คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4
วันนี้เป็นวันที่สดใสอีกเช่นเคย ไปโรงเรียนในยามเช้าสนุกกับชีวิตตัวประกอบ
"นี่เธอน่ะ ไหนๆเรื่องของเกบก็จบไปแล้วเรามาเลิกกันดีกว่า"
"นายไม่ เอ่อ....คือว่า ไม่อยากอยู่แบบนี้ต่อไปอีกหน่อยหรอ...."
"ฮ่าๆ อยู่แล้วได้เงินก็ดีอยู่หรอก แต่ไม่เอาเฟ้ยยยย"
"อย่างงั้นหรอ.."
"เธอมันเฮงซวย ทำชั้นซวยตลอด ทำคนอื่นเข้าใจผิดไปทั่ว อยากอยู่กับเธอต่อก็บ้าแล้ววว เธอมันตัวซวยเฟ้ยยย"
"....."
ผมพูดอย่างงั้นกับเธอบนดาดฟ้า
เบสตี้เงียบไป พร้อมดึงดาบออกมาจากปลอก
"พูดอย่างงั้นแกคงเตรียมใจมาแล้วสินะ ไอ้ขี้ข้าาาาาา"
"เฮ้ยๆ นี่เธอจะฆ่ากันเลยหรอ ใจเย็นสิเฟ้ย"
"ต..ต...ตายซะ"
"เดี๋ยวสิเฮ้ย เบาได้เบา"
ย๊ากกกกกกกกกกกก
มีเสียงกรีดร้องบนอาคารเรียนจนกลายเป็นเรื่องสยองขวัญในเวลาต่อมา
ซิซกลับจากโรงเรียนในยามเย็นเดินกลับหออย่างโดดเดี่ยวอย่างตัวประกอบ ไม่ว่าจะท่าเดิน การถือกระเป๋า การแต่งกาย หรือทรงผม ก็เป็นแบบตัวประกอบทั้งนั้น
ซิซกำลังเดินครุ่นคิดเกี่ยวกับบทตัวประกอบ คิดถึงเหตุการณ์ต่างๆที่จะได้แสดงพลังลึกลับ ไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อการร้ายบุกโรงเรียน หรือ ถล่มลัทธิปีศาจด้วยตัวคนเดียว แต่ซิซก็นึกได้ว่า
"ทำไมวันนี้มันมืดเร็วจังเลยนะแค่ 5 โมงเย็นแท้ๆ แปลกจัง หรือว่าจะคิดไปเอง?"
มีเสียงบางสิ่งกำลังพุ่งมาด้วยความเร็วตัดอากาศกำลังจะเจาะกระโหลกของซิซ แต่ซิซก็แค่เพียงเอียงหัวหลบเล็กน้อยมันก็พุ่งลงไปชนกับพื้นข้างหน้าซิซ
"ห๊ะ!? อะไรละนี่"
ซิซหันกลับไปมองข้างหลัง สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของเขา ทำเอาเขาแถบตัวสั่น แต่เป็นการตัวสั่นด้วยความดีใจ
ป้อมปราการลอยฟ้าขนาดยักษ์ลอยอยู่บนฟ้า บดบังแสงอาทิตย์จนหมดสิ้น ฝูงห่าธนูนับพันนับหมื่นพุ่งลงมาจากฟ้าราวกับวันที่ฝนตกอย่างหนัก ด้วยการตอบโต้ที่รวดเร็วของเมืองหลวง มีบาเรียขนาดยักษ์หุ่มทั้งเมืองไว้อย่างรวดเร็ว
เด็กนักเรียนพากันแตกตื่น รีบวิ่งหนีเข้าไปหลบภายในโรงเรียนไม่ก็หออย่างรีบร้อน บาเรียเริ่มสลายไปอย่างช้าๆ เพราะเป็นพลังที่เกิดขึ้นจาก อาร์ติแฟค และเป็นเวทมนตร์ขนาดใหญ่ จึงอยู่ได้ไม่นานนัก
"เจ้าพวกมนุษย์ได้เวลาที่แกจะชดใช้สิ่งที่พวกแกทำกับข้าแล้ว เมื่องนี้จะหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ในวันรุ่งขึ้น เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลย"
"มาถึงก็จะทำลายเมืองเลยงั้นหรอ น่าสนใจจริงๆ"
ซิซพึมพำแล้ววิ่งหนีแบบตัวประกอบ
ไม่นานกองอัศวินก็แห่กันมา จัดแถวเตรียมโจมตีอย่างรวดเร็ว พวกนักเวทก็ได้รับคำสั่งให้ยิงไปที่หอคอยลอยฟ้าอย่างไม่มีการถาม แต่หอคอยกับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน พวกอัศวินและนักเวทจึงถอยออกไปตั้งรับและรอคำสั่งต่อไป
"ไอ้หอยคอยนี้มันอะไรกัน อยู่ๆก็มาลอยอยู่บนเมืองหลวงแถมบอกจะทำลายทิ้งด้วย"
"คงเป็นพวกลัทธิปีศาจ ที่มีคนในเมืองหลวงทำลายแผนการของมันจึงได้ส่งหอคอยนี้มาทำลายเมืองสินะ"
"แล้วเราจะทำอย่างไรถึงจะโจมตีมันได้ละ"
"อืม~ เรื่องนั้นผมว่าเราควรจะเรียกสิ่งนั้น"
"จะบ้าหรือไง! จะให้เรียกสิ่งนั้นมาแล้วเราจะต้องสละอีกกี่ชีวิต เราควรจะเก็บไว้เป็นไผ่ตายมากกว่า"
"ข...ขออภัย ครับท่าน!"
ระหว่างที่ผู้บัญชาการและหัวหน้าอัศวินกำลังสนทนากันอยู่มีการเคลื่อนไหวจากหอคอย มีแผ่นหินลอยลงมาเป็นขั้นบันไดขึ้นสู่หอคอยนับร้อยชั้น
"นี้ไงละโอกาสของเราที่จะหยุดเรื่องนี้"
"หัวหน้าอัศวินทั้ง 100 กอง จงฟังข้า เราจะแยกกองขึ้นไปบนหอคอยนั่น 10 กอง อีก 90 กองจะอยู่ที่นี้ค่อยปกป้องเมืองหลวง และจากการส่งคนสอดแนมไปก็พบมอนสเตอร์มากมาย มอนสเตอร์ไม่ใช่ปีศาจมันไม่มีความคิดแต่มันใช้จำนวน พวกมันไม่มีการวิ่งหนีไม่รู้จักชีวิต และอย่าได้ประมาท ถ้าจะปลิดชีพมันก็ควรให้ตายในดาบเดียว ไม่งั้นมันจะกลับมาฆ่าพวกท่าน ด้วยกำลังของพวกเราคงไม่สามารถฆ่าไอ้ตัวที่อยู่สูงขึ้นไปบนนั้นได้ กิลนักผจญภัยจึงได้รวบรวมนักผจญภัยทั้งหลายไปกับพวกท่านด้วย สุดท้ายที่จะพูดคือ ไม่มีชัยชนะใดที่จะได้มาด้วยการไม่เสียสละ ถึงแม้พวกพ้องจะตายก็จะกลายเป็นพลังให้ก้าวต่อไปในวันข้างหน้า เอาละอัศวินทุกนายได้เวลาแล้ว!!!!!"
โฮ้วววววววววววววววววววว!!!! เสียงอัศวินโห่ร้องฟ้าดินสั่นสะท้าน อัศวินทุกนายพร้อมลุย
"โฮ้ พลังใจเต็มร้อยสินะ ชักจะน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆแล้วววววว"
ซิซพูดขึ้นและเหลือบไปบริเวณลานกว้าง เห็นนักผจญภัยจำนวนมากแต่ก็สะดุดตากับคนๆหนึ่ง ร่างกายผอมบางถือคทาไม้
"หืม นักเวทมาคนเดียวงั้นหรอ หึหึ เหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างเราแล้วสินะ"
°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°
"เอ่อคือว่าช่วยรับชั้นเข้าปาร์ตี้หน่อยได้ไหม"
"คงไม่ได้หรอกเรามีนักเวทแล้วน่ะ โทษที"
"อืม..."
เด็กสาวผมสีม่วงตาสีฟ้า ทำหน้าเหงาหงอยท่ามกลางผู้คน ดูเหมือนว่าเธอต้องการจะเข้าปาร์ตี้ และมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอ
"เอ่อ คือว่าเธอสนใจเข้าปาร์ตี้กับผมมั้ย?"
เด็กสาวหันกลับมาทำหน้างง แล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
"พ..พูดกับชั้นหรือป่าว?"
"ใช่แล้ว สนใจมั้ย?"
"ว้าว! สนใจสิ"
เธอกุมมือของเด็กหนุ่มและตอบตกลงอย่างรวดเร็ว
"ฮ่าๆ เอ่อคือว่าช่วยปล่อยมือผมก่อนได้มั้ย"
"อ๊ะ ขอโทษ"
"มีเวลาอีก 10 นาทีก่อนที่เราจะขึ้นไป มีอะไรอีกมั้ย"
"ขอเวลาเตรียมใจแปปนะ"
สิบนาทีผ่านไปกองอัศวินเริ่มเคลื่อนพล และใช้เวลาอีกสิบนาทีกว่าจะขึ้นไปจนหมด หอคอยอันกว้างใหญ่ข้างในเป็นเขาวงกตจุคนได้มากกว่าพันคนมีทางแยกเป็นสิบๆทาง เมื่อขึ้นจนหมดบันไดที่เป็นทางขึ้นก็ลอยกลับขึ้นมาปิดทางขึ้นไว้ มีการแบ่งนักผจญภัยไปกับอัศวินออกเดินสำรวจทางขึ้นไปชั้นถัดไป
"เธออยู่ใกล้ๆผมเอาไว้นะ ค่อยช่วยดูข้างหลังให้ผมที"
"เข้าใจแล้ว"
อัศวินและนักผจญภัยแบ่งกองให้เข้ากับจำนวนทางแยกและเริ่มออกสำรวจ หอคอยใหญ่เกินครึ่งของเมืองหลวงสูงกว่าพันเมตรบอกไม่ได้ว่าใช้เวลาเท่าไหร่กว่าสำรวจจนหมดแต่ว่าทุกคนที่นี้มีหน้าที่เดียวคือการไปถึงข้างบนสุดให้เร็วที่สุด
กลุ่มที่เด็กหนุ่มอยู่ตอนนี้เดินไปเจอกับมอนสเตอร์ ทุกคนชักดาบออกมาเตรียมต่อสู้
"ทุกคนระวังตัวด้วยเจ้านี่ว่องไวมาก มันมักจะลอบโจมตีจากด้านหลัง"
นักผจญภัยคนหนึ่งตะโกนขึ้น
มอนสเตอร์รูปร่างเหมือนหมาป่าแต่ตัวใหญ่กว่า ส่งเสียงขู่อย่างเยือกเย็น แล้วพวกมันก็พุ่งโจมตีเข้ามา พุ่งโจมตีแบบตรงๆนั้นเดาทางได้ง่ายทุกคนเลยตั้งรับได้ดี
"ย๊ากกก แบบนี้จะมากี่ตัวก็ยังไหว"
พูดไม่ทันขาดคำมอนสเตอร์หมาป่าก็พุ้งเข้าโจมตีจากด้านหลังของชายคนนั้น
"อ๊ากกกกกกกกก ไอ้เวรเอ้ยจากข้างหลังงั้นหรออ!"
"ระวังหลังด้วยสิไอ้บ้าเอ้ย"
อีกฟากเด็กหนุ่มและหญิงสาวกำลังทุกล้อมโดยมอนสเตอร์ ทั้งสองหลังชนกัน
"เธอมีเวทแสงหรือเปล่า แฟลช น่ะใช้ได้หรือเปล่า"
"ใช้ได้อยู่หรอกค่ะ แต่ว่ามันไม่สว่างมากขนาดที่จะทำให้พวกมันสับสนได้หรอก"
"เชื่อในตัวเธอเองสิ เธอทำได้อยู่แล้วรอสัญญาณจากผมนะ"
"ด..ได้สิจะลองดู"
"......"
"......"
"ตอนนี้ละ เอาเลย"
"ท่านมิเลีย ขอกรุณามอบแสงสว่างนำทางข้าด้วย แฟลชชชชช!!!"
แสงสว่างวาบเล็กๆเกิดขึ้นวินาทีถัดมาก็เกิดระเบิดแสงขนาดยักษ์ทุกคนล้วนแล้วแต่แสบตา หลังจากแสงหายไปพริบตานั้นเด็กหนุ่มก็วิ่งเข้าฟาดฟันมอนสเตอร์ที่กำลังสับสน
"ทำได้ดีเลยนะ"
"นายก็เหมือนกัน แต่ว่า.....ระเบิดแสงเมื่อกี้นี้ไม่น่าเกิดขึ้นได้"
"ไม่หรอกเธอเป็นคนสร้างมันเอง บอกแล้วไงละเชื่อในตัวเองสิ"
อิอิ จังหวะเมื่อกี้โครตเท่ไปเลยระเบิดแสงที่เข้าไปช่วยน่ะแต่ว่าคงไม่มีใครสังเกตว่าเราปล่อยเวทระเบิดแสงเมื่อกี้หรอกถ้ามีคนมาเห็นก็คงเท่ไม่เบา แต่เราก็จะเปิดเผยตัวเองไม่ได้ด้วยเพื่อการเป็นพลังลึกลับนักผจญภัยตัวประกอบ
แต่ว่าเมื่อกี้ก็เหมือนมีคนกำลังจับตามองเราอยู่เลยนะ ช่างมันเถอะ
ทุกคนจัดการกับมอนสเตอร์ได้ มีคนบาดเจ็บเล็กน้อย จึงเริ่มเดินทางต่อไปแต่แล้วทุกคนก็ต้องพบเจอกับทางตันเลยตัดสินใจเดินกลับไปที่เดิม และเหมือนจะสิ้นหวังไปอีกเพราะเกือบทุกกลุ่มที่เดินกลับมาก็ไม่เจอทางขึ้นเช่นกัน เหลืออีกกลุ่มสุดท้ายที่กลับมาช้ากว่า แต่กลุ่มสุดท้ายก็พบทางตันเช่นกัน ต่างกันคือพบประตูบานใหญ่แต่เปิดไม่ได้ ทุกคนก็ลงความเห็นตัดสินใจไปที่ประตูยักษ์
ใช่เวลาไม่นานนักจึงมาถึง ทุกคนก็ได้รวมพลังกันเปิดประตูแต่บานประตูก็ไม่ขยับสักนิด แต่เมื่อสำรวจดูดีๆแล้วก็พบกับอักษรประหลาด นักผจญภัยที่เป็นนักเวทระดับสูงเข้ามาตรวจดูก็แปลได้คร่าวๆว่า "เมื่อสายธารแห่งชีวิตรวมเป็นหนึ่ง จงส่งมันมาแล้วสิ่งนี้จะเปิดออก"
"ข้าว่าสายธารแห่งชีวิตคือ พลังต่างๆที่อยู่ในตัวเรา และการรวมเป็นหนึ่งคือการรวมพลังต่างๆเข้าด้วยกันจึงเป็นพลังเวท และก็ส่งมันเข้าไปในประตูแบบนี้..."
กึก ครืดดดดดดดด
เสียงประตูบานยักษ์เปิดออก ลมที่พัดออกมารู้สึกเย็นเยือกกว่าปกติ ไฟตามกำแพงติดขึ้นเองเริ่มจากประตูไปสุดห้อง กระดูกขนาดยักษ์กองอยู่กลางห้องขนาดใหญ่
"ทุกคนระวังตัวด้วย ชั้นว่าที่นี้อันตรายมากๆ"
นักเวทระดับสูงพูดขึ้น
ทุกคนก้าวเข้าไปในห้อง ประตูบานยักษ์ก็เคลื่อนที่กลับไปจนปิดสนิท
"ทุกคนนนน!!! ระวังชั้นสัมผัสพลังเวทได้"
พลังเวทสีดำมืดลอยออกมาจากพื้นและเริ่มซึมเข้าไปในกระดูกขนาดยักษ์ และมันก็ขยับต่อกันเป็นโครงร่าง กล้ามเนื้องอกออกมาจากกระดูกและเริ่มผสานกันเป็นรูปร่าง สุดท้ายหนังและขนก็งอกออกมา กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ต่างกันที่สีผิวและเคี้ยวอันแหลมคมที่เลยปากออกมา มันหยิบดาบขนาดยักษ์ขึ้นร้องคำราม
"หืม ดูเหมือนจะเริ่มสนุกกับการเป็นนักผจญภัยแล้วสิ"
ซิซพูดขึ้นและยิ้ม
จบตอน
ความคิดเห็น