คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Announcement - ประกาศ! (Rewrite 100%)
เอ๊ะ นั่นมันแดโยห้องเอหนึ่งหนึ่งนิ...
เสียงซุบซิบนินทาซึ่งไม่ห่างจากหน้าประตูโรงเรียนมากนัก พวกเธอชะเง้อพลางปากขยับเป็นจังหวะพร้อมกับสายตาที่กำลังมองไปที่แดโยที่กำลังเดินหิ้วกล่องข้าวสีเขียวของชายหนุ่มแปลกหน้าที่พวกเธอไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามว่าเขาเป็นใครหายเข้าไปในโรงเรียน
“แต่ฉันว่าผู้ชายคนนั้นหน้าตาดีนะ”
“เธอเห็นอย่างนั้นรึ ออกจะไกล”
“โธ่ ก็ดูเธอซิ แว่นก็ไม่ใส่แล้วจะเห็นอะไรกับเขาบ้างไหมล่ะ”
“เธอก็รู้นิ ว่าโรงเรียนนี้แทบจะไม่มีผู้ชายหน้าไหนกล้ามาเหยียบเลย ฉันถึงนึกแปลกใจอยู่นี่ไงว่าหนุ่มหน้าใสคนนั้นเป็นใคร”
“แล้วเธอจะไปสนใจทำไมกัน ในเมื่อยัยนั่นก็ไม่ได้หน้าตาดีเหมือนกับพวกเราสักหน่อย”
ใช่ซิ หล่อนจะสู้พวกเราได้ยังไง โดยเฉพาะฉัน...
แดโยเดินผ่านสนามวอลเล่ห์บอลพร้อมกับหิ้วกล่องข้าวสีเขียวมุ่งหน้าตรงไปยังห้องเรียนของน้องสาวเทมินอย่างเร่งด่วนก่อนที่เธอจะเข้าห้องเรียนสาย
ในที่สุดเธอก็ถึงหน้าห้องเรียนของยูมินซะที
อยู่ไหนนะ...
“คังเทมิน” เธอตะโกนโพล้งออกไปทำให้เด็กนักเรียนคนอื่นๆต่างหันมามองที่เธอเป็นสายตาเดียวกันหมด
“คังยูมินต่างหาก” เสียงใสที่ดังออกมาจากกลุ่มนักเรียนหลังห้องไม่ใช่ใครที่ไหน สาวน้อยตากลมโตผมยาวมัดรวบเก็บไว้ด้านหลังอย่างเป็นระเบียบลุกขึ้นพรวดพลาด เดินตรงหรี่ไปที่แดโยที่กำลังยืนอย่างงุนงงอยู่ที่หน้าประตูห้องเรียน
“ขอโทษนะจ๊ะ พอดีพี่ชายของเธอฝากข้าวกล่องมาให้ เห็นว่าเธอลืมเอามาจากบ้าน”
เอ๊ะ...พี่สาวคนนี้น่ารักจัง...
“อ้อขอบคุณมากคะ” เธอยื่นมือออกมารับกล่องข้าวที่ห่อผ้าสีเขียวเอาไว้
“อืม...พี่ชื่อแดโยนะ” เธอยื่นมือออกมาทำความรู้จักกับยูมิน
“ฉันชื่อยูมิน น้องมีเทมินน่ะ” ถึงยูมินออกจะเป็นเด็กผู้หญิงห้าวเล็กน้อยแต่รอยยิ้มของเธอก็ยังแฝงความอ่อนโยนอยู่ภายในได้อย่างลงตัว
“ถ้าอย่างนั้น พี่ต้องไปก่อนแล้วนะ ถ้ายังไงไว้วันหลังคุยกันใหม่นะ”
“คะ พี่แดโย”
ขณะที่เวลาอีกไม่กี่นาทีที่ใกล้จะหมด เทมินรีบวิ่งอย่างรวดเร็วและนี่ก็อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งก็ได้ที่ทำให้เขาวิ่งเร็วและพร้อมเสมอสำหรับกีฬาอย่างบาสเก็ตบอล
ป้ายประกาศรับสมัครติดประกาศอยู่ที่บอร์ดของโรงเรียนและผู้ที่สนใจสามารถเข้าสอบคัดเลือกได้ในวันจันทร์อาทิตย์หน้าที่จะถึงนี้ซึ่งในส่วนของนักกีฬาของโรงเรียนก็จะได้ทุนเรียนฟรีจนจบชั้นมัธยมปลายเลยทีเดียว
“คนเยอะเหมือนกันแหะ” เทมินยืนชะเง้อมองไปที่ป้ายรับสมัครซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนักจากที่พวกเขายืนอยู่
“ก็ใช่น่ะซิ แล้วจะมัวรออะไรอยู่ล่ะ ฉันว่าพวกเรารีบไปสมัครกันดีกว่านะ” เกียงซกเอ่ยพร้อมกับกอดคอเพื่อนซี้ไปคว้าใบสมัครที่ห้องพักครู
คุณสมบัติของนักเรียนจะต้องสูง 180 เซนติเมตรขึ้นไป เกรดเฉลี่ย 2.75 นักเรียนทุกคนสามารถลงชื่อและนำประวัติมาให้ที่ห้องพักครูตั้งแต่วันนี้จนกระทั่งถึงวันจันทร์
เขาพับเก็บมันใส่ซองจดหมายสีน้ำตาลพลางถอนหายใจหนึ่งเฮือกใหญ่
“เอาล่ะ ฉันว่านายคงจะต้องฟิตร่างกายแล้วล่ะ” เกียงซกพูด
“อืมใช่ อย่างน้อยก็ยังมีเวลาอีกสองวันให้ฝึก” เขาตอบ
“ใช่ แล้วที่สำคัญ นายเองก็วิ่งเร็วพอที่จะเข้าเรียนทันแปดโมงนะ” เกียงซกหัวเราะร่วนก่อนที่พวกเขาจะหายเข้าไปในห้องเรียนในตอนบ่าย
ระหว่างที่เทมินกำลังเรียนอยู่นั้น เขาหยุดมองทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างพลางเหม่อลอยออกไปและดูเหมือนว่าเย็นนี้ท้องฟ้าดูจะสดใสแต่สำหรับเขา ก็คงจะเป็นอีกหนึ่งวันที่ไม่พบกับแดโยแต่อย่างน้อยเขาก็ได้พบเธอเมื่อตอนฝนตกเมื่อเช้านี้ เขาคิดพลางคบหัวปากกาก่อนที่จะหันกลับมาในห้องเรียนอีกครั้งและตั้งใจเรียนวิชานี้จนจบคาบ
เฮ้....เร็วเข้า...
เสียงเจี๊ยวจ๊าวตามประสาเด็กผู้ชาย เหล่านักเรียนโรงเรียนดองกึก เสื้อผ้าชุดนักเรียนต่างก็หลุดลุ่ยตามฉบับของนักเรียนหลังเลิกเรียนไม่ผิดแผกไปจากพนักงานตามห้างร้านที่เพิ่งจะเลิกงาน
“เฮ้ย ไปกันเถอะ”
“อืม”
วันนี้เทมินไม่มีงานในตอนเย็นเพราะวันนี้เป็นศุกร์ แต่อีกไม่นานเขาก็กำลังจะมีงานเสริมเข้ามา วันนี้เขาจึงจะแวะไปที่ร้านขายเทปพร้อมกับเกียงซกในเย็นวันนี้ ในขณะเดียวกันนั้นแดโยเองก็จะไปสมัครงานที่ร้านขายปลากลางเมืองไม่ไกลจากบ้านมากนัก เธอไปพร้อมกับเฮยองเพื่อนสนิทที่ทำงานอยู่ที่ร้านขายปลาอยู่แล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ถึงที่ทำงานสักที
“ถ้าอย่างนั้น ก็เริ่มงานอาทิตย์หน้าเลยละกันนะ”
ขอบคุณครับ/ขอบคุณคะ...
******************************************************************
เสียงนาฬิกาปลุกดังจนเข้าโสตประสาทของเทมิน ทำให้เขาพลิกตัวไปมาด้วยความรำคาญ เขายื่นมือกดไปที่นาฬิกาปลุกเรือนน้อยอันเก่า ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นนั่งพรวดพลาดและคว้านาฬิกาขึ้นมาดูอีกครั้ง
แปดโมงครึ่งแล้ว.... เขาอุทาน
ทุกๆวันเสาร์เช้า เขาจะต้องเดินทางไปที่กรมไปรษณีย์เพื่อรับจดหมายและไปส่งตามบ้านซึ่งเขาทำในช่วงเช้าของวันเสาร์เท่านั้น วันนี้ฝนไม่ตกทำให้เขาส่งจดหมายเสร็จไวกว่าปกติ
แกร็ก...
“ตายจริง ค่าไฟเดือนนี้สูงขึ้นนะคะ” หญิงวัยกลางคนที่เพิ่งเดินออกไปรับจดหมายที่หน้าประตูบ้านหลังจากที่เธอเพิ่งเอาขยะกองโตไปทิ้ง เธอแกะซองจดหมายบ่นขณะที่คนในครอบครัวกำลังจะรับประทานอาหารในตอนเช้า
“จะไม่สูงขึ้นได้ยังไงละคุณ อย่าลืมซิว่าแดซุงกลับมาอยู่บ้านเรานะ” ซุงแจเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังนั่งจิบกาแฟยามเช้าร้อนๆ
“โธ่...พ่อ ผมเพิ่งกลับมาอาทิตย์นี้เองนะครับ ไม่ได้อยู่นานซะหน่อย” เขานั่งพลางตัดพ้อขณะที่น้องสาวสุดน่ารักกำลังจะหย่อนก้นลงเก้าอี้นั่งตรงข้ามกับพี่ชาย
“เถียงอะไรกันแต่เช้าคะ ดูซิหนูนอนไม่หลับเลย” เธอบ่น
“เปล่า ก็ค่าไฟน่ะมันแพงขึ้นไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร อยู่ๆก็มาหาว่าพี่เป็นคนใช้ไฟเยอะน่ะ แม่เธอน่ะ”
“อ้าว แม่ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อยนิ”
“บ่นไปแล้วซิไม่ว่า ทั้งๆที่ผมกับพ่อเป็นคนจ่ายนะเนี่ย”
“โธ่...ถึงจะเป็นลูกจ่ายหรือใครจ่ายยังไงก็ต้องรู้จักประหยัดกันบ้าง ไม่ใช่เอะอะ อะไรก็อ้างว่าตัวเองจ่าย ดูซิยังมีอีกหลายคนนะที่เขาไม่มีเงินจ่ายน่ะ”
“ครับแม่”
“เอ้า...เอ้า พอเถอะๆ เลิกเถียงกันซะที ผมล่ะเวียนหัวจริงๆเลย เอาเป็นว่าคราวหน้าก็ประหยัดๆกันหน่อยละกันนะ” ชายแก่นั่งส่ายหัวกับหัวข้อที่ถกเถียงกันมานานสิบกว่านาทีที่ผ่านมา พร้อมกับพูดต่อว่า “ไหนๆก็ไหนๆแล้ว วันนี้เราอยู่ครบพร้อมหน้าพร้อมตากันพ่อว่าออกไปข้างนอกกันดีไหม”
“ดีเลย ผมเองก็อยากไปพอดี ตกปลาดีไหมครับ” แดซุงเสนอ
“โหย หน้าเบื่อจะตายไปตกปลา แดโยว่าไปซื้อของที่ห้างดีกว่านะ” เธอเสนอพร้อมกับยิ้มจนตาหยี่ซึ่งแม่ของเธอเองก็พยักหน้าเห็นด้วย
“ไหนคุณบอกว่าให้ช่วยกันประหยัดไฟไง แล้วคุณจะไปช็อปปิ้งทำไม เปลืองเงิน” ซุงแจลากเสียงยาวแหย่แม่ซึ่งดูจะเป็นข้อกังขาได้ดีทีเดียว “เอาเป็นว่าไม่ต้องไปไหนละกัน แค่ช่วยกันทำความสะอาดบ้านก็พอแล้ว แล้วตอนเย็นก็ไปกินข้าวนอกบ้านก็พอ”
โธ่....พ่อนะ พ่อ....
*****************************************************************
สาม...สี่...ห้า...ครบแล้ว
เทมินร้องออกมาด้วยความดีใจขณะที่กำลังนั่งนับเงินอีกหนึ่งก้อนที่เขาสะสมมาและเตรียมที่จะไปจ่ายค่าไฟของเดือนนี้
“ค่าไฟเท่าไหร่เหรอลูก”
“พันสองร้อยเหรียญครับแม่ ถูกกว่าเดือนที่แล้วนะ” เขากล่าวอย่างภาคภูมิใจก่อนที่จะยื่นใบแจ้งหนี้ให้กับเธอดู
“อย่างนั้นเหรอ ดีดี แม่มีเงินพอดีเลยพันสองร้อย” เธอเอ่ย
“ไม่เป็นไรครับแม่ ผมมีแล้วถ้ายังไงแม่เอาเงินเก็บไว้ละกันครับ อ่อใช่แม่ไม่ต้องห่วงนะ ผมยังมีเงินเหลือเก็บสำหรับเดือนนี้จากการทำงาน ใช่แล้วแม่ผมลืมบอกไปอย่าง ผมได้งานใหม่ที่ร้านขายเทปกลางเมืองล่ะ ผมจะต้องไปทำงานวันเสาร์กับวันอาทิตย์ตอนหกโมงเย็นถึงห้าทุ่ม” เขายิ้มก่อนที่จะเดินหายลับไปจากบ้านพร้อมกับบิลค่าไฟที่เขากำลังจะไปจ่าย
เรานี่แย่จริงๆ...เป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย...
ความคิดเห็น