คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [ตอนจบ] บทลงโทษของเด็กเกเร
ตอนใหม่มาแล้วฮะ ที่ใช้เวลานานเพราะว่าผมกลัวมากเลยอ่ะ กลัวจะเรทเกินไป
กลัวโดนแบนมั่กๆ ถ้ามันไม่เหมาะสมบอกผมได้เลยนะฮะ จะแก้ให้เลยฮะ
(ช่วงนี้มีกระแสเรื่องนิยายวายมีฉากncมากไปด้วยสิ)
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยามเย็น ณ บ้านที่ชุมนุมของ Mekakushi Dan
ขณะชินทาโร่กำลังง่วนอยู่กับการแต่งเพลงในโน้ตบุ๊กของเขาอยู่ในห้องนั่งเล่น บรรยากาศภายในห้องยังคงเงียบสงบมาตลอด ทำให้ชินทาโร่ที่จดจ่ออยู่แต่กับหน้าจอไม่ได้สังเกตการเคลื่อนไหวของเงาขนาดเล็กเล็กรอบๆ
[--ฮิๆ ไอ้ลุงบื้อเอ้ย--]
เงาขนาดเล็กนั้นคือ ร่างของเด็กน้อยผมสีน้ำตาล หรือก็คือ [ฮิบิยะ] นั่นเอง
ฮิบิยะค่อยๆคลานไปตามเงามืดของห้องไปอย่างเงียบเชียบโดยที่ชินทาโร่ไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อย จนในที่สุดเขาก็มาถึงหน้าประตูห้องที่มีป้ายเขียน
ด้วยลายมืออย่างลวกๆว่า “ชินทาโร่”
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฮิบิยะค่อยๆเปิดประตูออกอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้เจ้าของห้องที่นั่งอยู่ถัดไปเล็กน้อยไม่รู้สึกตัว แล้วก็แทรกตัวเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดจนประตูห้องปิดลงชินทาโร่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของฮิบิยะแม้แต่น้อย นี่เป็นผลจากการที่เขาชอบแอบลอบเข้าไป ในที่ที่ไม่ควรเข้าเป็นประจำ
“ฮิๆๆ ง่ายกว่าที่คิดไว้ซะอีก ไอ้ลุงนั่นมันโง่ชะมัด แอบลอบเข้ามาได้ง่ายๆเลยแฮะ”
ฮิบิยะแสยะรอยยิ้มซุกซนในความมืดก่อนจะเริ่มต้นก้มหาของบางอย่างบนพื้น จุดที่เขาค้นหาคือตรงใต้ชั้นวางของและที่โต๊ะคอม แม้ในห้องจะมีเพียงแค่แสงสลัวๆตรงช่องว่างเล็กๆระหว่างผ้าม่านเท่านั้น แต่ฮิบิยะก็ยังสามารถเคลื่อนไหวได้โดยไม่ติดขัด
“อ๊ะ--นั่นไง”
ฮิบิยะรีบคลานเข้าไปที่ตรงโต๊ะ ตรงจุดที่เขาเจอวัตถุสี่เหลี่ยมขนาดประมาณกล่องใส่คุกกี้ขนาดใหญ่อยู่ด้านใต้ มันคือ...กล่องกระดาษที่มีลายมือลวกๆแบบเดียวกับป้ายหน้าห้องเขียนไว้บนกล่องว่า “คัมภีร์แห่งนักปราชญ์”
“ฮ่าๆ คัมภีร์บ้าบออะไร ก็แค่หนังสือลามกที่ลุงแอบเก็บไว้ไม่ให้เอเนะรู้ละสิ ถ้าจิ๊กไอ้นี่ไปไอ้ลุงต้องคลั่งแน่ๆ ฮิๆๆๆ”
ฮิบิยะวางแผนชั่วร้ายสุดๆไว้ในหัวพลางนึกภาพชินทาโร่ที่คลั่งเพราะหีบสมบัติของตนหาย
“เอ้~~แต่ว่าจะใช่รึปล่าวน้าา~~เช็คดูก่อนก็ไม่เสียหายหรอกเนอะ~~”
ฮิบิยะเลื่อนกล่องกระดาษออกมาแล้วเปิดฝาออกดูทันที
แต่ว่า...ภายในกล่องนั้นว่างปล่าว มีเพียงกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งที่มีข้อความว่า
[แกพลาดแล้วไอ้หื่นเอ้ย~~~
กับดักจับคนหื่นจะทำงานใน5วินาทีหลังเลื่อนกล่องออกมาจากใต้โต๊ะ]
“เอ๋!? น..นี่มันอะไรน--อ๊ะ--แว้กกก”
กว่าที่เขาจะสังเกตเชือกที่ผูกติดอยู่ที่อีกด้านของกล่อง เขาก็รู้สึกถึงพื้นที่ยกตัวขึ้น เขาเสียหลักหงายหลังเพราะพื้นที่ค่อยรวบขึ้นไป เขากำลังติดอยู่ในถุงตาข่ายขนาดใหญ่นั่นเอง
“ไง~~ไอ้เด็กแก่แดด”
“หนอยยแน่...ไอ้ลุงนี่”
เสียงทักทายยียวนสบายอารมณ์ของคนที่เปิดประตูเข้ามาทำให้เด็กน้อยที่ถูกขังไว้ในถุงตาข่ายขบฟันด้วยความโกรธ
“กะแล้วเชียวนายนี่เห็นของแบบนี้แล้วเกิดอารมณ์อยากจะเปิดดูสินะ แหม ทั้งที่อายุแค่ 11 แท้ๆ ไหงมาอยากดู [คัมภีร์แห่งนักปราชญ์] กันน้า~~”
“คัมภีร์ปราชญ์บ้าบออะไรล่ะฟร่ะ ที่จริงมันก็แค่ที่ซ่อนหนังสือลามกของลุงไม่ใช่รึไง!!!!”
“ฮิๆๆ โดนแขวนอยู่กับเพดานห้องฉันยังจะมาปากดีอีก ไอ้เด็กน้อยเอ้ย~~~คิดหรือว่าคนอย่างชั้นจะซ๋อนไว้ในที่ๆมันเดาง่ายอย่างนั้นน่ะ ฝันไปเถอะ---”
“ฮึ่มม...ขี้โกงอะมาลอบกัดชั้นหยั่งงี้เหรอ เอาชั้นลงนะ ไอ้ลุงบ้า ไอ้แก่หื่นนนน!!!!!”
“เห~~นายน่ะพลาดตั้งแต่คิดจะก้าวเข้ามาในห้องชั้นแล้วล่ะ ชั้นก็แค่วางกับดักเอาไว้เล่นๆ แต่ใครบางคนเอาตัวมาติดเองเท่านั้นเองน้า~~~”
ชินทาโร่ยียวนฮิบิยะที่โดนแขวนเอาไว้อย่างเต็มที่ จนฮิบิยะเริ่มจะร้องไห้ออกมา
“ฮือ~~~ปล่อยผมนะ”
“เห เปลี่ยนมาใช้ ผม แล้วหรออ จะร้องไห้แล้วนี่นาา~~ฮ่าๆๆหน้าแกตอนร้องไห้นี่ตลกจัง”
ชินทาโร่ปลดกับดักที่กักขังฮิบิยะไว้ลงกับพื้น ทันทีเด็กน้อยถึงพื้น เขาก็ตั้งท่าจะหนีทันที
“เดี๋ยว...จะไปไหน”
แต่ชินทาโร่ก็คว้าแขนของเขาไว้ซะก่อน ฮิบิยะสู้แรงของชินทาโร่ไม่ได้จึงเขาจึงถูกดึงตัวมาและเหวี่ยงลงบนที่นอน
“ล..ลุง จะทำอะไรผมน่ะ”
“สั่งสอนแกไง จะได้ไม่ไปแกล้งใครเขาอีก ต่อไปแกจะได้รู้ไง...ว่าใครคือ[เจ้านาย]”
“ฮึก..ฮือ~~~~อย่าทำผมนะ ผ..ผมกลัวแล้ว...”
“ฮิๆ ร้องเข้าไปซี่ไม่มีใครช่วยแกได้หรอก”
ชินทาโร่ใช่มือข้างหนึ่งกดข้อมือน้อยๆทั้งสองของฮิบิยะรวบเอาไว้เหนือหัว ก่อนจะค่อยๆโน้มตัวลงมาที่ใบหน้าเล็กๆของฮิบิยะ มืออีกข้างของเขาค่อยๆสอดเข้าไปใต้เสื้อของฮิบิยะพลางลูปคลำเรือนร่างขาวเนียนของเด็กน้อยอย่างสนุกมือ
“อะ อ๊า ลุงหยุดนะ..”
“หึๆๆ จากนี้ไปใครคือเจ้านายของแกบอกมาซิ??”
“.......ไงครับ”
“หา? อะไรนะ ไม่ค่อยได้ยินเลย”
ชินทาโร่ยื่นหูเข้าไปที่ใกล้ๆกับใบหน้าเล็ก เพื่อฟังเสียงแผ่วเบาของฮิบิยะ
“เจ้านายของผมก็คือ...ฉันเองไงเล่า--ไอ้ลุงโง่!!!”
“อ่อกกกก”
ฮิบิยะใช้หัวโหม่งเข้าที่กกหูของชินทาโร่เต็มแรงจนเขากระเด็นไปชนกับผนังอีกด้าน
“คิดจะมาเป็นเจ้านายฉันเหรอ ไม่มีทางซะล่ะ”
ฮิบิยะอาศัยจังหวะที่ชินทาโร่ยังนั่งมึนอยู่กับพื้น รีบลุกขึ้นแล้วพุ่งไปที่ประตูห้องทันที แต่ถึงเขาจะบิดลูกบิดกี่ครั้งประตูก็ไม่เปิดออกมา
“โธ่ว้อย ทำไมเปิดไม่ได้ฟร่ะ”
ทันใดนั้นเขาก็สังเกตุเห็นกระดาษที่แปะไว้ที่ประตู
[ประตูนี้ถูกล๊อคจากด้านนอก ถ้าไม่มีเปิดจากด้านนอกก็เปิดไม่ได้เฟ่ยไอ้เด็กโม่ย!! จาก..นายท่านชินทาโร่]
“นายท่านบ้าบออะไรฟร่ะะะะ----ถึงว่าทำไมประตูมันกลับด้านจากห้องอื่นๆ ทำไงดีๆกุญแจก็ไม่มีซะด้วย งั้นก็...”
ฮิบิยะสูดหายใจเข้าจนสุด แล้วจึงก็แหกปากสุดเสียง
“ช่วยด้วยยยยยย!!!!!! ใครก็ได้ช่วยที ข้างนอกมีใครม้ายยยยย!!!!!!”
ฮิบิยะแหกปากขอความช่วยเหลือพร้อมกับทุบประตูเป็นการใหญ่
“เห นั่นเสียงฮิบิยะคุงนี่นา ไปทำอะไรอยู่ในห้องพี่ชายกันน่ะ??”
เสียงแสดงความสงสัยของเด็กสาวดังขึ้นมาจากอีกฟากของประตู ฮิบิยะจึงรีบร้องขอความช่วยเหลือทันที
“เฮ้!!! นั่นป้าใช่มั้ย เปิดประตูให้ทีสิ เร็วเข้า เร้วววว!!!”
“เห...มาขอความช่วยเหลือแต่มาเรียกคนอื่นว่าป้าแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ เรียกให้มันดีๆกว่านี้หน่อยซิ”
“โธ่เอ้ย รีบๆเปิดซักทีเหอะน่า...พี่สาว รีบเปิดประตูให้ซักที!!!!”
“ทำให้เป็นประโยคขอร้องหน่อยซี่ แบบ พี่สาวแสนสวยครับ ได้โปรดเปิดประตูให้ผมหน่อยได้ไหมครับ อย่างเนี้ย~~”
ฮิบิยะเริ่มลนลานเพราะชินทาโร่เริ่มได้สติแล้ว เขาจึงต้องยอมทำตามที่โมโมะขอ
“ฮึ่ยย..พ..พี่สาว ส...สวย ได้โปรดเปิดประตู..ให้ผมหน่อยได้มั๊ยคร้าบบบบบ”
“แหมๆ~~มาชมกันว่าสวยอย่างนี้พี่สาวก็เขินแย่นะสิ~~~~”
“เลิกเล่นแล้วเปิดประตูได้แล้วเฟ่ยยยยย”
“เฮ่ย ก..แก ไอ้เด็กบ้า นั่นแกจะหนีไปไหนน่ะ!!!” ชินทาโร่โซเซลุกขึ้นก่อนจะชี้นิ้วมาทางฮิบิยะ
“ซวยแล้ว!!! ทำไงดี ถีบแมร่งเลยละกัน...”
ตูมมมม...
กรี๊ดดดดดด!!!!
ฮิบิยะถีบประตูจนพังแล้วรีบวิ่งเผ่นออกไปนอกห้องทันทีโดยไม่สนใจป้าที่ร้องกรี๊ดอยู่ใต้ซากประตูเลยแม้แต่น้อย เขาคว้าโน้ตบุ๊กบนโต๊ะมาเป็นตัวประกันแล้ววิ่งหนีเข้าไปในห้องของมารีทันที เพราะมารีไม่อยู่ในห้องพอเขาเข้าห้องได้เขาก็รีบลงกลอน แล้วมุดเข้าไปซ่อนใต้เตียง
เสียงๆหนึ่งดังออกมาจากโน้ตบุ๊กที่เขาถือไว้
“ฮิบิยะคุง นายท่านทำอะไรฮิบิยะคุงเหรอคะ??”
“อ..เอเนะ ไอ้บ้าชินมันบ้าไปแล้ว เธอช่วยหยุดไอ้ลุงนั่นที่ได้มั๊ย”
“แหม...ต้องขอโทษด้วยนะคะ ชั้นทำไม่ได้หรอกค่า~~”
“เอ๋ ท..ทำไมล่ะ”
“ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้ มารีจังมาชวนฉันเข้าร่วมในสมาพันธ์ สาวกผู้พิทักษ์BL นะค่า~~~”
“สมาพันธ์บ้าบออะไรกันน่ะหา!!!”
”ส่วนตัวแล้วฉันชอบคู่ นายท่านxคุณเซโตะ นะคะ แต่ว่าจะเปลี่ยนเป็นฮิบิยะคุงก็คงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้งค๊าา~~~”
“เสียหายสิฟ่ะ!!!”
“เรื่องนี้ได้รับการอนุมัติจากพระแม่อายะแล้วค่า~~อายาโนะจังถึงขนาดยอมเสียสละคุณชินทาโร่ให้คุณเซโตะเลยนะคะ ดังนั้นเพื่อแสดงความเคารพต่อสมาชิกท่านอื่น ข้าขอสาบานภายใต้ธงสมาพันธ์สีม่วงอย่างซื่อสัตย์ว่าจะไม่ขอเข้าขัดขวางสถานการณ์ชาย-ชายได้กันเองค่า~~~”
“โธ่ว้อยย ช่วยอะไรไม่ได้เลยยย”
“เฮ้ยแก!!! อยู่ในนั้นใช่มั๊ย ออกมาเดี๋ยวนี้นะไอ้เด็กโม่ย แกทำอะไรคอมชั้นหาาา!!!”
เสียงโวยวายอย่างเกรี้ยวกราดของชินทาโร่ทะลุประตูเข้ามาทำให้เด็กน้อยที่อยู่ใต้เตียงถึงกับสะดุ้ง
“ท..ทำไงดี ถ้าหมอนั่นเข้ามาได้จะทำไงดีล่ะเนี่ยยย”
“ก็ถ่างขาออกแล้วพูดว่า ผมยอมแล้วครับนายท่าน สิค๊ะ~~”
“ไม่เอาว้อยยยย”
ตึงงง!!! [อ่อกก...]
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงประหลาดๆดังออกมาจากอีกฝั่งประตู
“อ๊ะ ชินคุงขอโทษทีผมเบรคไม่ทันน่ะ”
น้ำเสียงราบเรียบฟังดูง่วงนอนดังมาจากนอกห้อง
[โคโนฮะเหรอ รอดแล้ววว]
กร๊อบบบ..
ลูกบิดถูกหมุนอย่างแรงทั้งที่ถูกล๊อคไว้ทำให้มันแหลกเป็นเศษเหล็กในพริบตา ประตูเปิดออกทำให้เห็นเด็กหนุ่มร่างสูงที่ยืนหน้าเอ๋ออยู่หน้าห้อง
“อ๊ะ ฮิบิยะคุงอยู่ใต้นี้หรอ??” โคโนฮะก้มหน้ามามองที่ใต้เตียง จึงพบฮิบิยะที่กำลังกลัวจนตัวสั่น
“ฮิบิยะคุงผมหิวอะ แต่ชินคุงเขาสลบไปแล้วอะทำไงดีๆ”
“ฮึก..โคโนฮะ..ฮือ~~แง้~~~~~ขอบคุณที่ช่วยนะะะะ!!!!”
เด็กน้อยปล่อยโฮออกมาพร้อมพุ่งเข้าโผกอดโคโนฮะเอาไว้
“ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่ไม่เป็นไรหรอก ฮิบิคุงผมหิวอะมีไรกินมั๊ย”
“ฮึก..อือ เดี๋ยวหาให้ละกัน” ฮิบิยะปาดน้ำตาแล้วเดินออกจากห้องไปหาของกินมาให้โคโนฮะ
ก้าวแรกที่เขาออกมาจากห้องสิ่งที่เขาเห็นคือ ร่างของชินทาโร่ที่โดนอัดก๊อปปี้กับกำแพงกำลังสั่นแหง็กๆอยู่ เขาคิดว่าโคโนฮะคงวิ่งชนเขาอย่างแรงแน่ๆ พลังของโคโนฮะเรียกได้ว่าเข้าขั้นเหนือมนุษย์ จึงเผลอพลั้งมือทำร้ายคนอื่นจนสาหัส(?)อยู่บ่อยๆ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฮิบิยะเจอถุงขนมสามสี่ถุงที่แถวๆโต๊ะหน้าห้องมารี
“แค่นี้คงพอสินะ อ๊ะนั่นกล่องอะไรน่ะ”
ฮิบิยะสังเกตุลังขนาดใหญ่ที่เหมือนจะเป็นลังขนมอยู่ที่ริมทางเดิน เขาเปิดมันออกดูด้วยความสงสัย
“เหวอ!! น..นาย โคโนฮะ!!!”
เขาเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจ เพราะภายในกล่องนั้น เป็นร่างของโคโนฮะที่ถูกมัดข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยกัน ปากถูกปิดด้วยเทปกาว
โคโนฮะทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้วพยายามร้องขอความช่วยเหลือออกมา
“อื้ออ~~อ้วยอ๋มอ้วย อื้อ”
โคโนฮะพยายามร้องขอความช่วยเหลือแต่ฮิบิยะแข็งค้างไปแล้ว เขาอึ้งกับภาพที่เห็นตรงหน้าอย่างมาก
[ถ้าโคโนฮะโดนมัดอยู่ในนี้ แล้วคนในห้อง...]
ฮิบิยะค่อยๆหันหลังกลับไปในห้องด้วยความกลัว เขาจึงสังเกตุเห็นอะไรบางอย่างของโคโนฮะที่นั่งหันหลังมาทางประตู
------ใต้ผมสีขาวนั่นมีผมดำแทรกออกมา!!!-------
“น..น..น..น..นายยยย”
“เห รู้ตัวแล้วเหรอ” โคโนฮะค่อยๆหันหน้ามาทางประตู
ดวงตาสีทองเป็นประกายแววโรจน์ราวกับสัตว์กินเนื้อ วิกผมสีขาวร่วงหล่นลงมาเผยให้เห็นเรือนผมดำสนิทที่ถูกมัดรวบไว้ด้านหลัง
“ค...คุโรฮะ!!!”
“ฮิๆๆๆติดกับฉันจนได้นะ ไอ้เตี้ย”
“น..นายมาที่นี่ได้ยังไง แล้วนายจับโคโนฮะไว้ทำไมน่ะ..”
เด็กน้อยน้ำตาคลอเบ้าด้วยความกลัว เขาทรุดลงกับพื้นถอยหลังจนชิดมุมห้อง
“ก็หมอนั่นไม่ให้ความร่วมมือนี่นาเลยต้องจับยัดลงกล่องไปทั้งอย่างนั้น ที่ฉันมาเนี่ยเพราะว่ามีคนโทรตามฉันมาช่วยสั่งสอนไอ้เด็กเกรียนที่ชื่อฮิบิยะ ก็คือแกไงไอ้เตี้ย”
คุโรฮะขึ้นมานั่งคร่อมบนตัวของฮิบิยะพลางช้อนคางของเขาขึ้นมอง
“ดูท่าแกจะต้องได้รับการสั่งสอนแบบรุนแรงจากฉันหน่อยสินะไอ้เตี้ย”
“จ..จะทำอะไรน---อุ๊บ”
ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรปากของฮิบิยะก็ถูกประกบลงด้วยปากของคุโรฮะ ลิ้นของคุโรฮะแทรกเข้ามาในโพรงปากควานหาความหวานไปทั่ว
ฮิบิยะพยายามดิ้นหนีแต่คุโรฮะก็ล๊อคแขนทั้งสองข้างของเขาเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว เขาส่งเสียงอื้ออึงในลำคอแต่ก็ไม่อาจทำให้เขาถอนจูบนั้นได้ มืออีกข้างของคุโรฮะเลิกเสื้อเขาออกพลางคลึงยอดอกขาวเนียนของฮิบิยะอย่างมันส์มือ ยิ่งเขาแสดงอาการต่อต้านคุโรฮะก็ยิ่งจูบอย่างดูดดื่มมากขึ้น
ใบหน้าของฮิบิยะถูกย้อมเป็นสีแดงก่ำด้วยรสจูบอันร้อนแรงของคุโรฮะ น้ำตาเล็ดลอดออกมาจากหางตาของเด็กน้อย แก้มของเขาเริ่มเป็นสีเข้มเพราะ ขาดอากาศหายใจ
“อะ อื้อ อื้ออ”
คุโรฮะจึงปลดจูบออกมาพลางมองหน้าฮิบิยะที่มีรอยน้ำตาเปราะเปื้อนบนในหน้าที่แดงก่ำ
“ฮ..ฮือ ผมยอมแล้ว ได้โปรดอย่าทำผมเลย ฮือ~~ผมกลัวแล้วครับบ”
“ทีนี้ใครคือเจ้านายของแกล่ะหือ??”
“ฮือ~~น..นายท่าน ท่านคุโระขอรับบ” ฮิบิยะสะอื้นพลางเอ่ยชื่อของคุโรฮะออกมา น้ำตาแห่งความหวาดกลัวไหลรินจากบนใบหน้าลงมาถึงซอกคอ
เขานั่งทรุดกับมุมห้องอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่สภาพหวาดกลัวของฮิบิยะกลับทำให้คุโรฮะยิ่งสนุกขึ้นไปอีก
“ดี งั้นแกก็เตรียมตัวรับใช้เจ้านา------อ่อกกกกก”
ร่างของคุโรฮะกระเด็นไปอัดกับกำแพงอย่างแรง แล้วร่วงลงตรงด้านข้างของฮิบิยะ
“อย่ามาทำฮิบิยะคุงนะ!!!”
โคโนฮะยืนอยู่ตรงหน้าของฮิบิยะ เด็กน้อยหันหน้าขึ้นมามองเขาน้ำตาเอ่อล้นออกมาจากหางตาจนท่วมใบหน้าเล็กๆของเขา
“ค..โคโนฮะ แง้~~~~” ฮิบิยะพุ่งเข้ากอดเอวของโคโนฮะก่อนจะร้องไห้สะอึกสะอึ้น โคโนฮะที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นตัวจริงแน่นอน
“ขอบคุณนะ โคโนฮะ ฮือ~~~ฉันกลัวจังเลย”
“โอ๋ๆไม่เป็นไรนะครับ ไม่ต้องกลัวนะ” โคโนฮะปลอบฮิบิยะในอ้อมกอด
“ก..แก หลุดออกมาได้ยังไง”
คุโรฮะที่ฟื้นขึ้นมาตวาดถามโคโนฮะที่น่าจะถูกมัดอยู่ในกล่อง
“ฉันปล่อยออกมาเองแหละ”
คนที่ถูกลืมไปแล้วยืนกอดอกอยู่หน้าห้อง ชินทาโร่นั่นเอง
“ใครจะยอมยกไอ้เด็กโม่ยให้แกกันเล่าาา!!!!!!”
“เจ้านายของไอ้เตี้ยต้องเป็นฉันเท่านั้นนนนน!!!!!!”
“อย่ามายุ่งกับฮิบิยะคุงนะะะะะะ!!!!!!!!!!!!!”
ชินทาโร่ คุโรฮะ และ โคโนฮะ พุ่งเข้าใส่กันบนพื้นแล้วเริ่มตะลุมบอนกันจนห้องสะเทือน(ที่จริงชินโดนอัดน่วมอยู่คนเดียว)
“หนอยแน่ไอ้งูดำยันเดเระ!”
“ตายซะไอ้หงอกหน้าเอ๋อ!!”
”ชินคุงบ้าที่สุด!!!” (อันนี้แปลกๆนะ)
ชินทาโร่โดนพลังเหนือมนุษย์ของโคโนะและคุโระอัดจนน่วมเป็นคนแรก คุโรฮะกับโคโนฮะจึงกำลังสู้ตัดสินกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อแย่งฮิบิยะ
“อูยย…เจ็บ ฉ..ฉันไม่ยอมแพ้หรอกกก” ชินทาโร่ที่น่วมไปคนแรกกระโจนเข้าใส่ฮิบิยะที่นั่งตัวสั่นเทิมอยู่ตรงมุมห้อง
“อ๊าาา ไอ้ลุงอย่าเข้ามาน้าาาาาา”
แต่ฮิบิยะกลับพุ่งตัวหลบไปเสียก่อนชินทาโร่จึงพุ่งไปกระแทกกำแพงจนแน่นิ่งไปอีกรอบ
“เห้ย!! จะหนีไปไหนน่ะแก” คุโระตั้งท่าจะวิ่งตามฮิบิยะที่วิ่งออกนอกห้องไป
“ไม่ให้ไปหรอกก!!” แต่โดนโคโนะจับขาไว้จนล้มหน้าฟาดเสียก่อน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ใครก็ด้ายมาช่วยผมที~~~~~~” ฮิบิยะวิ่งหนีจากนรกนั่นมาที่ด้านนอกเขามุ่งตรงไปที่ประตูทางออกอันเป็นทางรอดของเขา
แต่ประตูนั้นกลับเปิดออกมาก่อนโดยเด็กสาวคนหนึ่ง
“ฮิโยะจังงงง รอดแล้ววว~~~แง้~~~~” ฮิบิยะกระโดดเข้าเกาะขาคนตรงหน้าทันที
“เอ๋!! นี่นายทำบ้าอะไรน่ะ?!”
“แง้ เจ้าพวกนั้นมันบ้าไปแล้วอะ ผมกลัวว อยู่ๆพวกนั้นก็บอกว่าจะมาเป็นเจ้านายผมอะ”
“งั้นหรอ นายกลัวมากงั้นสินะ”
“ฮือ ฮิโยริจังช่วยผมทีนะ”
“ได้สิ สัญญานะ ว่านายจะไม่มีเจ้านายคนไหนนอกจากฉัน”
“ครับ ผมเป็นของเธอคนเดียวเท่านั้นแหละครับ” ฮิบิยะกอดฮิโยริไว้แน่น ฮิโยริจึงโอบเขาเอาไว้ในอ้อมแขน
“ไม่ต้องกลัวแล้วนะ ฉันไม่ยอมยกนายให้ใครหรอก”
“เจ้าพวกนั้นสุดท้ายก็กัดกันเองสินะ อุตส่าห์คิดว่าจะปราบฮิบิคุงกันแท้ๆ แต่ก็เอาเถอะ ก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้แล้วนี่นะ”
“เอ๋??” อยู่ๆฮิโยริก็พูดอะไรแปลกๆออกมาฮิบิยะจึงแหงนหน้ามองด้วยความสงสัย
“นี่ ฮิบิคุงสัญญาแล้วนะ...ว่านายจะเป็นของ ผม คนเดียวน่ะ”
ฉับพลันดวงตาของฮิโยริก็เปล่งประกายสีแดงมันค่อยๆกลายเป็นดวงตาเจ้าเล่ห์เหมือนแมว ร่างของฮิโยริสลายไปทันใดปรากฎร่างของเด็กหนุ่มในเสื้อฮู้ตสีดำขึ้นมาแทน
“น.น...น..นาย..นาย..นาย....ไอ้คาโนะ!!!!”
“ไงครับฮิบิคุง ผมเจ้านายหนึ่งเดียวของนายไงล่ะ~~”
ฮิบิยะพยายามผละจากอ้อมกอดของคาโนะแต่เขาไม่สามารถสู้แรงคาโนะได้ ภาพฮิโยริที่ฮิบิยะเห็นก่อนหน้านี้เป็นเพียงพลัง หลอกสายตา ของคาโนะเท่านั้น
“ก..แก บังอาจมาปลอมเป็นฮิโยะจังเหรอ!!!”
“นั่นสินะ ฮิโยริจังตัวจริงน่ะไปซื้อโดวายกับมารีนี่นา~~”
“นี่ยัยนั่นถึงขนาดชวนฮิโยริจังเลยเร้ออ!!” ฮิบิยะนึกถึงทั้งเอเนะและอายาโนะที่โดนมารีชวนเข้าสมาพันธ์ประหลาดๆที่มีธงสัญลักษณ์สีม่วง แต่เขาไม่สามารถนึกภาพเพื่อนสมัยเด็กตอนสติแตกแบบนั้นได้ เขากำลังคิดว่าแล้วอย่างคิโดะจะยังคงปกติดีอยู่หรือไม่ แน่นอนเขาไม่ได้เอะใจถึงป้าบางคนเลย
“นี่ อย่าลืมรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผมนะ ฮิบิคุง”
“สัญญาบ้าอะไรกันหาา นี่มันวันซวยอะไรของฉันกัน ทำไมต้องมาโดนไอ้พวกโรคจิตนี่หลอกเอาด้วยยยย”
“จริงๆมันเป็นแผนของพวกผมน่ะ แต่พวกนั้นน่ะผมตั้งใจวางแผนให้มันตีกันเองอยู่แล้วล่ะ”
“แผนบ้าบออะไรกันฮะ!!!! พวกแกแค่รวมหัวกันแกล้งชั้นไม่ใช่รึไง ปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้นะแก..”
ฮิบิยะยังคงพยายามดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมแขนของคาโนะที่ล๊อคตัวเขาเอาไว้ แต่คาโนะกลับล๊อคตัวเขาไว้แน่นขึ้นอีก
“มันก็คือ แผนการที่จะให้นายได้รู้ซึ้งถึงคำว่า เจ้านาย ยังไงล่ะ แบบที่ร้องไห้เมื่อกี้น่ะแหล่ะ ฮิๆๆ”
“ก..แก ไอ้----” ฮิบิยะไม่มีโอกาสขัดขืนเลย เขาถูกอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาวแล้วก็แล่นตรงดิ่งเข้าห้องของไอ้มารร้ายนี่ไป
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"อื้อ~~ อ่อย อื้อๆ"
ร่างเล็กพยายามส่งเสียงร้องต่อต้านออกมาจากปากที่ถูกปิดไว้ด้วยผ้าขาวอย่างแน่นหนา มือทั้งสองข้างถูกมัดรวบเอาไว้กับหัวเตียง ข้อเท้าถูกมัดไว้กับขาเตียงให้ถ่างออก เด็กน้อยพยายามดิ้นให้หลุดจากเชือกที่พันธนาการร่างของเขาเอาไว้แต่ก็ไม่เป็นผล เด็กหนุ่มในเสื้อฮู้ตมองภาพตรงหน้าพลางแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ
"เลิกต่อต้าน แล้วยอมเป็นของผมแต่โดยดีเถอะนะครับ ฮิบิยะคุง"
คาโนะบอกกับฮิบิยะที่กำลังพยายามดิ้นหนีราวกับตนเป็นเจ้านาย เสื้อผ้าที่เคยปกปิดร่างกายของเด็กน้อยบัดนี้พวกมันได้ถูกคาโนะถอดออกหมด ฮิบิยะที่ถูกมัดในสภาพเกือบเปลือยมีเพียงกางเกงในตัวเดียวเท่านั้นที่ยังคงปกปิดร่างกายส่วนนั้นเอาไว้ น้ำตาแห่งความอับอายและความกลัวเอ่อออกมาจากตาทั้งสองข้างของเด็กชายที่เคยเป็นตัวก่อปัญหาประจำกลุ่ม
"นายสร้างปัญหาให้ทุกคนมามากพอแล้วนะครับ จากนี้ผมขอเอาคืนนายบ้าง ในฐานะ [เจ้านาย]ของนายยังไงล่ะครับ"
"อื้อ ไอ๊เอา อ่อยอั๋นอ๊ะ"
ฮิบิยะส่งเสียงอื้ออึงในลำคอแสดงการต่อต้าน แต่เสียงอู้อี้ที่ผ่านผ้าที่ปิดปากเขาเอาไว้ไม่ได้ทำให้คาโนะหยุดการกระทำที่เป็นการรุกเข้าถึงร่างกาย ของเขาเลยแม้แต่น้อย
“อะ อื้อ..”
คาโนะไม่สนใจเสียงร้องประท้วงของฮิบิยะ เขาเริ่มพรมจูบลงบนหน้าอกของฮิบิยะอย่างต่อเนื่อง เด็กน้อยที่ไม่อาจขัดขืนได้ร้องครางออกมาอย่างแผ่วเบา สติของเขาเริ่มลางเลือน เขากำลังคล้อยตามอารมณ์ตรงหน้านี้เข้าไปเรื่อยๆ คาโนะเริ่มจูบบนร่างของเขาตั้งแต่ยอดอกลงมาถึงหน้าท้อง ร่างกายของเขาสั่นสะท้านทุกครั้งที่สัมผัสกับริมฝีปากของอีกฝ่าย ยังไม่ทันที่ฮิบิยะจะได้พักหายใจจากสมรภูมิตรงหน้า เขาก็สัมผัสได้ถึงริมฝีปากที่มาสัมผัสตรงแกมด้านซ้าย
“อื้อ!!” เมื่อเขาหันไปดูก็พบว่าชินทาโร่กำลังพยายามเข้ามาจูบที่แก้มของเขาจากด้านซ้าย
“คาโนะ ไอ้คนขี้โกง อย่ากั๊กเอาไว้คนเดียวเซ่!!” ชินทาโร่ทำหน้ามุ่ยใส่คาโนะที่ตอนนี้คร่อมอยู่บนตัวของฮิบิยะ
“แกเป็นคนเรียกฉันมาแท้ๆ ฉันไม่มีทางเป็นนกต่อให้แกฟรีๆหรอกน่า” คุโรฮะที่โผล่มาจูบทางด้านขวาอีกคนทำให้ร่างที่อยู่บนเตียงถึงกับสะดุ้งเฮือก
“เอาน่า~~ฉันไม่กั๊กไว้คนเดียวหรอก เรามาทำให้เจ้าเด็กนี่ได้รู้ซึ้งถึงคำว่า [เจ้านาย] กันเถอะ ฮ่าๆๆ”
[ค..แค่คนเดียวก็แย่แล้ว แต่นี่มากันสามคนเลยเหรอ!!! จ..จบกันชีวิตในในวัยเด็กของฉัน...]
ฮิบิยะนึกคร่ำครวญอยู่ในใจ แต่คำพูดเหล่านั้นสื่อออกมาแค่ทางน้ำตาที่อาบบนใบหน้าเท่านั้น
ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าเขาแน่กว่าใคร นึกสนุกสนานที่ได้แกล้งคนอื่นไปทั่ว เขาไม่เคยรับรู้ความรู้สึกของคนโดนรังแกมาก่อน จนมาวันนี้
เขาได้รู้แล้วว่า...เขานั้นยังอ่อนแอ เขาไม่สามารถปกป้องอะไรได้แม้แต่ร่างกายของเขาเอง
“นี่...ผมกินไอ้นี่ได้ไหมฮะ?”
“อ๊ืออ!!!”
ฮิบิยะสะดุ้งโหยงเมื่อเขารู้สึกถึงนิ้วมือที่มาจิ้มที่สะโพกของเขา สายตาแห่งความหิวโหยของโคโนฮะส่องประกายลงมาที่ตรง...ตรงนั้นอะ =A=
”อื้อ โอโออ๊ะ อ่าอ๊ะ อื๊ออ!!” โคโนฮะลูบคลำบริเวณสะโพกของฮิบิยะในท่าที่เหมือนกับเชฟตอนไปเลือกปลาจากตลาดประมูลยังไงหยั่งงั้น
[ไอ้บ้า!! คนนะไม่ใช่ทูน่า เลิกจิ้มๆคลำๆพลิกหน้าพลิกหลังได้แล้วเฟ้ยยยยย!!!]
“โอเค ถ้าครบองค์แล้วก็จัดการกันเลยละกันเนอะ”
ฮิบิยะไม่อาจจะห้ามพวกที่อยู่ตรงหน้านี้ได้แน่นอน เขาได้แต่หลับตาปี๋ด้วยความกลัว
[ฮือ~~ใครก็ได้ช่วยผมที ผมขอโทษ ได้โปรดช่วยผมทีเถอะ...]
“นี่พวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่น่ะครับ!!!”
ร่างสูงดำทะมึนยืนขมึงทึงอยู่ที่หน้าประตู เด็กหนุ่มในชุดหมีสีเขียว เซโตะ กำลังยืนส่งสายตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารร้ายแรงเข้าเฉือดเฉือนเสียดแทงลึกสุดขั้วหัวใจทุกคนที่อยู่ตรงหน้า
“อื้ออ~~อุนเอโอะ อ้วยอ้วย~~” ฮิบิยะที่ดีใจจนน้ำตาไหลพรากเมื่อได้เห็นพ่อเทพบุตรชุดเขียวที่ขี่ม้าขาว(?)เข้ามาปกป้องเขาได้ทันเวลา เขายื่นหัวเสนอหน้าผ่านกลุ่มคนที่แข็งค้างราวกับถูกสาปให้เป็นหินแล้วมาส่งเสียงร้องอู้อี้เป็นสัญญาณ SOS ให้กับเซโตะ
“ด..เดี๋ยวเซโตะ คือนี่มันไม่ใช่นะ แบบว่า พวกฉัน--” ชินทาโร่โบกไม้โบกมือแก้ตัวอย่างเอาเป็นเอาตาย ขาของเขาสั่นระริกดูเหมือนจะล้มพับลงได้ทุกเมื่อ
คาโนะเองก็ได้แต่ทำปากพะงาบๆพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน ส่วนโคโนฮะ...รายนั้นทรุดลงกับพื้นพร้อมน้ำตาคลอเบ้าเรียบร้อยแล้ว
“อ้อ นึกว่าอะไร ผมเพิ่งจะกลับมาจากออกไปหางานทำกับคิโดะ แหม...ที่แท้ก็ว่างมากจนต้องรวมหัวกันแกล้งเด็กเล็กๆอย่างนี้เลยสินะ...หึๆๆ”
ใบหน้าอ่อนโยนที่ดูไม่เหมาะกับรอยยิ้มแสยะเอาซะเลยหัวเราะหึๆออกมาอย่างน่าสยดสยองทำเอาขนบนแขนลุกชันขึ้นด้วยความขนพองสยองเกล้า
“ชินคุงครับ เราคงต้องเคลียร์เรื่องนี้กันหน่อยแล้วนะครับ ช่วยไปรอที่ห้องด้วยนะครับบ...!!!!”
“ค..ครับบ!! รับทราบครับบบ” ชินทาโร่ตอบรับทันที ก่อนจะรีบวิ่งแจ้นไปที่ห้องของตนทันที
“เฮ้ แกน่ะ อย่ามายุ่งนะ นี่มันเรื่องของฉัน แกน่ะออกไปซะ!!!”
“เห…?” เซโตะทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยเมื่อคุโรฮะสวนกลับเขาขึ้นมาขณะที่เขากำลังลากคอคาโนะและโคโนฮะทีใกล้จะขาดใจอยู่รอมร่อ
“ไม่ได้ยินหรือไง ฉันบอกว่าให้ออกไ---” คุโรฮะหยุดทั้งคำพูดและการเคลื่อนไหวทั้งหมดทันทีที่ดวงตาของเซโตะเบิกโพลงจนเป็นสีแดงก่ำ
“อ้าว??หยุดซะแล้วหรอครับบ ผมยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะครับ แต่ช่างเถอะ มานี่กับผมมา...” คุโรฮะไม่ใช่แค่ค้าง แต่ตัวแข็งไปเลยต่างหาก!!
เซโตะลากคุโรฮะที่แข็งค้าง โคโนฮะที่ร้องไห้โฮ และคาโนะที่กำลังทำหน้าเตรียมรับชะตากรรมออกไปทางประตู และกลับมาใน2นาทีให้หลัง
“ขอโทษแทนเจ้าพวกนั้นด้วยนะครับ ฮิบิยะคุง”
เซโตะยิ้มให้ฮิบิยะที่อยู่บนเตียงอย่างอ่อนโยน เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้เสแสร้งเลยสักนิด (ไม่เหมือนเจ้าพวกนั้น)
“อื้อ อุ อื๊ออ~~~”
“อ้อ ขอโทษทีครับ มา เดี๋ยวผมช่วยนะ” เซโตะเอื้อมมือไปปลดผ้าที่มัดปากฮิบิยะไว้ออก
“แฮ่ก...นึกว่าจะต้องตายซะแล้ว ข..ขอบคุณนะครับคุณเซโตะ” ทันทีที่อ้าปากได้เขาก็สูดหายใจเฮิอกใหญ่เนื่องจากเขาขาดอากาศหายใจในช่วงที่โดนปิดปากเอาไว้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ~~เดี๋ยวผมจะไปเคลียร์กับชินทาโร่ให้เอง ตอนนี้คาโนะกำลังโดนคิโดะเทศน์อยู่ ส่วนโคโนะกับคุโระกำลังนั่งสำนึกผิดอยู่ในห้องน่ะครับ~~~”
“จ..เจ้าพวกนั้นมันเป็นอะไรก็ไม่รู้ อยู่ๆมันก็มารุมผมอะ แถมมาพูดเรื่องเจ้านายบ้าบออะไรก็ไม่รู้อีก--”
“อันที่จริงผมกับคิโดะก็แอบดูอยู่ซักพักแล้วล่ะครับ”
“เอ๋??”
“ฮิบิยะคุงครับ รู้ไหมครับว่าทำไมพวกเขาถึงทำอะไรแบบนี้กับคุณ”
“เอ๋ เอ่อ......เพราะผม ไปแกล้งพวกเขาเอาไว้เหรอครับ..”
“ใช่แล้วล่ะครับ ถึงวิธีการจะผิดไปหน่อย แต่จริงๆแล้วพวกนั้นก็แค่อยากจะสั่งสอนคุณบ้างก็เท่านั้น ไม่ได้อยากจะทำอะไรคุณจริงๆหรอกครับ”
“เห!? จริงหรอครับ”
“แน่นอนครับ ที่พวกเขาบอกว่าจะเป็นเจ้านาย จริงๆแล้วก็แค่อยากให้เคารพพวกเขาที่โตกว่าบ้างเท่านั้นแหละครับ”
“.........”
“ผ..ผม ขอโทษด้วยนะครับ”
“ผมไม่ใช่คนที่คุณควรจะขอโทษหรอกนะครับ ฮิบิยะคุง”
“ค..ครับ ไว้ผม จะไปขอโทษพวกนั้นเองครับ”
“อ๊า~~เท่านี้ก็จบไปปัญหานึงละ ทีนี้มาเข้าเรื่องประเด็นหลักกันดีกว่านะครับบ....” น้ำเสียงอ่อนโยนของเซโตะแปรเปลี่ยนไปเป็นน้ำเสียงดุร้ายในทันทีที่เข้าช่วงท่อนหลัง
“ห..เห หา??”
ฮิบิยะส่งเสียงเอ๋อๆออกมาตอนที่จู่ๆท่าทีของเซโตะก็เปลี่ยนไป ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ดูยังไงก็อ่อนโยน 100% ไร้การเสแสร้งแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับแผ่จิตสังหารราวกับปีศาจ ตาของเขาเปล่งประกายสีแดงวาบ ทำเอาร่างของฮิบิยะสั่นสะท้านด้วยความกลัว
“ทำไมชินทาโร่ถึงได้ไปติดคุณกันน่ะครับบ ถ้าเป็นคนอื่นยังไม่แปลก แต่ทำไมอย่างชินคุงถึงได้กระตือรือร้นต้องการคุณถึงขนาดนั้นกันครับ หรือว่าฮิบิยะคุงกับชินทาโร่เคยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดอะไรกันงั้นหรอครับ พูดออกมานะะะะะ!!!!!!!!!!!!!!”
เซโตะคำรามราวกับสัตว์ประหลาดทำเอาเด็กน้อยกลัวจนน้ำตาเล็ด ภาพเซโตะที่ฮิบิยะเห็นตรงนี้เนี่ยมันปีศาจกบยักษ์ชัดๆ
“ด..เดี๋ยวก่อนครับ ไม่ใช่นะครับ คุณเซโตะ ผมกับไอ้นีทนั่นไม่เคย--”
“ยังไงก็ต้องป้องกันเอาไว้ก่อน คงต้องขอพิสูจน์กันหน่อยนะครับ” พูดจบเซโตะก็ใช้ตาที่เปล่งแสงสีแดงเพ่งเข้ามาที่ใบหน้าของฮิบิยะ เขากำลังใช้พลัง ขโมยสายตา กับฮิบิยะเพื่อดูภาพที่เขาเห็นมาก่อนหน้านี้นั่นเอง แต่ไม่รู้ทำไมฮิบิยะถึงไม่คิดว่าแสงสีแดงนั้นมาจากการใช้พลัง แต่เป็นพลังงานบางอย่างมากกว่า
“ห..เห น..นี่ฮิบิยะคุง แอบลอบเข้าไปในห้องส่วนตัวของชินทาโร่!!!!!!!!”
“ด..เดี๋ยวก่อนครับ เรื่องนั้นมัน...”
“แถมชินทาโร่ยังจับตัวคุณเอาไว้ ล..แล้วก็จับขึ้นต..เตียง---ย๊ากกกกก!!!!!!!!! ทนดูไม่ได้แล้วววววว”
“แง้!!!!!! คุณเซโตะใจเย็นก่อนเรื่องนั้นคือว่า...”
“แฮร่..ที่แท้มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง...ไม่ได้ ต้องจัดการ ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด เอาให้ไปเจอชินทาโร่ไม่ได้อีกเป็นครั้งที่สอง...”
จากปีศาจกบยักษ์ ก็กลายร่างเป็น มังกรไฟสีเขียว แถมยังพร้อมจะพ่นไฟได้ทุกเมื่ออีกด้วย
“จะ..จะทำอะไรน่ะครับ” เซโตะกดยึดแขนของฮิบิยะเอาไว้แล้วยื่นหน้าเข้าไปจ้องฮิบิยะที่ไม่รู้จะหนีไปทางไหนดี
“คงต้องทำให้ลุกออกไปจากเตียงไม่ได้สักระยะนะครับ เอาเป็นว่าผมจะบอกคิโดะให้เองว่าคุณสะโพกเคล็ดเอวหักลุกออกจากเตียงไม่ได้ละกันนะครับ ตรงนี้คงต้องขอบคุณคาโนะสินะครับที่จัดคุณไว้ในท่าที่เตรียมพร้อมสำเร็จรูปพอดีเลย ฮิๆๆๆ”
“ง..แง้~~~”
ฮิบิยะเพิ่งจะรู้สึกตัวว่า เขาได้ถูกเซโตะนั่งคร่อมอยู่บนตัวอย่างสมบูรณ์แบบ ถึงเซโตะจะแก้ผ้าปิดปากให้เขาแต่ก็ไม่ได้แก้มัดให้เขาด้วย เขายังคงถูกมัดมือมัดเท้าในสภาพเกือบเปลือยเหมือนเดิม
“ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ [เจ้านาย] จะขอลงโทษ [ทาสทรยศ] ล่ะน้าา~~~”
“แง้!!!!!! อย่านะ ม่ายยยยยยยยยยยยยย~~~~~~”
.
.
.
.
.
ฉากช่วงนี้โปรดใช้จินตนาการในการทำให้เกิดเป็นจินตภาพของมังกรไฟที่กำลังลงทัณฑ์กบสีฟ้าตัวน้อยๆที่ร้องไห้จ้าด้วยความกลัว (ช่วงหลังๆอาจจะมีเจ็บด้วย)
.
.
.
.
.
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ณ ที่สวนข้างบ้านที่ชุมนุมของ Mekakushi Dan
ตรงตำแหน่งที่หน้าต่างข้างๆห้องคาโนะ เด็กสาวสี่คนนั่งจ้องเป็งตรงขอบหน้าต่างเพื่อสอดส่องดูเหตุการณ์ภายในห้อง
“แอร๊ยย อย่างนั้นล่ะค่าคุณเซโตะ สุดยอดเลย โอ๊วว ดูหน้าฮิบิยะคุงสิ เอเนะจัง ถ่ายเอาไว้รึปล่าวค่ะ?”
“แน่นอนค่า ท่านหัวหน้าสมาพันธ์”
“คุณมารีนี่สุดยอดไปเลยนะ ตอนกำลังเลือกๆโดวายอยู่ดีๆก็ชะงักไปหยั่งกะนึกอะไรได้แล้วก็กวาดโดหมดชั้นในพริบตาส่งให้ฉันอย่างไวแล้วก็พุ่งมาที่บ้านเลย”
“แหมฮิโยะจัง เซนเซอร์ดักความวายของฉันมันทำงานน่ะค่ะ”
“นี่ๆขอบคุณฉันด้วยสิ เพราะฉันให้ความร่วมมือด้วยนะ ถึงได้เห็นคู่ นีท(พี่ชาย) x เด็กโม่ย(ฮิบิคุง)น่ะ”
“ค่า ขอบคุณค่ะคุณโมโมะ”
"เมื่อกี้นี้ที่จู่ๆคุณคุโรฮะก็ตัวแข็งไปนี่เป็นฝีมือคุณมารีสินะคะ"
"ใช่แล้วจ้า~~ขืนให้ทุกคนได้รุกหมดแต่คุณเซโตะไม่ได้มันก็น่าเสียดายแย่สิคะ"
"แหม หมอนั่นนี่ป๊อปน่าดูเลยเนอะ"
“แหม ก็เจ้านั่นมันน่ารักขนาดนั้นนี่นา คนอื่นถึงได้ติดกันงอมแงมถึงขนาดเปลี่ยนเป็นสถานะ [โชตะค่อน] กันทั้งบ้าน แอร๊ย ฉันเองก็อยากร่วมด้วยจัง”
“อดทนเอาไว้ค่ะโมโมะจัง ฮิบิยะคุงเป็นบุคคลลากรหายากที่มีคุณสมบัติ [โชตะ] [ซึนเดเระ] [เด็กโม่ย] [ขี้แย] [หลอกง่ายจนงี่เง่า] และ [น่ารักขยี้ใจ]ครบสูตรเลยนะคะ”
“ค่า~~คุณอายาโนะ อู้ว ดูสิคุณเซโตะเอาจริงแล้วล่ะ งานนี้มีระบมแน่”
“นี่พวกเธอกำลังทำอะไรกันน่ะหา!!!!”
หัวหน้ากลุ่ม คิโดะ โผล่มาข้างหลังของพวกสี่สาว(จริงๆมีห้า ถ้ารวมเอเนะ) ที่กำลังจดจ่ออยู่กับการห้ำหั่นอย่างดุเดือดของมังกรไฟข้างใน
“อ๊ะ คิโดะ มาดูด้วยกันนี่สิ นี่มันสุดยอดไปเลยน้าา” เด็กสาวผมขาวนามว่า มารี กวักมือชักชวนคิโดะให้เข้ามารวมกลุ่มด้วยกัน
“สุดยอดอะไรของเธอหา!! เอ๋ เอ๊ะ อ๊ะ!!!!!” คิโดะมองเข้าไปในห้องจึงได้ทันเห็น มังกรพ่นน้ำ (คิดว่ามันคือมังกรวารีละกัน)ภายในห้อง
“น..นี่มันอะไรเนี่ยยยยยยยยยย”
“มันก็คือการลงทัณฑ์จากเจ้านายยังไงล่ะคะ ทาสตัวน้อยที่น่าสงสารได้กระทำความผิดฐานไปล่วงเกินคนรักของเจ้านายเข้าจึงถูกเจ้านายลงโทษด้วยความรักอันเร่าร้อนค่ะ”
“เร่าร้อนบ้าอะไรหา ฉันจะเข้าไปห้ามเดี๋ยวนี้หล่ะ”
“อ๊า อย่านะคะ อย่าเข้าไปทำลายสถานการณ์ตอนนี้นะคะ ตอนนี้เรื่อง ทาสรักเจ้าชายกบ กำลังจะต่อภาคสองแล้วค่า อดทนรอนิดนึงนะคะ”
โมโมะกับฮิโยริเข้าไปเกาะขาคิโดะที่กำลังจะถีบบานหน้าต่างเอาไว้
“นี่พวกเธอจะบ้าหรือไง ภาคสองอะไรนั่นน่ะฉันจะทำลายมันเองงง”
“สึโบมิจัง อย่างน้อยก็ให้ทาสกับมังกรไฟได้พักสักครู่ก่อนสงครามหน้าเถอะนะ” อายาโนะส่งสายตาอ้อนวอนไปทางคิโดะที่กำลังปรี๊ดขึ้น
“ขนาดพี่สาวยังเป็นไปกับเจ้าพวกนี้ด้วยเลยเหรอออ นี่พวกเธอปล่อยฉันนะ ฉันจะไปช่วยฮิบิย๊าาาาาาา”
“อ๊าา~~ที่แท้คุณคิโดะก็อยากจะเข้าร่วมเป็นเจ้านายกะเขาด้วยนี่เอง”
“คิโดะคะ ไม่ได้นะคะ สิทธิพิเศษ เฉพาะผู้ชายเท่านั้นนะคะ เอ๊ะ หรือว่าคิโดะจะเป็นผู้ชายกันคะ”
“เธอไปเอาความคิดแบบนั้นมาจากไหนน่ะฮิโยริ!!!”
“อ๊าย คิโดะเขินด้วยล่ะ”
สี่สาว(รึไม่ก็สามสาว)ยื้อกันไปยื้อกันมาตรงสนามถ่วงเวลาให้เจ้าแม่วายตัวจริงและโทรศัพท์มือถือได้เพ่งสมาธิกับภาพเหตุการณ์จริงตรงหน้า
“ต่อจากนี้ก็คงจะเป็นที่ห้องของคุณชินทาโร่สินะคะ เอเนะจัง”
“ค่าา แต่ก็ไม่รู้สินะคะว่า คุณโคโนฮะ กับ คุณคุโรฮะในห้องสองต่อสอง จะนั่งสำนึกผิดกันอย่างเดียวรึปล่าวนะคะ”
และแล้วสติของสองสาวก็เพ่งไปด้านหน้าเพียงอย่างเดียวอีกครั้ง ทำให้รอบๆบ้านที่ชุมนุมของ Mekakushi Dan มีเพียงสีงวี๊ดว๊ายของสาวๆ กับเสียงครางซีดซ้าดในบ้านที่ดังระงมไปทั่วเท่านั้น
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------END จบเหอะ!!!!!!!!!!!!!
ตอนนี้บอกตามตรงว่าแต่งได้โรคจิตอย่างแรง ถ้าไม่ชอบก็ต้องขออภัยจริงๆนะฮะ ถ้าเรทเกินไปหรือไม่เหมาะสมก็ขอให้แจ้งผมก่อนได้ทันทีเลยนะฮะ ผมจะแก้ไขให้เหมาะสมเองฮะ ยังไงก็ข้อผิดพลาดใดๆในเรื่องนี้ จะพยายามแก้ไขในงานเขียนคราวหน้านะฮะ ฝากติดตามงานเขียนของ Xenon ต่อๆไปนะฮะ ขอบคุณทุกท่านมากฮะ
ปล.เรื่องนี้อาจจะมีตอนพิเศษ(แถม)ให้อีกตอน เป็นเรื่องสั้นๆหลังจากเหตุการณ์นี้ (แน่นอนไม่โรคจิตเท่านี้ละ) ขึ้นอยู่กับว่าอยากได้กันรึปล่าว ยังไงก็เมนท์บอกความรู้สึกกันได้นะ อยากรู้เรื่องหลังจากนี้ไหมก็บอกๆผมได้เลย
ความคิดเห็น