คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6 : นายชอบผู้หญิงแบบไหน
ในเวลาต่อมา ไม่นาน ณ ห้องๆหนึ่งในโรงเรียนไสยเวทเขตโตเกียว
เราถูกให้นั่งอยู่ในห้องๆนี้ เอาจริงๆห้องนี้ก็เป็นห้องปกติห้องหนึ่ง ไม่เหมือนกับห้องประหารลับที่ยูจิเคยอยู่ แต่ว่ามันยังแปลก เพราะ มันเป็นห้องว่างๆ มีแค่โต๊ะยาว 1 ตัว กับเก้าอี้ 2-3 ตัว เหมือนมีให้รู้ว่ามี แต่บอกจุดประสงค์ในการใช้งานไม่ได้
“ครืด…”
เสียงประตูเปิดออก แล้วก็มีคนเดินเข้าประตูมา
“รอนานมั้ยเอ๋ย~ พอดีต้องพายูจิคุง เค้าไปเก็บก่อนน่ะ เอาละ…เรามาเริ่มคุยกันดีกว่า”
คนที่เดินเข้ามาไม่ใช้ใครอื่น แต่เป็น โกะโจ ซาโตรุ
“ก่อนจะเริ่มคุย ผมขอถามอะไรก่อนได้มั้ยครับ”
“ว่ามาสิ”
“ไอห้องนี่มันอะไรกันครับ! มีแค่โต๊ะกับเก้าอี้! ห้องพักก็ไม่ใช่! ห้องประชุมก็ไม่ใช่! จุดประสงค์ในการมีอยู่คืออะไรกันแน่! ถ้าไม่จำเป็นสร้างมาทำไม!!! ไม่เข้าใจเลยจริงๆ”
โกะโจ ทำสีหน้าตะลึงกับคำถาม ก่อนจะยิ้ม
“เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ตั้งแต่อยู่มาก็ไม่เห็นจะเคยได้ใช้ เหมือนแค่มีไว้เพราะตึกนี้มันใหญ่ แต่เอาจริงๆก็ไม่ได้มีคนเยอะขนาดต้องเอามาใช้งาน พวกเบื้องบนนี่ขี้อวดจริงๆว่ามั้ย”
“เห….หมายความว่า ห้องนี้คือห้องพลาญงบประมาณเล่นสินะ”
หลังสิ้นคำพูดของเราก็โกะโจ ก็เริ่มพูดอีกครั้ง
“เอาละ…งั้นเริ่มคำถามแรกง่ายๆกันก่อน เธอชื่ออะไรครับ”
“ชื่อ ทามามะ เมตะ อายุ 17 แล้วก็เป็นคนหน้าตาดีด้วย”
เราพูดออกไปด้วยท่าทีผ่อนคลาย เพราะไม่ว่ายังไง โกะโจ ก็เป็นคนดีไม่ฆ่าใครสุ่มสี่สุ่มห้าหรอก
“อืมม…ถ้างั้น เมตะคุง เธอต้องการอะไรกันแน่?”
“ถ้าดูแล้วเธอก็ดูไม่ได้เป็นคนสิ้นคิด ถึงขนาดไปดวลตัวต่อตัวกับวิญญาณคำสาประดับนั้น”
“หมายความว่า เป้าหมายเธอคงเป็น อยากให้ผมได้เห็นเธอมากกว่า?”
อึก…มองขาดจริงๆ เป็นแค่คนติ๊งต๊องแท้ๆ แต่เอาจริงๆแล้วก็เป็นคนฉลาดสินะ
“นั้นสินะ…คงจะอย่างนั้นแหละ ถ้าให้พูดคงเป็น อยากเข้าโรงเรียนไสยเวทน่ะ”
โกะโจ เริ่มมองด้วยท่าทีสงสัยมากขึ้น ถึงแม้ผ้าจะปิดตาอยู่แต่รับรู้จากท่าทางได้เลย
“อย่ามองด้วยสายตาแบบนั้นสิ แบบว่าหวั่นไหวนะ”
“ถ้าให้พูด การจะเข้าโรงเรียนไสยเวทย์ได้ ยังไงก็ต้องมีคนแนะนำเข้า แต่ถ้าให้คนแนะนำเข้าคือ โกะโจ ซาโตรุละ”
“มันจะหมายถึงในสายตาคนนอก ฉันมีตระกูลโกะโจหนุนหลังอยู่ไงละ”
“อืม….จริงๆก็ว่าจะท้าสู้คุณตัวต่อตัวเพื่อโชว์ของ แต่ก็ดันมีวิญญาณคำสาปไล่คุณอยู่พอดี ถ้างั้นสู้กับคำสาปให้คุณเห็น คงจะดีกว่าจริงมั้ยครับ”
ก็คงต้องโม้ให้ได้แบบนี้ละนะ ถ้าอยากให้มันดูเนียนๆ หวังว่าจะรอดนะ เพราะจะให้พูดว่า เฮ้ย พอดีเกิดใหม่น่ะ ขอเข้าโรงเรียนไสยเวทหน่อย ก็คงไม่ได้
เราฝึกมา 12 ปี กำลังจะได้เริ่มสนุกกับชีวิตเกิดใหม่จริงๆแล้ว อีกนิด..อีกนิด….
“งั้นเหรอ…งั้นคำถามสุดท้าย ทำไมเธอถึงอยากเข้าโรงเรียนไสยเวทละ”
“ถามแปลกๆ ถ้าเป็นเด็ก 17 ก็ต้องเข้าโรงเรียนสิ”
หลังฟังจบโกะโจ ก็ยิ้มออกมาพร้อมพูดขึ้น
“ฮึ นี่สินักเรียนตัวอย่าง เอาละ-เดี๋ยวผมจะไปทำเรื่องให้”
โกะโจลุกขึ้นและกำลังจะเดินออกไป ก่อนจะเหมือนฉุกคิดอะไรได้แล้วหันกลับมา
“มีอะไรจะขออีกมั้ย?”
“ถ้าเป็นไปได้ขออยู่ โรงเรียนเขตเกียวโต อืม…ก็คงแค่นั้นมั้ง?”
“เหตุผลละ?”
“อาจารย์ ของฉันเคยเรียนที่นั้นน่ะ”
โกะโจที่ได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรต่อแต่แค่ยิ้มให้ก่อนจะเดินออกไป
เท่านี้ก็น่าจะโอเคแล้ว แล้ว….ต้องยังไงต่อ รอ….ไม่สิ น่าจะต้องใช้เวลาจัดการสัก 2-3วัน
งั้นน่าจะออกไปได้แล้ว? ถ้าเราออกแล้วตอนนี้ แล้วจะรู้ได้ไงว่าต้องกลับตอนไหน?
งั้นต้องตามไปถาม ไม่สิ ไม่ได้ คุยจบแล้วแบบสวยๆ จะวิ่งตามไปได้ไง ไม่เท่เลย!
(สุดท้ายก็ต้องวิ่งตามไปถามวิธีติดต่อ)
หลังจากนั้น
โกะโจก็ติดต่อมาบอกว่า น่าจะใช้เวลาสักพัก เพราะว่าทางฝั่งโรงเรียนไสยเวทไม่เคยมีข้อมูลของเรามาก่อน แถมตัวตนก็ไม่ชัดเจน จะหวาดระแวงก็เป็นเรื่องธรรมดา
เหมือนจะต้องใช้เวลาสักราว 1-2 เดือน ถึงจะจัดการเสร็จ งั้นช่วงนี้น่าจะพอมีเวลาไปจัดการอะไรบางอย่างสักหน่อย
แน่นอนว่า ในช่วงเวลานี้จะเกิดคดีของมาฮิโตะ แต่เราไม่ได้คิดที่จะไปแทรกแซงหรอก เรื่องของจุนเปก็คงปล่อยให้เป็นไปตามนั้น เรื่องราวนี้จะเป็นหนึ่งส่วนที่ผลักดันยูจิให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย
แต่ที่เราคิดจะทำน่ะ คือการเตรียมตัวสำหรับปะทะกับพวกเคนจาคุ และถ้าโชคดีอาจจะลดความสูญเสียลงได้พอตัว
ตัวเรากำหมัดแน่น และยิ้มออกมา “เอาละมีหลายอย่างให้ต้องไปทำอยู่”
ผ่านไปราวเดือนกว่าๆ
โกะโจก็ติดต่อมาให้เราไปหาที่โรงเรียนไสยเวท และตอนนี้เราก็มาถึงห้องๆหนึ่ง ในห้องนี้นอกจากโกะโจ เองแล้วก็ยังมี นานามิกับยูจิ อยู่ด้วย
นี่มันฉากก่อนหน้ายูจิจะไปเจอพวกเมกุมินี่นา
แล้วโกะโจที่นั่งอยู่ก็หันกลับมาแล้วพูด
“โอ้~กำลังพูดถึงเลย มาแล้วเหรอ เมตะคุง”
“ครับ มาแล้วครับ แล้วสองคนนี้คือ…”
โกะโจหันหน้าและผายมือไปทางไปที่ นานามิ และยูจิ ก่อนจะเริ่มแนะนำ
“คนนี้คือผู้ใช้คุณไสยระดับ 1 นานามิ แล้วก็เป็นรุ่นน้องของผมครับ
ส่วนอีกคนคือปี 1 โรงเรียนไสยเวทเขตโตเกียว อิทาโดริ ยูจิคุง และเป็นภาชนะของสุคุนะ”
เราหันไปทางด้านยูจิและพูดออกไป
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ต่อจากนี้มาสนิทกันเข้าไว้ละ”
“!!! โอ้ว!! ฝากตัวด้วยละ”
ยูจิตอบกลับเราด้วยรอยยิ้มและท่าทางร่างเริง แล้วเราหันกลับไปหาคุณนานามิ และโค้งตัวลงไป
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“มีมารยาทจังเลยนะครับ”
โกะโจพูดออกมาไปพร้อมๆกับมองหน้าเรา
“ครับ มีมารยาทครับ ก่อนหน้านี้เห็นผมเป็นคนยังไงครับเนี่ย”
“แต่ก็แปลกใจนิดหน่อยนะครับ ระหว่าง 1 เดือนนี้นึกว่าจะโดนใช้แรงงาน หรือโดนบททดสอบอะไร แต่ก็ปล่อยว่างซะงั้น”
“ผมไม่ได้เป็นพวกชอบใช้แรงงานซะหน่อย ผมน่ะได้เห็นความสามารถของเธอแล้ว มันก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอที่จะรับคนที่มีความสมารถน่ะ”
หลังสิ้นสุดคำชม โกะโจเริ่มหยิบชุดเครื่องแบบ และยื่นมาให้เรา
“เข้าเรื่องเลยมั้ยครับ นี่คือเครื่องแบบครับ เอาไปใส่ได้เลย แล้วก็เตรียมพร้อมไปงานเชื่อมสัมพันธ์ ของโตเกียวกับเกียวโตกันเลยครับ”
ตอนแรกเราก็รับมาไม่ได้คิดอะไร แต่เดี๋ยวสิ!!!
“เอ้ย!! เดี๋ยวสิ!! นี่หมายความว่าจู่ๆ ก็ให้ฉันโพล่ไปงานเชื่อมสัมพันธ์เลย โดยที่ไม่ให้ฉันไปทำความรู้จักกับใครก่อนเลยเนี่ยนะ!! บ้ารึเปล่า!!”
เราโวยวายออกไป เพราะจะมีนักเรียนที่ไหน จู่ๆเข้าโรงเรียนตอนงานโรงเรียนฟร่ะ!! มันต้องได้ทำความรู้จักกับเพื่อนฝูง ก่อนจะเริ่มทำให้เพื่อนยอมรับไปทีละคน นี่สิชีวิตในโรงเรียน!!
“นั้นสินะ แต่ดูจากเมตะคุง ตอนนี้ก็น่าจะสนิทกับทุกคนได้เร็วอยู่นะ”
“เอาละ ไปแต่งตัวได้แล้วครับ ถึงเวลาเข้ารั้วโรงเรียนแล้วนะครับ!”
ผ่านไปสักพัก เครื่องแบบที่เราใส่เป็นเชิ้ตเนคไทแดง กางเกงขายาวสีดำตามเครื่องแบบปกติ และเสื้อฮู้ดสีเดียวกับกางเกง และรองเท้าผ้าใบสีดำ
…แต่ว่าเสื้อเชิ้ต? ทำไมถึงเป็นเสื้อเชิ้ต? โรงเรียนโตเกียวก็ไม่มีใครใส่นะ ถ้าจะมีคนใส่ก็คงจะมีแค่มิวะ กับพวกผู้ดูแล แล้วทำไมมันถึงเป็นฮู้ด แทนที่จะเป็นสูทละ เครื่องแบบเนี่ย จริงๆแล้วมันยังไงกันแน่นะ?
โกะโจก็พา เรากับยูจิมาหา พวกโตเกียวและเกียวโตที่กำลังดูท่าจะเขม่นใส่กัน
ไอเราก็เดินมาปกติ แต่ยูจิอยู่ในกล่องที่โกะโจเข็นมาเพื่อทำเซอร์ไพรส์์
ทันทีที่เรามาถึง โกะโจก็พูดขึ้นมา
“อุตะฮิเมะ! นี่ไงคนที่พูดถึง! ฝากเอาเข้าโรงเรียนเกียวโตหน่อยนะ~!”
สิ้นคำพูด สายตาของพวกเกียวโตก็จับจ้องมาที่เรา อาา..กดดันจัง..
“เฮ้อ~ตาบ้า….ฉันไม่มีปัญหาถ้านายจะฝากคนเข้าหรอก แต่อย่าติดต่อมาเมื่อวานแล้วพามาปุ๊บปั๊บอย่างนี้สิ”
“น่าๆ จะได้ฝากเมตะคุงไปกับเธอเลยไง ฉันจะได้ไม่ต้องถ่อไปถึงเกียวโตเพื่อส่งเมตะคุงด้วย”
ในวินาที่นั้น คำพูดของโกะโจก็ดังก้องอยู่ในหัวของเรา และเราก็ได้พูดออกไปด้วยท่าทีโกรธ
“หา!! ไอกร๊วกนี่!! สาเหตุจริงๆที่ปล่อยให้ฉันรอตั้ง 1 เดือนคือขี้เกียจพาฉันไปเกียวโตเองเหรอ!!”
พวกปี 2 โตเกียวพูดออกมา
มากิ “ปกติ ซาโตรุ ก็พึ่งไม่ค่อยได้อยู่แล้ว”
แพนด้า “นั้นสินะ ฉันว่าจริงๆ นายไปเกียวโตเองน่าจะดีกว่า”
อินุมากิ “แซลม่อน”
แล้วเราก็คุกเข่าก้มหน้าลงไป
“จบแล้ว ชีวิตม.ปลายในฝัน แบบนี้เหมือนกับ นักเรียนที่พึ่งเข้ามาใหม่ตอนมีงานโรงเรียนพอดี สุดท้ายก็สนิทกับใครไม่ทัน จนสุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยงานใคร แล้วสุดท้ายก็โดนนินทา!! จนไม่มีเพื่อนและต้องโดดเดี่ยวอยู่อย่างนั้น!!”
“โกะโจ ซาโตรุ แกทำลายชีวิตฉัน-!!”
“ผมว่าก็ไม่น่าขนาดนั้นมั้ง”
โกะโจพูดในขณะ ที่เราคุกเข่าและคร่ำครวญอยู่อย่างนั้น ภายใต้สายตาของทุกคนที่สื่อว่า “เพ้อเจ้อ”
แต่ในตอนนั้นก็มีเสียงพูดขึ้น
“เรื่องนั้นนะ ฉันจะตัดสินเองว่านายจะได้เป็นเพื่อนกับฉันมั้ย”
เสียงนั้นมาจากชายร่างใหญ่ กล้ามแน่นที่มัดผม คนๆนั้นคือ โทโด อาโออิ!!
“เอาละ!! นายชอบผู้หญิงแบบไหน”
ช่วงพูดคุยเล็กน้อย
ตอนนี้ทั้งตอนไม่ค่อยมีอะไรนอกจากคุยเท่าไหร่ แถมยังออกช้า เอาจริงๆเรื่องนี้ผมใช้ช่วงว่างจากมหาลัยมาเขียน แต่ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมาต้องเอาไปชดใช้กรรมปั่นงานมาครับ ต้องขอโทษด้วยจริงๆที่ออกช้า
ส่วนที่เปลี่ยนชื่อเรื่องเพราะรู้สึกว่ามันไม่น่าดึงดูด ขนาดตัวเองยังรู้สึก (รู้สึกที่ดึงดูดมันคงมีแค่ปก)
ความคิดเห็น