ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำว่า ' รัก..... '

    ลำดับตอนที่ #4 : ใบไม้เล่าเรื่อง [# 2]

    • อัปเดตล่าสุด 15 มี.ค. 52


                   

    ใบไม้เล่าเรื่อง [#2]


                   
                    สายลมอ่อนๆปลุกให้ฉันตื่นจากการหลับใหล  ร่างอันทรุดโทรมของฉันถูกสายลมร้อนหอบขึ้นไปในอากาศ  จากนั้นตัวฉันก็เริ่มลอยละลิ่วไปเรื่อยๆ  อย่างไร้จุดหมาย  แต่ไม่ว่าฉันจะไปตกอยู่ที่ไหน  ฉันก็มั่นใจว่าการเดินทางในครั้งนี้ย่อมมีประสบการณ์ดีๆให้ฉันเก็บเกี่ยวอีกมากมายเป็นแน่

                    หยุดก่อนได้ไหมจ๊ะคุณใบไม้ ! ”  เสียงเล็กๆทำให้ฉันหันขวับไปมอง  แต่ทว่าถึงแม้ฉันจะอยากหยุดสนทนากับผู้มาใหม่เพียงใด  แต่ก็มิอาจทำได้  เพราะสายลมยังคงพัดพาอยู่อย่างนั้น

                    ขอร้องล่ะ  ช่วยฉันทีเถอะ ! ”  เสียงเว้าวอนของแม่นกขมิ้นทำเอาใจเหี่ยวๆของฉันกระตุกวูบ  ฉันพยายามฝืนสังขารไม่ให้ลอยไปตามลม  ทันใดนั้นราวกับโชคเข้าข้าง  สายลมแห่งฤดูร้อนก็สงบลง  พาให้ร่างของฉันค่อยๆร่วงมายังพื้นดิน

                    มีอะไรที่ใบไม้แก่ๆอย่างฉันจะช่วยได้บ้าง  แม่นกขมิ้น   ฉันจ้องไปที่ผู้มาใหม่  แม่นกขมิ้นมีขนสวยสีเหลืองอร่าม  หากแต่ดวงตาของเธอช่างมีเค้าความเศร้า  และกังวลเหลือเกิน

                    หากไม่เป็นการรบกวนลุงจนเกินไป  ฉันอยากให้ลุงไปที่รังของฉันได้ไหมจ๊ะ

                    ได้สิ  ว่าแต่แม่นกมีเรื่องอะไรหรือ

                    สามีฉันไม่กลับรังมาหกวันแล้ว  ฉันกับลูกที่เกิดใหม่อีกสามตัวไม่มีอาหารจะประทังชีวิต  ลูกของฉันยังไม่แข็งแรงพอ  อีกทั้งรังของฉันก็ทรุดโทรมเหลือเกิน  หากสร้างรังใหม่ที่ให้ความอบอุ่นกับลูกไม่ได้  ฉันคงเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่อง   แม่นกเสียงสั่นเครือ  พลางตัดพ้อ

                    เอาล่ะๆ  ใจเย็นๆแม่นกเอ๋ย  ตัวฉันก็แก่จนไม่มีใครต้องการจะใช้ประโยชน์อีกแล้ว  หากแม่นกอยากได้ใบไม้แก่ๆอย่างฉันไปสร้างรังให้ลูกๆ  ก็เอาไปเถอะ  ฉันยินดี   ฉันยิ้มให้แม่นกอย่างจริงใจ

                    ขอบคุณลุงมากนะจ๊ะ  ขอบคุณจริงๆ   แม่นกน้ำตาคลอ  พลางยิ้มด้วยความยินดี

                   

                    แม่นกขมิ้นคาบฉันไว้ในปากแล้วตั้งหน้าตั้งตาบินกลับรัง  จะงอยปากแหลมๆของแม่นกไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้ฉันมากนัก  แต่ก็ทำให้ร่างอันเหี่ยวเฉาของฉันรู้สึกไม่สบาย  แม่นกบินมายังป่าแห่งหนึ่งที่มีต้นไม้อยู่หลากหลายชนิด  ฉันเพลิดเพลินกับธรรมชาติ  โดยไม่รู้ตัวเลยว่าแม่นกพาฉันกลับมาถึงรังของเธอแล้ว

                      แม่กลับมาแล้วลูก ลูกนกเกิดใหม่สามตัวที่ยังไม่ทันลืมตาร้องด้วยความหิวโหย  ปนดีใจที่แม่ไม่ได้ทิ้งพวกมันไปเหมือนพ่อ  ฉันรู้สึกภูมิใจเหลือเกิน  ที่ช่วงสุดท้ายของชีวิตฉันยังพอทำประโยชน์ให้ครอบครัวที่น่าสงสารนี้ได้

                    ลูกนกขมิ้นสวัสดีจ้ะ   ฉันยิ้มให้ลูกนกสามตัวที่แม่นกกำลังไซร้ขน  และกกพวกมันไว้ด้วยความรัก

     

                    ตอนนี้ร่างกายฉันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของรังนกเรียบร้อยแล้ว  ลูกนกตัวเล็กนอนทับอยู่บนตัวฉันอย่างสบายใจ  หากแต่ความหิวโหยไม่เคยปราณีใคร  เมื่อลูกนกอ้าปากร้อง  แม่นกขมิ้นจึงจำใจต้องบินออกจากรังทั้งที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า  แม่นกฝากให้ฉันดูแลลูกๆของเธอ  และฉันสัญญาว่าจะดูแลนกน้อยเหล่านี้ให้ดีที่สุด  เท่าที่ใบไม้อย่างฉันจะพอทำได้

                    ถ้าฉันไม่กลับมา  ลุงช่วยดูแลลูกๆฉันด้วยนะจ๊ะ

                    พูดอะไรอย่างนั้น  แม่นกต้องกลับมาดูแลลูกนกสิ  เธอต้องกลับมา ! ”  แม่นกยิ้มให้ลูกๆก่อนกางปีกแล้วบินออกไป  ฉันรู้สึกใจหายไม่น้อย  ทั้งที่ดวงดาวหลายร้อยทยอยโผล่ขึ้นมาประดับฟากฟ้า  แม่นกกลับต้องดิ้นรนออกไปหาอาหาร  แทนที่จะอยู่คุ้มครองลูกๆของเธอในรัง

     

                    แม้จะเป็นคืนฤดูร้อน  หากแต่อากาศยามดึกก็ช่างเสียดแทงผิวกายลูกนกขมิ้นที่ยังไร้ขน  พวกมันตัวสั่นด้วยความเหน็บหนาวปนหิว  น้ำค้างพรมลงมาในรัง  แม้ฉันจะรู้สึกหนาว  หากแต่ฉันก็พยายามเคลื่อนตัวมาห่อหุ้มนกน้อยทั้งสามราวผ้าห่มผืนหนา

                    ลุงใบไม้  เมื่อไหร่แม่จะกลับมา   นกน้อยตัวหนึ่งถามฉันขึ้นเบาๆ

                    แม่กำลังหาอาหารอยู่  ประเดี๋ยวคงกลับมาเอง  เด็กๆควรนอนได้แล้วนะ  ถ้าพวกเธอยังไม่นอน  ลุงจะฟ้องแม่เมื่อแม่พวกเธอกลับมา   ลูกนกขมิ้นจึงข่มตาลงนอน  แม้จะพูดออกไปแบบนั้น  แต่ฉันก็มั่นใจเหลือเกินว่าแม่นกคงไม่กลับมาแล้ว  อาจด้วยเหตุผลบางอย่างที่ทำให้แม่นก  และพ่อนกไม่กลับมา  ทั้งคู่อาจหายไปด้วยเหตุผลเดียวกัน

     

                    ดึกสงัด  เสียงจิ้งหรีดดังระงมไปทั่วทั้งป่า  ฉันต้องสะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึก  เพราะเสียงแปลกประหลาดที่ดังอยู่ไม่ไกล  เสียงเหมือนสัตว์ใหญ่กำลังย่ำอยู่บนใบไม้  เสียงสัตว์ดังระงมขึ้นอย่างไม่ได้นัดหมาย  ตายล่ะ !  เกิดอะไรขึ้น

                    กริ๊ก ก ก....โป้ง ง

                    เสียงลั่นไกปืนดังก้องทั่วทั้งป่า  ฉับพลันกวางน้อยเขาสวยตัวหนึ่งก็แผดเสียงร้อง  พลางล้มลง  เลือดสีแดงสดไหลเปื้อนพื้นหญ้า  เงาตะคุ่มสองเงากำลังใช้มีดชำแหละเนื้อเจ้ากวางน้อยอย่างทารุณ

                    ตัวนี้เขาไม่สวยเท่าไหร่ครับท่าน  ท่านจะล่าตัวใหม่อีกหรือไม่ครับ

                    ไม่ต้องแล้ว  เดี๋ยวพวกเจ้าหน้าที่มันจะมาซะก่อน  คืนนี้เอาเท่านี้แหละ

                    ฉันขบฟันกรอดขณะฟังบทสนทนาของมนุษย์ที่แสนโหดร้าย  พวกเขาถือซากกวางน้อยด้วยมือข้างหนึ่ง  แล้วถือหูกระต่ายป่าสีน้ำตาลอีกข้างหนึ่ง  ฉันได้แต่ภาวนาขอให้กระบวนการที่โหดร้ายนี้  ยุติลงอย่างรวดเร็ว

                    เสียงอะไรจ๊ะลุงใบไม้   ขมิ้นน้อยส่งเสียงในยามดึก  ฉันรีบส่งสัญญาณให้มันเงียบลงโดยเร็ว  แต่ดูท่าว่าคงไม่ทันประสาทหูที่ไวยิ่งกว่าแสงของไอ้พวกพรานใจโฉดสองคนนั้น

                    เฮ้ย  แกได้ยินเสียงอะไรไหมวะ

                    ได้ยินครับท่าน  เสียงเหมือน...

                    นกน้อย ! ”

                    พวกมันสาวเท้ามาทางต้นไม้ที่ฉันอยู่  เสียงรองเท้าพรานบดกับกิ่งไม้แห้งดังกรอบแกรบ  หัวใจฉันเต้นระรัวยิ่งกว่าครั้งไหนๆ  พลางใช้ร่างที่ไม่ใหญ่นักของตนบดบังลูกนกสามตัวที่ตัวสั่นด้วยความหวาดผวา

                    เดี๋ยวผมจัดการเองครับท่าน   มันเริ่มปีนขึ้นมาบนต้นไม้  ฉันเกร็งไปทั้งตัว  พยายามนึกถึงคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่นก  ฉันจะดูแลและปกป้องลูกนกสามตัวนี้ด้วยชีวิต

                    ท่านครับ  ท่าน...ลูกนกขมิ้นครับ  มีตั้งสามเสียด้วย   ฉันได้แต่โทษตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลย  ถึงฉันจะพยายามแค่ไหน  แต่ใบไม้อย่างฉันจะทำอะไรได้  รังนกขมิ้นถูกนำลงมาด้านล่าง  ฉันเหลือบมองหน้าพวกมัน  ด้วยสายตาเคียดแค้น

                    เออ  ดีๆ ๆ  มาคืนนี้ได้ทั้งกระต่าย  ทั้งกวาง  แถมยังได้นกน้อยสามตัว  ฮ่าๆ  ๆ ๆๆๆ

                    ครับท่าน  ท่านเอาลูกนกไปให้คุณหนูซีครับ  คุณหนูต้องดีใจเป็นแน่

                    ใช่  รุ่งเช้าแกซื้อกรงทองมาให้ฉันที่บ้าน  แต่เช้าเลยนะ  เดี๋ยวจะไม่ทันลูกข้าตื่น

                    ครับท่าน

                    กลับกันโว้ย 

                    มันช้อนเอาร่างลูกนกขมิ้นไปหมดทั้งสามตัว  แล้วโยนรังทิ้งอย่างไม่ไยดี  ขณะที่ฉันกำลังจะร่วงลงพื้นและหมดสติไป  ฉันได้ยินเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจของมนุษย์ที่ใจร้าย  ฉันจึงได้แต่สงสัย  และตั้งคำถามในใจว่า

     

                    มนุษย์คนนั้นกำลังจะเอาลูกนกไปเป็นของขวัญให้ลูกสาวของเขาหรอกหรือ ?  เขาไม่นึกเลยหรือว่าชีวิตหนึ่งชีวิตมันมีค่าขนาดไหน ?  ลูกนกสามตัว  รวมทั้งซากสัตว์อื่นๆมีไว้เพื่อบ่งบอกความโก้หรูทางฐานะ  และเพื่อความพึงพอใจส่วนบุคคลหรอกหรือ ?   หากฟ้าเมตตาได้โปรดอย่าให้แม่นกกลับมาเลย  อย่าให้แม่นกได้รับรู้ว่า  ลูกของเธอได้จากไปอย่างไม่มีวันได้หวนคืน

     

                    การผจญภัยในครั้งนี้ของฉันมันช่างเหนือความคาดหมายเหลือเกิน  ฉันได้เรียนรู้ว่า  มนุษย์อยู่ได้ด้วยความเอาแต่ใจ  อยู่ได้ด้วยกิเลสตัณหา  และอยู่ได้ด้วยการเบียดเบียนผู้อื่น !!!!!!!!!!!!









                   

      

    เลิกทำลายธรรมชาติกันได้แล้วนะคะ  ตอนนี้มันยังไม่สายเกินไปที่จะหันมารักษ์โลก  รักษ์ธรรมชาติ  หรือจะรอจนกว่าจะไม่เหลืออากาศบริสุทธิ์ให้หายใจถึงจะคิดได้กันเสียที !!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×