คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ศาสตร์ทั้งสาม
ไคน์ทั้งปวดหัวและหงุดหงิดนิดๆกับอาการของเลเดีย เพราะเมื่อเวลาที่เธอดีใจหรือตื่นเต้นกับเรื่องอะไรแล้ว เด็กสาวมักจะลืมไม่สนใจกับสิ่งรอบตัว ครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอเดินออกจากบ้านของไคน์ไปด้วยอารมณ์เบิกบาน ดวงตาสีเขียวตาแมวสะท้อนประกายแห่งความสนใจใฝ่รู้ เส้นผมยาวตรงสีทองที่ปกติมักจะปล่อยสยายวันนี้กลับมัดรวบเป็นระเบียบไว้ที่ข้างบ่าของเธอ และสวมใส่ชุดที่สวยงามแต่ก็สามารถทำให้เธอบู๊ได้ยามต้องการ
" เฮ้อ..ตกลงว่าไปไปเรียน หรือ ไปอ่อยหาแฟนกันแน่นะยัยนี่ " ไคน์ถอนหายใจยาว บ่นพึมพำ
" เฮ้ย " เขานึกขึ้นได้ " จริงสิ ว่าจะถามซะหน่อย ว่าแอนนิต้าไปรึยัง "
" คุณไคน์ ค๊า.. " เสียงใสของเด็กสาวที่ไคน์ไม่อยากพบดังขึ้น คนอื่นๆอาจฟังดูน่ารักปนขบขัน แต่สำหรับไคน์แล้วเขากลับรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงกรีดร้องแหลมสูงของ แบนชี
" ฮะ.. ไฮ! แอนนิต้า " ไคน์ทำหน้าเหยเก เหมือนได้สูดดมกลิ่นเหม็นๆ เขายิ้มแห้งๆ และทักทายตอบ อันที่จริงแล้วเด็กสาวคนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเกลียดนัก เธอออกจะสวยสง่าด้วยซ้ำใบหน้ารูปไข่ที่ไร้ริ้วรอย ดวงตากลมโต ผมหยักศกสีน้ำตาลแดง และริมฝีปากที่เปล่งปลั่งดั่งสีกุหลาบ กับชุดกระโปรงสั้นสวยเข้ารูปที่เผยสั.ดส่วน ทำให้เธอดูโดดเด่นเป็นที่สุด แต่มันก็ไม่ได้ลบล้างเสียงแหลมสูงที่เรียกชื่อของไคน์ออกไปจากหัวเขาได้
" คุณไคน์คะ คือ..วันนี้..แอนนี่จะเริ่มเรียนมนต์มังกรน่ะค่ะ " เด็กสาวบีบเสียงให้ดูน่ารักมากที่สุด
" อื้อ..รู้แล้วหล่ะ ทำไมเหรอ "
" อวยพรให้แอนนี่หน่อยสิคะ " ช่างต่างกับเลเดียมากๆ เด็กสาวคนนี้ออดอ้อนได้น่ารัก มีจริตมารยานิดๆ ทุกอย่างแสดงออกมาทางแววตา นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอไม่เคยปิดบังไคน์ได้เลย แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ชอบนัก
" เอ่อ..วิชาที่ฉันเรียนไม่ค่อยมีการอวยพรซะด้วยสิ มีแต่คำสาปน่ะ " ไคน์ตอบซื่อๆ
" น่า.. นะคะ น๊ะ.. "
" เฮ่อ.. " ไคน์ผ่อยลมหายใจออก ส่ายหัวเล็กน้อยแล้วว่า " งั้น! ตั้งใจนะ โชคดีละกัน "
ไคน์พูดโดยไม่ใส่ใจกับมันเท่าไร แต่เขาก็ไม่รู้เลยว่ามันมีค่ามากแค่ไหนกับสาวน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้า เพราะมันทำให้เธอยิ่งมีปฏิกิริยาแปลกมากขึ้น
" ว้าว! วันนี้แอนนี่จะต้องทำได้ดีแน่ๆเลย ไปก่อนนะคะ " พูดจบแอนนิต้าก็ส่งสายตาหวานให้และเดินจากไป ปล่อยให้ไคน์ยืนงงว่า แค่คำพูดส่งๆที่ไม่ตั้งใจของเขามันกลายเป็นการอวยพรให้สาวน้อยนั่นไปได้ยังไง
" ยัยเลดตัวแสบ ตอนบ่ายเจอตัวล่ะน่าดู " ไคน์หัวเสียหนัก พลางคิดว่าจะเอาคืนกับเลเดียยังไงดี แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเลิก
" ซะ..ซวยแล้วไปเรียนสายแน่เลย " ไคน์รีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว แล้วรีบวิ่งไปที่วิหารเทพพยากรณ์ในทันที
ที่วิหารเทพยากรณ์ สถานที่แห่งนี้ถูกแบ่งเป็นสามชั้น ตามลำดับความยากง่ายที่ได้เรียน ผู้เริ่มเรียนจะอยู่ชั้นล่างสุดส่วนผู้ที่จะเรียนจบแล้วจะอยู่ที่ชั้นบนสุด ที่วิหารนี้เป็นแหล่งรวมความรู้มากมายมีตำราและหนังสือต่างๆรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านเล่ม จึงเรียกได้ว่าถึงไม่ออกไปแสวงหาก็สามารถรู้ได้
ที่ชั้นสาม ผู้เรียนเทพพยากรณ์มากันครบหมดแล้ว (ยกเว้นไคน์) พวกเขาแยกออกเป็นหลายๆกลุ่ม บ้างก็ทบทวนตำรา บ้างก็คุยกัน มีบางกลุ่มทดลองการใช้มนต์หยินหยางกันเป็นที่สนุกสนาน
" แปลกนะนิคกี้ ปกติไคน์ต้องมาแล้วนี่นา " รัฟเอ่ยขณะมองหาวี่แววของผู้ถูกเอ่ยถึงผ่านหน้าต่าง
" ว้า.. ถ้าไคน์ไม่มาก็ไม่มีคนหักหน้า มาร์โล ดิเนี่ย " ริกพ่นลมออก บ่นอุบอิบไปตามเรื่อง พลางสะบัดผมสีส้มไม่ให้ลงมาปรกหน้า
ริก กับ รัฟ สองพี่น้องจากตระกูลช่างทำหนังสือประจำหมู่บ้าน ตระกูลแฟลร์ ทั้งคู่มีรูปร่างไม่ต่างกันสักนิด ทั้งหน้าตา ทรงผมที่ไว้ยาวมัดไว้ที่ท้ายทอย และการแต่งกาย สิ่งเดียวที่ทำให้แยกทั้งคู่ออกได้คือสีตา ริกมีตาสีเขียวมรกต ส่วนรัฟนั้นมีตาสีฟ้าออกไปทางสีน้ำทะเล
" เอาน่า เราหาวิธีแกล้งไอ้ผู้ดีนั่นกันเองก็ได้ " เด็กหนุ่มผมสีเพลิงกล่าวพลางเอียงหน้าไปทางเด็กหนุ่มอีกคนซึ้งนั่งอยู่ข้างหลังไกลออกไป
ทางด้านไคน์นั้น เขาวิ่งกระหืดกระหอบมือซ้ายกอดหนังสือแนบกับอก ส่วนมือขวาก็ส่งขนมปังเข้าปากยัดมันแน่นจนตัวเขาเองแทบเคี้ยวไม่ได้
" แฮ่ก! แฮ่ก! โอ๊ย จะทันมั้ยเนี่ย " เด็กหนุ่มวิ่งไปโวยไปตลอดทาง
ไคน์กลัวว่าจะไปถึงช้า เขาจึงเร่งฝีเท้าสุดแรงเกิดเพื่อหวังว่าจะไปถึงทันเวลาก่อนที่อาจารย์ของเขาจะไปประจำ ที่ห้องฝึกเรียน พอไคน์วิ่งเข้ามาในรั้ววิหาร ก็สบจังหวะพอดีที่รัฟหันมองออกมานอกหน้าต่างพอดี
" ริก นิคกี้ นั่นไคน์มาแล้ว " รัฟเรียกเพื่อนทั้งสอง มือชี้ออกไปข้างนอก
" ไหนอ่ะ ไม่เห็นมีเลย " ริกถามแฝดผู้น้อง พลางหลิ่วตาข้าหนึ่ง ทำนองว่าพูดจริงหรือเปล่า
" อะไร ทำไมนายมองหน้าฉันอย่างนี้อ่ะ " เด็กหนุ่มชักเสียงว่า " เลิกมองอย่านั้นเดี๋ยวนี้นะ "
" อย่าหาเรื่องกันดิ รัฟ ฉันแค่ถามว่าไคน์ไปทางไหนแล้ว ฉันมองไม่เห็น "
" แต่นายใช้สายตาแบบนั้นอ่ะ นายหาว่าฉันโกหก "
ริก กับ รัฟ เริ่มเถียงกันไปมาหนักเข้าก็เริ่มทะเลาะกัน ฝาแฝดสองพี่น้องส่งเสียงดังลั่นห้องจนดึงความสนใจของบรรดาเพื่อนๆ ให้หันมาสนใจที่พวกเขาเป็นจุดเดียว
" ปากอย่างนี้ วอนเจ็บตัวนี่หว่า " ริกฉุนขาดจน หลุดคำที่ท้าทายออกไป
" คิดว่าฉันจะกลัวรึไง ริก " รัฟโต้กลับด้วยความทนงในตน ยิ่งทำให้ริกหมันไส้หนักกว่าเดิม
" งั้นก็เข้ามาเลย ไอ้-น้อง-ชาย.. " ริกลากเสียงท้าทาย
เมื่อจบการสนทนาทั้งคู่ฟาดพลองใส่กันทันที ทั้งริกและ รัฟ ต่างไม่มีใครคว่ำใครลงได้ ฝีมือของทั้งสองคนสูสีกันมากและจับจังหวะกันถูกทุกครั้งที่อีกฝ่ายโจมตี นั่นอาจเพราะทั้งคู่ต่างรู้แนวของกันและกันก็เป็นได้ เมื่อสรุปไม่ได้ทั้งคู่จึงคิดที่จะดวลกันต่อด้วยเวทย์มนต์ แต่ก่อนที่จะใคร หรืออะไรเสียหายด้วยการดวลของฝาแฝดคู่นี้ เด็กหนุ่มผมสีเพลิงจึงตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าเขาจะทำได้
" ริก รัฟ หันมาทางนี้หน่อยดิ " นิคกี้เรียกเสียงจริงจังขึ้น
" มีอะไรวะ นิคกี้ เฮ่ย.. " สองหนุ่มขานรับคำห้วนๆในตอนแรก แล้วต้องร้องอุทานลั่น เมื่อ..
- ผัวะ - - ผัวะ - นิคกี้ ฟาดพลองของเขาใส่หัวสองตัวป่วน เล่นเอาทั้งคู่ทรุดลงไปกองกับพื้น มือทั้สองข้างกุมบริเวณที่ถูกตีร้องโอดโอยไม่หยุด
" โธ่ นิคกี้ นายทำอะไรของนายวะ หมดกัน "
" ใช่ๆ กำลังสนุก เสียอารมณ์เลยว่ะ " เพื่อนๆกลุ่มผู้ชายบ่นกันระงมก่อนที่ จะแยกย้ายกันกลับไปนั่งดังเดิม ส่วนฝ่ายสาวๆนั้นก็มีบางคนที่บ่นเขาบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเธอก็แค่ยิ้มให้ แล้วก็กลับไปจับกลุ่มคุยตามประสา
" อูย.. เจ็บนะนิคกี้ ทำอย่างนี้ทำไมวะ " รัฟโวยวายขณะที่กำลังทรงตัวลุกขึ้น
" อ้าว...ก็ดีกว่าเจอฝีมือไคน์นะ นายสองคนก็รู้ " ริกอ้าปากจะว่าอีกคนแต่ไม่ทัน นิคกี้ดักคอเอาไว้ซะก่อน
" เออ..จริงแฮะ " ริกเออออตาม " ยิ่ง ไมนด์ แรนดอมนะ อื้ย.... " เขาเสริมคำพลางทำหน้าขยาด รัฟ กับ นิคกี้ ดูท่าจะเห็นด้วยเป็นอย่างมาก ทั้งคู่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ และยิ้มแห้งๆ เป็นการตอบรับ
" จะซักเท่าไรกันเชียว " มาร์โลพูดเสียงดังชัดเจนแต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ดึงให้สองพี่น้องตระกูลแฟลร์ และนิคกี้หันขวับมามองได้ฉับพลัน นิคกี้ดูอารมณ์จะเริ่มคุขึ้นมาหน่อยๆ
" หมายความว่าไง ! " นิคกี้กระชากเสียง เสยผมหน้าขึ้นเผยดวงตาสีแดงที่ดูแข็งกร้าว
" อะไร ฉันก็แค่พูดลอยๆ " มาร์โลแกล้งทำเป็นใสซื่อ บีบเสียงพูดให้ดู อินโนเซนต์ระคนสุภาพ นิคกี้โมโหหนักแต่เมื่อมาร์โลยังไม่เอ่ยถึงตรงๆเขาก็ทำอะไรไม่ได้
รัฟดูสถานการณ์แล้วเห็นว่านิคกี้กำลังจนมุมกับความเจ้าเล่ห์ของคู่อริ เพื่อนผมสีเพลิงของเขากำลังยืนตัวสั่นและกัดกรามด้วยความโกรธ ในทันใดนั้นเอง รัฟก็ยืดตัวตรงมองไปที่พี่ชาย เด็กหนุ่มกระหยิ่มยิ้ม ริมฝีปากเหยียดออกดูมีเลสนัย แล้วก็....
" เฮ้..ริก ได้ดูสาราณุกรมที่พ่อทำเมื่อวานป่ะ " เด็กหนุ่มพูดโพล่งแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอา ริกออกอาการเหวอ พลางคิว่าไอ้น้องบ้าคนกำลังจะทะเลาะกัน มันดันมาถามอะไรตอนนี้
" แต่พ่อมะ.. " ริกพยายามจะแย้ง แต่พอเห็นน้องชายตัวแสบขยิบตาให้เขาก็รู้ทันที " ของไคน์ ใช่มั้ย " สายตาเสแสร้งมองขึ้นข้างบน ท่าทีที่ ดูซื่อเกินปกติถูกแสดงผ่านทาง รัฟ
" ฉันอ่านดูแล้วนะ ไม่เห็นมช่วงไหนเลยที่สะกดคำว่า...... "
" ว่า... " ริกลากเสียงว่าตาม ทุกคนในห้องต่างลุ้นกับคำที่จะหลุดออกจากปากของรัฟ จนบ้างคนถึงกับอ้าบากค้าง
" ว่า..อะไรอย่าช้าดิ " เพื่อนผู้ชายกลุ่มเดิมเร่ง
" พ สระแอ ไม้โท แพ้ แพ้น่ะ ! " เจ้าตัวแสบสะกดทีละตัว และเน้นย้ำคำ พอถึงตรงนี้บรรดาเพื่อนร่วมชั้นอึ้งเงียบไปครู่นึง ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น แม้แต่นิคกี้ที่ยืนตัวสั่นเพราะความโกรธ ตอนนี้กลับหัวเราะด้วยความสะใจ
" นี่นายว่าฉันเป็นไอ้ขี้แพ้เหรอ "
" เปล่านา ฉันแค่..เล่าให้ฟังน่ะ " รัฟยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ตอบคำถามยียวนกวนอวัยวะเบื้องล่างสุดๆ
" นั่นดิ! ไม่เห็นมีคำว่ามาร์โลเลยนี่นา " ริกว่าพลางทำทีเป็นครุ่นคิด นิคกี้ที่พลาดท่าเมื่อครู่ถึงกับยิ้มกว้างราวกับได้รางวัลจากเทพเจ้าแล้วเอ่ย
" ฮะ ฮะ ฮะ จะไปมีได้ไง ถ้ามีคำว่ามาร์โลนะ มันก็ต้องมีคำว่าแพ้ด้วยน่ะสิ " แล้วทุกคนก็หัวเราะขึ้นมาอีก
- กรี๊ด..... - เสียงหัวเราะหยุดลงเมื่อสาวๆที่นั่งดูอยู่ข้างประตูกรีดเสียง พวกเธอแหกปากไม่หยุดมือก็ชี้ไปที่มือใครก็ไม่รู้ที่ดันจับหมับเข้าที่วงกบประตู ก่อนที่เด็กสาวเสียงใสจะเป็นอะไรไปเจ้าของมือนั่นก็รีบโผล่ออกมาซะก่อน
" ไคน์..? " ทุกคนเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
" แฮ่ก แฮ่ก โอย..บันไดวิหารขึ้นยากเป็นบ้า " ไคน์บ่นอุบอิบ ผมเผ้ายุ่งไม่เป็นทรง ทั้งตัวชุ่มไปด่วยเหงื่อ แม้แต่หนังสือก็เปียกเป็นรอยมือ
" หึ ชั้นต่ำหอบแดด " มาร์โลที่หน้าชาด้วยโดนหลอกด่าถึงสองครั้งติดๆ เอาคืนกับใครไม่ได้เลยเล่นงานเอากับไคน์ ทั้งที่เขาเองก็รู้ว่าไม่ควรเล่นด้วย
" ว่าไงนะ มาร์โล " ไคน์ถามเสียงเรียบ ถึงแม้จะยังหอบอยู่ แต่จังหวะการพูดทำให้ทราบได้ว่าไม่พอใจอย่างรุนแรงกับสิ่งที่ได้ยิน
แค่ไคน์ถามกลับเพียงเท่านั้น ก็เริ่มมีเสียงซุบซิบจากหลายๆกลุ่ม บ้างก็ว่ามาร์โลเล่นหนักเกินไปแล้ว บ้างก็ว่าสงสัยไคน์คงตอกกลับเละแน่ ไม่เว้นแม้กระทั่ง ริก รัฟ และ นิคกี้
" ก็รู้อยู่ว่าสู้ไม่ได้ ยังจะหาเรื่องอีก " นิคกี้พึมพำ ส่ายหน้าเบาๆ
" เละชัวร์ ฉันว่านะ " รัฟกระซิบกับเพื่อนและพี่ชายฝาแฝด ขณะที่ ริกหัวเราะคิกๆ ไม่หยุดตั้งแต่นิคกี้พูดครั้งแรกแล้ว
" ว่าไง ตอบมาดิ " ไคน์คาดคั้นหนัก
" ไม่ได้ยินรึไง ชั้นต่ำหอบแดดน่ะ " มาร์โลตะคอกเสียงใล่ " ฉันไม่เห็นจะต้องเอาความเป็นผู้ดี มาแลกกับการทะเลาะกับพวกชั้นต่ำ พวกกำพร้า อย่างพวกแกเลย "
นิคกี้ ที่กำลังยืนคุยอยู่กับสองแฝด พอได้ยินก็ถึงกับสติขาดผึง พยายามจะกระโจนใส่มาร์โล แต่กลับถูก ริก กับ รัฟ รั้งเอาไว้ บรรดาผู้ดูต่างเฮลั่น พร้อมทั้งส่งเสียงเชียร์
" ถามหน่อยเหอะ ไคน์ วอลเลีย ตระกูลนายมันสำคัญยังไงผู้คนถึงคอยช่วยเหลือและให้ความเคารพ " มาร์โลถามคำถามที่หยาบคายมากที่สุดสำหรับไคน์ " หรือว่าพ่อแม่แกมันเป็นพวกชอบข่มเหงทำร้ายคนอื่นจนเขากลัว "
" เชื่อเถอะ นายไม่อยากให้ฉันพูดหรอก "
" อยากสิ เอาน่าไม่ต้องอายหรอก ฉันรู้จักนายมากขึ้นน่ะ ว่ามันจะเหลือขอขนาดไหน " มาร์โลพูดอย่างคะนองปาก
" ดี! งั้นฟังให้ดี พ่อแม่ฉันเป็นคนช่วยหมู่บ้านนี้ให้พ้นจาก พวกทหารอาณาจักรกับนักพยากรณ์ทรยด เมื่อ 17ปีก่อน พ่อนายถึงยังมีนายอยู่ทุกวันนี้ มีทุกคนในที่นี้ ไม่ใช่ว่าฉันจะรำเริกบุญคุณนะ แต่ถ้านายอยากจะให้พ่อนายทนแบกรับความอับอายกับคำว่า ตระกูลผู้เณรคุณก็ตามใจ " ไคน์ร่ายยาวเป็นชุด ทำเอามาร์โลนิ่งไป ก่อนจะแหวกกลุ่มเพื่อนไปนั่งยังโต๊ะเรียนของตน และทุกคนก็เดินกลับไปนั่งที่ของตนเช่นกัน
" อ้อ มาร์โล " ไคน์หันมาพูดต่อ " ฉันคิดว่าผมทรงบิชอป กับหางเต่างี่เง่านั่น น่าจะช่วยให้นายดูเป็นผู้ดีขึ้นมาบ้าง แต่มารยาทของนายมันทำให้คำว่าผู้ดีที่นายพูดติดปาก คงมีค่าไม่ถึงหนึ่ง *เนพพา ละมั้ง " พูดจบชายชราผู้สอนก็เดินเข้ามา
คำพูดของไคน์ทำให้มาร์โลนั่งเงียบไปทั้ง 4 ชั่วโมงเรียน ถึงมันจะดูรุนแรงไปบ้างที่กระโชกคำพูดใส่ แต่ทุกคนก็เห็นว่าสมควรแล้วกับการดูถูกเหยียดหยามพ่อแม่และชาติกำเนิดของผู้อื่น ยิ่งพวก แฟลร์ กับ นิคกี้แล้วยิ่งเห็นเป็นเรื่องสนุกของวันไปเลย และวันที่ไคน์เรียนวันนี้อาจารย์โยคุ สอนสองคาถาสูงสุดให้ คือ ควบคุมจิตใจ และ ปลดปล่อยวิญญาน อีกทั้งยังเป็นวันสุดท้ายที่จะได้เรียนด้วย
" เอาล่ะ ผู้พยากรณ์ทุกคน วิชาสุดท้ายพวกเจ้าทุกคนก็เรียนรู้ไปแล้ว ต่อไปก็แค่เลือกเอาว่าจะไปทำงานให้กับอาณาจักร หรือจะจะอยู่เป็นผู้สอนรุ่นต่อไป " อาจารย์เฒ่าพูดเสียงแหบต่ำ บรรดานักเรียนผู้พยากรณ์เริ่มพูดคุยกัน เสียงดังอื้ออึงไปทั้งห้องจนผู้เฒ่าโยคุ ต้องรีบตัดบท
" เอาล่ะๆ มีเวลาคิดอีกมากไม่ต้องรีบร้อน กลับบ้านไปพักผ่อนได้ "
สิ้นสุดคาบเรียนนักเรียนพยากรณ์ทุกคนก็กรูกันออกจากห้องไป ยกเว้นไคน์ เขาคงยังรู้สึกคาใจกับความฝันประหลาดที่เกิดกับเขา จึงรอปรึกษากับอาจารย์ของเขา
" อ้าว..เจ้ายังไม่กลับอีกเหรอไคน์ " ชายชราเอ่ยปากถามนิ่มนวล
" ยังครับท่านปู่ คือ..เอ่อ..คือ.. "
" เอาเถอะไคน์ ไม่ต้องห่วงว่ามันจะเป็นการรบกวนปู่หรอก พูดมาเถอะ "
" ได้ครับ คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ... " ไคน์เล่าความฝันของเขาให้ผู้เฒ่าฟังอย่างละเอียด
เมื่อฟังไคน์เล่าเกี่ยวกับความฝันจบ โยคุผู้เฒ่าครุ่นคิดไปพักใหญ่ ต่อมาจึงบอกกับไคน์ว่าเขาจะอัญเชิญ เทพพยากรณ์ ดีไวน่า ลงมาเพื่อช่วยเปิดเผยความนัยของความฝันให้กระจ่าง ขณะเดียวกันที่ป่าทิศตะวันออกของหมู่บ้าน บรรดาเหล่านักชกต่างทยอยกันกลับหมู่บ้าน มีเพียงหนุ่มน้อยท่าทางปราดเปรียวที่ยังไม่ยอมกลับ เด็กหนุ่มผู้นี้ผมยาวถึงท้ายทอยแสกค่อนไปทางขวา สีหน้าบ่งบอกได้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ และความฉลาดเฉลียว ดวงตาสีเขียวตาแมวก็ส่องสะท้อนสิ่งนั้นออกมาเช่นกัน เขาคือน้องชายสุดรักสุดชังของเลเดีย ที่มีชื่อว่า เทสัน นั่นเอง
" โดมิโน่ พันช์ " เทสันตะโกนสุดเสียงพร้อมทั้งพุ่งเข้าใส่ตุ๊กตามนต์ เด็กหนุ่มฮุกหมัดซ้ายเข้าเต็มท้องของตัวหนึ่ง หมัดขวาเสยเข้าปลายคางของอีกตัวเต็มแรง พอเขาปล่อยมือทั้งสองตัวนั้นก็ลอยละลิ่วไปชนกับพวกที่กำลังวิ่งเข้ามา ทำให้พวกมันชนกระแทกกันเป็นทอดๆ เกิดเสียงดังเพล้งๆ เป็นระยะ พวกที่หลุดออกมานอกวงยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเทสันทำลายหมด แต่ยังไม่หมดมีตุ๊กตาที่เสกขึ้นจากโลหะทองแดงที่อึดพอจะผ่านออกมาได้ มันกำลังลากร่างที่หนักอึ้งตรงเข้าหาเทสันอย่างรวดเร็ว แต่เทสันกะจังหวะได้เขาถีบยอกหน้ามันล้มลง ต่อด้วย
" ฮันเดรด ชาโดว์ แฮนด์ซ์ " เด็กหนุ่มกระหน่ำหมัดใส่อย่างบ้าคลั่งจนพอใจ แล้วจึงลุกออกไป ชั่วเวลาไม่ถึงนับสามตุ๊กตามนต์ผู้โชคร้ายตัวนั้นก็ถูกเงาหมัดนับร้อยจู่โจม จนตัวมันกระตุกซ้ายทีขวาที และพังแหลกเหลวคาที่
" ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมมาก ฮ่า ฮ่า " ชายชราเอ่ยชมศิษย์รัก ใบหน้าและและแววตาถูกเติมเต็มด้วยความตื้นตัน และดูเอมอิ่มความสุขเป็นที่สุด
" แน่นอนฮะ ท่านปู่ ก็ผมเป็นเด็กหนุ่มที่เท่และฉลาดที่สุดในโลกเลยนี่ฮะ " เทสันว่าพลางยกหัวแม่มือปาดจมูกทำเท่
" ฮ่า ฮ่า เทสันเอ๊ย เจ้านี่นะ " ไคจินรู้สึกขันกันอาการของเด็กน้อยตรงหน้า แต่ก็ภูมิใจที่มีศิษย์ที่ทั้งหัวไวและขยันอย่างเทสัน
" กลับกันเถอะ เทสัน " ชายชราว่า พร้อมทั้งยืนมือให้และยิ้มอย่างอบอุ่น
" ครับ ท่านปู่ " เด็กหนุ่มตอบรับอย่างชื่นบาน สองศิษย์อาจารย์จูงมือเดินกันไป คุยกันไปอย่างสนุกสนาน
ส่วนทางด้านเลเดียนั้น ดูท่าเธอจะแย่เพราะความตื่นเต้น มันทำให้เด็กสาวแทบจะไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าที่ควร ดังนั้นมันจึงส่งผลให้มนต์มังกรที่เลเดียใช้ผิดพลาด และผลลัพธ์ที่ปรากฏก็มั่วไปหมด
" เซอา ดราโก คิลิธานัส ซาโกโวบัส ธาน " เด็กสาวร่ายมนต์อย่างรวดเร็ว เธอไม่ทันเฉลียวใจว่าคำสุดท้ายมันผิดเพี้ยนไป
" ฮีลลิ่ง เบรธ " เลเดียเอ่ยเสียงดัง ด้วยความมั่นใจเต็มที่
- พรวด - มังกรตัวสีขาวสะอาดปรากฏตัวขึ้น มันคายบางอย่างทิ้งไว้แล้วหายวับไปอย่างรวดเร็ว
" อี๋ แหวะ อ้วกมังกร แย่จังเนอะ " แอนนิต้าเอ่ยกับ รัสตี้ ตั้งใจว่ากระทบเลเดีย ต้องยอมรับว่ามันได้ผลดีทีเดียว เลเดียหัวเสียกับอาการของแอนนิต้ามาก แต่เธอกลับอายที่เพื่อนทั้งห้องกำลังหัวเราะเธออยู่มากกว่า
เด็กสาวรู้สึกเสียหน้าอย่างรุนแรง ทั้งผิดหวัง และสงสัยมาก ( ก็ฉันได้ยินอย่างนี้นี่นา )เธอคิดเช่นนั้น แต่สุดท้ายความสนใจของเลเดียก็ถูกดึงกลับมาทางแอนนิต้าอีกครั้ง
" เลเดีย วันนี้เธอสังเกตมั้ย ฉันเรียนได้ดีกว่าเธอเยอะเลย " แอนนิต้าว่า สายตาจ้องตรงมาที่เลเดีย ครู่ต่อมาเธอก็สบัดหน้าหนี เปลี่ยนท่าเป็นประกบมือ ทำตาซึ้งชวนฝํนแล้วกล่าวถึงไคน์
" นี่ต้องเป็นเพราะพรจากความรักของคุณไคน์แน่ๆเลย.. ฮิฮิ "
เลเดียฟังแล้วอ้าปากกว้าง แสดงอาการเหมือนจะสำรอก แต่พอแอนนิต้าหันกลับมามองเธอก็ทำตัวเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และยังไม่ทันที่สองสาวจะสนทนาต่อก็เหมือนกับว่ามีสิ่งวิเศษมาช่วยชีวิตของเลเดียไว้ เสียงของชายชราผู้สอนเอ่ยกับเลเดียขึ้นซะก่อน
" ผิดพลาดสินะ เลเดีย.. "
" เอ่อ.. ค่ะ " เด็กสาวรับคำ ถึงอยากจะโกหกแค่ไหนแต่หลักฐานที่กองอยู่ ก็คงจะทำให้เชื่อได้ยาก
" ปู่สอนแล้วนี่ว่า อย่าออกเสียงผิด " ผู้เฒ่าติเล็กน้อย แล้วว่า " ฟังให้ดีนะเลเดีย ทุกๆคนด้วย "
" ครับ / ค่ะ "
ชายชราค่อยๆหลับตาลง เขาสูดหายใจเต็มปอด พึมพำบทสดุดีบทหนึ่ง ทันใดนั้นเองสามก็พัดแรงขึ้น ชายชรายังคงนิ่งไม่ไหวติง เส้นผมและหนวดเคราสีเทาไหวลู่ไปตามลม สายลมนั่นยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มันพัดวนดึงเศษใบไม้และฝุ่นละอองต่างๆลอยขึ้นไป เด็กสาวกรีดร้องกันด้วยความกลัว ส่วนพวกเด็กหนุ่มต่างตื่นเต้นและโห่ร้องอย่างคึกคะนอง
" เซอา ดราโก คิลิธานัส ซาโกโวบัส เซอร์ธาน " ชายชราร่ายบทคาถาเสียงก้องกังวาล
" อาจารย์เซรอส คะ อ๊าย...! " เด็กสาวคนหนึ่งพยายามจะขอร้องให้ผู้เฒ่าหยุดร่ายมนต์แต่มันก็ไร้ผล เซรอสผู้เฒ่าเบิกตากว้างพร้อมทั้งว่าคาถาส่วนที่เหลือ " ฮีลลิ่ง เบรธ "
หลังจากจบคาถา มังกรสีเงินปรากฏกายขึ้น เจ้ามังกรขี้เซาลืมตาขึ้นช้าๆ จนกระทั่งสามารถเห็นดวงตาสีน้ำเงินของมันได้ทั้งดวง เจ้ามังกรบินขึ้นฟ้าและบินวนฉวัดเฉวียนไปมาราวกับว่ามันไม่ได้ออกมาบินเล่นนับเป็นร้อยเป็นพันปี สายลมหยุดพัดลงทันทีเมื่อมันหยุดบิน เจ้ามังกรมองตรงมายังกลุ่มผู้เรียน มันค่อยๆโก่งคอแล้วอ้าปากกว้าง ละอองแสงสีเงินไปรวมกันที่กลางปากของมัน ดวงแสงขยายใหญ่ขึ้นๆ และในที่สุด
- ซูม... -
มังกรพ่นแสงนั้นออกมาก่อนจะส่งเสียงร้องดังแสบแก้วหูแล้วบินหายไป เกลียวสายลมสีเงินอาบไปทั่วบริเวณ ทุกคนรู้สึกถึงความผ่อนคลาย ผู้ที่ทีบาดแผลก็หายราวกับมันไม่เคยมีมาตั้งแต่แรกเริ่ม แม้แต่ต้นไม้ดอกไม้ที่เฉาก็กลับมามีชีวิตชีวาเหมือนดั่งครั้งที่มันอวดดอกสวยเป็นครั้งแรก
" เป็นยังไงบ้างหือ.. " เซรอสเอ่ยถาม ทำให้ภวังค์ความสุขหายวับไป
" โธ่อาจารย์ครับ ไม่น่ารีบปลุกเลย "
" ใช่ค่ะ กำลังรู้สึกมีความสุขเลยค่ะ "
" นี่พวกเจ้าจะไม่กลับบ้านกันรึยังไง " เซรอสยิ้มกว้างพลางว่า " เอาล่ะ เลเดีย ลองดูอีกครั้งซิ "
- เด็กสาวทำหน้างุนงง เธอเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ชี้หน้าตัวเองแล้วว่า " หนูเหรอคะท่านปู่ " - - ชายชราพยักหน้า ค่อยๆผายมือออก ให้เด็กสาวก้าวออกมายืนกลางวง เมื่อเธอมาถึงเขาลูบหัวแผ่วเบาด้วยความเอ็นดู และยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนก่อนจะถอยออกไป
" เริ่มได้แล้ว เลเดีย " ชายชราให้สัญญาณ
" เซอา ดราโก คิลิธานัส ซาโกโวบัส ซาธาน " เด็กสาวกล่าวคาถาอย่างรวดเร็ว และเมื่อเธอกำลังจะว่าส่วนที่เหลือก็ถูกขัดขึ้นมาซะก่อน
" หยุด.. หยุดก่อนเลเดีย " เซรอสรีบห้ามยกใหญ่
" ทำไมล่ะคะ " เด็กสาวเอ่ยถาม ใบหน้าซีดเผือด เธอทั้งกังวลและรู้สึกผิด
" นี่.. คำว่า ซาธาน กับ ซาตาน มันใกล้กันนิดเดียวนะเลเดียเอ้ย.. " เซรอสกล่าว " ขืนปู่ปล่อยให้เจ้าร่ายจบ มีหวังเราคงโดนมังกรมารเผาตายแน่ " เขาให้เหตุผล แล้วสั่งเลิกชั้นเรียน ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
แอนนิต้าเห็นเลเดียสลดอยู่เธอก็ได้ที ลากตัวรัสตี้แล้วตรงเข้าไปหาเลเดีย จากนั้นก็คุยอวดทับถมในทันที
" แย่หน่อยนะยะ แม่คนหัวทึบ " เลเดียถึงกับมองตาขวางทันทีที่สิ้นเสียงของคู่อริ แต่ยังไม่พอแอนนิต้ารีบพูดต่อ " ผิดกับฉัน ทั้งสวยกว่า ฉลาดกว่า แถมยังได้รับการอวยพรจากคุณไคน์อีก โฮะ โฮะ โฮะ "
" โฮะ โฮะ โฮะ อย่างไคน์เนี่ยนะอวยพร " เลเดียยอกย้อนกลับ " ถ้าสาปให้ เป็นใบ้ ตาบอด อะไรอย่างนั้นน่ะน่าเชื่อหน่อย "
เห็นได้ชัดว่าแอนนิต้ามีปฏิกิริยาเอาซะมากๆ เวลาที่ใครว่าถึงไคน์ในทางเสียๆหายๆ เลเดียยืนครุ่นคิดโดยมีบ่นว่าของแอนนิต้าเป็นเหมือนเสียงดนตรีประกอบ ครู่ต่อมาเธอก็หันไปมองแอนนิต้า และยิ้มแบบมีเลสนัย
" ยิ้มบ้าอะไร เลเดีย " ผู้ถูกมองถามเสียงแข็ง และ มองระแวงระวัง
" จริงสินะ ยังไม่ค่อยเข้าใจเลยอ่ะ " เลเดียว่า พลางทำเป็นใสซื่อ
" ไปให้ไคน์สอนดีกว่า สงสัยจะไม่ได้นอนแน่ๆเลย บายนะจ๊ะ " เด็กสาววิ่งออกจากที่เรียนไปอย่างรวดเร็ว ไม่อยู่ฟังเสียงกรีดร้องโวยวายของแอนนิต้าซักนิด
" กรี๊ด.....เลเดียห้ามทำอย่างนั้นนะ กลับมาก่อน กลับม๊า..กรี๊ด.... " แอนนิต้ากรีดร้องดัง เธอกระถืบเท้าและฟึดฟัดอย่างบ้าคลั่ง โดยที่รัสตี้ได้แต่ยืนอุดหูอยู่ข้างๆ
" ดูสิ ดูยัยนั่นทำ อื้ย.. " แอนนิต้าพยายามกระตุ้นให้รัสตี้เพื่อนของเธอหมันไส้เลเดียมากขึ้น แต่กลับได้ผลที่ไม่ค่อยน่าพอใจนัก
" ฉันว่าเลเดียพูดถูกนะ ไม่เข้าใจก็หาคนสอน โอ๊ย....... " รัสตี้ร้องเสียงหลง เมื่อพูดๆอยู่ก็ถูกแอนนิต้ากระถืบเข้าที่เท้า
" งี่เง่า " ว่าแล้วเด็กสาวก็เดินปึงปังออกไปอีกคน
ในขณะที่ ทุกคน จากทุกเมือง ในทุกๆ อาณาจักรใช้ชีวิตกันตามปกติ ต่างดำเนินกิจกรรมต่างๆ ไปอย่างสุขสงบ พวกคนเหล่านั้นใช้เวลาไปกับงาน และความสนุกสนาน โดยไม่รู้เลยว่า หายนะและภัยพิบัติกำลังคืบคลานเข้ามา คงจะมีเพียงแค่ ผู้เฒ่าโยคุ กับ ไคน์เท่านั้น ที่รู้ทันว่ากำลังจะเกิดสิ่งใดขึ้น และ พยายามหาทางป้องกันแก้ไข ถึงแม้จะรู้ว่ามันยากเย็นซะเหลือเกินที่กำลังของคนสองคนจะทำได้
- คำทำนายหายนะครั้งใหม่ ได้ปรากฏขึ้นแล้ว -
........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
*สกุลเงินของ โลกเวิร์ลดินอล
Nemph (เนมฟ์) = 100หน่วย
Nemaph (เนมาฟ) = 10 หน่วย
Neppa (เนพพา) = 1 หน่วย
ความคิดเห็น