คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 4 ส่งตัวเข้าหอ ?
บทที่ 4
ส่งตัวเข้าหอ
?
หลังจากปีหนึ่งทั้ง 60 คนได้รับการคัดเลือกไปประจำหอต่าง
ๆ แล้ว อาจารย์ผู้คุมการคัดเลือกก็ประกาศให้แต่ละหอแยกย้าย
เพื่อนำปีหนึ่งไปพักผ่อนหรือทำกิจกรรมต่อแล้วแต่รุ่นพี่ประจำหอนั้น ๆ
การคัดเลือกด้วยพลังเวทย์แบบนี้
แน่นอนว่าทำให้จำนวนนักเรียนแต่ละหอไม่เท่ากัน ปีนี้หอปฐพีมีปีหนึ่งถึง 14 คน
ส่วนหออรุณและหอราตรีมีแค่หอละ 7 คน เพราะเป็นเวทย์ที่น้อยคนจะใช้ได้ หอวารีมี 12
คน
หออัคคีและหอวายุมี 10 คนเท่ากัน
ระหว่างทางไปหอพักนั้น
เลล่าเห็นหอสมุดของที่นี่ ตั้งอยู่ข้างๆกับหอประชุมที่เธอเดินออกมา
ซึ่งเป็นหอคอยสูงขึ้นไป ว่ากันว่าข้างในบรรจุหนังสือไว้มากมาย
ทำให้เลล่าตอบรับความต้องการของท่านปู่เธอทันทีที่ต้องการให้มาเรียนที่แห่งนี้
จริง ๆ แล้วเธอเริ่มเบื่อหนังสือที่ห้องสมุดของเมืองเธอ ที่เธออ่านเป็นรอบที่สาม
(?) แล้วเหมือนกัน
ฝั่งตรงข้ามกับหอประชุมเป็นอาคารเรียนสูงสี่ชั้น
ด้านหน้าอาคารเรียนเป็นลานโล่งน่าจะเอาไว้ฝึกซ้อมหรือเรียนภาคปฏิบัติ
ถัดจากหอสมุดเป็นเรือนกระจกขนาดใหญ่หลังหนึ่งตั้งอยู่
หลังเรือนกระจกเป็นป่าใหญ่ที่เรียกกันว่า ป่าเวทย์มนตร์
ในหนังสือประวัติศาสตร์ที่เธออ่านเมื่อเช้าบอกว่า
ในป่าเวทย์มนตร์มีสัตว์อันตรายมากมายรวมไปถึงมังกรที่น่าจะสูญพันธุ์ไปแล้วด้วย
เลล่ามองไปทางป่าเวทย์มนตร์ด้วยความสนใจพลางคิดในใจว่าอยากเข้าไปในป่าจัง (เจ๊จะเข้าไปทำไม
? )
หอราตรี
ตอนนี้เลล่าเดินมาหยุดอยู่ที่โถงกลางที่ดูเหมือนจะเป็นทางเชื่อมของแต่ละหอเข้าด้วยกัน
หอพักของที่นี่ตั้งเรียงกันเป็นกำแพงด้านหลังของหอพักแต่ละหอเป็นหน้าผาสูงชัน
ราวกับเป็นตัวป้องกันไม่ให้อันตรายภายนอกเข้ามาถึงนักเรียนได้ หอแต่ละหอ มีทั้งหมดห้าชั้น
ชั้นที่สองถึงชั้นที่ห้าเป็นห้องนอนของเหล่านักเรียน
ส่วนชั้นที่หนึ่งเป็นเหมือนโถงรวมเวลามีกิจกรรมหรือต้องการประชุมภายใน
หอราตรี หรือหอแห่งความมืด
ค่อนข้างจะน่ากลัวทีเดียวในสายตาของคนภายนอก หอทั้งหอเป็นสีดำทั้งหมดแต่ก็แค่ภายนอกเท่านั้นแหละ
ภายในหอราตรีผนังของหอถูกทาด้วยสีเบจตัดขอบด้วยสีดำ ที่พื้นถูกปูด้วยพรมสีเบจมีลูกเล่นด้วยลวดลายสีดำที่ขอบของพรม
ผ้าม่านเป็นสีครีม เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นทำจากไม้สีดำบุนวมด้วยหนังสีครีม
ตรงกลางถูกแขวนด้วยโคมไฟอันใหญ่ ริมผนังฝั่งหนึ่งมีเตาผิงสีขาวที่คอยให้ความอบอุ่นแก่ห้องโถงนี้
เหนือเตาผิงเป็นภาพวาดสีน้ำมันในภาพเป็นมังกรสีดำตัวหนึ่งกำลังบินท้องฟ้ายามรัตติกาล
เหนือลำน้ำและภูเขา ปีกข้างหนึ่งบดบังพระจันทร์เต็มดวง
แสงจันทร์สาดส่องปีกของมันราวกับปีกของมันบางเฉียบดั่งปีกของแมลงปอ
เลล่าสอดส่ายสายตาสำรวจทั่วทั้งห้องโถง
พลันได้ยินเสียงรุ่นพี่เรียกให้เธอนั่งรวมกันก่อนที่รุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง
ท่าทางร่าเริง และเป็นมิตร ดวงตาสีน้ำตาลของเธอกลมโตราวกับตาของกวางน้อย จากนั้นเธอก็เริ่มแนะนำตัวเอง
“ สวัสดีจ๊ะ
พี่ชื่อฮาเซล โรส อยู่ปีสามนะ มีหน้าที่ดูแลเรื่องการแบ่งห้องแล้วก็การจัดตารางเรียนของน้อง
ๆ ปีหนึ่ง และข้าง ๆ ของพี่คือประธานของหอ ท่านประธานคะ พูดอะไรหน่อยสิคะ ”
รุ่นพี่ฮาเซลหันไปหาชายหนุ่มผมสีดำระต้นคอ
หน้าเรียวได้รูป ดวงตาสีน้ำตาล จมูกโด่งได้รูปรับกับริมฝีปากบาง ๆ ของเจ้าตัว ที่กำลังยืนก้มหน้าก้มตาอ่านระเบียบการและเอกสารต่าง
ๆ อยู่ทางด้านซ้ายของเธอก่อนที่จะเอ่ยปากให้เค้าแนะนำตัว
ก่อนที่จะส่งยิ้มล้อเลียนไปให้ชายหนุ่มข้าง ๆ ชายหนุ่มส่งสายตาดุ
ๆ กลับไปให้เธอก่อนหันมาเอ่ยปากแนะนำตัวเอง
“ ดีออน
อเล็กซานดรา ราศีมังกร หรือประธานของหอราตรี
ขอต้อนรับปีหนึ่งทุกคนและหวังว่าทุกคนจะอยู่ในกฏระเบียบเป็นอย่างดี ” เจ้าของริมฝีปากบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ
ๆ แต่เข้มแข็ง ก่อนกวาดสายตามองพวกเธอทั้งเจ็ดคน ก่อนก้มลงไปสนใจเอกสารตรงหน้าต่อ
จากนั้นรุ่นพี่ฮาเซลก็ให้ปีหนึ่งแนะนำตัวเพื่อให้ทั้งเจ็ดคนได้ทำความรู้จักกัน
“ พี่อยากให้น้อง
ๆ ทุกคนยืนขึ้นแนะนำตัวให้เพื่อน ๆ ที่เหลือได้รู้จักกันนะคะ
เริ่มจากน้องผู้ชายผมสีทองคนนั้นเลยจ๊ะ ” รุ่นพี่ฮาเซลผายมือไปที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งตรงข้ามกับเลล่า
“ ผมชื่อ หลุยส์
สเวนครับ มาจากวัลลาโลดิท ฝากตัวด้วยครับ ” หลุยส์เอ่ยขึ้นด้วยเสียงติดประหม่าเล็กน้อยก่อนที่จะรีบนั่งลงเพื่อลดความตื่นเต้น
จากนั้นเสียงแนะนำตัวก็ดังต่อเนื่องกันมา
“ แอนดริว ลี
จากอเล็กซานเดรียครับ ” เด็กหนุ่มนัยน์ตาเหยี่ยว กล่าวก่อนนั่งลงตามเดิม
“ นิโคลัส ดีน
อเล็กซานเดรียครับ ” เสียงเรียบ ๆ ดังขึ้นจากเด็กหนุ่มดวงตาสีดำ ผิวขาวซีดของเค้าช่างดูตัดกับสีผมสีดำของเค้าจริง
ๆ
“ เห
น้องชายของแอนเดรียหรอเนี่ย ดีจังเลยนะ พี่น้องได้อยู่หอเดียวกันด้วย ” พี่ฮาเซลกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นก่อนส่งยิ่มให้กับนิโคลัส
นิโคลัสยิ้มมุมปากนิดนึงแต่ไม่ได้พูดอะไร
“ แมกซ์ ฮาเกน
วัลลาโลดิท ” น้ำเสียงติดจะเบื่อหน่ายเอ่ยขึ้นก่อนที่นั่งลงพลางปิดปากหาว ผมสีน้ำตาลเป็นลอนของเค้ายุ่งเหยิงราวกับพึ่งตื่นนอน
“ อลัน วัลโด้
จากอควอเทียร์ครับ ” เด็กชายที่มีดวงตาสีน้ำเงินกล่าวเรียบ ๆ
ก่อนส่งยิ้มเล็กน้อยให้ทุกคนและนั่งลง
“ เฟอนัลโด้
ฮิวโก้ จากนครหยั่งรู้ครับ ฝากตัวด้วย ” เด็กหนุ่มเจ้าของดวงตาเจ้าเล่ห์ภายใต้กรอบแว่นสี่เหลี่ยมสีดำ
นั่งลงพลางดันโครงแว่นให้เข้าที่ ทุกคนแนะนำตัวหมดแล้วก็มาถึงเธอ
เลล่าค่อยยืดตัวยืนขึ้นก่อนเอ่ยด้วยเสียงเล็ก ๆ ที่ติดเย็นชานิดหน่อย
“ เลล่า ไอซอซท์
จากสโนว์แลนด์ค่ะ ฝากตัวด้วย ” เธอโค้งตัวเล็กน้อยก่อนนั่งลงตามเดิม หลังจากนั้นก็มีเสียงไม่เบานักดังมาจากหนุ่มห้องสมุดเคลื่อนที่
ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอเอ่ยถามที่น้ำเสียงติดจะล้อเลียนนิดหน่อย
“ ฝาแฝดคนพี่แห่งอาณาจักรสโนว์แลนด์
ผู้ที่ไม่เคยปรากฏตัวให้เห็นในงานสังคม อันที่จริงแล้วก็แทบไม่มีใครเห็นแฝดคนพี่นี้เลย
เธอไปหมกตัวอยู่ที่ไหนมาน่ะ ”
เลล่าหันไปมองคนข้าง
ๆ เธอ สมกับฉายาห้องสมุดเคลื่อนที่ล่ะนะ
ถึงเธอจะรู้สึกว่าเฟอนัลโด้เป็นพวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านมากกว่าก็เถอะ
ถูกของเฟอนัลโด้ เธอไม่เคยออกงานสังคมใด ๆ เพราะเธอไม่ชอบการเข้าสังคม
ที่ต้องฉีกยิ้มตามมารยาทอยู่หลายชั่วโมง ในชุดลูกไม้ฟูฟ่องที่แสนจะอึดอัด
รวมถึงต้องเต้นรำบนรองเท้าส้นสูงอีกด้วย ดังนั้นงานสังคมต่าง ๆ
ที่ส่งบัตรเชิญมาที่วังทุกงาน
จะมีเพียงคิร่าน้องสาวฝาแฝดของเธอเท่านั้นที่จะติดตามไปกับท่านปู่ของเธอ
ส่วนตัวเธอเองถ้าไม่ขลุกอยู่ในห้องสมุด ก็คงซ้อมฝีมือล่ะมั้ง
เลล่าคิดในใจแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
พลางหันไปมองด้านหน้าเพราะตอนนี้รุ่นพี่ฮาเซลกำลังจัดแบ่งห้องให้พวกเธอ
“ เนื่องจากเลล่าเป็นผู้หญิงคนเดียว
คงต้องให้พักคนเดียวนะจ๊ะ นี่จ้ะ กุญแจห้องของเธอ ขึ้นบันไดไปแล้วเลี้ยวขวานะจ๊ะ ”
รุ่นพี่ฮาเซลยื่นกุญแจห้อง
201 ให้เธอ เลล่ากล่าวขอบคุณเบา ๆ
รุ่นพี่ฮาเซลส่งยิ้มให้เธอก่อนทำการแบ่งเรื่องห้องพักต่อ
“ ส่วนพวกหนุ่ม
ๆ พี่จะให้อยู่ห้องละสองคนนะจ๊ะ เฟอนัลโด้กับอลันห้อง 202 จ๊ะ
นิโคลัสกับหลุยส์ห้อง 203 แล้วก็แมกซ์กับแอนดริวก็ห้อง
204 นะจ๊ะ ” รุ่นพี่ฮาเซลเอ่ยก่อนส่งกุญแจห้องให้กับพวกเขา จากนั้นรุ่นพี่ดีออนก็เงยหน้าขึ้นมาก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ
ๆ ว่า
“ เอาล่ะ ก่อนที่จะแยกย้ายให้ทุกคนมาดูวิชาเลือกที่ต้องการลงเรียนที่ฮาเซล
ให้ทุกคนเลือกเรียนคนละสองวิชา ตารางเรียนของทุกคนจะถูกส่งไปไว้ให้ในห้องพักของทุกคนพร้อมกับแผนที่ทางไปห้องเรียน
หลังจากที่ปีหนึ่งทุกคนทำการลงทะเบียนวิชาเลือกเสร็จสิ้น มีข้อสงสัยอะไรมั้ย
? ” ดีออนกวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้องเพื่อรอคำถาม เมื่อไม่มีใครมีคำถาม
ดีออนก็ทำการยื่นซองจดหมายให้ปีหนึ่งทุกคนก่อนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ นี่เป็นรายชื่อหนังสือและสิ่งของที่ต้องใช้ทั้งหมดของปีหนึ่ง
โรงเรียนจะเปิดเทอมอีกสามวันข้างหน้า
พวกเธอสามารถหาซื้อสิ่งของตามใบรายชื่อนี้ได้จากภายในเมือง
หนังสือทุกเล่มจะซื้อได้จากร้านตำราเวทย์มนตร์ของอองตัวร์
โดยการยื่นใบรายชื่อหนังสือภายในจดหมายให้กับทางร้าน... มีอะไรหลุยส์ สเวน ”
ดีออนเอ่ยถามหลุยส์ด้วยน้ำเสียงเรียบ
ๆ
หลุยส์สะดุ้งก่อนลดมือลงข้างลำตัวก่อนส่งยิ้มแหยให้กับดีออนพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น
ๆ ว่า
“ คือ...
ค่าหนังสือแล้วก็ของใช้ทั้งหมดแพงมั้ยครับ คือ...เอ่อ...ผมไม่ค่อยมีเงินน่ะครับ...”
หลุยส์พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
แล้วรีบก้มหน้าก้มตาลงเพราะความอาย ตอนนี้ใบหน้าของเค้าเป็นสีแดงราวกับมะเขือเทศ
ดีออนถอนหายใจนิดหน่อยก่อนที่จะตอบเสียงเรียบ ๆ ว่า
“ นักเรียนทุนสินะ
หลังจบการประชุมให้ตามชั้นมา
ชั้นจะพาไปรับเงินทุนสำหรับค่าใช้จ่ายในการซื้อของทั้งหมด ที่หออำนวยการ
แล้วก็แต่ละเดือนนายก็อย่าลืมไปรับค่าใช้จ่ายรายเดือนที่นั่นด้วยล่ะ ” ดีออนมองหน้าหลุยส์ที่ตอนนี้อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงไปแล้วเรียบร้อยนิดนึง
ก่อนจะหันกลับมาอธิบายรายละเอียดเรื่องร้านค้าต่าง ๆ
และรายชื่อวิชาเลือกของปีหนึ่ง ต่อไป
‘ นักเรียนทุนของโรงเรียนนี้ดีจังแฮะ
ได้เข้ามาเรียนที่นี่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มีทุนสำหรับซื้ออุปกรณ์การเรียน
แถมให้เงินใช้รายเดือนด้วย ‘ เลล่าคิดในใจ พลางฟังรายชื่อวิชาเลือกที่สามารถลงเรียนได้ในปีหนึ่งก่อนตัดสินใจเงียบ
ๆ
‘ จะเรียนวิชาอะไรดีนะ
’ ขณะที่เลล่ากำลังใช้ความคิดอยู่นั้น
ก็ได้ยินเสียงอธิบายรายวิชาหนึ่งที่ใครหลาย ๆ คน ส่ายหน้าด้วยความหวาดผวา
แต่เลล่ากลับยกยิ้มที่มุมปากเบา ๆ ถ้าไม่มีใครสังเกตที่มุมปากของเธอก็คงไม่รู้หรอก
เพราะมันถูกยกขึ้นมาแค่เพียงสองมิลเท่านั้น
หออรุณ
คิร่าไปรอบ ๆ
โถงของหออรุณอย่างสนอกสนใจ นี่มันห้องโถงของพระราชวังชัด ๆ
เครื่องประดับและเฟอร์เจอร์อยู่ในโทนขาว ทอง ผ้าม่านลายลูกไม้สีขาว
ผนังก็ทาด้วยสีขาวตัดขอบด้วยสีทอง พรมที่ปูก็ปักตกแต่งด้วยไหมสีทอง
ไหนจะโคมไฟคริสตัลกลางโถงนั่นอีก นี่มันหอพักนักเรียนแน่ใช่มั้ย ?
ปีหนึ่งทั้งเจ็ดคนมองไปรอบโถงอย่างสำรวจ ก่อนเสียงหวานๆ
แต่ราบเรียบของรุ่นพี่ปีสามคนนึงจะดึงความสนใจของทุกคนไปแทน
“ สวัสดีปีหนึ่งทุกคน
พี่ชื่อ เจสสิก้า ฟรอซ อยู่ปีสาม ราศีกุมภ์ เป็นรองประธานหอ
ตอนนี้เป็นผู้ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของหอ
เพราะตอนนี้ราศีธนูหรือประธานหอกำลังว่างเนื่องจากรุ่นพี่จบไปแล้ว
จึงจะมีการคัดเลือกประธานหอในเดือนหน้า ปีหนึ่งก็สามารถเข้าชิงตำแหน่งได้นะ ”
พี่เจสสิก้า
เป็นผู้หญิงท่าทางเจ้าระเบียบ ดวงตาของเธอเป็นสีม่วงดูท่าทางเย็นชา แถมแว่นตาของเธอยังทำให้เธอดูเหมือนอาจารย์ฝ่ายปกครองเข้าไปอีก
ผมของเธอเป็นสีดำยาวส่งผลให้บุคลิกดูเคร่งขรึม อันที่จริงพี่เจสสิก้าแค่จริงจังในเรื่องงาน
เวลาที่ทำงานเธอจะสวมโหมดสาวแว่นสุดเฮี้ยบ แต่จริง ๆ แล้ว
พี่เจสสิก้าเป็นคนที่น่ารักมากเลย คิร่านึกถึงสมัยเด็ก ๆ
ที่พี่เจสสิก้ามักชวนเธอไปทำหัดทำขนมบ่อย ๆ
ทำให้รักและนับถือพี่เจสสิก้าเป็นพี่สาวอีกคนทีเดียว
“ สำหรับห้องพัก
เนื่องจากมีทั้งหมดเจ็ดคน จึงมีคนนึงได้นอนคนเดียว
หลังจากพิจารณาจากรายชื่อทั้งหมดแล้ว คาโรลิน่ากับคิร่า พักห้อง 201 เฟลีเซียกับลินดาห้อง
202 เอนิลกับอเล็ก ห้อง 203 ส่วนห้องสุดท้ายให้อาเธอร์พักคนเดียว
มีอะไรขัดข้องมั้ย ? ” เจสสิก้าเอ่ยถามพลางกวาดสายตามอง
ปีหนึ่งทุกคนส่ายหน้าปฏิเสธเพราะไม่มีปัญหาอะไรกับการจัดแบ่งห้องในครั้งนี้
“ เอาล่ะ
ต่อไปให้ปีหนึ่งทุกคนมาลงทะเบียนวิชาเลือกที่อยากเรียน
แล้วรับจดหมายไปคนละหนึ่งฉบับ ในนั้นจะเป็นรายชื่อสิ่งของทั้งหมดที่พวกเธอต้องซื้อ
ส่วนทางโรงเรียนจะเปิดเทอมอีกสามวันข้างหน้า
หวังว่าจะไม่เห็นเด็กของหออรุณไปเข้าเรียนสายในวันแรกนะ ”
หลังจากนั้นพี่เจสสิก้าอธิบายก็อธิบายรายวิชาที่เปิดให้ปีหนึ่งเลือกเรียน
มีทั้ง การใช้อาวุธในระประชิด การใช้อาวุธในระยะไกล
การรักษาพยาบาลด้วยเวทย์เบื้องต้น การดูแลสัตว์ในตำนาน การออกแบบอาคารและภายใน การปรุงยาด้วยสมุนไพร
วิชาคหกรรม และภาษาภูตเบื้องต้น คิร่าฟังคำอธิบายในแต่ละรายวิชาเงียบ ๆ
ก่อนที่คาโรลิน่าจะหันมาคุยกับเธอ
“ คิร่าจะลงเรียนวิชาเลือก
วิชาอะไรบ้างจ๊ะ ? ชั้นน่ะยังตัดสินใจไม่ถูกเลย ” คาโรลิน่าพูดพลางทำสีหน้าหนักใจ
“ ก็คงจะเป็นวิชาคหกรรม
กับ การใช้อาวุธในระยะไกลน่ะค่ะ ” คิร่าพูดพลางส่งยิ้มกลับไป
“ ทำไมถึงลงเรียนสองวิชานี้ละคะ
? ” คาโรลิน่าเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ ที่ลงวิชาคหกรรมเพราะจะได้ทำขนมไปให้พี่เลล่าน่ะค่ะ
ส่วนวิชาการใช้อาวุธในระยะไกล
อยากเรียนเพราะว่ามันคงไม่เจ็บตัวดีและสามารถป้องกันตัวเองได้ด้วยค่ะ ” คิร่าอธิบายด้วยรอยยิ้มสดใส
“ อิจฉาพี่สาวฝาแฝดของคิร่านะคะ
มีน้องสาวน่ารักจัง คิร่าคงรักพี่สาวมากเลยเนอะ ” คาโรลิน่าเอ่ยก่อนส่งยิ้มสดใสกลับมา
คิร่าพยักหน้าตอบรับคำของคาโรลิน่า
เธอรักพี่สาวของเธอมากพอ ๆ กับที่พี่สาวเธอรักเธอมากเช่นกัน ก่อนจะเอ่ยถามว่า
“ คาโรลิน่าตัดสินใจได้รึยังคะว่าจะลงเรียนวิชาไหน
”
“ เรียกคาเลียก็ได้จ๊ะ
คาโรลิน่ามันคงจะยาวเกินไป ชั้นขอลงวิชาเลือกวิชาเดียวกับคิร่าได้มั้ยจ๊ะ ? ”
คาโรลิน่าเอ่ยถาม
คิร่าก็ส่งยิ้มให้พลางตอบว่า
“ ยินดีค่ะ
คาเลีย งั้นเราไปลงทะเบียนดีกว่านะคะ
จะได้รีบออกไปหาซื้อของตามใบรายการของทางโรงเรียนน่ะค่ะ ” คาโรลิน่าพยักหน้ารับก่อนที่ทั้งสองจะเดินจูงมือกันไปลงทะเบียนวิชาเรียน
“ เจ้าหญิงคิร่า
เป็นยังไงบ้างคะ ” พี่เจสสิก้าเอ่ยทักทายคิร่าที่ตอนนี้กำลังลงทะเบียนเรียนวิชาเลือก
ก่อนส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้
“ ไม่ต้องเรียกเจ้าหญิงหรอกค่ะ
พี่เจสสิก้า อย่าลืมสิคะ หนูเป็นรุ่นน้องพี่นะคะ ” คิร่าเอ่ยพร้อมรอยยิ้มสดใส
“ จ๊ะ
เป็นไงบ้างสบายดีมั้ย แล้วเลล่าล่ะ ”
“ สบายดีค่ะ
พี่เลล่าก็สบายดี หนูคิดถึงพี่เสสิก้ามากเลย ไม่ได้เจอกันตั้งสองปี พี่เจสสิก้าทำไมไม่กลับไปเยี่ยมน้องบ้างล่ะคะ
” คิร่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดจะงอน ๆ อยู่บ้าง
“ พี่ยุ่ง ๆ
เรื่องเรียนนะจ๊ะ แถมยังต้องเป็นรองประธานหออีก เลยไม่ค่อยมีวลากลับบ้าน
ขอโทษด้วยนะจ๊ะ ” เจสสิก้าเอ่ยพลางส่งยิ้มขอโทษมาให้
“ ถ้างั้นพี่เจสสิก้าคงต้องทำชูครีมฝีมือพี่
มาเลี้ยงไถ่โทษครั้งนี้แล้วล่ะค่ะ ” คิร่าพูดพลางหลิ่วตาให้กับพี่เจสสก้า
เจสสิก้าหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนตอบรับข้อเสนอแต่โดยดี
พลางคิดในใจว่าเด็กคนนี้ไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว
ถึงจะไม่ได้เจอกันถึงสองปีก็ตาม
______________________________________________________________________________________________________
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ สำหรับคำแนะนำว่าแต่ละตอนสั้นไป จะพยายามเขียนให้ยาวขึ้นนะคะ หากมีอะไรผิดพลาด สามารถบอกได้ทันทีเลยนะคะ ยินดีรับฟังคำติชมค่ะ
ปล. ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์นะคะ :)
ความคิดเห็น