คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอน3
Chapter 3
หลังจากการตัดสินใจของยุนโฮทุกคนจึงแปลกใจมาก ที่ยุนโฮยอมให้ ผู้หญิงที่เจอกันแค่ครั้งเดียวมานอนบนห้องของตัวเอง แถมแบกขึ้นมาอีกต่างหาก แล้วจะเกิดเรื่องราวอะไรต่อไปล่ะเนี่ย
“นี่ยุนโฮ นายคิดยังไงเนี่ยฮะ ถึงให้ผู้หญิงที่ไม่รู้จักมาที่ห้องเรา”
“ใช่ๆพี่คิดไรผิดรึเปล่า”
“ฉันว่ามันดูไม่ดีนะ”
“ใช่ๆเกิดเรื่องขึ้นมาจะทำยังไง”
“ฉันคิดดีแล้วน่า ฉันไม่ได้พิศวาสยัยนี่หรอกน่า แค่ฉันจะแกล้งนิดหน่อยก็แค่นั้นเอง”
“นี่พี่กล้าขนาดแกล้งผู้หญิงตัวเล็กๆขนาดนี้เชียวเหรอ”
“เงียบไปเถอะน่าชางมิน นายเอาสร้อยของยัยนี้มาสิ”ชางมินส่งสร้อยอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่
“ท่าทางจะรักสร้อยนี้มาก อืม ดีและจะได้แกล้งกันง่ายๆหน่อย”
สมาชิกคนอื่นต่างมองหน้ากัน เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมายุนโฮไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน
ทางด้านยูมิ
โอ๊ย~~ทำไมมันรู้สึกเมื่อยจัง ปวดหัวอีกต่างหาก ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย
“กริ๊ด”
พอฉันลืมตาขึ้นมา ฉันก็เห็นดวงตา5 คู่ 10ดวงจ้องมองฉันอยู่ และที่สำคัญไม่ใช่คนธรรมดาซะด้วย นี่คือสมาชิกวง “ดงบังชินกิ”
“นี่ฉันอยู่ที่ไหน ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่กับพวกนาย”ฉันตีคำถามรัวด้วยความตกใจ
“นี่ เธอถามรัวอย่างนี้แล้วฉันจะตอบได้ยังไงกันล่ะ ฉันจะบอกให้ก็ได้ เธออยู่ที่อพาร์ทเมนต์ของศิลปินอันดับหนึ่งของโลก”
“ของเกาหลีก็พอมั้ง”จุนซูเข้าขัดจังหวะเลยโดนสายตาของยุนโฮเล็กน้อย
“ยังไงเธอก็คงจะรู้จักเราอยู่แล้วใช่ไหม”ยุนโฮตั้งท่าถามฉันอย่างกับเป็นผู้พิพากษา แหวะ หมั่นใส้ ฟังจากโซรีก็นึกว่าจะเป็นคนดี ที่แท้เป็นอย่างงี้เองเหรอ
“พวกนายเป็นใครกันเหรอ”ฉันถามคำถามยั่วโมโห เล่นทำให้ยุนโฮเสียฟอร์มไปเลย ฮ่าๆขำชะมัดเลย
“ฮื้มๆ Okในเมื่อเธอยังไม่รู้ฉันจะบอกให้ก็ได้ ฉัน ยูโนว์ยุนโฮหัวหน้าวงเทพเจ้าแห่งโลกตะวันออก ดงบังชินกิ
เป็นไงเคยได้ยินรึยัง”
“ยังอ่ะ”ฉันแทบกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ คนอะไรวางมาดซะ
“อืม...เออ......งั้นฉันจะแนะนำสมาชิก ในวงแล้วกัน คนนี้เป็นหนุ่มหน้าหวานแถมเสียงก็หวานตามหน้า ฮีโร่ หรือว่าแจจุง ส่วนคนนี้ มากับเสียงหัวเราะที่มัดใจสาวทั่วประเทศ เซีย หรือ จุนซู คนที่สาม หนุ่มลูกครึ่งมาพร้อมกับความเป็นสุภาพบุรุษ มิกกี้ ยูชอน และคนสุดท้าย เด็กสุดแต่ว่า...............”
“555+ พอแล้ว อย่าทำให้ฉันขำสิ”ยุนโฮพูดพรีเซนท์สมาชิกตัวเองไม่ทันจบฉันก็หลุดขึ้นมาทันที ทำให้คนอื่นมองฉันแปลกๆ
“นี่เธอขำอะไรน่ะ”
“ก็นะ 555+”ฉันขำไม่ยอมหยุด
“ นี่ หยุดขำเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นเธอจะโดน”
“ต่อยเหมือนกับที่สนามบินอ่ะนะ เอาสิ จะได้มีข่าวใหญ่โตว่า หัวหน้าวงดงบังชินกิซ้อมผู้หญิงในอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ดีมะ งั้นต่อยเลย”
“นี่เธอรู้เหรอว่าที่สนามบินนั่น”
“ใช่ ใครจะไม่รู้ล่ะก็เล่นใส่มิดซะขนาดนั้นฉันว่ามันเป็นจุดสังเกตมากกว่า ”
“งั้นเหรอ งั้นเธอก็ไม่ต้องเอาไอ้นี่ล่ะกัน”ยุนโฮชูสร้อยรูปกุญแจฉันขึ้นมาฉันจึงจะลุกขึ้นมาคว้าแต่ยุนโฮหลบทัน
“เอามานี่นะ รู้ไหมว่ามันสำคัญมากแค่ไหน ที่ฉันต้องตกเครื่องบิน แล้วต้องซวยมาเจอนายอีก”
“งั้นเหรอ ฉันว่าเธอก็ซวยต่อไปแล้วกัน”แล้วยุนโฮก็เดินออกจากห้องไป
“อย่านะ เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะ โอ๊ย~~”ฉันรีบลุกจะวิ่งไปเอาสร้อยคืนแต่ขาฉันมันชาไปหมด เลยตกลงไปที่พื้น ชางมิน ยูชอน และจุนซูรีบวิ่งมาดูฉันทันที
“เป็นอะไรรึเปล่า ”จุนซู
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ไปดูหัวหน้าวงพวกนายหน่อยเหรอ”
“พี่แจจุงตามไปแล้วคงไม่มีอะไรหรอก”ชางมิน
“ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าเราจะเจอกันอีก”ยูชอน
“เจอก็ดี มาเจออย่างนี้มันก็ไม่ดีเท่าไหร่หรอก”แล้วทั้ง 3 คนก็พยุงฉันขึ้นไปบนเตียง(ไม่ใช่ว่าฉันตัวหนักนะ)
“อืมก็จริง เธอมาอยู่บนรถเราได้ล่ะ”จุนซูถาม
“ก็ยายป้าใจร้ายคนนั้นโยนสร้อยของฉันมาในรถตู้ของพวกนาย ฉันก็เลยเข้ามาแต่ว่าพวกนาย........”
“อะไรต่อล่ะ”ชางมิน
“ช่างมันเถอะ”
“อืมก็ได้ แต่ว่าฉันขำมากเลยตอนที่เธอแกล้งไม่รู้จักพวกเรา แต่ว่า...ที่จริงเธอรู้จักเราจริงๆหรือเปล่าเนี่ย”จุนซูพูดพร้อมกับขึ้นมานั่งบนเตียง
“รู้จักสิ รู้จักมากด้วยก็เพื่อนของฉันเล่าเรื่องของนายกรอกใส่หูทุกวันไม่รู้ก็แปลกแหละ”
“จริงเหรอฉันอยากเจอเพื่อนเธอจังเลย ท่าทางจะเป็นแฟนคลับพวกเรา”ชางมินทำหน้าตื่นเต้น
“ก็ใช่น่ะสิ ตอนนี้ฉันอยากจะเจอยัยนั่นจะตายอยู่แล้วทำไมมันซวยอย่างนี้นะ”
“ซวยซะที่ไหนล่ะ มาเจอพวกเราถือว่าบุญนะนั่น แล้วเธอชื่ออะไรเหรอ”ยูชอนพูด ไม่น่าเชื่อนอกจากจะเป็นสุภาพบุรุษแล้วท่าทางจะหลงตัวเองด้วยนะเนี่ย
“ฉันชื่อ รถเมล์”
“โรแมย์”ทุกคนพยายามจะเรียกชื่อฉัน
“รถเมล์ เรียกให้ถูกสิ”
“โระเม โรแม เรียกยากจังเลย”สงสัยจะไปไม่รอดแฮะ
“ไม่ต้องก็ได้เอาชื่อเกาหลีไปละกัน จางยูมิ เรียกยูมิเฉยๆก็ได้”
“ยูมิ อันง่ายกว่าเยอะแหะ แต่ว่าชื่อคล้ายญี่ปุ่นจังเลย”
“ก็ฉันเรียน 2 ภาษา ครูก็เลยตั้งชื่อให้เรียกง่ายทังเกาหลีและก็ญี่ปุ่น”
“อืม แต่ว่าฉันสังเกตมานานแล้ว เธอใช่คนที่เจอที่สนามบินจริงๆเหรอ คนนั้นฉันจำได้ว่า ผมยาวมาก หน้าตาเอ๋อๆ แต่ดุเหมือนคุณป้าไม่ค่อยเหมือนเธอเลย” โอ้โห~~นายชางมินนี่ว่าฉันทางอ้อมรึเปล่าเนี่ย
“ก็นั่นแหละฉันเอง แล้วฉันก็ไม่ใช้ป้าด้วย”ฉันสงเสียงดุเล็กน้อยโทษฐานมาหาฉันว่าเป็นป้า
“แล้วไปทำไรมาล่ะ ศัลยกรรมรึเปล่า”
“ฉันไม่มีวันศัลยกรรมหรอก ก็แค่เพื่อนฉันจับเปลี่ยนลุคก็เท่านั้นเอง”
“อะไรนะ เปลี่ยนลุค เพื่อนเธอเป็นคนวิเศษมาจากไหนเนี่ย เปลี่ยนคุณป้าได้ถึงขนาดนี้”น้าน !ฉันชักโมโหแล้วนะนายชางมิน อะไรก็ป้า
“นี่ อยากโดนรึไง โอ้ย!”ฉันจะลุกขึ้นไปจัดการชางมินแต่ว่าขาฉันมันชายังไม่หายก็เลยล้มลงไปที่เดิม ส่วนชางมินก็วิ่งไปถึงมุมห้องแล้ว
“แต่ฉันว่าไม่เปลี่ยนเธอก็น่ารักอยู่แล้วนะ”ยูชอนเดินมาหาฉัน โอ๊ะ!จริงเหรอเนี่ย ฉันน่ารักอยู่แล้ว
“จริงเหรอก็แน่อยู่แล้วนี่เนอะ ฉันมันน่ารักตั้งแต่เกิด”
“เมื่อกี้ฉันพูดล้อเล่น ฉันว่าเปลี่ยนก็ดีแล้วไม่งั้นขายไม่ออกหรอก”ว่าไงนะนี่คำพูดของยูชอนสุภาพบุรุษคนเมื่อกี้เหรอ
“กรอดๆ ฉันอยากจะฆ่าคน ถ้ามันเปลี่ยนแล้วซวยขนาดนี้ฉันก็ไม่อย่างเปลี่ยนหรอก”ฉันโมโหแต่ว่าเดินไปจัดการไม่ได้ก็เลยชักอยู่ที่เตียงยีหัวไปมา
“ฉันแค่ล้อเล่นนิดหน่อยเอง แค่อยากให้เธอหายเครียด”ยูชอนพยายามปลอบฉัน
“ไม่ต้องเลย มันทำให้ฉันเครียดมากกว่าเดิมอีก โป๊ก!โอ้ย! เห็นไหมฉันซวยอีกแล้ว ฮือ~~”หัวฉันดันไปกระแทกกับหัวเตียงทำให้ฉันร้องไห้ออกมา
“ไม่ได้ซวยสักหน่อย ก็เธอเอาหัวไปชนกับหัวเตียงเองมันก็เจ็บน่ะสิ”จุนซูเดินมาลูบหัวหัวที่ฉันโดนหัวเตียงเมื่อกี้ ส่วนชางมินกับยูชอนก็เดินมานั่งที่เตียงจะมาช่วยปลอบฉัน
“นี่หยุดร้องเถอะน่า ฉันล้อเล่นนิดเดียวเอง”
“ฮือ~~”
“นี่ ฉันให้ยืมไหล่ได้นะ”ชางมินตบบ่าตัวเองให้ฉันไปซบ
“จะบ้ารึไง ฉันไม่ได้อกหักซะหน่อย ที่จะต้องไปซบไหล่ผู้ชายร้องไห้ ฮือ~~”ฉันตบบ่าชางมินให้ถอยออกไป
“อะไรกัน จำเป็นด้วยเหรอว่าซบไหล่ผู้ชายแล้วร้องไห้แสดงว่าอกหัก โดยเฉพาะคนดังอย่างพวกเราใครๆก็อยากซบทั้งนั้นแหละ”
“ก็ฉันเคยดูในหนังนี่หน่า ฮือ~”
“หยุดร้องน่า เดี๋ยวฉันให้ลายเซ็นนะ”จุนซูวิ่งไปหากระดาษกับปากกา
“ฉันไม่ใช่แฟนคลับนายนะ ถึงจะอยากได้ลายเซ็นของนาย ถ้าอยากให้ไปให้เพื่อนฉันนู้น ฮือ~~”จุนซูช็อคกับคำพูดฉันเลยหยุดวิ่งไปหา แต่ล่ะคนพยายามให้ฉันหยุดร้องแต่ก็ไม่ยอมหยุดสักที
“ อะไรกันเนี่ย ฉันไม่อยู่นายทำอะไรกับผู้หญิง ทำไมถึงร้องไห้ซะขนาดนั้น”แจจุงเดินเข้ามาพร้อมกับใส่ผ้ากันเปื้อนทำอาหาร
“เปล่าซะหน่อยก็แค่ล้อเล่นให้หายเครียดนิดหน่อยแค่นั้นเอง แต่เล่นร้องซะขนาดนั้น”จุนซูพยายามอธิบายกับแจจุง
“เฮ้อ~พวกนายนี่ไม่ได้เรื่องกันจริงๆ มากับฉันดีกว่าฉันทำซุปร้อนๆเอาไว้ให้ท่าทางจะเสร็จแล้วล่ะ”พอสิ้นคำพูดของแจจุงปั๊บฉันก็หยุดร้องทันที แล้วหันมายิ้มกับแจจุง
“โอ้โห ทำไมมันหยุดง่ายขนาดนั้นล่ะ”จุนซู
“เงียบไปเลย นายไม่มีฝีมือเอง มากับฉันดีกว่า”แจจุงเดินจะพาฉันไปที่โต๊ะกินข้าว”
“แต่ว่าขาฉันมันยังไม่หายเลยอ่ะ เลยเดินไปไม่ได้”
“งั้นเหรอ อืม ชางมิน นายมาแบกสิ”
“อะไรนะแบกยัยนี่เนี่ยนะ”
“ใช่ ถ้านายไม่ยอมแบกล่ะก็นายไม่ต้องกินข้าวเย็น”
“หา พี่แจจุงทำไมต้อง
..”
“เงียบเลย งั้นนายก็ไม่ต้องกินข้าว”แจจุงหันกลับมาจะมาพยุงฉันแทน
“เดี๋ยวๆ OKฉันแบกให้ก็ได้”ชางมินทำหน้ามุ่ย แจจุงยิ้มแล้วก็เดินออกไปนอกห้องก่อน
“ป้า ขึ้นมา”ชางมินหันหลังให้ฉันขึ้นแถมยังกวนอีกต่างหาก
“นี่ ฉันอายุยังไม่ถึง20มาเรียกฉันป้าได้ไหม ฉันอายุน้อยกว่านายอีกนะ”
“เร็วๆเถอะน่าอย่าให้ฉันอารมณ์เสียไปกว่านี้นะ”
“ก็ได้ งั้นฉันก็ต้องเรียกนายว่าลุงน่ะสิ”ฉันพูดพลางคลานไปไปขึ้นหลังชางมิน
“เฮ้อ~~แล้วแต่เธอ”ชางมินทำหน้าเอือมๆแล้วก็แบกฉันขึ้น
“เร็วๆหน่อยสิคุณลุง ฉันหิวข้าวแล้วนะ ฮิๆ”ฉันขำเบาๆ
“ยูชอนเราไม่มีฝีมือขนาดนั้นเชียวเหรอ”จุนซู
“สงสัยพลังสุภาพบุรูษของฉันชักจะเสื่อมซะแล้ว”ยูชอนฮือ~เศร้าจัง ทั้ง 2 คนนั่งบนเตียงแล้วก็กอดคอกัน
“รอยยิ้มอันแสนมีเสน่ห์ของพวกเราหายไปไหนแล้วอ่ะ”แล้วทั้ง 2 ก็กอดคอกันเศร้าต่อไป
ชางมินเดินแบกฉันออกมานอกห้อง ฉันเห็นยุนโฮนั่งดูทีวีอยู่เงียบๆแถมหน้าบึ้งอีกต่างหาก
“นี่ คุณลุงนายนั่นเป็นอะไรเหรอ”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันว่าก็เพราะเธอน่ะแหละ”
“เออเหรอ ฉันยังไม่ทำอะไรเลยนี่ แค่จะเอาสร้อยคืนเฉยๆ แต่ไม่ยอมคืนให้ฉัน”
“ก็จริงของเธอ สงสัยจะโดนพี่แจจุงดุแน่เลย”
“ฮืม ขนาดนั้นเชียวเหรอ”
“ก็พี่แจจุงเป็นแม่ประจำบ้านนี่”
“งั้นนายก็แก่ก็พี่แจจุงสิ ฮ่าๆคุณลุง”
“นี่ ยัยป้าเธอจะเด็กกว่าฉันสักกี่ปีกันล่ะ”
“ก็ประมาณ อืม~~ สัก2ปี มั้ง”
“แค่2ปี ก็ไม่ห่างเท่าไหร่หรอกน่า”
“ก็ปีนี้จะ18 แล้วปีนี้นาย 20 ฉันพูดผิดตรงไหน”
“ยังไงก็เถอะเธอก็ดุเหมือนป้าอยู่ดีแหละ”
“นี่คุณลุงอยากโดนป่ะ”
“เอาสิ ฉันจะได้ปล่อยเธอลงตรงนี้ซะเลย”
“ก็ได้ ปล่อยเลย พี่แจจุง ชางมิน......”ฉันพูดเสียงดังจะฟ้องแต่ว่า
“เงียบเดี๋ยวนี้นะ OKฉันไม่ปล่อยแล้ว”
“อืม ท่าทาง นายจะทำทุกอย่างเพื่อของกินเลยนะเนี่ย”
“เธอก็เหมือนกันน่ะแหละ พอพี่แจจุงบอกว่า มากับฉันดีกว่าฉันซุปร้อนๆให้กิน หยุดร้องไห้ซะงั้นแถมกลับมายิ้มอีกต่างหาก”ชางมินพูดพลางเดินไปที่โต๊ะ กล้าว่าฉันเหรอเนี้ย อย่างงี้ต้องโดน
“อ้าก! หยุดนะเดี๋ยวก็ล้มทั้งคู่หรอก”ฉันเอาแขนรัดคอชางมิน
“งั้นก็เลิกว่าฉันสักทีสิ”
“เออ ก็ได้ฉันไม่ว่าแล้ว”
“ดีมากค่ะ คุณลุง”ชางมินส่งฉันลงที่โต๊ะ ถือว่าการเดินมากินข้าวครั้งนี้ทรหดมากจริงๆเลย
แล้วก็มาถึงการรับประทานอาหารเย็น
ยุนโฮเดินมาที่โต๊ะพร้อมกับหน้าบึ้งเหมือนเดิม
“นี่ยุนโฮทำไมนายทำหน้าบึ้งขนาดนั้นล่ะ”จุนซูถาม
“เรื่องของฉันน่ะ”
“ยูมิ กินเต็มที่เลยนะ”ฉันพยักหน้าตอบแจจุง อาหารเย็นเยอะมาก แต่ฉันเรียกมันไม่ถูกหรอกแต่รู้อย่างเดียวมันน่ากินมากๆ ซื้ด~น้ำลายไหล
“นี่พี่ทำเองหมดเลยเหรอ”
“ใช่ ไม่อร่อยก็ขอโทษด้วยนะ”
“ฉันกินแล้วนะค่ะ”ฮ่าๆ อาหารที่อยู่บนโต๊ะทั้งหลายจงมาอยู่ในท้องข้านะบัดนี้ ฮิๆ
“ฉันอิ่มแล้ว”ยุนโฮกินไปได้ 2-3 คำก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในที่ฉันนอนเมื่อกี้ หรือว่าจะเป็นห้องเค้านะ
“ยุนโฮเป็นอะไรไปเนี่ย กินข้าวแค่ 2-3 คำเอง”ยูชอน
“กินไปนิดเดียวอย่างนี้โรคจะกำเริบไหมเนี่ย”จุนซู
“สงสัยฉันต้องเข้าไปคุยใช่ไหมเนี่ย”แจจุงกำลังลุกจากโต๊ะอาหารไปหายุนโฮ หรือว่าเค้าเป็นแบบนี้เพราะฉันนะ ได้ข่าวว่าเป็นโรคกระเพาะนี่ ฉันรีบไปวิ่งขวางแจจุงอย่างลำบาก เพราะขาที่ยังไม่หายดี
“พี่แจจุงเดี๋ยวฉันเข้าไปเองค่ะ”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวก็มีเรื่องกันอีกหรอก”
“ไม่หรอกค่ะ”แล้วฉันก็รีบเดินไปที่ห้อง
“คุณป้าต้องการความช่วยเหลือรึเปล่า”ชางมินถามฉัน
“ไม่เป็นไรหรอกคุณลุงเดี๋ยวกับข้าวหมดกินไม่อิ่มหรอก กินต่อไปป่ะ”แล้วฉันก็รีบเข้าห้องไปทันที
“คุณลุง คุณป้า”แจจุงพูดขึ้นมาอย่างสงสัย
“ไม่มีอะไร ฮะพี่”ชางมินยิ้มแล้วลงไปกินข้าวต่อ
ความคิดเห็น