คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Congratulation Daesung (Rewirte ครั้งที่1)
ภายใต้แสงเทียนที่ประดับประดาอย่างหรูหราบนโต๊ะอาหารสีขาวและดอกกุหลาบสีแดงที่ตั้งอยู่ในแจกันกลางโต๊ะ หลายครั้งแล้วที่เขามักจะพาเธอไปทานอาหารในร้านต่างๆตั้งแต่ร้านอาหารข้างทางจนกระทั่งหรูหราซึ่งในคืนพิเศษคืนนี้ เขาก็เลือกสถานที่แห่งนี้เป็นอาหารมื้อค่ำสุดหรูระหว่างเขาและเธอ ดนตรีบรรเลงเพลงแจ๊สเบาๆคลอเคล้าไปกับกลิ่นไอของยุโรปเล็กๆท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายอยู่ด้านนอก ดูเป็นการเชื้อเชิญให้หนุ่มสาวได้ออกมารับประทานอาหารมื้อค่ำที่สุดแสนจะโรแมนติกแห่งนี้
ลาซ่อนญ่าผัก........
เธอโพล้งปากออกมาเบาๆพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายอันเป็นที่รักอยู่เบื้องหน้า
“ผมรู้ครับ ว่านี่คืออาหารโปรดของคุณ” แดซุงยิ้มพร้อมกับหยิบผ้ากันเปื้อนขึ้นมาวางที่หน้าตักพลางรอสเต็กไก่สูตรเด็ดของร้านนี้ซึ่งกำลังวางลงบนโต๊ะอย่างประณีต
“ค่ะ....คุณนี่รู้ใจฉันจริงๆเลย” เธอยิ้มกว้างพร้อมกับลงมือรับประทานอาหารไปพร้อมๆกับเขา
ทั้งสองคนต่างพูดคุยกันเหมือนดั่งวันวาน เขาเข้ามาในชีวิตเธออย่างไรตั้งแต่แรก แดซุงก็ยังเป็นคนเช่นนั้น ยังปฏิบัติกับเธอเหมือนอย่างเคย เขายิ้มทุกครั้งที่เธอพยายามพูดเรื่องให้ตลกขบขันทั้งๆที่เป็นตลกที่แย่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ แต่เขาก็ยังยิ้มอย่างมีความสุขทุกครั้งที่เธอเป็นคนเล่า รอยยิ้มที่อ่อนโยนไร้เดียงสาของเธอ ทำให้ชายผู้นี้ตกอยู่ในห้วงแห่งความฝันซึ่งถ้าหากเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความฝันจริงแล้ว เขาคงไม่อยากให้ความฝันมันจบลงแต่เพียงเท่านี้อย่างแน่นอน
“คิมเซ.....” เขาเรียกชื่อเธออย่างอ่อนหวานเบาๆ
“ค่ะ”
“อาทิตย์หน้าผมจะไม่อยู่หนึ่งอาทิตย์นะ.....” ในที่สุดเขาก็หลุดคำๆนี้ออกมาจนได้ จากเรื่องขบขันที่คิมเซได้หัวเราะร่าเริง เธอถึงกับหยุดชะงัก
“ทำไมคราวนี้ไปนานจัง” เธอขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่ไม่อยากให้เขาไปนัก
“แค่อาทิตย์เดียวเอง ยังไงผมจะโทรกลับมาหาคุณทุกวันเลยนะ ผมสัญญา” เขายื่นนิ้วก้อยให้กับเธอเป็นการให้คำมั่นสัญญาซึ่งเธอเองยังคงมีสายตาที่ไม่แน่ใจมากนักเพราะเธอไม่อยากอยู่ห่างไกลจากแดซุง
ค่ะ.....คุณสัญญาแล้วนะ.......
ครับ....ผมสัญญา......
สัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ปี 2007 ของฤดูหนาวอันจับใจในช่วงเวลาอันแสนสั้น ในที่สุดก็ใกล้จะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิที่แสนจะอบอุ่น ต้นไม้หลากหลายพันธุ์ หลากสี ก็ออกดอกผลิผลให้สวยงามอร่ามตาทั่วทั้งเมืองแทนที่เดิมที่มีแต่หิมะที่ขาวโพรน เมืองที่เต็มไปด้วยแสงสีส้มและอากาศที่อบอวลไปด้วยไอรัก ผู้คนต่างออกมาสวมเสื้อผ้าที่แสนสบายอย่างมีสไตล์และอวดเสื้อผ้าที่เก็บเก่ากุจนข้ามปี รวมไปถึงคู่รักที่ต่างคนต่างจูงมือเดินกันตามสถานที่สาธารณะต่างๆ
หนึ่งวัน......
สองวัน.....
ทำไมเขายังไม่โทรมานะ....หรือว่าเขาจะงานยุ่ง
หวังว่าเขาคงจะสบายดีนะ.....
ณ ตอนใต้ของประเทศโชว์ โซหยอนก็เป็นประเทศเพื่อนบ้านอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ ถึงแม้ว่าประเทศจะใกล้กันแต่ภูมิอากาศที่ผิดแผกและแตกต่างไปจากโชว์จนเหลือเชื่อเพียงเพราะภูเขา ลาซางดูที่กั้นระหว่างประเทศโชว์และโซหยอน ทำให้ภูมิอากาศมีเพียงแค่ ร้อน ฝน หนาว ซึ่งฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาอันสั้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ ประเทศนี้จึงมีแต่เพียงสามฤดูที่แตกต่างกับประเทศโชว์ ด้วยสภาพภูมิอากาศที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาและใกล้ชายฝั่ง ที่นี่จึงเหมาะแก่การเพาะปลูกทางการเกษตรและการประมงทางทะเลเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญก็ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ผู้คนต่างหลั่งไหลกันแวะเวียนมาเป็นแสนๆคนต่อปี
แสงแดดที่ทอดตัวลงที่โต๊ะทำงานไม้เก่า สายลมที่พัดมาแผ่วเบาอันเนื่องมาจากหน้าต่างที่แง้มออกเล็กน้อยบนตึกสูงเจ็ดชั้น ห้องทำงานที่แบ่งออกเป็นสัดส่วนทั้งพนักงานและบุคลากรภายในบริษัทยุนซุนจำกัด บริษัทคู่แข่งคนสำคัญที่กำลังจะเป็นผู้นำทางด้านคอมพิวเตอร์กับนวัตกรรมใหม่ๆของไมโครชิพทั้งที่เป็นเพียงบริษัทเล็กๆกับการลงทุนอันมหาศาลและเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายของงบประมาณ ร้อยกว่าล้านเหรียญกับการคิดไมโครชิพตัวจิ๋ว บริษัทเพิ่งเปิดตัวไมโครชิพและเครื่องเสียงที่มีขนาดเล็กและบางเบาเหมือนกระดาษหนา ด้วยคุณลักษณะที่บางและเล็กกว่าฝ่ามือแล้ว ทำให้ตลาดต่างก็หันมามองสินค้าที่แปลกใหม่และสะดวกต่อการเก็บข้อมูลที่เยอะมากถึงห้ากิ๊กกะไบต์ด้วยกัน เพียงแต่มีข้อกำหนดไว้ว่าเครื่องนี้จะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้ก็ต่อเมื่อใช้งานกับสินค้าที่มีช่องใส่ตัวนี้ที่ตัวสินค้า
เครื่องเสียงนี้สามารถที่จะเก็บข้อมูลได้ถึงห้ากิ๊กกะไบต์ สามารถโหลดเก็บผ่านระบบมือถือ เครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัทยุนซุนเท่านั้นและโทรทัศน์ซึ่งกำลังพัฒนาให้ออกมารองรับกับตัวเครื่องเสียงดังกล่าว บริษัทเพิ่งจะเปิดตัวเครื่องเสียงขนาดเล็กเพียงแค่หนึ่งเดือน ก็ทำให้ยอดของการขายพุ่งพรวดขึ้นมาถึง สองหมื่นเครื่องภายในหนึ่งสัปดาห์และอีกไม่นานบริษัทยุนซุนก็มีแผนที่จะมาตีตลาดประเทศโชว์และเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับโทรทัศน์ที่สามารถรองรับเครื่องเสียงดังกล่าวต้นฤดูร้อนในปีนี้
ยินดีด้วยครับคุณหยอน.....
เสียงปรบมือของเหล่าบรรดานักบริหารชั้นสูงและประธานบริษัทต่างๆร่วมกันแสดงความยินดีกับยอดขายที่พุ่งสูงถึงสองหมื่นเครื่องภายในหนึ่งสัปดาห์
ขอบคุณครับ......
เหล่าพนักงานเล็กๆต่างปรบมือเมื่อหยอนแดซุงออกมาจากห้องประชุม เขากล่าวขอบคุณพนักงานทุกคนในบริษัทที่ช่วยสานต่อความฝันของเขาได้สำเร็จรวมไปถึงนักวิจัยพัฒนาซอฟแวร์ของบริษัท ที่สามารถผลิตสินค้าออกมาได้ตรงตามจุดประสงค์ของบริษัทและลูกค้าจำนวนมากที่เป็นที่ต้องการของตลาด เขาประกาศว่าจะผลิตเครื่องเสียง DRX 191 ออกจำหน่ายเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน1000เครื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด และอีก2000เครื่องเพื่อส่งไปเปิดตัวที่ประเทศโชว์
ตรูด......ตรูด.............
สวัสดีครับคุณพ่อ....คุณพ่อทราบข่าวรึยังครับเกี่ยวกับบริษัทของผม
.
ณ บ้านหลังเล็กๆแห่งหนึ่งบนเขาในเมืองเพียวซานซึ่งเพียวซานเป็นเมืองหลวงของประเทศโซหยอน ครอบครัวของแดซุงอาศัยอยู่บ้านหลังนี้ วันนี้ฤกดิ์ดีเขาจึงกลับมาเลี้ยงฉลองที่บ้านของเขา
พี่แดซุงเก่งจัง.......
น้องสาวอายุเพียงสิบสองปีกำลังเตรียมที่จะเข้าโรงเรียนมัธยมต้นที่โรงเรียนวุนยูซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเพียวซาน เขาโอบกอดน้องสาวและอุ้มเธอราวกับเด็กน้อย “พี่ปล่อยหนูได้แล้ว หนูโตแล้วนะค่ะ” เธอขมวดคิ้วอย่างเขินอาย “แต่ก็ยังเป็นน้องสาวพี่อยู่นั่นแหละ แดโย” เขายิ้ม
“เอาล่ะ....พี่น้องสนุกกันพอแล้วนะ ทานข้าวกันดีกว่าเดี๋ยวกับข้าวจะเย็นชืดเสียหมด” หญิงท่วมวัยกลางคนส่ายหน้าไปมากับท่าทีของแดซุงบุตรชายที่ยังเล่นเหมือนเด็กไม่เปลี่ยนแปลง
“คุณพ่อล่ะครับ” เขาถามพลางลากเก้าอี้นั่ง
“อยู่ห้องหนังสือ เดี๋ยวก็คงจะลงมา” เธอกล่าวพลางมองช้อนสายตาดุไปที่แดโยสาวน้อยแสนซน
งั้นเดี๋ยวผมไปตามพ่อให้ดีกว่านะครับ......
ระหว่างที่แดซุงลุกออกไปจากห้องอาหาร หยอนซุงเจ พ่อของเขาที่กำลังค้นหาอะไรบางอย่างในกล่อง ณ ห้องหนังสือ แดซุงเคาะประตูก่อนที่จะเข้าไปเรียกพ่อไปทานอาหารเย็น
พ่อครับ....ได้เวลาอาหารเย็นแล้วนะครับพ่อ...
“อ่อ จ๊ะ.....”เขาขานตอบแต่มือก็ยังคงควานหาของอย่างต่อเนื่อง
“พ่อกำลังหาอะไรอยู่เหรอครับ ให้ผมช่วยหาไหม” เขาถามพลางชะเง้อหน้าเข้าไปในกล่องที่ซุงเจกำลังรื้ออยู่
“อ่ะ.....เจอแล้ว เจอแล้ว....”เขาโพล้ง “อัลบัมรูปสมัยลูกเด็กๆไง” เขายิ้มอย่างภาคภูมิใจพลางหยิบมันขึ้นมาพร้อมกับโอบไหล่แดซุง “ไป....เราไปทานข้าวเย็นกันเถอะ”
และแล้วอาหารมื้อเย็นที่แดซุงไม่ค่อยได้ทานกับครอบครัว ก็ได้เฉลิมฉลองกันอย่างอบอุ่น ซุงเจรินเบียร์ให้กับแดซุงผู้ซึ่งไม่ชอบดื่มเลยสักนิด แต่เขาก็อดปฏิเสธพ่อของเขาไม่ได้เพราะวันนี้คือวันสำคัญของเขา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวันที่เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
ดูซิ ผมพี่ตลกจังเลย ตัวก็ผอม มีแรงรึเปล่าเนี่ย........
อะไร อะไร....พี่นี่นักกีฬาวิ่งนะสมัยตอนประถม ขอบอกไม่อยากจะคุย.....
“ดูซิคะคุณ สมัยนั่นคุณเองก็หวีหัวเรียบแปรเลยนะค่ะ” คุณนายหยอนหัวเราะอย่างอดขำไม่ได้กับรูปสามีของเธอที่ยืนชูนิ้วสองนิ้วกับบรรดาลูกๆของเธอ
“โธ่....คุณก็ใช่ย่อยดูซิ ผมนี่ฟูฟ่องเลย” ซุงเจหัวเราะร่วนเสียงดังกับรูปอีกใบหนึ่งที่ภรรยาของเขากำลังนั่งจุ้มปุกอยู่ที่ลานหน้าบ้านตนเอง “ดูซิ.....ดูเอาเถอะ....ฮ่า ฮ่า....”
นี่ๆ รูปผมสมัยเรียนมัธยมปลาย เอ๊ะ....รู้สึกว่าจะเป็นปีสองมั้ง พี่นะเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลเลยนะ....
โธ่.....คนขี้โม้ ถึงตอนนี้พี่ก็เล่นไม่ได้แล้วล่ะ....
อะไร อะไร ดูถูกเหรอ เดี๋ยวก็จับโยนห่วงซะหรอก.....
เสียงหัวเราะคลอเคล้าไปกับอาหารมื้อค่ำที่แสนยาวนาน พวกเขายิ้มอย่างมีความสุขและยินดีกับการงานที่เขาได้ประสบมา แดซุงหยอกล้อเล่นกับน้องสาวตัวดีและโอบกอดพ่ออย่างลูกผู้ชาย เพราะอีกเพียงไม่กี่วันเขาก็จะต้องกลับไปที่โชว์เพื่อสานต่องานและกิจการที่กำลังจะไปเปิดตัวที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของเมืองชุนวู
ตรูด........ตรูด......
สวัสดีค่ะ ฮันคิมเซไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้ในขณะนี้ ยังไงช่วยฝากข้อความไว้ก่อนนะคะแล้วดิฉันจะติดต่อกลับไปค่ะ.....
คิมเซ ผมเองนะแดซุง....ผมขอโทษนะที่ไม่ได้ติดต่อกลับไปเลย พอดีที่บริษัทนัดประชุม หวังว่าคุณคงจะเห็นผมบนหน้าหนังสือพิมพ์นะ ถ้าคุณได้รับข้อความนี้แล้วก็โทรกลับมาหาผมนะ ผมคิดถึงคุณจะแย่อยู่แล้ว.......
ฉันเข้าใจค่ะ ว่าคุณคงจะงานยุ่ง...จริงๆ.....
ความคิดเห็น