ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กาลครั้งหนึ่งสองสาม [2jae] ft.GOT7,Double B

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 นักร้องจำเป็น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 165
      0
      6 มี.ค. 58

    Well done Pub!



    ยองแจ
    นักร้องจำเป็น



    ฮันบิน
    แร็ปเปอร์จำเป็น




    ซิโค่
    ทายาทกิจการผับ Well Done



     


    Chapter 3




     

     

     

    ไลน์

    BBam1A:

    ลงมาเปิดประตูหอให้กูหน่อย

    CYJ:

    เออๆ

    รอแปป

    กำลังลงไป

     

    ติ๊ด.

         ผมกดเปิดประตูหอให้แบมแบมก่อนจะเดินนำเข้าไปรอลิฟท์เพื่อขึ้นไปห้องของผม หอผมเป็นหอที่สะดวกสบายมาก สิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ที่จอดรถ ระบบรักษาความปลอดภัย ร้านซักรีด มินิมาร์ทเล็กๆ ในห้องก็มีห้องน้ำ ห้องครัว เฟอร์นิเจอร์หรู จริงๆมันคือคอนโดนะ แต่ผมติดเรียกว่าหอไปซะแล้วล่ะ ส่วนค่าห้องไม่ต้องพูดถึงครับ ถ้าไม่มีป๊าม๊า ผมต้องขายไตมาจ่ายค่าห้องแน่นอน
     

    “ถ้าหิวก็หาไรกินในตู้เย็นได้นะมึง”

       ผมชี้แหล่งขุมทรัพย์ให้ไอ้แบม ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงที่โซฟาหน้าทีวีคว้ามองสองใบมากอด ก่อนจะซุกหน้าลง มองภาพบนทีวีไปเรื่อยๆ

     

    “ตกลงมีไรจะบอกกูเนี่ย?”

    แบมแบมเดินมากระชากหมอนในแขนผมไปหนึ่งใบก่อนจะนั่งลงข้างๆกัน

     

    “มึงรู้จักพี่เจบีมั้ย”

    ผมถามมัน แต่สายตาผมกลับจับจ้องอยู่ที่หน้าจอทีวี ราวกับว่ามันมีอะไรน่าสนใจนักหนา

    “รู้จักดิ ก็เพื่อนในกลุ่มมาร์คไม่ใช่อ่อ?” หือ?

    “เดี๋ยวนะ นี่มึงสนิทกับพี่มาร์คถึงขั้นเรียกชื่อเฉยๆได้เลยหรอวะ อย่าบอกนะว่าเรื่องที่มึงจะคุยกับกูคือเรื่องพี่มาร์คอ่ะ?”

    ผมหันไปถามอย่างสนสัยและคิดไม่ถึง

     

    “ก็.. เออ เรื่องนี้แหละ แต่มึงเล่าของมึงมาก่อนนะ”

    “อือ ครับคุณเพื่อน”

    ผมเงียบไปเพื่อเรียบเรียงเรื่องราวที่จะพูดก่อนจะเริ่มเล่าใหม่

     

    “กูอยากจะบอกมึงว่ากูกับพี่เจบี คุยๆกันอยู่..”

    “ห้ะ? จริงหรอวะ ไปเริ่มคุยกันตั้งแต่ตอนไหน? กูไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

    “ก็วันรับน้องวันสุดท้ายแหละ เขามาขอไลน์ กูเลยให้ไป แล้วก็คุยมาเรื่อยๆถึงตอนนี้ แล้วมึงอ่ะ”

    “กู...คบกับมาร์คอยู่” หือ ...

    “คบกันทำไมไม่เห็นเปิดเผยเลยวะ?”

    “ก็นั่นแหละที่กูอยากปรึกษาอ่ะ คือมาร์คก็อยากบอกคนอื่น แต่กูไปขอไว้ว่าอยากมาบอกมึงก่อน”

    “มึงจะมาห่วงกูทำไมเนี่ย ใช่ว่ากูชอบมึง หรือ ชอบพี่มาร์คอยู่ซะเมื่อไร”

    “แล้วมึงไม่โกรธหรอ ที่กูจะมีแฟนอ่ะ”  ไอ้นี่ เห็นผมเป็นเด็กหรือไงวะ

    “จะไปโกรธทำมะเขืออะไรล่ะ ถ้ามึงมีความสุขดี ก็คบไปเถอะ มีแฟนไปเถอะ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ไม่ช้าก็เร็ว มึงก็ต้องมีแฟนอยู่ดี”

    “คมมาก ขอยืมไปหั่นผักหน่อยเหอะ”

     

    ป้าบ. ไอ้นี่แม่งกวนตีน ผมเลยเอาหมอนในแขนฟาดมันไปหนึ่งที

     

    “แต่วันนี้กูเพิ่งงอนพี่เจบีไปว่ะ..”

    “อ้าว ละมึงไปงอนเขาเรื่องอะไร?”

    “ก็เมื่อวานหลังจากแยกจากมึงที่หน้าหอ กูก็ไลน์ไปถามว่า อยู่ไหน ทำอะไรอยู่ ปกติอย่างที่กูเคยทำ แต่เขาไม่ตอบกูเลย จนถึงเช้า เพิ่งจะมาทักเมื่อตอนบ่าย กูรู้แค่ว่าตอนนั้นกูอารมณ์ไม่ดีมากๆ ก็เลยกลายเป็นว่ากูงอนเขาไป เขาจะรำคาญกูมั้ยวะ”

    “ที่เขาไม่ตอบอาจจะมีธุระก็ได้นะ มึงลองใจเย็น แล้วลองมีเหตุผลขึ้นมาอีกนิดนึง มันอาจจะดีขึ้นก็ได้ แล้วนี่พี่แกไม่โทรหรือไลน์มาหาเลยหรอวะ?”

    “ยังอ่...”

     

    ไลน์

     

    “ตายยากจัง”

    หมอนในมือผมไปอยู่บนหัวแบมแบมอีกรอบ ก่อนจะก้มหน้ากดปลดล็อคหน้าจอเข้าแอพไลน์เพื่อตอบอีกคนในโทรศัพท์แทน



     

    JBD_Soul:

    อยู่ห้องป่าว?

    วันนี้พี่ไปข้างนอกกับเพื่อนนะ

    CYJ:

    ไปบ่อยจัง

    เมื่อวานก็ไป

    JBD_Soul:

    ก็ช่วงนี้พี่ว่างพอดีนี่นา

    แล้วเมื่อบ่ายงอนพี่หรอ

    พี่ขอโทษนะ

    CYJ:

    ไม่ได้งอนสักหน่อย

    ก็แค่อารมณ์ไม่ดีเฉยๆอ่ะ

     

         โกหกไปคำโตเลยผม..แต่ก็จริงอย่างที่แบมมันว่า ผมควรจะมีเหตุผลมากกว่านี้ แค่คุยกันเฉยๆ จะไปมีสิทธิงอนเขาได้ไง

    “พอหายงอนเขา ก็ไม่สนใจเราเล้ยยย” แบมแบมมันบ่นลอยๆ แต่ตั้งใจแซะผมเต็มๆ

    “ก็คุยกับพี่มาร์คไปดิ”

    “ก็คุยอยู่

    “แหม...” ผมเลิกสนใจมันก่อนจะก้มหน้าคุยกับอีกคนในโทรศัพท์ต่อ


     

    JBD_Soul:

    ให้มันจริงเถอะ ไอ้หนู!

    CYJ:

    จริงน่า

    แล้วไปกับใครบ้างอ่ะ

    JBD_Soul:

    ก็เพื่อนกลุ่มเดิม

    ไปกับพี่ป่าว?

    CYJ:

    เมื่อวานไม่เห็นชวนแล้วทำไมวันนี้ชวนได้เนี่ย

    JBD_Soul:

    ก็เดี๋ยวเด็กแถวนี้จะงอนอีก

    CYJ:

    บอกว่าไม่ได้งอนไง ไอ้พี่เจบี -*-

    JBD_Soul:

    คร้าบบ ไม่งอนก็ไม่งอน

     

     

    “กูขอขัดเวลาแปป”

    ผมเงยหน้าไปมองแบมแบม ก่อนจะเลิกคิ้วถามในเชิงว่า มีอะไร


     

    “ยูคมันชวนออกคืนนี้ ไปป่ะ?”

     

    อืม..พี่เจบีก็ไปกับเพื่อน ผมออกไปกับเพื่อนบ้างก็ดี

     

    “เอาดิ มันจะมารับกี่โมง?”

    “กูบอกให้มาสี่ทุ่ม กูจะได้กลับไปแต่งตัวที่หอก่อน เอามาแต่ชุดนอนเนี่ย”

    “อือ ก็โอเคตามนั้น ละมึงจะกลับเลยป่ะ?”

    “กลับเลยดิ ไปละ”

    “ยังไงก็โทรมานะ”

     

    ผมตะโกนไล่หลังแบมแบมที่เดินจากห้องไป


     

    CYJ:

    ออกไปข้างนอกเหมือนกันครับ J

    ไปละ

    JBD_Soul:

    อ้าว

    โอเคครับ

     

         ผมวางโทรศัพท์ลงก่อนจะวิ่งไปอาบน้ำแต่งตัว รอยูคกับแบมแบม แต่เอ...จะใส่ชุดไหนไปดีเนี่ย

    ‘Giant Yug’


    ผมคว้าโทรศัพท์มารับแล้วเดินไปเลือกชุดสำหรับงานคืนนี้
     

    “มีไร?”

    “ช่วยไรกูอย่างดิ”

    ไอ้ยูคส่งเสียงอ้อนวอนมาขนาดนี้ ผมจะไม่ยอมช่วยมันก็ยังไง อยู่ แต่ขอดูก่อนว่ามันจะให้ผมทำอะไร

     

    “ช่วยไรวะ ไหนลองว่ามาก่อน”

    “คืองี้ วันนี้นักร้องที่ผับเพื่อนพี่กูไม่มา ตอนนี้หานักร้องไม่ทันจริงๆ มึงช่วยมาร้องแทนสักครั้งหน่อยได้มั้ยวะ”

     

    เพื่อนเฮียแจ็คสิเนี่ย คงเป็นใครสักคนในกลุ่มนั่นแหละ หึหึ อีกคนคงจะตกใจแน่ถ้าวันนี้เขาเห็นผมบนเวที แต่ผมไม่เคยร้องแนวอื่นนอกจากบัลลาดเลยนะ จะไปเข้ากับเพลงในผับหรอ? ผมเลยถามไอ้ยูคไปว่า

     

    “กูร้องแต่เพลงบัลลาด จะไปเข้ากับผับได้ไง”

    “เออน่า มึงร้องเพลงอื่นได้นี่แต่เรื่องนั้นเดี๋ยวพี่กูเคลียร์ให้ โอเคนะมึง”

    “เออออ  แค่ครั้งนี้นะ”

    “ขอบคุณครับคุณเพื่อนนนน เดี๋ยวกูไปรับมาเตรียมตัวก่อน จะเสร็จยัง?”

    “ออกมาเลยก็ได้ มาถึงกูก็เสร็จพอดี”

    “โอเค รอพี่แปป”

     

    ผมวางโทรศัพท์ลงหลังจากคุยกับไอ้ยูคเสร็จ ก่อนจะมองไปในตู้เสื้อผ้าแล้วคว้าออกมาหนึ่งชุด

    เป็นเสื้อเชิ้ตขาวและสูทสีดำอีกหนึ่งตัว ส่วนกางเกงเป็นยาวแต่ก็สูงกว่าตาตุ่มขึ้นมานิดนึง ไม่ลืมคว้าไทท์ออกมาด้วยอีกหนึ่งเส้น

     

    ‘Giant Yug’

     

    “กำลังจะลงไปแล้ว ล็อคห้องอยู่”

    ผมตอบดักเจ้ายักษ์ยูคอย่างรู้งาน ว่ามันต้องมารอแล้วแน่ๆ

     

    “รีบตอบเชียวนะ จะโทรมาบอกว่าจอดรถอยู่หน้าหอมึงอ่ะ คันสีดำ ไม่ได้เอารถกูมา”

    “อือๆ รับทราบบบ” ผมตัดสายยูคก่อนจะรีบเดินเข้าลิฟต์ไป
     

    เมื่อลงมาหน้าหอ ไม่ต้องเดาว่ารถอยู่ไหน เพราะมีแค่คันเดียวที่เป็นสีดำจอดอยู่ ผมเดินไปเปิดประตูก้าวรถขึ้นอย่างไม่ลังเล หลังจากนั้นรถหรูก็ทะยานสู่ท้องถนนตรงไปยังผับของเพื่อนเฮียแจ็คสันทันที





     

    Well done Pub.

     

         ผมน่าจะเดาออกตั้งแต่แรกนะ ว่าเป็นผับของใคร ก็มีอยู่ไม่กี่คนในกลุ่มเฮียแจ็ค วันนี้ผมต้องมาร้องเพลงให้ผับพี่ซิโค่ ที่รับช่วงต่อมาจากทางบ้านอีกที ถ้าไม่ได้คุยกับพี่ซิโค่วันนี้ ผมก็จะยังฝังใจไปตลอดว่าพี่แกน่ากลัว แต่พอได้คุยกันดีๆแล้ว ภาพเข้มๆโหดๆหายวับไป คือพี่แกตลกมากครับ ใจดีมากด้วย พี่ซิโค่มาบอกว่า เดี๋ยวจะมีนักร้องอีกคนมาร้องแร็ปด้วยกันกับผม แต่ตอนนี้ยังไม่มา ส่วนเพลงพี่แกเตรียมไว้ให้แล้ว พอผมไล่รายชื่อดูก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะเป็นเพลงที่ผมร้องได้ เคยฟังบ่อยๆ

         สักพักหนึ่งก็ปรากฎร่างสูงของพี่บ็อบบี้เดินเข้ามา พ่วงอีกคนที่ผมมองไม่ถนัดเดินตามหลังมาด้วย ผมไม่รู้ว่าใครเพราะหมวกสแนปแบคที่คนนั้นใส่อยู่มันปิดหน้าไว้ครึ่งหนึ่งเลย สไตล์การแต่งตัวฮิปฮอปแบบนั้นเหมือนคนๆหนึ่งที่ผมรู้จักเลยแหะ

         พี่บ๊อบบี้และอีกคนเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ พี่แกชกมือทักทายกับพี่ซิโค่เบาๆ และหันมายีหัวผมนิดหนึ่งก่อนจะดึงตัวอีกคนที่อยู่ข้างหลังมาแนะนำตัว พี่บ็อบบี้จัดการขยับปีกหมวกบนหัวอีกคนไปไว้ข้างหลัง ทำให้ผมเห็นหน้าของคนนั้นได้ชัดเจนขึ้น โอ้ยย  ที่แท้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน

     

    “ฮันบิน!!!

     

    ฮันบินเองก็ดูตกใจเหมือนกันที่เจอผมที่นี่ เจ้านั่นเดินมายืนข้างผม แต่ก็ยังไม่ลืมทักทายพี่ซิโค่ด้วย

    “ทำไมมากับพี่บ็อบบี้ได้เนี่ย?” ผมถามฮันบินอย่างสงสัย

    “เรื่องมันยาวอ่ะ แล้วทำไมมาอยู่นี่ได้เนี่ย?” ถามไปไม่ได้คำตอบดันโดนกลับอีก -_-

    “โดนขอให้มาช่วยร้องเพลงอ่ะ”

    “เห้ย!เหมือนกันเลย”

    “อย่าบอกนะว่ามึงจะมาแร็ปให้? 555555 โลกกลมว่ะ”

    “งั้นอย่าบอกนะว่ามึงก็มาร้องเพลงให้อ่ะ 555555 แต่ดีแล้วที่โลกกลม กูจะได้มีเพื่อนไง”

    “ก็จริง แล้วเรื่องเพลง โอเคป่ะ?”

         ด้วยความที่เริ่มสนิทกันมากขึ้นสรรพนามที่ใช้เรียกกันก็เปลี่ยนตาม จาก นาย ฉัน แก เป็น กู มึง ไปโดยปริยาย ผมคุยเรื่องเพลงกับฮันบินไปเรื่อยๆว่าเพลงไหนเราจะร้อง หรือ เว้นจังหวะให้กันอย่างไร พวกผมคุยกันพลางๆ จนเมื่อมีทีมงานมาบอกว่าได้เวลาจะขึ้นแสดงแล้วให้ไปเตรียมตัวที่หลังเวที

         เท่าที่มองดูตอนนี้ก็เริ่มมีคนมาเยอะพอสมควรแล้ว ผมเห็นเงาของเจ้าแบมแบม กับ ยูค สองคนนี้นั่งอยู่ที่โต๊ะเฮียแจ็คสัน พี่มาร์ค พี่บ็อบบี้ พี่ซิโค่ พี่มิโน  ผมพยายามมองหาอีกคน แต่ไม่เจอ สงสัยจะยังไม่มา ผมเลิกสนใจก่อนจะกลับมาเตรียมตัว ตอนนี้ดีเจเริ่มพูดถึงผมสองคนแล้ว จบคำก็มีเสียงดนตรีดังขึ้นมาเป็นตัวบ่งบอกว่าได้เวลาทำงานของผมกับฮันบินแล้ว

    .

    .

    ∼∼♬∼♪∼

    เสียงดนตรีดังขึ้น เสียงพูดคุยต่างๆเริ่มเบาลง

    ทันใดนั้น ก็ปรากฎร่างของเด็กหนุ่มสวมหมวกสแนปแบคแต่งกายฮิปฮอปเดินออกมากลางเวที พร้อมเอ่ยท่อนร้องของตัวเองออกมา

     

    Let me ask you all a question

    Whats yo type baby,come on? Yeah

     

    จบท่อนของฮันบินก็มีเสียงนุ่มๆตามมา พร้อมปรากฏร่างของเด็กหนุ่มเจ้าของเสียง ที่แต่งตัวด้วยสูทเต็มยศ แต่ด้วยขากางเกงที่สั้นขึ้นมาจากปกติ ทำให้ไม่ดูแปลกแยกเกินไปนัก

     

    ผมชอบทุกอย่างที่เป็นตัวคุณนะ(ก็ผมบอกคุณไปหมดทุกอย่างแล้วนี่)

    ทั้งหมดนี้มันหมายถึงตัวคุณนะ It’s alright, It’s alright girl

    เมื่อตอนที่เราเดินไปด้วยกัน

    ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่คุณไม่ต้องการให้ผมใส่

    คุณเพียงแค่บอกผมมาว่าไม่อยากให้ผมใส่มัน

    ผมมีความมั่นใจในตัวเองมากพออยู่แล้ว

    (My type-Jessie,Cheetar ft.Gangnam M.I.B PD.Verbal Jint)

     

       จบท่อนยองแจก็เป็นแร็ปของฮันบินที่เจ้าตัวดัดแปลงเนื้อบ้างนิดๆหน่อยๆเพื่อสร้างความสนุกให้กับขาเที่ยวกลางคืนทั้งหลาย

    ระหว่างท่อนที่ไม่ใช่ของตัวเองยองแจก็เล่นหูเล่นตากับผู้คนข้างล่างไปเรื่อยๆ แต่จู่ๆสายตาก็มองสบกับใครบางคน ที่กำลังมองเขาอย่างอึ้งๆอยู่ที่โต๊ะเฮียแจ็ค คนที่เขามองหาไม่เจอในตอนแรก  เจอแบบนี้เขาก็ทำตัวไม่ถูกสิ ฉับพลันสมองก็สั่งให้เค้าส่งวิงค์ขยิบตาไปให้คนๆนั้น ...พี่เจบี
     .
     .
     .
     .
     .

     

    JB_Def’s

     

    เด็กหนุ่มคนที่เค้ามองกี่ครั้งก็น่ารัก กำลังยืนอยู่ในที่ที่เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะได้เห็น แม้ว่าคนอื่นจะมองว่าเด็กนั่นเป็นยังไง แต่เด็กนั่นก็ยังคงน่ารักมากในสายตาเขาอยู่ดี

    วิ้งค์.

    ฮึๆ จริงๆไอ้เด็กนี่ก็แสบเหมือนกันนะ แค่วิ้งค์เดียว ยังทำให้ใจกระตุกขนาดนี้

    “เห้ย ยูค ยองแจแม่งส่งวิ้งค์มาให้ด้วยว่ะ 5555555 แม่งสาวกรี๊ดตรึมเลยมึง แต่กูตลก 55555” เสียงแบมแบมพูดคุยเล่นกับยูคเสียงดัง
     

    แต่คุยกันดังขนาดไหน ผมก็ไม่สามารถละสายตาจากคนบนเวทีได้เลย ราวกับถูกมนต์สะกดจากคนบนนั้น.... ท่าจะเป็นเอามาก ผมได้แต่ส่ายหัวให้กับความคิดตัวเอง

    End.




    #ฟิคกาลครั้งหนึ่งสองสาม

    IGRIANI


    Talk:
    อย่าเพิ่งบ่นเราเรื่องขนาดอักษรและวิธีจัดย่อหน้าต่างๆเลยนะ
    กำลังมึนสุดๆเลยอ่ะ แงงง
    ทำไมเรื่องมันออกมาแนวนี้ มันจะเป็นแบบไหนต่อไป
    เราก็ไม่รู้อ่ะ ร้องเฮียหนักมาก
    เราคิดออกยังไงก็แต่ง ฟิคเราดิบมากๆ
    ขนาดชื่อเรื่องยังกากขนาดนี้เลยอ่ะพวกเธอออ
    กำลังคิดไว้ว่าจะเปลี่ยนชื่อใหม่
    แล้วกำลังจะหาทางเข้าเรื่องแบบที่เคยโปรไว้ให้ได้

    ปล.เรื่องนี้มีโมเม้นท์ ดับเบิ้ลบีด้วยนะ
    ส่วนซิโค่เราชอบเป็นพิเศษอยู่แล้วเลยถือโอกาสพามาอยู่ในเรื่องซะเลย แหะๆ

    ปล.2 จะเม้นต์ จะสกรีมในทวิต ก็แล้วแต่เลยนะ เราไม่ซีๆ ขอแค่เข้ามาอ่านเรื่อยๆก็พอ

    ไปละ ตอนหน้าไม่รู้ว่า พรุ่งนี้จะแต่งทันมั้ยนะ ไม่ทันอย่าว่ากันนะเธอๆๆ บัยส์

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×