ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนมหาเวทย์มอนตาเซีย

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 6 เครื่องประดับนำโชค ?

    • อัปเดตล่าสุด 17 ต.ค. 58


    บทที่ 6 เครื่องประดับนำโชค ?

                    เฟอนัลโด้พาเดินลัดเลาะเข้าไปในตรอกที่ไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรไปมา ทุกคนต่างคิดในใจว่าในที่แสนเปลี่ยวขนาดนี้จะมีร้านอาหารได้อย่างไร จนกระทั่งในที่สุดพวกเขาก็เดินมาหยุดที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านทั้งหลังเป็นสีดำสนิท กรอบหน้าต่างถูกทาด้วยสีขาว ทางเข้ามีเสาไฟต้นหนึ่งตั้งอยู่ ไม่มีอะไรบ่งบอกแม้แต่นิดเดียวว่านี่คือร้านอาหาร แต่ก่อนที่ทุกคนจะเอ่ยถามอะไร เฟอนัลโด้ก็เดินไปเคาะประตู แล้วยืนรออย่างสงบ เพียงไม่นานก็มีคุณยายท่าทางใจดีมาเปิดประตูพร้อมกล่าวต้อนรับพวกเธออย่างดี

                    ยินดีต้อนรับสู่ร้านมิดไนท์จ๊ะ เข้ามาก่อนสิจ๊ะ ทุกคนทำสีหน้ามึนงงก่อนเดินเข้าไปในร้านอย่างเงียบ ๆ บรรยากาศภายในร้านแตกต่างจากข้างนอกอย่างสิ้นเชิง ผนังถูกทาด้วยสีขาว โต๊ะและเก้าอี้ทำจากไม้ พื้นถูกปูด้วยหินทุกอย่างดูอบอุ่นไปหมด ทุกคนนั่งประจำที่อย่างรวดเร็วพร้อมกับเตรียมตัวสั่งอาหาร ก่อนที่ทุกคนจะทำการสั่งอาหาร เฟอนัลโด้ก็เอ่ยขึ้นมาว่า

    ที่นี่ไม่มีเมนูอาหารหรอก ที่นี่ขายแค่ชุดอาหารกลางวันเท่านั้น เดี๋ยวคุณยายแกก็จะทำออกมาเสริฟเองแหละ

     ทุกคนพยักหน้าอย่างมึนงงก่อนนั่งรออย่างเงียบ ๆ บางคนก็ทำการสำรวจรอบ ๆ ร้าน บ้างก็จับกลุ่มกันดูอาวุธที่ซื้อมาใหม่ คิร่ากับคาโรลิน่าก็กำลังสำรวจธนูที่พวกเธอซื้อมา เอิร์ลและนิโคลัสหลับไปแล้ว เฟอนัลโด้ก็กำลังสำรวจดาบและคทาของหลุยส์อยู่ เลล่าจึงหยิบหนังสือออกจากเป้ของเธอและทำการเปิดอ่านอย่างรวดเร็ว

    เพียงไม่นานอาหารทั้งสิบห้าชุดก็ถูกทยอยออกมาเสริฟ ทั้งหมดลงมือทานอย่างรวดเร็วด้วยความหิวโหย ทุกอย่างหมดอย่างรวดเร็ว เมื่อทุกคนทานกันหมดเรียบร้อยเฟอนัลโด้ก็บอกว่าเค้าจะเลี้ยงเอง ก่อนเดินไปจ่ายเงินอย่างรวดเร็ว หลังจากทุกคนอิ่มกันแล้วก็เดินไปที่ร้านขายสัตว์เลี้ยงและสัตว์วิเศษ

    ที่ร้านมีสัตว์มากมายทั้ง กระต่ายยักษ์ จิ้งจอกเก้าหาง ฮิฟโปกริฟฟ์ กริฟฟินส์ เพกาซัส เป็นต้น มีอย่างเดียวที่ไม่มีก็คือสัตว์ในตำนานอย่างมังกรที่มีเนื้อหาอยู่ในตำราที่เลล่าอ่านเท่านั้น ทุกคนเดินเข้าไปเลือกสัตว์เลี้ยงที่จะมาเป็นคู่หูตนเองอย่างตื่นเต้น เอิร์ลถูกใจฮิปโปแคมปัสตัวหนึ่ง คาโรลิน่าได้กระต่ายยักษ์ขนปุยสีขาว หลุยส์เลือกสุนัขห้าหาง  นิโคลัสได้วิหคสายฟ้า เฟอนัลโด้ได้จิ้งจอกเก้าหาง คิร่าถูกใจเพกาซัสตัวหนึ่ง มันสวยงามและเป็นมิตรกับเธอมาก เจ้าของร้านบอกกับคิร่าว่าเพกาซัสตัวนี้ไม่เคยให้ใครเข้าใกล้แต่มันกลับเดินมาใกล้คิร่าพร้อมกางปีกห่อหุ้มตัวคิร่าไว้ราวกับจะกอด คิร่าจึงเลือกเพกาซัสตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของเธอ

    ด้านเลล่าตอนนี้เธอกำลังมองลูกสิงโตอยู่ พวกมันมีกันอยู่สองตัว ตัวหนึ่งมีขนเป็นสีขาวดวงตาของมันเป็นสีแดง ส่วนอีกตัวหนึ่งเป็นขนของมันเป็นสีดำดวงตาของมันเป็นสีน้ำเงิน ตอนนี้เธอกำลังขบคิดว่าทางโรงเรียนจะยอมให้เธอมีสัตว์เลี้ยงถึงสองตัวหรือไม่ แต่เธอไม่อยากแยกพวกมันออกจากกัน เธอจึงตัดสินใจที่จะซื้อพวกมันทั้งคู่ เจ้าของร้านมองเธออย่างงุนงงตอนเธอไปจ่ายเงิน เพราะลูกสิงโตอยู่ร้านเค้ามาหลายเดือนแล้วและไม่มีใครสนใจพวกมันเลย อีกอย่างคือลูกสิงโตสองตัวนี้ดูธรรมดามาก ไม่น่าจะมีพลังเวทย์ เจ้าของร้านจึงไม่เข้าใจว่าทำไมเลล่าถึงให้ความสนใจกับพวกลูกสิงโตทั้งสองตัวนัก ทั้งที่น่าจะเลือกสัตว์เวทย์ตัวอื่น ๆ มากกว่าอย่างแฝดของเธอก็เลือกเพกาซัส เจ้าของร้านบอกว่าเค้าได้รับซื้อลูกสิงโตทั้งสองตัวนี้มาจากชายพเนจรคนหนึ่ง ชายผู้นั้นอุ้มลูกสิงโตมาให้เค้า พร้อมขายแลกเงินไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เจ้าของร้านลองดูหนังสือหลาย ๆ เล่มแล้วไม่พบว่าจะมีสัตว์เวทย์ตัวไหนที่รูปร่างเป็นสิงโต จึงคิดว่าเป็นแค่ลูกสิงโตธรรมดาเท่านั้นเอง เลล่ารับฟังอย่างเงียบ ๆ หลังจากจ่ายเงินกันครบทุกคนแล้วทั้งหมดก็ทยอยเดินออกมาจากร้าน ทางร้านบอกว่าจะนำสัตว์เลี้ยงทั้งหลายไปส่งให้ที่โรงเรียน เพราะคงไม่ดีแน่ที่จะให้นักเรียนเดินจูงกริฟฟิน กระต่ายยักษ์หรือจิ้งจอกเก้าหางไปตามท้องถนนที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย

    หลังจากซื้อของครบทั้งหมดแล้ว เลล่าตั้งใจที่จะกลับไปที่หอพักทันที แต่คิร่าฝาแฝดของเธอต้องการที่จะเที่ยวชมตลาดกลางของแลงแคสเตอร์ ทั้งหมดจึงเดินชมตลาดด้วยกัน ที่ตลาดมีสินค้ามากมายทั้งผักผลไม้แปลก ๆ เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องลางนำโชคหรือป้องกันภัย หนังสือเก่า เครื่องเรือนต่าง ๆ และแน่นอนสำหรับร้านค้าที่เธอจะเข้าก็คงเป็นร้านหนังสือเก่าอย่างไม่ต้องสงสัย

    หลังจากที่เลล่าซื้อหนังสือเล่มหนาเตอะถึงสองเล่มและกำลังจะเดินกลับไปหาคิร่านั้น ร้านที่ตั้งติดกับร้านหนังสือเก่าก็ดึงดูดสายตาเธอทันที ร้านนี้เป็นร้านขายเครื่องประดับเก่าและเครื่องรางนำโชค เลล่าสะดุดตากับจี้ห้อยคอคู่หนึ่ง อันหนึ่งเป็นรูปพระอาทิตย์มีอัญมณีตรงกลางเป็นรูเบลไลท์ล้อมรอบด้วยเพชรเม็ดเล็ก ๆ เป็นเหมือนเปลวเพลิงของดวงอาทิตย์ ส่วนจี้อีกอันหนึ่งทำจากเงินรูปจันทร์เสี้ยวมีลวดลายและประดับด้วยเพชรเม็ดเล็ก ๆ โอบล้อมไพลินตรงกลาง เหมือนดั่งพระจันทร์ที่โอบล้อมโลกเอาไว้ นอกจากจี้ห้อยคอและเธอยังเจอกับสร้อยคอมือลูกไม้ประดับโอปอลติดแหวนทองคำตรงกลางแหวะเป็นดอกกุหลาบสีดำ ส่วนอีกอันหนึ่งคล้ายกันแต่ใช้ไข่มุกและเป็นดอกกุหลาบสีขาว เลล่าคิดว่าของทั้งสี่ชิ้นที่เธอเลือกดูต้องราคาแพงมากแน่ ๆ เพราะเป็นทั้งเครื่องเงินเก่า ทองคำ และรวมถึงอัญมณีที่นำมาประดับทั้งหมดล้วนสวยงามมาก แต่เธอก็ตัดสินใจซื้อทั้งจี้และสร้อยข้อมือทั้งคู่ เมื่อนำของทั้งสี่ชิ้นมาจ่ายเงิน เลาล่ากลับพบว่าของทั้งสี่ชิ้นราคาเพียง 8800 แลงดอนเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่มันอาจมีราคาสูงถึงหลายหมื่นแลงดอน (แลงดอนเป็นสกุลเงิน หนึ่งเหรียญทองมีค่าเท่ากับ 1000 แลงดอน เหรียญเงินมีค่าเท่ากับ 100 แลงดอน และเหรียญทองแดงมีค่าเท่ากับ 10 แลงดอน) เลล่าแปลกใจที่ราคาของทั้งสี่ชิ้นกลับไม่แพงอย่างที่เธอคาดเดา รวมถึงเจ้าของแสดงอาการอย่างออกนอกหน้าว่าดีใจมากที่สามารถขายของทั้งสี่ชิ้นออกไปจากร้านได้ซักที แถมยังให้เครื่องรางที่เป็นแหวนเงินใบโคลเวอร์สี่แฉกให้เธออีกด้วย

    เลล่าเดินกลับไปหาคิร่าทันทีหลังจากที่ซื้อของที่เธอต้องการครบแล้ว เมื่อไปถึงก็เห็นคิร่ากำลังหัวเราะอย่างมีความสุขกับคาโรลิน่า ดูเหมือนคนอื่น ๆ จะกลับไปที่หอหมดแล้ว เลล่ามองคิร่าที่ดูสดใสและเป็นที่รักของทุก ๆ คนที่พบเห็นเธอ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ คิร่ามีแต่คนรักและเอ็นดูเธอ แต่กลับกันเลล่าไม่มีใครกล้ามาเล่นกับเธอเลย คงเป็นเพราะนัยน์ตาสีแดงและใบหน้าที่เรียบสนิทไม่แสดงอารมณ์ของเธอละมั้ง ที่ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เธอ เธอได้แต่แอบมองคิร่าเล่นกับคนนั้นคนนี้ ในขณะที่เธอนั่งอยู่เงียบ ๆ กับกองหนังสือขนาดใหญ่ในห้องของเธอเท่านั้น ไม่มีใครสังเกตเห็นเธอ ถ้าจะให้เปรียบเทียบคิร่ากับเธอ คิร่านั้นคงสดใสและร่าเริงดั่งดวงอาทิตย์ยามเช้า และเธอเองก็คงเป็นได้เพียงดวงจันทร์ที่ส่องสว่างในขณะที่ทุกคนหลับใหลเท่านั้น

    เลล่ารักคิร่ามาก เธอเป็นสุขทุกครั้งที่ได้เห็นน้องสาวฝาแฝดของเธอผู้นี้มีความสุข และจะเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นน้องสาวของเธอเสียใจ ในขณะที่เธอกำลังอยู่ในภวังค์นั้น คิร่าก็หันมาเห็นเธอและวิ่งเข้ามากอดเธอพร้อมเอาหัวมาคลอเคลียกับไหล่ของเธอ พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า

    " พี่เลล่าไปไหนมาคะ คิร่าตามหาแทบแย่แน่ะ " คิร่ามองเธอด้วยสายตาออดอ้อนและส่งยิ้มหวาน ถ้ามีใครเห็นหน้าของคิร่าตอนนี้ไปคงตกหลุมรักคิร่าทันทีเป็นแน่ เลล่าดันตัวคิร่าออกและหมุนตัวให้คิร่าหันหลังให้เธอก่อนนำสร้อยคอพร้อมจี้ดวงอาทิตย์สวมให้คิร่าทันที

                    คิร่ามองสร้อยคอที่เลล่าสวมให้ที่คอของเธออย่างตกตะลึง จี้พระอาทิตย์สวยงามมากแม้จะดูเก่า แต่ก็ยังสวยงามอยู่ดี เธอหันไปมองเลล่าอย่างแปลกใจ ไม่ใช่ว่าพี่สาวของเธอจะไม่เคยซื้ออะไรให้เธอ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พี่สาวที่ไม่ค่อยสนใจเครื่องประดับของเธอซื้อเครื่องประดับมาให้เธอ เพราะปกติเธอจะได้เป็นหนังสือนวนิยาย ตุ๊กตา หรือขนมอร่อย ๆ เท่านั้น

                    พี่เลล่าไปซื้อมาจากไหนคะเนี่ย ดูท่าจะแพงนะคะ ดูสิคะ ทำจากทองคำ อัญมณีรูเบอไรท์สีชมพูตรงกลางก็เม็ดใหญ่มากแถมมีเพชรล้อมรอบอีก คิร่าพูดพลางสำรวจตัวจี้ทองคำที่เลล่าเป็นคนสวมให้

                    ไม่แพงหรอก พี่ซื้อมาสี่ชิ้นแค่ 8800 แลงดอนเอง เลล่าตอบ คิร่าขมวดคิ้วอย่างแปลกใจกับความถูกอย่างเหลือเชื่อของเครื่องประดับ แต่เอ๊ะ ! เมื่อสักครู่พี่เลล่าบอกว่าซื้อมาสี่ชิ้นงั้นเหรอ

                    พี่เลล่าซื้อมาสี่ชิ้นหรอคะ แล้วอีกสามชิ้นละคะ ? คิร่าเอ่ยถามพลางชะเง้อมองหาเครื่องประดับอีกสามชิ้นที่เหลือ แต่เลล่าก็ไม่ได้หยิบออกโชว์ให้คิร่าได้ดู พร้อมพูดตัดบทว่า

                    พี่จะกลับหอแล้ว เธอจะกลับพร้อมพี่หรือเปล่า ? คิร่าทำหน้ามุ่ยลงทันทีที่ได้ยินเธอพูดแบบนั้น              

    โธ่พี่เลล่าคะ ทำไมรีบกลับจัง คิร่ายังดูไม่ทั่วเลย คิร่าพูดพลางทำหน้าแสนจะเสียดายที่ต้องกลับหอพักแล้ว

    พี่เหนื่อยแล้ว พี่อยากกลับไปพัก ถ้าเธอยังไม่กลับก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่กลับก่อน เธอก็กลับพร้อมคาโรลิน่าก็แล้วกัน เลล่าเอ่ยกับคิร่าก่อนหันไปพูดกับคาโรลิน่า โดยไม่สนใจเสียงประท้วงจากคิร่าเลย

    คุณคาโรลิน่าคะ ฝากคิร่าด้วยนะคะ ฉันขอตัวกลับก่อน คาโรลิน่าพยักหน้ารับด้วยความงุนงง หลังจากฝากน้องสาวไว้กับคาโรลิน่าแล้ว เลล่าก็หมุนตัวและเดินออกไปทันที แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงคิร่าหวีดร้องด้วยความตกใจพร้อมกับส่งเสียงขอความช่วยเหลือ

    กรี๊ดดดดดดดด ช่วยด้วยค่ะ มีโจรกระชากสร้อยของฉัน !!!!!  เลล่าหันหลังวิ่งกลับไปหาน้องสาวทันทีด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้ผู้คนค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นตอนเย็นทำให้ถนนค่อนข้างโล่ง โจรจึงสามารถวิ่งหนีไปได้สะดวก แต่วิ่งไปได้ไม่ไกลนักก็มีวัตถุสีดำลอยมาปักที่ต้นขาด้านหลัง เจ้าโจรร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มันกัดฟันกระชากสิ่งนั้นออกมาดูพบว่าเป็นมีดบินสีดำสลักลายหัวใจ เจ้าโจรปามีดทิ้งก่อนกัดฟันต้านความเจ็บปวดแล้ววิ่งหนีต่อไป พลางคิดในใจว่าถ้าพ้นถนนเส้นนี้ไปมันก็รอดแล้ว เพราะตอนนี้ไม่มีใครวิ่งตามมาแถมทางข้างหน้าก็ดูปลอดคนด้วย แต่ไม่ทันทีมันจะได้ทำตามที่มันคิด มีดบินอีกสามเล่ม ก็บินมาปีกที่ต้นขาทั้งสองข้างของมันทันที เจ้าโจรล้มลงพร้อมกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่มันกำลังดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด ก็ปรากฏเงาขึ้นมาทาบทับตัวมัน บรรยากาศรอบข้างดูเหมือนจะลดลงอย่างรวดเร็ว เจ้าโจรมองบุคคลเจ้าของเงาที่ทาบทับตัวมันอยู่ จิตสังหารมากมายถูกส่งมายังมัน เจ้าโจรรู้สึกกดดันและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ทั้งที่บุคคลที่อยู่ตรงหน้ามันเป็นเพียงเด็กสาวเท่านั้น

    เลล่าจ้องมองสร้อยคอในมือของโจรที่กระชากมาจากคิร่า สร้อยคอที่เธอให้คิร่า เครื่องประดับชิ้นแรกที่เธอให้กับคิร่า เธอมองโจรด้วยสายตาเยียบเย็นพร้อมเอ่ยเรียกอาวุธของเธอออกมาจากเวทย์มิติ แบล็คคิงปรากฏขึ้นมาบนมือของเลล่า เธอเงื้อดาบสูงขึ้นหมายจะลงฑันณ์ ไอ้โจรที่บังอาจมาขโมยของที่เธอให้กับคิร่าและยังทำให้คิร่าหวาดกลัวอีกด้วย ขณะที่เธอกำลังจะลงดาบเพื่อตัดสินโทษของไอ้โจรผู้นี้ก็มีมือ ๆ หนึ่งเอื้อมมาจับข้อมือเธอเอาไว้เพื่อยับยั้งไม่ให้เธอได้ลงโทษโจรตามที่เธอคิดเอาไว้

    เลล่าหันกลับไปมองแล้วพบว่าเป็นเขาคนนั้น ประธานหอราตรีนั่นเอง ดีออนที่กำลังเลือกซื้อของอยู่ที่บริเวณใกล้ ๆ ได้ยินเสียงของคิร่าที่ตะโกนร้องขอความช่วยเหลืออยู่ ดีออนจึงวิ่งมาดูแล้วพบว่าเป็นเด็กปีหนึ่งของโรงเรียนเค้าเอง คิร่านั่นเอง ครั้งแรกที่เห็นคิร่า ดีออนคิดว่าเป็นเลล่ารุ่นน้องหอราตรีของเค้า แต่เมื่อวิ่งเข้าไปไกล้ ๆ กลับพบว่าไม่ใช่ เค้าจำได้ว่ารุ่นน้องหอราตรีของเค้าได้ เธอคนนั้นมีนัยน์ตาสีแดงแต่ที่กำลังขอความช่วยเหลืออยู่นั้นมีดวงหน้าที่คล้ายกันแต่นัยน์ตาสีชมพู ขณะที่กำลังวิ่งเข้าไปใกล้จะถึงตัวคิร่านั้น เลล่าก็มาถึงตัวของคิร่าก่อน ดีออนชะงักทันทีเมื่อเห็นว่าเลล่าควักมีดบินออกมาแล้วขว้างไปปักที่ต้นขาด้านหลังของโจรที่กำลังวิ่งอย่างแม่นยำ หลังจากมีดบินอันแรกกระทำหน้าที่มันอย่างดีแล้ว มีดเล่มที่สอง สามและสี่ก็ลอยไปปักที่ต้นขาของโจรอย่างแม่นยำเช่นกัน

    ดีออนมองทักษะการขว้างมีดบินของเลล่าด้วยความสนใจ มีน้อยคนมากที่จะมีสติดีและสามารถขว้างวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำขนาดนี้ ขณะที่ดีออนกำลังยืนมองด้วยความสนใจ เลล่าก็เดินเข้าไปหาโจรที่นอนร้องโอดโอยทันที ดีออนมองเด็กสาวด้วยความฉงนซักครู่หนึ่งว่าเด็กสาวต้องการจะทำอะไร ก่อนสบถคำสั้น ๆ ออกมาพร้อมวิ่งเข้าไปห้ามทันที จะไม่ให้เค้าสบถได้อย่างไร ก็เด็กสาวเรียกดาบออกมาจากเวทย์มิติแถมทำท่าจะลงดาบเพื่อปลิดชีพเจ้าโจรนั่นอยู่รอมร่อ

    อันที่จริงเลล่าไม่ได้คิดที่ฆ่าเจ้าโจรคนนี้หรอก แต่เธอจะเอาดาบทิ่มแทงไปที่มือของเจ้าโจรที่บังอาจมากระชากสร้อยไปจากน้องสาวของเธอ แต่ดีออนเข้าใจผิดคิดว่าเธอจะฆ่าเจ้าโจรนี่จึงต่อว่าเธอทันที

    เธอจะบ้าหรือยังไง แค่โจรนี่มันกระชากสร้อยเธอถึงกับจะฆ่ามันเลยหรือไง ปล่อยให้ทหารมาจับกุมตัวมันไปก็ได้ เลล่าขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจทันที ใครจะไปฆ่ามันกัน เธอไม่ใช่คนป่าเถื่อนขนาดนั้น แค่จะลงโทษให้มันรู้สึกหลาบจำแค่นั้นเอง (แค่นั้นจริง ๆ หรอเจ๊) เธอคิดในใจและกำลังจะอ้าปากเพื่อที่จะเถียง แต่ดูเหมือนว่ารุ่นพี่หนุ่มคนนี้ไม่คิดที่จะฟังเธอเลยซักนิด

    เธอไม่ต้องมาเถียงเลย เก็บอาวุธไปเดี๋ยวนี้ แล้วกลับไปที่หอเดี๋ยวนี้ ดีออนกล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนเรียกโซ่ออกมามัดตัวโจรเอาไว้ เพื่อที่เขาจะพาโจรไปส่งให้กับทางการ เลล่ายังคงขมวดคิ้วอยู่แต่เธอก็ขี้เกียจเกินกว่าที่จะเอ่ยแก้ตัวใด ๆ เธอก้มลงหยิบสร้อยขึ้นมาสำรวจ โชคดีที่ตัวจี้ไม่เสียหายใด ๆ มีแค่ตัวตะขอของสร้อยที่มีการชำรุดเท่านั้น เธอเดินออกมาโดยไม่สนใจรุ่นพี่ของเธออีก เธอเดินกลับไปหาคิร่าที่ตอนนี้ยังมีสีหน้าตกใจอยู่ เธอมองน้องสาวด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ข้างในใจของเธอนั้นกำลังรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เธอไม่น่ามอบสร้อยเส้นนี้ให้คิร่าที่กลางตลาดเช่นนี้เลย เธอน่าจะรอบคอบกว่านี้ เธอได้แต่โทษตัวเองที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

    คิร่ารู้ดีว่าพี่สาวที่น่ารักของเธอกำลังรู้สึกผิดกับเรื่องนี้อยู่ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของพี่เลล่าเลยซักนิด คิร่าเดินเข้าไปสวมกอดเลล่าทันที เลล่ากอดฝาแฝดของเธอพร้อมเอ่ยขอโทษคิร่าอย่างแผ่วเบา คิร่าส่ายหัวขณะที่ยังกอดกับเธอก่อนเงยหน้ามายิ้มให้กับเลล่า

    พี่เลล่าไม่ต้องโทษตัวเองหรอกนะคะ พี่เลล่าไม่ผิดเลยซักนิด คิร่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เลล่ามองหน้าน้องสาวของเธอพร้อมเอ่ยเสียงแผ่วเบาว่า

    ถ้าพี่ไม่สวมสร้อยคอให้เธอ ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้หรอก คิร่าส่ายหน้ากับคำพูดของเธอก่อนตอบกลับมาว่า

    ถ้าคิร่าเป็นพี่เลล่า คิร่าก็คงทำแบบนั้นเหมือนกัน พี่เลล่าไม่ผิดหรอกค่ะ คนที่ผิดคือไอ้โจรนั่นต่างหาก เลล่ารับฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย พลางถอนหายใจแล้วชวนคิร่ากลับทันที

    กลับกันเถอะ เธอควรไปพักผ่อนได้แล้ว เจอเรื่องให้ตกอกตกใจขนาดนี้ คิร่าพยักหน้ารับก่อนชวนคาโรลิน่ากลับทันที 

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    แฮร่ ขอโทษนะคะ หายไปซะหลายวันเลย ขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะ ยังไงก็อย่าลืมติชมผลงานด้วยนะคะ พบข้อผิดพลาดตรงไหนสามารถบอกได้นะคะ ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×