คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูที่ถาวร
ตื๊ดๆๆๆๆๆ ๆ เสียงนาฬิกาปลุกที่ถูกตั้งไว้เวลา 12.00 pm ดังขึ้นทันที่ที่เข็มยาวหมุนไปทับกับเข็มสั้นพอดี โดยที่เจ้าของของมันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง หรี่ตาปรับแสงพลางสำรวจไปรอบห้องเช่าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยขยะ และ ข้าวของกระจัดกระจาย เขาสังเกตเห็นสิ่งๆ หนึ่ง มันคือซองกระดาษสีน้ำตาลที่ถูกยื่นเข้ามาทางใต้ประตูไม้ผุๆ เขารีบเดินไปหยิบมันขึ้นมา หน้าซองจ่าไว้ตัวโตๆ ว่า CIA และตามด้วยชื่อของผู้ที่ต้องจะการส่งให้ Napolitano Antonio เขารีบเปิดมันออกอย่างว่องไว ภายในมีกระดาษอยู่หนึ่งแผ่น เขาบรรจงอ่านมันจนจบ ก่อนจะคว้าไฟแช๊กออกมาเผามันทิ้งไปพร้อมกับซอง แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้ง ก่อนที่เปลือกตาทั้งสองจะปิดลง เขาคว้านาฬิกาคู่ใจขึ้นมาอีกครั้งตั้งเวลาปลุกไว้ที่ 7.00 pm แล้วหลับตาลงในสภาพเดิม
7.30 pm:
“รับเครื่องดื่มอะไรดีครับท่าน” บริกรหนุ่มเอ่ยถามลูกค้าของร้าน ที่เปรียบประดุจดั่งพระเจ้าด้วยวาจาอันสุภาพ และรอยยิ้มจริงใจ ท่ามกลางเสียงเพลงบลูที่คลอเบาๆ ไปทั่วทั้งบาร์แห่งนี้
“ว่าไง... เปิดโรมานี-กองติ*เลยไหม” ชายหนุ่มท่าทีสง่างามเอ่ยถามหญิงสาวฝ่ายตรงข้ามน้ำเสียงเรียบ เธอจะส่ายหน้าเบาๆ เป็นการปฏิเสธก่อนหันไปสั่งกับบริกรที่ยืนรออยู่
“เอาเป็น ฟลอว์เลส* ก็พอค่ะ”
“ครับท่าน” ทันทีที่บริกรเดินออกห่างจากโต๊ะไปชายหนุ่มก็เริ่มต้นถามหญิงสาว
“แน่ใจดีแล้วเหรอ ที่คิดจะร่วมกับสงครามโลกมาเฟียแบบนี้ กาเบรียล”
“เรื่องใหญ่แบบนี้ ฉันไม่กล้าตัดสินใจโดยพละการหรอกค่ะ” เจ้าตัวตอบน้ำเสียงเรียบ ทำให้ผู้ถามถึงกับเลิกคิ้ว ก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง
“...” “แค่เพราะ สคาวี่ไม่ยอมขอโทษ ถึงกับต้องยอมเสี่ยงเลยเหรอไง”
“มันเสี่ยงยังไงเหรอคะ มิสเตอร์ คาคารอฟ พวกคุณฆ่าคนของเรา” เธอถามกลับ
“มีสายสืบจากแก๊งอื่นเข้ามาท้าทายกันถึงที่ จะให้ฉันไม่ทำอะไรเลยได้ยังไง”
“คุณแน่ใจเหรอ ว่าไม่มีคนของ สคาวี่ แฝงตัวเข้ามาอยู่ใน ลา เคียเว มันเป็นเรื่องปกติธรรมดา แก๊งของคุณ ก็ไม่ได้มีแค่คนของฉันอย่างเดียวแน่นอน ฉันเชื่อว่าคุณรู้” กาเบรียล หญิงสาวผมสั้นสีดำขลับรีบเอ่ยถามกลับ ทว่า... ชายฝ่ายตรงข้ามกลับนิ่งเงียบ จังหวะเดียวกัน กับที่บริกรคนเดิม นำค๊อกเทลสุดหรูที่ราคาแพงที่สุดในโลกมาเสิร์ฟแก่ผู้นำแก๊งมาเฟียทั้งสองทั้งๆ ที่ปกติแล้วใครจะดื่มมัน ต้องมีทั้ง ฟลอโชว์* และรปภ.ยืนเฝ้าอีกสองคน แต่โชคดีที่ กาเบรียลล่า เจ้าแม่มาเฟียสาวเป็นเจ้าของบาร์แห่งนี้เสียงเอง พวกเขายกแก้วค๊อกเทลมาชนกันพอเป็นพิธี แล้วจิบมันเบาๆ ก่อนกาเบรียลจะเปิดคำถามต่อไปด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง
“คุณก็แค่เอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้าง สร้างสถานการณ์ให้เราดูเหมือนขัดแย้งกันเท่านั้นเอง ความจริงแล้ว คุณรอเวลานี้มาตลอดใช่ไหมล่ะคะ เวลาที่คุณจะได้เป็นใหญ่ในโลกมาเฟีย”
“หึหึ เธอเองก็อยาก... จะเป็นใหญ่กับเขาเหมือนกันไม่ใช่เหรอ” เจ้าพ่อมาเฟียมาดสุขุมถึงกับหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะถามถามหญิงสาวด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
“ไม่” เธอปฏิเสธอย่างทันควัน “ฉันแค่อยากจะบอกให้คุณให้รู้ ว่าทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น จะไม่เป็นผลกระทบแค่กับเรา... แต่เป็นแฟมิลี่ของเราทั้งหมด คุณจะยอมแลกกับมันเหรอคะ”
“ฉันรู้ แต่ฉันไม่ยอมก้มหัวให้ใครง่ายๆ โดยเฉพาะกับแอนโตเนีย สงครามกำลังเริ่มขึ้นแล้ว มันเป็นคนเริ่ม และฉัน... จะเป็นคนปิดฉากการต่อสู้ครั้งนี้เอง” ชายหนุ่มตอบ นัยน์ตาเป็นประกาย
“...” “ระวังมันจะไม่ง่ายอย่างนี้คุณคิดนะคะ” หญิงสาวเอ่ยพร้อมรอยยิ้มจางๆ ก่อนจะกระดกค๊อกเทลจรงหน้าทีเดียวหมดแก้วก่อนจะกล่าวคำลา “ขอตัวก่อนนะคะ หวังว่าคงได้มีโอกาสได้มานั่งดื่มกับคุณแบบนี้อีก” ว่าแล้ว เธอก็ลุกออกจากที่นั่ง ชายหนุ่มมองเธอเดินออกจากร้านช้าๆ เขาคว้าแก้วค๊อกเทลขึ้นมานั่งจิบ เคล้าคลอกับเสียงเพลงช้าๆ ที่บรรเลงเบาๆ ด้วยสีหน้าราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
ด้านหลังบาร์สุดหรูเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับด้านหน้าที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงต่างๆ มากนัก มันเป็นตรอกมืด แคบๆ ไร้ผู้คน ทว่า... กลับมีบริกรหนุ่มคนหนึ่งยืนสูบบุหรี่พิงกำแพงอยู่ในความมืดนั้น มืออีกข้างหนึ่งจับหูฟังเอาไว้ ทันใดนั้นเอง ประตูด้านหลังบาร์ก็ถูกเปิดออกอย่างเร่งรีบโดยชายสุดเนี๊ยบที่ห้อยบัตร CIA อยู่ตลอดเวลา เขามองบริกรหนุ่มอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“อันโตนิโอ นี่นายทำอะไรน่ะ” เอากระซิบถาม
“ทำงาน” ชายนามอันโตนิโอ ตอบสั้นๆ ห้วนๆ อย่างไม่สนใจ
“...” “นี่นายเป็นถึง CIA นะ ทำไมต้องลงทุนขนาดนี้ จ้างใครทำก็ได้”
“ยุ่งน่า” อันโตนีโอ ตอบก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกมาเป็นวงๆ
“หา... ว่าไงนะ นี่ฉันเป็นคู่หูของนายนะ” ซีไอเอหนุ่มแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง ว่าคู่ขามาดเซอร์แต่ผลงานยอดเยี่ยมของเขาจะพูดแบบนี้ ไม่ว่าจะมีงานกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยสนใจคู่หู เอาแต่ลุยเดี่ยวตลอดแถมยังชอบทำอะไรห่ามๆ อีก “โอเค... แล้วนายสืบได้อะไรบ้างล่ะ”
“ก็... ไอ้พวกมาเฟีย ดูเหมือพวกมันจะเริ่มรวมตัวกันทำอะไรบางอย่าง พวกมันกำลังจะ... แย่งกันเป็นใหญ่ซะเอง” เขาตอบ หนุ่มคู่หูถึงกับตาโตด้วยความตกใจ
“บ้าน่า... ถ้าสี่บิ๊กแฟมิลี่แย่งกันเป็นใหญ่ เมืองทั้งเมืองไม่วอดวายกันไปหมดเหรอ”
“หึ... ฉันไม่ยอมปล่อยให้ไอ้พวกนอกกฎหมายบ้าอำนาจพวกนั้นลอยนวลไปได้หรอก ฉันจะลากคอพวกมันมาให้หมด ไม่ให้พวกมันได้ไปทำร้ายใครได้อีก” อันโตนีโอกล่าว น้ำเสียงและแววตาจริงจังกว่าที่คู่หูของเขาเคยเห็นมาทุกครั้ง “ฉันติดเครื่องดักฟังไว้ที่โต๊ะที่พวกมันจองไว้ไปเก็บมาด้วยล่ะ ราบูเอล”
“ราฟาเอล...” เจ้าของชื่อรีบทักท้วง
“เอ้อ นั่นแหละๆ ราฟาเอล ชื่อเพราะดีนี่ ไปล่ะ” เขาตบบ่าคู่หูที่เขาไม่เคยจะต้องการเบาๆ และภาวนาในใจว่างานหน้าคงไม่ได้เจอหมอนี่อีก... ก่อนจะทิ้งบุหรี่ลงพื้นแล้วเดินเอามือล้วงกระเป๋าออกจากตรอกแคบๆ นั้นหายลับไป
โรมานี-กองติ* = ไวน์ที่ราคาแพงที่สุดในโลก
ฟลอว์เลส* = ค๊อกเทลที่ราคาแพงที่สุดในโลก
ฟลอโชว์* = การแสดงการทำค๊อกเทล
ความคิดเห็น