โรงเรียนมหาเวทย์มอนตาเซีย

ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 กำเนิดฝาแฝดแห่งสโนว์แลนด์

บทที่ 1 กำเนิดฝาแฝดแห่งสโนว์แลนด์

                เวลาห้าร้อยปีต่อมาหลังจากเกิดสงครามครั้งนั้น กษัตริย์ทั้งห้าดินแดนก็ถูกผลัดเปลี่ยนกันรุ่นต่อรุ่น จนถึงสมัยของกษัตริย์อีคอน อเล็กซานดรา ,พระนางซาร่า วิเวียน่า ,กษัตริย์แกริค อควอเทียร์ ,กษัตริย์เอ็ดการ์ด แดเรียล์ และกษัตริย์อีธาน สโนว์แลนด์ ทั้งห้าพระองค์ต่างรักใคร่กันเป็นอย่างดีจนกระทั่งทั้งห้าพระองค์ต่างมีพระโอรสและพระธิดา

พระนางซาร่าเห็นว่าพระโอรสของกษัตริย์อีธานนั้นเติบโตเป็นหนุ่มรูปงามและรุ่นราวคราวเดียวกับพระธิดาของตน จึงอยากให้เจ้าชายโคลด์ได้อภิเษกสมรสกับธิดาของพระองค์เองด้วยเห็นว่าพระธิดาของพระองค์นั้นหลงรักเจ้าชายโคลด์ ทางกษัตริย์อีธานเองก็มิได้ขัดข้องอันใด แต่เจ้าชายโคลด์นั้นมิได้รักใคร่กับเจ้าหญิงลูซี่จึงหนีออกจากพระราชวัง และขณะที่เดินทางอยู่นั้น เจ้าชายโคลด์ก็ได้พบกับผู้หยั่งรู้คนหนึ่งชื่อว่าคาร่า มาเบลซึ่งกำลังเดินทางไปเมืองแลงแคสเตอร์ เมื่อเจ้าชายโคลด์ผู้แสนเย็นชา และเงียบขรึมได้พบกับเธอนั้นก็ตกหลุมรักเธอทันที เพราะคาร่านั้นเปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ที่สาดส่องละลายใจที่เป็นน้ำแข็งของเจ้าชายได้ คาร่าเองก็ตกหลุมรักเจ้าชายเช่นกัน ทั้งสองคนจึงแต่งงานกันที่เมืองแลงแคสเตอร์และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันโดยปกปิดฐานะจริงของทั้งคู่ไว้ เพื่อมิให้ผู้ใดตามหาได้

ทางฝ่ายพระนางซาร่าเมื่อทราบข่าวว่าเจ้าชายโคลด์ได้หนีการอภิเษกกับธิดาของตนจึงโกรธมากและประกาศตัดเพื่อนกับกษัตริย์อีธาน กษัตริย์ทั้งสามอาณาจักรได้ทราบข่าวจึงทำการเกลี้ยกล่อมพระนางซาร่าให้เห็นว่าการอภิเษกในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจโดยผู้ใหญ่เท่านั้น ไม่ได้มีการถามความเห็นกับเจ้าชายโคลด์ก่อน การที่เจ้าชายโคลด์หนีไปครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นฝ่ายผิดเสียทีเดียว พระนางซาร่าได้ฟังดังนั้นจึงลดความโกรธลงและไม่ตัดเพื่อนกับกษัตริย์อีธานต่อไป

หลังจากที่งานอภิเษกถูกยกเลิกไปแล้วกษัตริย์อีธานก็ได้ให้สืบหาเจ้าชายโคลด์ เพื่อให้กลับมาสืบทอดตำแหน่งกษัตริย์ของอาณาจักรสโนว์แลนด์ต่อไป ด้านเจ้าชายโคลด์เมื่อรู้ว่างานอภิเษกสมรสของตนถูกยกเลิกไปแล้วจึงได้พาคาร่าเมียของตนกลับสู่อาณาจักรสโนว์แลนด์และทำการจัดงานอภิเษกสมรสขึ้น และแต่งตั้งคาร่าให้เป็นมเหสีของตน ฝ่ายเจ้าหญิงลูซี่นั้นเมื่อได้ทราบข่าวจึงรู้สึกเสียใจ เจ็บแค้นมาก เนื่องด้วยตนเองไม่ได้อภิเษกสมรสกับเจ้าชาย จึงไม่ไปร่วมงาน และแต่งงานกับขุนนางในอาณาจักรของตนเอง

หลังจากนั้นหนึ่งปีพระนางคาร่าจึงได้ให้กำเนิดเด็กสาวฝาแฝดน่าตาน่ารักขึ้นมาทั้งคู่มีผมสีเงินคล้ายกับพระบิดา แต่ดวงตาของคนแรกนั้นสีแดงสด ส่วนคนที่สองมีดวงตาเป็นสีชมพู แฝดคนพี่มีชื่อว่าเลล่า ซึ่งแปลว่ากลางคืน และแฝดคนน้องชื่อว่าคิร่า ซึ่งแปลว่าแสงอาทิตย์

แม้ทั้งสองคนจะหน้าตาเหมือนกันทุกอย่างยกเว้นดวงตา แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็พบว่าทั้งสองมีนิสัยไม่เหมือนกัน แฝดคนพี่นั้นแสนจะเย็นชา พูดน้อย ชอบหมกตัวอยู่กับตำรา อาวุธและสัตว์เหมือนกับพ่อ ส่วนคนน้องน้องนั้นแสนจะร่าเริง ชอบงานบ้านงานเรือน และเข้าสังคมเก่งเหมือนกับแม่ แม้จะนิสัยต่างกันแต่ทั้งสองก็รักกันเป็นอย่างดี เพราะแฝดคนพี่ถึงแม้จะเย็นชา แต่ถ้าหากแฝดคนน้องถูกรังแกหรือจะได้รับอันตรายก็จะโกรธ และเป็นฝ่ายปกป้องน้องทันที

ตัวอย่างเช่น เมื่อตอนอายุห้าขวบคิร่าได้เล่นเกมกับเจ้าชายคอซโม่ พระโอรสของกษัตริย์แคซเซียสแห่งอาณาจักรวัลลาโดลิท ด้วยความที่เจ้าชายคอซโม่โตกว่าคิร่าถึงห้าปี และไม่ชอบเล่นแบบผู้หญิงจึงชวนคิร่าไปเล่นฟันดาบ คิร่านั้นด้วยความที่ยังเด็กจึงนึกสนุกตามไปเล่นกับเจ้าชายคอซโม่ด้วย และในที่สุด...

“ แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิร่าเจ็บบบบบบบบ ทำไมพี่คอซโม่ต้องฟันคิร่าแรงๆด้วย ” คิร่าร้องไห้ด้วยเสียงอันดัง เพราะถูกดาบไม้ฟันเข้าที่แขนจนเป็นรอยแดง

“ ก็นี่มันเล่นฟันดาบนี่นา ต้องฟันกันแรงๆ สิ มันถึงจะสนุก ” เจ้าชายคอซโม่กล่าวเสียงดังโดยยังไม่รู้ถึงบทลงโทษจากพี่สาวผู้หวงน้องสาวของตนเอง

เสียงร้องไห้ของคิร่าดังไปถึงห้องสมุดที่เลล่านั่งอ่านหนังสืออยู่ เลล่าจึงรีบวิ่งมาหาคิร่าทันที เมื่อมาถึงก็พบตัวการที่ทำให้น้องสาวของตนร้องไห้อยู่ ความโกรธที่เห็นน้องสาวตนเองถูกรังแก ? ( ได้ข่าวว่าเค้าเล่นด้วยกันเฉย ๆ ) จิตสังหารมากมายถูกปล่อยออกมาทันที

ฝ่ายเจ้าชายคอซโม่รู้สึกได้ถึงจิตสังหารด้านหลัง จึงหันกลับไปมอง และเค้าก็พบว่า....

พี่สาวผู้หวงน้องสาวฝาแฝดของตนจ้องมองตนด้วยสายตาเย็นชา พร้อมปล่อยจิตสังหารมากมาย ในมือของเธอโยนก้อนหินก้อนขนาดเท่ากำปั้นอยู่ ทันทีที่เห็นดังนั้นเจ้าชายคอซโม่หน้าซีดเผือดตกใจจนก้าวถอยหลัง แต่เมื่อตั้งสติขึ้นมาได้ว่าตนโตกว่า แถมยังเป็นผู้ชายจึงยืนนิ่งๆ มองดูท่าทีของเลล่า

“ เจ้าเป็นคนทำร้ายน้องสาวของฉันใช่มั้ย ? ” เสียงเล็กๆ แต่เยือกเย็นเอ่ยถามเจ้าชายคอซโม่

“ เฮ้ ๆ เราแค่เล่นกันเฉย ๆ ฉันไม่ได้ทำร้ายคิร่าซะหน่อย ” เจ้าชายคอซโม่รีบอธิบาย

“ ทำให้คิร่าร้องไห้ ยกโทษให้ไม่ได้...  ” เลล่าพูดต่อ

 เจ้าชายคอซโม่ถึงกับหน้าเหวอ พร้อมกับคิดในใจว่า  “ ยัยนี่ ไม่ได้ฟังเราอธิบายเลยรึไงฟะ ” ในขณะที่กำลังจะอธิบายรอบที่สองนั้น ก้อนหินในมือของเลล่าก็พุ่งเข้ามาที่หน้าเค้าเสียแล้ว

จบเหตุการณ์วันนั้นด้วยศีรษะของเจ้าชายคอซโม่ปูดเป็นลูกซาลาเปาเท่านั้น เพราะด้วยแรงขว้างของเด็กผู้หญิงห้าขวบที่ชื่อว่าเลล่า เจ้าชายคอซโม่นั้นเองก็บอกกับตนเองว่าจะไม่มากับฝาแฝดคู่นี้อีกแล้ว....