คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 Tonight Party
Chapter 1 Tonight Party
งานราตรีปริศนา
“ไม่ ฉันไม่ยอม ฮือๆๆๆ” เสียงครวญครางของไฮโซ สาวจองมี ที่สามีเพิ่งเสียชีวิตคาที่นอนในโรงแรมชื่อดัง ผลสันนิฐานคาดว่า ผู้หญิงที่อยู่ด้วยเมื่อคืนน่าจะเป็นสาเหตุการตาย แต่ไม่ได้ทิ้งไว้แม้แต่ร่องรอย...
“โอ้ย ตื่นมาก็มีคดีหนักเลยหรอเรา” คิม แจจุง เค้าเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี (หล่อขั้นเทพ) เค้าเป็นเด็กอัจฉริยะ แต่ชอบงานสืบสวน เคยรับจ้างสืบคดีดังๆหลายคดี
“ก๊อกๆ” เสียงคนเคาะประตู
“ใครมาแต่เช้าเนี้ย” แจจุงออกไปเปิดประตู
“ไฮ ว่าไง เพื่อน เลิฟ โย่ว” เสียง วอน ยุนอา สาวสวยผมยาวสีบรอนชมพูอ่อนๆ เพื่อนสนิทสมัยประถมถึงมัธยมปลายของเค้า
“ยุนอา มาได้ไงเนี้ยยยยย” แจจุงพูดด้วยน้ำเสียงดีใจเป็นอย่างมาก
“ก็นั่งเครื่องมาเดะ ถามโง่ๆ” ยุนอาพูดพร้อมเอาแก้วน้ำชนแก้มแจจุง
“เข้ามาก่อนๆ”
“ซื้อของมาฝากนายเพียบ” ยุนอาพูดขึ้นแล้วเดินเข้ามาในห้อง
“ไม่ได้เจอตั้งนาน น่ารักขึ้นเยอะเลยนะ” แจจุงพูดขึ้น
“ไม่หรอก นาย
“เป็นไงบ้าง ที่อริเมกาสนุกมั้ย”
“ก็โอเค” ยุนอาตอบสั้นๆ
“แล้วไปไหนมาบ้างเนี้ย” แจจุงถาม
“ไม่ได้ไปไหนเลย กลับมาก็มาหานายคนแรกน่ะ”
“อื้ม ว่าแต่จะอาบน้ำมั้ย เห็นมาเหนื่อยๆ” แจจุงถาม
“ทำไม นายจะมาอาบกับฉันหรอ ฮ่าๆ” ยุนอาย้อนถาม
“บ้า...” แจจุงตอบแบบเขินๆ
“เอาเถอะ นาย
“แล้วจะไปอยู่ไหนล่ะ” แจจุงถามยุนอา
“ซักที่แหละ” ไปนะ ยุนอากำลังจะเดินออกไป
“เย็นนี้มาหาฉันได้มั้ย คือที่มหาลัยมีงานเลี้ยงน่ะ คือฉัน...” แจจุงพูดขึ้น
“ได้ ถ้าต้องการ” ยุนอากระพริบตาข้างนึงให้แจจุงก่อนจะเดินออกไปพร้อมกระเป๋าเป้
“ฮัลโหล เย็นนี้หรอ ได้ ต้องดูก่อนน่ะ เท่าไหร่นะ 20ล้านวอน ได้ จะจัดการให้เย็นนี้ รับเงินสดนะ ไม่รับเช็ค โอน หรือบัตรเครดิต
”
“วันนี้มีงานเลี้ยงฉลองของมหาลัยอีกและ เบื่อว่ะ” คิม ชุนซู พูด (เพื่อนบ้าๆของคิม แจจุง)
“บ่นอยู่ได้ ทำไมเพิ่งกลับหอล่ะเนี้ย” แจจุงพูดไปพร้อมจิบน้ำชาแล้วนั่งอ่านคดีต่างๆ
“กลับบ้านนอกมา พอดีน้องสาวคนเล็กเป็นริดสีดวงอะ เลยไปเยี่ยมด่วน” ชุนซูพูดพร้อมทำหน้าเป็นตูด
“ฮ่าๆๆ หรอๆ อืมๆ” แจจุงหัวเราะ
“นายนี้ วันๆคิดจะทำอะไรมั้ยเนี้ยยยยยยย” ชุนซูถาม
“ก็คิดนะ แต่พอดีงานยุ่งอะ ทำไงได้”
“เออ มีคนฝากนี่มาให้” ชุนซูโยนกองจดหมายให้แจจุง
“อะไรเนี้ย” แจจุงหันมอง
“จดหมายรักอะ ของนายหมดเลย ไม่มีหลงเหลือมาให้ฉันซักฉบับ”
“เอาไปเหอะ ฉันไม่อ่านหรอก” แจจุงโยนกลับให้ชุนซู
“อะนะ เย็นนี้ไม่ไปได้ปะ ขออยู่ห้องเล่นเกมส์” ชุนซูถามแจจุง
“เรื่องของนาย” แจจุงตอบเสียงเรียบอีกตามเคย เพราะเค้าจดจ่ออยู่หน้าคอม
“- -“
....
“เสียใจด้วยนะค่ะ ลูกสาวคุณเป็นโรคร้ายแรงก่อนจะเข้าผ่าตัดอีกนะค่ะ ฉันเสียใจด้วย การผ่าตัดทำจมูกก็เลยทำให้เกิดเอฟเฟค (effect) ค่ะ ทางเราขออภัยด้วยนะค่ะ” คิม แชฮาน หมอศัลยกรรมอันดับ1ของเกาหลีลูกสาวหุ่นส่วนรายใหญ่ของโรงพยาบาลโกชีดาพูดขึ้น
“คุณหมอต้องรับผิดชอบนะค่ะ ลูกฉันเพิ่งออดิชั่นติดด้วย แล้วต้องมาตายแบบนี้ โถ่ลูกแม่”
“ก็ช่วยไม่ได้ ลูกแกมันแรด อ่อยเหยื่อผู้ชายไปเรื่อย” แชฮานคิดในใจ
“ทางเราจะช่วยออกค่าเสียหายนิดหน่อยนะค่ะ” แชฮานพูดขึ้นก่อนจะเดินออกไป
“คุณหมอค่ะ เราจะชดเชยค่าเสียหายให้คุณ ยูนาเท่าไหร่ดีค่ะ” พยาบาลถาม
“1วอนยังไม่อยากจะจ่าย อย่างยัยนั้น ฉันไม่จ่าย ขอโทษนะพอดีรีบ” แชฮานพูดแล้วเดินไปอย่างเสียอารมณ์
...
“คุณ
“...” ลี เยลิม สาวสวยผมสีชอคโกแลต เธอเป็นใบ้ไม่สามารถพูดได้ เธอประสบอุบัติเหตุเมื่อตอนเธออายุ5ขวบทำให้เธอเดินไม่ได้และแถมโชคร้ายส่งผลกระทบต่อสมองของเธอทำให้ประสาททางด้านการพูดขาดหายไป
“อ่าๆๆอือๆ” เยลิมส่งสัญลักษณ์มือให้กับชันซองเพื่อบอกว่าเธออยากไปดูทีวี
“ได้ครับ” แล้วชันซองก็เข็นรถเข็นไปให้เยลิม ติ๊ด! เยลิมกดรีโมท
“ไฮโซ สาว ชอย จองมี ออกมายืนยันการตายของสามีเธอแล้วค่ะว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุ” เสียงของรายงานข่าวในทีวีดังขึ้น
“ไม่จริงหรอก ฆาตกร ยังลอยนวล” เยลิมพูดในใจ
“เป็นอะไรไปหรอเยลิม” ชันซองถามเพราะเห็นสีหน้าที่แปลกไป
“อ่าๆๆๆ” เยลิมส่ายหัวไปมาเพื่อบอกว่าไม่มีอะไร
ตกเย็น...
“ชุนซูนายจะไม่ไปจริงๆหรอ” แจจุงถาม
“เออ ไม่ไป เบื่อ งานบ้าบอคอแตก อยู่ห้องเล่นเกมส์ดีกว่า”
“ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตู
“ใครวะ” ชุนซูตะโกนถาม
“อ๋อ สงสัยเพื่อนฉันมั้ง” แจจุงเดินออกไปเปิดประตู
“เฮ้ ยุนอา...” แจจุงเอ่ยปากทักทายคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า แต่กับไม่ใช่ยุนอา กลับเป็นเด็กอายุราวๆ12ขวบเอาจดหมายมาให้
“อ่าว” แจจุงลดเสียงลง
“มีพี่สาวคนนึงฝากจดหมายมาให้พี่ค่ะ” เด็กคนนั้นยื่นให้แจจุง
“ขอบใจมากนะ” แจจุงกลับเข้ามาด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง
ข้อความ...
“แจจุง ฉันขอโทษนะ ฉันไปกับนายไม่ได้แล้ว พอดีฉันมีเรื่องต้องทำน่ะ ไว้ถ้าไปทันฉันจะไปหานายนะ แล้วเจอกัน ยุนอา...”
“เฮ้อ” แจจุงถอนหายใจก่อนจะวางจดหมายไว้ที่โต๊ะ
“ใครหรอ เด็กส่งซาลาเปารึไง” ชุนซูถามแจจุง
“อืมๆ” แจจุงตอบห้วนๆ
“งั้นฉันไปก่อนนะ” แจจุงตัดสินใจเดินออกนอกห้องไป
ตกดึก ณ มหาลัย อึนฮเย...
“แก ทิฟ วันนี้แกสวยมาก” เสียงเพื่อนๆของทิฟฟานี่
“ไม่เท่าไหร่หรอกจ้ะ คือเสื้อผ้าฉันเนี้ย ช่างจาก
“จริงอะ อยากได้มั้งจัง” ในขณะที่สาวๆพูดคุยกันอยู่ จู่ๆก็มีหนุ่มนิรนาม หน้าตาหล่อเหลาเดินมา
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่า คุณ คือ ทิฟฟานี่รึเปล่าครับ” ชายหนุ่มสุดหล่อคนนั้นถาม
“ใช่ค่ะ ฉันเอง” ทิฟฟานี่รีบเสนอหน้า
“ครับ พอดี ผมได้ยินมาว่าคุณเป็นคนสวยระดับต้นๆในมหาลัยนี้ ผมเลยอยากรู้จักกับคุณ ให้ผมพาคุณออกไปเต้นรำบนฟลอได้มั้ยครับ” ชายหนุ่มคนนั้นถาม
“ได้ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณ...” ทิฟฟานี่กำลังจะถามชื่อแต่ชายหนุ่มคนนั้นก็ดึงมือทิฟฟานี่ไปก่อน
“อี๋ แกดูยัยทิฟซิ บ้าผู้ชายซะไม่มี ว่าแต่ยูนายังไม่มาอีกหรอ” เพื่อนๆในกลุ่มถาม
“ไม่รู้ซิ เห็นว่าไปทำจมูกนี่แก๊
“คุณ
“ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ” ทิฟฟานี่ทำถ้าทางเขินอาย
“ผมอยากรู้จักคุณมากกว่านี้จัง” หนุ่มนิรนามพูดเป็นในๆ
“ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย” ทิฟฟานี่ถาม
“เดี๋ยวคุณจะได้รู้จักดีแน่ครับ” หนุ่มคนนั้นกระซิบข้างหูทิฟฟานี่ จากนั้นหนุ่มนิรนามก็พาทิฟฟานี่ออกนอกฟลอ
“คุณจะพาฉันไปไหนค่ะเนี้ย” ทิฟฟานี่พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“หลับตาก่อนซิครับ” หนุ่มคนนั้นพูดขึ้น
“อืม...ก็ได้ค่ะ” ทิฟฟานี่ลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยอมหลับตาลง จากนั้นหนุ่มนิรนามก็จูบลงที่ริมฝีปากของทิฟฟานี่เบาๆ
“เฮือก...” ทิฟฟานี่ตกใจอย่างมากเพราะเธอกำลังหายใจไม่ออกเธอดิ้นพรากๆในขณะที่หนุ่มนิรนามถอนริมฝีปากออกมา ทิฟฟานี่ขาดอากาศหายใจอย่างช้าๆและก่อนที่เธอจะสิ้นใจหนุ่มนิรนามก็ผลักเธอเข้าไปในห้องเก็บของ ทิฟฟานี่พยายามกรีดร้องแต่ไม่เป็นผล
“เฮ้อ 5ทุ่มกว่าแล้ว ยุนอาคงจะไม่มาจริงๆ” แจจุงนั่งรอยุนอาที่หน้าหอ
“อะไร แค่นี้ถอดใจแล้วหรอ” ยุนอาเดินเข้ามาจากข้างหลัง
“ยุนอา!! ฉันคิดว่าเธอจะไม่มาซะแล้ว” แจจุงหันไปมองอย่างดีใจ
“ก็พอดีฉันไปทำธุรเสร็จแล้วน่ะซิ งานเหนื่อยชะมัด เค้าบอกให้ฉันไปเป็นเด็กล้างจานในบ้านน่ะซิ” ยุนอาพูดไปบ่นไป
“แล้วนี่ นายไม่ไปงานโรงเรียนหรอ” ยุนอาถาม
“ก็ทีแรกจะไป...แต่รอเธอมานั้นแหละ แต่สายขนาดนี้ ฉันว่าไม่ต้องไปแล้ว” แจจุงพูดเชิงน้อยใจ
“ขี้งอนเหมือนเดิมเลยนะ” ยุนอาแซว
“แล้วเธอไปสมัครงานมาหรอ” แจจุงถาม
“ก็ใช่น่ะซิ เหนื่อยชะมัด มันให้ฉันทดลองงานตั้งนาน” ยุนอาทำท่าถอนหายใจ
“ครืดๆ” เสียงสั่นโทรศัพท์ยุนอา
“ออ ฮัลโหลสวัสดีค่ะ” ยุนอารับสาย
“นี่ เธอล้างจานยังไม่ครบเลยนะ พรุ่งนี้เธอต้องโดนหักเงินแน่ๆ” เสียงจากปลายสายต่อว่ายุนอายกใหญ่
“ค่ะๆ พรุ่งนี้หนูจะไปแต่เช้านะค่ะ” จากนั้นยุนอาก็วางสายไป
“อะไรล่ะเนี้ย” แจจุงถาม
“พอดีเจ้านายฉันเค้าโทรมาต่อว่าน่ะ ฉันล้างจานยังไม่หมดเลย แต่ก็รีบมาหานายนั้นแหละ” ยุนอาพูด
“ออ งั้นหรอกหรอ”
รุ่งเช้า...
“ว่าไงนะ ทิฟฟานี่หายตัวไปงั้นหรอ” แจจุงตกใจมากเมื่อมาถึงมหาลัย
“ใช่ค่ะพี่ เมื่อคืนทิฟฟานี่ออกไปกับผู้ชายคนนึง ตัวสูงๆราวๆพี่แล้วก็หน้าตาหล่อมากๆค่ะ
“แล้วเวลาประมาณกี่โมง มีคนพอจำได้มั้ย” แจจุงถาม
“ประมาน4-5ทุ่มน่ะค่ะ” พวกเพื่อนๆของทิฟฟานี่บอก
“แล้วทิฟฟานี่หายตัวไปกับผู้ชายคนนั้นได้ยังไง รู้จักชื่อเค้ารึป่าว”
“ไม่ค่ะ”
“เกิดอะไรขึ้นแจจุง” ชุนซูเดินเข้ามาอย่างตื่นตระหนก
“ทิฟฟานี่หายไป” แจจุงตอบ
“จริงอะ รุ่นน้องทิฟฟานี่อะนะ” ชุนซูย้ำคำถาม
“งั้นฉันจะรับสืบเรื่องนี้”
“เอาล่ะ ก่อนอื่น เวลาก่อนเกิดเหตุทิฟฟานี่ได้ไปไหนมาก่อนรึป่าว” แจจุงพยายามซักคนรอบข้าง
“เธอเพิ่งออกมาจากบ้านค่ะ โดยมีคุณแม่ของทิฟมาส่ง” เพื่อนของทิฟฟานี่ เจสสิก้าให้ปากคำ
“แล้ว สถานที่สุดท้ายก่อนหายตัวไปล่ะ” แจจุงถาม
“ฟลอเต้นรำ ในตึก
“อืม ชุนซูนายอย่าเพิ่งไปแจ้งความนะ” แจจุงบอกกับชุนซูก่อนจะดิ่งตรงไปยังตึก St.คาลอส
“เต้นรำบนฟลอ...ทิฟฟานี่อยู่บนฟลอนานมั้ย” แจจุงถามเจสสิก้า
“ไม่นานมากค่ะ 10กว่านาทีได้ ก่อนจะหายไปข้างหลังตรงโน้น เจสสิก้าชี้ไปทางด้านหลัง
“อืม” จากนั้นแจจุงก็ได้เดินไปทางด้านหลัง และนั้นเค้าก็มองไปรอบๆและก็ไม่พบรอยรองเท้า เหมือนกับว่าเป็นรอยรองเท้าผู้ชายร่างใหญ่กับรองเท้าส้นสูงของผู้หญิง รอยเท้ามีเคลื่อนไหวไปข้างหน้าเรื่อยๆจนมาหยุดที่ผนังตึกซอกแคบๆก่อนจะเป็นห้องเก็บของที่รอยเท้าขาดไปและจากนั้นก็ไม่มีรอยเท้าปรากฎอีกเลย
“เป็นไปได้ว่า ทิฟฟานี่ไม่ได้เดินต่อจากจุดนี้” แจจุงขีดเครื่องหมายเอาไว้
“หรือว่า...” แจจุงมองไปยังช่องทางที่พอเป็นไปได้ นั้นคือ ทางเชื่อไปยังตึกอีกฝั่ง หรืออีกทางห้องเก็บอุปกรณ์กีฬา
“เอาล่ะนะ” แจจุงใส่ถุงมือแล้วเปิดประตูออก
“แหวะ อะแฮ่กๆ” กลิ่นของศพโชยออกมา ศพของทิฟฟานี่ในชุดราตรีสีส้มอ่อน ในสภาพลิ้นจุกปากตาถลนตัวเขียวอืดแถม แมลงวันบินตอมเยอะอีกตะหาก
“กรุณาอยู่ในความสงบครับ” เสียงตำรวจก็เข้ามาพันผ้าเป็นเขตห้ามเข้า
“ฮือๆ ทิฟฟานี่ขา คุณลูกรักของแม่ ฮือๆ” เสียงคุณแม่ของทิฟฟานี่ร้องไห้แทบขาดใจ
“ขอทางหน่อยครับ เจ้าหน้าที่จะขอนำศพไปชันสูตร” เจ้าหน้าที่หนุ่มไฟแรง ปาร์ค ยูชอน
“เจอกันอีกแล้วนะ แจจุง” ยูชอนทักทายแจจุงตามประสาคนเคยร่วมงาน
“อืม หวัดดี” แจจุงพูดขึ้น
“งานนี้ฉันจะสืบให้รู่ตัวฆ่าตกรให้ได้” แจจุงพูดขึ้นก่อนจะเดินออกไป
ตกเย็นที่ห้องของแจจุง...
“อี๋ ยัยทิฟนี่เวลาตายน่ากลัวชะมัด อืดซะไม่มี” ชุนซูทำหน้ายี๋ๆ ตอนเดินมาดูรูปภาพ
“จากร่องรอยแล้ว ทิฟฟานี่ถูกฆ่าตกรรมแน่นอน เพราะมีการผลักจนข้าวของในห้องนั้นล้มกระจัดกระจาย แถมยังจะเป็นรอยช้ำจากข้อเท้าแพรงเพราะแรงผลักอีก
“นายรู้ได้ไงว่ะเนี้ย-*-“ ชุนซูเกาหัวยิกๆ
“ก็เป็นการสันนิฐานน่ะ ยังไม่ชัว100เปอร์เซนหรอกนะ
“ก๊อกๆ” มีเสียงคนเคาะประตู
“ชุนซูนายไปเปิดให้ทีซิ” แจจุงใช้ชุนซู
“อืม” จากนั้นชุนซูก็เดินไปเปิด
“ไฮแจจุงคือ...” ยุนอาเข้ามาพอดี
“ใครเนี้ยยยย” ชุนซูมองอย่างตะลึง เพราะผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเค้าเป็นสาวสวยซะด้วย
“คือ ฉันมาหาแจจุงน่ะค่ะ ขอเข้าไปได้มั้ย” ยุนอาถาม
“แจจุง คือ...” ชุนซูชี้ไปข้างนอกห้อง
“อ๋อ ยุนอา เข้ามาซิ” แจจุงพูดขึ้น
“อ๋อ นี่นายทำอะไรอยู่อะ ดูเหมือนนายยุ่งจัง” ยุนอามองไปบนโต๊ะของแจจุง
“พอดี ฉันสืบคดีอยู่น่ะ รุ่นน้องที่โรงเรียนตาย”
“เป็นไรตายอะ” ยุนอาถาม
“ขาดอากาศหายใจน่ะ แต่ดูแล้วมันไม่ใช่” แจจุงตอบอย่างเครียดๆก่อนนจะก้มหน้าก้มตาหาเบาะแสต่อ
“ไหนขอดูบ้างซิ เผื่อฉันช่วยได้น้า” ยุนอาพูดขึ้น
“อี๋ ทำไมศพน่ากลัวอย่างงี้อะ” ยุนอาพูดขึ้น
“ฉันคิดว่า เธอตายเพราะโดนฆ่า แต่ทำไมไม่มีร่องรอยของการต่อสู้เท่าไหร่ เพียงแค่ผลัก แค่นั้นทิฟฟานี่คงไม่ได้ตายและภายในห้องเก็บของ อากาศมันมีมากพออยู่แล้ว..หรือว่า ทิฟฟานี่กำลังจะสิ้นใจแล้วผู้ร้ายถึงผลักเธอเข้าไป
“ฉันว่านะ ทิฟฟานี่อะไรของนาย ไม่ได้ตายเพราะขาดอากาศหรอก” ยุนอาสันนิฐานขึ้น
“อืม ฉันก็คิดแบบนั้น”
“นายพอจะรู้ตัวผู้ต้องสงสัยมั้ย” ยุนอาถาม
“มีคนบอกว่าทิฟฟานี่หายไปกับชายหนุ่มนิรนาม ตัวสูงๆหน้าตาดีๆ” แจจุงว่า
“สันนิฐานแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน ผู้ชายหน้าตาดีๆมีตั้งเยอะ ไม่งั้นนายก็เป็นฆ่าตกรล่ะซี่!” ยุนอาแซวแจจุง
“บ้า ฉันไม่ได้น่าตาดีอะไรหรอก” แจจุงหน้าแดง
“ล้อเล่นย่ะ อย่างนายอะนะ
“ฉันว่าเรา กลับไปที่เกิดเหตุเถอะ รอยนิ้วมือ พื้นรองเท้า บอกถึงยี่ห้อรองเท้า แล้วก็ อาจจะมีเศษเส้นผม” ยุนอาพูด
“อันนี้ฉันขอให้ทางตำรวจเก็บหลักฐานไว้แล้วล่ะ เพียงแต่ตอนนี้เป็นขั้นตอนสันนิฐานการตาย มันใกล้ถึงทางออกแล้ว เหลือเพียง ต้องรู้ให้แน่ว่าเธอตายด้วยเหตุอะไร เราจึงจะเริ่มเสาะหาฆ่าตกร แล้วก็ต้นต่อ แล้วดำเนินคดีออกใบสั่งตามจับฆ่าตกร
“โหวววว ยุ่งยากชะมัดเลยแฮะ” ยุนอาเกาหัว
“เอาน่า พรุ่งนี้ฉันจะไปดูศพทิฟฟานี่อีกที”
“เอ๊ะ หรือว่า...” แจจุงมองไปที่รูปภาพ ก็พบว่า ปากของทิฟฟานี่กลับเป็นสีม่วงเข้มต่างจากศพที่โดนรัดคอหรือขาดอากาศทั่วไป เหมือนกับโดนยาพิษ...
“ฉันรู้แล้ว” จากนั้นแจจุงก็ไปนั่งเปิดหนังสือเพื่อดูอาการของคนโดนยาพิษ และยาพิษชนิดต่างๆ
“ฉันรอไม่ได้และ ฉันจะไปดูศพทิฟฟานี่วันนี้ เดี๋ยวนี้” แจจุงพูดขึ้นก่อนจะรีบเก็บโบ๊ตบุคและข้าวของของเค้า
“เอ้ย ไปตอนนี้ไม่กลัวผีหรอ” ชุนซูถาม
“ฉันไม่เชื่อเรื่องผีสางหรอกนะ” แจจุงกำลังจะเดินออกไป
“เอ้ย ฉันไปด้วย” ยุนอาพูดขึ้น
“เอ้ย งั้นไปด้วยๆ อยู่คนเดียวกลัวอะ” จากนั้นทั้งสามคนก็ออกเดินทางไปที่โรงพยายามบาลโซลทันที
โรงพยาบาลโกชีดา...
“ไม่ทราบว่ามาติดต่ออะไรค่ะ” เจ้าหน้าที่ถาม
“คือผมเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ YJD ครับ แจจุง ยื่นนามบัตร YJD= Young Junior Detective
“อ๋อค่ะ”
“ช่วยพาผมไปที่ห้องดับจิตทีครับ” แจจุงพูด
“อ๋อ เดินตรงไปในสุดนะค่ะแล้วจะมีประตูอยู่ค่ะ” พนักงานบอกแจจุง เพราะตัวเองไม่อยากไป
“ครับๆ ขอบคุณฮะ” จากนั้นแจจุงก็เดินตรงไปที่ห้องดับจิต
“ตึก ตึก” เสียงฝีเท้าของทั้งสามคน แต่ดูเหมือนว่า จะมีอีกฝีเท้าเดินตามมาเงียบๆ
“เอ้ย แจจุงเสียงอะไรอะ” ยุนอาเกาะไหล่แจจุงแน่น
“นั้นเด๊ะ” ชุนซูเองก็กลัว
“อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ก็เป็นได้” แจจุงพูดอย่างไม่กลัวอะไร
“ห้องดับจิต” ยุนอาอ่านชื่อห้องที่แควนหน้าประตู
“เราๆๆจะรู้ได้ไงว่าอันไหนศพยัยทิฟล่ะ” ชุนซูพูดเสียงสั่น
“มันมีชื่อติดหน้า ไม่ต้องกลัว” แจจุงพยายามจะเข้าไปให้ได้
“...” มีเงามืดๆเดินเข้ามาทางด้านหลังเหมือนกำลังจะใช้มีดแทงแต่ว่ายุนอาเห็นเงาสะท้อนจากกระจกประตูห้องดับจิตทำให้เธอ...
“ทำอะไรน่ะ” ยุนอาพูดขึ้น
“เอ่อ คือ ฉัน...” แชฮานอ้ำอึ้ง
“หมอโรคจิต” ชุนซูชี้หน้าด่าแชฮานก่อนจะไปหลบหลังแจจุง
“เธอมาทำอะไรมืดๆ” ยุนอาถามแชฮาน
“นี่ ฉันเป็นหมอนะ ฉันมีสิทธิ์เดินไปไหนมาไหนได้เพราะนี้คือโรงพยาบาล ฉันเป็นเวรตรวจวันนี้” แชฮานพูดขึ้น
“หมดหน้าที่คุณแล้วก็ไปซิครับ พวกเรามีใบตรวจค้น ไม่ต้องห่วงครับ พวกเราไม่ใช่คนโรคจิตที่มาขโมยอวัยวะของศพหรอก” แจจุงพูดขึ้น
“งั้นแล้วไป ฉันไปและ ขอให้โชคดีนะ” แล้วแชฮานก็เดินออกไป
“ยัยหมอนี้แปลกๆ ดูเบ๊อะๆ” ชุนซูพูดขึ้น
“เราเสียเวลามามากและ เข้าข้างในเถอะ” จากนั้นแจจุงเดินเข้าไปอย่างไม่เกรงกลัวอะไร”
“รอด้วยๆ” ชุนซูรีบตามแจจุง
“ทิฟฟานี่ๆ” แจจุงไล่ดูตู้ศพ
“เจอแล้ว ตู้นี้ ใส่ถุงมือให้เรียบร้อย” แจจุงพูด
“อื้ม 1 2
“แหวะ จาอ้วกแตก” ชุนซูพูดขึ้น
“...” แจจุงกับยุนอาเงียบไม่ได้พูดอะไร
“ตามที่ฉันบอกไว้ตอนที่เรายังไม่ออกมา ศพที่ขาดอากาศหายใจปากจะซืดขาว แต่ลองดูปากของทิฟฟานี่ซิ มันเป็นสีม่วง ซึ่งมันคือยาพิษ สาเหตุการตายของทฟฟานี่คือ โดนอาบยาพิษ ซึ้งยาพิษชนิดนี้ร้ายแรงมาก”
“แล้วยัยนี่โดนได้ยังไงล่ะ” ชุนซูถาม
“มีเหตุสันนิฐานได้2กรณีเท่านั้น” คือโดนบังคับให้กิน ไม่ก็ถูกป้อนอย่างเต็มใจ
“อาจจะใส่ไว้ในอาหารในงานเลี้ยงก็ได้” ยุนอาพูดขึ้น
“ไม่ใช่ ยาพิษนี้มันเป็นเซรั่มงูพิษ ใส่อาหารจะเปลี่ยนสี ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ทิฟฟานี่ต้องตายไปตั้งแต่กินอาหาร ยาพิษชนิดนี้ออกฤทธิ์ทันทีเมื่อได้กลืนลงไป” แจจุงอธิบาย
“...”
“ฉันรู้แล้ว ทิฟฟานี่ อาจจะถูกยาพิษจากหนุ่มนิรนาม” แจจุงพูดขึ้น
“แล้วทำไมนายไม่ลองเช็คตามตัวทิฟฟานี้เกี่ยวกับพวกลายมือ หรืออะไรพวกนี้” ยุนอาถาม
“ฉันคิดไว้อยู่แล้ว พรุ่งนี้กองพิสูตรหลักฐานจะส่งหลักฐานมาให้ฉันทั้งหมด ฉันคิดว่าฆ่าตกร มีไหวพริบดีมาก เค้าไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้เลย แม้แต่รอยนิ้วมือ เค้าเกิดมาเพื่อฆ่าจริงๆ” แจจุงพูด
“วันนี้เราก็รู้แล้วซิ ว่าทิฟโดนวางยา” ชุนซูพูดขึ้น
“ภารกิจของฉันสำเร็จ เหลือต่อไป ต้นต่อ และฆ่าตกร” แจจุงมองไปข้างหน้าอย่างจริงจังและแน่วแน่
“นี่ แจจุงดูนี่ซิ” ชุนซูชี้ให้ดูที่ต้นคอของทิฟฟานี่”
“สัญญาลักณ์ ดาว6แฉกนี่” ยุนอามองดูอย่างประหลาดใจ
“ดูเหมือนว่า ฆ่าตกร จะไม่ธรรมดาซะแล้ว จากที่ฉันเคยสืบคดีมา ส่วนมากจะเป็นฆ่าตกรโดยไม่ตั้งใจ และน้อยมากที่จะเป็นมืออาชีพ ฉันว่าฉันคงมีอะไรทำสนุกๆแล้ว” แจจุงยิ้มอย่างมีเลศนัย
“อืม งั้นเรากลับได้ยางT^T” ชุนซูพูดขึ้นเพราะกลัว
“โอเคๆ” จากนั้นทั้ง3ก็เดินออกไป
“ยุนอา เธอมีที่พักรึยังน่ะ” แจจุงถาม
“อ๋อ มีแล้วๆ ไม่ต้องห่วง ฉันพักอยู่กับเพื่อนน่ะ” ยุนอาตอบ
“อืม ถ้ามีอะไรก็มาหาฉันกับชุนซูได้นะ” แจจุงพูด
“แน่นอน แล้วฉันจะมารบกวนบ่อยๆนะ” ยุนอาพูด
“ฉันไปส่งมั้ย” แจจุงถาม
“ไม่เป็นไร นายไปทำงานเถอะ ฉันรู้ว่านายงานเยอะ ไว้ถ้านายต้องการฉัน ฉันจะโผล่มาทันที โอเคนะ โชคดี” ยุนอาเดินออกไปจากแจจุงและชุนซู
“นายรู้จักยุนอาได้ไงเนี้ย” ชุนซุถาม
“เธอเป็นเพื่อนฉันสมัยมัธยม”
“หรอ น่ารักดีนะ” ชุนซูพูดขึ้น
“ห้ามเลยนะ คนนี้อะ” แจจุงบอก
“ทำไมอะ นายไม่ได้เป็นแฟนยุนอาซักหน่อย หรือว่า” ชุนซูหันมามองหน้าแจจุง
“อะไรๆ” แจจุงถาม
“นายชอบยุนอาใช่ม้า” ชุนซูพูด
“ความลับราชการห้ามเปิดเผย” แจจุงพูดแล้วก็รีบวิ่งออกไป
“เอ้ย หมายความว่าไง บอกมาน้า” ชุนซูวิ่งไล่ตามแจจุง
รุ่งเช้า...
“รอยรองเท้า มีแค่นี้จริงๆหรอครับ” แจจุงถามกับเจ้าพนักงานพิสูตรหลักฐาน
“ใช่ครับ มีแค่นี้”
“แล้ว รอยนิ้วมือ
” แจจุงถาม
“ไม่มีเลยครับ”
“แย่จัง คนร้ายเนี๊ยบกว่าที่เราคิดไว้มาก ไม่มีรอยนิ้วมือ และไม่มีแม้กระทั้งการหายตัวในจุดเกิดเหตุ สรุปคนหรือผี หรือเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆที่ทิฟขาดอากาศหายใจ แต่เป็นไปไม่ได้ ในเมื่อมีหลักฐานของการตายชัดเจนขนาดนี้” แจจุงกำลังคิดหนัก
“พี่แจจุงดื่มน้ำก่อนนะค่ะ” เจสสิก้ายื่นน้ำให้แจจุง
“ขอบใจมาก^^” แจจุงส่งยิ้มให้เจสสิก้าแล้วรับน้ำมาแต่ไม่ได้ดื่ม
“ถ้าไม่ได้พี่ฉันคงรู้สึกแย่มากแน่ๆเลยค่ะ” เจสสิก้าออเซาะแจจุง
“ไม่เป็นไร ฉันจะหาต้นตอและฆ่าตกรให้ได้” แจจุงพูดขึ้น
“ค่ะๆ ขอบคุณนะค่ะ” เจสสิก้าร้องไห้สะอึกสะอื้น
ตกเย็น...
“ตืดดดดดดดด”
“ตืดดดดดดดด”
“มีอะไรอีกว่ามา”
“ฉันกลัวเรื่องจะสาวมาถึงฉัน ฉันกลัว”
“เธอไว้ใจให้ฉันฆ่า แล้วยังจะกลัวอะไร ฉันไม่กระจอกแบบนั้นหรอกนะ”
“ฉันกลัว ฉันไม่รู้”
“อย่างี่เง่าให้มากนะ”
“...” การสนทนาจบลง
...
“ขอโทษนะครับคุณเจสสิก้า” จู่ๆก็มีตำรวจบุกเข้ามาที่บ้านของเจสสิก้า
“มีอะไรหรอค่ะ” เจสสิก้าถาม
“เราแค่จะมาสอบปากคำ แล้วก็ความสำพันธ์คุณกับทิฟฟานี่น่ะครับ” ยูชอน ตำรวจสอบสวนพิเศษพูดขึ้น
“อ๋อๆ ค่ะๆ”
“ขณะนี่เรายังหาตัวฆ่าตกรไม่ได้ เราจึงต้องสอบปากคำคนรอบตัวให้ได้มากที่สุดครับ เพราะเผื่อมันจะเป็นการจ้างวานฆ่า ทางเราคิดว่า คนรอบตัวของทิฟฟานี่ไม่น่าจะเป็นฆ่าตกร แต่เหตุเกิดจากการจ้างวานฆ่าแน่นอนครับ เพราะคนร้ายไม่มีจุดประสงค์อื่น และที่เราได้ยินมา ก็เป็นชายหนุ่มนิรนามที่อยู่กับคุณทิฟฟานี่คนสุดท้าย เค้าไม่รู้จักคุณทิฟ เค้าจะทำแบบนั้นทำไม จริงมั้ยครับ จึงทำให้ทางเราสรุปออกมาได้ว่า เป็นการ จ้างวานฆ่า” ยูชอนพูดขึ้นอย่างมั่นใจ
“หรอค่ะ” เจสสิก้ากรอกตาไปมา
“ได้ข่าวมาว่า คุณเจสสิก้าเป็น1ในเพื่อนสนิทของคุณ
“ฉันไม่ทราบน่ะค่ะ ฉันกับทิฟช่วงนั้นไม่ค่อยคุยกันเท่าไหร่” เจสสิก้าตอบเสียงสั่น
“คุณเจสสิก้าเคยมีปากเสียงกับคุณทิฟฟานี่บ้างมั้ยครับ” ยูชอนยังคงถามต่อเนื้อง
“ไม่ค่ะ ไม่มีๆ” เจสสิก้าหลบสายตายูชอน
“ดูคุณเจสสิก้าจะไม่ค่อยสบายนะครับ เรามารบกวนเวลาคุณ งั้นไว้วันหลังจะมาใหม่นะครับ วันนี้เราได้อะไรมากมายจากที่เลยทีเดียว” ยูชอนและตำรวจอีก2นายเดินออกไป
“ไม่มีทาง ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ผิดทั้งนั้น” เจสสิก้าพูดขึ้นพร้อมร้องไห้ออกมา
ตกค่ำ...
“ฉันไม่ได้ทำ ฮือๆ” เจสสิก้านั่งร้องไห้
“ฉันไม่ได้ตั้งใจนะทิฟ ยูนา” เจสสิก้าเริ่มรู้สึกสำนึกผิด แต่ว่าความแค้นก็แร่นตรงเข้ามายังโสดประสาทของเธอ...
“นี่ เจสสิก้า ฉันว่านะ อย่างเธอคงไม่มีผู้ชายหล่อๆมาชอบหลอกจ้ะ ลองไปเสริมจมูก กรีดตา เหลาคาง เสริมหน้าอกดูมะ” เสียงของทิฟฟานี่ที่แร่นในหัวของเจสสิก้า
“เออ นั้นรุ่นพี่ คิมซุนนี่ ฉันว่าเค้าชอบฉันแน่ๆ” เสียงของยูนาเพื่อนสนิทสาวอีกคนของเจสสิก้าที่กำลังจะแย่งคนที่เจสสิก้าชอบไป
“เจสสิก้า บ้านเธอนี่โชคดีเนอะถูกลอตเตอรี่แล้วรวยได้น่ะ ฮ่าๆ” เสียงยูนากับทิฟฟานี่พากันหัวเราะเจสสิก้า
“เลิกทำตัวบ้านนอกได้มะ ไม่ต้องมองฉันด้วยสายตาชื่นชมมากก็ได้นะเจสสิก้า” ทิฟฟานี่พูดอย่างไม่รักษาน้ำใจเจสสิก้าแม้แต่น้อย
“นี่ดูซิ ดิออใบใหม่ สวยมะทิฟ” เจสสิก้าถามทิฟฟานี่
“ใบนี้ที่ไหนก็มีขายน่ะ” ทิฟฟานี่พูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายแล้วมองเจสสิก้าตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ไม่ ฉันไม่ยอมรับหรอก พวกเธอมันทำกับฉันไว้เยอะกว่านี้” เจสสิก้าพูดด้วยน้ำเสียงเครียดแค้น
“หรือว่า ฉันจะโทรไปบอกตำรวจว่าใครเป็นคนฆ่า ฉันน่าจะเอาเบอร์ฆ่าตกรนั้นให้ตำรวจจัดการ จะได้ไม่ต้องมาโยงที่ฉัน ไม่ก็...”
“ไม่หนีปัญหาไปหน่อยหรอ” เสียงนิรนามที่เจสสิก้าคุ้นเคยดี
“เอ่อ แก เสียงแกมาจากไหนน่ะ” เจสสิก้าค่อนข้างตกใจ
“แกนี่เลวมากนะ ทำเลวไว้แต่จะมาโบ้ยให้ฉันซะนี่ 20ล้านชักจะไม่คุ้มซะแล้วม้างงงง” เสียงนิรนามนั้นพูดขู่
“ฉันจะแจ้งตำรวจจับแก” เจสสิก้าพูดขึ้นด้วยสายตาหวาดระแวง
“ไม่ทันหรอกมั้ง เสียเวลาน่ะ” จากนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็เข้ามาใกล้ ใกล้จนสัมผัสได้ว่าอยู่ห่างเพียงไม่กี่ระเบียดนิ้วห่างจากหลังของเจสสิก้า
“แกจะทำอะไร” เจสสิก้าเริ่มร้อง”
“คิดจะหักหลังฉันก็อย่าอยู่เลย! คนเลวๆแบบพวกแก ตายๆไปให้หมดก็สิ้นเรื่อง” จากนั้นมือจากต้นเสียงนิรนามก็บีบต้นคอของเจสสิก้าไว้แล้วใช้มีดปาดคอเจสสิก้าเบาๆเพียงแต่ให้เลือดทะลักออกมาอย่างทรมาน สีหน้าของเจสสิก้าตื่นตระหนก และไม่สามารถส่งเสียงได้ เธอกุมต้นคอตัวเองแน่น จากนั้น บุคคลนิรนามเบื้องหน้าเธอก็จับใบหน้าของเจสสิก้าไว้แล้วค่อยๆบรรจงกรีดลงไปตั้งแต่กลางใบหน้า แล้วลากยาวไปที่แก้มข้างขวา ข้างซ้าย จรด ริมฝีปาก เลือดค่อยๆซึมออกจากรอยกรีดช้าๆ การกรีดอย่างหนักแน่นนั้นทำให้เจสสิก้าทนผิดบาดแผลไม่ไหว จนขาดใจตายอย่างทรมานในที่สุด สภาพศพของเจสสิก้าเต็มไปด้วยเลือด และนัยน์ตาที่ยังหวาดผวานั้นยังคงค้างไม่สามารถปิดสนิท”
“งานนี้ 20ล้าน ได้มาคุ้มนะซินะ”
รุ่งเช้า...
“คุณนายครับเราต้องขอเข้าจับกุมคุณเจสสิก้าข้อหาผู้ต้องสงสัยนะครับ” ยูชอนเดินเข้ามาในบ้านของเจสสิก้า
“ไม่ได้นะ ลูกฉันไม่ได้ทำอะไรผิด” แม่ของเจสสิก้ายังยืนคำขาด
“แต่นี้คือการให้ปากคำของลูกสาวคุณนาย และมันก็ส่อแววพิรุจมากนะครับ เราต้องสอบสวนเธออย่างละเอียดด้วยเครื่องจับเท็จ”
“ไม่ได้นะ ลูกฉันบริสุทธิ์” แม่ของเจสสิก้าปกป้องเธอด้วยสัญชาตญานความเป็นแม่
“บริสุทธิ์ก็ให้เราสอบสวนเธอครับ” ยูชอนพูดขึ้นแล้วพยักหน้าให้ตำรวจนายอื่นเข้าค้นบ้านของเจสสิก้า
“แย่แล้วครับ” เสียงของตำรวจนายนึงพูดขึ้น”
“เกิดอะไรขึ้น” ยูชอนถาม
“ขึ้นมาดูดีกว่าครับ
”
ทันใดนั้น...
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เจสสิก้าลูกแม่ ฮือๆ” เสียงของแม่ของเธอกรีดร้องจนแทบขาดใจ
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ เรื่องราวมันยังไงกัน” ยูชอนตกใจมากที่เห็นศพของเจสสิก้า ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด
“ใครฆ่าลูกฉัน ฮือๆ”
“เราเสียใจด้วยนะครับ” ยูชอนพูขึ้นก่อนที่นักข่าวจะแห่กันเข้ามา
“หืม กลิ่นเลือดคาวมาก” นักข่าวนายหนึ่งพูดขึ้น
“อ่าว ชังมิน นาย...” ยูชอนทักทายชังมิน ซิม ชังมินนักข่าวหนุ่มน้อยรุ่นน้องของยูชอน
“สวัสดีครับรุ่นพี่” ชังมินทักทายยูชอน
“นายสอบติดนักข่าวแล้วหรอ” ยูชอนถาม
“ครับ^^” ชังมินยิ้ม
“เอาละนายก็ทำข่าวไปเลยนะ ฉันมีงานจะต้องทำต่ออีก”
ทางด้านของเยลิม...
“ไม่นะ สิ่งที่ฉันกลัวใกล้เข้ามาแล้ว คนๆเดียว แต่ทำลายคนทั้งโลกได้ เค้ามาแล้วจริงๆ” เยลิมนั่งอยู่หน้าทีวี และเห็นข่าวการฆ่าตกรรมโหดจากเหยือผู้เคราะร้าย เจสสิก้า
“ฉันจะบอกใครได้บ้างนะ” เยลิมคิดในใจ
“อ่าๆๆอื้อๆ” เยลิมเรียกชันซอง คุณหมอที่ดูแลเธอ
“ว่าไงเยลิม เป็นอะไรรึป่าว” ชันซองส่งพาสามือให้เยลิม
“ตอนนี้ ฉันมีเรื่อง อยากให้คุณช่วย ฉันอยากเรียนหนังสือ ที่ มหาลัย อึนฮเย ค่ะ” เยลิมบอกกับชันซองภาษามือ
“มหาลัย ที่มีนักศึกษาตายไปแล้วหลายรายน่ะหรอ” ชันซองถาม
“ค่ะ ฉันอยากเรียนที่นี้ ช่วยฉันหน่อยนะค่ะ”
“ไม่เอาหรอก อันตราย เยลิมดูแลตัวเองไม่ได้ ผมไม่ให้ไปหรอก”
“แต่ฉันกำลังจะเดินได้แล้วนะค่ะ” เยลิมบอกชันซอง
“ผมจะขอคิดดูอีกทีนะ” ชันซองส่งภาษามือให้เยลิมพร้อมทำสีหน้าจริงจัง
...
“ฮะ เจสสิก้าตายอีกแล้ว” ชุนซูร้องขึ้นเพราะตกใจ
“มันเป็นการฆ่าแบบลูกโซ่หรือไงกัน” แจจุงนั่งอยู่ข้างๆชุนซู
“คดีทิฟฟานี่ยังหาตัวฆ่าตกรไม่ได้ ทั้งๆที่ได้ผลสรุปแล้วแท้ๆ แล้วไหนยังจะเจสสิก้า ก่อนหน้านี่มีรุ่นน้อง ยูนาที่ตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ ฉันว่ามันเป็นการฆ่าตกรรมต่อเนื้อง ฆ่าตกรอาจจะเป็นคนเดียวกัน
“บาดแผลบนใบหน้าของเจสสิก้า มีรอยสัญญาลักษณ์คล้ายคลึงกับดาวหกแฉกด้วยค่ะ” เสียงจากในทีวี
“แจจุง ฉันว่านะงานนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว”
“อืม วันนี้ฉันจะไปดูศพของยูนาและเจสสิก้า” แจจุงพูด
“บ้าหรอ ยูนานั้นถูกฝังไปแล้วนะ” ชุนซูพูดอย่างหวาดกลัว
“ยังไงก็ต้องขุด ฉันต้องรู้ให้ได้” แจจุงพูดอย่างหนักแน่น
...
“นี่ยุนอา ทำไมเธอมาสายฮะ เด่ยวจะหักเงินเดือนดีมั้ย” เสียงของเจ้านายยุนอาพูดขึ้น
“อ๋อ ขอโทษค่ะพอดีตื่นสายน่ะค่า แฮะๆ” ยุนอาพูด
“ดี มาแล้วก็ไปล้างจาน แล้วถูบ้าน จากนนั้นรดน้ำต้นไม้ให้ด้วยนะ”
“ค่า” ยุนอาลากเสียงยาวก่อนจะเดินไปเปลี่ยนชุดเมทจากในห้อง
“เฮ้อ เหนื่อยชะมัดยาด” ยุนอาพูดไปล้างจานไป
“ครืดๆ” เสียงโทรศัพท์ยุนอาสั่น
“แจจุงนิ” ยุนอามองที่โทรศัพท์
“ฮัลโหล” ยุนอารับสาย
“ยุนอาหรอ อยู่ไหนน่ะ” แจจุงถาม
“ทำงานอยู่น่ะ มีอะไรหรอ”
“คือฉันมีเรื่องอยากให้เธอช่วยอีกแล้วน่ะ พอดีว่าเกี่ยวกับคดี ฉันอยากให้เธอช่วย พอจะโดดงานมาได้มั้ย”
“จะให้โดดหรอ ฉันเพิ่งเข้างานได้ไม่นานนี่เอง ฮ่าๆ” ยุนอาหัวเราะ
“งั้นหรอ งั้นไม่เป็นไร ขอบใจเธอมากนะ ไม่รบกวนแล้วล่ะ” แจจุงกำลังจะวางสาย
“ขอโทษนะ ไว้เสร็จงานจะไปช่วยนะ โชคดีจ้ะ” ยุนอาวางสายไป
“นี่ใครใช้ให้เธอคุยโทรศัพท์เวลางานย่ะ” เจ้านายของยุนอา คุณนาย ซอ อึมจี ตะเพิดยุนอา
“ขอโทษค่าๆ” ยุนอารีบขอโทษยกใหญ่
“วันนี้เธอต้องกลับ4ทุ่มนะ ค่าเวลาชดเชยเธอเม้าโทรศัพท์” จากนั้นคุณนายซอก็เดินออกไป
“โหว ยัยคุณนายจอมเคี้ยว ฉันคุยไม่ถึง1นาทีเลย หล่อนให้ฉันชดเฉย2ชั่วโมงเลยหรอย่ะ ชิ” ยุนอาคิดในใจ
“นี่ยัยยุนอา เธอด่าฉันในใจหรอย่ะ” เสียงคุณนายซอตะโกนมาในครัว
“ป่าวน้าค้า ป่าวเลยค่า” ยุนอาตะโกนตอบ
ทางด้านแจจุง...
“คือผมจะขอมาดูศพของเจสสิก้าน่ะครับ” แจจุงบอกกับเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลเดิมเดียวกับทิฟฟานี่
“ค่ะ เชิญค่ะ^^” พนักงานสาวยิ้มให้แจจุง
“นี่ ห้องนั้นอีกแล้วหรอออออ” ชุนซูลากเสียงยาว
“ก็ใช่น่ะซิ” แจจุงตอบ
“รอข้างนอกได้มั้ย” ชุนซูตอบ
“ตามใจนายน่ะ” แจจุงพูดจบก็เดินเข้าห้องดับจิตไป
“เจสสิก้าๆ” แจจุงหาชื่อของเจสสิก้า
“เจอแล้ว แหม ศพติดกับเพื่อนเลยนะ แฮะๆ” แจจุงมองตู้ศพของเจสสิก้าที่ติดกับทิฟฟานี่
“1 2 3...” แจจุงเปิดตู้ออกมา
“อี้ววว สยองกว่าทิฟอีกนะเนี้ย” แจจุงพูดขึ้นแล้วหันไปถอดหายใจทางด้านอื่น
“ลอยแผลนี่ ชัดมากเลย” แจจุงมองดูรอยแผลที่ยังไม่ตกสะเก็ดดีบนหน้าของเจสสิก้า
“ดาว6แฉก” เหมือนทิฟฟานี่เลย สรุปว่าฆ่าตกรอาจเป็นคนเดียวกัน เราต้องดูยูนาอีกที เป็นการฆ่าตกรรมชัวร์ๆ ผู้ร้ายใช้มีดปาดคอเจสสิก้า แต่ไม่ลึกมาก ปลายมีดคมกริม เพราะไม่มีเศษขุยเนื้อเลย ที่ต้นคอมีรอยช้ำ เหมือนถูกบีบ แจจุงก้มดูรอยช้ำเขียวนั้น
“เหมือนเป็นมือผู้หญิง เพราะวงรอบนิ้วเล็ก แล้วทำไมเคส(Case)ของทิฟฟานี่ถึงเป็นผู้ชาย หรือฆ่าตกรจะทำงานเป็นทีมนะ” แจจุงคิดหนัก
“ไม่เห็นยากเลยแจจุง เลิกคิดซะปวดหัวออก” ยุนอาเดินเข้ามาหาแจจุง
“อ่าวยุนอา”
“ใช่ๆ กลับห้องเราไปเล่นเกมส์ แล้วเลิกสืบเรื่องพวกนี้ก็ดีนะแจจุง” ชุนซูหลบอยู่หลังยุนอา
“ไม่ได้น่ะ ฉันทำมาแล้วก็ต้องทำต่อ คดีพวกนี้ท้าทายมากน่ะ ฉันจะขอถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน” แจจุงถ่ายรูปศพของเจสสิก้าเก็บไว้”
“มันเหนื่อยนะแจจุง นายทำไปเพื่ออะไรหรอ” ชุนซูถาม
“ก็ฉันชอบนี่ เหมือนฉันได้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงน่ะ ฟังดูอาจเพ้อเจ้อแต่ ฉันชอบน่ะ” แจจุงยิ้มแห้งๆแล้วถ่ายรูปต่อ
“งั้นตามใจน่ะ ว่าแต่ตอนนี้ไปหาไรทำม้า อุตส่าห์โดดงานมาทั้งที :p” ยุนอาแลบลิ้น
“คือ ไม่ค่อยว่างน่ะยุนอา” แจจุงตอบเชิงเสียดายเล็กน้อย
“งั้นไปกับชุนซู2คนก็ได้เนอะ งั้นขอให้สนุกกับงานนะแจจุง” ยุนอากับชุนซูกำลังจะออกไป
“เอ้ย...” แจจุงคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไรดี
“อะไรหรอ” ชุนซูถาม
“เออ ไปสุสานกับฉันหน่อยซิ คือ...กลัวผีอะ แฮะๆ” แจจุงพูดขึ้น (ผู้แต่ง : หรอ)
เมื่อมาถึง...
“แล้วทำไมเราจะต้องมาขุดศพยัยยุนอาด้วย” ชุนซูพูด
“ยูนาเถอะ” ยุนอาพูดขึ้น
“ชื่อคล้ายกันเลยเนอะ” ชุนซูพูด
“ขุดไปเถอะ อย่าพูดมากได้มั้ย” แจจุงพูดขึ้นในขณะที่เค้าก็ตั้งหน้าตั้งตาขุดมันเหมือนกัน
“ได้แล้ว ยกโลงขึ้นมาเลย” ยุนอาพูดขึ้น
“โอเค 1 2 3 อิช!!” จากนั้นแจจุงกับชุนซูก็ช่วยกันยกโลงศพของยูนาขึ้นมา
“เปิดเลยๆ” แจจุงพูดขึ้นอย่างรีบร้อน
“ไม่เอาอะ เหม็นเน่าแน่ๆ” ชุนซูพูด
“มาฉันช่วยเอง” จากนั้นยุนอากับแจจุงก็ค่อยแงะฝาโลงขึ้น
“อี๋ เหม็นมากนะแจ ศพกำลังเน่าเลยอะ” ยุนอาพูดแล้วเดินออกไปห่างๆ
“ยุนอาช่วยดูสัญญาลักษณ์ดาว6แฉกทีนะ” แจจุงพูดขึ้นพร้อมกับหาไปทั่วๆ
“ได้ๆ” ยุนอาอุดจมูกทันทีก่อนจะชะเง้อหน้ามองลงไป
10นาทีผ่านไป...
“ไม่มีน่ะ” ยุนอาพูดขึ้นด้วยเสียงที่อ่อนแรง (ก็กลั้นหายใจนี่)
“อื้ม ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ” แจจุงว่า
“คนร้ายคนละคน หรือมันเป็นแผนของฆ่าตกรกันแน่”
“ฉันงงว่ะ” ชุนซูพูดขึ้นพร้อมทำหน้างงๆ
“ฆ่าตกรอาจจะเป็นคนละคนก็ได้นะแจจุง” ยุนอาพูดขึ้น
“ทำไมเธอคิดแบบนั้น”
“ลักษณะการตายไงล่ะ ฉันสังเกตมาว่า ผู้ตายที่มีสัญญาลักษณ์ดาว6แฉกติดตัว จะตายตาไม่หลับเสมอ ฉันว่าฆ่าตกรทำสัญญาลักษณ์เพื่อท้าทายอะไรบางอย่าง และเค้าก็คงไม่มีเหตุผลที่จะอำพราง หรือฆ่าคนแล้วกลบเกลื่อนหรอกนะ” ยุนอาว่าอย่างมีเหตุผล
“จริงด้วยแฮะ งั้นแสดงว่า ฆ่าตกรไม่ได้มีเหตุผลหรือฆ่าเนื้องจากมีความสัมพันธ์กับผู้ตาย อาจเป็นเพราะ เค้าเป็นนักฆ่าว่าจ้าง” แจจุงพูดขึ้นก่อนที่จะเดินกลับออกไป
“เอ้ย แจจุง ศพอะ ทำไง” ชุนซูพูดอย่างกลัวๆแล้วมองซ้ายมองขวา
“ช่วยกันยกเข้าไปก่อนดีกว่านะ= =”ยุนอามองหน้าชุนซู
ตกเย็น...
“อะไรนะ จะปิดคดีแล้วหรอ แต่มันเป็นการฆ่าตกรรมนะ” แจจุงพูดโทรศัพท์อย่างใจร้อน
“คดีนั้นไม่สามารถหาตัวฆ่าตกรได้น่ะแจจุง นายต้องเข้าใจนะ ให้นายคิดซะว่า เป็นพวกไสยศาสตร์ไปเลยก็ดี เพราะฆ่าตกรมันไม่ทิ้งหลักฐานเลย ส่วนคดีทิฟฟานี่ก็ก็สรุปให้เป็นอุบัตติเหตุ ส่วนของเจสสิก้าก็เป็นการฆ่าตัวตายนะ”
“พวกนายทำงี้ได้ไง แล้วถ้าพวกเธอยังมีชีวิตอยู่ พวกเธอรู้ว่าเธอไม่ได้รับความยุติธรรมมีหวังวิญญาณไม่สงบแน่”
“เอาล่ะๆ ฉันเสียเวลามากแล้ว ยังไงพวกตำรวจอย่างฉันก็ต้องรีบปิดคดี มีงานทำอีกเยอะน่ะ ยังไงก็โชคดีนะ” ยูชอนพูดแล้วกำลังจะวางสาย
“งั้นฉันขอสืบคดีต่อ ฉันจะต้องหาตัวฆ่าตกรมาให้ได้” แจจุงพูด
“ตามสบายน่ะ หึ หวังว่าจะเจอ ตืด ตืด ตืด” ยูชอนตัดสายไป
“ชิ” แจจุงวางสายไป
“ทำไมหรอแจจุง” ยุนอาถามด้วยความเป็นห่วง
“เค้าปิดคดีกันแล้ว” แจจุงทำหน้าเศร้าเล็กน้อย
“เอ้ย แจจุงนายอย่าไปคิดมากดิ ยังไงก็ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว” ชุนซูเดินมาตบไหล่แจจุงเบาๆ
“เฮ้อ” แจจุงถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆก่อนจะเก็บข้อมูลรูปภาพทุกอย่างลงแฟ้มไป”
“ปิดคดี ฉันขอโทษนะ ที่หาตัวฆ่าตกรให้พวกเธอไม่ได้” แจจุงพูดเศร้าๆก่อนจะเก็บแฟ้มลงลิ้นชัก
“ฉันจะเรียกแกว่า Bloodstar”
ความคิดเห็น