ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Brownie winter

    ลำดับตอนที่ #1 : Stranger Guy with the black umbrella (Rewrite ครั้งที่1)

    • อัปเดตล่าสุด 2 ธ.ค. 49


    วันที่ 25 ธันวาคม 2006

     

    ท่ามกลางความมืดมิดในยามราตรี ที่มีแต่เพียงดวงไฟดวงเล็กๆส่องแสงประกายระยิบระยับอยู่ตามท้องถนนบนสถานที่สาธารณะ หิมะที่เริ่มโปรยปรายจนแลดูหนาตามากขึ้น สาวน้อยผมยาวตรง ดวงตากลมโตสีดำคลับที่ดูจะตัดกับใบหน้าขาวดั่งหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมาและริมฝีปากที่อูมและอิ่มเอมดั่งกุหลาบแดงที่แรกแย้มในยามรุ่งเช้า เธอยกนิ้วที่เรียวสวยได้รูปขึ้นมาสัมผัสกับเส้นผมเป็นเงาของเธอทัดหูก่อนที่จะสาวเท้าก้าวออกมาจากร้านขายของกิ๊บช็อบเล็กๆแห่งหนึ่งในเมืองชุนวู เธอค่อยๆเปิดซองถุงกระดาษและหยิบการ์ดใบเล็กๆที่เพิ่งจะซื้อมาจากร้านขายของแห่งนี้โดยในการ์ดมีข้อความเขียนว่า เมอร์รี่คริสต์มาสนะเท็ดดี้ของฉันขอให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและขอให้เป็นหมีน้อยของฉันตลอดไปนะค่ะ......ฮันคิมเซ เธอบรรจงเก็บมันลงในถุงกระดาษอีกครั้งก่อนที่จะก้าวเท้าเท้าเดินไปตามแนวถนนจนกระทั่งถึงกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่ง

     

    แกร่ง........

     

    กระพรวนเล็กที่แขวนอยู่เหนือประตูทางเข้าของร้านดังขึ้น หญิงสาวผมสั้นดัดเป็นลอนดำสนิทวัยกลางคนที่กำลังง่วนอยู่กับสินค้าที่เธอกำลังจัดเตรียมให้กับลูกค้าท่านอื่นที่อยู่เบื้องหน้าอีกสองสามคนต้องเหลือบหันไปมองที่ประตูทางเข้า

     

    สุขสันต์วันคริสต์มาสนะจ้ะคิมเซ......

     

    เช่นกันค่ะ........

     

    วันนี้หนูจะรับอะไรดีล่ะ.....

     

    ก็...เหมือนเดิม ค่ะ.....

     

    เหมือนเดิมคำพูดที่ฟังดูคุ้นเคยมาเป็นแรมปีสำหรับเธอและขนมเค้กที่ตั้งอยู่ในถาดตู้โชว์เบื้องหน้า คุณป้าเลื่อนถาดเค้กเข้าหาตัวและตักขนมในส่วนที่เธอได้ตัดแบ่งไว้อย่างเรียบร้อยแล้วใส่กล่องอย่างบรรจงก่อนที่จะเลื่อนมันกลับเข้าที่อย่างเป็นระเบียบ สองร้อยห้าสิบสามเหรียญจ้ะ เธอยื่นกล่องเค้กให้กับคิมเซที่ในมือมีเงินจำนวนสองร้อยห้าสิบสามเหรียญพอดี

     

    ขอบคุณค่ะ....

     

    เธอยกถุงพลาสติกขึ้นมาสำรวจอีกครั้งพลางจ้องมองกล่องเค้กที่อยู่ด้านในทำให้เธอหวนนึกถึง ชายอารมณ์ดีที่เธอกำลังคบหาอยู่ด้วย รอยยิ้มที่อ่อนโยนและดวงตากลมโตที่จ้องมองเธอทุกขณะอย่างไม่ละสายตา... ถ้าวันนั้นไม่เกิดขึ้น ฉันก็คงจะไม่ได้พบคุณ แดซุง... -  เธออุทานเบาๆอยู่คนเดียว

     

    ปีนี้หิมะตกหนักกว่าทุกปีนะจ๊ะ ดูแลตัวเองด้วยนะคิมเซ คุณป้าเจ้าของร้านโพล้งปากกล่าวเตือนเธอก่อนที่เธอจะหันกลับมาโค้งตอบ ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ คุณป้าเองก็ดูแลตัวเองด้วยนะคะ แล้วเธอก็เดินออกจากร้านไป

     

    แย่จัง....หิมะตกหนักจังเลยวันนี้....

     

    ทันใดนั้นเอง ก็มีชายหนุ่มร่างใหญ่สูงราวสักร้อยแปดสิบสวมเสื้อโค้ดยาวสีดำดูภูมิฐานพร้อมกับยกร่มคันดำขึ้นกางออกมายืนข้างๆเธอ หิมะที่เริ่มตกลงมาจนแลดูหนาตามากขึ้นชายแปลกหน้าจึงค่อยๆพาเธอเดินข้ามถนนจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่งท่ามกลางหิมะที่กำลังตกลงมาอย่างช้าๆ

     

    ขอบคุณค่ะ เธอเอ่ยพร้อมโน้มตัวโค้งกล่าวขอบคุณพลางแหงนหน้าขึ้นสบตาชายหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหน้า

    คุณเอาร่มกลับไปด้วย สำเนียกเสียงที่ฟังดูหวนจนเธอนึกแปลกใจเงยหน้าขึ้นสบตากับชายผู้นี้

    ...คิ้วเข้มจัง แต่คนอะไรนะพูดจาหวน... - เธอคิดในใจ

    แล้วคุณล่ะคะ เธอย้อนถามเขา

    ผมไม่เป็นไร คุณเอาร่มนี้ไป บทสนทนาจบสั้นอย่างเรียบง่าย เขารีบคว้ามือคิมเซและยัดร่มไว้ในมือของเธอก่อนที่เขาจะเดินจากไปโดยไม่พูดไม่จา

     

    คนอะไร....แปลกจัง....แต่ก็ช่างเถอะ อย่างน้อยเขาก็คงไม่เลวร้ายสักเท่าไหร่หรอกนะ...

     

    หิมะยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง คิมเซรีบสาวเท้าก้าวอย่างรวดเร็วก่อนที่เธอจะเป็นไข้หวัดไปมากกว่านี้ เธอกำลังนึกถึงน้ำอุ่นที่กำลังรอเธออยู่ที่บ้านและกิจกรรมหลังจากอาบน้ำเสร็จก็นั่งทานซุปข้าวโพดร้อนๆของโปรดของเธออยู่หน้าเตาผิงพร้อมกับซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาสีขาวครีม

     

    กลับมาแล้วค่ะ......

     

    กลับมาแล้วรึ หลาน......

     

    เสียงพล่าสั่นเทา ซึ่งเป็นเสียงที่เป็นไปตามวัยของชายชราภาพอย่าง ฮันคิมลี

     

    ค่ะ เธอลากเสียงยาวตอบชายแก่ขณะที่ถอดรองเท้าวางบนหิ้งอย่างเป็นระเบียบ สุขสันต์วันคริสต์มาสนะค่ะคุณตา เธอโอบกอดชายแก่ที่กำลังยืนนิ่งอยู่ตรงปลายบันไดทางขึ้นชั้นสอง รอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนถึงแม้ว่าจะมีร่องรอยของวัยชราอยู่บ้าง

     

    เมอร์รี่คริสต์มาสนะ คิมเซ

     

    แดซุง....

     

    เธอเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาเบิกกว้างอย่างประหลาดใจ ไหนคุณบอกว่าวันนี้คุณมีประชุมไงคะ

     

    แล้วถ้าผมบอกว่า ผมไม่ติดประชุม อย่างนี้เขาจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์เหรอครับ เขายิ้มและโอบอุ้มเธอที่วิ่งโผเขามาโอบกอดเขาไว้อย่างอบอุ่น

    หมีน้อย ทำงานหนักไปแล้วนะค่ะ เธอกระซิบข้างหูเขาเบาๆ อย่าหักโหมมากนักซิ

    ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วง...แต่เพื่ออนาคตของเราสองคนเองนะ เขาค่อยๆผละเธอออกช้าๆ ผมอยากให้คุณกับคุณตาสบายตอนที่ผมจะต้องบินไปมาระหว่างโซฮยอนนะ และแล้วเขาก็พรมจูบที่หน้าผากเธอเบาๆเพื่อแสดงให้เธอได้มั่นใจในรักระหว่างเขาและเธอ

     

    โอ้ย...หนุ่มสาวสมัยนี้ ทำอะไรไม่อายคนเฒ่าคนแก่เอาเสียเลย คิมลีร้องพลางส่ายหัวที่หลานสาวตัวน้อยที่กำลังโอบกอดชายที่อยู่เบื้องหน้า สำหรับคนแก่วัยชราญาติคนสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ในขณะนี้ ในสายตาของเขาเธอก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำนั้นแหละ

    โธ่...คุณตาคะ คิมเซอายุ 25 แล้วนะค่ะเธอตอบ หนูไม่ใช่เด็กแล้วนะค่ะคุณตา

    จ้า... คิมลีขยับแว่นเล็กน้อยพลางมองสอดลอดแว่นตาผ่านอย่างเป็นนัย ตาไม่อยากคุยด้วยแหละ ไปนอนดีกว่า และแล้วคิมลีก็เดินหายขึ้นไปบนห้องอย่างเงียบๆ ทิ้งให้ความเงียบเปลี่ยนเป็นความหวานซึ้งระหว่าง เขาและเธอเพียงลำพัง

     

    ผมอยากไปเดินเล่นที่สวนเขาพูดยังไม่ทันขาดคำ เธอก็รีบตอบอย่างทันควันในขณะที่เธอกำลังเดินไปที่ห้องครัวอย่างไม่หันมาสักนิด แต่ข้างนอกหิมะยังตกอยู่เลยนะคะ

    ครับ ก็จริง เขาตอบ แต่ว่า...

     

    ถ้าอย่างนั้นก็รอให้หิมะหยุดตกก่อนดีไหม เธอหันกลับมาหาเขาอีกครั้งพลางเลิกคิ้วถาม

    อ้อ ครับ

     

    กาแฟหรือว่าช็อกโกแล็ตร้อนดีคะ?

     

    เข็มนาฬิกาหมุนไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งสามทุ่มครึ่งแล้ว หิมะเริ่มตกซาลงจนกระทั่งหยุดมีเพียงหิมะที่ขาวโพลนอยู่บนถนนและสนามหญ้าบริเวณหน้าบ้านของเธอ คิมเซเห็นว่าหิมะเริ่มหยุดตกแล้วเธอจึงหยิบโค้ดตัวโปรดของเธอพร้อมกับบอกกับแดซุงที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ในห้องครัวว่า หิมะหยุดตกแล้ว คุณยังอยากที่จะไปเดินที่สวนไหมคะ

    แดซุงพยักหน้าพร้อมกับทิ้งถ้วยกาแฟตั้งไว้บนโต๊ะรับแขกพลางหยิบเสื้อคลุมมาสวมใส่ก่อนที่จะเป็นคนอาสาปิดประตูบ้านให้กับคิมเซ อากาศด้านนอกเริ่มอุ่นมากขึ้นหลังจากที่เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วที่หนาวเพราะหิมะเพิ่งจะเริ่มตก

    วันนี้คุณมีอะไรรึเปล่าคะถึงชวนฉันออกมาที่สวนตอนดึก เธอเอ่ยถามเขาอย่างสงสัยและเป็นห่วง

    ไม่หรอกคือ ผมแค่อยากจะออกมาเดินเฉยๆน่ะ แน่นอนความลับย่อมไม่มีอยู่บนโลกใบโลกนี้คิมเซพอจะเดาออกว่าอะไรแต่อย่ากระนั้นเลย เธอจึงแสร้งที่จะซักไซ้ไร้เรียงถามเขาต่อ เพราะเธอคิดว่าวันนี้จะต้องมีอะไรดีดีเกิดขึ้นระหว่างเขากับเธออย่างแน่นอน

    ค่อยยังชั่วหน่อยนะ หลังจากที่หิมะตกลงมา ไม่อย่างนั้นนะคงหนาวแย่เลยแดซุงยกมือขึ้นประกบและถูกด้วยกันพลางเป่าลมออกจากปากแรงๆให้เกิดความร้อนที่มือ

    คะ พรุ่งนี้ก็คงจะร้อนมากขึ้นเธอตอบ แล้วฤดูหนาวก็จะสิ้นสุดลงพร้อมกับฤดูใบไม้ผลิที่กำลังเข้ามา เธอหันมายิ้มกับแดซุงที่กำลังจ้องมองเธอขณะที่เดินมาด้วยกัน

     

    เขาเดินมาตามทางเดินจนสุดถนนเขาจับมือเธอและพาเธอเดินข้ามถนนไปยังถนนอีกฟากหนึ่งท่ามกลางความเงียบโดยทั้งสองไม่พูดจาอะไรกันสักนิด จนกระทั่งเขาทั้งสองเดินข้ามรั้วของสวนสาธารณะใกล้ๆบ้านของเธอ พวกเขาคุยกันถึงเรื่องต่างๆนาๆตั้งแต่เรื่องงานจนกระทั่งพวกเขาถึงลานกว้าง ไร้ซึ่งผู้คนทั้งสิ้น

     

    หลับตาก่อนนะครับ....

     

    ทำไมต้องหลับตาล่ะคะ

     

    แกล้งทำเป็นไม่รู้หน่อยได้ไหม...

     

    อ่อ ก็ได้คะ เธอ ยิ้มพร้อมกับหลับตาพริ้มลงอย่างช้าๆ

     

    ทันใดนั้นเองแสงสว่างก็ค่อยๆปรากฏขึ้นทีละดวงอย่างช้าๆ เธอยืนอยู่บนลานกว้างพร้อมกับชายหนุ่มที่กำลังจะมอบบางสิ่งบางอย่างกับเธอโดยมีสักขีพยานเป็นดวงดาวและพระจันทร์รวมไปถึงผู้คนที่แวะเวียนผ่านมาโดยบังเอิญ

     

    ผมรักคุณนะ เขากุมมือเธอและเธอก็ค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ

     

    ฉันนึกว่าคุณจะจำไม่ได้ซะแล้ว.....

     

    ทำไมล่ะ....ทำไมผมถึงจะจำไม่ได้ อย่าลืมซิว่าวันนี้เป็นวันสำคัญระหว่างเราสองคนเขาสบตาหวานซึ้งกับเธออย่างไม่ละสายตาและประโยคสุดท้ายที่เธอกำลังจะได้ยินก้องหูเธอก็คือเหตุผลที่ว่า

     

    เพราะวันนี้เป็นวันครบรอบของเราสองคนไง....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×