ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สุดยอดสมกับเป็นตัวประกอบ

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6

    • อัปเดตล่าสุด 2 ม.ค. 67


    ดาบศักดิ์สิทธิ์กำลังสู้อยู่กับมอนสเตอร์อย่างยากลำบาก ทุกคนต่างหมดแรง

    มีคนตายเกลื่อนอยู่รอบๆ ทั้งถูกสับเป็นชิ้นๆและถูกทุบจนเละ เด็กสาวกอดไม้เท้าและได้แต่ภาวนาต่อเทพเจ้า แต่ก็ไม่มีเทพองค์ได้ที่ยืนมือมาช่วยเธอเลย เธอรู้สึกผิดที่เพื่อนคนสำคัญของเธอได้ยอมตายเพพื่อช่วยเธอไว้ 

     

    “ถ้ารอดไปแล้วนายจะดีใจไหมนะไม่รู้ชื่อคุง หรือนายอยากให้ตายชดใช้กัน”

     

    ตึง ตึง ตึง กราาาาาาาาาา

    ย๊ากกกกกกกก

     

    มอนสเตอร์ขนาดยักษ์ฟันดาบของมันลงมาที่ดาบศักดิ์สิทธิ์ แต่ว่าเขายกดาบป้องกันไว้ได้ด้วยสองมือ

     

    “ฮืม ผมไม่ยอมตายง่ายๆหรอกน่า”

     

    ดาบศักดิ์สิิทธิ์เอนตัวดาบไปด้านขวาทำให้ดาบของมอนสเตอร์สไลด์ไปทางด้านซ้ายของมัน และในจังหวะที่มอนสเตอร์เสียจังหวะ เขาก็จับดาบสองมือและฟันเข้าที่หน้าท้องของมัน

    แต่ในตอนนั้นเองมอนสเตอร์ก็ทรงตัวกลับมาอย่างรวดเร็วและถีบดาบศักดิ์สิทธิ์กระเดนออกไปติดกำแพงอีกครั้ง และมันก็วิ่งตามดาบศักดิ์สิทธิ์เพื่อที่จะไปฟันซ้ำ แต่ก็มีเวทมตร์ยิงใส่หยุดมันไว้ มันได้เปลี่ยนเป้าหมายจากดาบศักดิ์สิทธิ์เป็นนักเวทแทน มันโยนดาบเข้าใส่ แต่ว่าก็ถูกหยุดไว้ด้วยบาเรียเวทมนต์ มันวิ่งลากดาบอีกข้างของมันมาอย่างบ้าคลั่ง เหวี่ยงเข้าที่บาเรียแสงจนระเบิดแตกออก

    นักเวทที่เห็นบาเรียแตกก็สิ้นหวัง แต่ก่อนที่มันจะฟันลงมาอีกครั้งพลโล่ก็เข้ามาตั้งรับได้อย่างทันท่วงที

     

    “ไม่ปล่อยให่ทำได้หรอกเฟ้ยยยย!”

     

    มันฟันกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง พลโล่เริ่มแตกพ่ายทีละคน

     

    กึก

     

    แต่ก่อนที่ทุกคนนจะหมดสิ้นหนทาง คลื่นพลังเวทอันหนักหน่วงก็ระเบิดขึ้น แสงสีเขียวกระจายทั่วทั้งบริเวณ มอนสเตอร์หยุดชะงักและหันกลับไปมอง

     

    “ข้ามศพชั้นซะก่อนเจ้ามอนสเตอร์!”

     

    มันเดินไปเก็บดาบที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาทั้งสองเล่ม ดาบอันใหญ่ยักษ์เต็มไปด้วยรอยบาก 

    กราาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

    คำรามเสียงดังสนั่น ตาของมันเปลี่ยนเป็นสีม่วงตัวของมันเปลี่ยนเป็นสีแดงกล้ามเนื้อของมันขยายใหญ่ขึ้น

     

    “ชิ นึกว่าหมดมุขที่ไหนได้แกก็เก็บไผ่ตายไว้สินะ ไม่เลว แต่วันนี้คนที่จะล้มแกคือชั้น”

     

    ดาบเปล่งแสงสีเขียว พลังเวทวนรอบดาบดั่งพายุหมุน

     

    “ข้าดาบศักดิ์สิทธิ์ วินซ์ ฟอน สเปนเซอร์ ขอสัญญาว่าจะไม่มีความปราณีใดๆต่อความชั่วร้าย ข้าสัญญาจะทำให้ความชั่วร้ายหายไป จงโบกสะบัดดาบสายลมแห่งทุ่งหญ้าใบไม้พลิ สปริงฟิลด์!!!”

     

    เวทมนตร์ที่หมุนรอบๆตัวดาบสงบลงกลายเป็นสายลมที่สงบ

    มอนสเตอร์เปิดฉากโดยวิ่งใส่และขว้างดาบของมันออกไป แต่วินซ์เพียงแค่สะบัดดาบไปเฉียงไปด้านบนเพื่อตั้งท่า ดาบของมอนสเตอร์ก็ปลิวออกไปปักทีี่กำแพง

    มันวิ่งเข้าประชิดจับดาบสองมือหมุนตัวไปด้านหลัง ในจังหวะนั้นเองมันก็เกร็งกล้ามเนื้อบิดตัวอย่างรวดเร็วฟันใส่วินซ์

    แต่ว่า

     

    จงโบกพัด

     

    วินซ์ที่ถือดาบเฉียงขึ้นทางด้านขวาหมุนตัวกลับและฟันอย่างนุ่มนวลเหมือนสายลมใบไม้พลิ เศษเวทมนตร์สีเขียวลอยขึ้นฟ้าดั่งใบหญ้าที่ถูกลมพัด

    ท่อนบนของมอนสเตอร์เอนหล่นไปด้านหลัง ชัยชนะเป็นของดาบศักดิ์สิทธิ์ แต่ว่าไม่เป็นอย่างงั้น ท่อนบนของมอนสเตอร์ที่ถูกตัดขาดกลับมีสสารสีดำไหลออกมาและเชื่อมเข้ากับท่อนล่าง มอนสเตอร์ฟื้นกลับมาในสภาพเดิมไม่มีบาดแผลเหลือแม้แต่น้อย

    ดาบศักดิ์สิทธิ์ยืนมองอย่างหมดพลัง ทำได้แค่จับดาบอย่างสะบักสะบอม

     

    “ยังอยู่อีกเหรอเนี่ย ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะ บอกไว้ก่อน"

     

    ดาบศักดิ์สิทธิ์ยิ้มเจื่อน กำดาบในมือแน่นและวิ่งเข้าไปอีกครั้ง แววตาของเขายังมีชีวิต เขาไม่กลัวตายแม้แต่น้อย เขาแค่ต้องการปกป้องคนที่อยู่ข้างหลัง ในใจคิดแค่ว่า แม้จะต้องตายก็จะปราบมอนสเตอร์ลงให้ได้

     

    ย๊ากกกกกกกกกกก

     

    มอนสเตอร์ยกดาบพร้อมจะปะทะ หน้าของมันมีรอยยิ้มอยู๋ รอยยิ้มที่กำลังเยาะเย้ยดาบศักดิ์สิทธิ์

     

    เคียก เคียก เคียก

     

    และในวินาทีที่ดาบจะปะทะกัน สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

    แสงสีทองอร่ามปะทุขึ้นจากพื้นห้อง เผาผลาญมอนสเตอร์ยักษ์ มันดิ้นไปดิ้นมาในลำแสง ร่างกายของมันเริ่มสลายหายไปกระดูกหรือเถ้าถ่านก็ไม่เหลือให้เห็น ทุกสิ่งที่อยู่ในลำแสงสีทองสลายหายไปแม้แต่พื้นหอคอยที่ไม่สามรถทำได้แม้แต่รอยขีดข่วนก็สูญสิ้น ทุกคนได้แต่ตกใจในพลังเวทสีทองที่ถูกปล่อยออกมาอย่างลึกลับ

    พลังลึกลับ พลังที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง พลังที่ไม่มีใครรู้่จัก

    ร่างสีดำลึกลับลอยขึ้นมาพร้อมกับแสงสีทอง โดนที่ไม่สูญสลายไป มันส่งสายตามองไปที่เด็กหญิงคนหนึ่ง เธอรู้สึกตัวได้ถึงความกลัวและความสง่างาม และอีกความรู้สึกเหมือนกับตอนที่ได้อยู่กับเด็กผู้ชายที่เธอไม่รู้แม้แต่ชื่อแต่เขาก็ยอมสละชีวิตเพื่อเธอ

     

    “พลัง….ลึกลับ”

     

    เธอเอ่ยออกมาโดยไม่รู้ตัว

     

    ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ยืนมองตาค้างถึงกลับหน้าถอดสีเมื่ออยู่ต่อหน้าพลังเวทมหาศาลระยะเผาขน

     

    “เจ้านี้สู้ด้วยไม่ได้เด็ดขาด นี้มันเหนือสามัญสำนึกไปแล้ว”

     

    ร่างสีดำรอยขึ้นไปพร้อมกับแสงสีทอง ดูเหมือนว่าจุดหมายของมันคือยอดบนสุดของหอคอยลอยฟ้าแห่งนี้

     

    “ดูเหมือนจะกำจัดมันได้แล้ว….”

     

    ผู้คนในห้องต่างถอนหายใจและทิ้งตัวลงบนพื้น บรรยากาศเติมไปด้วยเสียงหายใจ บ้างก็มีเสียงสะอึกสะอื้นร้องไห้ ทุกคนต่างเหนื่อยล้า กำลังใจแถบจะไม่มีเหลือ แต่หอคอยนั้นยังเหลืออีกหลายชั้นยิ่งนัก

    การจะไต่ไปทีละชั้นทั้งที่ทุกคนเหนื่อยล้าเป็นเรื่องยาก แต่ว่ายังโชคดีที่เพดานเป็นรูไปแล้วทำให้ไต่ข้ามชั้นไปได้ง่ายขึ้นมากกว่าเดิม

     

    “เมื่อตะกี้มันเกิดอะไรขึ้น พลังแบบนั้นไม่น่าเป็นไปได้”

     

    ดาบศักดิ์สิทธิ์พึมพำกับตัวเอง ด้วยความตกตะลึงพลังที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเกิดขึ้นข้างหน้าอย่างกะทันหัน ถ้าเกิดเผลอโดนไปนิดหน่อยเขาอาจจะสลายไปเลยก็ได้ แต่ก็ยังดีที่พลังลึกลับยังช่วยเปิดทางให้กับดาบศักดิ์สิทธิ์และคนอิ่นๆ

    ทุกคนพักเหนื่อยกัน บ้างก็ลำลึกถึงสหายที่จากไป บ้างก็ล้มเลิก บ้างก็เสียสติ สูญเสียมามากทั้งที่ยังเดินทางไปไม่ถึงไหน แต่ก็ยังมีคนที่ตัดสินใจจะไปต่อเพราะข้างหลังของพวกเขานั้นยังมีสิ่งที่สำคัญอยู่ ไม่สู้ก็ต้องตายอยู่ดี สู้ไปตายเอาดาบหน้ายังดีกว่า

     “ทุกคนเราจะปืนขึ้นไปทางเพดานนี้ละ ดูเหมือนว่าข้างบนจะปลอดภัยแล้วด้วย เพราะเกิดเหตุการณ์เมื่อกี้ขึ้นทำให้มอนสเตอร์แถวนั้นสลายไปหมดแล้ว ทางสะดวกของเราแล้วละ”

     

    แต่ทุกคนก็ยังดูไม่สบายใจ เพราะไม่รู้ว่าข้างบนที่สูงขึ้นไปอีกจะเป็นอย่างไร ชั้นที่อยู่ปัจจุบันก็หนักหนาสาหัสมากแล้ว แล้วสิ่งที่อยู่เหนือสุดไปอีกจะโหดร้ายเกินกว่าจะจิตนาการได้ขนาดไหน

     

    “ผมรู้ดีว่าพวกเราคงไม่มีทางสู้ได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้มันได้เห็นว่า พวกเราน่ะไม่ได้ยืนอยู่เฉยๆรอเวลาตายสักหน่อย อย่างน้อยก็ได้ลองลงมือช่วยชีวิตใครสักคนให้ได้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกหนึ่งวันก็ยังดี แสดงให้เห็นสิว่าพวกเราน่ะไมได้น่าสมเพช”

    “นั้นสินะ พวกเราไม่ได้ยืนรอวันตายเฉยๆสักหน่อย โอ้วววว”

     

    มีหญิงคนหนึ่งก้าวออกมาข้างหน้า 

     

    “คือว่ามีแผนมาเสนอค่ะ”

    “หืม ว่ามาเลยสาวน้อย”

    “การที่หอคอยแห่งนี้ลอยได้แปลว่ามันต้องมีอุปกรณ์เวทมนตร์อะไรสักอย่าง ถ้าเราสามารถทำลายได้หอคอยนี้ก็จะถล่มลงมา และนั้นก็เป็นโอกาสของเราที่จะเข้่าจู่โจมพร้อมกับเทพดาบ”

    “เป็นแผนการที่ดี แต่ว่าเราจะรู้ได้ยังไงละว่าอุปกรณ์มันอยู่ที่ไหน”

    “ถ้าเราเชื่อมต่อวงจรเวทเข้าด้วยกันและขยายข่ายพลังเวทละก็ อาจจะตรวจเจอกระแสพลังเวทที่ผิดปกติก็ได้”

    “อย่างงี้นี้เอง เธอฉลาดสุดๆไปเลย เอาละได้ยินแล้วใช้ไหมละทุกๆคนทำตามที่สาวน้อยคนนี้บอกเถอะ”

     

    ทุกคนจับมือกันหลับตาลง มือที่จับอยู่เกิดเปล่งแสงสว่างไปทั่วทั้งห้อง

     

    “เหมือนจะเจออะไรแล้วละ”

    “ชั้นด้วย เหมือนเห็นคลื่นแปลกๆข้างบนสูงไปอีก แล้วก็คลื่นที่สงบนิ่งแถมยังหนาแน่นมหาศาลด้วย"

     

    ฝั่งพลังลึกลับ

     

     

    แสงสีทองพุ่งทะลุหอคอยลอยฟ้าและยังพุ่งสูงขึ้นไปเหนือชั้นบรรยากาศอย่างไม่หยุดยั้ง

     

    “ความชั่วร้ายเรามากำจัดเจ้าแล้ว”

     

    เสียงปริศนาดังออกมาจากแสงสีทอง ไม่นานนักก็มีเงาสีดำปรากฏออกมา

    ดูเหมือนงาสีดำกำลังเดินออกมาจากลำแสงสีทอง เงาสีดำแสดงกายเป็นคนใส่ชุดคลุมสีดำยาว ใบหน้าปกปิดไว้ด้วยฮูดเครื่องประดับตกแแต่งด้วยสีทอง เก็บดาบสีดำทมิฬไว้ที่ข้างเอว ออร่าพลังเวทที่ไหลออกมาจากร่างกายทั้งสงบและเยือกเย็น

    ตรงหน้าของเงาสีดำคือดาบสีดำที่มีเส้นสีแดงขยับอยู่ทั่วเหมือนมันมีชีวิต และจากตรงนั้นไปอีกคือบัลลังก์ที่มีซากโครงกระดูกอยู่

    บัลลังก์ทำด้วยหินที่คล้ายกับคริสตัล

     

    ไหนอะตัวหัวหน้าหรือว่าโดนกำจัดไปแล้ว ถ้าไม่โผล่ออกมาจะกลับแล้วนะ

     

    ซิดพูดในใจ

     

    “มาแล้วสินะผู้กล้า ข้ารู้ ข้ารอมาตลอด ผู้กล้าที่ถูกหลอกใช้”

     

    เสียงดังออกมาจากความว่างเปล่า

    ซากโครงกระดูกที่นั่งอยู่บนโต๊ะมีเนื้อหนังงอกออกมาจากความว่างเปล่า เริ่มก่อตัวรวมกับกระดูก เครื่องในเส้นเลือดเส้นประสาทพันเกี่ยวเหมือนกำลังทักทอเป็นรูปร่าง

    ดาบที่ปักอยู่กลางโถงตอบสนอง รยางค์สีดำยืดออกมาจากพื้นนำพาดาบไปหาร่างกาย

    เมื่อดาบถึงมือร่างก็ฟื้นฟูจนกลับมามีเค้าโครงเหมือนกับมนุษย์หนุ่มผมสีน้ำเงิน

     

    “ผู้กล้าแกมีชื่อ ว่า….อะไร”

    “เราไม่ใช่ผู้กล้า เราคือพลังลึกลั-”

     

    ฟิ้ว

     

    มันเคลื่อนไหวเข้ามาโจมตีอย่างรวดเร็ว แต่พลังลึกลับโน้มตัวไปข้างหลังหลับได้ทันท่วงที

    ดาบที่ฟันไม่โดนตัดผ่านอากาศได้เสียงที่แหลมหู เหมือนกับอากาศกำลังกรีดร้องอย่างทรมาณ

    พลังลึกลับกระโดดตีลังกากลับหลังเพื่อหาที่ตั้งหลักใหม่

     

    “ฮาๆๆ ภาพติดตาน่ะ โทษทีละกันพอดีชอบสำนวนเปิดก่อนได้เปรียบน่ะ”

     

    หน้าของมันกำลังล้อเรียนพลังลึกลับอยู่

     

    “แกชื่อว่าอะไร……”

     

    แต่ว่าพลังลึกลับกลับถามกลับด้วยความเยือกเย็น

     

    “ถ้าอยากรู้ชื่อคนอื่นก็บอกของแกเองก่อนสิ-"

     

    มันหายไปอีกครั้ง คราวนี้มันโผล่มาข้างหลัง ดาบสีดำรูปร่างแปลกประหลาดยกขึ้นเข้าแท่งเต็มหลังของพลังลึกลับ

    แต่ว่าพลังลึกลับกลับหายไปอยู่ที่ข้างตัวของมัน

     

    “ภาพติดตายังไงละ”

    “หึย บ้าจริง”

     

    มันตกใจอย่างมากและกระโดดถอยห่างอย่างรวดเร็ว

     

    “แกชื่ออะไร”

     

    พลังลึกลับเอ่ยถามด้วยควาามเยือกเย็นอีกครั้ง

     

    “ถ้าอยากรู้ละก็ ไปถามยมบาลเถอะ”

     

    คราวนี้มันตั้งท่าจับดาบแล้วก็หายไปอีกรอบ แต่ว่าคราวนี้มันปรากฏต่อหน้าพลังลึกลับ

    ดาบเปร่งแสงสีม่วงแดงพลังเวททำให้บรรยากาศรอบๆสั่นไหว

     

    กึก

     

    ดาบฟันลงที่หัวของพลังลึกลับ แต่ว่าก่อนจะถึงมันกลับถูกหยุดไว้ 

    ด้วยปลายนิ้วทั้งห้าของพลังลึกลับทำให้ดาบที่เต็มไปด้วยพลังเวทมหาศาลหยุดนื่งอยู่กับที่ พลังเวทถูกปลดปล่อยออกจากดาบทำให้พื้นดินที่ยืนอยู่แตกราวบุบลงไป

     

    “แกมีชื่อว่าอะไร"

     

    พลังลึกลับยังถามซ้ำคำถามเดิม

     

    “อย่ามาล้อเล่นนะเว้ย”

     

    มันดึงดาบออกจากนิ้วมือของพลังลึกลับ และง้างขึ้นจะฟันอีกครั้ง

     

    ฉึก ฉึก ฉึก ฉึกๆ ฉึก

     

    แขนข้างซ้าย แขนข้างขวา ขาซ้าย ขาขวา ลำตัว และหัว หลุดเป็นชิ้นๆในเวลาเดียวกัน

     

    เกร๊ง

     

    ดาบที่มันถืออยู่ตกลงมา หน้าของมันซีดขาว ตาลอยและอ้าปากค้าง

    จิตสังหารพลังลึกลับที่หนาแน่นรวมตัวกันคล้ายดาบลวงตาที่คนกริบ ภายในพริบตาที่รับรู้ร่างกายของมันก็หลุดเป็นชิ้นๆ

     

    “ข้าจะถามอีกครั้ง แกมีชื่อว่าอะไร”

    “ว๊ากกกกกกกกก เมื่อกี้นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?”

     

    มันขวัญผวาและถอยไปอีกครั้ง

    พลังลึกลับเก็บดาบของมันขึ้นมา ดาบที่ดูน่ารังเกียจและเหมือนจะมีชีวิตเป็นของมันเอง

    ทันใดนั้นรยางค์ก็งอกออกมาจากดาบพันรอบแขนของพลังลึกลับไว้

     

    “ก๊าก ฮาๆๆๆ เจ้าโง่ใครที่ไหนเขาเก็บดาบปีศาจขึ้นมาถือเหล่า ก็ดีถ้าอย่างงี้ข้าจะดูดพลังเจ้าจนหมดไปเลย”

    “ฮึม"

     

    ซิดปล่อยพลังเวทเข้าต่อต้านดาบ และเชื่อมต่อเข้ากับดาบ ซิดเห็นบางอย่าง เป็นชายหนุ่มผมสีน้ำเงินถือดาบสีขาวเข้าต่อสู้กับมอนสเตอร์มากมายเขาคือผู้กล้าที่ถูกเลือกโดยดาบศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็เห็นอีกภาพก็คือชายหนุ่มกำลังกอดร่างของใครสักคนและร้องไห้อยู่ดาบที่เขาถืออยู่กลายเป็นสีดำและมีเส้นสีแดง เขารวบรวมพลังทั้งหมดและใช้ดาบปักลงไปที่ดันเจี้ยนผสานร่างเข้ากับดันเจี้ยนและรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ค่อยวันที่พลังเวทในดันเจี้ยนจะกลับมาเพื่อรอวันแก้แค้น

     

    “ไร้สาระ”

     

    พลังลึกลับดึงดาบออกจากมือและโยนกลับคืนให้

     

    “แกมีชื่อว่าอะไร”

    “อึก บ้าน่าทำไมกัน…..ก็ได้ ถ้าอยากรู้ละจะบอ- อัก”

     

    หมัดขวาเข้าที่ลิ้นปี่ด้วยความเร็วชนิดมองตามไม่ทัน

    พอโดนหมัดขวาเข้ามันก็หยุดชะงักไปทันที ได้แต่ยืนน้ำลายไหลไม่หยุด

     

    “เป็นอะไรไป ท่านผู้กล้าจอมปลอม”

    “เอือก”

     

    มันควบคุมสติได้ และกระโดดถอยหลังไป หน้าของมันเติมไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลังเวทระเบิดออกจากร่างของมันบรรยากาศสั่นสะเทือน ดาบที่ถืออยู่ตอบสนองรยางค์มากมายงอกออกมาพันเกี่ยวแขนและเชื่อมต่อเข้ากับร่างกายของมัน

     

    “อย่ามาเรียกชั้นว่าผู้กล้าาาา อ๊ากกกกกก ย๊ากกกกกกก”

     

    รยางค์สีดำพันเกี่ยวทั่วทั้งร่างกายจนมันกลายเป็นก้อนสีดำน่าขยะแขยง มันเริ่มรวมตัวเป็นเนื้อเดียวกัน รยางต์สีดำเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ลักษณะของมันเป็นเกราะเหมือนเป็นชื้นส่วนเนื้อหนังเดียวกับร่างกายสีของมันดำและมีเส้นสีแดงไหลเวียนอยู๋ทั่วเกราะ

    ออร่าพลังเวทกระจายตัวมหาศาลเหมือนลมพายุที่กำลังกระชากเนื้อหนังออกเป็นชิ้นๆ

     

    อ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

     

    “นี้สินะร่างที่แท้จริงของเจ้า ถ้าอย่างงั้นเราจะแสดงพลังของเราให้เห็นบ้าง นี้คือ…..เศษเสียวของพลังลึกลับ”

     

    พลังลึกลับปลดปล่อยระเบิดพพลังเวทสีดำทองปะทะเข้ากับคลื่นพลังเวทรอบๆ

    มือจับที่ดามดาบและดึงออกมา ดาบที่ด้านคมสีดำสนิท 

     

    “ของจริงเริ่มจากเวลานี้ต่างหาก”

     

     

    จบตอน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×