คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ใบไม้เล่าเรื่อง [# 2]
ใบไม้เล่าเรื่อง [#2]
สายลมอ่อนๆปลุกให้ฉันตื่นจากการหลับใหล ร่างอันทรุดโทรมของฉันถูกสายลมร้อนหอบขึ้นไปในอากาศ จากนั้นตัวฉันก็เริ่มลอยละลิ่วไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย แต่ไม่ว่าฉันจะไปตกอยู่ที่ไหน ฉันก็มั่นใจว่าการเดินทางในครั้งนี้ย่อมมีประสบการณ์ดีๆให้ฉันเก็บเกี่ยวอีกมากมายเป็นแน่
“ หยุดก่อนได้ไหมจ๊ะคุณใบไม้ ! ” เสียงเล็กๆทำให้ฉันหันขวับไปมอง แต่ทว่าถึงแม้ฉันจะอยากหยุดสนทนากับผู้มาใหม่เพียงใด แต่ก็มิอาจทำได้ เพราะสายลมยังคงพัดพาอยู่อย่างนั้น
“ ขอร้องล่ะ ช่วยฉันทีเถอะ ! ” เสียงเว้าวอนของแม่นกขมิ้นทำเอาใจเหี่ยวๆของฉันกระตุกวูบ ฉันพยายามฝืนสังขารไม่ให้ลอยไปตามลม ทันใดนั้นราวกับโชคเข้าข้าง สายลมแห่งฤดูร้อนก็สงบลง พาให้ร่างของฉันค่อยๆร่วงมายังพื้นดิน
“ มีอะไรที่ใบไม้แก่ๆอย่างฉันจะช่วยได้บ้าง แม่นกขมิ้น ” ฉันจ้องไปที่ผู้มาใหม่ แม่นกขมิ้นมีขนสวยสีเหลืองอร่าม หากแต่ดวงตาของเธอช่างมีเค้าความเศร้า และกังวลเหลือเกิน
“ หากไม่เป็นการรบกวนลุงจนเกินไป ฉันอยากให้ลุงไปที่รังของฉันได้ไหมจ๊ะ ”
“ ได้สิ ว่าแต่แม่นกมีเรื่องอะไรหรือ ”
“ สามีฉันไม่กลับรังมาหกวันแล้ว ฉันกับลูกที่เกิดใหม่อีกสามตัวไม่มีอาหารจะประทังชีวิต ลูกของฉันยังไม่แข็งแรงพอ อีกทั้งรังของฉันก็ทรุดโทรมเหลือเกิน หากสร้างรังใหม่ที่ให้ความอบอุ่นกับลูกไม่ได้ ฉันคงเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่อง ” แม่นกเสียงสั่นเครือ พลางตัดพ้อ
“ เอาล่ะๆ ใจเย็นๆแม่นกเอ๋ย ตัวฉันก็แก่จนไม่มีใครต้องการจะใช้ประโยชน์อีกแล้ว หากแม่นกอยากได้ใบไม้แก่ๆอย่างฉันไปสร้างรังให้ลูกๆ ก็เอาไปเถอะ ฉันยินดี ” ฉันยิ้มให้แม่นกอย่างจริงใจ
“ ขอบคุณลุงมากนะจ๊ะ ขอบคุณจริงๆ ” แม่นกน้ำตาคลอ พลางยิ้มด้วยความยินดี
แม่นกขมิ้นคาบฉันไว้ในปากแล้วตั้งหน้าตั้งตาบินกลับรัง จะงอยปากแหลมๆของแม่นกไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้ฉันมากนัก แต่ก็ทำให้ร่างอันเหี่ยวเฉาของฉันรู้สึกไม่สบาย แม่นกบินมายังป่าแห่งหนึ่งที่มีต้นไม้อยู่หลากหลายชนิด ฉันเพลิดเพลินกับธรรมชาติ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าแม่นกพาฉันกลับมาถึงรังของเธอแล้ว
“ แม่กลับมาแล้วลูก ” ลูกนกเกิดใหม่สามตัวที่ยังไม่ทันลืมตาร้องด้วยความหิวโหย ปนดีใจที่แม่ไม่ได้ทิ้งพวกมันไปเหมือนพ่อ ฉันรู้สึกภูมิใจเหลือเกิน ที่ช่วงสุดท้ายของชีวิตฉันยังพอทำประโยชน์ให้ครอบครัวที่น่าสงสารนี้ได้
“ ลูกนกขมิ้นสวัสดีจ้ะ ” ฉันยิ้มให้ลูกนกสามตัวที่แม่นกกำลังไซร้ขน และกกพวกมันไว้ด้วยความรัก
ตอนนี้ร่างกายฉันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของรังนกเรียบร้อยแล้ว ลูกนกตัวเล็กนอนทับอยู่บนตัวฉันอย่างสบายใจ หากแต่ความหิวโหยไม่เคยปราณีใคร เมื่อลูกนกอ้าปากร้อง แม่นกขมิ้นจึงจำใจต้องบินออกจากรังทั้งที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า แม่นกฝากให้ฉันดูแลลูกๆของเธอ และฉันสัญญาว่าจะดูแลนกน้อยเหล่านี้ให้ดีที่สุด เท่าที่ใบไม้อย่างฉันจะพอทำได้
“ ถ้าฉันไม่กลับมา ลุงช่วยดูแลลูกๆฉันด้วยนะจ๊ะ ”
“ พูดอะไรอย่างนั้น แม่นกต้องกลับมาดูแลลูกนกสิ เธอต้องกลับมา ! ” แม่นกยิ้มให้ลูกๆก่อนกางปีกแล้วบินออกไป ฉันรู้สึกใจหายไม่น้อย ทั้งที่ดวงดาวหลายร้อยทยอยโผล่ขึ้นมาประดับฟากฟ้า แม่นกกลับต้องดิ้นรนออกไปหาอาหาร แทนที่จะอยู่คุ้มครองลูกๆของเธอในรัง
แม้จะเป็นคืนฤดูร้อน หากแต่อากาศยามดึกก็ช่างเสียดแทงผิวกายลูกนกขมิ้นที่ยังไร้ขน พวกมันตัวสั่นด้วยความเหน็บหนาวปนหิว น้ำค้างพรมลงมาในรัง แม้ฉันจะรู้สึกหนาว หากแต่ฉันก็พยายามเคลื่อนตัวมาห่อหุ้มนกน้อยทั้งสามราวผ้าห่มผืนหนา
“ ลุงใบไม้ เมื่อไหร่แม่จะกลับมา ” นกน้อยตัวหนึ่งถามฉันขึ้นเบาๆ
“ แม่กำลังหาอาหารอยู่ ประเดี๋ยวคงกลับมาเอง เด็กๆควรนอนได้แล้วนะ ถ้าพวกเธอยังไม่นอน ลุงจะฟ้องแม่เมื่อแม่พวกเธอกลับมา ” ลูกนกขมิ้นจึงข่มตาลงนอน แม้จะพูดออกไปแบบนั้น แต่ฉันก็มั่นใจเหลือเกินว่าแม่นกคงไม่กลับมาแล้ว อาจด้วยเหตุผลบางอย่างที่ทำให้แม่นก และพ่อนกไม่กลับมา ทั้งคู่อาจหายไปด้วยเหตุผลเดียวกัน
ดึกสงัด เสียงจิ้งหรีดดังระงมไปทั่วทั้งป่า ฉันต้องสะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึก เพราะเสียงแปลกประหลาดที่ดังอยู่ไม่ไกล เสียงเหมือนสัตว์ใหญ่กำลังย่ำอยู่บนใบไม้ เสียงสัตว์ดังระงมขึ้นอย่างไม่ได้นัดหมาย ตายล่ะ ! เกิดอะไรขึ้น
กริ๊ก ก ก....โป้ง ง
เสียงลั่นไกปืนดังก้องทั่วทั้งป่า ฉับพลันกวางน้อยเขาสวยตัวหนึ่งก็แผดเสียงร้อง พลางล้มลง เลือดสีแดงสดไหลเปื้อนพื้นหญ้า เงาตะคุ่มสองเงากำลังใช้มีดชำแหละเนื้อเจ้ากวางน้อยอย่างทารุณ
“ ตัวนี้เขาไม่สวยเท่าไหร่ครับท่าน ท่านจะล่าตัวใหม่อีกหรือไม่ครับ ”
“ ไม่ต้องแล้ว เดี๋ยวพวกเจ้าหน้าที่มันจะมาซะก่อน คืนนี้เอาเท่านี้แหละ ”
ฉันขบฟันกรอดขณะฟังบทสนทนาของมนุษย์ที่แสนโหดร้าย พวกเขาถือซากกวางน้อยด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วถือหูกระต่ายป่าสีน้ำตาลอีกข้างหนึ่ง ฉันได้แต่ภาวนาขอให้กระบวนการที่โหดร้ายนี้ ยุติลงอย่างรวดเร็ว
“ เสียงอะไรจ๊ะลุงใบไม้ ” ขมิ้นน้อยส่งเสียงในยามดึก ฉันรีบส่งสัญญาณให้มันเงียบลงโดยเร็ว แต่ดูท่าว่าคงไม่ทันประสาทหูที่ไวยิ่งกว่าแสงของไอ้พวกพรานใจโฉดสองคนนั้น
“ เฮ้ย แกได้ยินเสียงอะไรไหมวะ ”
“ ได้ยินครับท่าน เสียงเหมือน...”
“ นกน้อย ! ”
พวกมันสาวเท้ามาทางต้นไม้ที่ฉันอยู่ เสียงรองเท้าพรานบดกับกิ่งไม้แห้งดังกรอบแกรบ หัวใจฉันเต้นระรัวยิ่งกว่าครั้งไหนๆ พลางใช้ร่างที่ไม่ใหญ่นักของตนบดบังลูกนกสามตัวที่ตัวสั่นด้วยความหวาดผวา
“ เดี๋ยวผมจัดการเองครับท่าน ” มันเริ่มปีนขึ้นมาบนต้นไม้ ฉันเกร็งไปทั้งตัว พยายามนึกถึงคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่นก ฉันจะดูแลและปกป้องลูกนกสามตัวนี้ด้วยชีวิต
“ ท่านครับ ท่าน...ลูกนกขมิ้นครับ มีตั้งสามเสียด้วย ” ฉันได้แต่โทษตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลย ถึงฉันจะพยายามแค่ไหน แต่ใบไม้อย่างฉันจะทำอะไรได้ รังนกขมิ้นถูกนำลงมาด้านล่าง ฉันเหลือบมองหน้าพวกมัน ด้วยสายตาเคียดแค้น
“ เออ ดีๆ ๆ มาคืนนี้ได้ทั้งกระต่าย ทั้งกวาง แถมยังได้นกน้อยสามตัว ฮ่าๆ ๆ ๆๆๆ”
“ ครับท่าน ท่านเอาลูกนกไปให้คุณหนูซีครับ คุณหนูต้องดีใจเป็นแน่ ”
“ ใช่ รุ่งเช้าแกซื้อกรงทองมาให้ฉันที่บ้าน แต่เช้าเลยนะ เดี๋ยวจะไม่ทันลูกข้าตื่น ”
“ ครับท่าน ”
“ กลับกันโว้ย ”
มันช้อนเอาร่างลูกนกขมิ้นไปหมดทั้งสามตัว แล้วโยนรังทิ้งอย่างไม่ไยดี ขณะที่ฉันกำลังจะร่วงลงพื้นและหมดสติไป ฉันได้ยินเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจของมนุษย์ที่ใจร้าย ฉันจึงได้แต่สงสัย และตั้งคำถามในใจว่า
มนุษย์คนนั้นกำลังจะเอาลูกนกไปเป็นของขวัญให้ลูกสาวของเขาหรอกหรือ ? เขาไม่นึกเลยหรือว่าชีวิตหนึ่งชีวิตมันมีค่าขนาดไหน ? ลูกนกสามตัว รวมทั้งซากสัตว์อื่นๆมีไว้เพื่อบ่งบอกความโก้หรูทางฐานะ และเพื่อความพึงพอใจส่วนบุคคลหรอกหรือ ? หากฟ้าเมตตาได้โปรดอย่าให้แม่นกกลับมาเลย อย่าให้แม่นกได้รับรู้ว่า ลูกของเธอได้จากไปอย่างไม่มีวันได้หวนคืน
การผจญภัยในครั้งนี้ของฉันมันช่างเหนือความคาดหมายเหลือเกิน ฉันได้เรียนรู้ว่า มนุษย์อยู่ได้ด้วยความเอาแต่ใจ อยู่ได้ด้วยกิเลสตัณหา และอยู่ได้ด้วยการเบียดเบียนผู้อื่น !!!!!!!!!!!!
เลิกทำลายธรรมชาติกันได้แล้วนะคะ ตอนนี้มันยังไม่สายเกินไปที่จะหันมารักษ์โลก รักษ์ธรรมชาติ หรือจะรอจนกว่าจะไม่เหลืออากาศบริสุทธิ์ให้หายใจถึงจะคิดได้กันเสียที !!
ความคิดเห็น