คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ท่วงทำนองแห่งการเริ่มต้น
“50 ล้านเหรอ! เหอะ นี่แกจะบอกว่าชีวิตคนของเปอริโคโล (Pericolo) มีค่าแค่ 50 ล้านเหรียญรึไง” ชายหนุ่มหัวตั้งผมสีโปร่งแสง เอ่ยถามบุรุษที่นั่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามอย่างหัวเสีย ในห้องประชุมลับที่กว้างใหญ่ไพศาล แต่กลับมีเพียง คนไม่กี่คนเท่านั้น และทุกคนก็ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาเสียด้วย
“ใจเย็นๆ ก่อนดีกว่าน่า นี่เราก็ตั้งใจจะมาทำให้เรื่องมันจบๆกันไป ไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มสวมแว่นฝ่ายตรงข้ามกล่าวอย่างใจเย็น ในมือควงแก้วไวน์อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“ทำไมหัวหน้าแกไม่มาด้วยตัวเอง ถ้าอยากจะให้เรื่องมันจบจริงๆ”
“ผมเป็นตัวแทนของบอส อีกอย่างบอสก็กำลังฟังที่เราคุยกันอยู่นี่ไง” ชายสวมแว่นจิบไวน์ไปกล่าวไป ก่อนจะชี้ไปที่โน๊ตบุ้คตรงหน้า หน้าจอนั้นมืดสนิท ไม่ใช่เพราะไม่ได้เปิด แต่เป็นเพราะจงใจ และมันก็เป็นอย่างนั้น ทั้งหมดสี่เครื่องที่อยู่ตรงหน้าผู้ร่วมประชุม
“ถ้างั้น... จะเอาสักเท่าไหร่ล่ะ 100 ล้าน เป็นไง พอใจไหม” เขาต่อรองอีกครั้ง ทว่า ชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามกลับยิ่งหัวเสีย ลุกขึ้นกระแทกโต๊ะประชุมเสียงดังลั่น
“ชีวิต... ก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต ถึงจะถูก และถ้าให้ฉันเลือกตอนนี้ ก็ขอเป็นชีวิตแกนั่นแหละ”
“ใจเย็นๆ ก่อนดีกว่าคุณเดเมทริโอ กระผมว่าเราน่าจะคุยกันดีๆ ดีกว่านะครับ วันนี้เราก็มายุติความขัดแย้งทุกอย่างระหว่างองค์กร และถ้าทำไม่สำเร็จ เราก็คงต้อง เป็นศัตรูกันไปอีกนาน แล้วอะไรๆ มันจะแย่ไปกว่านี้” ชายวัยดึกเครางามพยายามปราม ด้วยวาจาสุภาพ ผู้ร่วมประชุมทั้ง 3 รีบหันมามองที่เขาอย่างสนอกสนใจ
“นายเป็นใคร” เจ้าของนามที่ถูกเอ่ยถึง ถามอย่างสงสัย ชายผู้นี้เป็นใครกัน....
“กระผม เป็นพ่อบ้านของท่าน กาเบรียลล่า ตัวแทนของแก๊ง ลา เคียเว (la chiave) ครับขออภัยที่ไม่ได้แนะนำตัว จุดประสงค์ของท่านแก๊งเรา คือต้องการยุติความขัดแย้งทังหมดในวันนี้ เรื่องที่เกิดขึ้น แค่เพียงแก๊ง สคาวี่ (scavi) ยอมขอโทษทางเราก็จะยินยอมยุติเรื่องนี้เช่นกัน”
“...” “แก๊งของเรา ไมได้ทำอะไรผิดซักหน่อย พวกคุณตังหากที่ผิด ส่งสายสืบเข้ามาในองค์กรของเรา เราก็ต้องกำจัด ตามกฎของเรา และตามคำสั่งของท่าน เซอร์เซส” หญิงสาวผมยาวสลวยในชุดรัดรูปนั่งกอดอกเอ่ยตอบเสียงแข็ง
“ผมว่า.... เราจ่ายทรัพย์สินอะไรๆ ให้มันเสร็จๆกันไปเลยดีกว่าครับ อย่าให้เรื่องมัน... ลุกลามเลยจะดีกว่า” ชายสวมแว่นกล่าวขึ้นอีกครั้งด้วยท่าทีใจเย็นเช่นเดิม แต่ทว่าแฝงด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ กระตุกต่อมโมโหของอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง เขาลุกขึ้นพร้อมคว้าปืนสั้นประจำตัวออกมาเล็งที่หัวของชายสวมแว่นอย่างไม่ทันตั้งตัว
“คนที่พวกแกฆ่าตายไป คือเพื่อนของฉัน พวกแกไม่เห็นความสำคัญของชีวิตคนฉันก็ไม่ว่า แต่อย่ามาทำกร่างในถิ่นของคนอื่นให้มากนัก พวกแกจงใจจะฆ่าเขาใครๆก็ดูออก”
“อ๊ะๆ ... เอาปืนลงเถอะครับ การที่คุณเอาปืนจ่อผมซึ่งเป็นตัวแทนของท่านหัวหน้าแก๊งค์ เตรดิซี (Tredici) ซึ่งตอนนี้ท่าน และหัวหน้าแก๊งท่านอื่นๆ ก็กำลังดูพวกเราอยู่ ผมว่าทำแบบนี้มันจะไม่เหมาะนะครับ” ชายสวมแว่นหน้าซีดเผือดลงถนัด แม้จะพยายามใจเย็น แต่ทั่วทั้งร่างก็เย็นเฉียบเพราะความกลัว
“หึ ลุงฉันก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน ฉันก็แค่อยากสั่งสอนพวกแก๊ง เตรดิซี ให้รู้ซะบ้างว่าไม่ใช่ทุกอย่างที่จะใช้เงินซื้อได้”
“....แก แกไม่กล้าหรอก อย่าทำนะ” เสียงอ้อนวอนขอชีวิตดังก้องไปทั่วห้องประชุมภายใต้ ใบหน้าไร้ความปราณีที่กำลังท้าถูกจับจ้อง เขาง้างนกปืนขึ้นเบาๆ ก่อนจะกล่าว “ลุงสั่งมา ไม่ทำไม่ได้ เสียใจว่ะ”
“ปัง!!!!”!
เสียงที่แสนไพเราะสำหรับเหล่ามาเฟียดังกระหึ่มไปทั่วทั้งห้อง ร่างไร้วิญญาณท่วมโลหิตของชายใส่แว่นแน่นิ่งลงบนเก้าอี้ที่กลายเป็นสีแดงฉาน
“ทำแบบนี้ ไม่ดีแน่ๆ... เขาเป็นลูกน้องคนสำคัญของ เตรดิซี ทำอย่างนี้ ต้องเกิดเรื่องราวใหญ่โตแน่ๆ” พ่อบ้านประจำแก๊ง ลา เคียเว กล่าว พลางส่ายหน้าเบาๆ
“แล้วตกลง เรื่องของเราล่ะ คุณพ่อบ้าน” หญิงสาวหุ่นงาม เอ่ยขึ้นบ้าง
“เรื่องของเรา ทำไมหรือครับ”
“พวกคุณจะชดใช้ยังไง กับการที่ส่งสายลับมาอยู่ในองค์กรของเรา เราต้องการข้อมูลทั้งหมดคืน รวมถึงค่าเสียหาย”
“พวกคุณตังหากที่ต้องชดใช้ ไม่ใช่เรา ผมขอแค่คำขอโทษ ไม่ต้องการทรัพย์สินอะไร” ชายวัยดึกกล่าวแย้ง
ทว่า...จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ ดังมาจากโน๊ตบุ้คของแก๊ง เตรดิซี จนทุกคนต้องหันไปมองอย่างตกใจ
“แบบนี้ไม่ดีมั้ง ใครผิดใครถูกก็ไม่รู้ อะไรๆ ก็ไม่ลงตัวซักอย่าง การค้า ก็ขัดกันอยู่บ่อยๆ แย่งถิ่นกันก็เยอะ ฉันว่าเรา... มาดูกันดีกว่าว่าแก๊งไหน.... จะได้เป็นที่หนึ่ง หึหึ สนใจไหมล่ะ”
น้ำเสียงห้าวแฝงความเจ้าเล่ห์กล่าวชักชวน ตัวแทนทั้งสามต่างก็ตกใจ สิ่งนี้อยู่นอกอำนาจการตัดสินใจของพวกเขา และไม่มีใครจะตอบได้ นอกจากหัวหน้า... ที่กำลังฟังคำเชิญชวนนั้นผ่านโน๊ตบุ้คอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง
“เอาสิ ถ้าต้องการนัก แต่อย่ามั่นใจนักว่าทำแบบนี้ จะเป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เป็นใหญ่ ระวังตัวไว้ให้ดีก็แล้วกัน แอนโตเนีย แคสโอเน นายเป็นคนจุดไฟครั้งนี้เองนะ ระวังอย่าให้มันไหม้บ้านตัวเองซะล่ะ เอาล่ะ กลับได้แล้ว แอนน์”
เสียงตอบรับคำท้าดังมาจากโน๊ตบุ้คของฝ่าย สคาวี่ ก่อนหญิงสาวจะรับคำสั่ง ปิดโน๊ตบุ้คเก็บเข้าที่ แล้วรีบลุกออกจากที่นั่น
“...” “มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็คงหลีกเลี่ยงไมได้ ตอบตกลงเขาไปซะ โอรีโอ้” เสียงของชายชรา คอบรับคำท้าเป็นรายต่อมา เหลือเพียงแก๊งเดียวเท่านั้น ที่ยังคงไม่มีวี่แววว่าจะตอบรับอะไรกับเขาบ้างเลย
“ดี ดี... เยอะๆ จะได้สนุกหน่อย แล้วทาง ลา เคียเว ล่ะ ไม่สนใจจะร่วมกับเขาบ้างเหรอ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะ ว่าถ้าไม่คิดจะเป็นใหญ่ ก็อย่าขวางทางคนอื่นเขา”
เสียงเดิมจากแก๊ง เตรดิซี ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ชายพ่อบ้านถึงกับสะดุ้ง
“อย่านะครับคุณหนู ถ้าเราเข้าร่วม ทุกอย่างจะวุ่นวายเข้าไปอีก” เขารีบปรามหัวหน้าแก๊งของตน
“...” “เอาสิ... ฉันรับคำท้า”
และแล้วประโยคที่พ่อบ้านไม่อยากได้ยินที่สุดก็ถูกเอ่ยขึ้นจนได้
“ฮ่าๆๆๆ...ฮ่าๆๆๆ ดี ดี สนุกแล้วสิคราวนี้ เตรียมตัวเตรียมใจ อ่อ... อย่าลืมเตรียมโลงไว้ด้วยล่ะ ฉันจะไม่ปล่อยให้รอดไปซักรายเดียว โดยเฉพาะ...พวกที่ชอบอวดดี หึหึหึหึ”
เสียงหัวเราะอันเย็นยะเยือกดังก้องกังวานไม่รู้จบ จนโอริโอ้รู้สึกหงุดหงิด เขาหยิบปืนกระบอกเดิมขึ้นมาเล็งไปที่โน๊ตบุ้คต้นเสียง ก่อนทุกอย่างจะเป็นอันจบลง และอีกหลายๆ อย่างกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
“ปัง!!!!!”
1.Scavi (ซากปรักหักพัง) - เป็นแก๊งเก่าแก่หัวหน้าเป็นชาวรัสเซีย เป็นแก๊งที่ค่อนข้างอยู่กันอย่างพี่น้อง แต่ลูกน้องจะเคารพหัวหน้าและผู้อาวุโสเป็นธรรมเนียม
+-----------+----------+
2.Tredici (13) - เป็นแก๊งหัวหน้าชาวสวีเดน เรืองอำนาจบ้าอำนาจ เป็นแก๊งที่น่ากลัวและหัวรุนแรงมาก จุดศุนย์รวมอยู่ที่หัวหน้าแก๊งเพียงผู้ดียว ทำให้เป็นแก๊งที่แข็งแกร่ง
+-----------+---------+
3.la chiave (กุญแจ) - หัวหน้าแก๊งเป็นผู้หญิงคนเดียว แต่เป็นแก๊งที่เข้มแข็งที่สุด ร่ำรวย มีอำนาจแต่ค่อนข้างรักสงบ จะออกมาเมื่อจำเป็นเท่านั้น (แต่ในเรื่องก็คือตอนจำเป็นนั่นแหละจ้า)
+-----------+---------+
4.Pericolo (อันตราย) - หัวหน้าแก๊งค์อายุมากแล้ว แต่มีลูกน้องที่เก่งกาจและภักดีอยู่มาก แต่ก็ทำให้ภายในปั่นป่วน เพราะเกิดการแก่งแย่งกันที่จะเป็นหัวหน้าคนต่อไป
ความคิดเห็น