ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Kagerou] ขบวนการปราบเด็กเกรียน [All Hibiya]

    ลำดับตอนที่ #2 : [ตอนจบ] บทลงโทษของเด็กเกเร

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 530
      10
      6 พ.ค. 58

    ตอนใหม่มาแล้วฮะ ที่ใช้เวลานานเพราะว่าผมกลัวมากเลยอ่ะ กลัวจะเรทเกินไป
    กลัวโดนแบนมั่กๆ ถ้ามันไม่เหมาะสมบอกผมได้เลยนะฮะ จะแก้ให้เลยฮะ
    (ช่วงนี้มีกระแสเรื่องนิยายวายมีฉากncมากไปด้วยสิ)


    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ยามเย็น ณ บ้านที่ชุมนุมของ Mekakushi Dan

    ขณะชินทาโร่กำลังง่วนอยู่กับการแต่งเพลงในโน้ตบุ๊กของเขาอยู่ในห้องนั่งเล่น บรรยากาศภายในห้องยังคงเงียบสงบมาตลอด ทำให้ชินทาโร่ที่จดจ่ออยู่แต่กับหน้าจอไม่ได้สังเกตการเคลื่อนไหวของเงาขนาดเล็กเล็กรอบๆ

     

    [--ฮิๆ ไอ้ลุงบื้อเอ้ย--]

    เงาขนาดเล็กนั้นคือ ร่างของเด็กน้อยผมสีน้ำตาล หรือก็คือ [ฮิบิยะ] นั่นเอง

    ฮิบิยะค่อยๆคลานไปตามเงามืดของห้องไปอย่างเงียบเชียบโดยที่ชินทาโร่ไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อย จนในที่สุดเขาก็มาถึงหน้าประตูห้องที่มีป้ายเขียน

    ด้วยลายมืออย่างลวกๆว่า “ชินทาโร่”

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ฮิบิยะค่อยๆเปิดประตูออกอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้เจ้าของห้องที่นั่งอยู่ถัดไปเล็กน้อยไม่รู้สึกตัว แล้วก็แทรกตัวเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดจนประตูห้องปิดลงชินทาโร่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของฮิบิยะแม้แต่น้อย นี่เป็นผลจากการที่เขาชอบแอบลอบเข้าไป ในที่ที่ไม่ควรเข้าเป็นประจำ

     

    “ฮิๆๆ ง่ายกว่าที่คิดไว้ซะอีก ไอ้ลุงนั่นมันโง่ชะมัด แอบลอบเข้ามาได้ง่ายๆเลยแฮะ”

    ฮิบิยะแสยะรอยยิ้มซุกซนในความมืดก่อนจะเริ่มต้นก้มหาของบางอย่างบนพื้น จุดที่เขาค้นหาคือตรงใต้ชั้นวางของและที่โต๊ะคอม แม้ในห้องจะมีเพียงแค่แสงสลัวๆตรงช่องว่างเล็กๆระหว่างผ้าม่านเท่านั้น แต่ฮิบิยะก็ยังสามารถเคลื่อนไหวได้โดยไม่ติดขัด

    “อ๊ะ--นั่นไง”

    ฮิบิยะรีบคลานเข้าไปที่ตรงโต๊ะ ตรงจุดที่เขาเจอวัตถุสี่เหลี่ยมขนาดประมาณกล่องใส่คุกกี้ขนาดใหญ่อยู่ด้านใต้ มันคือ...กล่องกระดาษที่มีลายมือลวกๆแบบเดียวกับป้ายหน้าห้องเขียนไว้บนกล่องว่า “คัมภีร์แห่งนักปราชญ์”

     

    “ฮ่าๆ คัมภีร์บ้าบออะไร ก็แค่หนังสือลามกที่ลุงแอบเก็บไว้ไม่ให้เอเนะรู้ละสิ ถ้าจิ๊กไอ้นี่ไปไอ้ลุงต้องคลั่งแน่ๆ ฮิๆๆๆ”

    ฮิบิยะวางแผนชั่วร้ายสุดๆไว้ในหัวพลางนึกภาพชินทาโร่ที่คลั่งเพราะหีบสมบัติของตนหาย

    “เอ้~~แต่ว่าจะใช่รึปล่าวน้าา~~เช็คดูก่อนก็ไม่เสียหายหรอกเนอะ~~”

    ฮิบิยะเลื่อนกล่องกระดาษออกมาแล้วเปิดฝาออกดูทันที

     

    แต่ว่า...ภายในกล่องนั้นว่างปล่าว มีเพียงกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งที่มีข้อความว่า

     

    [แกพลาดแล้วไอ้หื่นเอ้ย~~~

    กับดักจับคนหื่นจะทำงานใน5วินาทีหลังเลื่อนกล่องออกมาจากใต้โต๊ะ]

     

    “เอ๋!? ..นี่มันอะไรน--อ๊ะ--แว้กกก”

    กว่าที่เขาจะสังเกตเชือกที่ผูกติดอยู่ที่อีกด้านของกล่อง เขาก็รู้สึกถึงพื้นที่ยกตัวขึ้น เขาเสียหลักหงายหลังเพราะพื้นที่ค่อยรวบขึ้นไป เขากำลังติดอยู่ในถุงตาข่ายขนาดใหญ่นั่นเอง

     

    “ไง~~ไอ้เด็กแก่แดด”

    “หนอยยแน่...ไอ้ลุงนี่”

    เสียงทักทายยียวนสบายอารมณ์ของคนที่เปิดประตูเข้ามาทำให้เด็กน้อยที่ถูกขังไว้ในถุงตาข่ายขบฟันด้วยความโกรธ

    “กะแล้วเชียวนายนี่เห็นของแบบนี้แล้วเกิดอารมณ์อยากจะเปิดดูสินะ แหม ทั้งที่อายุแค่ 11 แท้ๆ ไหงมาอยากดู [คัมภีร์แห่งนักปราชญ์] กันน้า~~

    “คัมภีร์ปราชญ์บ้าบออะไรล่ะฟร่ะ ที่จริงมันก็แค่ที่ซ่อนหนังสือลามกของลุงไม่ใช่รึไง!!!!

    “ฮิๆๆ โดนแขวนอยู่กับเพดานห้องฉันยังจะมาปากดีอีก ไอ้เด็กน้อยเอ้ย~~~คิดหรือว่าคนอย่างชั้นจะซ๋อนไว้ในที่ๆมันเดาง่ายอย่างนั้นน่ะ ฝันไปเถอะ---

    “ฮึ่มม...ขี้โกงอะมาลอบกัดชั้นหยั่งงี้เหรอ เอาชั้นลงนะ ไอ้ลุงบ้า ไอ้แก่หื่นนนน!!!!!

    “เห~~นายน่ะพลาดตั้งแต่คิดจะก้าวเข้ามาในห้องชั้นแล้วล่ะ ชั้นก็แค่วางกับดักเอาไว้เล่นๆ แต่ใครบางคนเอาตัวมาติดเองเท่านั้นเองน้า~~~

     

    ชินทาโร่ยียวนฮิบิยะที่โดนแขวนเอาไว้อย่างเต็มที่ จนฮิบิยะเริ่มจะร้องไห้ออกมา

    “ฮือ~~~ปล่อยผมนะ”

    “เห เปลี่ยนมาใช้ ผม แล้วหรออ จะร้องไห้แล้วนี่นาา~~ฮ่าๆๆหน้าแกตอนร้องไห้นี่ตลกจัง

    ชินทาโร่ปลดกับดักที่กักขังฮิบิยะไว้ลงกับพื้น ทันทีเด็กน้อยถึงพื้น เขาก็ตั้งท่าจะหนีทันที

    “เดี๋ยว...จะไปไหน”

    แต่ชินทาโร่ก็คว้าแขนของเขาไว้ซะก่อน ฮิบิยะสู้แรงของชินทาโร่ไม่ได้จึงเขาจึงถูกดึงตัวมาและเหวี่ยงลงบนที่นอน

    “ล..ลุง จะทำอะไรผมน่ะ”

    “สั่งสอนแกไง จะได้ไม่ไปแกล้งใครเขาอีก ต่อไปแกจะได้รู้ไง...ว่าใครคือ[เจ้านาย]

    “ฮึก..ฮือ~~~~อย่าทำผมนะ ผ..ผมกลัวแล้ว...

    “ฮิๆ ร้องเข้าไปซี่ไม่มีใครช่วยแกได้หรอก”

    ชินทาโร่ใช่มือข้างหนึ่งกดข้อมือน้อยๆทั้งสองของฮิบิยะรวบเอาไว้เหนือหัว ก่อนจะค่อยๆโน้มตัวลงมาที่ใบหน้าเล็กๆของฮิบิยะ มืออีกข้างของเขาค่อยๆสอดเข้าไปใต้เสื้อของฮิบิยะพลางลูปคลำเรือนร่างขาวเนียนของเด็กน้อยอย่างสนุกมือ

    “อะ อ๊า ลุงหยุดนะ..

    “หึๆๆ จากนี้ไปใครคือเจ้านายของแกบอกมาซิ??

    .......ไงครับ”

    “หา? อะไรนะ ไม่ค่อยได้ยินเลย”

    ชินทาโร่ยื่นหูเข้าไปที่ใกล้ๆกับใบหน้าเล็ก เพื่อฟังเสียงแผ่วเบาของฮิบิยะ

    “เจ้านายของผมก็คือ...ฉันเองไงเล่า--ไอ้ลุงโง่!!!

    “อ่อกกกก”

    ฮิบิยะใช้หัวโหม่งเข้าที่กกหูของชินทาโร่เต็มแรงจนเขากระเด็นไปชนกับผนังอีกด้าน

    “คิดจะมาเป็นเจ้านายฉันเหรอ ไม่มีทางซะล่ะ”

    ฮิบิยะอาศัยจังหวะที่ชินทาโร่ยังนั่งมึนอยู่กับพื้น รีบลุกขึ้นแล้วพุ่งไปที่ประตูห้องทันที แต่ถึงเขาจะบิดลูกบิดกี่ครั้งประตูก็ไม่เปิดออกมา

    “โธ่ว้อย ทำไมเปิดไม่ได้ฟร่ะ”

    ทันใดนั้นเขาก็สังเกตุเห็นกระดาษที่แปะไว้ที่ประตู

     

    [ประตูนี้ถูกล๊อคจากด้านนอก ถ้าไม่มีเปิดจากด้านนอกก็เปิดไม่ได้เฟ่ยไอ้เด็กโม่ย!!   จาก..นายท่านชินทาโร่]

     

    “นายท่านบ้าบออะไรฟร่ะะะะ----ถึงว่าทำไมประตูมันกลับด้านจากห้องอื่นๆ ทำไงดีๆกุญแจก็ไม่มีซะด้วย งั้นก็...”

    ฮิบิยะสูดหายใจเข้าจนสุด แล้วจึงก็แหกปากสุดเสียง

    “ช่วยด้วยยยยยย!!!!!! ใครก็ได้ช่วยที ข้างนอกมีใครม้ายยยยย!!!!!!

    ฮิบิยะแหกปากขอความช่วยเหลือพร้อมกับทุบประตูเป็นการใหญ่

    “เห นั่นเสียงฮิบิยะคุงนี่นา ไปทำอะไรอยู่ในห้องพี่ชายกันน่ะ??

    เสียงแสดงความสงสัยของเด็กสาวดังขึ้นมาจากอีกฟากของประตู ฮิบิยะจึงรีบร้องขอความช่วยเหลือทันที

     

    “เฮ้!!! นั่นป้าใช่มั้ย เปิดประตูให้ทีสิ เร็วเข้า เร้วววว!!!

    “เห...มาขอความช่วยเหลือแต่มาเรียกคนอื่นว่าป้าแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ เรียกให้มันดีๆกว่านี้หน่อยซิ”

    “โธ่เอ้ย รีบๆเปิดซักทีเหอะน่า...พี่สาว รีบเปิดประตูให้ซักที!!!!

    “ทำให้เป็นประโยคขอร้องหน่อยซี่ แบบ พี่สาวแสนสวยครับ ได้โปรดเปิดประตูให้ผมหน่อยได้ไหมครับ อย่างเนี้ย~~

     

    ฮิบิยะเริ่มลนลานเพราะชินทาโร่เริ่มได้สติแล้ว เขาจึงต้องยอมทำตามที่โมโมะขอ

    “ฮึ่ยย....พี่สาว ...สวย ได้โปรดเปิดประตู..ให้ผมหน่อยได้มั๊ยคร้าบบบบบ”

    “แหมๆ~~มาชมกันว่าสวยอย่างนี้พี่สาวก็เขินแย่นะสิ~~~~

    “เลิกเล่นแล้วเปิดประตูได้แล้วเฟ่ยยยยย”

     

    “เฮ่ย ก..แก ไอ้เด็กบ้า นั่นแกจะหนีไปไหนน่ะ!!!” ชินทาโร่โซเซลุกขึ้นก่อนจะชี้นิ้วมาทางฮิบิยะ

    “ซวยแล้ว!!! ทำไงดี ถีบแมร่งเลยละกัน...

     

    ตูมมมม...

    กรี๊ดดดดดด!!!!

    ฮิบิยะถีบประตูจนพังแล้วรีบวิ่งเผ่นออกไปนอกห้องทันทีโดยไม่สนใจป้าที่ร้องกรี๊ดอยู่ใต้ซากประตูเลยแม้แต่น้อย เขาคว้าโน้ตบุ๊กบนโต๊ะมาเป็นตัวประกันแล้ววิ่งหนีเข้าไปในห้องของมารีทันที เพราะมารีไม่อยู่ในห้องพอเขาเข้าห้องได้เขาก็รีบลงกลอน แล้วมุดเข้าไปซ่อนใต้เตียง

     

    เสียงๆหนึ่งดังออกมาจากโน้ตบุ๊กที่เขาถือไว้

     

    “ฮิบิยะคุง นายท่านทำอะไรฮิบิยะคุงเหรอคะ??”

    “อ..เอเนะ ไอ้บ้าชินมันบ้าไปแล้ว เธอช่วยหยุดไอ้ลุงนั่นที่ได้มั๊ย”

    “แหม...ต้องขอโทษด้วยนะคะ ชั้นทำไม่ได้หรอกค่า~~

    “เอ๋ ท..ทำไมล่ะ”

    “ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้ มารีจังมาชวนฉันเข้าร่วมในสมาพันธ์ สาวกผู้พิทักษ์BL นะค่า~~~

    “สมาพันธ์บ้าบออะไรกันน่ะหา!!!

    ”ส่วนตัวแล้วฉันชอบคู่ นายท่านxคุณเซโตะ นะคะ แต่ว่าจะเปลี่ยนเป็นฮิบิยะคุงก็คงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้งค๊าา~~~

    “เสียหายสิฟ่ะ!!!

    “เรื่องนี้ได้รับการอนุมัติจากพระแม่อายะแล้วค่า~~อายาโนะจังถึงขนาดยอมเสียสละคุณชินทาโร่ให้คุณเซโตะเลยนะคะ ดังนั้นเพื่อแสดงความเคารพต่อสมาชิกท่านอื่น ข้าขอสาบานภายใต้ธงสมาพันธ์สีม่วงอย่างซื่อสัตย์ว่าจะไม่ขอเข้าขัดขวางสถานการณ์ชาย-ชายได้กันเองค่า~~~

    “โธ่ว้อยย ช่วยอะไรไม่ได้เลยยย”

     

    “เฮ้ยแก!!! อยู่ในนั้นใช่มั๊ย ออกมาเดี๋ยวนี้นะไอ้เด็กโม่ย แกทำอะไรคอมชั้นหาาา!!!

    เสียงโวยวายอย่างเกรี้ยวกราดของชินทาโร่ทะลุประตูเข้ามาทำให้เด็กน้อยที่อยู่ใต้เตียงถึงกับสะดุ้ง

    “ท..ทำไงดี ถ้าหมอนั่นเข้ามาได้จะทำไงดีล่ะเนี่ยยย”

    “ก็ถ่างขาออกแล้วพูดว่า ผมยอมแล้วครับนายท่าน สิค๊ะ~~

    “ไม่เอาว้อยยยย”

     

    ตึงงง!!!  [อ่อกก...]

     

    ทันใดนั้นก็เกิดเสียงประหลาดๆดังออกมาจากอีกฝั่งประตู

    “อ๊ะ ชินคุงขอโทษทีผมเบรคไม่ทันน่ะ”

    น้ำเสียงราบเรียบฟังดูง่วงนอนดังมาจากนอกห้อง

     

    [โคโนฮะเหรอ รอดแล้ววว]

     

    กร๊อบบบ..

     

    ลูกบิดถูกหมุนอย่างแรงทั้งที่ถูกล๊อคไว้ทำให้มันแหลกเป็นเศษเหล็กในพริบตา ประตูเปิดออกทำให้เห็นเด็กหนุ่มร่างสูงที่ยืนหน้าเอ๋ออยู่หน้าห้อง

     

    “อ๊ะ ฮิบิยะคุงอยู่ใต้นี้หรอ??” โคโนฮะก้มหน้ามามองที่ใต้เตียง จึงพบฮิบิยะที่กำลังกลัวจนตัวสั่น

    “ฮิบิยะคุงผมหิวอะ แต่ชินคุงเขาสลบไปแล้วอะทำไงดีๆ”

    “ฮึก..โคโนฮะ..ฮือ~~แง้~~~~~ขอบคุณที่ช่วยนะะะะ!!!!

    เด็กน้อยปล่อยโฮออกมาพร้อมพุ่งเข้าโผกอดโคโนฮะเอาไว้

    “ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่ไม่เป็นไรหรอก ฮิบิคุงผมหิวอะมีไรกินมั๊ย”

    “ฮึก..อือ เดี๋ยวหาให้ละกัน” ฮิบิยะปาดน้ำตาแล้วเดินออกจากห้องไปหาของกินมาให้โคโนฮะ

    ก้าวแรกที่เขาออกมาจากห้องสิ่งที่เขาเห็นคือ ร่างของชินทาโร่ที่โดนอัดก๊อปปี้กับกำแพงกำลังสั่นแหง็กๆอยู่ เขาคิดว่าโคโนฮะคงวิ่งชนเขาอย่างแรงแน่ๆ พลังของโคโนฮะเรียกได้ว่าเข้าขั้นเหนือมนุษย์ จึงเผลอพลั้งมือทำร้ายคนอื่นจนสาหัส(?)อยู่บ่อยๆ

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 

    ฮิบิยะเจอถุงขนมสามสี่ถุงที่แถวๆโต๊ะหน้าห้องมารี

    “แค่นี้คงพอสินะ อ๊ะนั่นกล่องอะไรน่ะ”

    ฮิบิยะสังเกตุลังขนาดใหญ่ที่เหมือนจะเป็นลังขนมอยู่ที่ริมทางเดิน เขาเปิดมันออกดูด้วยความสงสัย

    “เหวอ!! ..นาย โคโนฮะ!!!

    เขาเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจ เพราะภายในกล่องนั้น เป็นร่างของโคโนฮะที่ถูกมัดข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยกัน ปากถูกปิดด้วยเทปกาว

    โคโนฮะทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้วพยายามร้องขอความช่วยเหลือออกมา

    “อื้ออ~~อ้วยอ๋มอ้วย อื้อ”

    โคโนฮะพยายามร้องขอความช่วยเหลือแต่ฮิบิยะแข็งค้างไปแล้ว เขาอึ้งกับภาพที่เห็นตรงหน้าอย่างมาก

    [ถ้าโคโนฮะโดนมัดอยู่ในนี้ แล้วคนในห้อง...]

    ฮิบิยะค่อยๆหันหลังกลับไปในห้องด้วยความกลัว เขาจึงสังเกตุเห็นอะไรบางอย่างของโคโนฮะที่นั่งหันหลังมาทางประตู

     

    ------ใต้ผมสีขาวนั่นมีผมดำแทรกออกมา!!!-------

     

    “น..น..น..น..นายยยย”

    “เห รู้ตัวแล้วเหรอ” โคโนฮะค่อยๆหันหน้ามาทางประตู

    ดวงตาสีทองเป็นประกายแววโรจน์ราวกับสัตว์กินเนื้อ วิกผมสีขาวร่วงหล่นลงมาเผยให้เห็นเรือนผมดำสนิทที่ถูกมัดรวบไว้ด้านหลัง

    “ค...คุโรฮะ!!!

    “ฮิๆๆๆติดกับฉันจนได้นะ ไอ้เตี้ย”

    “น..นายมาที่นี่ได้ยังไง แล้วนายจับโคโนฮะไว้ทำไมน่ะ..

    เด็กน้อยน้ำตาคลอเบ้าด้วยความกลัว เขาทรุดลงกับพื้นถอยหลังจนชิดมุมห้อง

    “ก็หมอนั่นไม่ให้ความร่วมมือนี่นาเลยต้องจับยัดลงกล่องไปทั้งอย่างนั้น ที่ฉันมาเนี่ยเพราะว่ามีคนโทรตามฉันมาช่วยสั่งสอนไอ้เด็กเกรียนที่ชื่อฮิบิยะ ก็คือแกไงไอ้เตี้ย”

    คุโรฮะขึ้นมานั่งคร่อมบนตัวของฮิบิยะพลางช้อนคางของเขาขึ้นมอง

    “ดูท่าแกจะต้องได้รับการสั่งสอนแบบรุนแรงจากฉันหน่อยสินะไอ้เตี้ย”

    “จ..จะทำอะไรน---อุ๊บ”

    ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรปากของฮิบิยะก็ถูกประกบลงด้วยปากของคุโรฮะ ลิ้นของคุโรฮะแทรกเข้ามาในโพรงปากควานหาความหวานไปทั่ว

    ฮิบิยะพยายามดิ้นหนีแต่คุโรฮะก็ล๊อคแขนทั้งสองข้างของเขาเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว เขาส่งเสียงอื้ออึงในลำคอแต่ก็ไม่อาจทำให้เขาถอนจูบนั้นได้ มืออีกข้างของคุโรฮะเลิกเสื้อเขาออกพลางคลึงยอดอกขาวเนียนของฮิบิยะอย่างมันส์มือ ยิ่งเขาแสดงอาการต่อต้านคุโรฮะก็ยิ่งจูบอย่างดูดดื่มมากขึ้น

    ใบหน้าของฮิบิยะถูกย้อมเป็นสีแดงก่ำด้วยรสจูบอันร้อนแรงของคุโรฮะ น้ำตาเล็ดลอดออกมาจากหางตาของเด็กน้อย แก้มของเขาเริ่มเป็นสีเข้มเพราะ ขาดอากาศหายใจ

    “อะ อื้อ อื้ออ”

    คุโรฮะจึงปลดจูบออกมาพลางมองหน้าฮิบิยะที่มีรอยน้ำตาเปราะเปื้อนบนในหน้าที่แดงก่ำ

    “ฮ..ฮือ ผมยอมแล้ว ได้โปรดอย่าทำผมเลย ฮือ~~ผมกลัวแล้วครับบ”

    “ทีนี้ใครคือเจ้านายของแกล่ะหือ??

    “ฮือ~~..นายท่าน ท่านคุโระขอรับบ” ฮิบิยะสะอื้นพลางเอ่ยชื่อของคุโรฮะออกมา น้ำตาแห่งความหวาดกลัวไหลรินจากบนใบหน้าลงมาถึงซอกคอ

    เขานั่งทรุดกับมุมห้องอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่สภาพหวาดกลัวของฮิบิยะกลับทำให้คุโรฮะยิ่งสนุกขึ้นไปอีก

    “ดี งั้นแกก็เตรียมตัวรับใช้เจ้านา------อ่อกกกกก”

    ร่างของคุโรฮะกระเด็นไปอัดกับกำแพงอย่างแรง แล้วร่วงลงตรงด้านข้างของฮิบิยะ

    “อย่ามาทำฮิบิยะคุงนะ!!!

    โคโนฮะยืนอยู่ตรงหน้าของฮิบิยะ เด็กน้อยหันหน้าขึ้นมามองเขาน้ำตาเอ่อล้นออกมาจากหางตาจนท่วมใบหน้าเล็กๆของเขา

    “ค..โคโนฮะ แง้~~~~” ฮิบิยะพุ่งเข้ากอดเอวของโคโนฮะก่อนจะร้องไห้สะอึกสะอึ้น โคโนฮะที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นตัวจริงแน่นอน

    “ขอบคุณนะ โคโนฮะ ฮือ~~~ฉันกลัวจังเลย”

    “โอ๋ๆไม่เป็นไรนะครับ ไม่ต้องกลัวนะ” โคโนฮะปลอบฮิบิยะในอ้อมกอด

     

    “ก..แก หลุดออกมาได้ยังไง”

    คุโรฮะที่ฟื้นขึ้นมาตวาดถามโคโนฮะที่น่าจะถูกมัดอยู่ในกล่อง

    “ฉันปล่อยออกมาเองแหละ”

    คนที่ถูกลืมไปแล้วยืนกอดอกอยู่หน้าห้อง ชินทาโร่นั่นเอง

    “ใครจะยอมยกไอ้เด็กโม่ยให้แกกันเล่าาา!!!!!!”

    “เจ้านายของไอ้เตี้ยต้องเป็นฉันเท่านั้นนนนน!!!!!!

    “อย่ามายุ่งกับฮิบิยะคุงนะะะะะะ!!!!!!!!!!!!!

     

    ชินทาโร่ คุโรฮะ และ โคโนฮะ พุ่งเข้าใส่กันบนพื้นแล้วเริ่มตะลุมบอนกันจนห้องสะเทือน(ที่จริงชินโดนอัดน่วมอยู่คนเดียว)

    “หนอยแน่ไอ้งูดำยันเดเระ!”

    “ตายซะไอ้หงอกหน้าเอ๋อ!!

    ”ชินคุงบ้าที่สุด!!!” (อันนี้แปลกๆนะ)

     

    ชินทาโร่โดนพลังเหนือมนุษย์ของโคโนะและคุโระอัดจนน่วมเป็นคนแรก คุโรฮะกับโคโนฮะจึงกำลังสู้ตัดสินกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อแย่งฮิบิยะ

    “อูยยเจ็บ ฉ..ฉันไม่ยอมแพ้หรอกกก” ชินทาโร่ที่น่วมไปคนแรกกระโจนเข้าใส่ฮิบิยะที่นั่งตัวสั่นเทิมอยู่ตรงมุมห้อง

    “อ๊าาา ไอ้ลุงอย่าเข้ามาน้าาาาาา”

    แต่ฮิบิยะกลับพุ่งตัวหลบไปเสียก่อนชินทาโร่จึงพุ่งไปกระแทกกำแพงจนแน่นิ่งไปอีกรอบ

    “เห้ย!! จะหนีไปไหนน่ะแก” คุโระตั้งท่าจะวิ่งตามฮิบิยะที่วิ่งออกนอกห้องไป

    “ไม่ให้ไปหรอกก!!” แต่โดนโคโนะจับขาไว้จนล้มหน้าฟาดเสียก่อน

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    “ใครก็ด้ายมาช่วยผมที~~~~~~” ฮิบิยะวิ่งหนีจากนรกนั่นมาที่ด้านนอกเขามุ่งตรงไปที่ประตูทางออกอันเป็นทางรอดของเขา

    แต่ประตูนั้นกลับเปิดออกมาก่อนโดยเด็กสาวคนหนึ่ง

    “ฮิโยะจังงงง รอดแล้ววว~~~แง้~~~~” ฮิบิยะกระโดดเข้าเกาะขาคนตรงหน้าทันที

    “เอ๋!! นี่นายทำบ้าอะไรน่ะ?!

    “แง้ เจ้าพวกนั้นมันบ้าไปแล้วอะ ผมกลัวว อยู่ๆพวกนั้นก็บอกว่าจะมาเป็นเจ้านายผมอะ”

    “งั้นหรอ นายกลัวมากงั้นสินะ”

    “ฮือ ฮิโยริจังช่วยผมทีนะ”

    “ได้สิ สัญญานะ ว่านายจะไม่มีเจ้านายคนไหนนอกจากฉัน”

    “ครับ ผมเป็นของเธอคนเดียวเท่านั้นแหละครับ” ฮิบิยะกอดฮิโยริไว้แน่น​ ฮิโยริจึงโอบเขาเอาไว้ในอ้อมแขน

    “ไม่ต้องกลัวแล้วนะ ฉันไม่ยอมยกนายให้ใครหรอก”

     

    “เจ้าพวกนั้นสุดท้ายก็กัดกันเองสินะ อุตส่าห์คิดว่าจะปราบฮิบิคุงกันแท้ๆ แต่ก็เอาเถอะ ก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้แล้วนี่นะ”

    “เอ๋??” อยู่ๆฮิโยริก็พูดอะไรแปลกๆออกมาฮิบิยะจึงแหงนหน้ามองด้วยความสงสัย

    “นี่ ฮิบิคุงสัญญาแล้วนะ...ว่านายจะเป็นของ ผม คนเดียวน่ะ”

    ฉับพลันดวงตาของฮิโยริก็เปล่งประกายสีแดงมันค่อยๆกลายเป็นดวงตาเจ้าเล่ห์เหมือนแมว ร่างของฮิโยริสลายไปทันใดปรากฎร่างของเด็กหนุ่มในเสื้อฮู้ตสีดำขึ้นมาแทน

    “น.น...น..นาย..นาย..นาย....ไอ้คาโนะ!!!!

    “ไงครับฮิบิคุง ผมเจ้านายหนึ่งเดียวของนายไงล่ะ~~

    ฮิบิยะพยายามผละจากอ้อมกอดของคาโนะแต่เขาไม่สามารถสู้แรงคาโนะได้ ภาพฮิโยริที่ฮิบิยะเห็นก่อนหน้านี้เป็นเพียงพลัง หลอกสายตา ของคาโนะเท่านั้น

    “ก..แก บังอาจมาปลอมเป็นฮิโยะจังเหรอ!!!

    “นั่นสินะ ฮิโยริจังตัวจริงน่ะไปซื้อโดวายกับมารีนี่นา~~

    “นี่ยัยนั่นถึงขนาดชวนฮิโยริจังเลยเร้ออ!!” ฮิบิยะนึกถึงทั้งเอเนะและอายาโนะที่โดนมารีชวนเข้าสมาพันธ์ประหลาดๆที่มีธงสัญลักษณ์สีม่วง แต่เขาไม่สามารถนึกภาพเพื่อนสมัยเด็กตอนสติแตกแบบนั้นได้ เขากำลังคิดว่าแล้วอย่างคิโดะจะยังคงปกติดีอยู่หรือไม่ แน่นอนเขาไม่ได้เอะใจถึงป้าบางคนเลย

    “นี่ อย่าลืมรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผมนะ ฮิบิคุง”

    “สัญญาบ้าอะไรกันหาา นี่มันวันซวยอะไรของฉันกัน ทำไมต้องมาโดนไอ้พวกโรคจิตนี่หลอกเอาด้วยยยย”

    “จริงๆมันเป็นแผนของพวกผมน่ะ แต่พวกนั้นน่ะผมตั้งใจวางแผนให้มันตีกันเองอยู่แล้วล่ะ”

    “แผนบ้าบออะไรกันฮะ!!!! พวกแกแค่รวมหัวกันแกล้งชั้นไม่ใช่รึไง ปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้นะแก..

    ฮิบิยะยังคงพยายามดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมแขนของคาโนะที่ล๊อคตัวเขาเอาไว้ แต่คาโนะกลับล๊อคตัวเขาไว้แน่นขึ้นอีก

    “มันก็คือ แผนการที่จะให้นายได้รู้ซึ้งถึงคำว่า เจ้านาย ยังไงล่ะ แบบที่ร้องไห้เมื่อกี้น่ะแหล่ะ ฮิๆๆ”

    “ก..แก ไอ้----” ฮิบิยะไม่มีโอกาสขัดขืนเลย เขาถูกอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาวแล้วก็แล่นตรงดิ่งเข้าห้องของไอ้มารร้ายนี่ไป

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    "อื้อ~~ อ่อย อื้อๆ"

    ร่างเล็กพยายามส่งเสียงร้องต่อต้านออกมาจากปากที่ถูกปิดไว้ด้วยผ้าขาวอย่างแน่นหนา มือทั้งสองข้างถูกมัดรวบเอาไว้กับหัวเตียง ข้อเท้าถูกมัดไว้กับขาเตียงให้ถ่างออก เด็กน้อยพยายามดิ้นให้หลุดจากเชือกที่พันธนาการร่างของเขาเอาไว้แต่ก็ไม่เป็นผล เด็กหนุ่มในเสื้อฮู้ตมองภาพตรงหน้าพลางแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ

     

    "เลิกต่อต้าน แล้วยอมเป็นของผมแต่โดยดีเถอะนะครับ ฮิบิยะคุง"

    คาโนะบอกกับฮิบิยะที่กำลังพยายามดิ้นหนีราวกับตนเป็นเจ้านาย เสื้อผ้าที่เคยปกปิดร่างกายของเด็กน้อยบัดนี้พวกมันได้ถูกคาโนะถอดออกหมด ฮิบิยะที่ถูกมัดในสภาพเกือบเปลือยมีเพียงกางเกงในตัวเดียวเท่านั้นที่ยังคงปกปิดร่างกายส่วนนั้นเอาไว้ น้ำตาแห่งความอับอายและความกลัวเอ่อออกมาจากตาทั้งสองข้างของเด็กชายที่เคยเป็นตัวก่อปัญหาประจำกลุ่ม

     

    "นายสร้างปัญหาให้ทุกคนมามากพอแล้วนะครับ จากนี้ผมขอเอาคืนนายบ้าง ในฐานะ [เจ้านาย]ของนายยังไงล่ะครับ"

    "อื้อ ไอ๊เอา อ่อยอั๋นอ๊ะ"

    ฮิบิยะส่งเสียงอื้ออึงในลำคอแสดงการต่อต้าน แต่เสียงอู้อี้ที่ผ่านผ้าที่ปิดปากเขาเอาไว้ไม่ได้ทำให้คาโนะหยุดการกระทำที่เป็นการรุกเข้าถึงร่างกาย ของเขาเลยแม้แต่น้อย

     

    “อะ อื้อ..”

    คาโนะไม่สนใจเสียงร้องประท้วงของฮิบิยะ เขาเริ่มพรมจูบลงบนหน้าอกของฮิบิยะอย่างต่อเนื่อง เด็กน้อยที่ไม่อาจขัดขืนได้ร้องครางออกมาอย่างแผ่วเบา สติของเขาเริ่มลางเลือน เขากำลังคล้อยตามอารมณ์ตรงหน้านี้เข้าไปเรื่อยๆ คาโนะเริ่มจูบบนร่างของเขาตั้งแต่ยอดอกลงมาถึงหน้าท้อง ร่างกายของเขาสั่นสะท้านทุกครั้งที่สัมผัสกับริมฝีปากของอีกฝ่าย ยังไม่ทันที่ฮิบิยะจะได้พักหายใจจากสมรภูมิตรงหน้า เขาก็สัมผัสได้ถึงริมฝีปากที่มาสัมผัสตรงแกมด้านซ้าย

    “อื้อ!!” เมื่อเขาหันไปดูก็พบว่าชินทาโร่กำลังพยายามเข้ามาจูบที่แก้มของเขาจากด้านซ้าย

    “คาโนะ ไอ้คนขี้โกง อย่ากั๊กเอาไว้คนเดียวเซ่!!” ชินทาโร่ทำหน้ามุ่ยใส่คาโนะที่ตอนนี้คร่อมอยู่บนตัวของฮิบิยะ

    “แกเป็นคนเรียกฉันมาแท้ๆ ฉันไม่มีทางเป็นนกต่อให้แกฟรีๆหรอกน่า” คุโรฮะที่โผล่มาจูบทางด้านขวาอีกคนทำให้ร่างที่อยู่บนเตียงถึงกับสะดุ้งเฮือก

    “เอาน่า~~ฉันไม่กั๊กไว้คนเดียวหรอก เรามาทำให้เจ้าเด็กนี่ได้รู้ซึ้งถึงคำว่า [เจ้านาย] กันเถอะ ฮ่าๆๆ

     

    [..แค่คนเดียวก็แย่แล้ว แต่นี่มากันสามคนเลยเหรอ!!! ..จบกันชีวิตในในวัยเด็กของฉัน...]

    ฮิบิยะนึกคร่ำครวญอยู่ในใจ แต่คำพูดเหล่านั้นสื่อออกมาแค่ทางน้ำตาที่อาบบนใบหน้าเท่านั้น

    ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าเขาแน่กว่าใคร นึกสนุกสนานที่ได้แกล้งคนอื่นไปทั่ว เขาไม่เคยรับรู้ความรู้สึกของคนโดนรังแกมาก่อน จนมาวันนี้

    เขาได้รู้แล้วว่า...เขานั้นยังอ่อนแอ เขาไม่สามารถปกป้องอะไรได้แม้แต่ร่างกายของเขาเอง

     

    “นี่...ผมกินไอ้นี่ได้ไหมฮะ?”

    “อ๊ืออ!!!”

    ฮิบิยะสะดุ้งโหยงเมื่อเขารู้สึกถึงนิ้วมือที่มาจิ้มที่สะโพกของเขา สายตาแห่งความหิวโหยของโคโนฮะส่องประกายลงมาที่ตรง...ตรงนั้นอะ =A=

    ”อื้อ โอโออ๊ะ อ่าอ๊ะ อื๊ออ!!” โคโนฮะลูบคลำบริเวณสะโพกของฮิบิยะในท่าที่เหมือนกับเชฟตอนไปเลือกปลาจากตลาดประมูลยังไงหยั่งงั้น

     

    [ไอ้บ้า!! คนนะไม่ใช่ทูน่า เลิกจิ้มๆคลำๆพลิกหน้าพลิกหลังได้แล้วเฟ้ยยยยย!!!]

     

    “โอเค ถ้าครบองค์แล้วก็จัดการกันเลยละกันเนอะ”

     

    ฮิบิยะไม่อาจจะห้ามพวกที่อยู่ตรงหน้านี้ได้แน่นอน เขาได้แต่หลับตาปี๋ด้วยความกลัว

    [ฮือ~~ใครก็ได้ช่วยผมที ผมขอโทษ ได้โปรดช่วยผมทีเถอะ...]

     

    นี่พวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่น่ะครับ!!!

    ร่างสูงดำทะมึนยืนขมึงทึงอยู่ที่หน้าประตู เด็กหนุ่มในชุดหมีสีเขียว เซโตะ กำลังยืนส่งสายตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารร้ายแรงเข้าเฉือดเฉือนเสียดแทงลึกสุดขั้วหัวใจทุกคนที่อยู่ตรงหน้า

    “อื้ออ~~อุนเอโอะ อ้วยอ้วย~~” ฮิบิยะที่ดีใจจนน้ำตาไหลพรากเมื่อได้เห็นพ่อเทพบุตรชุดเขียวที่ขี่ม้าขาว(?)เข้ามาปกป้องเขาได้ทันเวลา เขายื่นหัวเสนอหน้าผ่านกลุ่มคนที่แข็งค้างราวกับถูกสาปให้เป็นหินแล้วมาส่งเสียงร้องอู้อี้เป็นสัญญาณ SOS  ให้กับเซโตะ

    “ด..เดี๋ยวเซโตะ คือนี่มันไม่ใช่นะ แบบว่า พวกฉัน--” ชินทาโร่โบกไม้โบกมือแก้ตัวอย่างเอาเป็นเอาตาย ขาของเขาสั่นระริกดูเหมือนจะล้มพับลงได้ทุกเมื่อ

    คาโนะเองก็ได้แต่ทำปากพะงาบๆพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน ส่วนโคโนฮะ...รายนั้นทรุดลงกับพื้นพร้อมน้ำตาคลอเบ้าเรียบร้อยแล้ว

    “อ้อ นึกว่าอะไร ผมเพิ่งจะกลับมาจากออกไปหางานทำกับคิโดะ แหม...ที่แท้ก็ว่างมากจนต้องรวมหัวกันแกล้งเด็กเล็กๆอย่างนี้เลยสินะ...หึๆๆ”

    ใบหน้าอ่อนโยนที่ดูไม่เหมาะกับรอยยิ้มแสยะเอาซะเลยหัวเราะหึๆออกมาอย่างน่าสยดสยองทำเอาขนบนแขนลุกชันขึ้นด้วยความขนพองสยองเกล้า

    “ชินคุงครับ เราคงต้องเคลียร์เรื่องนี้กันหน่อยแล้วนะครับ ช่วยไปรอที่ห้องด้วยนะครับบ...!!!!

    “ค..ครับบ!! รับทราบครับบบ” ชินทาโร่ตอบรับทันที ก่อนจะรีบวิ่งแจ้นไปที่ห้องของตนทันที

    “เฮ้ แกน่ะ อย่ามายุ่งนะ นี่มันเรื่องของฉัน แกน่ะออกไปซะ!!!

    “เห…?” เซโตะทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยเมื่อคุโรฮะสวนกลับเขาขึ้นมาขณะที่เขากำลังลากคอคาโนะและโคโนฮะทีใกล้จะขาดใจอยู่รอมร่อ

    “ไม่ได้ยินหรือไง ฉันบอกว่าให้ออกไ---”  คุโรฮะหยุดทั้งคำพูดและการเคลื่อนไหวทั้งหมดทันทีที่ดวงตาของเซโตะเบิกโพลงจนเป็นสีแดงก่ำ

    “อ้าว??หยุดซะแล้วหรอครับบ ผมยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะครับ แต่ช่างเถอะ มานี่กับผมมา...” คุโรฮะไม่ใช่แค่ค้าง แต่ตัวแข็งไปเลยต่างหาก!!

    เซโตะลากคุโรฮะที่แข็งค้าง โคโนฮะที่ร้องไห้โฮ และคาโนะที่กำลังทำหน้าเตรียมรับชะตากรรมออกไปทางประตู และกลับมาใน2นาทีให้หลัง

     

    “ขอโทษแทนเจ้าพวกนั้นด้วยนะครับ ฮิบิยะคุง”

    เซโตะยิ้มให้ฮิบิยะที่อยู่บนเตียงอย่างอ่อนโยน เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้เสแสร้งเลยสักนิด (ไม่เหมือนเจ้าพวกนั้น)

    “อื้อ อุ อื๊ออ~~~

    “อ้อ ขอโทษทีครับ มา เดี๋ยวผมช่วยนะ” เซโตะเอื้อมมือไปปลดผ้าที่มัดปากฮิบิยะไว้ออก

    “แฮ่ก...นึกว่าจะต้องตายซะแล้ว ข..ขอบคุณนะครับคุณเซโตะ” ทันทีที่อ้าปากได้เขาก็สูดหายใจเฮิอกใหญ่เนื่องจากเขาขาดอากาศหายใจในช่วงที่โดนปิดปากเอาไว้

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ~~เดี๋ยวผมจะไปเคลียร์กับชินทาโร่ให้เอง ตอนนี้คาโนะกำลังโดนคิโดะเทศน์อยู่ ส่วนโคโนะกับคุโระกำลังนั่งสำนึกผิดอยู่ในห้องน่ะครับ~~~

    “จ..เจ้าพวกนั้นมันเป็นอะไรก็ไม่รู้ อยู่ๆมันก็มารุมผมอะ แถมมาพูดเรื่องเจ้านายบ้าบออะไรก็ไม่รู้อีก--

    “อันที่จริงผมกับคิโดะก็แอบดูอยู่ซักพักแล้วล่ะครับ”

    “เอ๋??”

    “ฮิบิยะคุงครับ รู้ไหมครับว่าทำไมพวกเขาถึงทำอะไรแบบนี้กับคุณ”

    “เอ๋ เอ่อ......เพราะผม ไปแกล้งพวกเขาเอาไว้เหรอครับ..

    “ใช่แล้วล่ะครับ ถึงวิธีการจะผิดไปหน่อย แต่จริงๆแล้วพวกนั้นก็แค่อยากจะสั่งสอนคุณบ้างก็เท่านั้น ไม่ได้อยากจะทำอะไรคุณจริงๆหรอกครับ”

    “เห!? จริงหรอครับ”

    “แน่นอนครับ ที่พวกเขาบอกว่าจะเป็นเจ้านาย จริงๆแล้วก็แค่อยากให้เคารพพวกเขาที่โตกว่าบ้างเท่านั้นแหละครับ”

    .........

     

    “ผ..ผม ขอโทษด้วยนะครับ”

    “ผมไม่ใช่คนที่คุณควรจะขอโทษหรอกนะครับ ฮิบิยะคุง”

    “ค..ครับ ไว้ผม จะไปขอโทษพวกนั้นเองครับ”

    “อ๊า~~เท่านี้ก็จบไปปัญหานึงละ ทีนี้มาเข้าเรื่องประเด็นหลักกันดีกว่านะครับบ....” น้ำเสียงอ่อนโยนของเซโตะแปรเปลี่ยนไปเป็นน้ำเสียงดุร้ายในทันทีที่เข้าช่วงท่อนหลัง

    “ห..เห หา??

    ฮิบิยะส่งเสียงเอ๋อๆออกมาตอนที่จู่ๆท่าทีของเซโตะก็เปลี่ยนไป ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ดูยังไงก็อ่อนโยน 100% ไร้การเสแสร้งแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับแผ่จิตสังหารราวกับปีศาจ ตาของเขาเปล่งประกายสีแดงวาบ ทำเอาร่างของฮิบิยะสั่นสะท้านด้วยความกลัว

    ทำไมชินทาโร่ถึงได้ไปติดคุณกันน่ะครับบ ถ้าเป็นคนอื่นยังไม่แปลก แต่ทำไมอย่างชินคุงถึงได้กระตือรือร้นต้องการคุณถึงขนาดนั้นกันครับ หรือว่าฮิบิยะคุงกับชินทาโร่เคยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดอะไรกันงั้นหรอครับ พูดออกมานะะะะะ!!!!!!!!!!!!!!

    เซโตะคำรามราวกับสัตว์ประหลาดทำเอาเด็กน้อยกลัวจนน้ำตาเล็ด ภาพเซโตะที่ฮิบิยะเห็นตรงนี้เนี่ยมันปีศาจกบยักษ์ชัดๆ

    “ด..เดี๋ยวก่อนครับ ไม่ใช่นะครับ คุณเซโตะ ผมกับไอ้นีทนั่นไม่เคย--

    ยังไงก็ต้องป้องกันเอาไว้ก่อน คงต้องขอพิสูจน์กันหน่อยนะครับ” พูดจบเซโตะก็ใช้ตาที่เปล่งแสงสีแดงเพ่งเข้ามาที่ใบหน้าของฮิบิยะ เขากำลังใช้พลัง ขโมยสายตา กับฮิบิยะเพื่อดูภาพที่เขาเห็นมาก่อนหน้านี้นั่นเอง แต่ไม่รู้ทำไมฮิบิยะถึงไม่คิดว่าแสงสีแดงนั้นมาจากการใช้พลัง แต่เป็นพลังงานบางอย่างมากกว่า

    “ห..เห น..นี่ฮิบิยะคุง แอบลอบเข้าไปในห้องส่วนตัวของชินทาโร่!!!!!!!!

    “ด..เดี๋ยวก่อนครับ เรื่องนั้นมัน...

    “แถมชินทาโร่ยังจับตัวคุณเอาไว้ ล..แล้วก็จับขึ้นต..เตียง---ย๊ากกกกก!!!!!!!!! ทนดูไม่ได้แล้วววววว

    “แง้!!!!!! คุณเซโตะใจเย็นก่อนเรื่องนั้นคือว่า...

    แฮร่..ที่แท้มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง...ไม่ได้ ต้องจัดการ ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด เอาให้ไปเจอชินทาโร่ไม่ได้อีกเป็นครั้งที่สอง...

    จากปีศาจกบยักษ์ ก็กลายร่างเป็น มังกรไฟสีเขียว แถมยังพร้อมจะพ่นไฟได้ทุกเมื่ออีกด้วย

    “จะ..จะทำอะไรน่ะครับ” เซโตะกดยึดแขนของฮิบิยะเอาไว้แล้วยื่นหน้าเข้าไปจ้องฮิบิยะที่ไม่รู้จะหนีไปทางไหนดี

    คงต้องทำให้ลุกออกไปจากเตียงไม่ได้สักระยะนะครับ เอาเป็นว่าผมจะบอกคิโดะให้เองว่าคุณสะโพกเคล็ดเอวหักลุกออกจากเตียงไม่ได้ละกันนะครับ ตรงนี้คงต้องขอบคุณคาโนะสินะครับที่จัดคุณไว้ในท่าที่เตรียมพร้อมสำเร็จรูปพอดีเลย ฮิๆๆๆ

    “ง..แง้~~~

    ฮิบิยะเพิ่งจะรู้สึกตัวว่า เขาได้ถูกเซโตะนั่งคร่อมอยู่บนตัวอย่างสมบูรณ์แบบ ถึงเซโตะจะแก้ผ้าปิดปากให้เขาแต่ก็ไม่ได้แก้มัดให้เขาด้วย เขายังคงถูกมัดมือมัดเท้าในสภาพเกือบเปลือยเหมือนเดิม

    “ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ [เจ้านาย] จะขอลงโทษ [ทาสทรยศ] ล่ะน้าา~~~

    “แง้!!!!!! อย่านะ ม่ายยยยยยยยยยยยยย~~~~~~

    .

    .

    .

    .

    .

    ฉากช่วงนี้โปรดใช้จินตนาการในการทำให้เกิดเป็นจินตภาพของมังกรไฟที่กำลังลงทัณฑ์กบสีฟ้าตัวน้อยๆที่ร้องไห้จ้าด้วยความกลัว (ช่วงหลังๆอาจจะมีเจ็บด้วย)

    .

    .

    .

    .

    .

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ณ ที่สวนข้างบ้านที่ชุมนุมของ Mekakushi Dan

    ตรงตำแหน่งที่หน้าต่างข้างๆห้องคาโนะ เด็กสาวสี่คนนั่งจ้องเป็งตรงขอบหน้าต่างเพื่อสอดส่องดูเหตุการณ์ภายในห้อง

    “แอร๊ยย อย่างนั้นล่ะค่าคุณเซโตะ สุดยอดเลย โอ๊วว ดูหน้าฮิบิยะคุงสิ เอเนะจัง ถ่ายเอาไว้รึปล่าวค่ะ?

    “แน่นอนค่า ท่านหัวหน้าสมาพันธ์”

    “คุณมารีนี่สุดยอดไปเลยนะ ตอนกำลังเลือกๆโดวายอยู่ดีๆก็ชะงักไปหยั่งกะนึกอะไรได้แล้วก็กวาดโดหมดชั้นในพริบตาส่งให้ฉันอย่างไวแล้วก็พุ่งมาที่บ้านเลย”

    “แหมฮิโยะจัง เซนเซอร์ดักความวายของฉันมันทำงานน่ะค่ะ”

    “นี่ๆขอบคุณฉันด้วยสิ เพราะฉันให้ความร่วมมือด้วยนะ ถึงได้เห็นคู่ นีท(พี่ชาย) x เด็กโม่ย(ฮิบิคุง)น่ะ”

    “ค่า ขอบคุณค่ะคุณโมโมะ”

    "เมื่อกี้นี้ที่จู่ๆคุณคุโรฮะก็ตัวแข็งไปนี่เป็นฝีมือคุณมารีสินะคะ"

    "ใช่แล้วจ้า~~ขืนให้ทุกคนได้รุกหมดแต่คุณเซโตะไม่ได้มันก็น่าเสียดายแย่สิคะ"

    "แหม หมอนั่นนี่ป๊อปน่าดูเลยเนอะ"

    “แหม ก็เจ้านั่นมันน่ารักขนาดนั้นนี่นา คนอื่นถึงได้ติดกันงอมแงมถึงขนาดเปลี่ยนเป็นสถานะ [โชตะค่อน] กันทั้งบ้าน แอร๊ย ฉันเองก็อยากร่วมด้วยจัง”

    “อดทนเอาไว้ค่ะโมโมะจัง ฮิบิยะคุงเป็นบุคคลลากรหายากที่มีคุณสมบัติ [โชตะ] [ซึนเดเระ] [เด็กโม่ย] [ขี้แย] [หลอกง่ายจนงี่เง่า] และ [น่ารักขยี้ใจ]ครบสูตรเลยนะคะ

    “ค่า~~คุณอายาโนะ อู้ว ดูสิคุณเซโตะเอาจริงแล้วล่ะ งานนี้มีระบมแน่”

    “นี่พวกเธอกำลังทำอะไรกันน่ะหา!!!!

     

    หัวหน้ากลุ่ม คิโดะ โผล่มาข้างหลังของพวกสี่สาว(จริงๆมีห้า ถ้ารวมเอเนะ) ที่กำลังจดจ่ออยู่กับการห้ำหั่นอย่างดุเดือดของมังกรไฟข้างใน

    “อ๊ะ คิโดะ มาดูด้วยกันนี่สิ นี่มันสุดยอดไปเลยน้าา” เด็กสาวผมขาวนามว่า มารี กวักมือชักชวนคิโดะให้เข้ามารวมกลุ่มด้วยกัน

    “สุดยอดอะไรของเธอหา!! เอ๋ เอ๊ะ อ๊ะ!!!!!” คิโดะมองเข้าไปในห้องจึงได้ทันเห็น มังกรพ่นน้ำ (คิดว่ามันคือมังกรวารีละกัน)ภายในห้อง

    “น..นี่มันอะไรเนี่ยยยยยยยยยย”

    “มันก็คือการลงทัณฑ์จากเจ้านายยังไงล่ะคะ ทาสตัวน้อยที่น่าสงสารได้กระทำความผิดฐานไปล่วงเกินคนรักของเจ้านายเข้าจึงถูกเจ้านายลงโทษด้วยความรักอันเร่าร้อนค่ะ”

    “เร่าร้อนบ้าอะไรหา ฉันจะเข้าไปห้ามเดี๋ยวนี้หล่ะ”

    “อ๊า อย่านะคะ อย่าเข้าไปทำลายสถานการณ์ตอนนี้นะคะ ตอนนี้เรื่อง ทาสรักเจ้าชายกบ กำลังจะต่อภาคสองแล้วค่า อดทนรอนิดนึงนะคะ”

    โมโมะกับฮิโยริเข้าไปเกาะขาคิโดะที่กำลังจะถีบบานหน้าต่างเอาไว้

    “นี่พวกเธอจะบ้าหรือไง ภาคสองอะไรนั่นน่ะฉันจะทำลายมันเองงง”

    “สึโบมิจัง อย่างน้อยก็ให้ทาสกับมังกรไฟได้พักสักครู่ก่อนสงครามหน้าเถอะนะ” อายาโนะส่งสายตาอ้อนวอนไปทางคิโดะที่กำลังปรี๊ดขึ้น

    “ขนาดพี่สาวยังเป็นไปกับเจ้าพวกนี้ด้วยเลยเหรอออ นี่พวกเธอปล่อยฉันนะ ฉันจะไปช่วยฮิบิย๊าาาาาาา”

    “อ๊าา~~ที่แท้คุณคิโดะก็อยากจะเข้าร่วมเป็นเจ้านายกะเขาด้วยนี่เอง

    “คิโดะคะ ไม่ได้นะคะ สิทธิพิเศษ เฉพาะผู้ชายเท่านั้นนะคะ เอ๊ะ หรือว่าคิโดะจะเป็นผู้ชายกันคะ”

    “เธอไปเอาความคิดแบบนั้นมาจากไหนน่ะฮิโยริ!!!

    “อ๊าย คิโดะเขินด้วยล่ะ”

     

    สี่สาว(รึไม่ก็สามสาว)ยื้อกันไปยื้อกันมาตรงสนามถ่วงเวลาให้เจ้าแม่วายตัวจริงและโทรศัพท์มือถือได้เพ่งสมาธิกับภาพเหตุการณ์จริงตรงหน้า

    “ต่อจากนี้ก็คงจะเป็นที่ห้องของคุณชินทาโร่สินะคะ เอเนะจัง”

    “ค่าา แต่ก็ไม่รู้สินะคะว่า คุณโคโนฮะ กับ คุณคุโรฮะในห้องสองต่อสอง จะนั่งสำนึกผิดกันอย่างเดียวรึปล่าวนะคะ”

    และแล้วสติของสองสาวก็เพ่งไปด้านหน้าเพียงอย่างเดียวอีกครั้ง ทำให้รอบๆบ้านที่ชุมนุมของ Mekakushi Dan มีเพียงสีงวี๊ดว๊ายของสาวๆ กับเสียงครางซีดซ้าดในบ้านที่ดังระงมไปทั่วเท่านั้น

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------END จบเหอะ!!!!!!!!!!!!!

    ตอนนี้บอกตามตรงว่าแต่งได้โรคจิตอย่างแรง ถ้าไม่ชอบก็ต้องขออภัยจริงๆนะฮะ ถ้าเรทเกินไปหรือไม่เหมาะสมก็ขอให้แจ้งผมก่อนได้ทันทีเลยนะฮะ ผมจะแก้ไขให้เหมาะสมเองฮะ ยังไงก็ข้อผิดพลาดใดๆในเรื่องนี้ จะพยายามแก้ไขในงานเขียนคราวหน้านะฮะ ฝากติดตามงานเขียนของ Xenon ต่อๆไปนะฮะ ขอบคุณทุกท่านมากฮะ

    ปล.เรื่องนี้อาจจะมีตอนพิเศษ(แถม)ให้อีกตอน เป็นเรื่องสั้นๆหลังจากเหตุการณ์นี้                     (แน่นอนไม่โรคจิตเท่านี้ละ) ขึ้นอยู่กับว่าอยากได้กันรึปล่าว ยังไงก็เมนท์บอกความรู้สึกกันได้นะ อยากรู้เรื่องหลังจากนี้ไหมก็บอกๆผมได้เลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×