คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Part time Job งานกะใหม่ (Rewrite 100%)
ณ โรงเรียนวุนยู โรงเรียนหญิงล้วนที่มีแต่ผู้คนที่อยากจะส่งเสียบุตรหลานมาเรียนที่นี่และหนึ่งในนั้นก็เป็นแดโย
อ๊อด.....
เร็วเข้า เร็วเข้า....เดี๋ยวอาจารย์มา...
เสียงนักเรียนหลายคนต่างวิ่งกรูกันเข้าห้องเรียนให้ทันวิชาแรก รวมไปถึงแดโยที่กำลังงุ่นง่านเก็บหนังสือและสมุดบันทึกเข้าตู้เก็บของส่วนตัวบริเวณระเบียงหน้าห้องอย่างรวดเร็วพร้อมกับรีบวิ่งหายเข้าไปในห้องเรียน
และแล้ว....วิชาแรกในคาบเรียนก็เริ่มขึ้น
******************************************************************
คังเทมิน....วันนี้เธอมาสายอีกแล้วนะ....
ชายวัยกลางคนบุคลิกดีขยับแว่นสายตาขอบหน้าเตอะมองลอดแว่นไปที่ประตูห้องเรียน ซึ่งมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนสงบเสงี่ยมอยู่เงียบๆ “ผมขอโทษครับ” เขาโค้งคำนับหนึ่งครั้งก่อนที่จะขอตัวไปนั่งที่โต๊ะเรียนประจำของเขา
เฮ้อ....ถ้าเธอไม่ใช่นักเรียนดีเด่นนะ ฉันคงจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไว้หรอก แต่ว่าอย่าให้มีคราวหน้าอีกล่ะ เทมิน....
เทมินก็พนักหน้าตอบรับให้สัญญาเกี่ยวกับการแก้ปัญหาในครั้งต่อไปว่า มันจะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกเป็นครั้งที่สองอีก
ในขณะที่วิชาแรกของเทมินกำลังดำเนินไปอย่างตึงเครียด แดโยก็กำลังจดรายละเอียดเกี่ยวกับรายงานครั้งแรกรวมไปถึงโปรเจคชิ้นโตที่เธอจะต้องส่งก่อนสอบกลางภาคอย่างวิชาสุดง่วงนอนนั่นก็คือ ประวัติศาสตร์ของประเทศโซหยอน ในที่สุดเสียงกริ่งที่นักเรียนรอคอยก็มาถึงจนได้ พวกเธอได้เวลาพักทานอาหารกลางวันที่เตรียมมาจากที่บ้านรวมไปถึงแดโย กล่องข้าวสีชมพูและกับข้าวที่ดูหน้ากินตั้งแต่หมูผัดผัก และไข่เจียวบ้านๆก็ทำให้อีกมื้อหนึ่งของเธอนั้นมีความสุขไปอีกหนึ่งวัน รวมไปถึงเพื่อนสนิทของเธอที่ชอบคอยแย่งเธอกินอยู่เป็นประจำอย่าง เฮยอง
“โอ้ โห....ไข่เจียวหน้ากินจังเลย” รูปร่างค่อนข้างเจ้าเนื้อเล็กๆเอ่ยลอยๆพร้อมกับเหลือบมาที่กล่องข้าวใบน้อยสีชมพูของแดโย “โห....ไม่แบ่งกันเลย”
“โธ่....เธอก็รู้นิ ว่าฉันไม่ใช่คนใจร้ายอย่างนั้น” เธอขมวดคิ้วเข้าหากัน “เพราะข้าวกล่องเนี่ยลำพังฉันเองก็กินไม่หมดอยู่แล้ว มีเธอก็ค่อยยังชั่วหน่อย” เธอตอบพลางยื่นข้าวกล่องมาใกล้ๆกับข้าวกล่องสีเขียวอ่อนของเฮยองที่ในนั้นมีทั้งปลาทอดและไข่ตุ๋นสีขาวนวลอยู่ในกล่องอย่างน่ารับประทาน
กินล่ะนะ......
ในขณะที่สาวๆกำลังเริงร่ากับการแบ่งข้าวเที่ยงให้ซึ่งกันและกัน เทมินที่นั่งถอนหายใจเล็กๆก่อนที่จะเปิดข้าวกล่องมื้อเที่ยงซึ่งในนั้นมีแค่ ข้าวกับผัดผักและเนื้อหมูไม่กี่ชิ้นซึ่งเขาตักมาจากก้นหม้อเมื่อตอนเช้าตรู่ เพราะเขาได้แบ่งส่วนที่เหลือให้กับแม่และน้องสาวไปเรียบร้อยแล้ว
นายแบ่งกับฉันก็ได้.....
เด็กหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคิ้วเข้มตัดกับใบหน้าที่ขาวผ่องพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูน่ารักน่าเอ็นดูแบบมีเสน่ห์ เขานั่งลงข้างๆเทมิน ณ ใต้ร่มไม้ใหญ่หลังโรงเรียน
“เกียงซก” เทมินหันควับไปที่ต้นเสียงนั้น
“ฉันไม่ชอบเลย ที่นายชอบแอบมานั่งที่นี่คนเดียว ทำไมไม่ชวนฉันล่ะ” เขาตัดพ้อเทมิน
“เปล่าคือฉัน......” เทมินผู้ซึ่งต้องกล้ำกลืนในความทุกข์ที่ตัวเขาเป็นอยู่ แต่บางครั้งเขาก็อยากที่จะเก็บมันไว้เพียงคนเดียว
“นายน่ะ จะลงแข่งบาสเก็ตบอลไม่ใช่เหรอ จำเป็นที่จะต้องทำให้ร่างกายแข็งแรงนะ” เกียงซกพูดพลางหยิบข้าวกล่องออกมา “และนักกีฬาของโรงเรียนก็เป็นอีกความหวังหนึ่งที่นายอาจจะได้ทุนเรียนฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยจนกว่าจะเรียนจบปีสาม”เขาพูดในขณะที่สมองของเทมินค่อยๆนึกเรื่องราวที่เกียงซกพูด แต่สำหรับเขาแล้วมันช่าง ...ริบหรี่..... เสียเหลือเกิน
“ฉันรู้”
“เพราะฉะนั้น นายจะต้องกินเยอะๆโดยเฉพาะของที่เป็นประโยชนสำหรับนาย และฉันเองก็อยากจะให้นายเข้าทีมบาสเก็ตบอลของโรงเรียนให้ได้ พร้อมกับฉัน” เขายิ้มพลางตักกับข้าวแบ่งให้กับเทมินอย่างช้าๆ “โอ้ โห....ผัดผักน่ากินจริงๆ นายทำเองรึเปล่าเนี่ย ยังไงฉันขอแบ่งผักกับนายด้วยนะ” เกียงซกพยายามเปลี่ยนเรื่องเพื่อทำให้เขารู้สึกดีขึ้น แต่ความรู้สึกมันก็เหมือนเดิมและเทมินก็แสร้งทำเป็นว่าเขาไม่มีอะไรแต่ถึงกระนั้น ดวงตาของเขาก็ไม่สามารถเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นได้
ระหว่างที่เขากำลังกินข้าวเที่ยงกันอย่างสนุกสนานตามประสาของเด็กนักเรียนชาย เกียงซกก็ได้พูดคุยถึงเรื่องงานที่เขากำลังทำอยู่ในขณะนี้
“ตอนนี้ฉันยังทำงานอยู่ที่ร้านอาหารทุกวันจันทร์พุธพฤหัสอยู่น่ะและก็ส่งจดหมายในวันเสาร์ช่วงเช้าด้วย” เทมินบอก
“ฉันมีงานอีกชิ้นหนึ่งที่หน้าสนใจและนายสามารถที่จะทำในวันอังคารกับศุกร์และก็อาทิตย์ด้วยนะ ถ้านายขยัน” เกียงซกเสนองานใหม่ให้กับเขาซึ่งท่าทางเทมินเองก็สนใจอยู่ไม่ใช่น้อย เพื่อครอบครัวของเขาแล้ว เขาสามารถทำทุกอย่างเพื่อแม่และน้องสาวได้
“จริงเหรอ” เขาอุทาน “งานที่ว่าคืองานอะไรล่ะ”
“ก็คนดูแลร้านขายเทปและซีดีน่ะ เงินดีใช้ได้เลยนะแล้วอีกอย่างงานก็ไม่หนักมากด้วย แค่จัดซีดีตามแคตตาล็อกและก็เช็คสต็อกของร้านน่ะ....” เกียงซกตอบ
จริงเหรอ....สำหรับฉันน่ะ งานอะไรฉันก็ทำหมดนั่นแหละ....
“ดีดี พอดีเจ้าของร้านดอกไม้ของฉันนะ เขาให้ฉันมาถามๆว่ามีใครสนใจอะไรอย่างนี้น่ะ ฉันก็เลยมาบอกนายก่อน” เกียงซกตอบ
“ว่าแต่ร้านขายเทปอะไรนั่นน่ะ อยู่ที่ไหนเหรอ” เทมินถามดวงตาเบิกกว้าง
“ร้านขายเทปอยู่ไม่ไกลจากร้านขายดอกไม้ที่ฉันทำอยู่ ฉันว่านายน่าจะลองไปต่อรองเรื่องเวลากับเขานะ” เขายิ้มบางๆซึ่งก็เป็นงานที่พึงพอใจกับเทมินอยู่เหมือนกัน ทำงานหนักอีกสักนิดก็ไม่เสียหายแล้วอีกอย่างงานนี้ก็ไม่น่าจะเป็นงานที่หนักหนาอะไรมากนัก ก็แค่คนขายเทปกับซีดีทั่วไป
ได้ ฉันตกลง...
*******************************************************************
ทันทีที่เสียงกริ่งยามบ่ายดังขึ้นอีกครั้ง แดโยและเฮยองก็เดินจูงมือกันเข้าห้องเรียนวิชาที่ตื่นเต้นเร้าใจอีกวิชาหนึ่งคือ ชีวะวิทยา และถัดจากวิชานี้ไปก็จะเป็นวิชาคณิตศาสตร์ซึ่งวิชานี้ควรจะเป็นวิชาแรกในตอนคาบแรกของวันแต่ตารางเรียนของแดโย กลับกลายเป็นคาบบ่ายเสียนี่
ในที่สุดวิชาสุดท้ายของวันนี้ก็จบลง แดโยก้มลงมองที่นาฬิกาข้อมือของเธออีกครั้งหลังจากคาบเรียนที่แล้วเมื่อเวลา 14.00 น. จนกระทั่งตอนนี้ 15.30 น. เหล่านักเรียนบางคนเริ่มทยอยกันออกจากโรงเรียนกลับบ้านบ้างก็แวะห้างสรรพสินค้าก่อนกลับตามประสาเด็กวัยรุ่นสมัยใหม่หรือนักเรียนบางกลุ่มอาจจะเลยไปทำงานเป็นกะหลังเลิกเรียนก็เป็นได้ แต่วันนี้สำหรับแดโยแล้ว เธอไม่ได้ไปไหนทั้งสิ้นเพราะวันนี้ เธอมีรายงานวิชาประวัติศาสตร์ที่จะต้องทำก่อนที่ห้องสมุดจะปิดตอน 5 โมงเย็น
“นี่แดโย....” ขณะที่แดโยกำลังเดินหอบหิ้วหนังสือสองเล่มโตชุดสุดท้ายระหว่างระเบียงทางเดิน เธอก็หันควับไปที่ต้นเสียงนั้น
“อ้าว เฮยองยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ”
“อืมพอดีไปช่วยเพื่อนอีกห้องทำความสะอาดห้องนิดหน่อยเห็นว่าเย็นแล้วน่ะ ก็เลยช่วยจะได้เสร็จๆ เอ้อ เธอจำได้ไหมว่าฉันทำงานอยู่ที่ร้านขายปลาในเมือง” เฮยองเอ่ยถามขณะยื่นมือพลางช่วยแดโยถือหนังสือ
“จำได้ซิ เออใช่ พอดีเลยฉันกำลังมองหางานทำอยู่เหมือนกัน อยากเก็บเงินสักก้อนหนึ่งไว้ซื้อของขวัญวันเกิดให้กับพี่ชายน่ะ เธอพอรู้บ้างไหม” เธอนึกขึ้นได้ด้วยสายตาที่เหลอหลาและเธอก็รู้ดีว่าเฮยองสาวน้อยที่อยู่เฉยๆไม่ได้นี่จะต้องรู้แหล่งงานดีดีให้เธออย่างแน่นอน
“รู้ซิ”เฮยองร้อง “พอดีเลย เจ้าของร้านขายปลาของฉันเขากำลังรับสมัครพนักงานขายปลาใหม่อีกคน เพราะว่าลูกจ้างคนเก่าเขาลาออกน่ะ ถ้าเธอสนใจวันพรุ่งนี้ก็แวะไปที่ทำงานกับฉันซิ”
“เหรอ โอเคฉันจะไปพรุ่งนี้กับเธอละกัน”
งั้นก็ตกลงตามนี้นะ...
อืม......
ความคิดเห็น