ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dolphin 's cast & profile

    ลำดับตอนที่ #1 : Cancer ปุษยะ (เจ้าชายน้ำแข็ง)

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 53


               
         
            เทพนักขัตตะประจำกลุ่มดาวปุษยะ (ดาวปุยฝ้าย หรือ ดาวพวงดอกไม้ หรือดาวดอกบัว หรือดาวโลง หรือดาวปู หรือดาวสมอเรือ) ซึ่งก็คือกลุ่มดาวปูของฝรั่งแหละ

    ประจำราศี : กรกฎ 

    ฤกษ์ : ราชา

    ฉายา : เจ้าชายน้ำแข็ง

    อัญมณีประจำตัว : อะเวนเจอร์รีน (Aventurine)

           รูปร่างของปุษยะจะเป็นเทพเด็กหนุ่ม รูปร่างเล็กและแลดูผอมสูง ลักษณะแบบเด็กที่เพิ่งจะเริ่มก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ใบหน้าค่อนข้างกลม ผิวสีอ่อน และมีธรรมชาติอันปราดเปรียว 

    บุคลิกภายนอกของปุษยะจะเป็นเทพบุตรน้อยที่วางมาดแบบชนชั้นสูง แต่ในทางกลับกันเขากลับไม่หยิ่งจองหองและไม่ยโส  จึงคบได้กับคนทุกชนชั้น  อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของปุษยะ   

    ลักษณะนิสัยปกติของปุษยะจะมีความสุขุม  ลึกซึ้ง และใจแข็งเป็นที่สุด ขณะเดียวกันก็คือศักดิ์ศรีมาก เขาจะถือเรื่องเกียรติเรื่องศักดิ์ศรีมากที่สุด หากการใดจะทำให้เขาเสียเกียรติหรือศักดิ์ศรี ปุษยะก็จะยอมอด ยอดตัด หรือละทิ้งการนั้น  ซึ่งนิสัยดังกล่าวเมื่อมาผนวกกับความเถรตรงและเด็ดขาดในเรื่องกฏระเบียบของเขาแล้ว ปุษยะจึงได้รับมอบหมายหน้าที่ให้เป็นเทพผู้คุ้มกฎของเหล่านักขัตตะทั้งหลาย   ทว่าแม้จะมีบุคลิกที่โดดเด่นในเรื่องของความเข้มแข็ง เด็ดขาด มีอำนาจและใจแข็งเป็นอย่างยิ่งแล้ว  ในทางกลับกันปุษยะกลับมีบุคลิกที่ตรงข้ามซ่อนอยู่ข้างใน กล่าวคือแม้บุคลิกภาพภายนอกจะดูใจสู้ ใจแกร่ง และคร่ำเคร่งในกฏระเบียบเพียงใด แต่ขณะเดียวกันปุษยะก็มีความอ่อนไหวอยู่ภายใน ซึ่งจะแสดงออกให้เห็นเฉพาะกับผู้ที่สนิทสนมจริงๆเท่านั้น   เขาจึงมักจะแสดงตัวตนภายในที่อ่อนไหวดังกล่าวและปรับทุกข์กับอสิเลสะผู้เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดอยู่เสมอๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เรื่องดังกล่าวมักจะมีสาเหตุมาจากความคิดมาก คิดเล็กคิดน้อย ว่าตัวเองใจร้ายเกินไปหรือเปล่า... และธรรมชาติต่างๆดังกล่าวมาของปุษยะก็ทำให้เขาเป็นเทพนักขัตตะที่มีบุคลิกอันโดดเด่นมาก

          

    อาวุธ เคียวมัจจุราช ( Death Bringer ) , เคียวติดโซ่ , สมอเรือ

    สไตล์ความหล่อ : หล่อแบบเด็กอายุ 14 -15 ( ม.3 - ม.4 ) ผมสีนิลกาฬ และมีดวงตาอันสดใสที่รับกับรอยยิ้มเศร้าๆของเขา

         

     

    Weakness / Resist : Strong against everything , Uneffect by early death  and death curse

    Skill / Power / Weapon

      

    ศิถี (พวงมาลัยดอกไม้) = ใช้พวงมาลัยดอกไม้ล้อมรอบผู้ที่ตนหมายจะช่วยหรือปกป้อง ซึ่งมาลัยนี้จะช่วยชำระปัดเป่าสิ่งไม่ดีและบำบัดรักษาผู้ที่อยู่ในวงปราการแห่งมาลัยนี้ได้ด้วย  และในอีกกรณีหนึ่งก็คือการใช้พวงมาลัยดอกไม้มัดศัตรูและพันธนาการหรือตรึงไว้  (ก่อนจะจู่โจมซ้ำ หรือ จับศัตรูปิดผนึก)

     

    สัญชีวนี = ชุบชีวิตผู้ที่ตายก่อนเวลาอันควรให้ฟื้นคืนมาได้โดยที่ตนเองมิได้รับผลข้างเคียงจากการใช้มนต์ต้องห้ามนั้นเลย (ซึ่งแตกต่างจากอัสสนี ในเรื่องนักขัตตะ) และสามารถใช้มนต์นี้ทำลายพวกผีดิบที่เกิดจากมนต์ดำต้องห้าม (Necro Rebirth / Become Undead) ได้อย่างเด็ดขาดอีกด้วย

    เชราะ (ทางน้ำเซาะ) = ใช้คลื่นน้ำทำลายหรือสลายปราการ หรือ กำแพง หรือเกราะของศัตรู  หรือจะใช้น้ำเซาะทางให้มีทางเดินเรือเพิ่มขึ้น  หรือทำให้ทางน้ำกว้างขึ้นจนเรือใหญ่สามารถผ่านเข้าได้ก็ได้

    ชํชล (อ่าน ชัม - ชล) = ปล่อยสายน้ำออกจากฝ่ามือหรือนิ้วเพื่อชำระล้างเป้าหมายให้สะอาด สายน้ำที่ออกมาจะเป็นน้ำอ่อนๆ แบบน้ำจากสายยางหรือฝักบัว (แต่ก็ใช้ดับไฟ หรือทำให้เป้าหมายเปียกน้ำได้)

    ชลัมพุ (น้ำ) = จู่โจมด้วยธาตุน้ำ หรือข่ายมนต์น้ำ (ข่ายมนต์วารี) ซึ่งจะสามารถกักตัวศัตรูไว้ในข่ายมนต์นั้น  ทำให้ปุษยะสามารถปิดผนึกหรือจัดการศัตรูด้วยวิธีอื่นๆได้ตามใจ (หากศัตรูหายใจในน้ำเองไม่ได้  ก็อาจตายในข่ายมนต์น้ำนั้นได้  เพราะในข่ายมนต์ที่เป็นเหมือนตรุชั่วคราวนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำบริสุทธิ์ที่ถูกประจุไว้แต่แรกเริ่ม)   ซึ่งหากศัตรูอยู่บนบก ปุษยะจะต้องใช้พลังตัวเองกับเวทชลัมพุพอสมควรเพื่อให้มีปริมาณธาตุน้ำที่มากพอจะกักศัตรูไว้ในข่ายมนต์วารีได้  ปุษยะจึงต้องใช้เวทน้ำอื่นๆ เช่น ชํชล เป็นเวทเบิกทางให้ศัตรูตัวเปียกก่อน  แต่หากศัตรูอยู่ในน้ำอยู่แล้ว หรืออยู่ในทุ่งหิมะ หรือทุ่งน้ำแข็ง  ทุ่งดอกไม้  หรือกอบัว  หรือเหมืองคริสตัล  หรือเหมืองแร่อื่นๆ  ปุษยะจะได้เปรียบพื้นที่  จนสามารถใช้ชลัมพุกักศัตรูและจับผนึกได้ในทันที 

    ผลิกะ (ผลึก) = โจมตีด้วยแก้วผลึก แท่งผลึก (คริสตัล) และเศษผลึก หากในอีกกรณีก็คือการผนึกเป้าหมายใส่ในผลึก (อันเป็นท่าต่อเนื่องจากชลัมพุ  ซึ่งเรียกว่า ชลัมพูผลิกะ ” (อ่านในนักขัตตะได้ครับ)

    วุยหเต หรือ วุลหเต (อันน้ำพัดไป) = ใช้คลื่นน้ำเล่นงานและ (หรือ) พัดพาศัตรูไป  (เป็นเวทอุทกภัย  ซึ่งปุษยะ สามารถสร้างวังน้ำวนได้จากเวทนี้)

    สีตะ (เย็น , หนาว) = โจมตีด้วยความเย็น  รัศมีความเย็น  ลมหนาว  และ (หรือ) แสงเย็น (ลำแสงความเย็น)

    สีตละ (เย็น , หนาว) = ขั้นที่ 2 ของสีตะ ; โจมตีด้วยไอเย็น รัศมีความเย็น ลำแสงความเย็น ลมหนาว และพายุหิมะที่รุนแรงขึ้น

     

    ศิศีระ (เหมันตฤดู) = ขั้นที่ 3 ของสีตะ ; จู่โจมด้วยไอเย็น ลำแสงความเย็น รังสีความเย็น และพายุหิมะที่บ้าคลั่ง ซึ่งให้ความหนาวเย็นแบบสุดขั้วจนเหยื่ออาจแข็งตายได้ง่ายๆ

    ศิศีราผลิกะ (ผลึกแห่งเหมันตฤดู) = ต่อเนื่องจากศิศีระ โดยสร้างผลึกน้ำแข็งขนาดต่างๆ ซึ่งทั้งแข็งและคมกริบ เข้าจู่โจมศัตรูตามต้องการ

    ที่เหลือเป็นปริศนา...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×