คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 โรงเรียนมหาเวทย์มอนตาเซีย
บทที่ 2 โรงเรียนมหาเวทย์มอนตาเซีย
...โรงเรียนมหาเวทย์มอนตาเซีย
ถูกก่อตั้งขึ้นหลังจากการสวรรคตของกษัตริย์วิลเลียม โดยความร่วมมือของกษัตริย์ทั้งห้าอาณาจักร
และราชินีแคทเทอรีนแห่งนครหยั่งรู้
อีกทั้งผู้อำนวยการคนแรกของโรงเรียนก็คือองค์ราชินีเองอีกด้วย
โรงเรียนมหาเวทย์มอนตาเซียก็เหมือนโรงเรียนประจำทั่วไป นักเรียนทุกคนจะต้องพักอยู่รวมกันเป็นหอ การเรียนการสอนของที่นี่มีหลายรูปแบบ นักเรียนที่จบจากโรงเรียนแห่งนี้ต่างมีอนาคตที่สดใส เป็นถึงจอมกษัตริย์ ศัลยแพทย์มือหนึ่ง สถาปนิกฝีมือเยี่ยม นักรบสุดแกร่ง นักดาบในตำนาน จอมเวทย์ รวมถึงนักต้มตุ๋นมืออาชีพ? จึงไม่ต้องแปลกใจที่โรงเรียนแห่งนี้มีคนที่ต้องการส่งบุตรหลานเข้าเรียนเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าเข้าเรียนต้องแพงแบบกระเป๋าฉีก แบบที่มีเฉพาะพวกลูกท่านหลานเธอเท่านั้นจึงจะมีสิทธิมาเรียน แต่ทางโรงเรียนก็ไม่ได้ปิดกั้นเด็กธรรมดาหากเก่งจริง ก็ไม่มีปัญหากับค่าเล่าเรียน เพราะเรามีทุนการศึกษาให้ทุกคนที่สามารถสอบผ่านข้อสอบชิงทุนของเราได้
การเรียนในรั้วโรงเรียนมหาเวทย์มอนตาเซียแห่งนี้ตลอดสี่ปี
จะมีกิจกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็นศึกชิงตราประจำหอพัก ,การคัดเลือก 9 นภา และ 12
ดวงดารา ( หรือที่เรียกกันง่ายๆว่าหาผู้คมกฎ กับประธานและรองประธานหอ )
นอกจากนี้ยังมีศึกกระชับมิตรระหว่างอาณาจักร โดยส่งตัวแทนนักเรียนของแต่ละอาณาจักร
อาณาจักรละหกคนเข้าร่วมประลอง...
เสียงบรรยายจากอาจารย์ท่านหนึ่งยังคงดังอย่างต่อเนื่องแต่น้อยคนนักที่จะตั้งใจฟัง
ทุกคนต่างตื่นเต้นที่จะได้รับการทดสอบคัดเลือกเข้าประจำหอต่าง ๆ มีแต่เสียงซุบซิบเต็มไปหมดทั้งห้องโถง
เลล่านั่งอ่านหนังสืออย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
ต่างจากคิร่าที่ออกจะตั้งอกตั้งใจฟังเรื่องพวกนี้มากจนเกินเหตุ
“ นี่ ๆ ๆ
พี่เลล่า พี่ว่าเราสองคนจะได้อยู่หอเดียวกันมั้ยคะ ? ” คิร่าเอ่ยถามพี่สาวอย่างฉันผู้เกิดก่อนเธอเพียงแค่
2 นาที แต่ฉันก็เกิดก่อนนี่นะ
“ ไม่รู้หรอกคิร่า
อาจจะไม่ได้อยู่หอเดียวกันก็ได้ ถึงเราจะเป็นแฝดกัน แต่ก็ใช่ว่าพลังเวทย์ของเราจะเหมือนกันนี่นา ” ฉันตอบ จากนั้นก็เหลือบมองไปยังคิร่า เพื่อดูปฏิกิริยา
เพราะคำตอบของเธอต้องไม่ถูกใจน้องสาวฝาแฝดของเธอเป็นแน่
‘ นั่นประไร !
ไม่พอใจทีไรทำหน้าแบบนี้ทุกที
’ เลล่าคิดในใจ พลางจ้องหน้าน้องสาวตนเอง
เพราะร่างบางตรงหน้า ตอนนี้หน้าตาที่แสนจะน่ารักและยิ้มแย้มในยามปกติ ถูกแทนที่ด้วยสีหน้าบึ้งตึง
คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากเม้มแน่น แถมพองลมที่แก้มอีกต่างหาก เลล่ากรอกตาพร้อมกับถอนหายใจก่อนกลับไปสนใจหนังสือประวัติศาสตร์ในมือ
และไม่มีทีท่าว่าจะสนใจร่างบางข้าง ๆ ซักนิด
จนคิร่าเห็นว่าพี่สาวของเธอไม่มีทีท่าว่าจะมาง้อเธอ เธอจึงจะเริ่มโวยวาย
แต่ยังไม่ทันได้เริ่มโวยวายอย่างที่ตั้งใจไว้ เสียงเย็น ๆ
ของพี่สาวเธอก็ทำให้เธอชะงัก
“ พี่เคยบอกเธอว่ายังไงคิร่า ? ” เลล่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นๆ
ถึงจะไม่ดังมากแต่เธอก็เงียบแต่โดยดี ไม่ใช่ว่าเธอกลัวพี่เลล่าหรอกนะ แต่พี่สาวของเธอไม่ค่อยดุเธอบ่อยนักหรอก
และการที่เป็นฝาแฝดกันก็ทำให้เธอค้นพบว่าตอนนี้พี่ของเธอเริ่มหงุดหงิดแล้ว
และจะเป็นการดีต่อคนรอบข้างมากกว่าถ้าเธอไม่อยากให้หอประชุมนี้เละเทะด้วยฝีมือพี่สาวที่แสนจะเงียบขรึมของเธอ เธอจึงจะกลับไปสนใจที่อาจารย์พูดข้างหน้า แต่ยังไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจ
ก็มีมือหนึ่งเอื้อมมาสะกิดเธอจากด้านหลัง
คิร่าจึงหันไปและเห็นว่าเจ้าของมือที่เอื้อมมาสะกิดเธอนั้นเป็นเด็กผู้ชายตาสีฟ้าใสแจ๋ว
แถมสีผมของเค้าก็เป็นสีน้ำทะเลอีกด้วย
“ เธอชื่ออะไรหรอ
? ” เด็กหนุ่มตาสีฟ้าถามด้วยสีหน้าง่วง ๆ
คิร่ามองเด็กหนุ่มนั่นอย่างสนอกสนใจ ก็แหม ตาของหมอนี่สีสวยดีจัง
“ ชั้นชื่อคิร่าค่ะ
คุณล่ะคะ ? ” คิร่าตอบพร้อมกับส่งยิ้มสดใสกลับไปให้
ดวงตาสีฟ้ามองเธอด้วยความง่วงงุน ก่อนตอบเสียงเอื่อย ๆ ว่า
“ ชั้นเอิร์ล
ไดเรน มาจากอควอเทียร์น่ะ ” เอิร์ลตอบก่อนปิดปากหาว คิร่ามองเด็กหนุ่มแล้วก็ยิ้มกว้างให้พร้อมกับเอ่ยเสียงตื่นเต้นว่า
“ อควอเทียร์หรอคะ ดีจัง ชั้นไม่ได้ไปมานานแล้ว ที่นั่นสวยทะเลสวยมากเลย ” คิร่ากำลังจะหันไปคุยกับพี่สาวของเธอ แต่เธอก็หันหน้ากลับมาพร้อมกับคิดในใจว่า เรื่องอะไรล่ะ ไปกวนเลล่าตอนนี้ได้โดนสายตาพิฆาตแน่ คิร่าจึงหันกลับมาคุยกับเอิร์ลต่อ จากนั้นก็มีคนอื่น ๆ เริ่มเข้ามาร่วมวงด้วยจนกลายเป็นกลุ่มย่อม ๆ และเริ่มเสียงดัง
" นี่พวกเธอกลุ่มนั้นน่ะ ตั้งใจฟังกันเป็นมั้ย !! " เสียงอาจารย์จากบนเวทีตะโกนถามกลุ่มของพวกคิร่า ทำให้วงสนทนาสลายตัวทันที
ความคิดเห็น