คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7 : ครูใหญ่ท่านหนี่งเคยพูดเอาไว้
“เอาละ!! นายชอบผู้หญิงแบบไหน”
ม..มาแล้ว!! คำถามเด็ดของโทโด!! ถ้างั้นต้องตอบ..ไม่ได้!! จะตอบแบบตรงใจไม่ได้!! ขอโทษทีนะโทโด แต่คนที่จะเป็นบราเธอร์ของนายน่ะ ไม่ใช่ฉันหรอก
แล้วก็ขอโทษนะ ที่เกือบโกหกออกไป ของแบบนี้น่ะมันจะต้องตอบออกมาจากใจจริงเท่านั้น!! เพราะงั้น ต้องกลั่นมันออกมาให้เป็นรูปร่าง
อืม…………ได้แล้ว!!
“ถ้าจะให้พูด…ฉันน่ะ ชอบผู้หญิงที่ น่ารัก!! ก้นใหญ่!!”
ใช่แล้ว!! นี่แหละ!! ครูใหญ่ของโรงเรียน** เคยพูดเอาไว้ คนที่ชอบตูดน่ะไม่มีทางเป็นคนไม่ดี ส่วนน่ารักน่ะไม่ได้หมายถึงแค่หน้าตา แต่หมายถึงนิสัยด้วย ถ้านิสัยออกแนวๆ ไม มากิ ก็คงลำบากใจอยู่ แต่ถ้านิสัยออกแนวน่ารักเหมือนมิวะ คงจะเป็นคนที่ให้กำลังใจเราได้
อาา…นี่สินะ ที่นายหมายถึงน่ะโทโด รสนิยมทางเพศจะสะท้อนทุกๆ อย่างของคนคนนั้น คำถามสั้นๆแต่สามารถบอกเล่านิสัยของคนๆนั้นออกมาได้
แน่นอน มันเหมือนเราคิดในหัวนานมาก แต่ในความเป็นจริงเวลาพึ่งผ่านไปเพียง 0.1 วินาทีเท่านั้น
ทุกสิ่งอยู่ในความเงียบงัน พร้อมๆกับสายตาที่มองด้วยสายตารังเกียจ โดยเฉพาะจาก ไม มากิ โมโมะ โนบาระ
“ใช้ได้หนิ ถึงแม้นายจะไม่ใช่ My best friend แต่ก็ยังเป็นเพื่อนฉันได้อยู่นะ”
โทโดย่อตัวและยืนมือลงมา เราก็จับมือโทโดและยืนขึ้น
“ฉันชื่อโทโด อาโออิ นายชื่ออะไร เพื่อน”
“ทามามะ เมตะ ยินดีที่ได้รู้จัก เพื่อน”
เราจับมือกับโทโดด้วยความภาคภูมิของลูกผู้ชาย ภายใต้บรรยากาศที่เงียบงันจนโกะโจต้องพูดขึ้น
“เอาละ เท่านี้เมตะคุงก็มีเพื่อนแล้ว ต่อไป-”
“ผมไปทำงานเมืองนอกมา เอ้า~ของฝาก”
โกะโจหยิบตุ๊กตาหน้าตาพิลึกออกมาและแจกให้พวกนักเรียนเขตเกียวโต
“เครื่องรางของเผ่าหนึ่งให้กับทุกคนของเกียวโต”
“ไม่มีของอุตะฮิเมะนะ”
“ไม่จำเป็นย่ะ!”
และโกะโจก็หมุนตัวไป พูดกับนักเรียนโตเกียวต่อ
“และสำหรับทุกคนของโตเกียวคือทางนี้!”
“ผู้ใหญ่ที่คึกจัดนี่น่าขยะแขยงเนอะ”
สิ้นคำพูดของโนบาระกล่องก็เปิดออก และยูจิโพล่ขึ้นมา
“อิทาโดริ ยูจิคุง ผู้ล่วงลับคร้าบ~”
“ครับ!! โอ้…แฮปปี้!!”
ภายใต้สายตาตกตะลึงของโนบาระ และเมกุมิ ก็มีอีกหนึ่งสายตาที่ตกตะลึงเช่นกัน
“ภาชนะของสุคุนะ!?”
“หมายความว่าไง”
คำพูดนั้นมาจากครูใหญ่กาคุกันจิที่กำลังตกตะลึงซะยิ่งกว่าพวก โนบาระ และเมกุมิ
“ครูใหญ่กาคุกันจิ-!”
“แหม~ค่อยยังชั่วหน่อย”
“เป็นห่วงอยู่เลยครับ ว่าถ้าตกใจตายไปจะทำไงดี”
“ไอเด็กเวร”
การปะทะฝีปากกันของ ครูใหญ่กาคุกันจิ และโกะโจ สิ้นสุดลงที่ ครูใหญ่ยากะ เข้ามาล็อกตัวโกะโจและเริ่มอธิบายกติกาของการแข่งขัน
“แน่นอนว่าขัดขวางได้ด้วย แต่ยังไงพวกเธอก็เป็นพรรคพวกที่เผชิญหน้ากับคำสาปเหมือนกัน”
“งานเชื่อมสัมพันธ์เพื่อให้ได้ทำความรู้จักพรรคพวก และรู้จักตนเองในการแข่งขัน”
“อย่าฆ่าฝ่ายตรงข้าม หรือทำให้บาดเจ็บจนไม่สามารถพื้นตัวได้อีก
"แยกย้ายกันจนกว่าจะถึงเวลาแข่งตอนเที่ยง...จบแต่นี้”
หลังสิ้นสุดคำพูดของครูใหญ่ยากะ ทั้งสองฝ่ายต่างก็แยกย้ายไปที่ประชุมฝั่งตัวเอง
ณ ที่ประชุมฝั่งเกียวโต
“ฆ่าภาชนะของสุคุนะ อิทาโดริ ยูจิซะ”
คำพูดนั้นคือคำพูดที่กาคุกันจิ ที่พูดกับทุกคนของเกียวโต
“นั่นไม่ใช่คน เพราะฉะนั้นไม้ต้องรับโทษใดๆทั้งสิ้น จะจัดการให้เป็นอุบัติเหตุ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรือลังเลอะไรทั้งนั้น”
“ฆ่าอะไรกัน ก็เขาไม่ตายเลยมาอยู่ที่นี่ได้ใช่มั้ยละ?”
เสียงของไมท้วงขึ้น กาคุกันจิจึงพูดต่อ
“ได้ยินว่าการตายครั้งก่อนคือตายเอง เรื่องที่ต้องระวังตอนฆ่าผู้ใช้อาคมคืออะไร? คาโมะ”
“ครับ ต้องฆ่าด้วยพลังเวทเพื่อป้องกันไม่ให้กลายเป็นคำสาปหลังจากตายครับ”
โนริโทชิตอบกลับไปในทันที
“ใช่แล้วถ้าฆ่าให้เรียบร้อยด้วยพลังเวทของคนอื่นก็ไม่มีปัญหา”
“ตอนนี้สิทธิ์ครองร่างกายอยู่ที่ อิทาโดริ ยูจิ ถ้าสุคุนะไม่ออกมาก็เป็นแค่เด็กปี 1 ฆ่าได้ง่ายมาก”
เราที่ยืนอยู่ด้วยก็คิด ลำบากใจจังน้า~มาคุยเรื่องฆ่าแกงกันแบบนี้…ทำบรรยากาศอึมครึมหมด
“ปั้ง!!?”
บรรยากาศนั้นก็ถูกทำลายโดยเสียงดังลั่นที่มาจาก โทโดที่ถีบประตูอย่างแรง
“ไร้สาระ จะทำอะไรก็ทำไป”
พร้อมกับเริ่มเดินออกไป แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“กลับมาโทโด ครูใหญ่ยังพูดไม่จบ”
โนริโทชิพูดขึ้นเพื่อหยุดโทโดไว้
“ทาคาดะจังเป็นแขกรับเชิญรายการเดินเที่ยวตอน 11 โมง ต้องอธิบายมากกว่านี้มั้ย”
“ดูย้อนหลังเอาก็ได้ กลับมา”
“ฉันดูทั้งสด และย้อนหลังเฟ้ย ดูถูกกันหรือไง?”
โทโดเริ่มพูดด้วยท่าทีโมโห
“ฟังนะพวกนาย ตาแก่ด้วย ยกเว้นเมตะไว้คนนึง”
“ฉันผิดหวังกับพวกนาย ที่รสนิยมผู้หญิงแย่ไปนานแล้ว”
“แผนการ กลอุบาย เชิญทำไปเถอะ แต่ต่อไปลองมาสั่งฉันดูสิ จะฆ่าทิ้งซะ”
สิ้นคำพูโทโดก็เดินออกไป หลังสิ้นสุดความวุ่นวายคนที่เหลืออยู่ก็เริ่มคุยกัน
“วุ่นวายจังนะ~ ปกติวุ่นวายแบบนี้เลยเหรอ”
เราพูดออกไปเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศที่อึมครึมนี่
“ขอโทษด้วย ที่ให้เห็นสถานการณ์ แบบนี้ทั้งๆที่พึ่งเข้ามาวันแรก”
“อืม-เอาเถอะ ก็ไม่ได้ติดใจอะไร”
โนริโทชิพูดขอโทษออกมา ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไร
“แล้วพวกนาย จะทำยังไงละ ฉันมีคำตอบของฉันอยู่แล้ว”
แน่นอนว่าแต่ละคนเสนอแนวทางเพื่อฆ่า ยูจิจนสุดท้ายคำถามวนมาถึงเรา โนริโทชิถามออกมา
“เมตะ แล้วนายจะเอายังไง”
“เอาตรงๆนะ ฉันไม่สนเรื่องการฆ่า อิทาโดริ หรอก ไม่คิดจะทำด้วย”
“ทำไมละ”
โนริโทชิถามออกมาด้วยสีหน้าที่เริ่มไม่พอใจ
“มันไม่คุ้มไง ฟังนะ การที่อิทาโดริ ยูจิ สามารถเป็นภาชนะของสุคุนะได้ มันหมายความว่าหมอนั้นต้องเก่ง หรือไม่ก็มีความพิเศษบางอย่าง การฆ่าคนเก่งๆถือว่า ไม่คุ้มเลยสักนิด”
“อย่างที่สอง ภาชนะที่สามารถคุมสุคุนะได้จะเกิดมาอีกเมื่อไหร่กันละ 10ปี? 100ปี? งั้นสู้ให้กินให้ครบ 20 นิ้วแล้วค่อยจัดการทีเดียวจะคุ้มกว่ามั้ย?”
“สองอย่างนี้ ไม่ใช่เหตุผลจริงๆของฉัน แต่เป็นเหตุผลที่พวกนายยอมรับได้ แค่นี้พอใจมั้ย?”
โทริโทชิเงียบลง แต่ด้วยความสงสัยหรืออ่านสถานการณ์ไม่ออกไม่รู้ มิวะโพล่งออกมา
“งั้นเหตุผลจริงๆของเมตะคุง คืออะไรเหรอคะ”
“ง่ายๆ ถึงฉันจะเจอยูจิมาไม่กี่ครั้ง แต่ฉันบอกได้ว่าเขา เป็นคนดีและร่าเริง และนายไม่ควรไปฆ่าคนที่ดีแบบนั้น แค่นั้นแหละ”
“จริงๆพวกนายก็ไม่ได้อยากฆ่ายูจิ ฉันแนะนำให้พวกนายทำตามใจตัวเองซะมากกว่านะ ไปล่ะ”
หลังสิ้นคำพูดเราก็หันหลังและเดินออกจากประตู แต่ก่อนจะออกไปเราก็หันกลับมาถาม
“ฉันจะไปขอยืมดาบสักเล่มจากโกดัง แล้วก็ว่าจะไปหาซื้ออะไรที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆด้วย พวกนายมีใครจะเอาอะไรมั้ย”
“ไม่มีนะ งั้นไปละ”
ว่าแล้วเราก็เดินออกมา แล้วก็เดินออกไปจากตัวโรงเรียน เพื่อซื้อของกินจุกจิกมากินช่วงก่อนจะแข่ง และเดินกลับเข้ามาก่อนจะส่งข้อความหาโกะโจ เรื่องยืมดาบและถามทางไปในตัว
และสุดท้ายเราก็เดินมาถึงโกดัง ไม่ได้ล็อก ดูเหมือนโกะโจจะมาเปิดให้ไว้ก่อน เราจึงเปิดเข้า ไปและเปิดไฟ
“โอ้ว-มีของเยอะแหะ พอมาได้เป็นของจริงเท่กว่าที่คิดแฮะ”
เราเดินดูอาวุธต่างๆ ในโกดังก่อนจะหยุดที่ดาบเล่มหนึ่งด้วยความสนใจ ก่่อนจะหยิบมันขึ้นมา และชักมันออกจากฝัก
“คมกริบดูแลมาอย่างดี ตัวดาบยาวกว่าปกตินิดหน่อย น้ำหนักเบานิดๆ ของดีเลยไม่ใช่รึไง บอกได้เลยว่าแกไม่ควรมาอยู่ในโกดังแบบนี้”
เราเอาดาบคาดเข้ากับเอว ก่อนจะปิดไฟ ปิดประตู แล้วเดินออกไป
จริงๆแล้ว เราไม่จำเป็นต้องใช้ดาบก็ได้ เรามั่นใจพอตัวว่าด้วยมือเปล่าเราสามารถชนะฮานามิที่กำลังจะโพล่มาได้ แต่เหตุผลมันไม่ใช่อันนั้น
ที่เราเอาดาบมา ก็เพราะในการแข่งนี้มันจะมีใครสักคนโดนแย่งดาบ ก็เลยเอามาสำรองไว้ให้
แล้วเราก็มีแผนจะยกระดับความเก่งของคนไร้ประโยชน์คนนั้นด้วย ถ้าโดนสอนนิดหน่อยก็น่าจะแตะระดับ 1 ได้อยู่
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ์ เราก็เดินจกถุงขนมเดินไปจุดสตาร์ท ตอนเกือบจะเที่ยงวันพอดี
“มาสายนะเมตะ นายควรจะมาก่อนอย่างน้อย 5 นาที”
โนริโทชิพูดขึ้นทันทีที่เห็นเราเดินมา
“น่าๆ อย่างเข้มงวดไปหน่อยเลย”
ในขณะที่เรากำลังพูดก็มีโกะโจ ประกาศจากโทรโข่งออกมาพอดี
“ก่อนเริ่ม 1 นาทีคร้าบ ถ้างั้นก็ขอคำพูดให้กำลังใจจาก อาจารย์อุตะฮิเมะสักหน่อย”
“อ่า….จะบาดเจ็บบ้างก็ช่วยไม่ได้ เอ่อ….แต่บางครั้งก็ช่วยเหลือกัน”
“ได้เวลาแล้วคร้าบ”
“เดี๋ยวเถอะโกะโจ!! นายนี่นะ”
“งานเชื่อมสัมพันธ์โรงเรียนพี่น้อง”
“START”
“หัดเคารพรุ่นพี่ซะบ้าง! ปึ๊ด แก่ก แก่ก…”
โนริโทชิ “โทโดอยู่ไหน”
ไม “ทำไมถึงคิดว่าฉันจะรู้ละ”
มิวะ (ดีกันหน่อยเถอะ)
“พวกนายนี่ จริงจังกันทำไมนะ นี่มันงานเชื่อมสัมพันธ์สนุกหน่อยก็ได้มั้ง”
เราพูดออกไปพร้อมกับคิด เอาละ…มาลองดูกันฮานามิ ฉันจะตะบันหน้าแกเพื่อให้แกชดใช้ส่วนของโจโกะ
สำหรับตอนนี้มาค่อยข้างช้า ส่วนเหตุผล ไม่ ผมไม่ได้ติด Star rail ใครมันกำลังเล่น simulated universe แพร่พันธุ์อยู่
ไม่มี้… ใครจะไปทิ้งนิยายมาเล่นเกมกัน…ไม่มี้จริงงงงงๆ
ความคิดเห็น