ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Lovely wings ยัยเฉิ่มหัวใจติดปีก

    ลำดับตอนที่ #5 : Lovely wings 4 : Give me a chance (Rewrite 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 50


    นี่คือครั้งแรกในชีวิตของเธอ ที่ได้ทานอาหารร่วมโต๊ะกับผู้ชาย โดยเฉพาะอลิซเด็กหนุ่มที่หน้าตาหล่อเอาการซึ่งบางครั้งเธอเองก็ยังรู้สึกหวั่นไหวกับสายตาของเขา แต่ด้วยเกียรติศักดิ์ของเขาที่ทำให้เธอยังหวาดหวั่นในเรื่องของความเจ้าชู้แล้วล่ะก็ เธอจึงพยายามวางตัวให้ห่างกับเขาให้มากที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้

     

    เขาเลี้ยวรถเข้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่ดูแล้วค่อนข้างมีราคา เขาช่างเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมและสุภาพบุรุษสมแล้วที่ผู้หญิงอีกหลายๆคนนั้นใฝ่ฝันที่จะยืนเคียงข้างกับเขา เขาเดินลงมาจากรถแล้วเปิดประตูรถให้กับเธอได้ก้าวลงมา ขณะที่เขาย่างก้าวเท้าเข้าร้านและดูเป็นผู้นำ เขาลากเก้าอี้ให้กับเธอได้นั่งลงขณะที่เริ่มสั่งอาหารให้กับเธอและอาหารสำหรับตัวของเขาเอง

     

     เธอรู้ไหมว่ามันผิด ส้มพูดขณะที่กำลังนั่งรออาหารอยู่

    อะไร ที่เธอว่าผิด เขาเลิกคิ้ว

    ก็...ที่มานั่งกินข้าวเย็นกับเธอไง เธอขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล

    อะไรที่ทำให้เธอคิดอย่างนั้นล่ะ เขาย้อนถาม

    ก็ เวลานี้ฉันควรจะกลับบ้านและก็ทำการบ้าน งานของฉันรวมไปถึงอาหารที่ความจริงแล้วแม่แทบจะห้ามด้วยซ้ำว่าห้ามกินนอกบ้าน เธอเอ่ยและสบตาเขาอย่างไม่ละสายตาในขณะที่เขาเองก็จ้องเธออย่างไม่ละสายตาเช่นเดียวกัน

     

    เอาล่ะ...ฉันเข้าใจแล้วล่ะ

     

    ระหว่างทางกลับบ้านที่อลิซไปส่ง เธอรู้ดีว่าสิ่งที่ทำลงไปนี้มันไม่ใช่วิสัยที่ดี เป็นการไม่ให้เกียรติอลิซเพราะเขาอุตส่าห์ชวนไปทานอาหารเย็นแค่วันเดียวแล้วอีกอย่างเธอก็เป็นเพื่อนใหม่แต่กลับทำให้เขารู้สึกลำบากใจ แต่มันก็เป็นอีกหนึ่งบทที่พิสูจน์ให้เธอรู้ว่าเขาเองก็มีข้อดีเหมือนกัน และนั่นก็หมายถึงการลงล็อกแผนการของอลิซทันที

     

     ถึงแล้ว เขาโพล้ง

    ขอบใจนะ

    อืม...ไม่เป็นไรหรอก เขาเงียบลงอย่างเฉียบพลัน แม้แต่สายตาเขาก็ไม่มองเธอแม้แต่น้อย ทันทีที่เธอก้าวเท้าลงจากรถ เขาก็ออกรถทันทีโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปดูเธอเลยสักนิด และนี่คืออีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถจะเรียกร้องความสนใจจากผู้หญิงได้ โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างส้ม

     

    เช้าวันรุ่งขึ้นวันพุธ ซึ่งเป็นวันที่สามแล้วที่เธอเปิดเรียนและดูเหมือนว่าเธอเองเริ่มก็เริ่มที่จะปรับตัวเข้ากับเพื่อนๆของโรงเรียนได้แล้ว นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เป็นวันปรกติสำหรับเธอ

     

    ...ส้ม...

     

    เสียงที่ฟังดูแล้วไม่คุ้นหู เด็กหนุ่มคนเมื่อวานพร้อมกับกีตาร์ตัวนั่นสีหน้าของเขาดูเปลี่ยนไปและดูท่าทีที่เรียบร้อยขึ้น เรื่องเมื่อวาน ฉันขอโทษนะ

    ไม่เป็นไรหรอก ฉันเข้าใจน่ะ แล้วเธอก็เดินจากเขาไป

    นี่ฉันจะทำยังไง เขาตะโกนไล่หลังเธอไป เธอหันกลับมามองเขาอย่างสงสัย ฉันรู้ว่าการปรับตัวมันยาก โดยเฉพาะกับโรงเรียนนานาชาติอย่างที่นี่ และฉันก็พยายามที่จะรู้จักเธอมากขึ้นแล้ว....

    นั่นไม่ใช่เหตุผลนะอลิซ เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเธอเอ่ยชื่อจากปาก...เธอจำชื่อฉันได้...เขานึกอย่างประหลาดใจ

     

    เหตุผลก็คือเป็นเพราะตัวของนายเอง นายยังเด็กมากและยังนึกสนุก ฉันเคยบอกนายแล้วและฉันเองก็ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่คุณคิดจะตีสนิทได้ง่ายเพื่อหวังเอาผลประโยชน์จะตัวฉัน ถ้านายคิดอย่างนั้นน่ะ นายคิดผิดแล้ว คำพูดที่ทิ่มแทงใจของเขา เขาถึงกับหัวเสียในขณะที่เธอค่อยๆเดินจากไปอย่างช้าๆและหายลับไปกับผู้คนที่เดินอยู่บนระเบียงห้องเรียน ในขณะเดียวกันแอนนี่ก็เดินตามหลังเขามาพร้อมกับจับไหล่ของเขาเบาๆพลางสบตาอย่างเป็นนัย

     

    ไอ วิว บี วอทชิ่งยู

    คำเย้ยหยั่นยิ่งทำให้อลิซโมโหมากยิ่งขึ้น แล้วเธอเองก็เดินนำลิ่วหายเข้าไปในห้องเรียนเช่นเดียวกันทิ้งให้เขายืนนิ่งอารมณ์ฉุนอยู่เพียงลำพัง

     

    ...ทั้งชีวิตของฉันไม่เคยเสียฟอร์มให้กับผู้หญิงคนไหนเลย ฉันจะต้องจีบเธอให้ติดยัยส้ม คอยดูเถอะ...

     

    ขณะเดียวกันส้มที่เพิ่งจะเข้าห้องเรียน เธอก็พบกับกลุ่มเพื่อนของเธอกำลังนั่งง่วนอยู่กับการผสมสารเคมี

    ส้มๆ มานี่ซิ พอลกวักมือเรียกเธอขณะที่เขาสวมแว่นสายตาและชุดที่ดูเป็นทางการป้องกันอย่างดี ดวงตาของเขายังจับจ้องเจ้าสารที่อยู่เบื้องหน้าอย่างไม่กระพริบตา

    อือ

     

    ....เฮ้อ เสร็จซะที....

     

    โบว์ยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่กำลังย้อยลงมาพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่เธอจะเอื้อมมือเอาฝาครอบมาปิดจุกแอลกอฮอล์ นี่ว่าแต่เรื่องสุดสัปดาห์นี้อย่าลืมเรื่องประชุมนะ เธอหันมาย้ำกับส้มที่กำลังลุ้นกับสารเคมีที่พอลกำลังทดลองอยู่เบื้องหน้า เธอพยักหน้าตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ อืม ฉันไม่ลืมหรอกนะ ฉันจดบันทึกเอาไว้แล้ว

    อืม ดีมากเลยรอบคอบมาก โบว์ตบหัวไหล่ของเธอเบาๆและเริ่มทำความสะอาดเก็บกวาดของภายในห้องเรียน

     

    ในขณะเดียวกันอลิซที่กำลังนั่งง่วนอยู่ในห้องวิชาคณิตศาสตร์ก็ยังคงอารมณ์เสียค้างคาตั้งแต่เมื่อยี่สิบนาทีที่แล้ว เขากำลังหงุดหงิดเด็กใหม่จอมดื้อรั้นที่รู้สึกว่าเธอจะไม่รู้สึกอะไรเลยหรือว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนแรกในชีวิตที่เขาจีบไม่ติด

     

    ...ไม่มีใครที่ฉันจีบไม่ติดหรอกนะ ฮึ...

     

    หลังเลิกเรียน อลิซผู้ที่กำลังจะถอดใจเดินกลับบ้านก็กลับเปลี่ยนใจมานั่งรอส้มที่หน้าประตูทางเข้าที่เดิม ซึ่งขณะเดียวกันเธอเองก็กำลังเดินตรงออกมาจากระเบียงทางเดินด้านในของโรงเรียน และเธอก็กำลังจะกลับบ้านเธอหยุดนิ่งขณะที่เธอเห็นเขากำลังนั่งหันหลังให้กับเธอพร้อมกับกีตาร์ตัวเดิม เธอค่อยๆเดินผ่านประตูออกไปโดยไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ทันทีที่เธอเดินผ่านเขาก็ลุกขึ้นอย่างทันควันแล้วก็เดินเลยขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว

     

    ระหว่างที่เธอกำลังเดินไปที่ป้ายรถประจำทาง เธอก็รู้สึกว่าเหมือนกำลังมีคนสะกดรอยตามหลังของเธอมา เธอหันหลังควับไปก็พบกับฮอนด้าสีดำซึ่งเจ้าของรถคันนี้ก็คืออลิซนั่นเอง

     

    นายตามฉันมาทำไม เธอโพล้งขณะที่เขานั่งอยู่ในรถที่เปิดกระจกและมีเสียงเพลงเล็ดลอดออกมา

    เปล่า ฉันไม่ได้ตามเธอ เขาตะโกนออกมาพลางมองไปอื่น

    แล้วถ้านายไม่ตามฉันมา แล้วนายกำลังทำอะไรอยู่ เธอถามด้วยอาการฉุนแล้วรถเขาก็หยุด

    ฉันก็แค่ ขับรถไปส่งผู้หญิงคนหนึ่ง ก็เท่านั้น

     

    ...อะไรกัน นายนี่จะมาไม้ไหนนะ...

     

    ฮึ...เข้าใจพูดนิ เธออุทาน

    เปล่า ฉันพูดจริง เธอเอะใจกับแววตาคู่นั้น เธอไม่เคยรู้สึกเลยว่าเขาจะดูจริงจังมากขนาดนี้

    เฮ้อ... เธอถอนหายใจ

     

    ปี้น...

     

    เฮ้ย จะขึ้นรถก็รีบๆซิว่ะ เดินหาพระแสงอะไรอยู่ล่ะรถมันติดนะเว้ย ชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อยึดหลวมๆสีกากีตะโกนไล่หลังพวกเขามาขณะที่รถข้างหลังก็เริ่มติดยาวเป็นแพออกไป บ้างก็บีบแตร บ้างก็ลงรถมาโวยวาย

    ได้ เธอตะโกนพร้อมกับเปิดประตูรถเขาออกและขึ้นรถโดยไม่พูดอะไรกับเขาเลยสักคำ

    นี่ ฉันถามจริงๆเถอะ ทำไมเธอถึงไม่อยากคุยกับฉัน อาการหัวเสียบ่งบอกได้อย่างชัดเจนด้วยน้ำเสียงที่เริ่มถากถางหงุดหงิดอย่างน่ารำคาญ

    ฉันยังไม่เคยพูดเลยนะ ว่าฉันไม่อยากคุยกับนาย

    ถ้าอย่างนั้น ทำไม

    ไม่รู้ซิ ฉันรู้สึกว่านายน่ะมันไม่มีแก่นสารในชีวิตน่ะ ได้ยินมาว่าชอบไล่จีบผู้หญิงไปทั่วไม่ค่อยจริงจังอะไรกับชีวิตสักเท่าไหร่ ถ้าพูดกันตามตรงน่ะ ฉันเองก็ไม่รู้ว่านายจะมาไม้ไหนกับฉันน่ะแล้วก็

    ใช่ ฉันรู้ดี เขาเปลี่ยนสีหน้าและลดอาการเครียดลง

     

     จะให้ทำยังไงล่ะ ก็ในเมื่อมีแต่คนมองฉันในแง่นั้นนิ ต่อให้ฉันทำดีขนาดไหนก็ไม่มีใครเห็นหรอก

     

    เขาประชดประชันขณะที่ส้มเองก็ถึงกับเงียบนิ่งใช้ความคิดอยู่ ทำไมนะ การให้โอกาสใครสักคนมันยากอย่างนั้นเหรอ ฉันรู้ว่าการเปลี่ยนทัศนคติหรือภาพลักษณ์ในหลายๆคนก็เป็นการเปลี่ยนที่ยากพออยู่แล้ว เขาตัดพ้อ แล้วเธอจะไม่คิดบ้างเหรอ ว่าคนแย่ๆอย่างฉันเนี่ยจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เขาหันไปสบตาเธออย่างเว้าวอน หวังว่าเธอจะมีปฏิกิริยากับเขาบ้าง

     

    ...สีหน้าดูจริงจัง หรือว่าเขาจะเปลี่ยนนิสัยจริงๆ แต่ว่าจะเปลี่ยนทำไมหรือว่าเปลี่ยนเพื่อเรา...

     

    ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้นระหว่างทางกลับบ้าน ส้มก็ได้แต่ใช้เวลาไปกับความคิดพลางมองผ่านกระจกออกไปข้างนอกด้วยจิตใจที่เป็นกังวลในขณะที่ไม่ต่างอะไรกับอลิซที่ใช่ความคิดเงียบๆอยู่อย่างลำพัง เขาปิดเพลงที่คลอมาได้สักพักแล้วทุกอย่างก็อยู่ในความเงียบสงบ

     

    ดูเหมือนอะไรหลายๆอย่างสำหรับอลิซดูจะเริ่มต้นไม่ค่อยดี หนุ่มมาดเท่ห์ที่เจ้าชู้เล็กๆแต่ดูเหมือนสาวกะโปโลผู้นี้ไม่มองแม้แต่หางตาที่คิดอยากจะสัมผัสใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาแม้แต่น้อย บรรยากาศภายในรถช่างดูตึงเครียดกว่าปกติ

     

    ...ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีผู้หญิงอย่างส้มอยู่บนโลกนี้...

     

    ...นี่ฉันทำรุนแรงกับเขามากเกินไปรึเปล่าเนี่ย...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×