้โบยบินอย่างมีความสุขเหมือนดั่งนกตัวนี้เถิด...
หลังจากที่เขาเปิดทางลับให้องค์หญิงหนีไปในคราบของโกลด์ เขาก็หันมาเผชิญหน้ากับกองกำลังปฎิวัติที่บุกเข้ามาในห้องบรรทมแล้ว
ในตอนนี้เขาคือเจ้าหญิง เธอกลายเป็นเช่นผู้โหยหา แม้กำเนิดเกิดร่วมมา แต่โชคชะตากลับกลายเป็นให้แปรผัน
หากเธอเป็นอสูรร้าย ดังที่ใครว่าเธอผู้นั้น...งั้นเขาก็คงเป็นเช่นกัน เพราะเขาเกิดมามีสายเลือดเดียวกันกับเธอ
เมื่อกองกำลังปฎิวัติลากตัวเขาไปที่แท่นประหาร ใต้แผ่นฟ้ากว้างไกล ไม่ว่าสรรพสิ่งใด จะกลับกลายหายไป สิ้นสลายไปทั้งหมด แต่กระนั้นเขายังคงจักอยู่ปกป้องเธอเรื่อยไป ให้เธอนั้นสุขใจและยังยิ้มได้ก็พอ เขาคิดแล้วจึงกวาดตามองหาท่านผู้นั้นในหมู่ฝูงชนด้านล่าง
องค์หญิงในคราบผู้ชายเงยหน้ามองผู้ที่เคียงข้างตนมาตั้งแต่เกิดบนท่าประหารท่ามกลางฝูงชน
เวลาใกล้เข้ามา อีกไม่ช้าคงมาถึง แว่วยินเสียงระฆังดั่งจะย้ำว่ามันกำลังจะสิ้นสุด เธอมองฟ้า เหม่อมองไปยังเบื้องบนด้วยน้ำตา ในหัวของเธอผุดเพียงคำที่พี่ชายคอยย้ำฝังหัวมิลืม ‘ดวงดาราแห่งกระหม่อม...พระองค์ต้องมีความสุขนะพะยะค่ะ’
ในที่สุดเขาก็มองเห็นเธอ... หากเธอเป็นดังเจ้าหญิง เขาเป็นเพียงคนเคียงกายา แม้กำเนิดเกิดร่วมมา แต่ชะตาพาให้แปรผัน
“ “เพียงได้เจอเธออีกสักครั้ง มิต้องการอะไรมากกว่านี้ทั้งนั้น ถึงตอนนั้นถ้าได้เกิดใหม่อีกครั้ง ไว้ถึงตอนนั้น พวกเรามาเล่นด้วยกันอีกนะ ” ”
พวกเขาเอ่ยคำอธิฐานเดียวกันพร้อมกัน คนหนึ่งเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ส่วนอีกคนเอ่ยด้วยน้ำตา...เมื่อพวกเขาสบตากัน ชายผู้อยู่บนแท่นประหารก็ยิ้มออกมาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะหมดลง...
แฟนฟิคเรื่องนี้ได้รับบันดาลใจมาจาก ‘เพลงข้ารับใช้ปีศาจ’ ค่ะ ขอให้เพลิดเพลินในการอ่านนะคะ
ขอบคุณค่ะ
บ.ใบหมีขี้เซา
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ บ.ใบหมีขี้เซา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ บ.ใบหมีขี้เซา
ความคิดเห็น